ในขณะเดียวกันหน้าบาร์ ฮั่วซินถือโทรศัพท์โทรหาฮั่วจิ้นเฉิง แต่ไม่มีใครรับสาย หญิงสาวที่เดินอยู่ข้างเธอรีบถาม “แน่ใจเหรอว่าพี่ชายเธออยู่ที่นี่”ฮั่วซินพยักหน้ารัว ๆ แล้วพูดว่า “พี่ซีอวิ๋น ไม่ผิดหรอก พี่ชายฉันต้องอยู่ที่นี่แน่นอน”คนที่มาด้วยกันกับเธอคือ เฉียวซีอวิ๋น!เดิมทีเธอถูกเฉียวเจิ้นสยงส่งเข้าไปในสถานกักกัน ตระกูลเฉียวทอดทิ้งเธอไปแล้ว ตระกูลหลีก็ส่งหลักฐานที่สมบูรณ์ครบถ้วนมาให้ทันเวลา รอเพียงศาลเริ่มการพิจารณาคดีอย่างไรก็ตาม สถานะของเธอนับว่าพิเศษ เพราะเธอยังตั้งท้องอยู่เฉียวซีอวิ๋นใช้เหตุผลด้านร่างกายไม่อำนวยเพื่อขอประกันตัวเธอโทรหาฮั่วจิ้นเฉิง ส่งข้อความหาเขา อยากจะเจอหน้าเขา แต่ฮั่วจิ้นเฉิงไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าเธออีกเลยเธอจึงกัดฟันคิดหาวิธีบางอย่าง แอบหนีออกมาจากโรงพยาบาลเมื่อได้ยินฮั่วซินบอกว่าฮั่วจิ้นเฉิงอยู่ที่บาร์ เธอถึงได้มาที่นี่“พี่ซีอวิ๋น เราเข้าไปกันเถอะ!”ฮั่วซินพาเฉียวซีอวิ๋นเดินผ่านล็อบบี้ของบาร์ เมื่อสัมผัสกับบรรยากาศที่คึกคักรอบตัว หัวใจของเฉียวซีอวิ๋นก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในวินาทีถัดมา สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างเข้า
เสียงโหวกเหวกในล็อบบี้เบาลงทันทีเพราะเสียงร้องขอความช่วยเหลือ“ช่วยด้วย ช่วยลูกฉันด้วย!”หลีเกอมองเหตุการณ์นี้ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ นี่ไม่ใช่ครั้งแรก เฉียวซีอวิ๋นใช้อุบายเดิม ๆ อีกแลัว เธอติดใจทักษะการแสดงละครตบตาคนมากเกินไปหรือเปล่าฮั่วจิ้นเฉิงที่อยู่ไม่ไกล เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ ดวงตาของเขาก็ค่อย ๆ มืดลง ก้าวขายาว ๆ เดินไปข้างหน้า เห็นเฉียวซีอวิ๋นล้มกองอยู่บนพื้นในเวลานี้เขาไม่มีเวลาถามว่าเฉียวซีอวิ๋นมาที่นี่ได้อย่างไรเฉียวซีอวิ๋นคว้ามือของเขาไว้ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ไร้การเสแสร้ง“จิ้นเฉิง ช่วยฉันด้วย! ช่วยลูกของเราด้วย!”“พี่ชาย นังหลีเกอ ผู้หญิงใจร้ายคนนั้นผลักพี่ซีอวิ๋น พี่ซีอวิ๋นถึงได้เป็นแบบนี้” ฮั่วซินเป็นคนแรกที่กล่าวหาหลีเกอแต่ฮั่วจิ้นเฉิงไม่สนใจ เขาจ้องมองเฉียวซีอวิ๋นที่ดูเหมือนไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ ยื่นมือออกไปหมายจะอุ้มเธอ แต่ในวินาทีถัดมา มือใหญ่ของเขาก็สัมผัสกับบางสิ่งที่เปียกชื้น“เลือด! พี่ชาย พี่ซีอวิ๋นมีเลือดออก!” เสียงร้องของฮั่วซินทำให้ผู้คนรอบข้างตกใจ“มัวยืนทำอะไรอยู่ รีบโทร 120 สิ!” ไม่รู้ว่าใครในฝูงชนตะโกน ผู้คนต่างก็หยิบโทรศัพท์ขึ้
“ถ้าอย่างนั้นก็แจ้งความเลย!”เฉียวเจิ้นสยงพูดพร้อมกับจ้องไปที่ฮั่วซินด้วยสายตาที่เฉียบคมราวกับเหยี่ยว “ในเมื่อคุณหนูฮั่วบอกว่าเห็นเหตุการณ์ด้วยตาตัวเอง คุณคงไม่ยอมให้ซีอวิ๋นต้องเจ็บปวดฟรีแน่ ถึงตอนนั้นหวังว่าคุณหนูฮั่วจะออกหน้าเป็นพยาน พูดในสิ่งที่คุณเห็นอย่างตรงไปตรงมา”ฮั่วซิน “ฉัน…” เธอเม้มริมฝีปากแน่น เดิมทีเธอตั้งใจจะออกหน้าเป็นพยาน แต่เมื่อสบตากับฮั่วจิ้นเฉิง ก็ได้แต่กลืนคำพูดที่อยู่ในปากกลับลงไปเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่ “ตอนนั้นไฟในบาร์มืดสลัว ฉันอาจจะมองเห็นไม่ชัดเจนค่ะ”เธอกลับคำหน้าด้าน ๆ ต่อหน้าเฉียวเจิ้นสยง!หัวใจของฮั่วซินเต้นรัวราวกับจะถูกดันทะลุออกมาจากลำคอเฉียวเจิ้นสยงหัวเราะในลำคอ “คุณหนูฮั่ว ผมแค่ต้องการให้คุณพูดความจริง จำเป็นต้องทำแบบนี้ด้วยเหรอ?”“ฉัน…” ฮั่วซินหลุบตาลง มองไปที่ฮั่วจิ้นเฉิงด้วยสายตาที่เหมือนจะขอความช่วยเหลือดวงตาของเฉียวเจิ้นสยงค่อย ๆ จมลงอย่างช้า ๆ ไม่คาดคิดว่าในเวลานี้ ฮั่วจิ้นเฉิงจะยังคงปกป้องหลีเกอเขาแสดงท่าทีในฐานะผู้อาวุโสกว่าทันที “จิ้นเฉิง ซีอวิ๋นกำลังตั้งท้องลูกของเธอ! ตอนนี้เด็กไม่อยู่แล้ว ในฐานะพ่อ เธอกลับไม่เสียใจแม้แต่น้อย กลับค
เฉียวซีอวิ๋นกัดฟันพูดต่อ “จิ้นเฉิง ฉันรู้ว่าคุณอาจจะยังมีความรู้สึกดี ๆ ต่อหลีเกออยู่บ้าง ถึงยังไงพวกคุณก็เคยอยู่ด้วยกันมาสามปี แต่เธอเป็นผู้หญิงที่โหดเหี้ยมมาก เธอผลักฉัน ลูกของเราตายเพราะเธอ!”“เอาล่ะ ผมรู้แล้ว” ฮั่วจิ้นเฉิงพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย!"ในเมื่อคุณบอกว่าเธอเป็นคนผลักคุณ งั้นก็แจ้งความเลย ให้ตำรวจมาสืบสวนให้กระจ่าง ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย”พูดจบฮั่วจิ้นเฉิงก็ลุกขึ้นเตรียมจะออกไปแต่ในตอนนั้น ประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกผลักเปิดเข้ามา หลีเกอยืนกอดอกอยู่ที่หน้าประตู“หลีเกอ แกยังกล้าเสนอหน้ามาที่นี่อีก!”เฉียวซีอวิ๋นเห็นหลีเกอ ทันใดนั้นก็ทำท่าเหมือนกับแมวที่ขนพองทั้งตัว ตะโกนใส่เธอด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดแต่หลีเกอกลับไม่สะทกสะท้าน พูดแค่ว่า “เมื่อกี้ฉันได้ยินสิ่งที่พวกคุณคุยกันแล้ว ฉันอยากถามคุณเฉียวซีอวิ๋นหน่อย เมื่อคืนนี้ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเป็นอย่างที่คุณพูดจริง ๆ เหรอ?”“หลีเกอ นังผู้หญิงชั่ว! แกฆ่าลูกของฉัน!”ดวงตาของหลีเกอค่อย ๆ จมลง จากนั้นก็พูดออกมาประโยคหนึ่ง “คุณเฉียว คุณกินไม่เลือกได้ แต่จะพูดอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ แม้แต่เด็กสามขวบยัง
ถึงแม้เธอประกาศกร้าวว่าจะแจ้งความ แต่ไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะมาถึงเร็วขนาดนี้!การกระทำของหลีเกอทำให้เธอตั้งตัวไม่ทัน“กรี๊ด! ออกไป! ออกไปให้หมด!” เฉียวซีอวิ๋นอุดหูแล้วกรีดร้อง ท่าทางในเวลานี้ดูเหมือนคนที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้!สีหน้าของฮั่วจิ้นเฉิงเปลี่ยนไป แต่ยังคงหันไปเจรจากับตำรวจ“...ก่อนหน้านี้เธอเพิ่งแท้งลูก อารมณ์ไม่ค่อยคงที่ ต้องขออภัยด้วยนะครับ”ตำรวจทั้งสองมองหน้ากัน แล้วก็แสดงท่าทีที่เป็นทางการ “เราได้รับแจ้งความให้มาที่นี่ วันนี้ที่พวกเราแค่มาทำตามหน้าที่เท่านั้น ต้องการสอบปากคำเพิ่มเติม คุณเฉียวซีอวิ๋น กรุณาให้ความร่วมมือกับเราด้วย”“กรี๊ด! ฉันปวดหัว! จิ้นเฉิง ฉันปวดหัว!” เฉียวซีอวิ๋นร้องพลางก็คว้ามือของฮั่วจิ้นเฉิงมาจับไว้ “หัวฉันเหมือนจะระเบิดอยู่แล้ว!”“ได้ เดี๋ยวผมเรียกหมอให้” ฮั่วจิ้นเฉิงพูดจบก็กดกริ่งที่หัวเตียงเฉียวซีอวิ๋นดูควบคุมร่างกายไม่ได้เลย “ไล่พวกเขาออกไป! ไล่พวกเขาออกไปให้หมด ฉันไม่ให้ปากคำ ฉันไม่ทำอะไรทั้งนั้น!”ฮั่วจิ้นเฉิงเอื้อมมือออกไป ตบไหล่เธอเบา ๆ เพื่อปลอบโยน“คุณตำรวจ หลานสาวผมเพิ่งจะเสียลูกไป สภาพจิตใจไม่คงที่ ถึงสอบปากคำก็อาจจะไม่ได้ความอะไร
ทั้งสองคนขึ้นมาที่ดาดฟ้าของโรงพยาบาล“ไม่ทราบว่าคุณเฉียวต้องการพูดคุยอะไรกับฉัน ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแท้งลูกของเฉียวซีอวิ๋น ฉันคิดว่าเราน่าจะไม่มีอะไรต้องพูดกันแล้วนะคะ!”เฉียวเจิ้นสยงจ้องมองเธอด้วยดวงตาอันเฉียบคม จากนั้นก็พูดอย่างจริงจัง “ลูกน้องผมไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดของบาร์แล้ว ไม่มีกล้องตัวไหนบันทึกภาพเหตุการณ์ในตอนนั้น ถ้าซีอวิ๋นยืนกรานว่าคุณเป็นคนทำ คุณคิดว่าตัวเองจะหนีรอดไปได้เหรอ?”หลีเกอหัวเราะ“ความจริงก็ความจริง ของปลอมก็คือของปลอม คุณเฉียว หรือว่าคุณมีอำนาจล้นฟ้าขนาดนั้น?” คำพูดของเธอแฝงไปด้วยการเยาะหยันเฉียวเจิ้นสยงพูดต่อ “ในประเทศ F อาจเป็นอาณาจักรของตระกูลหลีของคุณ แต่ถ้าเป็นเมืองปินเฉิง ตระกูลเฉียวของผมสามารถทำอะไรก็ได้ตราบที่ต้องการ แต่ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อจะทะเลาะกับคุณหลี แค่ต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อเจรจาขอความปรองดองกับคุณหลีเท่านั้น เพราะถ้าเรื่องราวบานปลายไปมากกว่านี้ ก็น่าจะไม่ดีกับทุกฝ่าย”หลีเกอขมวดคิ้วถามว่า “คุณเฉียว อยากให้เราปรองดองกันยังไงคะ?”“จ่ายหนึ่งพันล้าน แล้วเรื่องนี้จะจบ ตระกูลเฉียวของเราจะไม่เรียกร้องความรับผิดชอบจากคุณหลีอีก”หนึ่งพันล
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีชาวเน็ตจำนวนมากที่ไปแสดงความคิดเห็นใน Weibo ทางการของบริษัทตี้เซิงอีกด้วย มีความคิดเห็นหลากหลาย เรื่องนี้กลายเป็นที่สนใจของผู้คนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในเวลาเดียวกัน ตระกูลเฉียวได้จัดงานแถลงข่าวและเชิญสำนักข่าวดังจากเมืองปินเฉิงทั้งหมดมาในงานแถลงข่าว เฉียวซีอวิ๋นได้ร้องไห้คร่ำครวญและกล่าวหาความผิดต่าง ๆ ของหลีเกอ แม้แต่รายละเอียดของการถูกผลักก็ถูกเปิดเผยออกมาทีละอย่าง ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง“คุณหนูเฉียว สิ่งที่คุณพูดเป็นความจริงไหม การแท้งลูกของคุณเป็นฝีมือคุณหนูหลีเกอจริง ๆ เหรอ?”เฉียวซีอวิ๋นเช็ดน้ำตาไปด้วย พลางพยักหน้าไปด้วย“หลีเกอผลักฉัน ฉันถึงได้ล้มลง จากนั้นลูกฉันก็แท้ง คุณหมอบอกว่าสาเหตุมาจากทารกมีอายุครรภ์มากเกินไป ทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่สามารถฟื้นฟูได้กับร่างกายของฉัน ต่อไปนี้ฉันอาจจะมีลูกไม่ได้อีกแล้ว…”เฉียวซีอวิ๋นร้องไห้โฮทุกคนต่างก็เห็นใจผู้อ่อนแอที่ถูกกระทำเมื่อพูดแบบนี้ นักข่าวในที่นั้นก็อดสงสารเธอไม่ได้“คุณหนูเฉียว อย่าเศร้าไปเลยค่ะ”“เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกันเพื่อหาทางออก”“คุณหนูเฉียววางใจได้ กฎหมายยุติธรร
“เราขอตอบโต้เรื่องราวที่ไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับคุณหลีเกอที่กำลังถูกเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ต! คุณหลีเกอไม่เคยทำร้ายใครตั้งแต่ต้นจนจบ ความจริงของเรื่องนี้เป็นอย่างไร ทางเราจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนและค้นหาหลักฐานตามกฎหมาย ส่วนการฟ้องร้องที่ไม่เป็นความจริงของเฉียวกรุ๊ป เราขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินคดีตามกฎหมาย”เมื่อแถลงการณ์นี้เผยแพร่ออกมา กระแสบนอินเทอร์เน็ตก็พลิกกลับแทบจะทันที“ตระกูลเฉียวขโมยไก่ไม่สำเร็จยังเสียข้าวสาร ยกก้อนหินแต่กลับหล่นทับเท้าตัวเอง”“คนดี ๆ เขามองออกกันทั้งนั้นว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับหลีเกอ แต่คนพวกนั้นกลับพยายามโยนความผิดให้เธอ ตอนนี้โดนตบหน้าจนชาแล้วสินะ”“ยังกล้าปากดีพูดว่าจะไม่เอาผิดทางอาญากับคนอื่นอีก เห็น ๆ กันอยู่ว่าคนที่ทำผิดทางอาญาคือตัวเองแท้ ๆ!”“ตระกูลเฉียวหน้าด้านเกินไปแล้ว!”“...”แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น!ขณะที่ชาวเน็ตกำลังถกเถียงกันอย่างดุเดือด คลิปบันทึกเสียงการสนทนาระหว่างเฉียวเจิ้นสยงกับหลีเกอบนดาดฟ้าโรงพยาบาลก็ถูกเปิดเผยตามออกมา เผยแพร่ลงบนอินเทอร์เน็ตโดยตรง“พระเจ้าช่วย ประธานเฉียวถึงกับไปหาหลีเกอเพื่อขอไกล่เกลี