แชร์

6. ตัวแทน (stand-in)

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-23 18:34:56

ชายหนุ่มระเบิดเสียงหัวเราะ จ้องสายตาของหญิงสาวที่นั่งอยู่เบื้องหน้านิ่ง แววตาของเขาท้าทายในความรู้สึกของเธอยิ่งนัก

“เฮ้อ... ผมคงเจอนักลวงโลก the world scammer!!!” เขาเปรียบเปรยเห็นภาพลอยอยู่ตรงหน้าเธออย่างชัดแจ้ง

“นี่... พูดให้ดีๆ นะ ฉันฟ้องคุณได้” กิ่งฟ้าเหลืออด ถลึงตาใส่ชายหนุ่ม

“ได้เลย... ผมยินดี ถ้าไม่จริง บอกมา คุณชื่ออะไร” เขายังบังคับกลายๆ จะไม่ยอมเปลี่ยนเรื่อง

“เอ่อ... กิ่งฟ้า” เธอจำยอมในที่สุด ก้มหน้าลงกับพื้นโต๊ะ 

“อ้าววว... แสนภพเพิ่งบอกผมว่า คุณชื่อ ดารณี หรือว่าผมฟังผิด” เขาเอากำปั้นทุบโต๊ะ ทำเอากิ่งฟ้าสะดุ้งพรวดเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขา

“นี่คุณ... ทำอย่างกับฉันเป็นผู้ต้องหา ฉันมาเสนอขายสินค้า” เธอมองสบตาชายหนุ่มนิ่งขณะกล่าวตอบ

“เหรอครับ... แล้วสินค้านี้หลอกผมด้วยไหมเนี่ย” เขาหัวเราะเยาะเย้ยเธอ

“โอเค... ถ้าคุณยังพูดอะไรแบบนี้ ต้องขออนุญาตลากลับนะคะ” เธอเอ่ยเบาๆ จำยอมไม่อยากตอบโต้ใดๆ ขณะจ้องแววตาของเขาที่ระริกหยอกล้ออยู่ในดวงตาคมคู่นั้น

“อาการคุณเป็นยังไงบ้างล่ะ... ขอผมดูหน่อยได้ไหม” เขาลุกขึ้นก้าวมายืนค้ำหัวเธอ ผายมือขอร้องอย่างสุภาพ

“ดีขึ้นนิดหน่อย ข้อเท้าแพลงคงอาจหลายวันค่ะ ขอบคุณมากนะคะสำหรับวันนั้น” กิ่งฟ้าเงยหน้าขึ้นเอ่ยตอบอย่างนุ่มนวล

“แล้ววันนี้ คุณมายังไง ผมไปส่งไหม” เขายิ้มให้ขณะกล่าวออกตัวด้วยความยินดี

“นี่เกือบเที่ยงแล้ว ลงไปทานข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อย” เขาขอร้องเบาๆ

“ทำไมต้องให้เป็นเพื่อนด้วย คุณไม่มีเพื่อนหรือ” 

“ผมเพิ่งกลับมา รู้สึกเคว้งๆ ... no best friends here!!!” เขาอมยิ้มพยักหน้าเหมือนขอร้องไปในตัว

“ฉันนี่นะ best friend” สาวน้อยเอานิ้วชี้จิ้มที่จมูกเธอ

“ครับ... อย่างน้อยก็ใช้ trick อะไรกับผมไม่ได้” เขาขำเบาๆ แต่ดูไม่ค่อยซีเรียสเมื่อช่วงก่อนหน้า

“โห เห็นฉันเป็นคนไม่ดีไปเลย”

เขาไม่ตอบกลับ หันหลังไปเปิดประตูให้เธอเดินก้าวออกไป แล้วขออนุญาตมาช่วยพยุงแขนเธอที่กำลังลากเท้าซ้ายกระย่องกระแย่งอยู่ข้างเขา 

“ค่อยก้าวทีละก้าวลงบันไดกับผมนะ อย่าพาผมล้มลงไปด้วยกัน” เขากล่าวยังไม่ทันจบ ทั้งคู่เกิดพลาดล้มกลิ้งลงบันไดจนถึงพื้นด้านล่างของบริเวณลอบบี้ สายตาของทุกคู่ที่อยู่ตรงบริเวณนั้นหันมาที่พวกเขาทั้งสอง เสียงร้องของหญิงสาวต่างชาติคนหนึ่งดังขึ้น

ทั้งคู่กอดกันกลมอยู่ตรงพื้นไม่ห่างจากเชิงบันไดไปเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ตรงรีเซฟชั่นนายหนึ่งวิ่งเข้ามาช่วยพยุงชายหนุ่มที่ทับอยู่บนร่างของหญิงสาวขึ้นมา 

“so sorry ขอโทษจริงๆ” สีหน้าแดงของเขาบ่งบอกถึงความผิดที่ทำให้เธอพลอยอับอาย

“ค่ะ... จริงๆ ฉันคงซุ่มซ่าม ไปขัดขาคุณล้มไปก่อน เลยพลอยฉุดฉันลงไปด้วย” เธอเองรู้สึกถึงแรงกระแทกของเขาบนตัวเธอ รับรู้ถึงส่วนนั้นของเขาที่กดทับเธอ ต่างคนต่างใจเต้นรุนแรงแทบระเบิด เธอตกใจที่ไม่น่าเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันนี้

เขากุลีกุจอคุกเข่าอุ้มเธอขึ้นมากอดไว้เบาๆ ไออุ่นจากร่างกายปล่อยกระแสออกมาทำให้ทั้งสองจ้องตากันนิ่งอยู่พักหนึ่ง

“เอ่อ เออ... เราไปทานข้าวกันเถอะค่ะ” กิ่งฟ้าหน้าแดงก่ำ ทันทีที่ได้สติจึงกล่าวเพื่อสะกิดเขาเบาๆ ให้รู้ตัว

“ครับ...ครับ ขอโทษจริงๆ คุณเจ็บตรงไหนอีกไหม” เขาพยายามคะยั้นคะยอ

สาวน้อยยกไหล่บิดลำคอเบาๆ ไปมา ขณะกล่าวอย่างกังวล

“คอคงเคล็ดนิดนึง...” เธอกระซิบบอกเขาเบาๆ 

“ไว้ผมพาไปหาหมอที่คลินิกใกล้ๆ ไหวไหม ทานข้าวก่อนได้ไหมครับ” น้ำเสียงของเขาดูกังวล

“ค่ะ... โอ้ย!!!” กิ่งฟ้าร้องเบาๆ เอวเธอเจ็บมากเช่นกัน

“ผมน่าจะตัวหนัก...หึ หึ” เขาขำเบาๆ แก้เขิน

พันธ์พิสุทธิ์อุ้มสาวน้อยหน้าสวยก้าวอย่างรวดเร็วไปที่ห้องอาหาร แต่หลายคนที่เห็นเหตุการณ์อยู่ตรงแถวนั้นปรบมือให้ทั้งสองคนเบาๆ บางคนเป่าปากส่งเสียงวืดวี้ดแสดงความยินดี

“ปล่อยฉันลงเถอะ... คนมองกันเต็มไปหมด” กิ่งฟ้ากระซิบขณะชายหนุ่มรีบเดินไปยังโต๊ะว่างที่ใกล้ที่สุดหลังจากก้าวผ่านประตูห้องอาหาร

เขาค่อยวางเธอลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามอย่างนุ่มนวล และขยิบตา eye wink ให้ ก่อนกล่าวเบาๆ

“ทานสลัดก่อนไหม ผมจะไปเอามาให้” เขาเดินตัวปลิวออกไปทันใด หลังจากพูดจบ

กิ่งฟ้าอมยิ้มอย่างเป็นต่อ เธอต้องแกล้งเขาบ้างล่ะคราวนี้

เขาเดินกลับมาที่โต๊ะวางจานสลัดตรงหน้าของหญิงสาว แล้วเอ่ยถามอย่างเป็นกันเอง

“คุณต้องการซุปอะไรไหม มีซุปเห็ด กับซุปต้มยำ”

“ขอซุปเห็ดนะ และอาหารหลัก ขอเป็นข้าวกับอะไรก็ได้ค่ะ” กิ่งฟ้ามองเขาด้วยสายตาวิงวอน ทำเอาชายหนุ่มทำสีหน้าไม่ถูก เขารู้สึกขัดๆ เขินๆ พิกล

เขากลับมาด้วยจานปีกไก่ทอดพร้อมน้ำจิ้มแนวฝรั่งเป็นซอสครีม ได้ยินเขาอวดอ้างสรรพคุณ

“buffalo wings with onion sauce ปีกไก่ทอดกับซอสหัวหอม อร่อยมาก ลองดูนะ ถ้าไม่ชอบ ผมจะไปเอาเนื้อแกะตุ๋นราดน้ำแกง lamb curry” เขาพูดจบก็เดินออกไปเอากลับมาทันที

“โห... หอมกลิ่นแกงมัสมั่น น่าอร่อยนะคะ” 

“งั้น ลงมือเลย ผมหิวแล้ว” เขารีบตัดบท ไม่พูดอะไรอีกเลย ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียว

เธอเห็นเขาเอร็ดอร่อยกับอาหารที่เริ่มใกล้หมด เขาจึงเปิดปากด้วยคำถามทำเอาสาวน้อยหน้าสวยสะดุ้ง...

“ตกลง เราเจอกันครั้งที่สาม ก็เกิดเรื่องอีกจนได้” สายตายิ้มละไมของชายหนุ่มมองสบตาเธอมีแววหยอกเย้าอยู่ในที

“นั่นสิ ดีนะ ฉันมีอันนี้อยู่ในกระเป๋าเสื้อ” เธอล้วงพวงกุญแจที่มีพลาสติกสีฟ้าใสราวแก้วขึ้นมาโชว์ต่อหน้าเขา

“โกรธผมรึเปล่า!!!” เขานึกถึงประโยคนั้นที่ว่าเธอถึงความเชื่อถือโชคลาง

“ยังเคืองอยู่ กล่าวหาฉันว่า... ปัญญาอ่อน” 

“ทำโทษผมได้เลย” เขาขำเบาๆ ทีเล่นทีจริง

“ขอตบปากได้ไหม” เธอได้ทีอยากแกล้ง และอยากทำจริงๆ

“ได้...แรงๆ ก็ได้ ผมจะได้จำไว้ ห้ามปากหมา... filthy mouth!!!” เธอได้ยินเขาพึมพำสำนึกผิด

“ขอโทษนะ...” กิ่งฟ้าตบปากเขาเพียงเบาๆ แต่ชายหนุ่มดึงฝ่ามือเธอไปตบที่ริมฝีปากหนาของเขาอย่างรุนแรง 

เมื่อทั้งคู่หยอกล้อกันพอสมควร จึงหันไปมองโต๊ะข้างๆ เห็นสายตาหลายคู่มองทั้งสองคนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หนุ่มฝรั่งตัวใหญ่เดินเข้ามาตบไหล่พันธ์พิสุทธิ์กระซิบเบาๆ ไม่รู้ว่าเขาหันไปตอบกลับว่าอะไร กิ่งฟ้าขมวดคิ้วอย่างสงสัย

“เขาบอกให้ผมจูบคุณเบาๆ เพื่อขอโทษ” เขาขำกับประโยคที่บอกเธอ สีหน้าและแววตาดูเขินเล็กๆ

“โอ... คงไม่ไหวล่ะมั้ง” แก้มของกิ่งฟ้าแดงระเรื่อทันที เขาสังเกตเห็นว่าเธอคงอายกับคำพูดนี้

เขาพูดขึ้นอย่างไม่มีบริบทเกริ่นนำ นึกจะตัดเข้าบท ก็เริ่มทันทีโดยไม่ต้องอารัมภบท 

“มาเข้าเรื่องของเรา ผมจะเอาสินค้าไปนำเสนอให้กับคุณแม่ผมคืนนี้ แสนภพถูกแนะนำให้มาเจอกับสาวน้อยคนหนึ่ง เขาบอกผมเมื่อวาน” เขาเป็นคนทะลุกลางปล้อง เธอนึกในใจ ...ขอยืมสำนวนของแม่กรรณิการ์มาใช้

“ขอบอกตรงๆ นะคะ อย่าไปเล่าให้คุณแสนภพล่ะ เขาอาจโกรธเพื่อนของฉันน่ะ”

“ตกลง คุณชื่อ ดารณี หรือ กิ่งฟ้า” เขายิ้มอย่างมีชัย ยังส่งสายตายั่วเธอ

“ฉันเป็น stand-in ลองเดาสิว่า ควรจะเป็นคนไหน” เธอตอบเขาด้วยสายตายียวนเช่นกัน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เล่ห์อลวน คู่อลเวง   7. เล่ห์กามเทพ

    พันธ์พิสุทธิ์ไม่ได้ตอบคำถามใดใด สายตาของเขาเต็มไปด้วยแววเล่ห์เพทุบาย ต้องการแก้เผ็ดหญิงสาว“ผมจะพาคุณไปหาหมอ เผื่อเป็นอะไรมากกว่านี้” เขาทำหน้าตารู้สึกผิดเล็กน้อย ในความรู้สึกของกิ่งฟ้า มาดคุณหมอไม่มีเลยตั้งแต่พบกันครั้งแรกจนมาถึงครั้งนี้ หากไม่บอกถึงอาชีพการงาน เธอคิดว่าเขาน่าจะเป็นนักธุรกิจมากกว่า“ค่ะ... ยังเจ็บเอวอยู่เลย” สีหน้าของสาวน้อยเบื้องหน้าแสดงความเจ็บปวดออกมาให้เห็น ชายหนุ่มรู้ดีว่าน้ำหนักตัวของเขาคงกระแทกเธออย่างจังตอนลงไปถึงพื้นบันได ใจของเขากระตุกทันทีเมื่อหวนนึกถึงความรู้สึกที่วาบหวิว ร่างกายของเขาและเธอทาบทับกันนิ่งขณะนั้น ทำให้เขารู้สึกถึงประจุไฟปรารถนากำลังปะทุขึ้นจนอณูของเซลส์เกิดแรงสั่นสะเทือนกิ่งฟ้าถูกชายหนุ่มพยุงร่างบอบบางไปถึงยังลานจอดรถ เขาตัดสินใจอุ้มเธอเดินก้าวไปยังที่รถยนต์ซึ่งจอดห่างออกไปเกือบสองล็อก ลมหายใจของเขารดยังต้นคอของเธอจนรู้สึกสยิวไปทั่วร่าง“อืม... จริงๆ ฉันก็เดินได้อยู่น่ะ” เธอกล่าวปฏิเสธไป แต่ในใจรู้สึกยินดีเหลือล้น เขาดูเป็นสุภาพบุรุษมากกว่าทุกครั้ง อาจเป็นเพราะท่าทีดูนุ่มนวลขึ้นกว่าครั้งก่อน“กอดผมแน่นๆ ไม่งั้นคุณอาจหล่นได้ ผมไม่เคยอุ้มใค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26
  • เล่ห์อลวน คู่อลเวง   1. กระเป๋าใบนั้นเป็นเหตุ

    เสียงตะคอกใส่กันดังก้องกังวาน...ประมาณคนกำลังทะเลาะกันอยู่ตรงบริเวณจุด meeting point ของสนามบินสุวรรณภูมิ“นี่... มายื้อยุดฉุดกระเป๋าผมได้ยังไง นี่มันของผม...!!!” ชายหนุ่มสูงชะลูด 182 ซม.ยืนจังก้าหัวร้อน โมโหอย่างแรงจ้องหน้าบางใสกิ๊กของสาวน้อยส่วนสูง 170 ซม. หุ่นราวนางแบบ“เฮ้ย... มันของฉัน นายหยิบกระเป๋าผิด!!!” ผู้ชายอะไรวะ กระเป๋าสีเขียวหวานพาสเทลเหมือนเรา เธอนึกด่าความสะเหร่อ ไม่ได้ดูอะไรเลยมาคว้าเอาของคนอื่น แถมก้าวยาวราวนักวิ่ง 10*100 เมตร วิ่งไล่ตามเกือบไม่ทัน แมร่งเอ้ย...ขาเจ้ากรรมเสือกดันสะดุดพันกันอีก “ไม่ใช่ดูอีกที... ป้ายชื่อผม!!!” เขากระแทกเสียงดัง หยิบแผ่นแท็กป้ายชื่อกระเป๋าออกมาให้เธอเห็น มันช่างชัดเจนเต็มสองลูกตา“ไม่ใช่... นี่ไง” เสียงตะคอกแย้งกลับ เธอยื้อกระเป๋ามาแล้วพลิกแผ่นสติกเกอร์แท็กบาร์โค้ดคล้องหูกระเป๋ามาจากสนามบินต้นทางให้เขาดู เขาคิ้วขมวด ในใจนึก มันเรื่องบ้าบอ!!! อะไรกันว่ะ… “เอางี้... เปิดกระเป๋าเลยดีกว่า!!!” เขาทำหน้าไม่พอใจ อะไรของยัยคนนี้ ...ซุ่มซ่าม เมื่อกี้วิ่งตามมาตะโกนเรียก...เฮ้ย เฮ้ย ดังลั่นจนคนมองกันทั่ว แถมดันสะดุดขาตัวเองเกือบล้ม ดึงเสื้อเขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • เล่ห์อลวน คู่อลเวง   2. เจอกันที่ สน.

    กิ่งฟ้าเข้าใจผิดคิดว่า เขาต้องเป็นฝ่ายโทรหาเธอ มานึกขึ้นได้เมื่อดารณีถามขึ้นตอนไปออกกำลังกายด้วยกันตอนเย็นวันต่อมา“เฮ้ย... แก ไม่เอากระเป๋าคืนเหรอ” คำถามของเพื่อนตัวเล็กตาหยี ทำให้เธอสะดุ้งทันที“เอ่อ... ลืมไปว่ะ ข้าพเจ้าเพิ่งนึกขึ้นได้”“อะไรของมันวะ นังนี่... ตั้งแต่กลับมาถึงเมื่อวาน เริ่มเพี้ยนจัด” ดารณีเพื่อนตัวเล็ก กำลังควงฮูลาฮูป “หมุนเอวไป จะได้ไซซ์ S เร็วๆ ห้ามพูดไม่ใช่เหรอ จะควงไม่มัน” กิ่งฟ้าหมั่นไส้ยัยเพื่อนตาหยีคนนี้ อยากสวยเอวบางเมื่อดารณีเริ่มพักเบรกหลังจาก 15 นาทีผ่านไป เธอเลยถามกิ่งฟ้าอีกครั้ง“นี่ตกลง จะให้เขาโทรมาตามหรือไง” “ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ... อีตานั่นยื่นนามบัตรอะไรนี่แหละ แต่ดันไปซุกลงตรงไหนไม่รู้” เธอนึกไม่ออกจริงๆ ว่ารับนามบัตรมาแล้วยัดไว้ตรงไหนของกระเป๋า“แล้วเคลมกระเป๋าที่สนามบินไว้ใช่ไหม” ดารณีเตือนเธอ“ใช่ ... ก็ไม่เห็นโทรมาตามเลย” ในที่สุดหลังจากดูเพื่อนออกกำลังกายฟิตหุ่น กิ่งฟ้าง่วนกับการค้นกระเป๋า ไม่รู้ว่านามบัตรของชายหนุ่มคนนั้นไปซุกไว้ตรงไหน“เอางี้... เทกระเป๋าออกมาให้หมด เดี๋ยวฉันช่วยเอง” ดารณีเริ่มเห็นความวุ่นวาย นึกตงิดๆ ว่าเพื่อนสาวแสนข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • เล่ห์อลวน คู่อลเวง   3. นัดเจอกัน

    หลังจากเอากระเป๋าเดินทางกลับมาถึงบ้าน กิ่งฟ้าจึงรีบเปิดกระเป๋าค้นหาเงินดอลลาร์ที่ซุกซ่อนอยู่ หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ“มันยังไงล่ะเนี่ย...” เธอโทรไปคุยกับดารณีที่แช็ต“เขานัดให้ไปเจอ จะเอาเงินให้ ไป...ไป เหอะ” ดารณีรำคาญแม่เพื่อนสาวจอมหลงลืม“แล้วฉันเอาไปทำหล่นทำหาย... ไม่น่าใช่อีก โอย...หัวจะปวด” เธอร้องโวยวาย ใจกระวนกระวาย กลัวหน้าแตกหากเขาคิดว่าเธอจอมงก ในใจคิดแต่ว่าต้องหาเงินจำนวนนี้ให้เจอ ไม่อยากให้เขาดูถูก“นี่ นังกิ่ง ฉันขอบอกว่า แกควรไปเจอ... รู้ไหมเขาอยากนัดเดท” ดารณีเข้าใจความเป็นไป ชายหนุ่มน่าจะเริ่มสนใจนังเพื่อนรักคนนี้แล้ว“เฮ้อ... มันขัดๆ เขินๆ ยังไง ไม่รู้ว่ะ แก... ช่วยคิดหน่อยว่าฉันควรจะบอกขอโทษยังไง เกิดดันเจอเงินแล้ว” “ไม่ต้องเลย... แกตีเนียนไป แม้หาเจอ ฉันไม่ได้สอนให้โกหก แต่มันแค่ white lie เพื่อความสบายใจของแกเอง” ดารณีคิดแผนให้เสร็จสรรพ“โห... มันโกหกตัวใหญ่เลย” เธอทำเสียงจ๋อยๆ“อ้าววว ... ตกลงหาเจอแล้วหรือ” ดารณีขึ้นเสียง สับสนกับกิ่งฟ้า“ยังเลย... ว่าจะไม่หาแล้ว ไม่รู้ว่าไปลืมไว้ตรงไหน” เธอคิดเท่าไหร่ก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีดารณีกดวางสายไปสุดรำคาญ สำหรับกิ่งฟ้าเรื่อง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-29
  • เล่ห์อลวน คู่อลเวง   4. ลางสังหรณ์

    พันธ์พิสุทธิ์รู้สึกใจคอไม่ดีเพราะในใจเหมือนมีลางอะไรบางอย่างบอกเหตุว่า เวลาเจอผู้หญิงคนนี้ทั้งสองครั้งทำให้ต้องเกิดเรื่องราว เขาจึงอยากรีบกลับถึงบ้าน “ผมขอ say bye เลยนะครับ” เขายกข้อมือดูนาฬิกา เวลาเกือบสามทุ่ม เขามีเรื่องต้องโทรหาน้องสาวซึ่งกำลังเรียนอยู่ที่ซิดนีย์ เธอขอให้เขาโทรหาไม่รู้มีเรื่องอะไร“ค่ะ... งั้นลาตรงนี้นะคะ” เธอยกมือไหว้ชายหนุ่ม เขาโบกมือลาขณะกำลังก้าวเดินออกจากโต๊ะ เขารีบเดินกลับไปที่รถ ขณะนี้ไม่มีโทรศัพท์มือถือรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง และรู้ตัวว่าต้องรีบกลับ ขณะใจกำลังวกวนเรื่องเธอคนนี้ เขาเลี้ยวรถตรงหน้าร้านจะออกไป เธอกำลังรับโทรศัพท์เดินลงมาตรงหัวมุมหน้าร้าน... “Oh…shit…ตายล่ะ... เวรจริงๆ” เขาผรุสวาท และรีบกดกระจกลงตะโกนถาม “เป็นอะไรไหมนั่น... ผมจะพาไปคลินิก” เขาเห็นเธอล้มลง เขาน่าจะชนเธอตรงสะโพกพอดี เขารีบลงรถไปอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเปิดประตูหลังเอาเธอวางลงบนเบาะหลัง ขณะพันธ์พิสุทธิ์ออกรถไป เขาถามเธอด้วยใจกระวนกระวาย“คุณเจ็บตรงไหนบ้าง” เขามองกระจกส่องหลัง เห็นเธอเอามือไปลูบหลังข้อศอกและขาข้างซ้ายน่าจะเป็นแผลกิ่งฟ้ากำลังล้วงเอาทิชชูเปียกในกระเป๋าออกมาซับเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-10
  • เล่ห์อลวน คู่อลเวง   5. ดวงตาปีศาจ

    กิ่งฟ้าหลับไปในความฝัน เธอเห็นดวงตาปีศาจปรากฏอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ ขณะกำลังเดินเล่นเพลินๆ อยู่นั้นเอง“เฮ้ย... ดา แกทำอะไรน่ะ” เธอถามดารณีขณะสาวตาหยีโผล่พรวดมาจากหลังพุ่มไม้แล้วเดินเข้ามาหา“ฉันเอาหนอนมาให้...” ดารณีรู้ว่าเพื่อนรักเกลียดตัวหนอนเป็นที่สุด“หูย...หยี เอาไปให้พ้น” เธอหลับตาแต่ยังแอบหรี่ตาข้างซ้ายมองว่า เพื่อนสาวเอาออกไปหรือยัง“ไม่... มันคือผีเสื้อ” จากนั้นดารณีโยนเจ้าหนอนสีเขียวขึ้นไป กลับกลายเป็นผีเสื้อปีกสีเขียวขยับบินร่อนอยู่ตรงหน้าเธอ“โห... สวยจังเลย” ดารณียิ้มเมื่อได้ยินเพื่อนสาวเบื้องหน้าเอ่ยปากชื่นชมไม่นานดารณีหายวับไป ในขณะที่กิ่งฟ้ากำลังวิ่งไล่ตามผีเสื้อที่บินวนเวียนหยอกเย้าเธอ“อ้าววว... ดา แกมาเงียบๆ แล้วก็หายไปเงียบๆ” เธอขำเบาๆ จากนั้นจึงวิ่งหมุนวนอยู่กลางสวนสวย และแล้วจู่ๆ หน้าของชายหนุ่มแปลกประหลาดนายหนึ่งโผล่ขึ้นมาตรงกลางหน้าของสาวน้อย“คุณชอบผีเสื้อหรือ...ผมมีอะไรมาให้ดู” เขายื่นหินกลมๆ สีฟ้าตรงกลางเป็นสีขาวกลม และวงกลมในสุดเป็นสีฟ้าสวยงามมากในความรู้สึก เธอไม่เคยเห็นหินชนิดนี้มาก่อน“หินอะไรคะ” เธอถามขณะเห็นหน้าชายหนุ่มแปลกหน้า เขามองจ้องตาเธอ แววตาเห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-21

บทล่าสุด

  • เล่ห์อลวน คู่อลเวง   7. เล่ห์กามเทพ

    พันธ์พิสุทธิ์ไม่ได้ตอบคำถามใดใด สายตาของเขาเต็มไปด้วยแววเล่ห์เพทุบาย ต้องการแก้เผ็ดหญิงสาว“ผมจะพาคุณไปหาหมอ เผื่อเป็นอะไรมากกว่านี้” เขาทำหน้าตารู้สึกผิดเล็กน้อย ในความรู้สึกของกิ่งฟ้า มาดคุณหมอไม่มีเลยตั้งแต่พบกันครั้งแรกจนมาถึงครั้งนี้ หากไม่บอกถึงอาชีพการงาน เธอคิดว่าเขาน่าจะเป็นนักธุรกิจมากกว่า“ค่ะ... ยังเจ็บเอวอยู่เลย” สีหน้าของสาวน้อยเบื้องหน้าแสดงความเจ็บปวดออกมาให้เห็น ชายหนุ่มรู้ดีว่าน้ำหนักตัวของเขาคงกระแทกเธออย่างจังตอนลงไปถึงพื้นบันได ใจของเขากระตุกทันทีเมื่อหวนนึกถึงความรู้สึกที่วาบหวิว ร่างกายของเขาและเธอทาบทับกันนิ่งขณะนั้น ทำให้เขารู้สึกถึงประจุไฟปรารถนากำลังปะทุขึ้นจนอณูของเซลส์เกิดแรงสั่นสะเทือนกิ่งฟ้าถูกชายหนุ่มพยุงร่างบอบบางไปถึงยังลานจอดรถ เขาตัดสินใจอุ้มเธอเดินก้าวไปยังที่รถยนต์ซึ่งจอดห่างออกไปเกือบสองล็อก ลมหายใจของเขารดยังต้นคอของเธอจนรู้สึกสยิวไปทั่วร่าง“อืม... จริงๆ ฉันก็เดินได้อยู่น่ะ” เธอกล่าวปฏิเสธไป แต่ในใจรู้สึกยินดีเหลือล้น เขาดูเป็นสุภาพบุรุษมากกว่าทุกครั้ง อาจเป็นเพราะท่าทีดูนุ่มนวลขึ้นกว่าครั้งก่อน“กอดผมแน่นๆ ไม่งั้นคุณอาจหล่นได้ ผมไม่เคยอุ้มใค

  • เล่ห์อลวน คู่อลเวง   6. ตัวแทน (stand-in)

    ชายหนุ่มระเบิดเสียงหัวเราะ จ้องสายตาของหญิงสาวที่นั่งอยู่เบื้องหน้านิ่ง แววตาของเขาท้าทายในความรู้สึกของเธอยิ่งนัก“เฮ้อ... ผมคงเจอนักลวงโลก the world scammer!!!” เขาเปรียบเปรยเห็นภาพลอยอยู่ตรงหน้าเธออย่างชัดแจ้ง“นี่... พูดให้ดีๆ นะ ฉันฟ้องคุณได้” กิ่งฟ้าเหลืออด ถลึงตาใส่ชายหนุ่ม“ได้เลย... ผมยินดี ถ้าไม่จริง บอกมา คุณชื่ออะไร” เขายังบังคับกลายๆ จะไม่ยอมเปลี่ยนเรื่อง“เอ่อ... กิ่งฟ้า” เธอจำยอมในที่สุด ก้มหน้าลงกับพื้นโต๊ะ “อ้าววว... แสนภพเพิ่งบอกผมว่า คุณชื่อ ดารณี หรือว่าผมฟังผิด” เขาเอากำปั้นทุบโต๊ะ ทำเอากิ่งฟ้าสะดุ้งพรวดเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขา“นี่คุณ... ทำอย่างกับฉันเป็นผู้ต้องหา ฉันมาเสนอขายสินค้า” เธอมองสบตาชายหนุ่มนิ่งขณะกล่าวตอบ“เหรอครับ... แล้วสินค้านี้หลอกผมด้วยไหมเนี่ย” เขาหัวเราะเยาะเย้ยเธอ“โอเค... ถ้าคุณยังพูดอะไรแบบนี้ ต้องขออนุญาตลากลับนะคะ” เธอเอ่ยเบาๆ จำยอมไม่อยากตอบโต้ใดๆ ขณะจ้องแววตาของเขาที่ระริกหยอกล้ออยู่ในดวงตาคมคู่นั้น“อาการคุณเป็นยังไงบ้างล่ะ... ขอผมดูหน่อยได้ไหม” เขาลุกขึ้นก้าวมายืนค้ำหัวเธอ ผายมือขอร้องอย่างสุภาพ“ดีขึ้นนิดหน่อย ข้อเท้าแพลงคงอาจหลายวันค่ะ

  • เล่ห์อลวน คู่อลเวง   5. ดวงตาปีศาจ

    กิ่งฟ้าหลับไปในความฝัน เธอเห็นดวงตาปีศาจปรากฏอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ ขณะกำลังเดินเล่นเพลินๆ อยู่นั้นเอง“เฮ้ย... ดา แกทำอะไรน่ะ” เธอถามดารณีขณะสาวตาหยีโผล่พรวดมาจากหลังพุ่มไม้แล้วเดินเข้ามาหา“ฉันเอาหนอนมาให้...” ดารณีรู้ว่าเพื่อนรักเกลียดตัวหนอนเป็นที่สุด“หูย...หยี เอาไปให้พ้น” เธอหลับตาแต่ยังแอบหรี่ตาข้างซ้ายมองว่า เพื่อนสาวเอาออกไปหรือยัง“ไม่... มันคือผีเสื้อ” จากนั้นดารณีโยนเจ้าหนอนสีเขียวขึ้นไป กลับกลายเป็นผีเสื้อปีกสีเขียวขยับบินร่อนอยู่ตรงหน้าเธอ“โห... สวยจังเลย” ดารณียิ้มเมื่อได้ยินเพื่อนสาวเบื้องหน้าเอ่ยปากชื่นชมไม่นานดารณีหายวับไป ในขณะที่กิ่งฟ้ากำลังวิ่งไล่ตามผีเสื้อที่บินวนเวียนหยอกเย้าเธอ“อ้าววว... ดา แกมาเงียบๆ แล้วก็หายไปเงียบๆ” เธอขำเบาๆ จากนั้นจึงวิ่งหมุนวนอยู่กลางสวนสวย และแล้วจู่ๆ หน้าของชายหนุ่มแปลกประหลาดนายหนึ่งโผล่ขึ้นมาตรงกลางหน้าของสาวน้อย“คุณชอบผีเสื้อหรือ...ผมมีอะไรมาให้ดู” เขายื่นหินกลมๆ สีฟ้าตรงกลางเป็นสีขาวกลม และวงกลมในสุดเป็นสีฟ้าสวยงามมากในความรู้สึก เธอไม่เคยเห็นหินชนิดนี้มาก่อน“หินอะไรคะ” เธอถามขณะเห็นหน้าชายหนุ่มแปลกหน้า เขามองจ้องตาเธอ แววตาเห

  • เล่ห์อลวน คู่อลเวง   4. ลางสังหรณ์

    พันธ์พิสุทธิ์รู้สึกใจคอไม่ดีเพราะในใจเหมือนมีลางอะไรบางอย่างบอกเหตุว่า เวลาเจอผู้หญิงคนนี้ทั้งสองครั้งทำให้ต้องเกิดเรื่องราว เขาจึงอยากรีบกลับถึงบ้าน “ผมขอ say bye เลยนะครับ” เขายกข้อมือดูนาฬิกา เวลาเกือบสามทุ่ม เขามีเรื่องต้องโทรหาน้องสาวซึ่งกำลังเรียนอยู่ที่ซิดนีย์ เธอขอให้เขาโทรหาไม่รู้มีเรื่องอะไร“ค่ะ... งั้นลาตรงนี้นะคะ” เธอยกมือไหว้ชายหนุ่ม เขาโบกมือลาขณะกำลังก้าวเดินออกจากโต๊ะ เขารีบเดินกลับไปที่รถ ขณะนี้ไม่มีโทรศัพท์มือถือรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง และรู้ตัวว่าต้องรีบกลับ ขณะใจกำลังวกวนเรื่องเธอคนนี้ เขาเลี้ยวรถตรงหน้าร้านจะออกไป เธอกำลังรับโทรศัพท์เดินลงมาตรงหัวมุมหน้าร้าน... “Oh…shit…ตายล่ะ... เวรจริงๆ” เขาผรุสวาท และรีบกดกระจกลงตะโกนถาม “เป็นอะไรไหมนั่น... ผมจะพาไปคลินิก” เขาเห็นเธอล้มลง เขาน่าจะชนเธอตรงสะโพกพอดี เขารีบลงรถไปอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเปิดประตูหลังเอาเธอวางลงบนเบาะหลัง ขณะพันธ์พิสุทธิ์ออกรถไป เขาถามเธอด้วยใจกระวนกระวาย“คุณเจ็บตรงไหนบ้าง” เขามองกระจกส่องหลัง เห็นเธอเอามือไปลูบหลังข้อศอกและขาข้างซ้ายน่าจะเป็นแผลกิ่งฟ้ากำลังล้วงเอาทิชชูเปียกในกระเป๋าออกมาซับเ

  • เล่ห์อลวน คู่อลเวง   3. นัดเจอกัน

    หลังจากเอากระเป๋าเดินทางกลับมาถึงบ้าน กิ่งฟ้าจึงรีบเปิดกระเป๋าค้นหาเงินดอลลาร์ที่ซุกซ่อนอยู่ หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ“มันยังไงล่ะเนี่ย...” เธอโทรไปคุยกับดารณีที่แช็ต“เขานัดให้ไปเจอ จะเอาเงินให้ ไป...ไป เหอะ” ดารณีรำคาญแม่เพื่อนสาวจอมหลงลืม“แล้วฉันเอาไปทำหล่นทำหาย... ไม่น่าใช่อีก โอย...หัวจะปวด” เธอร้องโวยวาย ใจกระวนกระวาย กลัวหน้าแตกหากเขาคิดว่าเธอจอมงก ในใจคิดแต่ว่าต้องหาเงินจำนวนนี้ให้เจอ ไม่อยากให้เขาดูถูก“นี่ นังกิ่ง ฉันขอบอกว่า แกควรไปเจอ... รู้ไหมเขาอยากนัดเดท” ดารณีเข้าใจความเป็นไป ชายหนุ่มน่าจะเริ่มสนใจนังเพื่อนรักคนนี้แล้ว“เฮ้อ... มันขัดๆ เขินๆ ยังไง ไม่รู้ว่ะ แก... ช่วยคิดหน่อยว่าฉันควรจะบอกขอโทษยังไง เกิดดันเจอเงินแล้ว” “ไม่ต้องเลย... แกตีเนียนไป แม้หาเจอ ฉันไม่ได้สอนให้โกหก แต่มันแค่ white lie เพื่อความสบายใจของแกเอง” ดารณีคิดแผนให้เสร็จสรรพ“โห... มันโกหกตัวใหญ่เลย” เธอทำเสียงจ๋อยๆ“อ้าววว ... ตกลงหาเจอแล้วหรือ” ดารณีขึ้นเสียง สับสนกับกิ่งฟ้า“ยังเลย... ว่าจะไม่หาแล้ว ไม่รู้ว่าไปลืมไว้ตรงไหน” เธอคิดเท่าไหร่ก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีดารณีกดวางสายไปสุดรำคาญ สำหรับกิ่งฟ้าเรื่อง

  • เล่ห์อลวน คู่อลเวง   2. เจอกันที่ สน.

    กิ่งฟ้าเข้าใจผิดคิดว่า เขาต้องเป็นฝ่ายโทรหาเธอ มานึกขึ้นได้เมื่อดารณีถามขึ้นตอนไปออกกำลังกายด้วยกันตอนเย็นวันต่อมา“เฮ้ย... แก ไม่เอากระเป๋าคืนเหรอ” คำถามของเพื่อนตัวเล็กตาหยี ทำให้เธอสะดุ้งทันที“เอ่อ... ลืมไปว่ะ ข้าพเจ้าเพิ่งนึกขึ้นได้”“อะไรของมันวะ นังนี่... ตั้งแต่กลับมาถึงเมื่อวาน เริ่มเพี้ยนจัด” ดารณีเพื่อนตัวเล็ก กำลังควงฮูลาฮูป “หมุนเอวไป จะได้ไซซ์ S เร็วๆ ห้ามพูดไม่ใช่เหรอ จะควงไม่มัน” กิ่งฟ้าหมั่นไส้ยัยเพื่อนตาหยีคนนี้ อยากสวยเอวบางเมื่อดารณีเริ่มพักเบรกหลังจาก 15 นาทีผ่านไป เธอเลยถามกิ่งฟ้าอีกครั้ง“นี่ตกลง จะให้เขาโทรมาตามหรือไง” “ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ... อีตานั่นยื่นนามบัตรอะไรนี่แหละ แต่ดันไปซุกลงตรงไหนไม่รู้” เธอนึกไม่ออกจริงๆ ว่ารับนามบัตรมาแล้วยัดไว้ตรงไหนของกระเป๋า“แล้วเคลมกระเป๋าที่สนามบินไว้ใช่ไหม” ดารณีเตือนเธอ“ใช่ ... ก็ไม่เห็นโทรมาตามเลย” ในที่สุดหลังจากดูเพื่อนออกกำลังกายฟิตหุ่น กิ่งฟ้าง่วนกับการค้นกระเป๋า ไม่รู้ว่านามบัตรของชายหนุ่มคนนั้นไปซุกไว้ตรงไหน“เอางี้... เทกระเป๋าออกมาให้หมด เดี๋ยวฉันช่วยเอง” ดารณีเริ่มเห็นความวุ่นวาย นึกตงิดๆ ว่าเพื่อนสาวแสนข

  • เล่ห์อลวน คู่อลเวง   1. กระเป๋าใบนั้นเป็นเหตุ

    เสียงตะคอกใส่กันดังก้องกังวาน...ประมาณคนกำลังทะเลาะกันอยู่ตรงบริเวณจุด meeting point ของสนามบินสุวรรณภูมิ“นี่... มายื้อยุดฉุดกระเป๋าผมได้ยังไง นี่มันของผม...!!!” ชายหนุ่มสูงชะลูด 182 ซม.ยืนจังก้าหัวร้อน โมโหอย่างแรงจ้องหน้าบางใสกิ๊กของสาวน้อยส่วนสูง 170 ซม. หุ่นราวนางแบบ“เฮ้ย... มันของฉัน นายหยิบกระเป๋าผิด!!!” ผู้ชายอะไรวะ กระเป๋าสีเขียวหวานพาสเทลเหมือนเรา เธอนึกด่าความสะเหร่อ ไม่ได้ดูอะไรเลยมาคว้าเอาของคนอื่น แถมก้าวยาวราวนักวิ่ง 10*100 เมตร วิ่งไล่ตามเกือบไม่ทัน แมร่งเอ้ย...ขาเจ้ากรรมเสือกดันสะดุดพันกันอีก “ไม่ใช่ดูอีกที... ป้ายชื่อผม!!!” เขากระแทกเสียงดัง หยิบแผ่นแท็กป้ายชื่อกระเป๋าออกมาให้เธอเห็น มันช่างชัดเจนเต็มสองลูกตา“ไม่ใช่... นี่ไง” เสียงตะคอกแย้งกลับ เธอยื้อกระเป๋ามาแล้วพลิกแผ่นสติกเกอร์แท็กบาร์โค้ดคล้องหูกระเป๋ามาจากสนามบินต้นทางให้เขาดู เขาคิ้วขมวด ในใจนึก มันเรื่องบ้าบอ!!! อะไรกันว่ะ… “เอางี้... เปิดกระเป๋าเลยดีกว่า!!!” เขาทำหน้าไม่พอใจ อะไรของยัยคนนี้ ...ซุ่มซ่าม เมื่อกี้วิ่งตามมาตะโกนเรียก...เฮ้ย เฮ้ย ดังลั่นจนคนมองกันทั่ว แถมดันสะดุดขาตัวเองเกือบล้ม ดึงเสื้อเขา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status