ถึงแม้เธอประกาศกร้าวว่าจะแจ้งความ แต่ไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะมาถึงเร็วขนาดนี้!การกระทำของหลีเกอทำให้เธอตั้งตัวไม่ทัน“กรี๊ด! ออกไป! ออกไปให้หมด!” เฉียวซีอวิ๋นอุดหูแล้วกรีดร้อง ท่าทางในเวลานี้ดูเหมือนคนที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้!สีหน้าของฮั่วจิ้นเฉิงเปลี่ยนไป แต่ยังคงหันไปเจรจากับตำรวจ“...ก่อนหน้านี้เธอเพิ่งแท้งลูก อารมณ์ไม่ค่อยคงที่ ต้องขออภัยด้วยนะครับ”ตำรวจทั้งสองมองหน้ากัน แล้วก็แสดงท่าทีที่เป็นทางการ “เราได้รับแจ้งความให้มาที่นี่ วันนี้ที่พวกเราแค่มาทำตามหน้าที่เท่านั้น ต้องการสอบปากคำเพิ่มเติม คุณเฉียวซีอวิ๋น กรุณาให้ความร่วมมือกับเราด้วย”“กรี๊ด! ฉันปวดหัว! จิ้นเฉิง ฉันปวดหัว!” เฉียวซีอวิ๋นร้องพลางก็คว้ามือของฮั่วจิ้นเฉิงมาจับไว้ “หัวฉันเหมือนจะระเบิดอยู่แล้ว!”“ได้ เดี๋ยวผมเรียกหมอให้” ฮั่วจิ้นเฉิงพูดจบก็กดกริ่งที่หัวเตียงเฉียวซีอวิ๋นดูควบคุมร่างกายไม่ได้เลย “ไล่พวกเขาออกไป! ไล่พวกเขาออกไปให้หมด ฉันไม่ให้ปากคำ ฉันไม่ทำอะไรทั้งนั้น!”ฮั่วจิ้นเฉิงเอื้อมมือออกไป ตบไหล่เธอเบา ๆ เพื่อปลอบโยน“คุณตำรวจ หลานสาวผมเพิ่งจะเสียลูกไป สภาพจิตใจไม่คงที่ ถึงสอบปากคำก็อาจจะไม่ได้ความอะไร
ทั้งสองคนขึ้นมาที่ดาดฟ้าของโรงพยาบาล“ไม่ทราบว่าคุณเฉียวต้องการพูดคุยอะไรกับฉัน ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแท้งลูกของเฉียวซีอวิ๋น ฉันคิดว่าเราน่าจะไม่มีอะไรต้องพูดกันแล้วนะคะ!”เฉียวเจิ้นสยงจ้องมองเธอด้วยดวงตาอันเฉียบคม จากนั้นก็พูดอย่างจริงจัง “ลูกน้องผมไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดของบาร์แล้ว ไม่มีกล้องตัวไหนบันทึกภาพเหตุการณ์ในตอนนั้น ถ้าซีอวิ๋นยืนกรานว่าคุณเป็นคนทำ คุณคิดว่าตัวเองจะหนีรอดไปได้เหรอ?”หลีเกอหัวเราะ“ความจริงก็ความจริง ของปลอมก็คือของปลอม คุณเฉียว หรือว่าคุณมีอำนาจล้นฟ้าขนาดนั้น?” คำพูดของเธอแฝงไปด้วยการเยาะหยันเฉียวเจิ้นสยงพูดต่อ “ในประเทศ F อาจเป็นอาณาจักรของตระกูลหลีของคุณ แต่ถ้าเป็นเมืองปินเฉิง ตระกูลเฉียวของผมสามารถทำอะไรก็ได้ตราบที่ต้องการ แต่ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อจะทะเลาะกับคุณหลี แค่ต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อเจรจาขอความปรองดองกับคุณหลีเท่านั้น เพราะถ้าเรื่องราวบานปลายไปมากกว่านี้ ก็น่าจะไม่ดีกับทุกฝ่าย”หลีเกอขมวดคิ้วถามว่า “คุณเฉียว อยากให้เราปรองดองกันยังไงคะ?”“จ่ายหนึ่งพันล้าน แล้วเรื่องนี้จะจบ ตระกูลเฉียวของเราจะไม่เรียกร้องความรับผิดชอบจากคุณหลีอีก”หนึ่งพันล
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีชาวเน็ตจำนวนมากที่ไปแสดงความคิดเห็นใน Weibo ทางการของบริษัทตี้เซิงอีกด้วย มีความคิดเห็นหลากหลาย เรื่องนี้กลายเป็นที่สนใจของผู้คนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในเวลาเดียวกัน ตระกูลเฉียวได้จัดงานแถลงข่าวและเชิญสำนักข่าวดังจากเมืองปินเฉิงทั้งหมดมาในงานแถลงข่าว เฉียวซีอวิ๋นได้ร้องไห้คร่ำครวญและกล่าวหาความผิดต่าง ๆ ของหลีเกอ แม้แต่รายละเอียดของการถูกผลักก็ถูกเปิดเผยออกมาทีละอย่าง ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง“คุณหนูเฉียว สิ่งที่คุณพูดเป็นความจริงไหม การแท้งลูกของคุณเป็นฝีมือคุณหนูหลีเกอจริง ๆ เหรอ?”เฉียวซีอวิ๋นเช็ดน้ำตาไปด้วย พลางพยักหน้าไปด้วย“หลีเกอผลักฉัน ฉันถึงได้ล้มลง จากนั้นลูกฉันก็แท้ง คุณหมอบอกว่าสาเหตุมาจากทารกมีอายุครรภ์มากเกินไป ทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่สามารถฟื้นฟูได้กับร่างกายของฉัน ต่อไปนี้ฉันอาจจะมีลูกไม่ได้อีกแล้ว…”เฉียวซีอวิ๋นร้องไห้โฮทุกคนต่างก็เห็นใจผู้อ่อนแอที่ถูกกระทำเมื่อพูดแบบนี้ นักข่าวในที่นั้นก็อดสงสารเธอไม่ได้“คุณหนูเฉียว อย่าเศร้าไปเลยค่ะ”“เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกันเพื่อหาทางออก”“คุณหนูเฉียววางใจได้ กฎหมายยุติธรร
“เราขอตอบโต้เรื่องราวที่ไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับคุณหลีเกอที่กำลังถูกเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ต! คุณหลีเกอไม่เคยทำร้ายใครตั้งแต่ต้นจนจบ ความจริงของเรื่องนี้เป็นอย่างไร ทางเราจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนและค้นหาหลักฐานตามกฎหมาย ส่วนการฟ้องร้องที่ไม่เป็นความจริงของเฉียวกรุ๊ป เราขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินคดีตามกฎหมาย”เมื่อแถลงการณ์นี้เผยแพร่ออกมา กระแสบนอินเทอร์เน็ตก็พลิกกลับแทบจะทันที“ตระกูลเฉียวขโมยไก่ไม่สำเร็จยังเสียข้าวสาร ยกก้อนหินแต่กลับหล่นทับเท้าตัวเอง”“คนดี ๆ เขามองออกกันทั้งนั้นว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับหลีเกอ แต่คนพวกนั้นกลับพยายามโยนความผิดให้เธอ ตอนนี้โดนตบหน้าจนชาแล้วสินะ”“ยังกล้าปากดีพูดว่าจะไม่เอาผิดทางอาญากับคนอื่นอีก เห็น ๆ กันอยู่ว่าคนที่ทำผิดทางอาญาคือตัวเองแท้ ๆ!”“ตระกูลเฉียวหน้าด้านเกินไปแล้ว!”“...”แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น!ขณะที่ชาวเน็ตกำลังถกเถียงกันอย่างดุเดือด คลิปบันทึกเสียงการสนทนาระหว่างเฉียวเจิ้นสยงกับหลีเกอบนดาดฟ้าโรงพยาบาลก็ถูกเปิดเผยตามออกมา เผยแพร่ลงบนอินเทอร์เน็ตโดยตรง“พระเจ้าช่วย ประธานเฉียวถึงกับไปหาหลีเกอเพื่อขอไกล่เกลี
“หลีเกอมีโชคขนาดนี้เลยเหรอ?” ผู้อำนวยการหูแทบไม่อยากเชื่อเลย!เขาไม่คาดคิดเลยว่าในเวลาไม่กี่วัน บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ของเมืองปินเฉิงอย่างตระกูลเฉียวจะล่มสลาย และทั้งหมดนี้กลับเกี่ยวข้องกับหลีเกอ“ผู้อำนวยการหูคะ ฉันว่าประธานหลีมีวิสัยทัศน์ที่เฉียบแหลมมากนะคะ ถ้าอย่างนั้นการเดิมพันของคุณกับเธอ...”ผู้ช่วยยังพูดไม่ทันจบ ผู้อำนวยการหูก็พูดเสียงดุ “หยุดพูดเดี๋ยวนี้ เธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง อยากจะมาโลดแล่นในแวดวงธุรกิจที่กินไม่เลือกกระดูกแบบนี้ง่าย ๆ ได้ยังไง แค่ฝันกลางวันไปเท่านั้น! ถึงตอนนี้เธอจะฉวยโอกาสเซ็นสัญญากับอดีตลูกค้าของตระกูลเฉียวไปได้ แต่สำหรับบริษัทตี้เซิ่งที่มีขนาดมหึมา นี่ยังเด็กน้อยเกินไป ไม่ต้องพูดถึงผลประกอบการสามสิบเปอร์เซ็นต์”ถึงจะพูดแบบนี้ แต่ดวงตาของผู้อำนวยการหูก็ยังจมลงไม่ว่าอย่างไร เขาก็ไม่สามารถแพ้ให้กับการเดิมพันครั้งนี้ได้หลีเกอ เรามารอดูกันต่อไป…ในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ เฉียวกรุ๊ปก็ประกาศล้มละลายอย่างไรก็ตาม มีบริษัทอำนาจลึกลับเข้ามาเทคโอเวอร์โครงสร้างบริษัทที่เหลือของเฉียวกรุ๊ปอย่างเงียบ ๆ และได้อัดฉีดเงินเข้าไปเป็นจำนวนมาก ในเวลาเพี
“เอฟแอลกรุ๊ปจะจัดงานเปิดตัวในอีกสามวันข้างหน้า ได้เชิญบริษัทที่มีชื่อเสียงทั้งหมดในเมืองปินเฉิงเข้าร่วมงาน เราเองก็ได้รับเชิญด้วย”หลีเกอดูจดหมายเชิญสีทองอร่ามและมองไปที่ตัวอักษรเอฟแอลสองตัวนั้นโดยไม่รู้ตัว ช่วงนี้การกระทำของเอฟแอลกรุ๊ปดึงดูดความสนใจจากทุกคนจริง ๆตอนนี้พวกเขาเพิ่งจะจัดงานเปิดตัว คิดว่าบรรยากาศคงคึกคักมากแน่ ๆ อาจจะใช้โอกาสนี้ดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ ให้กับบริษัทของตัวเองก็ได้“เข้าใจแล้ว ลงไว้ในตารางงานของฉันเลย ฉันจะไปเข้าร่วมงานอย่างตรงเวลา”“ค่ะ ประธานหลี”หลีเกอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเจี่ยงอีอี “ที่รัก อีกสามวันฉันจะไปออกงาน เธอช่วยเลือกชุดราตรีที่ร้านให้ฉันหน่อยนะ!”“เธอหมายถึงงานเปิดตัวของเอฟแอลกรุ๊ปใช่ไหม!?”หลีเกอยกคิ้ว “เธอรู้ด้วยเหรอ?”“รู้สิ! ฉันได้รับออเดอร์หลายออเดอร์เลยล่ะที่เป็นชุดราตรีสำหรับใส่ออกงาน แต่ไม่ต้องห่วง ชุดราตรีที่ดีที่สุดของเรา ฉันเก็บไว้ให้เธอคนเดียวเลย เมื่อไปถึงงาน เธอจะต้องเป็นคนที่มีเสน่ห์ที่สุดในงานแน่นอนจ้ะ!”“ขอบคุณนะที่รัก แต่ขอแบบเรียบง่ายหน่อยก็ดีนะ”“โอเค ไม่มีปัญหา ฉันจัดการให้”…วันรุ่งขึ้น หลีเกอก็ได้รับพัสดุส่งด่วน เ
หลีเกอในชุดราตรีสีม่วงสุดหรู สวมรองเท้าส้นสูงสิบเซนติเมตร เผยให้เห็นเสน่ห์และออร่าอันเหลือล้น เดิมทีเธอก็สวยอยู่แล้ว บวกกับรูปร่างที่เพรียวบางยิ่งทำให้ดูสง่างามในชุดราตรีทันทีที่เธอปรากฏตัว ทุกสายตาก็จับจ้องไปที่เธอ“ว้าว! นั่นไง ลูกสาวตระกูลหลี สวยจริง ๆ เลย หุ่นดีมาก น่าอิจฉาจัง!”“ใช่ ๆ! ชุดราตรีที่เธอสวมก็เก๋มาก ไม่รู้ว่าสั่งตัดจากแบรนด์หรูอะไร ใส่แล้วดูดีสุด ๆ!”“ฮั่วจิ้นเฉิงตาบอดรึยังไง ปล่อยให้สาวสวยขนาดนี้หลุดมือไปได้ แถมยังไปคบกับผู้หญิงไม่ได้เรื่องอย่างเฉียวซีอวิ๋นอีก ป่านนี้คงเสียดายแย่”“อุ๊ย พูดถึงก็มา! คุณชายฮั่วก็มาร่วมงานนี้ด้วยนะ...”ทุกคนมองหน้ากันแล้วหัวเราะ สายตาจ้องมองไปยังฮั่วจิ้นเฉิงที่อยู่ไม่ไกลตั้งแต่หลีเกอเข้ามา สายตาของฮั่วจิ้นเฉิงก็ไม่เคยละไปจากเธอเลย หลีเกอในวันนี้สวยมาก สวยจนเขาไม่อาจละสายตา“คุณฮั่วคะ!” เสียงของหลานหนีทำให้เขาจำต้องละสายตาและหันกลับไปมอง“เมื่อกี้ฉันไปสืบมาแล้วค่ะ ยังไม่มีข่าวคราวของผู้บริหารสูงสุดของทางเอฟแอลกรุ๊ปเลย แต่มีคนกระซิบมาว่าผู้บริหารสูงสุดคนนี้เหมือนจะมาจากประเทศ F แต่ข่าวนี้ไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่ เพราะยังไม่มีใครเค
“อะไรกัน ซินซิน! เธอรู้จักกับประธานลึกลับคนนี้มาก่อนรึไง!”“จริงด้วย เธอเก็บความลับเก่งเกินไปแล้ว!”“รีบบอกเราเร็วเข้า ประธานลึกลับคนนี้หน้าตาเป็นยังไง หล่อไหม?”ฮั่วซินกวาดมองสายตาที่หิวกระหายของพวกเธอ ความรู้สึกไร้สาระในใจได้รับการเติมเต็มอย่างเต็มที่ แม้ว่าเธอจะไม่เคยพบชายคนนี้มาก่อน แต่ในหัวก็ได้ร่างภาพที่สมบูรณ์แบบขึ้นมาแล้ว เธอคิดว่าชายที่มีภูมิหลังและความสามารถที่ไม่ธรรมดาขนาดนี้ หน้าตาย่อมไม่มีทางแย่จนเป็นตัวประหลาดแน่ดังนั้นเธอจึงคุยโวอย่างไม่ละอาย “จะแง้มให้นิดหนึ่งก็ได้ ว่าจริง ๆ แล้วเราเคยเจอกันเมื่อนานมาแล้ว!”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกไป สาว ๆ ที่คอยติดตามเธอก็ตื่นเต้นกันใหญ่“ว้าว ซินซิน เธอนี่สุดยอดเลย!”“สมกับเป็นคุณหนูตระกูลฮั่วจริง ๆ มีข้อมูลวงในเยอะมาก คิดว่าในเมืองปินเฉิงกว้างใหญ่แห่งนี้ คงมีแค่เธอคนเดียวที่เคยเห็นหน้าตาที่แท้จริงของเขา”“ใช่ ใช่ ซินซิน รีบบอกเราซิ ประธานลึกลับคนนี้เป็นคนแบบไหนกันแน่?”ฮั่วซินถูกพวกเธอชมจนรู้สึกเย่อหยิ่งขึ้นมาเล็กน้อย พูดโกหกได้โดยที่ตาไม่ขยิบ“อืม จริง ๆ แล้วตัวจริงของเขาหล่อมาก แต่ค่อนข้างเป็นคนเก็บตัวนิดหน่อย ไม่ใช่คนชอบอวด