แชร์

บทที่ 6 : ลึกๆ ก็แอบห่วง

ผู้เขียน: แสงลลิณ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-17 20:06:53

พรนลัทเดินออกมาสงบสติอารมณ์คุกรุ่นของตัวเอง จนกระทั่งรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาเธอจึงแบมือออกมาดูก็พบว่าฝ่ามือเล็กมีรอยเหมือนเศษแก้วบาดเป็นแผลทางยาว แต่ไม่ได้ลึกมากขนาดต้องเย็บ คงเป็นเศษแก้วที่ตกลงมาแตกแล้วกระเด็นมาโดนมือเธอตอนที่ล้ม

หญิงสาวมารู้สึกเจ็บเมื่อเห็นบาดแผล อาจเป็นเพราะตอนนั้นเธอทั้งโมโหทั้งโกรธบวกกับแผลยังคงชาจนลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ เธอจึงเดินไปที่ก๊อกน้ำแล้วทำการล้างแผลและพันด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก จากนั้นก็เดินกลับไปยังห้องเรือนประชาสัมพันธ์

เธอสวนกับร่างสูงของเจ้าของปางช้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดวงตาสองคู่ต่างอารมณ์ จ้องกันนิ่งอย่างไม่มีใครยอมหลบ ฝ่ายหนึ่งรู้สึกผิดที่พูดจารุนแรง อีกคนก็เฉยเมยและยอมเป็นฝ่ายเมินหน้าหนี พรนลัทจึงไม่เห็นดวงตาคมเข้มก้มลงไปมองมือเล็กที่มีผ้าเช็ดหน้าพันเอาไว้อยู่ชั่วครู่ แล้วทำท่าจะเอ่ยถามอะไรสักอย่าง หากแต่คนตัวเล็กเลือกที่จะเดินไปหาสาวน้อยคนสนิทอย่างรวดเร็ว

จากนั้นบรรยากาศการทำงานในปางช้างก็ขมุกขมัวราวกับจะมีพายุโหมกระหน่ำอย่างไรอย่างนั้น เจ้านายหนุ่มมีสีหน้าเรียบตึงไปร่วมทำงานกับคนงานที่ท้ายปางช้าง ส่วนพรนลัทกลับเข้าไปทำงานของตัวเองในห้องสอนศิลปะเงียบๆ โดยไม่พูดไม่จากับใครอีกเลย

จวบจนเวลาห้าโมงเย็นได้เวลากลับบ้าน หญิงสาวไปรอขึ้นรถกลับบ้านกับคนที่เธอมาด้วยเมื่อเช้านี้ บรรยากาศภายในรถนั้นเงียบมาก ไม่มีเสียงโต้เถียงเย้าแหย่กันเหมือนเช่นทุกครั้ง ผู้โดยสารสาวเอาแต่หันไปมองนอกกระจกรถไม่เหลียวแลคนขับเลยสักนิด ขณะที่หัสดินทร์สงบปากสงบคำไม่เอ่ยถามอะไรออกมาสักนิด แม้ว่าอยากจะถามใจจะขาดก็ตาม เกรงว่าคำพูดของเขาจะไปรบกวนจิตใจของเธอให้ขุ่นข้องหมองใจอีก

กระทั่งมาถึงบ้านหลังใหญ่ พรนลัทจึงเปิดประตูก้าวลงจากรถเดินเข้าบ้านด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่มีการเอื้อนเอ่ยคำใดสักนิด แล้วรีบก้าวเดินขึ้นบันไดไปยังห้องพักชั้นสองและไม่ออกมาอีกเลย ส่วนเจ้าบ้านหนุ่มก็หายเข้าไปในห้องตนเองเช่นกัน

เกือบสามทุ่มพรนลัทนอนพลิกไปพลิกมาบนเตียงอยู่หลายตลบ หลังจากที่เธอโทรไปคุยกับมารดาเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ก่อนหน้านี้เมื่อตอนหกโมงเย็นเธอลงไปกินนมกับขนมปังในครัว โดยไม่เอ่ยถามหาเจ้าบ้านหนุ่มเลยสักนิดเดียว หญิงสาวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงพลางคว้าไอแพดเครื่องบางขึ้นมา เปิดแอพพลิเคชั่นระบายสีในนั้นขึ้นมาระบายเล่น เผื่อจะช่วยให้เธอง่วงนอนเร็วขึ้น

ผ่านไปชั่วครู่ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้องนอนดังขึ้นสองถึงสามครั้ง คิ้วเรียวสวยขมวดน้อยๆด้วยความสงสัยว่าใครมาเคาะประตูตอนนี้ เธอจึงจำต้องวางไอแพดเครื่องบางลงบนโต๊ะกลมขนาดเล็กข้างหัวเตียง แล้วก้าวเดินลงจากเตียงไปเปิดประตู คิดว่าน่าจะเป็นสาวใช้คนสนิท แต่พอเห็นหน้าคนที่มายืนอยู่หน้าประตู ใบหน้าสวยใสก็บึ้งตึงขึ้นมาทันที ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห้วนเล็กน้อย

“มีธุระอะไรอีกคะ”

หากแต่แขกไม่ได้รับเชิญไม่ตอบคำถาม กลับเบียดร่างสูงในชุดนอนสีเข้มของตัวเองเข้ามาในห้อง และก้าวยาวๆไปนั่งลงบนปลายเตียงอย่างรวดเร็ว พลางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เดือดร้อนเจ้าของห้องต้องรีบก้าวตามมา พร้อมกับถามเสียงขุ่น

“คุณช้าง คุณจะเข้ามาทำไมไม่ทราบ”

“ผมมาดี มาสงบศึกโอเคไหม?” หัสดินทร์จ้องมองใบหน้าขาวใสยิ้มๆ “ขอผมดูแผลที่มือหน่อยได้ไหม”

พรนลัทพึ่งสังเกตเห็นว่าในมือของเขามีกล่องปฐมพยาบาลใบเล็กติดมาด้วย ทว่าเธอยังเคืองเรื่องเมื่อตอนกลางวันไม่หาย จึงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด

“ไม่เป็นไร แผลแค่นี้ฉันไม่เน่าตายคาบ้านคุณหรอก”

“มาเถอะน่า อย่าดื้อ”

ก่อนจะทันตั้งตัวคนที่นั่งอยู่ปลายเตียงก็ลุกพรวดขึ้นมาตะครุบข้อมือเล็ก แล้วดึงให้เธอมานั่งลงบนเตียงนอนข้างๆกัน หากแต่คนตัวเล็กยังคงดื้อดึง เธอซ่อนมือข้างที่เจ็บเอาไว้ข้างหลังไม่ยอมให้เขาทำแผลท่าเดียว

“ทิ้งกล่องยาไว้นี่แหละ เดี๋ยวฉันทำเอง”

“แผลอยู่มือขวาไม่ใช่หรอ คุณทำไม่ถนัดหรอก มาผมทำให้”

มือใหญ่คว้าข้อมือเล็กที่ซ่อนอยู่ข้างหลังออกมากางฝ่ามือตรงหน้าได้สำเร็จ หัสดินทร์เปิดกล่องยาหยิบขวดแอลกอฮอล์ออกมาเทใส่สำลีก้อนเล็ก และบรรจงเช็ดปากแผลที่เลือดซึมเล็กน้อยอย่างเบามือ เมื่อห้ามแล้วเขาไม่คิดจะฟังเธอเลย พรนลัทจึงนั่งนิ่งให้เขาทำแผลให้แต่โดยดี 

“ทำไมถึงปล่อยให้แผลเปียกน้ำ ไม่เจ็บหรอ”

เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมค่อยๆ จับปากแผลบนฝ่ามือเล็กเบาๆ พลางเงยหน้าจ้องมองคนเจ็บนิ่งๆ ทว่าเจ้าของมือข้างขวาที่เจ็บได้แต่ผลุบตามองบาดแผลของตัวเองเงียบๆ ไม่ยอมตอบคำถาม บุรุษพยาบาลจำเป็นจึงได้แต่ลอบมองใบหน้านวลใสนิ่งๆ ไม่ถามเซ้าซี้เธออีก

พอได้จ้องมองกันในระยะไม่ถึงเมตร ใบหน้าสวยหวานไร้เครื่องสำอางกับชุดนอนเสื้อยืดสีขาวพอดีตัวกับกางเกงขาสั้นเนื้อนิ่ม ประกอบกับผิวนุ่มเนียนละเอียดราวกับเด็กน้อย กลิ่นหอมอ่อนๆ กับร่างนุ่มนิ่มที่เขาได้อุ้มเมื่อคืนก่อนยังติดอยู่กับใจไม่จางหาย และดวงตาคู่สวยที่จ้องเขาเมื่อตอนกลางวันยิ่งรบกวนจิตใจของเขาจนนอนไม่หลับต้องมาหาในเวลานี้อยู่นี่ไง หรืออีกนัยลึกๆเขาก็รู้สึกห่วงอย่างบอกไม่ถูก

“โกรธผมมากใช่ไหม เรื่องวันนี้”

หัสดินทร์เอ่ยถามคำถามที่ค้างอยู่ภายในใจ เป็นจุดประสงค์ของการเข้ามาอยู่ในห้องนี้ หากแต่พรนลัทกลับเอ่ยอุบอิบออกมาเบาๆ

“ไม่ได้โกรธ”

“แล้วทำไมถึงไม่คุยด้วย ไม่ยอมลงมากินข้าวอีก แบบนี้ไม่โกรธเรียกว่าอะไรครับ งอนหรอ?”

พรนลัทเงยหน้าจ้องมองคนถามด้วยความสงสัยว่าเขาจะมาเค้นถามเธอเพื่ออะไร แต่ปากจิ้มลิ้มก็ยังไม่วายที่จะกวนอีกฝ่ายกลับ

“ฉันจะไปงอนคุณทำไม ไม่ได้พิศวาสขนาดนั้นสักหน่อย”

“แต่คุณจะน่าพิศวาสสำหรับผมมากกว่านี้ ถ้าเลิกดื้อ เลิกเถียงคอเป็นเอ็น”

หัสดินทร์เอ่ยยิ้มๆ แต่พอเห็นดวงตากลมโตเริ่มขุ่นเขียวจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง

“เมื่อกลางวันผมแค่หวังดีกับคุณเท่านั้นเอง ไม่ได้มีเจตนาจะพูดจาทำร้ายจิตใจคุณเลยสักนิด ถ้าสิ่งที่ผมทำมันไปทำให้คุณรู้สึกไม่ดี ผมขอโทษ ส่วนเรื่องของศจี ผมอยากบอกให้คุณรู้ไว้ว่า เขากับผมเราไม่ได้มีอะไร เลิกข้องเกี่ยวกันไปนานแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่คุณจะมาทำงานซะอีก”

“แต่เธอยังหวงคุณ เหมือนแม่ไก่หวงไข่ยังไงยังงั้น”

“กับศจีผมยอมรับว่าเคยทำนอกเหนือจากงาน แต่เราอยู่ในขอบเขตตามที่ตกลงกันเท่านั้นเอง พอผมยุติความสัมพันธ์จากเขา ศจีก็ไปหาผู้ชายคนอื่นๆต่ออยู่ดี”

พรนลัทหน้าแดงก่ำกับประโยคที่เขาเล่าออกมา นี่เธอต้องมาฟังเรื่องราวความหลังอันสยิวของเขาทำไมเนี่ย แล้วอีกอย่างเขาจะมาแจกแจงให้เธอฟังทำไมไม่รู้

“สรุปว่าเราไม่มีเรื่องบาดหมางกันแล้วนะ ผมว่าผมเคลียร์ชัดเจน”

คนเจ็บไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรดี ก็เขาเล่นเคลียร์ทุกอย่างที่เธอรู้สึกโกรธเคืองไปหมดแล้ว ด้านหัสดินทร์พอพันแผลตรงฝ่ามือเล็กเสร็จเป็นที่เรียบร้อย เขาเงยหน้าขึ้นมองจ้องดวงตากลมโตคู่สวยอีกครั้ง

“เอาเป็นว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นวันนี้ ผมยอมรับผิดไปคนเดียวตกลงไหม ถึงยังไงซะเรายังต้องทำงานร่วมกันอยู่ดี ถ้ามีเรื่องข้องใจกันงานของเราจะไม่ราบรื่น ผมยอมมาหาคุณ ยอมขอโทษคุณทุกอย่าง แล้วคุณล่ะจะว่ายังไง”

“ฉันไม่ได้โกรธคุณซักหน่อย ถือว่าเลิกแล้วต่อกันล่ะกัน”

“ถ้างั้นตาคุณต้องขอบคุณผมแล้วมั้ง”

หัสดินทร์เอ่ยยิ้มๆ พลางละมือออกจากฝ่ามือนุ่มนิ่มที่เขาทำแผลเสร็จเป็นที่เรียบร้อย แล้วเก็บอุปกรณ์ทำแผลใส่กล่องเสร็จสรรพ

“ขอบคุณ!? เรื่องอะไร”

“เรื่องที่ผมทำแผลให้ไง ไม่คิดจะขอบคุณกันสักนิดเลยหรอ”

“ขอบคุณ”

พรนลัทเอ่ยอุบอิบแผ่วเบาฟังแทบไม่ได้ยิน หากแต่คนรอฟังก็ยังเร่งเร้า เข้ายื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าขาวใสแล้วเอ่ยออกมา

“อะไรนะ ผมไม่ได้ยินเลย”

“ฉันบอกว่า ขอบ…อื้อ!”

ไวกว่าความคิด! ยังไม่ทันที่เธอจะเอ่ยจบประโยค มือหนาทั้งสองข้างประคองใบหน้านวลเข้ามาใกล้ จากนั้นก็ทาบทับปากหยักได้รูปลงบนแก้มนุ่มสีระเรื่อของเธออย่างว่องไว และดูเหมือนเขาจงใจแกล้งกดหนักๆฟอดใหญ่ ทำเอาคนถูกหอมแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวถึงกับนั่งนิ่งแข็งทื่อเป็นท่อนไม้ไปชั่วขณะ ไม่คิดว่าเขาจะมือไวใจเร็วขนาดนี้

“ฝันดีนะครับ”

หลังจากผละออกจากพวงแก้มนุ่ม หัสดินทร์ก็กระซิบข้างใบหูเล็กเบาๆ แล้วก้าวออกจากห้องไปทันที ทิ้งให้คนถูกขโมยหอมแก้มนั่งอึ้ง ก่อนที่เธอจะเรียกสติกลับมาพร้อมๆกับเสียงปิดประตู

“อร้ายย! อีตาบ้า หอมใครมาบ้างก็ไม่รู้ อี๋”

พรนลัทใช้หลังฝ่ามือถูแก้มตัวเองแรงๆ อย่างขุ่นเคืองให้กับคนที่ทิ้งรอยจูบ ใบหน้าสวยใสค่อยๆเห่อร้อนผะผ่าว จนต้องยกมือขึ้นมาพัดเบาๆ จนดวงหน้าแดงก่ำเพราะความเขินอาย ทว่าการกระทำของเขาก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงโครมครามแทบจะหลุดออกมาจากอก

หญิงสาวกระโดดขึ้นเตียงนอน แล้วตลบผ้าห่มหนาคลุมมิดร่าง ก่อนจะเอื้อมไปปิดโคมไฟข้างหัวเตียง และนอนลืมตาในความมืดด้วยหัวใจวาบหวามราวกับมีขนนกมาปัดผ่านกลางใจ มือเล็กอีกข้างเผลอลูบไล้ผ้าพันแผลด้วยความเผลอไผลเหมือนกับความอบอุ่นจากฝ่ามือใหญ่ยังไม่จางหาย ไม่นานคนที่คิดสะระตะอยู่ในหัวก็ค่อยๆ ผล็อยหลับเข้าสู่ห้วงนิทราไปอย่างรวดเร็ว

ด้านหัสดินทร์หลังออกจากห้องนอนของคนที่ลงทุนมาง้อก็ได้แต่แย้มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ระบายอยู่บนใบหน้าคมคาย ความหอมหวานนุ่มนิ่มที่ได้รับมันทำให้หัวใจที่แข็งกระด้างอ่อนยวบโดยไม่รู้ตัว ยิ่งได้มองใบหน้าสวยใสบางทีก็ยิ้มหวานละลาย บางทีก็บึ้งตึงแต่กลับดูน่ารักน่าทะนุถนอมกว่าผู้หญิงคนอื่นๆที่เขาเคยใกล้ชิด

ชายหนุ่มยอมรับว่านับตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอหน้ากันอีกครั้ง บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมถึงอยากอยู่ใกล้เธอ อยากกระเซ้าเย้าแหย่ แรกๆอาจจะเป็นความอยากแกล้งอยากเอาชนะเพราะความหลัง แต่ไปๆ มาๆ ดันไม่ใช่แค่นี้นี่ซิ! ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขา อารมณ์แปรปรวนควบคุมตนเองก็ไม่ค่อยได้ ใจมันร่ำอยากจะอยู่ใกล้เธอตลอด ปรารถนาอยากให้เธอมีความสุขในทุกๆวัน พาลคิดก็เผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัว

******

เช้าวันต่อมาเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ พรนลัทพาร่างเพรียวระหงในชุดเสื้อกล้ามแขนกุดสีขาวสวมทับกับเสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อนกับกางเกงยีนส์ขายาวเข้ารูปก้าวลงจากบันไดกลางบ้าน พลางหมุนคอบิดขี้เกียจไร้ความอ่อนเพลีย เธอเดินเข้ามาในห้องครัวก็พบแม่บ้านสูงวัยคนเก่าคนแก่ของครอบครัวศิลปการสกุลกำลังง่วนทำอาหารเช้าอย่างขะมักเขม้น เธอจึงเอ่ยทักทายด้วยเสียงอ่อนหวานสดใส

“มีอะไรทานบ้างคะ ป้าฟองจันทร์ กลิ่นหอมขึ้นไปถึงข้างบนเลย”

“อ้าว! คุณหนูตื่นเช้าจังคะ หิวหรือยังเอ่ย”

“ยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ค่ะ มาค่ะน้ำผึ้งช่วยดีกว่า”

“โอ๊ย ไม่เอานะคะ คุณหนูไปนั่งรอที่โต๊ะทานอาหารเถอะค่ะ เดี๋ยวป้าทำเสร็จแล้วเอาไปเสิร์ฟ” ฟองจันทร์รีบบอกด้วยสีหน้าเกรงอกเกรงใจ

“ไม่ดีกว่าค่ะ น้ำผึ้งช่วยดีกว่า น้ำผึ้งเป็นลูกมือที่เก่งกาจคนหนึ่งเลยนะคะ ให้น้ำผึ้งช่วยเถอะค่ะ”

พรนลัทออดอ้อนพร้อมเข้าไปกอดร่างอ้วนท้วมเอาไว้แน่น พลางซุกศีรษะคลอเคลียกับบ่ากว้าง ทำเอาคนเจอลูกอ้อนแบบนี้ก็ใจอ่อนระทวย ฟองจันทร์คลี่ยิ้มละมุน

“งั้นไปใส่ผ้ากันเปื้อนก่อนค่ะ เดี๋ยวชุดสวยๆจะเปื้อน”

นางทนต่อเสียงรบเร้าแสนน่ารักของคนอาสาช่วยทำอาหารเช้าไม่ไหว จึงก้มลงไปหยิบผ้ากันเปื้อนในลิ้นชักใต้เคาน์เตอร์บาร์มาสวมให้

“คุณหนูล้างต้นหอมผักชีในอ่างให้ก็พอค่ะ”

“ได้เลยค่า”

พรนลัทยิ้มแก้มปริ เธอรีบพาตัวเองไปคว้าตะกร้าผักเดินไปยังเคาน์เตอร์อ่างล้างจานอีกด้าน ขณะที่แม่ครัวใหญ่ของบ้านได้แต่คลี่ยิ้มอย่างอบอุ่น ความน่ารักสดใสของคุณหนูคนสวยทำให้นางอดที่จะเอ็นดูไม่ได้ ถึงว่าทำไมแม่เลี้ยงและพ่อเลี้ยงถึงได้รักและทะนุถนอมราวกับเป็นลูกสาวอีกคน ก่อนนางจะหันกับไปเคี่ยวน้ำซุปในหม้ออีกครั้ง

กระทั่งผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีพรนลัทต้องสะดุ้งเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงห้าวของใครบางคนทักทายแม่บ้านคนสนิท ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเป็นใคร

“ไม่ยักรู้ว่าป้าฟองจันทร์มีลูกมือคนใหม่ด้วย หวังว่าเช้านี้ผมจะไม่ท้องเสียนะครับ”

บุรุษผู้มาใหม่เอ่ยกระเซ้าแม่ครัว แต่สายตากลับจดจ้องไปที่ร่างบางที่กำลังยืนล้างผักอยู่อีกด้าน ส่วนคนที่รู้ว่าโดนเหน็บก็หันมาปรายตาส่งค้อนวงใหญ่ไปให้เขา พลางเหน็บแนมอยู่ในใจ

ตื่นมาก็เห่าปากเสียเลยเชียวนะพ่อคุณ มันน่าโรยเกลือใส่ข้าวต้มให้เข็ด!’

“หู้ย! ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะคะคุณช้าง คุณหนูอุตส่าห์ช่วยป้าทำอาหารแต่เช้า พูดแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะคะ”

หัสดินทร์ยิ้มนิ่งๆ ไม่ได้ใส่ใจประโยคต่อว่าไม่จริงจังของแม่บ้าน ก่อนจะเข้าไปโอบไหล่อวบอิ่มกับร่างตุ้ยนุ้ยอย่างเอาใจ ฟองจันทร์ได้แต่คลี่ยิ้มน้อยๆ จึงแกล้งตีแขนหนาไปหนึ่งทีอย่างมันเขี้ยว

“ไปรอที่โต๊ะได้เลยค่ะ เดี๋ยวป้าเตรียมกาแฟไปให้”

เจ้าบ้านหนุ่มพยักหน้ารับเบาๆ จากนั้นก็เดินเลี่ยงไปยืนพิงหลังกับเคาน์เตอร์บาร์ของห้องครัวข้างๆอ่างล้างจาน พลางกอดอกจ้องมองคนที่กำลังล้างผักอยู่ตรงหน้า ดวงตาคมกริบจ้องแก้มใสระเรื่อแบบจริงๆ จังๆ จงใจให้คนถูกมองรู้สึกตัว แม้พรนลัทจะทำทีเป็นไม่สนใจอีกฝ่ายก็ตาม

“ล้างจนผักช้ำหมดแล้วมั้ง โรยหน้าข้าวต้มนะครับ ไม่ใช่เอาไปปั่น”

คนโดนยั่วยวนกวนประสาทรับอรุณหันขวับไปจ้องหน้าคนพูดด้วยสายตาขุ่นๆ หญิงสาวทำอะไรไม่ได้นอกจากกัดฟันพูดเบาๆ เกรงว่าแม่บ้านจะได้ยิน

“ไม่มีอะไรจะทำหรือยังไงคุณ ถึงมาก่อกวนกันแต่เช้า ฉันไม่ได้ว่างมาต่อปากต่อคำด้วยนะ”

หัสดินทร์มองหน้ามุ่ยแสนน่ารักยิ้มๆ และจ้องดวงตากลมโตที่ส่งค้อนวงใหญ่มาให้ตาเขียวปั๊ดอย่างท้าทาย

“ผมไม่ได้ก่อกวน แค่ชวนคุยด้วยเฉยๆ”

พรนลัทยังไม่ทันได้โต้ตอบออกไป ร่างสูงใหญ่ก็โน้มตัวลงมาจูบลงบนแก้มนุ่มของเธอฟอดใหญ่ พลางกระซิบข้างใบหูเล็กเบาๆ

“หอมเหมือนกันนะเนี่ย ไม่รู้ข้าวต้มหรือว่าแก้ม”

แล้วก็รีบพาร่างสูงก้าวยาวๆออกไปจากห้องครัวอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้คนถูกขโมยหอมแก้มเบิกตายืนนิ่งงันไปหลายวินาที เพราะไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำ ในห้องครัวที่มีคนอื่นอยู่ด้วย พอตั้งสติได้เสียงหวานก็โวยวายออกมา

“อี๋! ไอ้….”

เธอร้องค้างอยู่แค่นั้น พร้อมกับกระทืบเท้าเร่าๆอยู่กับที่ ใบหน้าขาวนวลค่อยๆแดงซ่านไปทั่วใบหน้าและลำคอ ปากอิ่มอ้าพะงาบๆกำลังจะเค้นคำด่าออกมา ทว่าแม่บ้านรีบผละจากเตาหันมาหาด้วยความเป็นห่วง

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะคุณหนู เกิดอะไรขึ้นคะ”

พรนลัทชะงักไปเล็กน้อย หันไปมองแม่บ้านที่กำลังจ้องท่าทางของเธอด้วยความสงสัยระคนแปลกใจ หญิงสาวจึงได้แต่ยิ้มจืดเจื่อนส่งให้ฟองจันทร์

“ไอ้…หนอนค่ะ หนอนอยู่ที่ใบผักชี”

นิ้วชี้เรียวเล็กชี้ไปที่อ่างล้างผัก พร้อมกับแก้ตัวน้ำขุ่นๆ แล้วรีบหันไปหยิบผักที่ล้างเสร็จแล้วใส่ตะกร้าทันที ฟองจันทร์จึงแย่งตะกร้าผักออกจากมือเล็ก แล้วรั้งร่างบางให้ออกห่างจากอ่างล้างจาน

“ถ้าเสร็จแล้ว คุณหนูไปเตรียมทานอาหารเช้าเถอะค่ะ ที่เหลือเดี๋ยวป้าทำเอง คุณช้างจะได้มีเพื่อนร่วมโต๊ะนะคะ ไปเถอะค่ะ แค่นี้ช่วยป้าเยอะแล้ว”

พรนลัทคลี่ยิ้มแห้ง ถ้าให้เธอออกไปร่วมโต๊ะกับอีตาบ้าตอนนี้ รับรองได้ว่าไม่ปลอดภัยอย่างแน่นอน ก่อนจะนึกไอเดียบางอย่างแว็บเข้ามาในหัวอะไรขึ้นมาได้

“งั้นน้ำผึ้งยกกาแฟไปให้คุณช้างดีไหมคะ ป้าฟองจันทร์จะได้ไม่เหนื่อย”

“เอางั้นก็ได้ค่ะ ป้าชงเสร็จเรียบร้อยพอดี”

นางฟองจันทร์จึงหันไปหยิบถาดที่บรรจุถ้วยกาแฟใส่มือเล็กให้เรียบร้อย เธอจึงรับมาพร้อมกับแย้มยิ้มหูตาแพรวพราว พอจังหวะที่ป้าแม่บ้านหันไปสนใจอาหารบนเตา เธอก็เอื้อมไปหยิบกระปุกเกลือเทลงไปอย่างเต็มที่ จากนั้นก็รีบยกออกไปยังห้องอาหาร

พอเดินมาถึงห้องอาหารก็เห็นร่างสูงสง่านั่งรออยู่แล้ว พรนลัทจึงคลี่ยิ้มหวานเยิ้มให้กับเป้าหมายของเธอ ก่อนจะบรรจงวางถ้วยกาแฟให้กับเขาตรงหน้า แล้วทรุดนั่งเก้าอี้ตัวฝั่งตรงข้าม พลางเอื้อมไปหยิบขนมปังขึ้นมาทาแยม หากแต่สายตาก็คอยเหลือบมองอยู่เรื่อยๆ

“เช้านี้แปลกๆนะ คุณน้ำผึ้งอุตส่าห์ถือแก้วกาแฟมาให้ผมด้วยตัวเอง”

“ทำไมล่ะ ก็ฉันช่วยป้าฟองจันทร์ไง”

พรนลัทหันไปตอบเสียงขุ่น จะแปลกหรือไม่แปลกเดี๋ยวก็รู้ เธอภาวนาให้เขายกแก้วกาแฟนั้นขึ้นดื่มสักที และดูเหมือนพระเจ้าจะรับคำขอของเธอ ชายหนุ่มยกแก้วกาแฟขึ้นจิบไปเสียอึกใหญ่ แล้วพ่นพรวดออกมาแทบไม่ทัน เขากระแทกแก้วกาแฟลงบนโต๊ะเสียงดัง และหันไปคว้าแก้วน้ำเปล่าขึ้นมาดื่มจนหมดแก้ว ท่ามกลางเสียงหัวเราะสดใสของผู้ร่วมโต๊ะ

หัสดินทร์ส่งสายตาพิฆาตไปให้คนที่นั่งฝั่งตรงข้าม ไอ้ท่าทางสนุกสนานหัวเราะชอบใจแบบนี้ก็ไม่ต้องสืบว่ารสชาติกาแฟที่เค็มจนขมปี๋ถ้วยนี้ฝีมือใคร คนเสียรู้คว้าทิชชูขึ้นมาเช็ดปากอย่างหัวเสีย ก่อนจะลุกขึ้นตวาดเรียกชื่อคนตรงหน้าเสียงดังลั่น

“น้ำผึ้ง!”

คนตัวเล็กลุกขึ้นยืนประจันหน้าอย่างไม่เกรงกลัว แถมยังฉีกยิ้มหวานพูดจาเย้าแหย่ยั่วโมโหเขาเข้าไปอีก

“ขา กาแฟอร่อยจนต้องเรียกชื่อกันเสียงดังขนาดนี้เลยหรอคะ”

พรนลัทได้ทีเอาคืนหัวเราะเสียงใสดีใจที่เอาคืนสำเร็จ ก่อนที่ทั้งคู่จะได้ห้ำหั่นกันด้วยวาจากันต่อ แม่ครัวใหญ่ที่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายก็รีบเดินออกจากห้องครัวมายังห้องอาหารด้วยความเป็นห่วง

“เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมกาแฟหกแบบนี้ล่ะคะ”

คนก่อเรื่องเริ่มหน้าถอดสีกลัวว่าคนที่เธอกลั่นแกล้งไปจะรายงานเรื่องที่เธอก่อได้ ขณะที่หัสดินทร์จ้องใบหน้างามที่ค่อยๆซีดเผือดอยู่ชั่วครู่ แล้วเป็นฝ่ายเอ่ยกับป้าแม่บ้านด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

“มือผมไปปัดถ้วยหกน่ะครับ ถ้ายังไงป้าฟองจันทร์เก็บโต๊ะได้เลย ผมขอตัวก่อน”

บอกกับแม่บ้านร่างอวบอิ่มเสร็จก็หันมาส่งสายตาคาดโทษแม่ตัวแสบที่ยืนอยู่อีกฝั่ง ก่อนจะโน้มใบหน้าคมคายเข้าไปกระซิบข้างใบหูเล็กของคนที่ก้มหน้างุดด้วยน้ำเสียงเข้มๆ

“ไว้ผมจะชำระแค้นทบต้นทบดอกเลยคอยดู”

คนถูกคาดโทษรู้สึกร้อนๆหนาวๆ กับคำขู่นั้นอย่างบอกไม่ถูก เธอมองตามร่างสูงใหญ่ออกไปจากห้องอาหารจนลับตา ก่อนจะได้ยินเสียงบ่นไม่จริงจังของแม่บ้าน

“คุณช้างไม่เคยซุ่มซ่ามขนาดนี้เลย ไม่รู้ทำไมถึงได้ทำเลอะเทอะแบบนี้”

“น้ำผึ้งช่วยเก็บไหมคะ ป้าฟองจันทร์”

“ไม่เป็นไรค่ะ คุณหนูไปพักเถอะ ป้าทำได้”

พรนลัทได้แต่ยืนมองคุณป้าฟองจันทร์วุ่นวายอยู่กับการเก็บโต๊ะอาหาร ด้วยสีหน้าหงอยๆ รู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเอง

ทางด้านหัสดินทร์เมื่อก้าวมาขึ้นรถของตัวเองได้แต่ส่ายหัวให้กับความแสบสันของคนตัวเล็ก ที่เขาพลาดท่าเสียทีให้เธอจนได้ ถึงว่ารอยยิ้มหวานเยิ้มแปลกๆที่มอบให้จริงๆแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ไว้นี่เอง

คอยดูนะ ผมจะเอาคืนให้สาสม!

แต่ที่น่าแปลกคือเขาไม่ได้รู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอย่างที่ควรจะเป็น ยิ่งพอเห็นหน้าตื่นๆ เวลาโดนข่มขู่มันน่ามองไปหมด อาจเป็นเพราะเขากำลังรู้สึกดีๆกับเธออย่างบอกไม่ถูก คิดได้แบบนั้นรอยยิ้มน้อยๆก็ปรากฏขึ้น ก่อนชายหนุ่มจะตัดสินใจขับรถออกจากบ้านไปทันที

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 7 : เจ้าไข่ตุ๋น

    ช่วงสี่โมงเย็น พรนลัทชวนสาลี่ปั่นจักรยานลัดเลาะไปทางซอยด้านหลังของบ้าน ที่สามารถขี่เลาะทางลูกรังเล็กๆไปถึงปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลได้ ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นสนสามใบเรียงรายเขียวขจี ทำให้พอมีร่มเงาไม่ร้อนจนเกินไป บวกกับอากาศช่วงหน้าฝนที่เชียงใหม่ค่อนข้างจะชุ่มชื้นไม่ได้แห้งแล้งสองสาวพากันเข้ามาจอดจักรยานพิงต้นไม้ใหญ่ จากนั้นก็พากันเดินชมธรรมชาติในปางช้าง เนื่องจากตั้งแต่พรนลัทเริ่มทำงานก็ยังไม่ได้มาทัวร์ที่นี่ให้รอบเลย เธอจึงไหว้วานให้สาลี่เป็นไกด์กิตติมศักดิ์ในวันนี้ หญิงสาวตื่นตาตื่นใจกับบ้านพักโซนรีสอร์ทมาก บ้านพักทั้งสิบหลังถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขาทั้งสี่ด้าน เสมือนบ้านอยู่ตรงกลางท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามโครงสร้างทั้งหมดทำมาจากไม้ การออกแบบคล้ายกระท่อมเล็กๆในป่าใหญ่ ค่อนข้างแข็งแรง ด้านหน้ามีระเบียงเปิดโล่งยื่นออกมา ส่วนด้านหลังก็ติดกับลำธารขนาดเล็กที่น้ำไหลมาจากเทือกเขา ทุกเช้าจะมีบรรดาช้างออกมาเดินตรงลานหญ้ามารับกล้วยและผลไม้อื่นๆที่นักท่องเที่ยวอยากให้อาหาร ยิ่งเป็นจุดเด่นทำให้สถานที่แห่งนี้มีเอกลักษณ์ จนนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมาไม่ขาดสาย ถึงขนาดต้องจองห้องพักกันข้ามปีเลยทีเด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 8 : จิงโจ้ออสเตรเลีย ปะทะ ช้างแมมมอธป่า

    รถคันใหญ่เคลื่อนตัวเข้ามาจอดในโรงจอดรถของบ้าน หัวคิ้วเข้มของหัสดินทร์ต้องขมวดเป็นปมด้วยความสงสัย เมื่อสายตาคมของเขาสบเข้ากับรถสปอร์ตคันหรูจอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน บ่งบอกว่ามีแขกมาบ้านของเขาอย่างแน่นอน สองหนุ่มสาวเดินเคียงคู่กันเข้ามายังห้องโถงกลางบ้านก็ต้องได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกของบุพการีและแขกออกรสออกชาติอย่างสนุกสนานในห้องรับแขกขนาดใหญ่ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อโปโลคอปกสีเข้มกับกางเกงขาสั้นพอดีเข่าสีครีมกำลังนั่งจ้อกับแม่เลี้ยงสรณ์สิริ และพ่อเลี้ยงหิรัญ ชายหนุ่มหันหน้ามาทางประตูของห้องรับแขก ดวงตาของเขาสบเข้ากับสองร่างต่างไซส์เดินเคียงกันเข้ามา เขาก็รีบลุกขึ้นมาพร้อมกับแย้มยิ้มกว้างและเดินมากอดคอหัสดินทร์“มาทำไมวะ บ้านไม่มีอยู่หรือไง”“มีอยู่เว้ย แต่ไม่มีวิวสวยๆให้ดูแบบนี้ สวยด้วยเด็กด้วย โคตรแจ่ม”‘จิรสิน’ หรือ ‘จิงโจ้’ ลูกพี่ลูกน้องของหัสดินทร์ เขาชอบให้เรียกว่า ‘โจ้’ มากกว่า เอ่ยกระซิบข้างใบหูของคนมีศักดิ์เป็นพี่ที่ห่างกันแค่หนึ่งปี ตัวเองก็เลยปีนเกลียวทำเป็นรุ่นเดียวกัน น้ำเสียงกระเซ้าเย้าแหย่ พลางเหล่ไปมองร่างเล็กใบหน้าสวยหวานที่ยืนข้างๆ ด้วยความสนใจ“อย่ามาปากดี ไอ้เวรโจ้ สาระแน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 9 : ฤทธิ์แม่ตัวแสบ

    ร่างอรชรในชุดเสื้อยืดสีดำพอดีตัวกับกางเกงผ้าฝ้ายขาสั้นสีน้ำตาลอ่อนกำลังนั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้หวายลักษณะคล้ายตัวเล็กภายในห้องสอนศิลปะ วันนี้ไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรมากมาย อาจเพราะเป็นวันธรรมดานักท่องเที่ยวจึงจะน้อยกว่า วันเสาร์-อาทิตย์ พรนลัทกำลังก้มหน้าก้มตาขีดๆเขียนๆ บนไอแพดเครื่องบางอย่างสบายอารมณ์เนื่องจากหญิงสาวได้ออกแบบลายกระเป๋าผ้าสำหรับวางสินค้าขายในปางช้าง โดยมีตัวแบบแสนน่ารักอย่างเจ้าไข่ตุ๋น แถมยังได้คนงานผู้หญิงในปางช้างมาคอยช่วยเย็บปักลวดลายเล็กๆน้อยๆ อีกด้วย เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับคนงาน โดยกระเป๋าผ้าลายน่ารักๆ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวรวมไปถึงแม่เลี้ยงสรณ์สิริที่นำกระเป๋าผ้าใบต้นแบบไปอวดให้กับบรรดาคุณหญิงคุณนายในมูลนิธิช่วยเด็กยากไร้ จนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีแต่คนหลั่งไหลเข้ามาสั่งไม่ขาดสาย เธอจึงคิดว่ารายได้ทั้งหมดหักค่าแรงให้คนงานแล้วที่เหลือก็จะมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กที่ขัดสนทุนทรัพย์ในมูลนิธิของแม่เลี้ยงอีกด้วยพรนลัทค่อยๆ บิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยขบของร่างกายที่นั่งทำงานมาเป็นเวลานาน ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นนาฬิกาบนฝาผนังบ่งบอกเวลาสี่โมงเย็น ซึ่งเธอได้นัดแนะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 10 : ความรู้สึกเล็กๆเริ่มก่อตัว

    พรนลัทมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อถูกปล่อยลงให้ยืนในห้องน้ำกว้าง นั่นแหละเลยทำให้เธอรู้ว่าตอนนี้กำลังอยู่ในเรือนเล็กของเจ้าของปางช้าง ยังไม่ทันที่เธอจะจับต้นชนปลายได้ถูก เสียงกดล็อกประตูห้องน้ำก็ทำเอาเธอสะดุ้งตกใจ พอหันกลับไปมองคนที่ล็อกประตูก็ต้องเบิกตาโต เมื่อเขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกทั้งแถวแล้วถอดออกจากตัวเหวี่ยงทิ้งไปที่ตะกร้ามุมหนึ่งของห้องน้ำ คนตัวเล็กต้องรีบหันหลังซ่อนใบหน้าแดงแจ๋ไปทางผนังห้องน้ำ‘แล้วเป็นบ้าอะไรเนี่ย มาแก้ผ้าต่อหน้าทำไม!’คนหน้าแดงค่อนขอดอยู่ภายในใจ ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะเอื้อนเอ่ยออกไป ร่างสูงใหญ่ที่ตอนนี้เหลือเพียงผ้าขนหนูพันกายท่อนล่าง ก็ก้าวมายันฝ่ามือกับผนังห้องน้ำข้างหัวไหล่มนทั้งสองด้าน เพื่อกักร่างบางไว้ในวงแขน พรนลัทจึงหันกลับมาทำสีหน้าแตกตื่น พลางถอยหลังเบียดไปกับผนังห้องน้ำ นี่ถ้าเธอล่องหนหายไปได้เธอคงทำไปแล้ว“ทะ…ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย ฉันไม่เล่นนะ!”“ใครว่าผมเล่น ผมจะอาบน้ำต่างหาก”“ก็อาบไปสิ จะให้ฉันมาอยู่ตรงนี้ทำไมล่ะ”คนตัวเล็กช้อนตาขึ้นมองพร้อมกับเถียงคอเป็นเอ็นอย่างไม่ลดละ แถมยังทำหน้ายับยุ่ง จนคนมองได้แต่กระตุกยิ้มร้ายที่มุมปากพาลนึกในใจ‘แสบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทนำ : โดนพักงาน เลยต้องพักใจ

    เวลาเก้าโมงตรง…ณ ห้องประชุมใหญ่ของสตูดิโอ Artis One หลังจบการประชุมคัดเลือกตัวแทนเข้าร่วมโปรเจกต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับรังสรรค์ตัวละครในเกมยอดนิยม ‘Siam’s arena of valor’ หรือที่รู้จักกันในนาม ‘SAV’ เป็นเกมส์แนวโมบาย มีภารกิจต่างๆให้ปกป้องมรดกของไทยอีกทั้งงานนี้ยังได้รับความร่วมมือจากกระทรวงการท่องเที่ยว และผู้พัฒนาเกม ให้ทางสตูดิโออาร์ทติสวันช่วยออกแบบตัวละคร และภาพประกอบในฉาก ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่ค่อนข้างใหญ่และสำคัญเป็นอย่างมากทว่า…ดันไม่ใช่เจ้าของผลงานที่แท้จริงอย่าง ‘พรนลัท เลิศรัตนชัย’ สาวสวยหน้าหวานวัยยี่สิบสี่ปี ดีกรีมือนักวาดภาพตัวประกอบและฉากมือหนึ่งของสตูดิโอ นอกจากมีใบหน้าสวยถูกตาต้องใจหนุ่มๆหลายคนแล้ว เธอยังมีพรสวรรค์ในงานศิลปะเป็นเลิศเรียกว่าเก่งกาจหาตัวจับยากแต่เธอกลับโดนขโมยผลงานไปเป็นของ ‘มธุริน’ เด็กเส้นหลานสาวของท่านประธานเจ้าของสตูดิโอแห่งนี้ ลอกเลียนแบบตัวละครที่เธอออกแบบไปทั้งหมดแล้วดัดแปลงไปเป็นผลงานของตัวเองอย่างหน้าตาเฉย แถมยังนำผลงานไปเสนอให้กับลูกค้าเป็นการส่วนตัว เลยทำให้หล่อนได้เป็นตัวเต็งสำหรับงานในครั้งนี้ไปไม่นานพอคล้อยหลังผู้เข้าประชุมที่ต่างเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 1 : ว่าที่ครูศิลปะคนใหม่

    เทอร์เรสกว้างที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสาบและสวนดอกไม้ เป็นมุมโปรดปราณของแม่เลี้ยง ‘สรณ์สิริ’ ซึ่งชอบออกมานั่งเล่นบนเก้าอี้หวายตัวใหญ่ พร้อมกับจิบชาร้อนชื่นชมธรรมชาติ วันนี้ก็เช่นกันต่างตรงที่มีสามีอย่างพ่อเลี้ยง ‘หิรัญ’ วัยหกสิบตอนปลายกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ธุรกิจอยู่ใกล้ๆทั้งคู่สร้างอาณาจักรปางช้าง ‘สรศิลป์ เนเชอรัล’ ขึ้นมาโด่งดังจนมีบรรดานักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติพากันมาเที่ยวชม บ้างก็มาพักที่รีสอร์ทที่นี่เพื่อใกล้ชิดช้างและธรรมชาติ อีกอย่างการจัดการของปางช้างจะเป็นแนวเชิงอนุรักษ์ โดยมีช้างที่เคยปลดระวางจากการลากซุง เร่ร่อน ซึ่งแม่เลี้ยงสรณ์สิริก็รับเข้ามาดูแลไม่ต่ำกว่าสี่สิบถึงห้าสิบตัวนอกจากจะมีแค่ปางช้างแล้ว ประกอบกับความคิดทางธุรกิจของลูกชายและสามีช่วยกันพัฒนาจนปางช้างไม่ได้เป็นแค่สถานที่มาป้อนอาหารสัตว์ใหญ่เท่านั้น ยังมีจัดกิจกรรมทำค่ายให้คนที่สนใจมาเข้าพักที่รีสอร์ทไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ โดยกิจกรรมส่วนใหญ่ที่ทำร่วมกัน คือพาช้างอาบน้ำ เล่นน้ำกับช้าง หรือนั่งบนเสลี่ยงชมธรรมชาติ จวบจนทำการแสดงศิลปะจากช้าง ถือว่าเป็นธุรกิจปางช้างที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียง เป็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 2 : ชนวนเหตุเสียวหู

    ร่างสูงผอมสมส่วนในวัยยี่สิบปีเดินออกมาหามุมคุยโทรศัพท์ เนื่องจากมีสายเข้าจากเพื่อนคนสนิทในมหาวิทยาลัยโทรมาพูดคุยเรื่องงานที่ต้องทำส่งอาจารย์ ชายหนุ่มเดินถือโทรศัพท์มือถือลัดเลาะไปตามคันร่องสวนมะม่วงและชมพู่ ซึ่งวันนี้ครอบครัวของหัสดินทร์แวะเวียนมาเยี่ยมทิพย์อาภาที่บ้านสวนจังหวัดนนทบุรีทว่าจังหวะที่หัสดินทร์กำลังลอดซุ้มต้นชมพู่ขนาดใหญ่ ซึ่งมีกิ่งก้านแผ่ไพศาลให้ร่มเงาแก่ทางเดินที่เขากำลังเดินผ่าน ก็มีอะไรบางอย่างหล่นตุ้บลงมาตรงหน้า เฉียดศีรษะของเขาไปหวุดหวิด พร้อมกับเสียงเล็กตะโกนร้องบอกเสียงดังลั่น“เฮ้ย! มดแดง”คนตัวโตกว่าก้มมองลงไปก็เห็นเป็นรังมดแดงถูกห่อหุ้มด้วยใบของต้นชมพู่ จากขนาดรังใหญ่พอสมควรตกอยู่ตรงหน้าเท้าของเขา ถ้าชายหนุ่มเดินเร็วกว่านี้อีกนิด รับรองได้ว่าเจ้ามดแดงได้เข้าไปทำรังรุมกัดเขาทั้งตัวเป็นแน่หัสดินทร์จึงก้มไปหยิบกิ่งไม้มาเขี่ยรังมดแดงไปไว้อีกด้านของคันร่องสวน แล้วก็เงยหน้าขึ้นไปมองสาเหตุที่แท้จริงของรังมดแดงที่อยู่ตรงปลายเท้า ดูก็รู้ว่าไม่ได้ร่วงจากต้นแบบปกติธรรมดาอย่างแน่นอนเด็กผู้หญิงผมเปียใบหน้าและตามเสื้อผ้ามอมแมมไปด้วยคราบโคลน ดูจากตัวแล้วอายุอานามคงเป็นน้อง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 3 : แค่เห็นก็เหม็นขี้หน้า

    ร่างสูงใหญ่สวมเสื้อกล้ามสีดำทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นสวมกางเกงยีนส์ตัวเก่งสีซีดพาตัวเองมายังโรงจอดรถขนาดใหญ่ เป็นจังหวะเดียวกันกับลูกน้องคนสนิทขี่ซาเล้งพ่วงข้างเลี้ยวเข้ามายังบริเวณที่เขากำลังยืนอยู่ ชายหนุ่มจึงโบกมือเรียกดัก ทำเอาเจ้าชงนมถึงกับเบรกรถหน้าแทบทิ่ม “มีอะไรหรือเปล่าครับนาย”“มึงจะไปไหนไอ้ชงนม”“ผมเอาผักปรังกับใบส้มป่อยมาให้แม่เลี้ยงครับ เห็นว่าวันมะรืนนายแม่จะให้ป้าฟองจันทร์ทำแกงโฮะต้อนรับคุณครูน้ำผึ้งครับ”ชงนมเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่ม แล้วคลี่ยิ้มกว้างอวดทั้งฟันทั้งเหงือกให้คนเป็นนายได้ยล ดูท่าแม่ของเขาจะเตรียมอาหารไว้เป็นอย่างดี คงคิดว่าหลังกลับมาจากลำปางจะต้อนรับหลานสาวแบบจัดเต็มซิท่า ก่อนชายหนุ่มจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“วันนี้แม่ให้มึงไปรับน้ำผึ้งใช่ไหม”“ใช่ครับ นายช้างมีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่า”“เปล่า แต่กูจะเป็นคนไปรับเอง แล้วก็ยืมรถมึงด้วย”คนเป็นเจ้านายแจ้งความประสงค์ เล่นเอาลูกน้องคนสนิทอ้าปากหวอ อดที่จะทำหน้าสงสัยไม่ได้“ห๊ะ! ไปรับเอง แล้วจะยืมไอ้แก่ขาเฟี้ยวของผมไปด้วยเนี่ยนะครับ รถในบ้าน…”ยังไม่ทันที่ชงนมจะพูดจบ ดวงตาคมกริบของคนเป็นนายปรายตามามอง ก็ทำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17

บทล่าสุด

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 10 : ความรู้สึกเล็กๆเริ่มก่อตัว

    พรนลัทมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อถูกปล่อยลงให้ยืนในห้องน้ำกว้าง นั่นแหละเลยทำให้เธอรู้ว่าตอนนี้กำลังอยู่ในเรือนเล็กของเจ้าของปางช้าง ยังไม่ทันที่เธอจะจับต้นชนปลายได้ถูก เสียงกดล็อกประตูห้องน้ำก็ทำเอาเธอสะดุ้งตกใจ พอหันกลับไปมองคนที่ล็อกประตูก็ต้องเบิกตาโต เมื่อเขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกทั้งแถวแล้วถอดออกจากตัวเหวี่ยงทิ้งไปที่ตะกร้ามุมหนึ่งของห้องน้ำ คนตัวเล็กต้องรีบหันหลังซ่อนใบหน้าแดงแจ๋ไปทางผนังห้องน้ำ‘แล้วเป็นบ้าอะไรเนี่ย มาแก้ผ้าต่อหน้าทำไม!’คนหน้าแดงค่อนขอดอยู่ภายในใจ ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะเอื้อนเอ่ยออกไป ร่างสูงใหญ่ที่ตอนนี้เหลือเพียงผ้าขนหนูพันกายท่อนล่าง ก็ก้าวมายันฝ่ามือกับผนังห้องน้ำข้างหัวไหล่มนทั้งสองด้าน เพื่อกักร่างบางไว้ในวงแขน พรนลัทจึงหันกลับมาทำสีหน้าแตกตื่น พลางถอยหลังเบียดไปกับผนังห้องน้ำ นี่ถ้าเธอล่องหนหายไปได้เธอคงทำไปแล้ว“ทะ…ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย ฉันไม่เล่นนะ!”“ใครว่าผมเล่น ผมจะอาบน้ำต่างหาก”“ก็อาบไปสิ จะให้ฉันมาอยู่ตรงนี้ทำไมล่ะ”คนตัวเล็กช้อนตาขึ้นมองพร้อมกับเถียงคอเป็นเอ็นอย่างไม่ลดละ แถมยังทำหน้ายับยุ่ง จนคนมองได้แต่กระตุกยิ้มร้ายที่มุมปากพาลนึกในใจ‘แสบ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 9 : ฤทธิ์แม่ตัวแสบ

    ร่างอรชรในชุดเสื้อยืดสีดำพอดีตัวกับกางเกงผ้าฝ้ายขาสั้นสีน้ำตาลอ่อนกำลังนั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้หวายลักษณะคล้ายตัวเล็กภายในห้องสอนศิลปะ วันนี้ไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรมากมาย อาจเพราะเป็นวันธรรมดานักท่องเที่ยวจึงจะน้อยกว่า วันเสาร์-อาทิตย์ พรนลัทกำลังก้มหน้าก้มตาขีดๆเขียนๆ บนไอแพดเครื่องบางอย่างสบายอารมณ์เนื่องจากหญิงสาวได้ออกแบบลายกระเป๋าผ้าสำหรับวางสินค้าขายในปางช้าง โดยมีตัวแบบแสนน่ารักอย่างเจ้าไข่ตุ๋น แถมยังได้คนงานผู้หญิงในปางช้างมาคอยช่วยเย็บปักลวดลายเล็กๆน้อยๆ อีกด้วย เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับคนงาน โดยกระเป๋าผ้าลายน่ารักๆ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวรวมไปถึงแม่เลี้ยงสรณ์สิริที่นำกระเป๋าผ้าใบต้นแบบไปอวดให้กับบรรดาคุณหญิงคุณนายในมูลนิธิช่วยเด็กยากไร้ จนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีแต่คนหลั่งไหลเข้ามาสั่งไม่ขาดสาย เธอจึงคิดว่ารายได้ทั้งหมดหักค่าแรงให้คนงานแล้วที่เหลือก็จะมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กที่ขัดสนทุนทรัพย์ในมูลนิธิของแม่เลี้ยงอีกด้วยพรนลัทค่อยๆ บิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยขบของร่างกายที่นั่งทำงานมาเป็นเวลานาน ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นนาฬิกาบนฝาผนังบ่งบอกเวลาสี่โมงเย็น ซึ่งเธอได้นัดแนะ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 8 : จิงโจ้ออสเตรเลีย ปะทะ ช้างแมมมอธป่า

    รถคันใหญ่เคลื่อนตัวเข้ามาจอดในโรงจอดรถของบ้าน หัวคิ้วเข้มของหัสดินทร์ต้องขมวดเป็นปมด้วยความสงสัย เมื่อสายตาคมของเขาสบเข้ากับรถสปอร์ตคันหรูจอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน บ่งบอกว่ามีแขกมาบ้านของเขาอย่างแน่นอน สองหนุ่มสาวเดินเคียงคู่กันเข้ามายังห้องโถงกลางบ้านก็ต้องได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกของบุพการีและแขกออกรสออกชาติอย่างสนุกสนานในห้องรับแขกขนาดใหญ่ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อโปโลคอปกสีเข้มกับกางเกงขาสั้นพอดีเข่าสีครีมกำลังนั่งจ้อกับแม่เลี้ยงสรณ์สิริ และพ่อเลี้ยงหิรัญ ชายหนุ่มหันหน้ามาทางประตูของห้องรับแขก ดวงตาของเขาสบเข้ากับสองร่างต่างไซส์เดินเคียงกันเข้ามา เขาก็รีบลุกขึ้นมาพร้อมกับแย้มยิ้มกว้างและเดินมากอดคอหัสดินทร์“มาทำไมวะ บ้านไม่มีอยู่หรือไง”“มีอยู่เว้ย แต่ไม่มีวิวสวยๆให้ดูแบบนี้ สวยด้วยเด็กด้วย โคตรแจ่ม”‘จิรสิน’ หรือ ‘จิงโจ้’ ลูกพี่ลูกน้องของหัสดินทร์ เขาชอบให้เรียกว่า ‘โจ้’ มากกว่า เอ่ยกระซิบข้างใบหูของคนมีศักดิ์เป็นพี่ที่ห่างกันแค่หนึ่งปี ตัวเองก็เลยปีนเกลียวทำเป็นรุ่นเดียวกัน น้ำเสียงกระเซ้าเย้าแหย่ พลางเหล่ไปมองร่างเล็กใบหน้าสวยหวานที่ยืนข้างๆ ด้วยความสนใจ“อย่ามาปากดี ไอ้เวรโจ้ สาระแน

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 7 : เจ้าไข่ตุ๋น

    ช่วงสี่โมงเย็น พรนลัทชวนสาลี่ปั่นจักรยานลัดเลาะไปทางซอยด้านหลังของบ้าน ที่สามารถขี่เลาะทางลูกรังเล็กๆไปถึงปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลได้ ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นสนสามใบเรียงรายเขียวขจี ทำให้พอมีร่มเงาไม่ร้อนจนเกินไป บวกกับอากาศช่วงหน้าฝนที่เชียงใหม่ค่อนข้างจะชุ่มชื้นไม่ได้แห้งแล้งสองสาวพากันเข้ามาจอดจักรยานพิงต้นไม้ใหญ่ จากนั้นก็พากันเดินชมธรรมชาติในปางช้าง เนื่องจากตั้งแต่พรนลัทเริ่มทำงานก็ยังไม่ได้มาทัวร์ที่นี่ให้รอบเลย เธอจึงไหว้วานให้สาลี่เป็นไกด์กิตติมศักดิ์ในวันนี้ หญิงสาวตื่นตาตื่นใจกับบ้านพักโซนรีสอร์ทมาก บ้านพักทั้งสิบหลังถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขาทั้งสี่ด้าน เสมือนบ้านอยู่ตรงกลางท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามโครงสร้างทั้งหมดทำมาจากไม้ การออกแบบคล้ายกระท่อมเล็กๆในป่าใหญ่ ค่อนข้างแข็งแรง ด้านหน้ามีระเบียงเปิดโล่งยื่นออกมา ส่วนด้านหลังก็ติดกับลำธารขนาดเล็กที่น้ำไหลมาจากเทือกเขา ทุกเช้าจะมีบรรดาช้างออกมาเดินตรงลานหญ้ามารับกล้วยและผลไม้อื่นๆที่นักท่องเที่ยวอยากให้อาหาร ยิ่งเป็นจุดเด่นทำให้สถานที่แห่งนี้มีเอกลักษณ์ จนนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมาไม่ขาดสาย ถึงขนาดต้องจองห้องพักกันข้ามปีเลยทีเด

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 6 : ลึกๆ ก็แอบห่วง

    พรนลัทเดินออกมาสงบสติอารมณ์คุกรุ่นของตัวเอง จนกระทั่งรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาเธอจึงแบมือออกมาดูก็พบว่าฝ่ามือเล็กมีรอยเหมือนเศษแก้วบาดเป็นแผลทางยาว แต่ไม่ได้ลึกมากขนาดต้องเย็บ คงเป็นเศษแก้วที่ตกลงมาแตกแล้วกระเด็นมาโดนมือเธอตอนที่ล้มหญิงสาวมารู้สึกเจ็บเมื่อเห็นบาดแผล อาจเป็นเพราะตอนนั้นเธอทั้งโมโหทั้งโกรธบวกกับแผลยังคงชาจนลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ เธอจึงเดินไปที่ก๊อกน้ำแล้วทำการล้างแผลและพันด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก จากนั้นก็เดินกลับไปยังห้องเรือนประชาสัมพันธ์เธอสวนกับร่างสูงของเจ้าของปางช้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดวงตาสองคู่ต่างอารมณ์ จ้องกันนิ่งอย่างไม่มีใครยอมหลบ ฝ่ายหนึ่งรู้สึกผิดที่พูดจารุนแรง อีกคนก็เฉยเมยและยอมเป็นฝ่ายเมินหน้าหนี พรนลัทจึงไม่เห็นดวงตาคมเข้มก้มลงไปมองมือเล็กที่มีผ้าเช็ดหน้าพันเอาไว้อยู่ชั่วครู่ แล้วทำท่าจะเอ่ยถามอะไรสักอย่าง หากแต่คนตัวเล็กเลือกที่จะเดินไปหาสาวน้อยคนสนิทอย่างรวดเร็วจากนั้นบรรยากาศการทำงานในปางช้างก็ขมุกขมัวราวกับจะมีพายุโหมกระหน่ำอย่างไรอย่างนั้น เจ้านายหนุ่มมีสีหน้าเรียบตึงไปร่วมทำงานกับคนงานที่ท้ายปางช้าง ส่วนพรนลัทกลับเข้าไปทำงานของตัวเองในห้องสอนศิลปะเง

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 5 : ขิงก็ร่า ข่าก็แรง

    บ้านหลังใหญ่ของครอบครัวศิลปการสกุล ไม่สิ! ต้องเรียกเป็นคฤหาสน์เลยก็ว่าได้ เพราะทั้งกว้างใหญ่ติดกับทะเลสาปเล็กๆและมีสวนดอกไม้เบ่งบานสวยงามหลากหลายสายพันธ์ บ้านหลังนี้อยู่ห่างจากปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลประมาณห้ากิโลเมตร สามารถขับรถหรือปั่นจักรยานลัดเลาะไปตามถนนเล็กๆด้านหลังได้มีอีกเรื่องหนึ่งที่พรนลัทพึ่งได้รู้จากผู้เป็นป้าคือเส้นทางที่หัสดินทร์พาเธอมาในวันแรกเป็นทางด้านหลังของปางช้าง ที่ส่วนใหญ่มักจะให้ควาญช้างจูงช้างไปเดินออกกำลังกาย เท่านี้ก็ทำให้รู้แล้วว่าชายหนุ่มตั้งใจกลั่นแกล้งเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันร่างบางทรุดนั่งลงบนปลายเตียงนอนหลังใหญ่ โดยมีสาลี่คอยช่วยจัดข้าวของของเธอเข้าที่ให้เรียบร้อยตามคำสั่งของแม่เลี้ยงสรณ์สิริ ก่อนเสียงหวานจะเอ่ยถามสาวใช้เกี่ยวกับเรื่องที่เธอข้องใจสงสัย“สาลี่ ถามอะไรหน่อยสิ”“ถามเยอะๆก็ได้ค่ะ คุณน้ำผึ้ง” สาลี่เอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะหันมาจ้องใบหน้าสวยใสของเจ้านายสาวคนใหม่“บ้านพักหลังเล็กมีผีจริงป่ะ”“ตั้งแต่สาลี่โตมาจนเป็นสาวอยู่ที่นี่มาไม่เคยไม่ผีหรอกค่ะ พี่ชงนมก็อำเล่นไปอย่างนั้นแหละ คุณน้ำผึ้งสบายใจได้”“แต่เมื่อคืนฉันได้ยินเสียงคนเคาะประตู กับเห็นเงาตะ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 4 : ก็เจ๊ากันไปแล้วกัน

    ยามราตรีท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงดาราส่องสว่าง มีเพียงอัสนีบาตที่พาดผ่านมาเป็นระยะ ผ่านไปไม่ถึงนาทีฝนก็กระหน่ำตกลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา ด้วยความที่เป็นบ้านไม้ทำให้พรนลัทได้ยินเสียงน้ำฝนตกกระทบไม้กระดานหน้าระเบียงบ้าน พร้อมกับเสียงกบเสียงเขียดร้องระงมรับพิรุณ ยังทำให้เธอจินตนาการไปถึงเรื่องเล่าที่ได้ฟังมาจากคนงานหนุ่มเมื่อตอนเย็นหญิงสาวนอนเหยียดยาวตัวแข็งทื่ออยู่บนเตียงนอนที่ทั้งแข็งทั้งเย็น พลางใช้ปลายเท้าเล็กของตัวเองเขี่ยๆเอาผ้าแพรเนื้อลื่นขึ้นมาห่มจรดจนถึงคอหอย ดวงตากลมโตสอดส่ายไปทั่วห้องเล็กๆ โดยมีแสงสีเหลืองอ่อนจากหลอดไฟที่ห้อยระย้าจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่ ขยับตามแรงลมของพายุฝนที่อยู่ข้างนอกทว่าจู่ๆ เธอก็ดันได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาเดินอยู่รอบๆบ้านพัก คำบอกเล่าของชงนมก็เข้ามากัดกินหัวใจดวงน้อยของเธอให้หวาดหวั่น ความคิดฟุ้งซ่านเข้ามาในหัวเต็มไปหมด กระทั่งต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงกระหน่ำเคาะที่ประตูห้องสามถึงสี่ที~ ก๊อกๆ ก๊อกๆ ~“ใครอ่ะ?”พรนลัทตะโกนแข่งกับเสียงฝนที่ตกไม่มีพักอยู่ข้างนอก แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมา ยิ่งทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ หญิงสาวพนมมือขึ้นแล้วสวดมนต์ผิดๆถูกๆ บ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 3 : แค่เห็นก็เหม็นขี้หน้า

    ร่างสูงใหญ่สวมเสื้อกล้ามสีดำทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นสวมกางเกงยีนส์ตัวเก่งสีซีดพาตัวเองมายังโรงจอดรถขนาดใหญ่ เป็นจังหวะเดียวกันกับลูกน้องคนสนิทขี่ซาเล้งพ่วงข้างเลี้ยวเข้ามายังบริเวณที่เขากำลังยืนอยู่ ชายหนุ่มจึงโบกมือเรียกดัก ทำเอาเจ้าชงนมถึงกับเบรกรถหน้าแทบทิ่ม “มีอะไรหรือเปล่าครับนาย”“มึงจะไปไหนไอ้ชงนม”“ผมเอาผักปรังกับใบส้มป่อยมาให้แม่เลี้ยงครับ เห็นว่าวันมะรืนนายแม่จะให้ป้าฟองจันทร์ทำแกงโฮะต้อนรับคุณครูน้ำผึ้งครับ”ชงนมเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่ม แล้วคลี่ยิ้มกว้างอวดทั้งฟันทั้งเหงือกให้คนเป็นนายได้ยล ดูท่าแม่ของเขาจะเตรียมอาหารไว้เป็นอย่างดี คงคิดว่าหลังกลับมาจากลำปางจะต้อนรับหลานสาวแบบจัดเต็มซิท่า ก่อนชายหนุ่มจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“วันนี้แม่ให้มึงไปรับน้ำผึ้งใช่ไหม”“ใช่ครับ นายช้างมีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่า”“เปล่า แต่กูจะเป็นคนไปรับเอง แล้วก็ยืมรถมึงด้วย”คนเป็นเจ้านายแจ้งความประสงค์ เล่นเอาลูกน้องคนสนิทอ้าปากหวอ อดที่จะทำหน้าสงสัยไม่ได้“ห๊ะ! ไปรับเอง แล้วจะยืมไอ้แก่ขาเฟี้ยวของผมไปด้วยเนี่ยนะครับ รถในบ้าน…”ยังไม่ทันที่ชงนมจะพูดจบ ดวงตาคมกริบของคนเป็นนายปรายตามามอง ก็ทำ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 2 : ชนวนเหตุเสียวหู

    ร่างสูงผอมสมส่วนในวัยยี่สิบปีเดินออกมาหามุมคุยโทรศัพท์ เนื่องจากมีสายเข้าจากเพื่อนคนสนิทในมหาวิทยาลัยโทรมาพูดคุยเรื่องงานที่ต้องทำส่งอาจารย์ ชายหนุ่มเดินถือโทรศัพท์มือถือลัดเลาะไปตามคันร่องสวนมะม่วงและชมพู่ ซึ่งวันนี้ครอบครัวของหัสดินทร์แวะเวียนมาเยี่ยมทิพย์อาภาที่บ้านสวนจังหวัดนนทบุรีทว่าจังหวะที่หัสดินทร์กำลังลอดซุ้มต้นชมพู่ขนาดใหญ่ ซึ่งมีกิ่งก้านแผ่ไพศาลให้ร่มเงาแก่ทางเดินที่เขากำลังเดินผ่าน ก็มีอะไรบางอย่างหล่นตุ้บลงมาตรงหน้า เฉียดศีรษะของเขาไปหวุดหวิด พร้อมกับเสียงเล็กตะโกนร้องบอกเสียงดังลั่น“เฮ้ย! มดแดง”คนตัวโตกว่าก้มมองลงไปก็เห็นเป็นรังมดแดงถูกห่อหุ้มด้วยใบของต้นชมพู่ จากขนาดรังใหญ่พอสมควรตกอยู่ตรงหน้าเท้าของเขา ถ้าชายหนุ่มเดินเร็วกว่านี้อีกนิด รับรองได้ว่าเจ้ามดแดงได้เข้าไปทำรังรุมกัดเขาทั้งตัวเป็นแน่หัสดินทร์จึงก้มไปหยิบกิ่งไม้มาเขี่ยรังมดแดงไปไว้อีกด้านของคันร่องสวน แล้วก็เงยหน้าขึ้นไปมองสาเหตุที่แท้จริงของรังมดแดงที่อยู่ตรงปลายเท้า ดูก็รู้ว่าไม่ได้ร่วงจากต้นแบบปกติธรรมดาอย่างแน่นอนเด็กผู้หญิงผมเปียใบหน้าและตามเสื้อผ้ามอมแมมไปด้วยคราบโคลน ดูจากตัวแล้วอายุอานามคงเป็นน้อง

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status