แชร์

บทที่ 5 : ขิงก็ร่า ข่าก็แรง

ผู้เขียน: แสงลลิณ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-17 20:06:50

บ้านหลังใหญ่ของครอบครัวศิลปการสกุล ไม่สิ! ต้องเรียกเป็นคฤหาสน์เลยก็ว่าได้ เพราะทั้งกว้างใหญ่ติดกับทะเลสาปเล็กๆและมีสวนดอกไม้เบ่งบานสวยงามหลากหลายสายพันธ์ บ้านหลังนี้อยู่ห่างจากปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลประมาณห้ากิโลเมตร สามารถขับรถหรือปั่นจักรยานลัดเลาะไปตามถนนเล็กๆด้านหลังได้

มีอีกเรื่องหนึ่งที่พรนลัทพึ่งได้รู้จากผู้เป็นป้าคือเส้นทางที่หัสดินทร์พาเธอมาในวันแรกเป็นทางด้านหลังของปางช้าง ที่ส่วนใหญ่มักจะให้ควาญช้างจูงช้างไปเดินออกกำลังกาย เท่านี้ก็ทำให้รู้แล้วว่าชายหนุ่มตั้งใจกลั่นแกล้งเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน

ร่างบางทรุดนั่งลงบนปลายเตียงนอนหลังใหญ่ โดยมีสาลี่คอยช่วยจัดข้าวของของเธอเข้าที่ให้เรียบร้อยตามคำสั่งของแม่เลี้ยงสรณ์สิริ ก่อนเสียงหวานจะเอ่ยถามสาวใช้เกี่ยวกับเรื่องที่เธอข้องใจสงสัย

“สาลี่ ถามอะไรหน่อยสิ”

“ถามเยอะๆก็ได้ค่ะ คุณน้ำผึ้ง” สาลี่เอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะหันมาจ้องใบหน้าสวยใสของเจ้านายสาวคนใหม่

“บ้านพักหลังเล็กมีผีจริงป่ะ”

“ตั้งแต่สาลี่โตมาจนเป็นสาวอยู่ที่นี่มาไม่เคยไม่ผีหรอกค่ะ พี่ชงนมก็อำเล่นไปอย่างนั้นแหละ คุณน้ำผึ้งสบายใจได้”

“แต่เมื่อคืนฉันได้ยินเสียงคนเคาะประตู กับเห็นเงาตะคุ่มๆ ข้างบ้านจริงนะ”

พรนลัทตัดสินใจเล่าให้สาวใช้ตรงหน้าฟัง เพราะเธอก็อยากได้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์บ้าง ไม่อยากคิดฟุ้งซ่านจากความกลัวของตัวเอง

“เสียงเคาะประตู เหมือนอย่างนี้ไหมคะ”

สาวใช้วัยใสวางกำปั้นลงบนโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วทำเสียงเคาะประตูสาธิตให้เธอดู

“ใช่ๆ” พรนลัทพยักหน้ารัวๆ

“ถ้างั้นก็คงเป็นโมบายระย้าที่แขวนไว้ข้างหน้าประตู พอมันโดนลมพัดก็จะดังเหมือนคนเคาะประตูนั่นแหละค่ะ แล้วเมื่อคืนฝนก็ตกลมแรง เป็นไปได้สูงที่จะเป็นมันแน่นอน”

เรื่องของเสียงเคาะถูกไขกระจ่างเป็นที่เรียบร้อย หญิงสาวคลี่ยิ้มแห้งๆออกมาด้วยความเข้าใจผิดคิดมาก สงสัยเธอจะดูหนังสยองขวัญมากจนเกินไป จินตนาการเป็นเรื่องต่างๆ

“แล้วเงาล่ะ?” พรนลัทยังคงถามต่ออีกเรื่องที่ค้างคาใจ

“เงายิ่งไม่ใช่ใหญ่เลยค่ะ คุณน้ำผึ้งน่าจะเป็นพุ่มต้นเข็มที่อยู่ข้างบ้านค่ะ บางทีสาลี่ก็ยังมองเป็นคนเลย” สาวใช้พูดด้วยน้ำเสียงกลั้วขำ

“สรุปนี่ฉันคิดไปเองหมดเลยสินะ”

แปลว่าไม่มีเสียงเคาะไม่มีผี แต่มีตุ๊กแกในห้องก็เท่านั้น เธอนี่ก็กลัวไม่เข้าเรื่องจนคิดเป็นตุเป็นตะ หญิงสาวถอนหายใจอย่างโล่งอกพร้อมกับรอยยิ้ม สาลี่ได้แต่คลี่ยิ้มอย่างเห็นใจ ก่อนเธอจะขอตัวออกจากห้องนอนไป ปล่อยให้เจ้านายสาวได้มีเวลาส่วนตัว

******

เช้าวันต่อมาครอบครัวศิลปการสกุลกำลังร่วมกันรับประทานอาหารอยู่ในห้องอาหารขนาดใหญ่กันอย่างพร้อมเพรียง โดยมีสาวใช้สูงวัยอย่าง ‘ฟองจันทร์’ และสาลี่คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง สาวน้อยผู้มาอาศัยพักใจก็ถูกประมุขของบ้านชวนคุยอย่างสนุกสนาน ส่วนคนตัวโตที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับเธอทำสีหน้านิ่งๆ พลางยกแก้วกาแฟจิบเป็นพักๆ ทำทีเป็นไม่สนใจ

“ช้าง แม่ฝากน้องไปทำงานด้วยนะ”

แม่เลี้ยงสรณ์สิริหันไปบอกลูกชายด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ทำเอาคนถูกให้ไปทำงานด้วยทำหน้าเหลอหลาเมื่อได้ยิน พรนลัทจึงหันไปมองคนที่นั่งตรงข้าม ก็เห็นเขาดูชะงักแก้วกาแฟเล็กน้อยแต่ก็ยังทำหน้านิ่งคาดเดาอารมณ์ไม่ออก หญิงสาวรู้ว่าเขาได้ยินประโยคที่มารดาเอ่ยก็คงไม่ยินดียินร้ายมากนักหรอก ถึงเขาจะไม่ได้ว่าอะไรก็ตาม

“ช่วงนี้ป้ากับลุงจะยุ่งๆหน่อยนะลูก พอดีมีงานของมูลนิธิต้องไปต่างจังหวัดบ่อย ถ้าน้องน้ำผึ้งเหงาก็ชวนสาลี่หรือชวนพี่เค้าไปเที่ยวก็ได้นะลูก”

คนเป็นป้าหลังจากสั่งการลูกชายเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ก็หันมาบอกหลานสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พลางลูบศีรษะเล็กด้วยความเอ็นดู เนื่องจากนางสรณ์สิริและหิรัญมีมูลนิธิที่คอยช่วยเหลือเด็กยากไร้ จึงมีหลายอย่างที่ต้องไปจัดการ ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดหลายต่อหลายครั้ง อาจจะทำให้ทั้งคู่ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน และดูแลหลานสาวคนสวยได้เต็มที่นัก

“ขอบคุณมากนะคะ คุณป้า คุณลุง”

พรนลัทยกมือไหว้ผู้มีพระคุณกับเธอทั้งสองคนเธอรู้สึกซึ้งในความมีเมตตาของผู้ใหญ่ทั้งคู่ ที่อุตส่าห์ดูแลเธอเป็นอย่างดี หิรัญคลี่ยิ้มกว้างอบอุ่นให้กับหลานสาวเช่นกัน

หลังจากเสร็จสิ้นมื้อเช้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็เดินตามกันออกมาตรงหน้าโรงจอดรถ สองสามีภรรยาในชุดเรียบหรูกำลังจะก้าวขึ้นรถตู้คันใหญ่ก็หันมาล่ำลาลูกชายและหลานสาว

“แม่กับพ่อไปก่อนนะลูก”

แม่เลี้ยงสรณ์สิริโอบร่างบางของหลานสาวแล้วจับแก้มนุ่มด้วยความเอ็นดู ก่อนจะผละออกไปสวมกอดร่างหนาของลูกชายบ้าง แล้วโน้มลำคอแกร่งมาเอ่ยกระซิบชิดใบหู

“แล้วอย่าแกล้งน้องล่ะตาช้าง ถ้าแม่รู้ล่ะก็ แกได้ระเห็จไปนอนในคอกช้างแน่”

“ผมไม่ทำอะไรเค้าหรอกครับ” แต่ถ้าเค้าเริ่มก่อนนี่ไม่นับนะครับ ประโยคหลังหัสดินทร์ไม่ได้เอ่ยออกไป เขาทำเพียงคลี่ยิ้มบางๆ ให้กับคนเป็นมารดา

“พ่อฝากน้องด้วยล่ะ ลุงไปนะลูก ดูแลกันดีๆ”

หิรัญตบบ่าลูกชายเบาๆ ก่อนจะหันไปลูบศีรษะเล็กของหลานสาวด้วยความเอ็นดู แล้วผละไปโอบภรรยาคนงามก้าวขึ้นรถตู้คันหรูที่มีคนขับเปิดประตูรออยู่แล้ว

สองหนุ่มสาวมองตามท้ายรถจนลับสายตา แล้วจึงหันมาสบตากันโดยอัตโนมัติ ก่อนคนตัวสูงจะเป็นฝ่ายเอ่ยทำลายความเงียบด้วยน้ำเสียงกวนๆ

“พร้อมจะทำงานหรือยังครับ คุณครูคนใหม่”

“ฉันพร้อมตั้งนานแล้ว จะไปได้หรือยังล่ะ”

 พรนลัทกระแทกเสียงตอบกลับ พร้อมกับสะบัดหน้าบึ้งตึงหนีไปอีกทาง หัสดินทร์ได้แต่แย้มยิ้มขำๆ ไม่ได้ยี่หระกับเสียงหวานห้วนสนิทของเธอ ก่อนเขาจะเดินนำไปยังรถยนต์สมรรถนะดีเยี่ยมพร้อมกับเปิดประตูฝั่งคนนั่งให้เธอได้ขึ้น

หญิงสาวก้าวขึ้นไปนั่งบนรถด้วยสีหน้ายับยุ่ง แล้วเอื้อมมือไปปิดประตูรถเสียงดังโครม ไม่สนด้วยว่ารถจะราคากี่สิบล้าน เพราะตั้งใจจะให้ประตูมันหนีบนิ้วคนกวนประสาทเสียจริงๆ แต่มันก็แค่คิดไม่ได้ลงมือทำจริงๆหรอก อีกอย่างเธอเหลือบไปเห็นสีหน้าเจ้าของรถแย้มยิ้มกว้างพลางโคลงศีรษะอย่างขำๆ ก่อนเขาจะอ้อมมาขึ้นรถฝั่งคนขับ และเคลื่อนรถออกไปจากโรงจอดรถด้วยใบหน้าเรียบเฉย

*****

เพียงไม่ถึงสิบนาทีสองหนุ่มสาวก็พากันเข้ามายังปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลเป็นที่เรียบร้อย ชายหนุ่มก็เดินนำมายังห้องกว้างเปิดโล่งทั้งสามด้าน บริเวณด้านในมีโต๊ะไม้ขนาดใหญ่พร้อมที่นั่งเรียงรายไว้สำหรับให้คนที่สนใจทำงานศิลปะได้ลองฝึกทำและสามารถชมการแสดงช้างวาดภาพได้อีกด้วย

“นี่เป็นห้องทำงานของคุณ อาจจะไม่ได้มีแอร์หรูอยู่สบาย คิดว่าคุณน่าจะทำงานได้นะ”

หัสดินทร์เอ่ยบอกเมื่อทั้งคู่มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงาน ทว่าประโยคที่เขาเอ่ยออกมานั้นเหมือนกำลังหยั่งเชิงแกมดูถูกเธอกลายๆ

“จะห้องแบบไหนฉันก็ทำงานได้ทั้งนั้นแหละ”

“ก็ดี! จะคอยดูว่าคุณจะทำงานได้ดีเหมือนกับที่พูดไว้ได้หรือเปล่า แต่ก่อนที่จะเริ่มงานอันดับแรก ควรพูดจาให้มันเพราะๆหน่อยคุณ ไม่อย่างนั้นใครจะอยากมาทำกิจกรรมที่ปางช้างของผม เขาคงหนีกระเจิงกันไปหมด ผมรู้คุณเส้นใหญ่ แต่มืออาชีพเขาต้องรู้จักแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว”

“ฉันพูดเพราะกับคนที่อยากพูดด้วยเท่านั้นแหละ แล้วคิดว่าฉันอยากมาทำงานกับคุณนักหรือไง ถ้าเลือกได้ฉันก็ไม่มาให้คุณยืนดูถูกแบบนี้หรอก”

พรนลัทยังเถียงกลับเสียงแข็งไม่ลดละ ใบหน้าสวยใสเชิดขึ้นเล็กน้อยด้วยความไม่สบอารมณ์

“ผมนี่นะดูถูก คิดมากไปหรือเปล่าคุณ ผมแค่อยากบอกในฐานะเจ้านายที่อยากได้คนมาร่วมงานด้วยมีประสิทธิภาพ ที่ผมพูดนี่ผิดด้วยหรอ” หัสดินทร์พูดยิ้มๆ พลางจ้องดวงตากลมโตตรงหน้า แล้วยักคิ้วข้างเดียวอย่างเย้าแหย่

“เหอะ มีประสิทธิภาพคุณวัดจากอะไรหรอ วัดจากคะขาแล้วพาเข้าห้อง หรือวัดจากทรวดทรงองค์เอวเหมือนคนก่อนๆนี่ใช่ไหม”

พรนลัทเอ่ยแล้วเหยียดยิ้มมุมปาก พร้อมกับจ้องใบหน้าคมคายที่เริ่มตึงกับประโยคที่เธอเอ่ยเย้ยหยันด้วยความสะใจ ส่วนเขาก็จ้องเธอดวงสายตาคมกริบแข็งกระด้าง ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม แล้วโต้กลับอย่างกวนประสาท

“ครูศิลปะคนก่อนๆ ก็อาจจะใช่นะ แต่กับคุณผมดูยังไงมันก็ไม่ตูมตื่นตาตื่นใจเลยสักนิด”

หัสดินทร์พูดพลางกวาดสายตาอ้อยอิ่งไปตั้งแต่ใบหน้าสวยใสไล่ลงมายังเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนจวบจนเรียวขาขาวโผล่พ้นกางเกงขาสั้นเลยเข่าเล็กน้อยของเธอ ทำเอาพรนลัทหน้าร้อนผ่าวไปถึงกกหู ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาตอกกลับให้ชายหนุ่มหน้าหงายไปบ้าง เธอจึงแหวเสียงเขียวใส่เขาแทน

“คุณช้าง!”

“คุณเริ่มก่อนเองนะน้ำผึ้ง แล้วอย่างนี้จะมาโกรธผมก็ไม่ถูก”

คราวนี้เสียงทุ้มเข้มจัดไม่มีแววเย้าแหย่ล้อเล่นอีกต่อไป แถมประกายตาสีนิลคู่นั้นก็ดูแข็งกร้าวอย่างเอาจริง จนพรนลัทไม่กล้าที่จะต่อล้อต่อเถียงด้วยอีกแล้ว เธอจึงทำทีเดินไปกระแทกก้นนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่หลังโต๊ะทำงานแทน แล้วมองออกไปด้านนอกที่เห็นบรรดาควาญช้างและคนงานกำลังเตรียมงานกันอยู่

“ผมไปทำงานแล้ว ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกเด็กในนี้ได้ทุกคน”

พูดจบก็พาร่างสูงของตัวเองออกไปจากห้องทำงาน ทิ้งให้คนตัวเล็กได้แต่หันกลับมามองด้วยความหงุดหงิดหัวใจ พรนลัทถอนหายใจออกมาแรงๆ สองถึงสามครั้งราวกับกำลังสงบสติอารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่ในใจ เมื่อรู้สึกดีขึ้นเธอจึงเริ่มลงมือทำงาน

*****

กระทั่งเวลาดำเนินไปเกือบสิบเอ็ดโมง การทำงานวันนี้ของเธอไม่มีอะไรมาก มีสอนเด็กๆและผู้ปกครองที่เข้ามาชมช้างวาดภาพเป็นที่ระลึกก็เท่านั้น หลังจบกิจกรรมกับเด็กๆ สาวใช้คนสนิทก็พาเธอไปแนะนำให้รู้จักกับ ‘ลุงศักดิ์ดา’ หัวหน้าคนงานและควาญช้าง แล้วยังแนะนำให้เธอรู้จักกับ ‘ชาญชัย’ ควาญช้างคนเก่งของที่นี้และยังเป็นสามีของ ‘ลำดวน’ สาวงามซึ่งทำหน้าที่เป็นพนักงานฝ่ายต้อนรับ อีกหนึ่งสาวสวยอย่างคุณ ‘พริมา’เป็นผู้จัดการรีสอร์ทหลังเล็กของปางช้าง ทุกคนให้ความต้อนรับพรนลัทเป็นอย่างดี มีความจริงใจและเป็นมิตรทำให้เธอสนิทสนมกับพวกเขาในเวลาอันสั้นอย่างรวดเร็ว

คุณครูคนใหม่พาตัวเองกลับมานั่งพักในห้องสอนศิลปะอีกครั้ง ยังไม่ทันที่เธอจะหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้ จู่ๆ ก็มีเสียงแจ๋นๆเอ่ยทักทาย และน้ำเสียงดูไม่เป็นมิตรอย่างแน่นอน ก่อนสองร่างเพรียวบางจะก้าวเข้ามาในห้อง

“เธอเองหรอที่มาทำงานแทนฉัน”

พรนลัทชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะจ้องมองสองร่างตรงหน้านิ่งๆ โดยเฉพาะสาวปากแดงชุดเดรสสีมิ้นท์สั้นจู๋ที่เป็นคนเอ่ยทัก แล้วแย้มยิ้มบางๆ

“ใช่ค่ะ”

“ศจี ฉันไม่ยักรู้นะว่ารสนิยมคุณช้างจะเปลี่ยนไปขนาดนี้ แม่นี่ดูกะโหลกกะลาไปเลยเมื่อเทียบกับเธอ”

เพื่อนสาวที่มาด้วยกันแสดงความคิดเห็นออกมา พลางกวาดสายตาดูถูกดูแคลนเธออย่างหน้าไม่อาย ทำให้พรนลัทถึงกับปรายตาไปมองอีกฝ่ายด้วยสายตาแข็งกระด้าง

“พอดีฉันมาทำงานน่ะค่ะ ไม่ได้มาทำอย่างอื่น อาจจะไม่ได้ดูสวยปากแดงแจ๋เหมือนคุณศจี”

“ปากดีจริงๆ แต่ดูยังไงคุณช้างก็ไม่สนใจเธอหรอก อะไรมันดูไซส์มินิไปหมด”

สาวงามนามว่า ‘ศจี’ สงสัยจะเป็นคนสอนศิลปะคนเก่ายังทำหน้าตาเย้ยหยันเธอไม่พัก แล้ววันนี้มันวันอะไรของเธอหนักหนา ตั้งแต่เช้าก็โดนอีตาช้างปากมอมดูถูกมาที นี่ยังมาโดนแม่คู่ขาหุ่นอวบอั๋นมาตอกย้ำเธออีก คนพวกนี้ไม่รู้จักคำว่า ‘ซ่อนรูป’ บ้างหรือยังไง

ในเมื่อเธอเคยบู๊แหลกกับพวกที่ชอบดูถูกหลายต่อหลายคนแล้ว รวมแม่คนนี้ไปอีกซักคนคงไม่เป็นไร พรนลัทจึงสวนกลับอย่างไม่ไว้หน้า

“ขอโทษนะคะ ฉันใช้มือทำงานไม่ได้ใช้ ‘นม’ ทำ”

ไม่เพียงแค่พูดเธอยังกวาดสายตาไปยังก้อนซาลาเปาสองก้อนที่เอ่อล้นทะลักออกจากชุดเดรสของเจ้าหล่อนอย่างเหยียดๆ ก่อนจะหันตัวเดินกลับไปยังโต๊ะทำงาน ทว่าว่าสองสาวเจ้าปัญหาดันกระชากบ่าบอบบางของเธออย่างแรง ทำให้คนไม่ทันระวังตัวแทบหงายหลัง

“นี่แก นังคนปากดี ยังงี้ต้องตบให้เลือดกบปากสักที อรแกจับมันไว้นะ ฉันจะตบมัน”ศจีเอ่ยบอกเพื่อนที่มาด้วยกัน ส่วนคนที่ชื่ออรก็เข้ามาล็อกแขนของเธอไว้ทั้งสองข้างเสียแนบแน่น

เพี้ยะ!

ฝ่ามือที่หมายจะฟาดลงแก้มของพรนลัทกลับไปถูกแก้มของคนที่จับเธอแทน เพราะหญิงสาวก้มตัวลงเลยรอดจากฝ่ามือไปได้หวุดหวิด ก่อนจะใช้เท้ายันหน้าท้องของอีกฝ่ายจนล้มลงไปก้นจ้ำเบ้า พร้อมกับเสียงกรีดร้องเสียงดังลั่น

“อร้ายยย!”

แต่ก่อนที่พรนลัทจะทันได้ตั้งตัว เพื่อนรักของศจีก็ผลักเธอกระเด็นไปชนโต๊ะเก็บของอีกฝั่ง จนข้าวของร่วงหล่นอะไรที่เป็นพลาสติกก็กระเด็นกระดอน ส่วนอะไรที่เป็นแก้วก็ตกลงมาแตกกระจัดกระจาย เสียงโหวกเหวกโวยวายทำให้ชงนมและสาลี่รีบวิ่งเข้ามาในห้องทันที

“แย่แล้วพี่ชงนมไปตามนายช้างมาเถอะ” สาลี่หันไปบอกคนเป็นพี่ชายทันที แล้วรีบวิ่งเข้าไปช่วยห้ามอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้เหตุการณ์ในห้องไม่รู้ว่าใครเป็นใครเพราะซัดกันนัวไปหมด สาลี่รีบเข้าไปประคองเจ้านายสาวให้ลุกขึ้น เป็นจังหวะเดียวกันกับเสียงทุ้มตวาดก้องไปทั่วห้อง

“พวกคุณทำบ้าอะไรกันเนี่ย!”

“คุณช้างขา ศจีถูกแม่นั่นทำร้ายเจ็บไปหมดทั้งตัวเลยค่ะ”

ศจีพาร่างสะบักสะบอมเข้าไปกอดท่อนแขนหนาออดอ้อนชายหนุ่มขอความเห็นใจ ยิ่งทำให้พรนลัทรู้สึกโกรธเป็นทวีคูณ ขณะเดียวกันหัสดินทร์ก็แกะมือเหนียวหนึบที่เกาะต้นแขนของตัวเองออก แล้วหันมาถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

“ผมถามทำไมไม่ตอบ หมาบ้ามันเข้าสิงพวกคุณกันหรือไง!”

“ศจีแค่มาทักทายคุณครูคนใหม่เฉยๆนี่คะ อยู่ๆ แม่นั่นก็โมโหทำร้ายศจี”

“นี่คุณ! พูดให้ถูกนะว่าใครกันแน่ที่หาเรื่องก่อน”

“พอหยุด! กลับไปได้แล้วศจี ไม่มีเหตุผลอะไรให้คุณต้องมาที่นี่อีกแล้ว ขืนยังเข้ามายุ่งวุ่นวายกับผมและคนของผมอีกล่ะก็ผมจะไม่ไว้หน้าคุณแน่”

หัสดินทร์ประกาศกร้าวออกมาเสียงดังลั่น ทำเอาศจีหน้าซีดเผือดเพราะไม่เคยเห็นชายหนุ่มในโหมดแบบนี้ เจ้าหล่อนรู้สึกเสียใจจนน้ำตาคลอ ก่อนจะรีบเดินกระแทกเท้าเร่าๆ ออกไปจากห้องนี้พร้อมเพื่อนสาวทันที

“ส่วนคุณ วิญญาณนักมวยมันเข้าสิงคุณหรือยังไง ถึงได้ชวนคนอื่นทะเลาะไม่เว้นวัน”

“นี่คุณช้าง! คนที่ชวนฉันทะเลาะคือคู่ขาเก่าของคุณหรือเปล่า การที่คุณพูดแบบนี้เท่ากับกำลังว่าฉันเป็นคนเริ่ม โคตรทุเรศ”

“ผมไม่ได้หมายความว่ายังนั้นนะ ผมหมายถึงว่าทำไมคุณต้องไปต่อปากต่อคำกับพวกนั้นด้วย ทำไมไม่เดินหนีออกมา มันยากนักหรือยังไง ฮึน้ำผึ้ง”

“แล้วทำไมฉันต้องหนี ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย ถ้าฉันจะลุกขึ้นสู้บ้าง เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองมันไปหนักอกหนักใจของคุณนักหรือยังไง!”

พรนลัทเอ่ยสวนกลับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสั่นๆ พลางเงยหน้าจ้องมองใบหน้าคมคายอย่างรู้สึกผิดหวัง ขอบตาเริ่มร้อนผะผ่าว ดวงตากลมโตของเธอเริ่มรื้นไปด้วยน้ำใสๆ เธอแค่สมเพชตัวเองที่ต้องกลายมาเป็นคนหนีปัญหา ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนก่อด้วยซ้ำ

แต่แล้วความอ่อนแอเข้ามากัดกินหัวใจที่แสร้งแกล้งทำเป็นเข้มแข็งของเธอพังลง หญิงสาวกลั้นเสียงสะอื้นแล้วเดินชนไหล่หนาออกไปจากห้องทำงานทันที ท่ามกลางสายตาที่เป็นห่วงเป็นใยของคนงานทั้งสองคน

“นายไม่น่าไปพูดแบบนั้นเลยครับ คุณน้ำผึ้งเธอก็ไม่ผิดจริงๆ ถึงจะดูเหมือนเก่งแต่จริงๆเธอก็อ่อนแอเหมือนกันนะครับ” ชงนมเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่มเสียงแผ่วๆ ด้วยความเห็นใจคุณครูคนสวย

“เออกูรู้แล้ว มึงนี่ก็ยุจนกูรู้สึกสำนึกผิดแทบไม่ทัน” หัสดินทร์หันไปตะคอกเสียงแข็ง หากแต่สายตาของเขามองตามหลังบางไปจนลับตาด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะก้าวยาวๆออกจากห้องไปด้วยความรู้สึกผิดกัดกินหัวใจ

“เนี่ยที่เขาว่า ขิงก็รา ข่าก็แรงกันทั้งคู่”

ชงนมได้แต่พึมพำออกมาอย่างเห็นใจเจ้านายทั้งคู่ พลางโคลงศีรษะไปมาๆ แล้วหันไปช่วยสาลี่จัดการเก็บกวาดข้าวของที่ตกกระจายทั่วห้องให้กลับมาเป็นสภาพดังเดิม

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 6 : ลึกๆ ก็แอบห่วง

    พรนลัทเดินออกมาสงบสติอารมณ์คุกรุ่นของตัวเอง จนกระทั่งรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาเธอจึงแบมือออกมาดูก็พบว่าฝ่ามือเล็กมีรอยเหมือนเศษแก้วบาดเป็นแผลทางยาว แต่ไม่ได้ลึกมากขนาดต้องเย็บ คงเป็นเศษแก้วที่ตกลงมาแตกแล้วกระเด็นมาโดนมือเธอตอนที่ล้มหญิงสาวมารู้สึกเจ็บเมื่อเห็นบาดแผล อาจเป็นเพราะตอนนั้นเธอทั้งโมโหทั้งโกรธบวกกับแผลยังคงชาจนลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ เธอจึงเดินไปที่ก๊อกน้ำแล้วทำการล้างแผลและพันด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก จากนั้นก็เดินกลับไปยังห้องเรือนประชาสัมพันธ์เธอสวนกับร่างสูงของเจ้าของปางช้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดวงตาสองคู่ต่างอารมณ์ จ้องกันนิ่งอย่างไม่มีใครยอมหลบ ฝ่ายหนึ่งรู้สึกผิดที่พูดจารุนแรง อีกคนก็เฉยเมยและยอมเป็นฝ่ายเมินหน้าหนี พรนลัทจึงไม่เห็นดวงตาคมเข้มก้มลงไปมองมือเล็กที่มีผ้าเช็ดหน้าพันเอาไว้อยู่ชั่วครู่ แล้วทำท่าจะเอ่ยถามอะไรสักอย่าง หากแต่คนตัวเล็กเลือกที่จะเดินไปหาสาวน้อยคนสนิทอย่างรวดเร็วจากนั้นบรรยากาศการทำงานในปางช้างก็ขมุกขมัวราวกับจะมีพายุโหมกระหน่ำอย่างไรอย่างนั้น เจ้านายหนุ่มมีสีหน้าเรียบตึงไปร่วมทำงานกับคนงานที่ท้ายปางช้าง ส่วนพรนลัทกลับเข้าไปทำงานของตัวเองในห้องสอนศิลปะเง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 7 : เจ้าไข่ตุ๋น

    ช่วงสี่โมงเย็น พรนลัทชวนสาลี่ปั่นจักรยานลัดเลาะไปทางซอยด้านหลังของบ้าน ที่สามารถขี่เลาะทางลูกรังเล็กๆไปถึงปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลได้ ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นสนสามใบเรียงรายเขียวขจี ทำให้พอมีร่มเงาไม่ร้อนจนเกินไป บวกกับอากาศช่วงหน้าฝนที่เชียงใหม่ค่อนข้างจะชุ่มชื้นไม่ได้แห้งแล้งสองสาวพากันเข้ามาจอดจักรยานพิงต้นไม้ใหญ่ จากนั้นก็พากันเดินชมธรรมชาติในปางช้าง เนื่องจากตั้งแต่พรนลัทเริ่มทำงานก็ยังไม่ได้มาทัวร์ที่นี่ให้รอบเลย เธอจึงไหว้วานให้สาลี่เป็นไกด์กิตติมศักดิ์ในวันนี้ หญิงสาวตื่นตาตื่นใจกับบ้านพักโซนรีสอร์ทมาก บ้านพักทั้งสิบหลังถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขาทั้งสี่ด้าน เสมือนบ้านอยู่ตรงกลางท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามโครงสร้างทั้งหมดทำมาจากไม้ การออกแบบคล้ายกระท่อมเล็กๆในป่าใหญ่ ค่อนข้างแข็งแรง ด้านหน้ามีระเบียงเปิดโล่งยื่นออกมา ส่วนด้านหลังก็ติดกับลำธารขนาดเล็กที่น้ำไหลมาจากเทือกเขา ทุกเช้าจะมีบรรดาช้างออกมาเดินตรงลานหญ้ามารับกล้วยและผลไม้อื่นๆที่นักท่องเที่ยวอยากให้อาหาร ยิ่งเป็นจุดเด่นทำให้สถานที่แห่งนี้มีเอกลักษณ์ จนนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมาไม่ขาดสาย ถึงขนาดต้องจองห้องพักกันข้ามปีเลยทีเด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 8 : จิงโจ้ออสเตรเลีย ปะทะ ช้างแมมมอธป่า

    รถคันใหญ่เคลื่อนตัวเข้ามาจอดในโรงจอดรถของบ้าน หัวคิ้วเข้มของหัสดินทร์ต้องขมวดเป็นปมด้วยความสงสัย เมื่อสายตาคมของเขาสบเข้ากับรถสปอร์ตคันหรูจอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน บ่งบอกว่ามีแขกมาบ้านของเขาอย่างแน่นอน สองหนุ่มสาวเดินเคียงคู่กันเข้ามายังห้องโถงกลางบ้านก็ต้องได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกของบุพการีและแขกออกรสออกชาติอย่างสนุกสนานในห้องรับแขกขนาดใหญ่ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อโปโลคอปกสีเข้มกับกางเกงขาสั้นพอดีเข่าสีครีมกำลังนั่งจ้อกับแม่เลี้ยงสรณ์สิริ และพ่อเลี้ยงหิรัญ ชายหนุ่มหันหน้ามาทางประตูของห้องรับแขก ดวงตาของเขาสบเข้ากับสองร่างต่างไซส์เดินเคียงกันเข้ามา เขาก็รีบลุกขึ้นมาพร้อมกับแย้มยิ้มกว้างและเดินมากอดคอหัสดินทร์“มาทำไมวะ บ้านไม่มีอยู่หรือไง”“มีอยู่เว้ย แต่ไม่มีวิวสวยๆให้ดูแบบนี้ สวยด้วยเด็กด้วย โคตรแจ่ม”‘จิรสิน’ หรือ ‘จิงโจ้’ ลูกพี่ลูกน้องของหัสดินทร์ เขาชอบให้เรียกว่า ‘โจ้’ มากกว่า เอ่ยกระซิบข้างใบหูของคนมีศักดิ์เป็นพี่ที่ห่างกันแค่หนึ่งปี ตัวเองก็เลยปีนเกลียวทำเป็นรุ่นเดียวกัน น้ำเสียงกระเซ้าเย้าแหย่ พลางเหล่ไปมองร่างเล็กใบหน้าสวยหวานที่ยืนข้างๆ ด้วยความสนใจ“อย่ามาปากดี ไอ้เวรโจ้ สาระแน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 9 : ฤทธิ์แม่ตัวแสบ

    ร่างอรชรในชุดเสื้อยืดสีดำพอดีตัวกับกางเกงผ้าฝ้ายขาสั้นสีน้ำตาลอ่อนกำลังนั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้หวายลักษณะคล้ายตัวเล็กภายในห้องสอนศิลปะ วันนี้ไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรมากมาย อาจเพราะเป็นวันธรรมดานักท่องเที่ยวจึงจะน้อยกว่า วันเสาร์-อาทิตย์ พรนลัทกำลังก้มหน้าก้มตาขีดๆเขียนๆ บนไอแพดเครื่องบางอย่างสบายอารมณ์เนื่องจากหญิงสาวได้ออกแบบลายกระเป๋าผ้าสำหรับวางสินค้าขายในปางช้าง โดยมีตัวแบบแสนน่ารักอย่างเจ้าไข่ตุ๋น แถมยังได้คนงานผู้หญิงในปางช้างมาคอยช่วยเย็บปักลวดลายเล็กๆน้อยๆ อีกด้วย เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับคนงาน โดยกระเป๋าผ้าลายน่ารักๆ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวรวมไปถึงแม่เลี้ยงสรณ์สิริที่นำกระเป๋าผ้าใบต้นแบบไปอวดให้กับบรรดาคุณหญิงคุณนายในมูลนิธิช่วยเด็กยากไร้ จนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีแต่คนหลั่งไหลเข้ามาสั่งไม่ขาดสาย เธอจึงคิดว่ารายได้ทั้งหมดหักค่าแรงให้คนงานแล้วที่เหลือก็จะมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กที่ขัดสนทุนทรัพย์ในมูลนิธิของแม่เลี้ยงอีกด้วยพรนลัทค่อยๆ บิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยขบของร่างกายที่นั่งทำงานมาเป็นเวลานาน ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นนาฬิกาบนฝาผนังบ่งบอกเวลาสี่โมงเย็น ซึ่งเธอได้นัดแนะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 10 : ความรู้สึกเล็กๆเริ่มก่อตัว

    พรนลัทมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อถูกปล่อยลงให้ยืนในห้องน้ำกว้าง นั่นแหละเลยทำให้เธอรู้ว่าตอนนี้กำลังอยู่ในเรือนเล็กของเจ้าของปางช้าง ยังไม่ทันที่เธอจะจับต้นชนปลายได้ถูก เสียงกดล็อกประตูห้องน้ำก็ทำเอาเธอสะดุ้งตกใจ พอหันกลับไปมองคนที่ล็อกประตูก็ต้องเบิกตาโต เมื่อเขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกทั้งแถวแล้วถอดออกจากตัวเหวี่ยงทิ้งไปที่ตะกร้ามุมหนึ่งของห้องน้ำ คนตัวเล็กต้องรีบหันหลังซ่อนใบหน้าแดงแจ๋ไปทางผนังห้องน้ำ‘แล้วเป็นบ้าอะไรเนี่ย มาแก้ผ้าต่อหน้าทำไม!’คนหน้าแดงค่อนขอดอยู่ภายในใจ ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะเอื้อนเอ่ยออกไป ร่างสูงใหญ่ที่ตอนนี้เหลือเพียงผ้าขนหนูพันกายท่อนล่าง ก็ก้าวมายันฝ่ามือกับผนังห้องน้ำข้างหัวไหล่มนทั้งสองด้าน เพื่อกักร่างบางไว้ในวงแขน พรนลัทจึงหันกลับมาทำสีหน้าแตกตื่น พลางถอยหลังเบียดไปกับผนังห้องน้ำ นี่ถ้าเธอล่องหนหายไปได้เธอคงทำไปแล้ว“ทะ…ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย ฉันไม่เล่นนะ!”“ใครว่าผมเล่น ผมจะอาบน้ำต่างหาก”“ก็อาบไปสิ จะให้ฉันมาอยู่ตรงนี้ทำไมล่ะ”คนตัวเล็กช้อนตาขึ้นมองพร้อมกับเถียงคอเป็นเอ็นอย่างไม่ลดละ แถมยังทำหน้ายับยุ่ง จนคนมองได้แต่กระตุกยิ้มร้ายที่มุมปากพาลนึกในใจ‘แสบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทนำ : โดนพักงาน เลยต้องพักใจ

    เวลาเก้าโมงตรง…ณ ห้องประชุมใหญ่ของสตูดิโอ Artis One หลังจบการประชุมคัดเลือกตัวแทนเข้าร่วมโปรเจกต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับรังสรรค์ตัวละครในเกมยอดนิยม ‘Siam’s arena of valor’ หรือที่รู้จักกันในนาม ‘SAV’ เป็นเกมส์แนวโมบาย มีภารกิจต่างๆให้ปกป้องมรดกของไทยอีกทั้งงานนี้ยังได้รับความร่วมมือจากกระทรวงการท่องเที่ยว และผู้พัฒนาเกม ให้ทางสตูดิโออาร์ทติสวันช่วยออกแบบตัวละคร และภาพประกอบในฉาก ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่ค่อนข้างใหญ่และสำคัญเป็นอย่างมากทว่า…ดันไม่ใช่เจ้าของผลงานที่แท้จริงอย่าง ‘พรนลัท เลิศรัตนชัย’ สาวสวยหน้าหวานวัยยี่สิบสี่ปี ดีกรีมือนักวาดภาพตัวประกอบและฉากมือหนึ่งของสตูดิโอ นอกจากมีใบหน้าสวยถูกตาต้องใจหนุ่มๆหลายคนแล้ว เธอยังมีพรสวรรค์ในงานศิลปะเป็นเลิศเรียกว่าเก่งกาจหาตัวจับยากแต่เธอกลับโดนขโมยผลงานไปเป็นของ ‘มธุริน’ เด็กเส้นหลานสาวของท่านประธานเจ้าของสตูดิโอแห่งนี้ ลอกเลียนแบบตัวละครที่เธอออกแบบไปทั้งหมดแล้วดัดแปลงไปเป็นผลงานของตัวเองอย่างหน้าตาเฉย แถมยังนำผลงานไปเสนอให้กับลูกค้าเป็นการส่วนตัว เลยทำให้หล่อนได้เป็นตัวเต็งสำหรับงานในครั้งนี้ไปไม่นานพอคล้อยหลังผู้เข้าประชุมที่ต่างเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 1 : ว่าที่ครูศิลปะคนใหม่

    เทอร์เรสกว้างที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสาบและสวนดอกไม้ เป็นมุมโปรดปราณของแม่เลี้ยง ‘สรณ์สิริ’ ซึ่งชอบออกมานั่งเล่นบนเก้าอี้หวายตัวใหญ่ พร้อมกับจิบชาร้อนชื่นชมธรรมชาติ วันนี้ก็เช่นกันต่างตรงที่มีสามีอย่างพ่อเลี้ยง ‘หิรัญ’ วัยหกสิบตอนปลายกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ธุรกิจอยู่ใกล้ๆทั้งคู่สร้างอาณาจักรปางช้าง ‘สรศิลป์ เนเชอรัล’ ขึ้นมาโด่งดังจนมีบรรดานักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติพากันมาเที่ยวชม บ้างก็มาพักที่รีสอร์ทที่นี่เพื่อใกล้ชิดช้างและธรรมชาติ อีกอย่างการจัดการของปางช้างจะเป็นแนวเชิงอนุรักษ์ โดยมีช้างที่เคยปลดระวางจากการลากซุง เร่ร่อน ซึ่งแม่เลี้ยงสรณ์สิริก็รับเข้ามาดูแลไม่ต่ำกว่าสี่สิบถึงห้าสิบตัวนอกจากจะมีแค่ปางช้างแล้ว ประกอบกับความคิดทางธุรกิจของลูกชายและสามีช่วยกันพัฒนาจนปางช้างไม่ได้เป็นแค่สถานที่มาป้อนอาหารสัตว์ใหญ่เท่านั้น ยังมีจัดกิจกรรมทำค่ายให้คนที่สนใจมาเข้าพักที่รีสอร์ทไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ โดยกิจกรรมส่วนใหญ่ที่ทำร่วมกัน คือพาช้างอาบน้ำ เล่นน้ำกับช้าง หรือนั่งบนเสลี่ยงชมธรรมชาติ จวบจนทำการแสดงศิลปะจากช้าง ถือว่าเป็นธุรกิจปางช้างที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียง เป็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 2 : ชนวนเหตุเสียวหู

    ร่างสูงผอมสมส่วนในวัยยี่สิบปีเดินออกมาหามุมคุยโทรศัพท์ เนื่องจากมีสายเข้าจากเพื่อนคนสนิทในมหาวิทยาลัยโทรมาพูดคุยเรื่องงานที่ต้องทำส่งอาจารย์ ชายหนุ่มเดินถือโทรศัพท์มือถือลัดเลาะไปตามคันร่องสวนมะม่วงและชมพู่ ซึ่งวันนี้ครอบครัวของหัสดินทร์แวะเวียนมาเยี่ยมทิพย์อาภาที่บ้านสวนจังหวัดนนทบุรีทว่าจังหวะที่หัสดินทร์กำลังลอดซุ้มต้นชมพู่ขนาดใหญ่ ซึ่งมีกิ่งก้านแผ่ไพศาลให้ร่มเงาแก่ทางเดินที่เขากำลังเดินผ่าน ก็มีอะไรบางอย่างหล่นตุ้บลงมาตรงหน้า เฉียดศีรษะของเขาไปหวุดหวิด พร้อมกับเสียงเล็กตะโกนร้องบอกเสียงดังลั่น“เฮ้ย! มดแดง”คนตัวโตกว่าก้มมองลงไปก็เห็นเป็นรังมดแดงถูกห่อหุ้มด้วยใบของต้นชมพู่ จากขนาดรังใหญ่พอสมควรตกอยู่ตรงหน้าเท้าของเขา ถ้าชายหนุ่มเดินเร็วกว่านี้อีกนิด รับรองได้ว่าเจ้ามดแดงได้เข้าไปทำรังรุมกัดเขาทั้งตัวเป็นแน่หัสดินทร์จึงก้มไปหยิบกิ่งไม้มาเขี่ยรังมดแดงไปไว้อีกด้านของคันร่องสวน แล้วก็เงยหน้าขึ้นไปมองสาเหตุที่แท้จริงของรังมดแดงที่อยู่ตรงปลายเท้า ดูก็รู้ว่าไม่ได้ร่วงจากต้นแบบปกติธรรมดาอย่างแน่นอนเด็กผู้หญิงผมเปียใบหน้าและตามเสื้อผ้ามอมแมมไปด้วยคราบโคลน ดูจากตัวแล้วอายุอานามคงเป็นน้อง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17

บทล่าสุด

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 10 : ความรู้สึกเล็กๆเริ่มก่อตัว

    พรนลัทมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อถูกปล่อยลงให้ยืนในห้องน้ำกว้าง นั่นแหละเลยทำให้เธอรู้ว่าตอนนี้กำลังอยู่ในเรือนเล็กของเจ้าของปางช้าง ยังไม่ทันที่เธอจะจับต้นชนปลายได้ถูก เสียงกดล็อกประตูห้องน้ำก็ทำเอาเธอสะดุ้งตกใจ พอหันกลับไปมองคนที่ล็อกประตูก็ต้องเบิกตาโต เมื่อเขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกทั้งแถวแล้วถอดออกจากตัวเหวี่ยงทิ้งไปที่ตะกร้ามุมหนึ่งของห้องน้ำ คนตัวเล็กต้องรีบหันหลังซ่อนใบหน้าแดงแจ๋ไปทางผนังห้องน้ำ‘แล้วเป็นบ้าอะไรเนี่ย มาแก้ผ้าต่อหน้าทำไม!’คนหน้าแดงค่อนขอดอยู่ภายในใจ ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะเอื้อนเอ่ยออกไป ร่างสูงใหญ่ที่ตอนนี้เหลือเพียงผ้าขนหนูพันกายท่อนล่าง ก็ก้าวมายันฝ่ามือกับผนังห้องน้ำข้างหัวไหล่มนทั้งสองด้าน เพื่อกักร่างบางไว้ในวงแขน พรนลัทจึงหันกลับมาทำสีหน้าแตกตื่น พลางถอยหลังเบียดไปกับผนังห้องน้ำ นี่ถ้าเธอล่องหนหายไปได้เธอคงทำไปแล้ว“ทะ…ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย ฉันไม่เล่นนะ!”“ใครว่าผมเล่น ผมจะอาบน้ำต่างหาก”“ก็อาบไปสิ จะให้ฉันมาอยู่ตรงนี้ทำไมล่ะ”คนตัวเล็กช้อนตาขึ้นมองพร้อมกับเถียงคอเป็นเอ็นอย่างไม่ลดละ แถมยังทำหน้ายับยุ่ง จนคนมองได้แต่กระตุกยิ้มร้ายที่มุมปากพาลนึกในใจ‘แสบ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 9 : ฤทธิ์แม่ตัวแสบ

    ร่างอรชรในชุดเสื้อยืดสีดำพอดีตัวกับกางเกงผ้าฝ้ายขาสั้นสีน้ำตาลอ่อนกำลังนั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้หวายลักษณะคล้ายตัวเล็กภายในห้องสอนศิลปะ วันนี้ไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรมากมาย อาจเพราะเป็นวันธรรมดานักท่องเที่ยวจึงจะน้อยกว่า วันเสาร์-อาทิตย์ พรนลัทกำลังก้มหน้าก้มตาขีดๆเขียนๆ บนไอแพดเครื่องบางอย่างสบายอารมณ์เนื่องจากหญิงสาวได้ออกแบบลายกระเป๋าผ้าสำหรับวางสินค้าขายในปางช้าง โดยมีตัวแบบแสนน่ารักอย่างเจ้าไข่ตุ๋น แถมยังได้คนงานผู้หญิงในปางช้างมาคอยช่วยเย็บปักลวดลายเล็กๆน้อยๆ อีกด้วย เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับคนงาน โดยกระเป๋าผ้าลายน่ารักๆ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวรวมไปถึงแม่เลี้ยงสรณ์สิริที่นำกระเป๋าผ้าใบต้นแบบไปอวดให้กับบรรดาคุณหญิงคุณนายในมูลนิธิช่วยเด็กยากไร้ จนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีแต่คนหลั่งไหลเข้ามาสั่งไม่ขาดสาย เธอจึงคิดว่ารายได้ทั้งหมดหักค่าแรงให้คนงานแล้วที่เหลือก็จะมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กที่ขัดสนทุนทรัพย์ในมูลนิธิของแม่เลี้ยงอีกด้วยพรนลัทค่อยๆ บิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยขบของร่างกายที่นั่งทำงานมาเป็นเวลานาน ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นนาฬิกาบนฝาผนังบ่งบอกเวลาสี่โมงเย็น ซึ่งเธอได้นัดแนะ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 8 : จิงโจ้ออสเตรเลีย ปะทะ ช้างแมมมอธป่า

    รถคันใหญ่เคลื่อนตัวเข้ามาจอดในโรงจอดรถของบ้าน หัวคิ้วเข้มของหัสดินทร์ต้องขมวดเป็นปมด้วยความสงสัย เมื่อสายตาคมของเขาสบเข้ากับรถสปอร์ตคันหรูจอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน บ่งบอกว่ามีแขกมาบ้านของเขาอย่างแน่นอน สองหนุ่มสาวเดินเคียงคู่กันเข้ามายังห้องโถงกลางบ้านก็ต้องได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกของบุพการีและแขกออกรสออกชาติอย่างสนุกสนานในห้องรับแขกขนาดใหญ่ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อโปโลคอปกสีเข้มกับกางเกงขาสั้นพอดีเข่าสีครีมกำลังนั่งจ้อกับแม่เลี้ยงสรณ์สิริ และพ่อเลี้ยงหิรัญ ชายหนุ่มหันหน้ามาทางประตูของห้องรับแขก ดวงตาของเขาสบเข้ากับสองร่างต่างไซส์เดินเคียงกันเข้ามา เขาก็รีบลุกขึ้นมาพร้อมกับแย้มยิ้มกว้างและเดินมากอดคอหัสดินทร์“มาทำไมวะ บ้านไม่มีอยู่หรือไง”“มีอยู่เว้ย แต่ไม่มีวิวสวยๆให้ดูแบบนี้ สวยด้วยเด็กด้วย โคตรแจ่ม”‘จิรสิน’ หรือ ‘จิงโจ้’ ลูกพี่ลูกน้องของหัสดินทร์ เขาชอบให้เรียกว่า ‘โจ้’ มากกว่า เอ่ยกระซิบข้างใบหูของคนมีศักดิ์เป็นพี่ที่ห่างกันแค่หนึ่งปี ตัวเองก็เลยปีนเกลียวทำเป็นรุ่นเดียวกัน น้ำเสียงกระเซ้าเย้าแหย่ พลางเหล่ไปมองร่างเล็กใบหน้าสวยหวานที่ยืนข้างๆ ด้วยความสนใจ“อย่ามาปากดี ไอ้เวรโจ้ สาระแน

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 7 : เจ้าไข่ตุ๋น

    ช่วงสี่โมงเย็น พรนลัทชวนสาลี่ปั่นจักรยานลัดเลาะไปทางซอยด้านหลังของบ้าน ที่สามารถขี่เลาะทางลูกรังเล็กๆไปถึงปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลได้ ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นสนสามใบเรียงรายเขียวขจี ทำให้พอมีร่มเงาไม่ร้อนจนเกินไป บวกกับอากาศช่วงหน้าฝนที่เชียงใหม่ค่อนข้างจะชุ่มชื้นไม่ได้แห้งแล้งสองสาวพากันเข้ามาจอดจักรยานพิงต้นไม้ใหญ่ จากนั้นก็พากันเดินชมธรรมชาติในปางช้าง เนื่องจากตั้งแต่พรนลัทเริ่มทำงานก็ยังไม่ได้มาทัวร์ที่นี่ให้รอบเลย เธอจึงไหว้วานให้สาลี่เป็นไกด์กิตติมศักดิ์ในวันนี้ หญิงสาวตื่นตาตื่นใจกับบ้านพักโซนรีสอร์ทมาก บ้านพักทั้งสิบหลังถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขาทั้งสี่ด้าน เสมือนบ้านอยู่ตรงกลางท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามโครงสร้างทั้งหมดทำมาจากไม้ การออกแบบคล้ายกระท่อมเล็กๆในป่าใหญ่ ค่อนข้างแข็งแรง ด้านหน้ามีระเบียงเปิดโล่งยื่นออกมา ส่วนด้านหลังก็ติดกับลำธารขนาดเล็กที่น้ำไหลมาจากเทือกเขา ทุกเช้าจะมีบรรดาช้างออกมาเดินตรงลานหญ้ามารับกล้วยและผลไม้อื่นๆที่นักท่องเที่ยวอยากให้อาหาร ยิ่งเป็นจุดเด่นทำให้สถานที่แห่งนี้มีเอกลักษณ์ จนนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมาไม่ขาดสาย ถึงขนาดต้องจองห้องพักกันข้ามปีเลยทีเด

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 6 : ลึกๆ ก็แอบห่วง

    พรนลัทเดินออกมาสงบสติอารมณ์คุกรุ่นของตัวเอง จนกระทั่งรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาเธอจึงแบมือออกมาดูก็พบว่าฝ่ามือเล็กมีรอยเหมือนเศษแก้วบาดเป็นแผลทางยาว แต่ไม่ได้ลึกมากขนาดต้องเย็บ คงเป็นเศษแก้วที่ตกลงมาแตกแล้วกระเด็นมาโดนมือเธอตอนที่ล้มหญิงสาวมารู้สึกเจ็บเมื่อเห็นบาดแผล อาจเป็นเพราะตอนนั้นเธอทั้งโมโหทั้งโกรธบวกกับแผลยังคงชาจนลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ เธอจึงเดินไปที่ก๊อกน้ำแล้วทำการล้างแผลและพันด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก จากนั้นก็เดินกลับไปยังห้องเรือนประชาสัมพันธ์เธอสวนกับร่างสูงของเจ้าของปางช้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดวงตาสองคู่ต่างอารมณ์ จ้องกันนิ่งอย่างไม่มีใครยอมหลบ ฝ่ายหนึ่งรู้สึกผิดที่พูดจารุนแรง อีกคนก็เฉยเมยและยอมเป็นฝ่ายเมินหน้าหนี พรนลัทจึงไม่เห็นดวงตาคมเข้มก้มลงไปมองมือเล็กที่มีผ้าเช็ดหน้าพันเอาไว้อยู่ชั่วครู่ แล้วทำท่าจะเอ่ยถามอะไรสักอย่าง หากแต่คนตัวเล็กเลือกที่จะเดินไปหาสาวน้อยคนสนิทอย่างรวดเร็วจากนั้นบรรยากาศการทำงานในปางช้างก็ขมุกขมัวราวกับจะมีพายุโหมกระหน่ำอย่างไรอย่างนั้น เจ้านายหนุ่มมีสีหน้าเรียบตึงไปร่วมทำงานกับคนงานที่ท้ายปางช้าง ส่วนพรนลัทกลับเข้าไปทำงานของตัวเองในห้องสอนศิลปะเง

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 5 : ขิงก็ร่า ข่าก็แรง

    บ้านหลังใหญ่ของครอบครัวศิลปการสกุล ไม่สิ! ต้องเรียกเป็นคฤหาสน์เลยก็ว่าได้ เพราะทั้งกว้างใหญ่ติดกับทะเลสาปเล็กๆและมีสวนดอกไม้เบ่งบานสวยงามหลากหลายสายพันธ์ บ้านหลังนี้อยู่ห่างจากปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลประมาณห้ากิโลเมตร สามารถขับรถหรือปั่นจักรยานลัดเลาะไปตามถนนเล็กๆด้านหลังได้มีอีกเรื่องหนึ่งที่พรนลัทพึ่งได้รู้จากผู้เป็นป้าคือเส้นทางที่หัสดินทร์พาเธอมาในวันแรกเป็นทางด้านหลังของปางช้าง ที่ส่วนใหญ่มักจะให้ควาญช้างจูงช้างไปเดินออกกำลังกาย เท่านี้ก็ทำให้รู้แล้วว่าชายหนุ่มตั้งใจกลั่นแกล้งเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันร่างบางทรุดนั่งลงบนปลายเตียงนอนหลังใหญ่ โดยมีสาลี่คอยช่วยจัดข้าวของของเธอเข้าที่ให้เรียบร้อยตามคำสั่งของแม่เลี้ยงสรณ์สิริ ก่อนเสียงหวานจะเอ่ยถามสาวใช้เกี่ยวกับเรื่องที่เธอข้องใจสงสัย“สาลี่ ถามอะไรหน่อยสิ”“ถามเยอะๆก็ได้ค่ะ คุณน้ำผึ้ง” สาลี่เอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะหันมาจ้องใบหน้าสวยใสของเจ้านายสาวคนใหม่“บ้านพักหลังเล็กมีผีจริงป่ะ”“ตั้งแต่สาลี่โตมาจนเป็นสาวอยู่ที่นี่มาไม่เคยไม่ผีหรอกค่ะ พี่ชงนมก็อำเล่นไปอย่างนั้นแหละ คุณน้ำผึ้งสบายใจได้”“แต่เมื่อคืนฉันได้ยินเสียงคนเคาะประตู กับเห็นเงาตะ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 4 : ก็เจ๊ากันไปแล้วกัน

    ยามราตรีท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงดาราส่องสว่าง มีเพียงอัสนีบาตที่พาดผ่านมาเป็นระยะ ผ่านไปไม่ถึงนาทีฝนก็กระหน่ำตกลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา ด้วยความที่เป็นบ้านไม้ทำให้พรนลัทได้ยินเสียงน้ำฝนตกกระทบไม้กระดานหน้าระเบียงบ้าน พร้อมกับเสียงกบเสียงเขียดร้องระงมรับพิรุณ ยังทำให้เธอจินตนาการไปถึงเรื่องเล่าที่ได้ฟังมาจากคนงานหนุ่มเมื่อตอนเย็นหญิงสาวนอนเหยียดยาวตัวแข็งทื่ออยู่บนเตียงนอนที่ทั้งแข็งทั้งเย็น พลางใช้ปลายเท้าเล็กของตัวเองเขี่ยๆเอาผ้าแพรเนื้อลื่นขึ้นมาห่มจรดจนถึงคอหอย ดวงตากลมโตสอดส่ายไปทั่วห้องเล็กๆ โดยมีแสงสีเหลืองอ่อนจากหลอดไฟที่ห้อยระย้าจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่ ขยับตามแรงลมของพายุฝนที่อยู่ข้างนอกทว่าจู่ๆ เธอก็ดันได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาเดินอยู่รอบๆบ้านพัก คำบอกเล่าของชงนมก็เข้ามากัดกินหัวใจดวงน้อยของเธอให้หวาดหวั่น ความคิดฟุ้งซ่านเข้ามาในหัวเต็มไปหมด กระทั่งต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงกระหน่ำเคาะที่ประตูห้องสามถึงสี่ที~ ก๊อกๆ ก๊อกๆ ~“ใครอ่ะ?”พรนลัทตะโกนแข่งกับเสียงฝนที่ตกไม่มีพักอยู่ข้างนอก แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมา ยิ่งทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ หญิงสาวพนมมือขึ้นแล้วสวดมนต์ผิดๆถูกๆ บ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 3 : แค่เห็นก็เหม็นขี้หน้า

    ร่างสูงใหญ่สวมเสื้อกล้ามสีดำทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นสวมกางเกงยีนส์ตัวเก่งสีซีดพาตัวเองมายังโรงจอดรถขนาดใหญ่ เป็นจังหวะเดียวกันกับลูกน้องคนสนิทขี่ซาเล้งพ่วงข้างเลี้ยวเข้ามายังบริเวณที่เขากำลังยืนอยู่ ชายหนุ่มจึงโบกมือเรียกดัก ทำเอาเจ้าชงนมถึงกับเบรกรถหน้าแทบทิ่ม “มีอะไรหรือเปล่าครับนาย”“มึงจะไปไหนไอ้ชงนม”“ผมเอาผักปรังกับใบส้มป่อยมาให้แม่เลี้ยงครับ เห็นว่าวันมะรืนนายแม่จะให้ป้าฟองจันทร์ทำแกงโฮะต้อนรับคุณครูน้ำผึ้งครับ”ชงนมเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่ม แล้วคลี่ยิ้มกว้างอวดทั้งฟันทั้งเหงือกให้คนเป็นนายได้ยล ดูท่าแม่ของเขาจะเตรียมอาหารไว้เป็นอย่างดี คงคิดว่าหลังกลับมาจากลำปางจะต้อนรับหลานสาวแบบจัดเต็มซิท่า ก่อนชายหนุ่มจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“วันนี้แม่ให้มึงไปรับน้ำผึ้งใช่ไหม”“ใช่ครับ นายช้างมีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่า”“เปล่า แต่กูจะเป็นคนไปรับเอง แล้วก็ยืมรถมึงด้วย”คนเป็นเจ้านายแจ้งความประสงค์ เล่นเอาลูกน้องคนสนิทอ้าปากหวอ อดที่จะทำหน้าสงสัยไม่ได้“ห๊ะ! ไปรับเอง แล้วจะยืมไอ้แก่ขาเฟี้ยวของผมไปด้วยเนี่ยนะครับ รถในบ้าน…”ยังไม่ทันที่ชงนมจะพูดจบ ดวงตาคมกริบของคนเป็นนายปรายตามามอง ก็ทำ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 2 : ชนวนเหตุเสียวหู

    ร่างสูงผอมสมส่วนในวัยยี่สิบปีเดินออกมาหามุมคุยโทรศัพท์ เนื่องจากมีสายเข้าจากเพื่อนคนสนิทในมหาวิทยาลัยโทรมาพูดคุยเรื่องงานที่ต้องทำส่งอาจารย์ ชายหนุ่มเดินถือโทรศัพท์มือถือลัดเลาะไปตามคันร่องสวนมะม่วงและชมพู่ ซึ่งวันนี้ครอบครัวของหัสดินทร์แวะเวียนมาเยี่ยมทิพย์อาภาที่บ้านสวนจังหวัดนนทบุรีทว่าจังหวะที่หัสดินทร์กำลังลอดซุ้มต้นชมพู่ขนาดใหญ่ ซึ่งมีกิ่งก้านแผ่ไพศาลให้ร่มเงาแก่ทางเดินที่เขากำลังเดินผ่าน ก็มีอะไรบางอย่างหล่นตุ้บลงมาตรงหน้า เฉียดศีรษะของเขาไปหวุดหวิด พร้อมกับเสียงเล็กตะโกนร้องบอกเสียงดังลั่น“เฮ้ย! มดแดง”คนตัวโตกว่าก้มมองลงไปก็เห็นเป็นรังมดแดงถูกห่อหุ้มด้วยใบของต้นชมพู่ จากขนาดรังใหญ่พอสมควรตกอยู่ตรงหน้าเท้าของเขา ถ้าชายหนุ่มเดินเร็วกว่านี้อีกนิด รับรองได้ว่าเจ้ามดแดงได้เข้าไปทำรังรุมกัดเขาทั้งตัวเป็นแน่หัสดินทร์จึงก้มไปหยิบกิ่งไม้มาเขี่ยรังมดแดงไปไว้อีกด้านของคันร่องสวน แล้วก็เงยหน้าขึ้นไปมองสาเหตุที่แท้จริงของรังมดแดงที่อยู่ตรงปลายเท้า ดูก็รู้ว่าไม่ได้ร่วงจากต้นแบบปกติธรรมดาอย่างแน่นอนเด็กผู้หญิงผมเปียใบหน้าและตามเสื้อผ้ามอมแมมไปด้วยคราบโคลน ดูจากตัวแล้วอายุอานามคงเป็นน้อง

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status