ร่างอรชรในชุดเสื้อยืดสีดำพอดีตัวกับกางเกงผ้าฝ้ายขาสั้นสีน้ำตาลอ่อนกำลังนั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้หวายลักษณะคล้ายตัวเล็กภายในห้องสอนศิลปะ วันนี้ไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรมากมาย อาจเพราะเป็นวันธรรมดานักท่องเที่ยวจึงจะน้อยกว่า วันเสาร์-อาทิตย์ พรนลัทกำลังก้มหน้าก้มตาขีดๆเขียนๆ บนไอแพดเครื่องบางอย่างสบายอารมณ์
เนื่องจากหญิงสาวได้ออกแบบลายกระเป๋าผ้าสำหรับวางสินค้าขายในปางช้าง โดยมีตัวแบบแสนน่ารักอย่างเจ้าไข่ตุ๋น แถมยังได้คนงานผู้หญิงในปางช้างมาคอยช่วยเย็บปักลวดลายเล็กๆน้อยๆ อีกด้วย เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับคนงาน โดยกระเป๋าผ้าลายน่ารักๆ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว
รวมไปถึงแม่เลี้ยงสรณ์สิริที่นำกระเป๋าผ้าใบต้นแบบไปอวดให้กับบรรดาคุณหญิงคุณนายในมูลนิธิช่วยเด็กยากไร้ จนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีแต่คนหลั่งไหลเข้ามาสั่งไม่ขาดสาย เธอจึงคิดว่ารายได้ทั้งหมดหักค่าแรงให้คนงานแล้วที่เหลือก็จะมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กที่ขัดสนทุนทรัพย์ในมูลนิธิของแม่เลี้ยงอีกด้วย
พรนลัทค่อยๆ บิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยขบของร่างกายที่นั่งทำงานมาเป็นเวลานาน ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นนาฬิกาบนฝาผนังบ่งบอกเวลาสี่โมงเย็น ซึ่งเธอได้นัดแนะกับคนงานหนุ่มว่าจะไปช่วยอาบน้ำล้างคอกให้กับเจ้าไข่ตุ๋น
ทว่าจังหวะที่เธอกำลังลุกขึ้นเก็บอุปกรณ์ลงในกระเป๋าผ้าใบใหญ่ก็สบเข้ากับร่างสูงใหญ่คุ้นตาที่เธอหลบหน้าหลบตามาเกือบสองวัน สืบเนื่องมาจากตั้งแต่ที่เขาแอบช่วงชิงจูบแรกของเธอไป หญิงสาวก็เอาแต่หลบลี้หนีหาย ยามมาทำงานก็อ้างให้ชงนมมารับมาส่ง ซึ่งหัสดินทร์ก็ไม่ได้ว่าแต่อย่างใดดูตามใจเธอเสียด้วยซ้ำ เพราะเขารู้ว่าเธอหลบหน้าด้วยสาเหตุอะไร
คนหนีหน้าพยายามจะลุกเดินหนี หากแต่ถูกมือหนาคว้าข้อมือเล็กไว้แน่น แล้วฉุดให้เธอนั่งลงบนโซฟาเดียวกันกับเขา ก่อนเสียงทุ้มนุ่มจะเอ่ยถาม
“จะรีบไปไหน นั่งคุยกันก่อน”
“คุยอะไรล่ะคะ ฉันจะไปหาชงนม”
พรนลัทอดหวั่นๆกับปฏิกิริยานิ่งๆของเขาไม่ได้ เธอคาดเดาอารมณ์ของเขาไม่ออก ไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหน และเธอก็ไม่รู้ว่าต้องตั้งรับอย่างไร ยิ่งเธอพยายามบิดตัวเบี่ยงหนีก็ถูกท่อนแขนแข็งแรงอีกข้างรั้งเอวคอดไว้เสียแนบแน่น
“น้ำผึ้ง คุณหลบหน้าผมทำไมฮึ”
“ใครหลบ ไม่ได้หลบคุณสักหน่อย”
ปากจิ้มลิ้มเอ่ยขมุบขมิบเบาๆ พลางเบือนหน้าไปมองทางอื่น เพราะเธอก็ไม่รู้จะพูดยังไง ว่าเธอเขินที่ถูกเขาจูบไปตอนนั้น พลันดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเขาโถมร่างหนาทาบทับกักร่างบางของเธอจมไปกับพนักโซฟา ใบหน้าคมคายห่างจากเธอไม่ถึงคืบ
“ไม่หลบ ก็หนีหน้า” เขาพูดชิดใบหน้าเล็กเบาๆ “หรือคุณยังเขินที่ผมจูบครั้งนั้นหรอ”ชายหนุ่มคลี่ยิ้มกริ่มอย่างกวนๆ ทำเอาคนได้ยินอยากจะกรี๊ดใส่หน้า
‘ใครจะหน้าด้านหน้าทนเหมือนคุณกันล่ะ’
หญิงสาวแอบเหน็บคนตรงหน้าในใจ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอดใส่เขาเบาๆ
“จะบ้าหรือไง! ปล่อยได้แล้ว ตัวหนักทับลงมาได้”
ฝ่ามือเรียวเล็กทั้งสองข้างดันแผงอกกว้างแน่นตึงไปด้วยมัดกล้ามเนื้อออกจากตัว ถึงแม้ต่อให้เธอออกแรงมากสักแค่ไหนเขาไม่มีท่าทีจะขยับตัวออกไปเลยสักนิด แถมยังโน้มเข้ามาใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน
หัสดินทร์เห็นสีหน้าตื่นๆ แก้มที่แดงระเรื่อประกอบกับน้ำเสียงสั่นๆ ของคนตัวเล็ก แล้วมันอดแกล้งไม่ได้ มือหนาทั้งสองข้างเอื้อมไปประคองแก้มนุ่มไว้แน่น พลางกระซิบชิดกลีบปากอิ่ม
“งั้นผมจะทำให้คุณชินเอง”
“อื้อ!”
ยังไม่ทันที่พรนลัทจะได้ตั้งตัว เสียงทัดทานที่อยากจะเอ่ยก็กลายเป็นเสียงฮึดฮัดในลำคอแทน เขาบดขยี้กลีบปากอิ่มด้วยความมันเขี้ยว แต่พอเอาเข้าจริงๆ เจอความอ่อนนุ่มของริมฝีปากแดงระเรื่อและกลิ่นกายหอมจรุงใจจนติดจมูก คนคิดจะแกล้งก็หลงลืมตัวจนได้ จูบที่เดิมทีคิดจะแกล้งเล่นก็แปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง ค่อยๆเริ่มทวีความหนักหน่วงเร่าร้อน ปลายลิ้นอุ่นค่อยๆเลาะเล็มและเปิดปากเล็กแทรกเข้าไปตักตวงความหวานในโพรงปากนุ่มอย่างเรียกร้องระคนเอาแต่ใจ
ขณะที่คนโดนจูบจากที่ไม่ทันตั้งตัวแถมอ่อนประสบการณ์ เมื่อถูกเขาชักจูงด้วยจุมพิตอันแสนหวานวาบหวามหัวใจ ก็ยอมตามใจคนเอาแต่ใจในที่สุด พรนลัทปล่อยตัวปล่อยใจไปกับจูบแสนหวานซาบซ่านหัวใจ กว่าคนจูบเอาๆ จะพอใจก็เล่นเอาเธอตัวอ่อนไร้เรี่ยวแรงทิ้งตัวไปกับพนักพิงโซฟากันเลยทีเดียว
หัสดินทร์อาศัยจังหวะของอารมณ์หวิวไหว ชายหนุ่มรั้งร่างละมุนให้ขึ้นมาเกยบนตักกว้าง แล้วกอดเธอไว้กับแผงอกกระด้าง พลางไต่ปากร้อนคลอเคลียขมับบางจวบจนถึงแก้มนวลสีระเรื่อ แล้วกระซิบบอกคนบนตักแผ่วๆ
“ทำตัวให้ชินนะครับ เพราะผมชอบจูบ โดยเฉพาะกับคุณคนเดียว”
พรนลัทรีบดันร่างออกจากแผงอกกำยำ และเบือนหน้าแดงปลั่งราวกับลูกตำลึงสุก หลบสายตาคมกริบที่กำลังจ้องเหมือนจะกลืนกินเธอไปทั้งตัวอย่างสุดแสนจะอาย ปากจิ้มลิ้มยังบ่นอุบอิบไม่ลดละ
“ไม่ชงไม่ชิน ไม่ให้จูบทั้งนั้นแหละ ถอยไปเลยนะ คนเจ้าเล่ห์!”
หญิงสาวกระถดตัวลงจากตักกว้าง พร้อมกับสะบัดหน้าหนีรอยยิ้มทะเล้นของคนข้างๆ หัสดินทร์กำลังแอบขำคนขี้อายทำตัวไม่ถูก ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยเย้าแหย่ออกไป เสียงเรียกชื่อของเขาก็ดังมาแต่ไกล
“ช้างขา วู้ฮู้ อยู่ไหมเอ่ย อยู่ไหนคะ”
พรนลัทหันมาค้อนวงโตให้เขาหนึ่งที แล้วรีบลุกขึ้นจากโซฟาหวาย หากแต่คนตัวสูงก็ยังตามมายืนประกบตัวชิด แถมยังโอบไหล่มนไว้เสียแนบแน่น
“ปล่อยฉันสิ สาวในสต็อกของคุณเดินมาโน้นแล้ว”
“จะไปไหน อยู่ด้วยกันที่นี่ก่อน”
หัสดินทร์ยังแข็งขืนไม่ยอมให้คนตัวเล็กเดินไปไหน เนื่องจากเขาไม่อยากให้เธอเข้าใจผิด ชายหนุ่มจึงส่งสายตาดุแกมร้องขอ ทำให้หญิงสาวไม่สามารถขยับหรือปลีกตัวหนีไปไหนได้
ขณะเดียวกันสาวสวยร่างอวบอัดในชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูอ่อน เนินเนื้ออวบอิ่มที่ล้นทะลัก ดูท่าสาวๆในแคตตาล็อกคงจะเน้น เนื้อ นม ไข่ น่าดู เจ้าหล่อนเดินเฉิดฉายฉีกยิ้มกว้างมาแต่ไกล ก่อนจะมาหยุดยืนทำหน้าฉงนให้กับหนุ่มสาวตรงหน้า
“อุ๊ปส์! ช้างไม่ได้อยู่คนเดียวหรอเนี่ย ว่าแต่สาวน้อยคนสวยนี่ใครหรอคะ”
ทว่ายังไม่ทันที่หัสดินทร์จะเอ่ยแนะนำให้กับสาวสวยลูกครึ่งตรงหน้าได้รับรู้ พรนลัทได้ทีจึงอยากจะแกล้งคนตัวสูง โทษฐานที่เขาแกล้งเธอ ก็อยากจะรู้ว่าหากสาวๆในคอลเล็กชั่นเข้าใจผิดจะเป็นอย่างไร เธอจึงฉวยจังหวะแทรกขึ้นมากลางคัน เล่นเอาชายหนุ่มเกือบหลุดขำแต่ต้องเก็กหน้านิ่งเอาไว้ก่อน
“แฟนค่ะ ใช่ไหมคะที่รัก”
คนสมอ้างเป็น ‘แฟน’ หันมาเงยหน้าฉีกยิ้มหวานหยด เรียกได้ว่าสะกดให้คนได้มองจมอยู่ในภวังค์แห่งความสวยงาม ก่อนเขาจะหลุดจากห้วงแห่งความคิด เมื่อเธอโน้มลำคอแกร่งลงมาใกล้แล้วจูบแก้มสากพลางทำเสียงจุ๊บ! ดังๆ ให้คนตรงหน้าได้ยิน
หัสดินทร์จึงเล่นตามน้ำสวมบทบาทโอบไหล่มนไว้แนบแน่น จนคนที่คิดจะแกล้งเขาตอนแรกได้แต่แข็งขืนบิดตัวออกจากการเกาะกุมของเขา พร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปฉีกยิ้ม พลางพูดลอดไรฟันเบาๆ
“ปล่อยเลยนะ ไอ้คนเจ้าชู้”
ไม่เพียงพูดเปล่าเธอยังกระทุ้งข้อศอกแหลมเล็กเข้าที่หน้าท้องแข็งแรงของเขาอย่างจังไม่ออมแรง ทำเอาคนไม่ทันตั้งตัวสะดุ้งสุดตัว แต่ยังปั้นหน้านิ่งคลี่ยิ้มกว้างน่ามองให้เธออย่างน่าหมั่นไส้ พรนลัทจึงหันไปคลี่ยิ้มบางๆให้กับสาวชุดเดรสตรงหน้า
“งั้นเชิญคุณคุยกับแฟนฉันได้ตามสบายเลยนะคะ ฉันขอตัวก่อน”
ไม่วายหญิงสาวก็หันไปส่งสายตาคาดโทษคนตัวโตที่ยังส่งยิ้มกริ่มมาให้เธอ ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้หน้าหนาทนทานอยู่แบบนี้
‘ยังจะยิ้มอีก อีตาบ้ากามเอ้ย!’
หญิงสาวรีบพาใบหน้าแดงระเรื่อของตัวเองออกไปทันที หัสดินทร์ได้แต่คลี่ยิ้มบางๆ มองตามหลังบาง สิ่งที่เธอทำเมื่อกี้ถ้าเป็นเวลาปกติไม่มีทางที่จะคลี่ยิ้มหวานออดอ้อนแบบนี้เป็นอันขาด ดูท่าเขากำลังโดนฤทธิ์แม่สาวตัวแสบทำพิษแล้วอย่างแน่นอน พอดวงตาคมกริบสบเข้ากับร่างเพรียวบางตรงหน้าที่กำลังส่งสายตาล้อเลียน พร้อมกับคำแซวขำๆ
“ที่ไม่ค่อยมาเจอเพื่อนเจอฝูง เพราะมีสาวงามหน้าหวานซ่อนไว้นี่เอง ดูท่าจะแสบใช่เล่นนะ ถึงทำให้ช้างยิ้มตาเป็นประกายขนาดนี้ ว่างๆต้องไปอัพเดทให้เพื่อนๆรู้จักหน่อยแล้วนะ”
“ไว้จะแนะนำนะ ว่าแต่คุณมาที่นี่มีอะไรหรือเปล่าแนนนี่”
“พอดีจะชวนไปงานเปิดบาร์ของสามีแนนนี่น่ะค่ะ คืนพรุ่งนี้ที่โรงแรม…”
‘แนนนี่’ เป็นเพื่อนสาวเรียนรุ่นเดียวกันกับหัสดินทร์ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษา หล่อนค่อนข้างสนิทกับเขาและพวกเพื่อนรักทั้งสามอย่าง ภูผา เหมันต์ และคิมหันต์ อีกทั้งเมื่อสองปีที่แล้วแนนนี่ได้แต่งงานไปกับนักธุรกิจหนุ่มเจ้าของโรงแรมชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่ และมีโครงการจะเปิดบาร์หรูรูฟท็อปบนชั้นดาดฟ้าของโรงแรม หล่อนและสามีซึ่งสนิทกับหัสดินทร์จึงได้มาชวนให้เขาไปร่วมงาน
“ไว้ผมจะไปนะ”
“ชวนแม่สาวน้อยของคุณไปด้วยสิ ถือว่าพาไปเปิดตัวยังไงล่ะ นานๆทีเสือสุ่มเงียบจะมีพรานสาวพราวเสน่ห์คอยปราบพยศอยู่ข้างๆ”
“เธอน่ะแสบกว่าที่คุณเห็นอีกนะแนนนี่”
หัสดินทร์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ หากแต่ดวงตาสีนิลของเขากลับฉายแววเป็นประกายอ่อนเชื่อม บอกให้รู้ว่าเขารู้สึกอย่างไรกับคนที่เอ่ยถึง
“แสบๆ แบบนี้ ถึงเหมาะกับคุณไง แล้วแนนนี่ไม่เคยเห็นช้างจะมองตามผู้หญิงคนไหน และอยู่ใกล้เธอไม่ห่างไปไหนเท่าคนนี้เลย ดูท่าปางช้างจะมีนายหญิงแล้วแน่นอน”
“เลิกล้อผมได้แล้ว ไว้ว่างๆ พาหลานสาวตัวเล็กของผมมาเที่ยวเล่นที่นี่บ้างสิ”
แนนนี่ยิ้มขำรู้ทันทีว่าเพื่อนจงใจเปลี่ยนเรื่อง หากเจ้าหล่อนก็ยอมปล่อยไป เปลี่ยนหัวข้อสนทนามาคุยเรื่องชีวิตรักหลังแต่งงานแล้วมีโซ่ทองคล้องใจอย่างลูกสาววัยขวบครึ่งอย่างมีความสุข
*****
ขณะเดียวกันทางด้านพรนลัทหลังจากพาตัวเองเดินออกมาจากห้อง ก็อดไม่ได้ที่จะหันหลังกลับไปค้อนลมค้อนอากาศให้กับคนตัวโตอยู่ด้านใน ก่อนจะพาอารมณ์คุกรุ่นของตัวเองไปหาคนงานหนุ่มที่นัดแนะกันไว้ที่ท้ายปางช้าง ช่วงยามเย็นแดดร่มลมตกแบบนี้ เสียงกวาดลานตามพื้นโรงเรือนเลี้ยงช้างดังเป็นระลอกๆ เคล้าคลอไปกับเสียงหยอกล้อพูดคุยกันอย่างสนุกสนานของคนงาน
ชงนมเหลือบเห็นร่างอรชรของเจ้านายสาวก็รีบวางสายยางสำหรับล้างคอกช้างลง แล้วพาใบหน้าคล้ำกร้านแดดเปื้อนรอยยิ้มกว้างเป็นมิตรส่งไปหาทันที
“โทษทีนะชงนม ฉันมาช่วยช้าเลย”
“ไม่เป็นไรครับคุณน้ำผึ้ง ผมยังไม่ทันได้อาบน้ำให้เจ้าไข่ตุ๋นเลย ดูเหมือนมันจะรู้งานนอนรอคุณน้ำผึ้ง ไม่ยอมให้ใครพาไปอาบน้ำเลย”
ชงนมพูดไปยิ้มไป พลางหันไปมองเจ้าช้างตัวน้อยที่นอนอยู่ในโรงเรือนไม่ยอมลุกไปไหน พรนลัทจึงรีบเดินไปทักทายพร้อมกับลูบหัวของมันอย่างเบามือ ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยและหยอกล้อเจ้าลูกช้างอยู่นั้น เสียงคนงานหนุ่มวัยฉกรรจ์ที่อยู่โรงเรือนอีกฝั่งตะโกนเอ่ยทัก
“โอ้โห่! ไอ้ชงนม มึงมีของดีทั้งขาวทั้งสวยมาช่วยทำงานด้วยหรอ งานดีแบบนี้ไม่แนะนำพวกกูให้รู้จักน้องดอกฟ้าคนงามบ้างวะ”
จบคำแซวบรรดาคนงานที่กำลังกวาดล้างคอกช้างก็พากันหัวเราะครื้น บางคนก็เป่าปากจ้องมองไปยังแม่ดอกฟ้าราวกับจะกลืนกิน จะไม่ให้พวกมันแซวกันได้ยังไงก็คุณคนสวยถึงจะไม่ได้แต่งตัวเลิศหรู อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นออกจะเป็นชุดง่ายๆ สบายๆ เหมือนกับอยู่บ้านซะมากกว่า
ทว่าใบหน้าสวยหวานราวกับเทพธิดาองค์น้อยๆ ดวงตากลมโตเปล่งประกายวาววับ รูปร่างก็อรชรอ้อนแอ้นน่าทะนุถนอมไปทั้งเนื้อทั้งตัว จะไม่ให้พวกมันตะลึงได้อย่างไร อีกอย่างพรนลัทก็ไม่เคยมาท้ายปางช้าง เธอมักจะทำงานอยู่แถวโซนด้านหน้า เลยทำให้พวกคนงานหนุ่มวัยฉกรรจ์ไม่มีโอกาสได้พบเจอซะด้วยซ้ำ คนโดนทักจึงหันไปโต้กลับถึงพริกถึงขิง ชนิดที่ไม่ไว้หน้าพวกคนงานด้วยกันเอง
“ไม่เสือกสิวะไอ้จ๋อย ทำงานไปเถอะพวกมึง อย่าปากยื่นปากยาวมาแถวนี้”
“แม่ง! มาอย่างโหด เสือกทำเข้มอยู่ต่อหน้าสาว น้องคนสวยจ๊ะไอ้ชงนมมันแห้งๆ เนื้อหนังก็ไม่ค่อยมี มาอยู่กับพวกพี่รับรองได้ทั้งน้ำได้ทั้งเนื้อเน้นๆ”
ประโยคท้ายของคนงานหนุ่มวัยกลัดมันนามว่า ‘จ๋อย’ ก็จ้องมองสาวน้อยที่ยืนอยู่ข้างๆ ชงนมอย่างกรุ้มกริ่ม ทำเอาพรนลัทวางหน้าไม่ถูก เธออยากจะโยนไม้กวาดทางมะพร้าวในมือของชงนมเข้าไปกลางวงเสียจริงๆ
“สวย ขาว น่าขย้ำจริงๆ แม่คุณเอ๋ย!”
คนงานชายอีกคนก็เอ่ยเสริม พลางเป่าปากพากันหัวเราะอย่างสนุกสนาน คนงานหนุ่มคนสนิทจึงหันมาเอ่ยกับสาวสวยที่อยู่ข้างๆ
“ไปอาบน้ำให้เจ้าไข่ตุ๋นกันดีกว่าครับ อย่าไปสนใจที่พวกมันพูดกันเลย ไม่ค่อยมีพวกสาวๆสวยๆมาแถวนี้บ่อยน่ะครับ พวกมันก็เลยได้แต่เห่า จริงๆปอดแหกไม่กล้ากระโจนเข้ามาหรอกครับ สบายใจได้ ผมอยู่ทั้งคน”
“ขอบคุณนะชงนม”
“นี่ถ้าคุณช้างรู้ว่าพวกไอ้จ๋อยมันแทะโลมคุณน้ำผึ้ง มีหวังพวกมันได้จมตีนกินขี้ช้างแน่นอนครับ”
“เขาจะมาสนใจอะไรฉันล่ะ ตอนนี้มีสาวสวยคอยออดอ้อนออเซาะอยู่ข้างๆ ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องแบบนี้หรอก คนหื่นจอมเจ้าเล่ห์”
น้ำเสียงกระเง้ากระงอดของเจ้านายสาวคนงาม บ่งบอกได้ว่าก่อนมาที่นี่คงมีเรื่องกินแหนงแคลงใจกับเจ้านายหนุ่มมาแหงๆ คนงานหนุ่มอดที่จะแอบยิ้มให้กับความแอบหึงเล็กๆ โดยที่ไม่รู้ตัวจากคนตรงหน้า
“พาเจ้าไข่ตุ๋นออกมาดีกว่า จะได้เริ่มอาบน้ำมันสักที” พรนลัทต้องตัดบทแล้วชวนคนงานหนุ่มเริ่มงานตรงหน้า
ชงนมจึงเดินนำเข้าไปจูงเจ้าลูกช้างตัวน้อยออกมายืนนอกโรงเรือน และให้เจ้านายสาวคนสวยได้อาบน้ำให้กับเจ้าไข่ตุ๋น ส่วนตัวเขาก็ไปจัดการล้างคอกทำความสะอาดคอกช้าง พรนลัทเอาสายยางน้ำมาเปิดราดไปตามเนื้อตามตัวเจ้าช้างตัวน้อย
ขณะเดียวกันชาญชัย ควาญช้างหนุ่มก็พาพังบังอร ซึ่งเป็นแม่ของเจ้าไข่ตุ๋นไปอาบน้ำมาเสร็จเรียบร้อย ก็พาเข้ามายังโรงเรือนข้างๆ จากนั้นเขาก็นำพวกอ้อย ผลไม้ต่างๆ ที่เป็นอาหารให้กับแม่ช้างตัวโตได้กิน ก่อนจะได้ยินเสียงเรียกของคนงานโรงเรือนตรงข้ามกวักมือเรียกรัวๆ
“พี่ชัย พี่ ดูนั่นดิ งานดีขาวโอโม่ เด็กไอ้ชงนมมัน”
คนงานชื่อจ๋อยเอ่ยบอกลูกพี่ตรงหน้า ชาญชัยจึงหันไปตามที่พวกคนงานหนุ่มบุ้ยใบ้ ก็เห็นร่างบางของเจ้านายสาวกำลังช่วยชงนมอาบน้ำให้กับลูกช้าง และทำความสะอาดโรงเรือนอยู่ไม่ไกล
“พวกมึงรู้ได้ไงว่าเด็กไอ้ชงนม” ชาญชัยหันไปเลิกคิ้วถามพวกบรรดาคนงานหนุ่มตรงหน้า
พวกมันนี่หารู้ไม่ว่ากำลังแทะโลมว่าที่นายหญิงของที่นี่ เพราะตั้งแต่เขาทำงานมาเกือบสิบปี ไม่เคยเห็นเจ้านายหนุ่มจะคอยตามติด ดูแลประคบประหงมผู้หญิงคนไหนเท่าพรนลัทมาก่อน ราศีนายหญิงของที่นี่คงไม่ใช่ใครที่ไหน แถมพวกมันทั้งสี่คนดูแล้วดวงชะตาน่าจะถึงฆาตเร็วๆนี้
“ก็ผมเห็นน้องเค้าเดินแจกยิ้มสยามตรงมาหาไอ้ชงนมทันที”
“แต่ที่กูรู้คนนี้ของคุณช้างนะ”
“ฮะ ของนาย!”
จ๋อยทำหน้าตกใจเบิกตาโตกับคำบอกเล่าของรุ่นพี่ควาญช้าง สมองน้อยๆของเขาค่อยๆประมวลผลดูจากลักษณะผิวพรรณดีไม่เหมือนกับคนงานทั่วๆไป และใครๆ ก็รู้ว่าชงนมเป็นสมุนลูกรักของใครถ้าไม่ใช่นายใหญ่ของที่นี่ ดูจากการกุลีกุจอคอยดูแลสาวสวยคนนี้ราวกับนายหญิงอย่างนั้น แค่นี้ก็ชัดแจ้งแดงแจ้แล้ว
ทว่าก็ต้องขวัญผวาอีกระลอก เมื่อได้ยินเสียงทุ้มห้าวทรงอำนาจ แต่ติดห้วนไปนิดโพล่งขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาบรรดาคนงานแตกหือ บ่งบอกให้รู้ว่าพวกมันกำลังเล่นกับของเจ้านาย
“ใช่ของกู พวกมึงมีปัญหาไหม?!”
“ใครจะกล้าล่ะคร้าบ”
คนงานนามว่าจ๋อยหันไปเห็นดวงตาแข็งกร้าวของผู้เป็นนายจ้องเขม็งมา ก็รีบยกมือไหว้ปลกๆ จึงรีบหันไปส่งสัญญาณบอกให้กับเพื่อนร่วมงานอีกสามชีวิต
“ไปสิวะ จะอยู่ให้นายกระทืบหรือไง”
นายจ๋อยตัวตั้งตัวตีเรื่องการแซวหยอกล้อก็รีบใส่เกียร์หมาวิ่งนำเพื่อนที่เหลือชนิดไม่เห็นฝุ่น อีกสามชีวิตก็ไม่รู้จะอยู่ทำไม ไม่งั้นได้กินบาทาเจ้านายแทนอาหารเย็นเป็นแน่ ก็รีบเก็บไม้กวาดทางมะพร้าวเสร็จ ก็พากันโกยหน้าตั้งไปกันคนละทิศละทาง ทำเอาชาญชัยได้เห็นก็หลุดหัวเราะจนตัวงอ
เจ้าของร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำปลดกระดุมลงมาสองถึงสามเม็ด พร้อมกับดึงชายเสื้อออกมาไว้นอกกางเกงยีนส์สีเข้มเนื้อดี เดินเข้าไปหาคนที่กำลังหยอกล้อเล่นอยู่กับเจ้าลูกช้างตัวน้อยวัยสองสัปดาห์ โดยไม่ทันได้สังเกตเห็นการมาถึงของเขา
“เจ้าช้างน้อย แกดูหล่อเหลาเชียวนะ อาบน้ำล้างคราบมอมแมมออกไปหมดแล้ว”
พรนลัทลูบหัวของเจ้าไข่ตุ๋น พลางคลี่ยิ้มเอ็นดูให้กับมัน ส่วนเจ้าช้างตัวน้อยก็ใช้งวงดูดน้ำในอ่างขึ้นมาพ่นใส่เจ้านายสาวตรงหน้าอย่างกับหยอกล้อ
ฟู่! ฟู่!
“พอได้แล้ว เล่นแบบนี้ฉันก็เปียกหมด”
เธอย่นจมูกใส่เจ้าช้างตัวน้อยตรงหน้า จนคนชื่อช้างได้แต่หลุดยิ้มให้กับภาพน่ารักสดใสตรงหน้า หัสดินทร์พาตัวเองไปยืนพิงต้นเสาของโรงเรือน ทอดสายตาไปกับร่างอรชรที่กำลังอาบน้ำเจ้าลูกช้างอย่างเพลิดเพลิน
“แกนี่มันน่ารักกว่าเจ้าของแกเป็นไหนๆ แหม…แค่พอมีคนมาพูดช้างคะ ช้างขา ก็อ่อนระทวย เชอะ! ไอ้คนเจ้าชู้”
“ด่าผมกับไอ้ไข่ตุ๋นมันไม่รู้เรื่องหรอกนะคุณ ถ้าอยากจะด่ากันมานี่มา”
คนกำลังอาบน้ำช้างเพลินๆ แถมยังได้หลอกด่าเจ้าของปางช้างก็สะดุ้งสุดตัว ก็ใครจะไปคิดว่าคนที่เธอกำลังแอบนินทาจะอยู่ตรงนี้ พรนลัทปั้นสีหน้าเรียบตึงหันไปมองอีกฝ่ายอย่างกวนๆ ก่อนจะสะบัดหน้าหนีทำทีไม่สนใจ
ทว่ายังไม่ทันทีเธอจะได้กลับไปหยอกล้อกับเจ้าช้างตัวน้อย ร่างบางก็ปลิวถลาเข้าไปชิดร่างสูงใหญ่ทันที สองมือน้อยรีบยกขึ้นดันแผงอกกว้างด้วยสีหน้าตื่นๆ
“อย่าทำอะไรบ้าๆนะ ฉันจะอาบน้ำให้ไข่ตุ๋น”
“ทำอะไรบ้าๆที่ไหน แบบนี้คนเป็นแฟนกันเขาทำต่างหาก”
“ใครเป็นแฟนคุณ อย่ามาขี้ตู่โมเมนะ”
“เอ้า! คุณไง เล่นประกาศต่อหน้าคนอื่นขนาดนั้น”
หัสดินทร์ยังเอ่ยหน้าตายแถมคลี่ยิ้มทะเล้นเจ้าเล่ห์ให้เธออีก มันน่าเอาเล็บตะกุยหน้าหล่อๆของเขาเสียจริง
“ฉันแค่ล้อเล่น”
“ได้ไงคุณ ผมเสียหายนะ แบบนี้ต้องรับผิดชอบรู้ไหม”
พอเห็นว่าเขากำลังก้มหน้าลงมาหมายจะแกล้งทาบทับปากหยักกับกลีบปากนุ่ม หญิงสาวจึงรวบรวมแรงอันน้อยนิดทั้งหมดทั้งผลักทั้งสะบัดตัวหนี พลางกรีดร้องออกมา
“อร้ายยย ไม่ปล่อยใช่ไหม นี่แนะ!”
พรนลัทเอื้อมมือไปวักน้ำที่อยู่ในอ่างสำหรับอาบน้ำลูกช้าง สาดเข้าไปเต็มหน้าเต็มตัวของเขา หัสดินทร์ไม่ทันระวังก็เปียกปอนตามๆกัน ชายหนุ่มลูบน้ำออกจากใบหน้า แล้วส่งสายตาคาดโทษให้อีกฝ่าย ก่อนจะก้าวยาวๆสองทีก็รวบร่างบางที่กำลังยืนหัวเราะเข้ามาใกล้ ทั้งคู่ล้มลุกคลุกคลานจนเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบโคลน
สองคนงานหนุ่มได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายจึงรีบวิ่งมาที่เกิดเหตุ ก็เห็นเจ้านายหนุ่มกอดรัดฟัดเหวี่ยงสาวน้อยคนสวย สภาพทั้งคู่สะบักสะบอม โดยมีเจ้าไข่ตุ๋นพ่นน้ำเล่นด้วยอยู่ไม่ไกล สงสัยมันจะเข้าใจว่าทั้งคู่เล่นกับมันเป็นแน่ ชงนมจึงรีบไปพาลูกช้างออกมา แล้วพากลับเข้าคอก
ขณะเดียวกันชาญชัยก็เข้าไปห้ามหนุ่มสาวตรงหน้า กว่าทั้งคู่จะยอมรามือกันก็เล่นเอาเขาเหงื่อตก หัสดินทร์พอเห็นแม่ตัวแสบจะหนี เขาก็รีบเข้าไปช้อนอุ้มเธอขึ้นมาทั้งตัวแล้วพาดขึ้นบ่าหนา ยิ่งเธอดิ้นแรงโวยวายแค่ไหน เขาก็ยิ่งกอดรัดมากเท่านั้น
“ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะคุณช้าง จะพาฉันไปไหน”
ชายหนุ่มไม่สนใจเสียงหวานกับกำปั้นน้อยๆที่ทุบอยู่ที่แผ่นหลังของเขา หัสดินทร์หันไปบอกลูกน้องคนสนิททั้งสองคน
“ฝากจัดการงานต่อที”
จากนั้นก็หันมาปราบพยศการแผลงฤทธิ์สุดแสบของแม่สาวน้อยที่อยู่บนบ่า ด้วยการเอ่ยขู่ออกไป
“ส่วนคุณก็ไปอาบน้ำ ตัวเปื้อนไปหมดแล้ว อย่าดิ้นอย่าดื้อ ถ้าไม่อยากให้ผมจูบโชว์คนงานทั้งปาง”
คนที่อยู่บนบ่าหยุดดิ้นทันควัน เธอไม่กล้าที่จะมีปากเสียงกับเขาอีกเลย จนยอมให้เขาอุ้มไปเงียบๆ ถ้าเธอเกิดแผลงฤทธิ์ขึ้นมา คนที่ขู่เธอก็ยิ่งทำจริงพูดจริงอยู่ด้วย ขืนต่อกรสร้างเรื่องมีหวังเธอได้อับอายแทรกแผ่นดินหนีแน่ สู้อยู่นิ่งๆเงียบๆ ค่อยหาทางแก้เผ็ดเขาก็ยังไม่สาย…
พรนลัทมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อถูกปล่อยลงให้ยืนในห้องน้ำกว้าง นั่นแหละเลยทำให้เธอรู้ว่าตอนนี้กำลังอยู่ในเรือนเล็กของเจ้าของปางช้าง ยังไม่ทันที่เธอจะจับต้นชนปลายได้ถูก เสียงกดล็อกประตูห้องน้ำก็ทำเอาเธอสะดุ้งตกใจ พอหันกลับไปมองคนที่ล็อกประตูก็ต้องเบิกตาโต เมื่อเขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกทั้งแถวแล้วถอดออกจากตัวเหวี่ยงทิ้งไปที่ตะกร้ามุมหนึ่งของห้องน้ำ คนตัวเล็กต้องรีบหันหลังซ่อนใบหน้าแดงแจ๋ไปทางผนังห้องน้ำ‘แล้วเป็นบ้าอะไรเนี่ย มาแก้ผ้าต่อหน้าทำไม!’คนหน้าแดงค่อนขอดอยู่ภายในใจ ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะเอื้อนเอ่ยออกไป ร่างสูงใหญ่ที่ตอนนี้เหลือเพียงผ้าขนหนูพันกายท่อนล่าง ก็ก้าวมายันฝ่ามือกับผนังห้องน้ำข้างหัวไหล่มนทั้งสองด้าน เพื่อกักร่างบางไว้ในวงแขน พรนลัทจึงหันกลับมาทำสีหน้าแตกตื่น พลางถอยหลังเบียดไปกับผนังห้องน้ำ นี่ถ้าเธอล่องหนหายไปได้เธอคงทำไปแล้ว“ทะ…ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย ฉันไม่เล่นนะ!”“ใครว่าผมเล่น ผมจะอาบน้ำต่างหาก”“ก็อาบไปสิ จะให้ฉันมาอยู่ตรงนี้ทำไมล่ะ”คนตัวเล็กช้อนตาขึ้นมองพร้อมกับเถียงคอเป็นเอ็นอย่างไม่ลดละ แถมยังทำหน้ายับยุ่ง จนคนมองได้แต่กระตุกยิ้มร้ายที่มุมปากพาลนึกในใจ‘แสบ
เวลาเก้าโมงตรง…ณ ห้องประชุมใหญ่ของสตูดิโอ Artis One หลังจบการประชุมคัดเลือกตัวแทนเข้าร่วมโปรเจกต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับรังสรรค์ตัวละครในเกมยอดนิยม ‘Siam’s arena of valor’ หรือที่รู้จักกันในนาม ‘SAV’ เป็นเกมส์แนวโมบาย มีภารกิจต่างๆให้ปกป้องมรดกของไทยอีกทั้งงานนี้ยังได้รับความร่วมมือจากกระทรวงการท่องเที่ยว และผู้พัฒนาเกม ให้ทางสตูดิโออาร์ทติสวันช่วยออกแบบตัวละคร และภาพประกอบในฉาก ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่ค่อนข้างใหญ่และสำคัญเป็นอย่างมากทว่า…ดันไม่ใช่เจ้าของผลงานที่แท้จริงอย่าง ‘พรนลัท เลิศรัตนชัย’ สาวสวยหน้าหวานวัยยี่สิบสี่ปี ดีกรีมือนักวาดภาพตัวประกอบและฉากมือหนึ่งของสตูดิโอ นอกจากมีใบหน้าสวยถูกตาต้องใจหนุ่มๆหลายคนแล้ว เธอยังมีพรสวรรค์ในงานศิลปะเป็นเลิศเรียกว่าเก่งกาจหาตัวจับยากแต่เธอกลับโดนขโมยผลงานไปเป็นของ ‘มธุริน’ เด็กเส้นหลานสาวของท่านประธานเจ้าของสตูดิโอแห่งนี้ ลอกเลียนแบบตัวละครที่เธอออกแบบไปทั้งหมดแล้วดัดแปลงไปเป็นผลงานของตัวเองอย่างหน้าตาเฉย แถมยังนำผลงานไปเสนอให้กับลูกค้าเป็นการส่วนตัว เลยทำให้หล่อนได้เป็นตัวเต็งสำหรับงานในครั้งนี้ไปไม่นานพอคล้อยหลังผู้เข้าประชุมที่ต่างเ
เทอร์เรสกว้างที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสาบและสวนดอกไม้ เป็นมุมโปรดปราณของแม่เลี้ยง ‘สรณ์สิริ’ ซึ่งชอบออกมานั่งเล่นบนเก้าอี้หวายตัวใหญ่ พร้อมกับจิบชาร้อนชื่นชมธรรมชาติ วันนี้ก็เช่นกันต่างตรงที่มีสามีอย่างพ่อเลี้ยง ‘หิรัญ’ วัยหกสิบตอนปลายกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ธุรกิจอยู่ใกล้ๆทั้งคู่สร้างอาณาจักรปางช้าง ‘สรศิลป์ เนเชอรัล’ ขึ้นมาโด่งดังจนมีบรรดานักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติพากันมาเที่ยวชม บ้างก็มาพักที่รีสอร์ทที่นี่เพื่อใกล้ชิดช้างและธรรมชาติ อีกอย่างการจัดการของปางช้างจะเป็นแนวเชิงอนุรักษ์ โดยมีช้างที่เคยปลดระวางจากการลากซุง เร่ร่อน ซึ่งแม่เลี้ยงสรณ์สิริก็รับเข้ามาดูแลไม่ต่ำกว่าสี่สิบถึงห้าสิบตัวนอกจากจะมีแค่ปางช้างแล้ว ประกอบกับความคิดทางธุรกิจของลูกชายและสามีช่วยกันพัฒนาจนปางช้างไม่ได้เป็นแค่สถานที่มาป้อนอาหารสัตว์ใหญ่เท่านั้น ยังมีจัดกิจกรรมทำค่ายให้คนที่สนใจมาเข้าพักที่รีสอร์ทไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ โดยกิจกรรมส่วนใหญ่ที่ทำร่วมกัน คือพาช้างอาบน้ำ เล่นน้ำกับช้าง หรือนั่งบนเสลี่ยงชมธรรมชาติ จวบจนทำการแสดงศิลปะจากช้าง ถือว่าเป็นธุรกิจปางช้างที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียง เป็
ร่างสูงผอมสมส่วนในวัยยี่สิบปีเดินออกมาหามุมคุยโทรศัพท์ เนื่องจากมีสายเข้าจากเพื่อนคนสนิทในมหาวิทยาลัยโทรมาพูดคุยเรื่องงานที่ต้องทำส่งอาจารย์ ชายหนุ่มเดินถือโทรศัพท์มือถือลัดเลาะไปตามคันร่องสวนมะม่วงและชมพู่ ซึ่งวันนี้ครอบครัวของหัสดินทร์แวะเวียนมาเยี่ยมทิพย์อาภาที่บ้านสวนจังหวัดนนทบุรีทว่าจังหวะที่หัสดินทร์กำลังลอดซุ้มต้นชมพู่ขนาดใหญ่ ซึ่งมีกิ่งก้านแผ่ไพศาลให้ร่มเงาแก่ทางเดินที่เขากำลังเดินผ่าน ก็มีอะไรบางอย่างหล่นตุ้บลงมาตรงหน้า เฉียดศีรษะของเขาไปหวุดหวิด พร้อมกับเสียงเล็กตะโกนร้องบอกเสียงดังลั่น“เฮ้ย! มดแดง”คนตัวโตกว่าก้มมองลงไปก็เห็นเป็นรังมดแดงถูกห่อหุ้มด้วยใบของต้นชมพู่ จากขนาดรังใหญ่พอสมควรตกอยู่ตรงหน้าเท้าของเขา ถ้าชายหนุ่มเดินเร็วกว่านี้อีกนิด รับรองได้ว่าเจ้ามดแดงได้เข้าไปทำรังรุมกัดเขาทั้งตัวเป็นแน่หัสดินทร์จึงก้มไปหยิบกิ่งไม้มาเขี่ยรังมดแดงไปไว้อีกด้านของคันร่องสวน แล้วก็เงยหน้าขึ้นไปมองสาเหตุที่แท้จริงของรังมดแดงที่อยู่ตรงปลายเท้า ดูก็รู้ว่าไม่ได้ร่วงจากต้นแบบปกติธรรมดาอย่างแน่นอนเด็กผู้หญิงผมเปียใบหน้าและตามเสื้อผ้ามอมแมมไปด้วยคราบโคลน ดูจากตัวแล้วอายุอานามคงเป็นน้อง
ร่างสูงใหญ่สวมเสื้อกล้ามสีดำทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นสวมกางเกงยีนส์ตัวเก่งสีซีดพาตัวเองมายังโรงจอดรถขนาดใหญ่ เป็นจังหวะเดียวกันกับลูกน้องคนสนิทขี่ซาเล้งพ่วงข้างเลี้ยวเข้ามายังบริเวณที่เขากำลังยืนอยู่ ชายหนุ่มจึงโบกมือเรียกดัก ทำเอาเจ้าชงนมถึงกับเบรกรถหน้าแทบทิ่ม “มีอะไรหรือเปล่าครับนาย”“มึงจะไปไหนไอ้ชงนม”“ผมเอาผักปรังกับใบส้มป่อยมาให้แม่เลี้ยงครับ เห็นว่าวันมะรืนนายแม่จะให้ป้าฟองจันทร์ทำแกงโฮะต้อนรับคุณครูน้ำผึ้งครับ”ชงนมเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่ม แล้วคลี่ยิ้มกว้างอวดทั้งฟันทั้งเหงือกให้คนเป็นนายได้ยล ดูท่าแม่ของเขาจะเตรียมอาหารไว้เป็นอย่างดี คงคิดว่าหลังกลับมาจากลำปางจะต้อนรับหลานสาวแบบจัดเต็มซิท่า ก่อนชายหนุ่มจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“วันนี้แม่ให้มึงไปรับน้ำผึ้งใช่ไหม”“ใช่ครับ นายช้างมีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่า”“เปล่า แต่กูจะเป็นคนไปรับเอง แล้วก็ยืมรถมึงด้วย”คนเป็นเจ้านายแจ้งความประสงค์ เล่นเอาลูกน้องคนสนิทอ้าปากหวอ อดที่จะทำหน้าสงสัยไม่ได้“ห๊ะ! ไปรับเอง แล้วจะยืมไอ้แก่ขาเฟี้ยวของผมไปด้วยเนี่ยนะครับ รถในบ้าน…”ยังไม่ทันที่ชงนมจะพูดจบ ดวงตาคมกริบของคนเป็นนายปรายตามามอง ก็ทำ
ยามราตรีท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงดาราส่องสว่าง มีเพียงอัสนีบาตที่พาดผ่านมาเป็นระยะ ผ่านไปไม่ถึงนาทีฝนก็กระหน่ำตกลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา ด้วยความที่เป็นบ้านไม้ทำให้พรนลัทได้ยินเสียงน้ำฝนตกกระทบไม้กระดานหน้าระเบียงบ้าน พร้อมกับเสียงกบเสียงเขียดร้องระงมรับพิรุณ ยังทำให้เธอจินตนาการไปถึงเรื่องเล่าที่ได้ฟังมาจากคนงานหนุ่มเมื่อตอนเย็นหญิงสาวนอนเหยียดยาวตัวแข็งทื่ออยู่บนเตียงนอนที่ทั้งแข็งทั้งเย็น พลางใช้ปลายเท้าเล็กของตัวเองเขี่ยๆเอาผ้าแพรเนื้อลื่นขึ้นมาห่มจรดจนถึงคอหอย ดวงตากลมโตสอดส่ายไปทั่วห้องเล็กๆ โดยมีแสงสีเหลืองอ่อนจากหลอดไฟที่ห้อยระย้าจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่ ขยับตามแรงลมของพายุฝนที่อยู่ข้างนอกทว่าจู่ๆ เธอก็ดันได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาเดินอยู่รอบๆบ้านพัก คำบอกเล่าของชงนมก็เข้ามากัดกินหัวใจดวงน้อยของเธอให้หวาดหวั่น ความคิดฟุ้งซ่านเข้ามาในหัวเต็มไปหมด กระทั่งต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงกระหน่ำเคาะที่ประตูห้องสามถึงสี่ที~ ก๊อกๆ ก๊อกๆ ~“ใครอ่ะ?”พรนลัทตะโกนแข่งกับเสียงฝนที่ตกไม่มีพักอยู่ข้างนอก แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมา ยิ่งทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ หญิงสาวพนมมือขึ้นแล้วสวดมนต์ผิดๆถูกๆ บ
บ้านหลังใหญ่ของครอบครัวศิลปการสกุล ไม่สิ! ต้องเรียกเป็นคฤหาสน์เลยก็ว่าได้ เพราะทั้งกว้างใหญ่ติดกับทะเลสาปเล็กๆและมีสวนดอกไม้เบ่งบานสวยงามหลากหลายสายพันธ์ บ้านหลังนี้อยู่ห่างจากปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลประมาณห้ากิโลเมตร สามารถขับรถหรือปั่นจักรยานลัดเลาะไปตามถนนเล็กๆด้านหลังได้มีอีกเรื่องหนึ่งที่พรนลัทพึ่งได้รู้จากผู้เป็นป้าคือเส้นทางที่หัสดินทร์พาเธอมาในวันแรกเป็นทางด้านหลังของปางช้าง ที่ส่วนใหญ่มักจะให้ควาญช้างจูงช้างไปเดินออกกำลังกาย เท่านี้ก็ทำให้รู้แล้วว่าชายหนุ่มตั้งใจกลั่นแกล้งเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันร่างบางทรุดนั่งลงบนปลายเตียงนอนหลังใหญ่ โดยมีสาลี่คอยช่วยจัดข้าวของของเธอเข้าที่ให้เรียบร้อยตามคำสั่งของแม่เลี้ยงสรณ์สิริ ก่อนเสียงหวานจะเอ่ยถามสาวใช้เกี่ยวกับเรื่องที่เธอข้องใจสงสัย“สาลี่ ถามอะไรหน่อยสิ”“ถามเยอะๆก็ได้ค่ะ คุณน้ำผึ้ง” สาลี่เอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะหันมาจ้องใบหน้าสวยใสของเจ้านายสาวคนใหม่“บ้านพักหลังเล็กมีผีจริงป่ะ”“ตั้งแต่สาลี่โตมาจนเป็นสาวอยู่ที่นี่มาไม่เคยไม่ผีหรอกค่ะ พี่ชงนมก็อำเล่นไปอย่างนั้นแหละ คุณน้ำผึ้งสบายใจได้”“แต่เมื่อคืนฉันได้ยินเสียงคนเคาะประตู กับเห็นเงาตะ
พรนลัทเดินออกมาสงบสติอารมณ์คุกรุ่นของตัวเอง จนกระทั่งรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาเธอจึงแบมือออกมาดูก็พบว่าฝ่ามือเล็กมีรอยเหมือนเศษแก้วบาดเป็นแผลทางยาว แต่ไม่ได้ลึกมากขนาดต้องเย็บ คงเป็นเศษแก้วที่ตกลงมาแตกแล้วกระเด็นมาโดนมือเธอตอนที่ล้มหญิงสาวมารู้สึกเจ็บเมื่อเห็นบาดแผล อาจเป็นเพราะตอนนั้นเธอทั้งโมโหทั้งโกรธบวกกับแผลยังคงชาจนลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ เธอจึงเดินไปที่ก๊อกน้ำแล้วทำการล้างแผลและพันด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก จากนั้นก็เดินกลับไปยังห้องเรือนประชาสัมพันธ์เธอสวนกับร่างสูงของเจ้าของปางช้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดวงตาสองคู่ต่างอารมณ์ จ้องกันนิ่งอย่างไม่มีใครยอมหลบ ฝ่ายหนึ่งรู้สึกผิดที่พูดจารุนแรง อีกคนก็เฉยเมยและยอมเป็นฝ่ายเมินหน้าหนี พรนลัทจึงไม่เห็นดวงตาคมเข้มก้มลงไปมองมือเล็กที่มีผ้าเช็ดหน้าพันเอาไว้อยู่ชั่วครู่ แล้วทำท่าจะเอ่ยถามอะไรสักอย่าง หากแต่คนตัวเล็กเลือกที่จะเดินไปหาสาวน้อยคนสนิทอย่างรวดเร็วจากนั้นบรรยากาศการทำงานในปางช้างก็ขมุกขมัวราวกับจะมีพายุโหมกระหน่ำอย่างไรอย่างนั้น เจ้านายหนุ่มมีสีหน้าเรียบตึงไปร่วมทำงานกับคนงานที่ท้ายปางช้าง ส่วนพรนลัทกลับเข้าไปทำงานของตัวเองในห้องสอนศิลปะเง
พรนลัทมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อถูกปล่อยลงให้ยืนในห้องน้ำกว้าง นั่นแหละเลยทำให้เธอรู้ว่าตอนนี้กำลังอยู่ในเรือนเล็กของเจ้าของปางช้าง ยังไม่ทันที่เธอจะจับต้นชนปลายได้ถูก เสียงกดล็อกประตูห้องน้ำก็ทำเอาเธอสะดุ้งตกใจ พอหันกลับไปมองคนที่ล็อกประตูก็ต้องเบิกตาโต เมื่อเขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกทั้งแถวแล้วถอดออกจากตัวเหวี่ยงทิ้งไปที่ตะกร้ามุมหนึ่งของห้องน้ำ คนตัวเล็กต้องรีบหันหลังซ่อนใบหน้าแดงแจ๋ไปทางผนังห้องน้ำ‘แล้วเป็นบ้าอะไรเนี่ย มาแก้ผ้าต่อหน้าทำไม!’คนหน้าแดงค่อนขอดอยู่ภายในใจ ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะเอื้อนเอ่ยออกไป ร่างสูงใหญ่ที่ตอนนี้เหลือเพียงผ้าขนหนูพันกายท่อนล่าง ก็ก้าวมายันฝ่ามือกับผนังห้องน้ำข้างหัวไหล่มนทั้งสองด้าน เพื่อกักร่างบางไว้ในวงแขน พรนลัทจึงหันกลับมาทำสีหน้าแตกตื่น พลางถอยหลังเบียดไปกับผนังห้องน้ำ นี่ถ้าเธอล่องหนหายไปได้เธอคงทำไปแล้ว“ทะ…ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย ฉันไม่เล่นนะ!”“ใครว่าผมเล่น ผมจะอาบน้ำต่างหาก”“ก็อาบไปสิ จะให้ฉันมาอยู่ตรงนี้ทำไมล่ะ”คนตัวเล็กช้อนตาขึ้นมองพร้อมกับเถียงคอเป็นเอ็นอย่างไม่ลดละ แถมยังทำหน้ายับยุ่ง จนคนมองได้แต่กระตุกยิ้มร้ายที่มุมปากพาลนึกในใจ‘แสบ
ร่างอรชรในชุดเสื้อยืดสีดำพอดีตัวกับกางเกงผ้าฝ้ายขาสั้นสีน้ำตาลอ่อนกำลังนั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้หวายลักษณะคล้ายตัวเล็กภายในห้องสอนศิลปะ วันนี้ไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรมากมาย อาจเพราะเป็นวันธรรมดานักท่องเที่ยวจึงจะน้อยกว่า วันเสาร์-อาทิตย์ พรนลัทกำลังก้มหน้าก้มตาขีดๆเขียนๆ บนไอแพดเครื่องบางอย่างสบายอารมณ์เนื่องจากหญิงสาวได้ออกแบบลายกระเป๋าผ้าสำหรับวางสินค้าขายในปางช้าง โดยมีตัวแบบแสนน่ารักอย่างเจ้าไข่ตุ๋น แถมยังได้คนงานผู้หญิงในปางช้างมาคอยช่วยเย็บปักลวดลายเล็กๆน้อยๆ อีกด้วย เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับคนงาน โดยกระเป๋าผ้าลายน่ารักๆ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวรวมไปถึงแม่เลี้ยงสรณ์สิริที่นำกระเป๋าผ้าใบต้นแบบไปอวดให้กับบรรดาคุณหญิงคุณนายในมูลนิธิช่วยเด็กยากไร้ จนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีแต่คนหลั่งไหลเข้ามาสั่งไม่ขาดสาย เธอจึงคิดว่ารายได้ทั้งหมดหักค่าแรงให้คนงานแล้วที่เหลือก็จะมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กที่ขัดสนทุนทรัพย์ในมูลนิธิของแม่เลี้ยงอีกด้วยพรนลัทค่อยๆ บิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยขบของร่างกายที่นั่งทำงานมาเป็นเวลานาน ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นนาฬิกาบนฝาผนังบ่งบอกเวลาสี่โมงเย็น ซึ่งเธอได้นัดแนะ
รถคันใหญ่เคลื่อนตัวเข้ามาจอดในโรงจอดรถของบ้าน หัวคิ้วเข้มของหัสดินทร์ต้องขมวดเป็นปมด้วยความสงสัย เมื่อสายตาคมของเขาสบเข้ากับรถสปอร์ตคันหรูจอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน บ่งบอกว่ามีแขกมาบ้านของเขาอย่างแน่นอน สองหนุ่มสาวเดินเคียงคู่กันเข้ามายังห้องโถงกลางบ้านก็ต้องได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกของบุพการีและแขกออกรสออกชาติอย่างสนุกสนานในห้องรับแขกขนาดใหญ่ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อโปโลคอปกสีเข้มกับกางเกงขาสั้นพอดีเข่าสีครีมกำลังนั่งจ้อกับแม่เลี้ยงสรณ์สิริ และพ่อเลี้ยงหิรัญ ชายหนุ่มหันหน้ามาทางประตูของห้องรับแขก ดวงตาของเขาสบเข้ากับสองร่างต่างไซส์เดินเคียงกันเข้ามา เขาก็รีบลุกขึ้นมาพร้อมกับแย้มยิ้มกว้างและเดินมากอดคอหัสดินทร์“มาทำไมวะ บ้านไม่มีอยู่หรือไง”“มีอยู่เว้ย แต่ไม่มีวิวสวยๆให้ดูแบบนี้ สวยด้วยเด็กด้วย โคตรแจ่ม”‘จิรสิน’ หรือ ‘จิงโจ้’ ลูกพี่ลูกน้องของหัสดินทร์ เขาชอบให้เรียกว่า ‘โจ้’ มากกว่า เอ่ยกระซิบข้างใบหูของคนมีศักดิ์เป็นพี่ที่ห่างกันแค่หนึ่งปี ตัวเองก็เลยปีนเกลียวทำเป็นรุ่นเดียวกัน น้ำเสียงกระเซ้าเย้าแหย่ พลางเหล่ไปมองร่างเล็กใบหน้าสวยหวานที่ยืนข้างๆ ด้วยความสนใจ“อย่ามาปากดี ไอ้เวรโจ้ สาระแน
ช่วงสี่โมงเย็น พรนลัทชวนสาลี่ปั่นจักรยานลัดเลาะไปทางซอยด้านหลังของบ้าน ที่สามารถขี่เลาะทางลูกรังเล็กๆไปถึงปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลได้ ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นสนสามใบเรียงรายเขียวขจี ทำให้พอมีร่มเงาไม่ร้อนจนเกินไป บวกกับอากาศช่วงหน้าฝนที่เชียงใหม่ค่อนข้างจะชุ่มชื้นไม่ได้แห้งแล้งสองสาวพากันเข้ามาจอดจักรยานพิงต้นไม้ใหญ่ จากนั้นก็พากันเดินชมธรรมชาติในปางช้าง เนื่องจากตั้งแต่พรนลัทเริ่มทำงานก็ยังไม่ได้มาทัวร์ที่นี่ให้รอบเลย เธอจึงไหว้วานให้สาลี่เป็นไกด์กิตติมศักดิ์ในวันนี้ หญิงสาวตื่นตาตื่นใจกับบ้านพักโซนรีสอร์ทมาก บ้านพักทั้งสิบหลังถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขาทั้งสี่ด้าน เสมือนบ้านอยู่ตรงกลางท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามโครงสร้างทั้งหมดทำมาจากไม้ การออกแบบคล้ายกระท่อมเล็กๆในป่าใหญ่ ค่อนข้างแข็งแรง ด้านหน้ามีระเบียงเปิดโล่งยื่นออกมา ส่วนด้านหลังก็ติดกับลำธารขนาดเล็กที่น้ำไหลมาจากเทือกเขา ทุกเช้าจะมีบรรดาช้างออกมาเดินตรงลานหญ้ามารับกล้วยและผลไม้อื่นๆที่นักท่องเที่ยวอยากให้อาหาร ยิ่งเป็นจุดเด่นทำให้สถานที่แห่งนี้มีเอกลักษณ์ จนนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมาไม่ขาดสาย ถึงขนาดต้องจองห้องพักกันข้ามปีเลยทีเด
พรนลัทเดินออกมาสงบสติอารมณ์คุกรุ่นของตัวเอง จนกระทั่งรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาเธอจึงแบมือออกมาดูก็พบว่าฝ่ามือเล็กมีรอยเหมือนเศษแก้วบาดเป็นแผลทางยาว แต่ไม่ได้ลึกมากขนาดต้องเย็บ คงเป็นเศษแก้วที่ตกลงมาแตกแล้วกระเด็นมาโดนมือเธอตอนที่ล้มหญิงสาวมารู้สึกเจ็บเมื่อเห็นบาดแผล อาจเป็นเพราะตอนนั้นเธอทั้งโมโหทั้งโกรธบวกกับแผลยังคงชาจนลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ เธอจึงเดินไปที่ก๊อกน้ำแล้วทำการล้างแผลและพันด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก จากนั้นก็เดินกลับไปยังห้องเรือนประชาสัมพันธ์เธอสวนกับร่างสูงของเจ้าของปางช้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดวงตาสองคู่ต่างอารมณ์ จ้องกันนิ่งอย่างไม่มีใครยอมหลบ ฝ่ายหนึ่งรู้สึกผิดที่พูดจารุนแรง อีกคนก็เฉยเมยและยอมเป็นฝ่ายเมินหน้าหนี พรนลัทจึงไม่เห็นดวงตาคมเข้มก้มลงไปมองมือเล็กที่มีผ้าเช็ดหน้าพันเอาไว้อยู่ชั่วครู่ แล้วทำท่าจะเอ่ยถามอะไรสักอย่าง หากแต่คนตัวเล็กเลือกที่จะเดินไปหาสาวน้อยคนสนิทอย่างรวดเร็วจากนั้นบรรยากาศการทำงานในปางช้างก็ขมุกขมัวราวกับจะมีพายุโหมกระหน่ำอย่างไรอย่างนั้น เจ้านายหนุ่มมีสีหน้าเรียบตึงไปร่วมทำงานกับคนงานที่ท้ายปางช้าง ส่วนพรนลัทกลับเข้าไปทำงานของตัวเองในห้องสอนศิลปะเง
บ้านหลังใหญ่ของครอบครัวศิลปการสกุล ไม่สิ! ต้องเรียกเป็นคฤหาสน์เลยก็ว่าได้ เพราะทั้งกว้างใหญ่ติดกับทะเลสาปเล็กๆและมีสวนดอกไม้เบ่งบานสวยงามหลากหลายสายพันธ์ บ้านหลังนี้อยู่ห่างจากปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลประมาณห้ากิโลเมตร สามารถขับรถหรือปั่นจักรยานลัดเลาะไปตามถนนเล็กๆด้านหลังได้มีอีกเรื่องหนึ่งที่พรนลัทพึ่งได้รู้จากผู้เป็นป้าคือเส้นทางที่หัสดินทร์พาเธอมาในวันแรกเป็นทางด้านหลังของปางช้าง ที่ส่วนใหญ่มักจะให้ควาญช้างจูงช้างไปเดินออกกำลังกาย เท่านี้ก็ทำให้รู้แล้วว่าชายหนุ่มตั้งใจกลั่นแกล้งเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันร่างบางทรุดนั่งลงบนปลายเตียงนอนหลังใหญ่ โดยมีสาลี่คอยช่วยจัดข้าวของของเธอเข้าที่ให้เรียบร้อยตามคำสั่งของแม่เลี้ยงสรณ์สิริ ก่อนเสียงหวานจะเอ่ยถามสาวใช้เกี่ยวกับเรื่องที่เธอข้องใจสงสัย“สาลี่ ถามอะไรหน่อยสิ”“ถามเยอะๆก็ได้ค่ะ คุณน้ำผึ้ง” สาลี่เอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะหันมาจ้องใบหน้าสวยใสของเจ้านายสาวคนใหม่“บ้านพักหลังเล็กมีผีจริงป่ะ”“ตั้งแต่สาลี่โตมาจนเป็นสาวอยู่ที่นี่มาไม่เคยไม่ผีหรอกค่ะ พี่ชงนมก็อำเล่นไปอย่างนั้นแหละ คุณน้ำผึ้งสบายใจได้”“แต่เมื่อคืนฉันได้ยินเสียงคนเคาะประตู กับเห็นเงาตะ
ยามราตรีท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงดาราส่องสว่าง มีเพียงอัสนีบาตที่พาดผ่านมาเป็นระยะ ผ่านไปไม่ถึงนาทีฝนก็กระหน่ำตกลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา ด้วยความที่เป็นบ้านไม้ทำให้พรนลัทได้ยินเสียงน้ำฝนตกกระทบไม้กระดานหน้าระเบียงบ้าน พร้อมกับเสียงกบเสียงเขียดร้องระงมรับพิรุณ ยังทำให้เธอจินตนาการไปถึงเรื่องเล่าที่ได้ฟังมาจากคนงานหนุ่มเมื่อตอนเย็นหญิงสาวนอนเหยียดยาวตัวแข็งทื่ออยู่บนเตียงนอนที่ทั้งแข็งทั้งเย็น พลางใช้ปลายเท้าเล็กของตัวเองเขี่ยๆเอาผ้าแพรเนื้อลื่นขึ้นมาห่มจรดจนถึงคอหอย ดวงตากลมโตสอดส่ายไปทั่วห้องเล็กๆ โดยมีแสงสีเหลืองอ่อนจากหลอดไฟที่ห้อยระย้าจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่ ขยับตามแรงลมของพายุฝนที่อยู่ข้างนอกทว่าจู่ๆ เธอก็ดันได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาเดินอยู่รอบๆบ้านพัก คำบอกเล่าของชงนมก็เข้ามากัดกินหัวใจดวงน้อยของเธอให้หวาดหวั่น ความคิดฟุ้งซ่านเข้ามาในหัวเต็มไปหมด กระทั่งต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงกระหน่ำเคาะที่ประตูห้องสามถึงสี่ที~ ก๊อกๆ ก๊อกๆ ~“ใครอ่ะ?”พรนลัทตะโกนแข่งกับเสียงฝนที่ตกไม่มีพักอยู่ข้างนอก แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมา ยิ่งทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ หญิงสาวพนมมือขึ้นแล้วสวดมนต์ผิดๆถูกๆ บ
ร่างสูงใหญ่สวมเสื้อกล้ามสีดำทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นสวมกางเกงยีนส์ตัวเก่งสีซีดพาตัวเองมายังโรงจอดรถขนาดใหญ่ เป็นจังหวะเดียวกันกับลูกน้องคนสนิทขี่ซาเล้งพ่วงข้างเลี้ยวเข้ามายังบริเวณที่เขากำลังยืนอยู่ ชายหนุ่มจึงโบกมือเรียกดัก ทำเอาเจ้าชงนมถึงกับเบรกรถหน้าแทบทิ่ม “มีอะไรหรือเปล่าครับนาย”“มึงจะไปไหนไอ้ชงนม”“ผมเอาผักปรังกับใบส้มป่อยมาให้แม่เลี้ยงครับ เห็นว่าวันมะรืนนายแม่จะให้ป้าฟองจันทร์ทำแกงโฮะต้อนรับคุณครูน้ำผึ้งครับ”ชงนมเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่ม แล้วคลี่ยิ้มกว้างอวดทั้งฟันทั้งเหงือกให้คนเป็นนายได้ยล ดูท่าแม่ของเขาจะเตรียมอาหารไว้เป็นอย่างดี คงคิดว่าหลังกลับมาจากลำปางจะต้อนรับหลานสาวแบบจัดเต็มซิท่า ก่อนชายหนุ่มจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“วันนี้แม่ให้มึงไปรับน้ำผึ้งใช่ไหม”“ใช่ครับ นายช้างมีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่า”“เปล่า แต่กูจะเป็นคนไปรับเอง แล้วก็ยืมรถมึงด้วย”คนเป็นเจ้านายแจ้งความประสงค์ เล่นเอาลูกน้องคนสนิทอ้าปากหวอ อดที่จะทำหน้าสงสัยไม่ได้“ห๊ะ! ไปรับเอง แล้วจะยืมไอ้แก่ขาเฟี้ยวของผมไปด้วยเนี่ยนะครับ รถในบ้าน…”ยังไม่ทันที่ชงนมจะพูดจบ ดวงตาคมกริบของคนเป็นนายปรายตามามอง ก็ทำ
ร่างสูงผอมสมส่วนในวัยยี่สิบปีเดินออกมาหามุมคุยโทรศัพท์ เนื่องจากมีสายเข้าจากเพื่อนคนสนิทในมหาวิทยาลัยโทรมาพูดคุยเรื่องงานที่ต้องทำส่งอาจารย์ ชายหนุ่มเดินถือโทรศัพท์มือถือลัดเลาะไปตามคันร่องสวนมะม่วงและชมพู่ ซึ่งวันนี้ครอบครัวของหัสดินทร์แวะเวียนมาเยี่ยมทิพย์อาภาที่บ้านสวนจังหวัดนนทบุรีทว่าจังหวะที่หัสดินทร์กำลังลอดซุ้มต้นชมพู่ขนาดใหญ่ ซึ่งมีกิ่งก้านแผ่ไพศาลให้ร่มเงาแก่ทางเดินที่เขากำลังเดินผ่าน ก็มีอะไรบางอย่างหล่นตุ้บลงมาตรงหน้า เฉียดศีรษะของเขาไปหวุดหวิด พร้อมกับเสียงเล็กตะโกนร้องบอกเสียงดังลั่น“เฮ้ย! มดแดง”คนตัวโตกว่าก้มมองลงไปก็เห็นเป็นรังมดแดงถูกห่อหุ้มด้วยใบของต้นชมพู่ จากขนาดรังใหญ่พอสมควรตกอยู่ตรงหน้าเท้าของเขา ถ้าชายหนุ่มเดินเร็วกว่านี้อีกนิด รับรองได้ว่าเจ้ามดแดงได้เข้าไปทำรังรุมกัดเขาทั้งตัวเป็นแน่หัสดินทร์จึงก้มไปหยิบกิ่งไม้มาเขี่ยรังมดแดงไปไว้อีกด้านของคันร่องสวน แล้วก็เงยหน้าขึ้นไปมองสาเหตุที่แท้จริงของรังมดแดงที่อยู่ตรงปลายเท้า ดูก็รู้ว่าไม่ได้ร่วงจากต้นแบบปกติธรรมดาอย่างแน่นอนเด็กผู้หญิงผมเปียใบหน้าและตามเสื้อผ้ามอมแมมไปด้วยคราบโคลน ดูจากตัวแล้วอายุอานามคงเป็นน้อง