"นาฬิการาคาหลักแสน กลับถูกประมูลไปในราคาสองล้าน! เหลือจะเชื่อเลย""ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครประมูล นั่นคุณหนูหลีไงล่ะ เงินเยอะจนใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด""สองล้านสำหรับเธอมันก็แค่เศษเงิน ไม่ได้มีค่าอะไรเลย""..."หานเสวี่ยเอ้อร์เย้ยหยันดูถูกเมื่อได้ยินเสียงซุบซิบของคนรอบข้าง จากนั้นก็ยกป้ายขึ้นอีกครั้ง"สามล้าน!"พิธีกรตื่นเต้น "เยี่ยมครับ คุณผู้หญิงท่านนี้ประมูลที่สามล้าน!"หลีเกอไม่สนใจ ยกป้ายขึ้นอีกครั้ง “ห้าล้าน!""โอ้โฮ! ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?! นาฬิกาเรือนนี้ถูกประมูลแข่งกันในราคาสูงขนาดนี้เชียว!""สงสัยคงรวยจนไม่เห็นคุณค่าของเงินละมั้ง!""พวกคุณจะไปรู้อะไร เอาเข้าจริงเงินทั้งหมดก็จะถูกนำไปบริจาคเพื่อการกุศล ยิ่งบริจาคมากหน่อยก็เท่ากับทำบุญมาก""..."ฟู่ซิวเป่ยมองหลีเกอด้วยความสงสัย แล้วพูดเสียงเบา "พอแล้วคุณ!"ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าหลีเกออยากประมูลนาฬิกาเรือนนี้ไปทำไม แต่ราคาปัจจุบันก็สูงเกินกว่ามูลค่าจริงของนาฬิกาไปมากแต่หลีเกอกลับปลอบใจเขา"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่ซิวเป่ย!"ทันทีที่หลีเกอพูดจบ หานเสวี่ยเอ้อร์ก็ตะโกนราคาอีกครั้ง "หกล้าน!"เธอพูดประโยคนี้โดยไม่กะพริบตาเลยสักนิด
“รายการต่อไปคือชุดกี่เพ้า สมบัติตกทอดจากสมัยสาธารณรัฐ ออกแบบโดยมีแรงบันดาลใจมาจากเครื่องลายครามสีน้ำเงินและสีขาว มีอายุหลายสิบปี ควรค่าแก่การสะสม กี่เพ้าชุดนี้มีราคาเปิดประมูลเริ่มต้นที่ 500,000 หยวนครับ”“550,000...”“600,000...”“700,000...”“...”ในไม่ช้า ชุดกี่เพ้าก็ถูกประมูลไปจนถึงราคาหนึ่งล้านหยวนหลีเกอเห็นจังหวะที่เหมาะสมจึงเสนอราคา “1,500,000 หยวน!”ผู้คนรอบข้างเห็นว่าเป็นหลีเกอ จึงพากันวางป้ายไม่ประมูลต่อแต่ไม่คาดคิดว่าในเวลานี้ ฮั่วจิ้นเฉิงกลับยกป้ายในมือขึ้นมา “1,800,000 หยวน!”นี่เป็นครั้งแรกที่ฮั่วจิ้นเฉิงเสนอราคาในคืนนี้ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาต้องการแย่งชุดกี่เพ้านี้ไปจากหลีเกอ“โห นี่มันฉากอะไรกันเนี่ย ฮั่วจิ้นเฉิงกับหลีเกอใช้เงินสู้กันเหรอ?”“อดีตภรรยา ปะทะ อดีตสามี ดูซิว่าใครจะเหนือกว่ากัน?”“ฉันเริ่มรู้สึกตื่นเต้นแล้วล่ะ!”“...”หลีเกอไม่คิดว่าฮั่วจิ้นเฉิงจะเสนอราคา คิ้วของเธอขมวดเข้าหากัน จากนั้นก็ประมูลตามไปติด ๆ “2,200,000 หยวน”ฮั่วจิ้นเฉิงยกป้ายต่อเนื่อง “3,000,000 หยวน!”ราวกับเขาเองก็จะไม่หยุดจนกว่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการจุดประสงค์หนึ่งที่ฮั่
หลีเกอไม่ได้ให้ความสนใจเธอหยิบบัตรเครดิตของตัวเองออกมาเมื่อหลีเกอหยิบบัตรเครดิตส่งให้พนักงาน ฟู่ซิวเป่ยที่อยู่ข้างหลังกลับรีบเสนอตัวก่อน“ใช้ใบนี้แล้วกัน...”หลีเกอรีบปฏิเสธ“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ซิวเป่ย ฉันจ่ายเองได้...”ฟู่ซิวเป่ยกลับคลี่ยิ้ม“ระหว่างเรา ไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันขนาดนั้น คิดเสียว่ากี่เพ้าชุดนี้เป็นของขวัญที่ผมตั้งใจให้ หวังว่าหลังจากนี้กิจการของคุณจะรุ่งเรือง งานแสดงแฟชั่นโชว์ครั้งนี้เป็นกระแสโด่งดังไปทั่ว”“ไงนะ?” หลีเกอตกตะลึงตั้งท่าจะพูดอะไรต่อฟู่ซิวเป่ยไม่ให้โอกาสเธอปฏิเสธ หยิบบัตรเครดิตยื่นให้พนักงานโดยตรงยี่สิบล้านหยวนถูกตัดชำระออกจากบัตรไปอย่างง่ายดายแลกมาด้วยชุดกี่เพ้าเครื่องลายครามหลีเกอยังคงลังเลอยู่บ้าง พี่ซิวเป่ยใจดีกับเธอเกินไปแล้วหรือเปล่านะ?พนักงานจัดการแพ็กชุดกี่เพ้าให้อย่างเรียบร้อยแล้วนำมาให้หลีเกอเมื่อครู่นี้ตอนอยู่บนเวที แค่มองจากระยะไกลก็รู้สึกทึ่งมากแล้วตอนนี้เมื่อมันถูกวางอยู่ตรงหน้า หลีเกอกลับละสายตาไปไม่ได้เลยลายปักและฝีเย็บแต่ละเข็มแต่ละเส้นด้ายล้วนมีความเป็นเอกลักษณ์สูงมาก ฝีมือการเย็บปักถักร้อยบ่งบอกถึงกลิ่นอายของยุคส
ฮั่วจิ้นเฉิงพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้แสร้งทำเป็นไม่สนใจอะไรเขาเปลี่ยนหัวข้อสนทนา"กี่เพ้าชุดนี้สวยดี..."หลีเกอรู้สึกได้ถึงความรู้สึกพิเศษที่ฮั่วจิ้นเฉิงมีต่อกี่เพ้าชุดนี้ เธอจึงถามกลับ "ประธานฮั่วเองก็สนใจกี่เพ้าชุดนี้ด้วยเหรอคะ?"ฮั่วจิ้นเฉิงไม่ได้อธิบายอะไรมากนักเขาเพียงพูดว่า "ของดี ใคร ๆ ก็ชอบ เท่านั้นเอง"หลีเกอสังเกตเห็นว่าเขาดูเหมือนจะมีเรื่องราวอะไรในใจแต่เธอก็ไม่คิดให้ความสนใจอะไรมาก"ถ้าอย่างนั้นต้องขอบคุณประธานฮั่วที่ยอมเสียสละให้ค่ะ"พูดจบ หลีเกอก็เตรียมตัวจะจากไปฮั่วจิ้นเฉิงไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงเฝ้ามองเธอก้าวเดินจากไปใครจะรู้วินาทีถัดมาหานเสวี่ยเอ้อร์ที่ยืนอยู่ไม่ไกลกลับหน้าด้านเดินเข้ามาหา "ประธานฮั่วคะ พอจะให้ฉันยืมเงินสักสามล้านได้ไหมคะ?"ฮั่วจิ้นเฉิงหันกลับมามองไปที่หานเสวี่ยเอ้อร์ซึ่งสีหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวังแววตาของเขาฉายแววเย้ยหยันสุดท้ายก็ตอบกลับไปว่า "ผมไม่มีนิสัยชอบให้ใครยืมเงิน"การปฏิเสธที่ชัดเจนแบบนี้ทำให้หานเสวี่ยเอ้อร์ถึงกับหน้าชาแต่ตอนนี้เธอไม่มีเงินเพียงพอแม้แต่หนึ่งล้านเพื่อจ่ายราคาประมูลสุดท้ายก็ถูกเจ้าหน
จนกระทั่งวันซ้อมใหญ่ก่อนถึงวันงานจริงเธอถึงได้รู้เรื่องนี้จากปากของเจี่ยงอีอี"ที่รัก ฉันได้ยินมาว่าสถานที่จัดงานครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากฮั่วกรุ๊ป ท่านประธานฮั่วจิ้นเฉิงจะเข้าร่วมงานแฟชั่นโชว์วันพรุ่งนี้ด้วย และจะกล่าวสุนทรพจน์เปิดงานด้วยตัวเอง"หลีเกอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย"ฮั่วกรุ๊ปหันมาทำงานการกุศลตั้งแต่เมื่อไหร่?"เจี่ยงอีอีพูดแดกดันอย่างไม่เกรงใจ "คงเป็นเพราะเรื่องฉาวของฮั่วซินเมื่อครั้งก่อนแน่ ๆ การกระทำของหล่อนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของตระกูลฮั่วในระดับหนึ่ง ที่เขาทำแบบนี้ก็เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงน่ะสิ"หลีเกอร้องอ๋อออกมาไม่ได้ใส่ใจอะไรมากเธอเป็นแค่นักออกแบบหลักของงาน ภารกิจของเธอคือทำให้เสื้อผ้าทุกชุดในงานแฟชั่นโชว์พรุ่งนี้สามารถจัดแสดงได้อย่างราบรื่น"ที่รัก เธอว่า หรือฮั่วจิ้นเฉิงจะรู้ว่าเธอเป็นนักออกแบบหลักของงานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ ถึงได้จงใจเอาตัวเองเข้าไปมีส่วนร่วมกับงาน?"ซึ่งความจริงก็เป็นอย่างนั้น"อีอี เธอคิดมากเกินไปแล้วมั้ง?"ฮั่วจิ้นเฉิงเป็นคนแบบไหนไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเธออีกแล้วเขาไม่เคยสนใจเรื่องใด ๆ ของเธอเลย แล้วจะทำเรื่องที่แหวกขนบสามัญสำนึกแบ
งานแฟชั่นโชว์ในเมืองปินเฉิงจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ดีไซเนอร์ชื่อดังระดับโลก นักออกแบบหน้าใหม่ในวงการ และสื่อมวลชนจากทั้งในและต่างประเทศมาร่วมงานจำนวนมากผู้คนมากมายต่างเฝ้ารอคอยงานแฟชั่นโชว์ครั้งสำคัญนี้หลีเกอรีบมาถึงงานตั้งแต่เช้าตรู่ และทำงานยุ่งวุ่นวายอยู่หลังเวทีเจี่ยงอีอีก็อยู่เป็นเพื่อนเธอ คอยคุมช่างแต่งหน้าดูแลช่างแต่งหน้าให้กับนางแบบ และจัดชุดเสื้อผ้ากับนางแบบให้เข้าชุดกันงานโชว์ในวันนี้มีความสำคัญมาก เธอจึงต้องตรวจสอบทุกรายละเอียดอย่างใกล้ชิดห้ามไม่ให้มีข้อผิดพลาดใด ๆ เกิดขึ้นหลีเกอรู้สึกกังวลตลอดเวลาเจี่ยงอีอีเห็นดังนั้นจึงรีบยื่นน้ำให้เธอหนึ่งแก้ว "ที่รัก ดื่มน้ำหน่อยสิ!"หลีเกอรับมาพร้อมกับพูด "ขอบคุณนะ"หลังจากเตรียมงานทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้งสองถึงค่อยโล่งใจ"แขกด้านหน้ามาเกือบครบแล้ว เหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนแฟชั่นโชว์จะเริ่ม เธอไปพักผ่อนได้"หลีเกอพยักหน้าทันใดนั้น โทรศัพท์ในกระเป๋าของหลีเกอก็ดังขึ้นเมื่อเห็นเบอร์โทรเข้า พบว่าเป็นพี่ชายคนที่สามของเธอ หลีหราน คนคนนี้ไม่ได้ติดต่อเธอมาเป็นเวลานานแล้ววันนี้เขาโทรมาหาเธอทำไม?หลีเกอใช้ช่วงเวล
หลีเกอกลับไม่รู้สึกอะไร"คุณฮั่ว คนที่คุณควรสนใจไม่ใช่ฉัน ตอนนี้เฉียวซีอวิ๋นยังอยู่ในคุกไม่ใช่เหรอ ถ้าคุณมีเวลา ก็แวะไปเยี่ยมเธอสักหน่อย"เมื่อได้ยินชื่อที่ไม่ได้ยินมานานสีหน้าของฮั่วจิ้นเฉิงก็เปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว "อย่าพูดถึงเธอ!"แต่หลีเกอกลับหัวเราะ"ทำไมคะ คุณฮั่ว แสงสว่างในดวงใจของคุณตอนนี้กลายเป็นความมืดมนแล้วเหรอ?"ฮั่วจิ้นเฉิงพยายามระงับความโกรธในใจ "หลีเกอ ผมกับเธอไม่เป็นอย่างที่คุณคิด ทำไมถึงไม่เชื่อผม...""พอเถอะ คุณฮั่ว! วันเป็นวันดึ การพูดถึงเรื่องในอดีตไม่รู้จบจะนำมาซึ่งความโชคร้ายนะคะ"หลีเกอไม่สนใจเรื่องราวระหว่างเขากับเฉียวซีอวิ๋นไม่สนใจเรื่องใด ๆ ของพวกเขาเลย"ฉันต้องไปแล้วค่ะ คุณฮั่ว เชิญตามสบาย"หลังจากพูดจบ หลีเกอก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองแต่เมื่อเธอกลับมาที่หลังเวที สถานการณ์กลับกลายเป็นความโกลาหล"หลีเกอ ในที่สุดเธอก็กลับมา เป็นเรื่องแล้ว..." เจี่ยงอีอีดึงแขนเธอไปพร้อมกับพูดด้วยความกังวลหลีเกอรีบถาม"อะไร มีอะไรเกิดขึ้น?""...ชุดเสียหาย"เมื่อหลีเกอได้ยินดังนั้น เธอก็เดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว พบว่าชุดเด่น ๆ หลายชุดบนโต๊ะถูกกรรไกรตัดจนกลายเป็น
"ทำไงกันดี หลีเกอ อีกแค่ห้านาทีงานก็จะเริ่มแล้ว เราจะทันหรือเปล่า?"เจี่ยงอีอีเดินไปเดินมาที่หลังเวทีด้วยน้ำเสียงวิตกกังวลหลีเกอพยายามจัดการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วแล้วแท้ ๆ แต่เสื้อผ้าในมือก็ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง"หรือเราจะไปขอให้ผู้จัดงานเลื่อนเวลาออกไปอีกหน่อยดี..."เจี่ยงอีอีเสนอ แต่หลีเกอกลับปรามไว้"ไม่ได้ งานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้สำคัญมาก ถ้าขอเลื่อนเวลาออกไป จะส่งผลกระทบอย่างมาก""แล้วจะทำไงดีล่ะ? จะปล่อยให้พวกเขารอเฉย ๆ แบบนี้ไม่ได้นะ"หลีเกอเคลื่อนไหวร่างกายเร็วขึ้น เธอหยิบเข็มและด้ายในมือขึ้นมาเย็บ พร้อมกับครุ่นคิดอย่างหนัก จากนั้นก็พูดขึ้น "นอกซะจากว่า... จะหาเหตุผลที่เหมาะสมได้""โอ๊ย เวลาจวนตัวจะแย่แล้ว เหตุผลอะไรถึงเหมาะสมล่ะ?"ทีมงานหลังเวทีช่วยกันครุ่นคิดกันอย่างหนัก ทุกคนมองหน้ากันไปมา แต่ก็ไม่มีใครคิดอะไรออก"ถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็ให้นางแบบเซตแรกเดินวนบนเวทีหลาย ๆ รอบ อย่างน้อย ๆ ก็จะได้เวลาเพิ่มขึ้นมาสิบนาที""แต่บรรดานักข่าวไม่ได้คนโง่นะ ถ้าเดินหลายรอบ พวกเขาก็จะเดาได้ทันทีว่ามีปัญหาเกิดขึ้นที่หลังเวที""งานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้มีผู้คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ถ้าเกิดเ