แชร์

บทที่ 2 : ชนวนเหตุเสียวหู

ผู้เขียน: แสงลลิณ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-17 20:06:30

ร่างสูงผอมสมส่วนในวัยยี่สิบปีเดินออกมาหามุมคุยโทรศัพท์ เนื่องจากมีสายเข้าจากเพื่อนคนสนิทในมหาวิทยาลัยโทรมาพูดคุยเรื่องงานที่ต้องทำส่งอาจารย์ ชายหนุ่มเดินถือโทรศัพท์มือถือลัดเลาะไปตามคันร่องสวนมะม่วงและชมพู่ ซึ่งวันนี้ครอบครัวของหัสดินทร์แวะเวียนมาเยี่ยมทิพย์อาภาที่บ้านสวนจังหวัดนนทบุรี

ทว่าจังหวะที่หัสดินทร์กำลังลอดซุ้มต้นชมพู่ขนาดใหญ่ ซึ่งมีกิ่งก้านแผ่ไพศาลให้ร่มเงาแก่ทางเดินที่เขากำลังเดินผ่าน ก็มีอะไรบางอย่างหล่นตุ้บลงมาตรงหน้า เฉียดศีรษะของเขาไปหวุดหวิด พร้อมกับเสียงเล็กตะโกนร้องบอกเสียงดังลั่น

“เฮ้ย! มดแดง”

คนตัวโตกว่าก้มมองลงไปก็เห็นเป็นรังมดแดงถูกห่อหุ้มด้วยใบของต้นชมพู่ จากขนาดรังใหญ่พอสมควรตกอยู่ตรงหน้าเท้าของเขา ถ้าชายหนุ่มเดินเร็วกว่านี้อีกนิด รับรองได้ว่าเจ้ามดแดงได้เข้าไปทำรังรุมกัดเขาทั้งตัวเป็นแน่

หัสดินทร์จึงก้มไปหยิบกิ่งไม้มาเขี่ยรังมดแดงไปไว้อีกด้านของคันร่องสวน แล้วก็เงยหน้าขึ้นไปมองสาเหตุที่แท้จริงของรังมดแดงที่อยู่ตรงปลายเท้า ดูก็รู้ว่าไม่ได้ร่วงจากต้นแบบปกติธรรมดาอย่างแน่นอน

เด็กผู้หญิงผมเปียใบหน้าและตามเสื้อผ้ามอมแมมไปด้วยคราบโคลน ดูจากตัวแล้วอายุอานามคงเป็นน้องเขาอยู่หลายปี เธอยังนั่งห้อยขาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่บนกิ่งชมพู่ ซึ่งอยู่สูงกว่าหัวเขาเกือบสองเมตร แม่คุณคงจะโยนรังมดแดงลงมาพลาดเกือบโดนหัวเขา

“นี่น้อง จะเขวี้ยงอะไรลงมาดูตาม้าตาเรือบ้างนะ ถ้ามันโดนขึ้นมาคนอื่นจะเดือดร้อน”

“แล้วใครใช้ให้พี่มาเดินดุมๆ ในสวนบ้านคนอื่นล่ะ”

ประโยคสวนกลับมาอย่างทันควัน ยิ่งทำให้เขารู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากลูกสาวของน้าทิพย์อาภา ดูท่ายายเด็กนี่คงแสบใช่ย่อย

“แล้วที่โยนลงมาหัดขอโทษบ้างสิ ไม่มีใครสอนหรือไง”

“สอน! แต่หนูไม่ผิดนิ พี่ต่างหากเดินไม่รู้จักมอง จริงๆต้องขอบคุณหนูด้วยซ้ำที่เตือนก่อน ไม่อย่างนั้นพี่คงคันคะเยอจนเซตกน้ำข้างร่องสวนไปแล้ว”

เด็กน้อยวัยแปดขวบพูดไปด้วยขณะที่กำลังปีนลงจากกิ่งต้นชมพู่ ก่อนจะกระโดดลงมายืนประจันหน้ากับคนตัวโตกว่า ดวงตากลมโตจ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ

“นี่ยายเปี๊ยก นอกจากไม่ขอโทษแล้วยังจะเถียงคอเป็นเอ็นอีก เธอนี่เป็นเด็กยังไงฮะ”

“ก็เป็นเด็กที่ยืนอยู่ตรงหน้าพี่นี่ไง”

ยายตัวกะเปี๊ยกทำท่าเอียงคอมองพลางจ้องเขาตาแป๋วใสซื่อ แถมเหยียดยิ้มกวนๆ ทำเอาหัสดินทร์อยากจะสั่งสอนเด็กตัวจิ๋วนี่สักหน่อย เขาเอื้อมมือไปหยิกแก้มใสด้วยความมันเขี้ยว ทำเอาสาวน้อยไม่ทันตั้งตัวตกใจร้องลั่น

“โอ้ย! แล้วพี่หยิกแก้มหนูทำไม”

“ก็สั่งสอนเด็กอย่างเธอไง ว่าหัดมีมารยาท อย่าเถียงผู้ใหญ่”

“แต่ผู้ใหญ่แบบพี่มันน่าเถียงนี่น่า” พรนลัทยังคงเถียงหน้าตาย “แล้วพี่ดันมาทำให้หนูเจ็บ พี่ก็ต้องเจ็บเหมือนกัน” น้ำเสียงคาดโทษของคนตัวเล็กไม่ทำให้เขาสะทกสะท้านสักนิด กลับหัวเราะร่วน

ทว่าเสียงหัวเราะต้องเปลี่ยนเป็นตกตะลึง เพราะเพียงแค่ชั่ววินาที! เด็กน้อยตัวกะเปี๊ยกก็แปลงร่างกายเป็นนินจาจิ๋วกระโดดเข้ามารวบลำคอหนา แล้วเกี่ยวท่อนขาเล็กไว้กับรอบเอวสอบอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับใช้ฟันแหลมคมงับเข้าที่ใบหูของเขาอย่างเต็มแรง 

“โอ๊ยยยย! ยายเปี๊ยก กัดหูพี่ พี่เจ็บนะเว้ย”

หัสดินทร์ร้องออกมาเสียงหลงดังลั่นสวน ทำเอาบรรดาบุพการีที่กำลังชื่นชมความงามของธรรมชาติต่างแตกตื่นตกใจรีบพากันมายังบริเวณที่เกิดเหตุ ทว่าภาพตรงหน้าทำเอาทั้งสามชีวิตที่พึ่งมาใหม่ตกตะลึง

เมื่อเห็นลูกสาวและลูกชายซัดกันนัว คนน้องก็ดึงกระจุกผมของพี่ ส่วนคนเป็นพี่ก็หยิกแก้มของน้องไม่ปล่อยช่างเป็นภาพที่ชุลมุนมะรุมมะตุ้มกันไปหมด กว่าจะแยกทั้งคู่ออกจากกันได้ เรียกได้ว่าทำเอาคนเป็นพ่อแม่ถึงกับเหนื่อยหอบ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เขม่นไม่ชอบขี้หน้ากันจนกว่าครอบครัวของหัสดินทร์จะกลับไปยังเชียงใหม่

ตกลงเราจำน้องน้ำผึ้งได้หรือยัง

ประโยคเอ่ยถามของแม่เลี้ยงสรณ์สิริฉุดให้ชายหนุ่มหลุดออกจากภวังค์ แล้วจ้องมองใบหน้าของมารดาด้วยสายตานิ่งๆ คาดเดาอารมณ์ไม่ถูก ก่อนจะเอ่ยตอบ

“จำได้ครับ จำได้แม่นเลย ว่าแต่ครูคนใหม่ของแม่เค้าจบอะไรมาถึงอยากมาเป็นครูสอนศิลปะที่ปางช้างเรา”

“น้องจบศิลปกรรมศาสตร์ ทำงานเป็นศิลปินวาดภาพประกอบที่สตูดิโอชื่อดังอย่าง Artis One ไงพอจะมาทำงานที่ปางช้างของเราได้ไหม”

คนเป็นมารดาเอ่ยยิ้มๆ พลางตบบ่าหนาของลูกชายเบาๆ ทำเอาหัสดินทร์ถึงกับอึ้งกิมกี่ ใครจะไปคิดว่ายายเด็กตัวกะเปี๊ยกจอมแสบในตอนนั้น จะมีความสามารถครบเครื่องขนาดนี้

แต่จะให้เขาไว้ใจเลยก็เป็นไปไม่ได้ เพราะงานที่ปางช้างก็ไม่ใช่ง่ายๆ เหมือนปอกกล้วยเข้าปาก อุปสรรคมีมาให้ทดสอบอยู่เสมอ โดยเฉพาะอุปสรรคตัวใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มแบบเขา

“ผมก็หวังว่าครูคนใหม่ของแม่จะเจ๋งเหมือนที่ปากว่านะครับ”

หัสดินทร์แอบแขวะคนที่ยังไม่ทันได้เห็นหน้า หากแต่คนเป็นมารดารู้ว่าเจ้าลูกตัวโตยังฝังใจเรื่องในวันวาน แล้วรีบเอ่ยดักทางไว้แต่เนิ่นๆ

“น้องเจ๋งแน่นอนจ๊ะ ถ้าไม่มีใครมาคอยแกล้งคิดจะเล่นพิเรนท์กับน้อง เราก็ด้วยเลิกเจ้าคิดเจ้าแค้นเป็นเด็กๆไปได้แล้วนะตาช้าง ป่านนี้น้องเค้าจำไม่ได้แล้วมั้ง อีกอย่างนะน้องมาอยู่กับเราครั้งนี้มาเพื่อพักใจ โปรดให้ความสงบแก่น้องน้ำผึ้งด้วย เข้าใจไหมพ่อตัวดี”

“ผมจะไปทำอะไรเขาได้ แม่เล่นออกตัวปกป้องล้อฟรีขนาดนี้”

“จ๊ะ ให้มันจริง” แม่เลี้ยงสรณ์สิริค้อนขวับให้กับลูกชายทันที ก่อนจะเอ่ยเมื่อนึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้อีกเรื่อง

“เมื่อกี้แม่เจอไอ้ชงนมก็ลืมบอกมัน พรุ่งนี้ว่าจะวานให้เจ้าชงนมมันไปรับหนูน้ำผึ้งที่ท่ารถในเมืองซักหน่อย ยังไงฝากช้างไปบอกมันหน่อยล่ะกันนะลูก”

พลันความคิดจอมเจ้าเล่ห์ของหัสดินทร์ก็ผุดขึ้นมา เมื่อได้ยินสิ่งที่มารดาเอ่ย เขาแทบจะหลุดยิ้มขำให้กับความคิดของตัวเอง แต่ก็ยังพยายามเก็กหน้านิ่งเอาไว้เหมือนเดิม

“ไว้ผมเจอมันเย็นนี้แล้วจะบอกให้นะครับ”

คนเป็นมารดากำลังจะปล่อยลูกชายให้ขึ้นไปอาบน้ำชำระคราบเหงื่อไคล ก็ดันนึกขึ้นมาได้อีกเรื่องดูท่าช่วงนี้นางต้องกินเม็ดเก๋ากี้สักหน่อยแล้ว

“อ้อ เกือบลืม! รับน้องเสร็จแล้วให้มาพักกับเราที่บ้านใหญ่นะลูก แม่ให้เด็กจัดห้องไว้ให้แล้วอยู่ปีกด้านขวา พรุ่งนี้แม่กับพ่อจะไปธุระที่ลำปางสองวัน ฝากช้างดูแลน้องแทนทีนะ”

“โอเคครับ ผมจะดูแลอย่างดี”

“ขอบใจจ๊ะลูกรัก”

แม่เลี้ยงคนงามเอื้อมมือขึ้นไปตบแก้มครึ้มไรหนวดของลูกชายเบาๆ ด้วยความเย้าแหย่ พลางคลี่ยิ้มกว้างอย่างถูกอกถูกใจ แล้วเดินจากไปยังห้องหนังสือ

ขณะเดียวกันดวงตาสีนิลคมกริบก็ฉายแววเจ้าเล่ห์มองตามแผ่นหลังของมารดา พลางพึมพำหมายหัวแม่สาวน้อยที่กำลังจะมาเป็นว่าที่คุณครูสอนศิลปะคนใหม่

“เห็นทีคราวนี้เราคงต้องสนุกกันหน่อยแล้ว โทษฐานที่เธอทำให้ฉันหลอนจนเสียวหู ยายตัวแสบ!”

*****

ภายในห้องนอนหลังเล็กพรนลัทกำลังนั่งพับเสื้อผ้าและเก็บของใช้จำเป็นสำหรับเดินทางลงกระเป๋าใบใหญ่เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปพักอาศัยและพักใจที่ปางช้างของคุณป้าผู้มีพระคุณช่วงเช้ามืดพรุ่งนี้ เธอแอบรู้สึกรู้สึกโหวงๆอยู่ภายในใจอย่างบอกไม่ถูก เนื่องจากเธอไม่เคยไปไหนไกล แถมยังไปอยู่ห่างจากคนเป็นมารดานานๆเลยสักครั้ง อดที่จะห่วงทิพย์อาภาไม่ได้ แม้ว่าจะมีป้าแหววและน้องจี๊ดคอยดูแลก็ตาม

ร่างท้วมในชุดคอกระเช้ากับผ้าถุงก้าวเข้ามาทรุดนั่งอยู่ตรงปลายเตียงมองลูกสาวกำลังเก็บของเงียบๆ ก่อนนางทิพย์อาภาจะช่วยเก็บของชิ้นเล็กชิ้นน้อยลงกระเป๋า พลางเอ่ยชวนคุย

“ป้าสรจัดให้คนมารับน้ำผึ้งแล้วนะลูก ไปอยู่นั่นก็อย่าดื้ออย่าซนเหมือนอยู่กับแม่ล่ะ”

“แม่นั่นแหละ อย่าดื้อแอบไปทำงานในสวนตอนน้ำผึ้งไม่อยู่รู้ไหม คอยดูนะน้ำผึ้งจะโทรมาถามน้องจี๊ดกับป้าแหววทุกชั่วโมงเลย”

“เกินไปจ๊ะ”

นางทิพย์อาภาเอื้อมมือไปลูบศีรษะเล็กของลูกสาวด้วยความเอ็นดู พลางแย้มยิ้มอย่างอบอุ่นหัวใจ นางรู้ดีว่าลูกสาวทั้งรักและเป็นห่วงขนาดไหน

“แป๊บๆ ก็หมดเดือนๆหนึ่งแล้ว น้ำผึ้งก็จะได้กลับมาหาแม่แล้ว”

“หมดเดือนเร็วนะใช่ แต่เค้าจะรับกลับเข้าทำงานอีกไหมนี่ก็อีกเรื่อง”

“โห่ แม่แอบช็อตฟีล ลูกสาวของแม่ออกจะเก่งยังไงก็ได้กลับไปทำงานแน่นอน”

พรนลัทหลุดยิ้มให้กับประโยคเย้าแหย่ของมารดา พลางลุกขึ้นนำกระเป๋าสองใบไปวางไว้ตรงมุมหนึ่งของห้อง แล้วมานั่งกอดมารดาอยู่บนเตียงนอนอย่างออดอ้อน

“อยู่โน้นก็ต้องกินข้าวให้ครบทุกมื้อนะลูก คิดถึงแม่ก็โทรมาเข้าใจไหม”

“ค่า ใครจะลืมคุณนายทิพย์ได้ลงคอ”

รับคำจบก็มาพร้อมกับปลายจมูกโด่งรั้นฝังลงบนพวงแก้มอวบของผู้เป็นแม่อย่างเต็มรัก แล้วซุกใบหน้าสวยใสไว้กับซอกคอนุ่ม

“รีบนอนได้แล้วเรา พรุ่งนี้เจ้าเจย์มารับแต่เช้า”

เนื่องจากพรุ่งนี้พรนลัทต้องเดินทางออกจากบ้านสวนตั้งแต่เช้ามืด เธอจึงนัดแนะรุ่นน้องคนสนิทให้มารับและพาไปส่งที่สนามบิน

“รับทราบค่ะ”

ลูกสาวคนสวยคลี่ยิ้มหวานแล้วผละออกจากอ้อมกอดมารดา หญิงสาวเดินไปส่งแม่ตรงหน้าประตูห้อง และไม่ลืมที่จะหอมแก้มอีกครั้งเป็นการส่งเข้านอน ขณะเดียวกันนางทิพย์อาภาก็ทำได้เพียงอมยิ้ม พลางโคลงศีรษะให้กับลูกอ้อนของลูกสาว

พรนลัทพาตัวเองมายังเตียงนอนนุ่ม แล้วหยิบตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวใหญ่มานอนกอด ก่อนจะเอื้อมมือไปปิดโคมไฟสีเหลืองอ่อนบริเวณหัวเตียง หลังจากไฟดับลงห้องทั้งห้องก็มืดมิดมีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องสว่างสะท้อนจากหน้าต่างเข้ามายังในห้องนอน

ในหัวของเธอตอนนี้คิดไม่ตกว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร การเปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวัน จะเป็นการเริ่มต้นที่ดีหรือเปล่า ความคิดสะระตะเข้ามาในหัวตีกันจนฟุ้งซ่าน

ทว่าการตัดสินใจไปครั้งนี้ก็เพื่อฟื้นฟูจิตใจของเธอที่ทำงานหนักมาทั้งปี แต่โดนคนมือดีขโมยผลงานไป ไม่ว่าจะต้องเจอกับอะไร เธอก็พร้อมจะเผชิญและเรียนรู้ เมื่อคิดได้ดังนั้นสาวน้อยก็ค่อยๆหลับตาลง เพียงไม่ถึงนาทีเธอก็หลับใหลเข้าสู่ห้วงนิทราไปในที่สุด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 3 : แค่เห็นก็เหม็นขี้หน้า

    ร่างสูงใหญ่สวมเสื้อกล้ามสีดำทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นสวมกางเกงยีนส์ตัวเก่งสีซีดพาตัวเองมายังโรงจอดรถขนาดใหญ่ เป็นจังหวะเดียวกันกับลูกน้องคนสนิทขี่ซาเล้งพ่วงข้างเลี้ยวเข้ามายังบริเวณที่เขากำลังยืนอยู่ ชายหนุ่มจึงโบกมือเรียกดัก ทำเอาเจ้าชงนมถึงกับเบรกรถหน้าแทบทิ่ม “มีอะไรหรือเปล่าครับนาย”“มึงจะไปไหนไอ้ชงนม”“ผมเอาผักปรังกับใบส้มป่อยมาให้แม่เลี้ยงครับ เห็นว่าวันมะรืนนายแม่จะให้ป้าฟองจันทร์ทำแกงโฮะต้อนรับคุณครูน้ำผึ้งครับ”ชงนมเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่ม แล้วคลี่ยิ้มกว้างอวดทั้งฟันทั้งเหงือกให้คนเป็นนายได้ยล ดูท่าแม่ของเขาจะเตรียมอาหารไว้เป็นอย่างดี คงคิดว่าหลังกลับมาจากลำปางจะต้อนรับหลานสาวแบบจัดเต็มซิท่า ก่อนชายหนุ่มจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“วันนี้แม่ให้มึงไปรับน้ำผึ้งใช่ไหม”“ใช่ครับ นายช้างมีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่า”“เปล่า แต่กูจะเป็นคนไปรับเอง แล้วก็ยืมรถมึงด้วย”คนเป็นเจ้านายแจ้งความประสงค์ เล่นเอาลูกน้องคนสนิทอ้าปากหวอ อดที่จะทำหน้าสงสัยไม่ได้“ห๊ะ! ไปรับเอง แล้วจะยืมไอ้แก่ขาเฟี้ยวของผมไปด้วยเนี่ยนะครับ รถในบ้าน…”ยังไม่ทันที่ชงนมจะพูดจบ ดวงตาคมกริบของคนเป็นนายปรายตามามอง ก็ทำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 4 : ก็เจ๊ากันไปแล้วกัน

    ยามราตรีท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงดาราส่องสว่าง มีเพียงอัสนีบาตที่พาดผ่านมาเป็นระยะ ผ่านไปไม่ถึงนาทีฝนก็กระหน่ำตกลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา ด้วยความที่เป็นบ้านไม้ทำให้พรนลัทได้ยินเสียงน้ำฝนตกกระทบไม้กระดานหน้าระเบียงบ้าน พร้อมกับเสียงกบเสียงเขียดร้องระงมรับพิรุณ ยังทำให้เธอจินตนาการไปถึงเรื่องเล่าที่ได้ฟังมาจากคนงานหนุ่มเมื่อตอนเย็นหญิงสาวนอนเหยียดยาวตัวแข็งทื่ออยู่บนเตียงนอนที่ทั้งแข็งทั้งเย็น พลางใช้ปลายเท้าเล็กของตัวเองเขี่ยๆเอาผ้าแพรเนื้อลื่นขึ้นมาห่มจรดจนถึงคอหอย ดวงตากลมโตสอดส่ายไปทั่วห้องเล็กๆ โดยมีแสงสีเหลืองอ่อนจากหลอดไฟที่ห้อยระย้าจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่ ขยับตามแรงลมของพายุฝนที่อยู่ข้างนอกทว่าจู่ๆ เธอก็ดันได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาเดินอยู่รอบๆบ้านพัก คำบอกเล่าของชงนมก็เข้ามากัดกินหัวใจดวงน้อยของเธอให้หวาดหวั่น ความคิดฟุ้งซ่านเข้ามาในหัวเต็มไปหมด กระทั่งต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงกระหน่ำเคาะที่ประตูห้องสามถึงสี่ที~ ก๊อกๆ ก๊อกๆ ~“ใครอ่ะ?”พรนลัทตะโกนแข่งกับเสียงฝนที่ตกไม่มีพักอยู่ข้างนอก แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมา ยิ่งทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ หญิงสาวพนมมือขึ้นแล้วสวดมนต์ผิดๆถูกๆ บ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 5 : ขิงก็ร่า ข่าก็แรง

    บ้านหลังใหญ่ของครอบครัวศิลปการสกุล ไม่สิ! ต้องเรียกเป็นคฤหาสน์เลยก็ว่าได้ เพราะทั้งกว้างใหญ่ติดกับทะเลสาปเล็กๆและมีสวนดอกไม้เบ่งบานสวยงามหลากหลายสายพันธ์ บ้านหลังนี้อยู่ห่างจากปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลประมาณห้ากิโลเมตร สามารถขับรถหรือปั่นจักรยานลัดเลาะไปตามถนนเล็กๆด้านหลังได้มีอีกเรื่องหนึ่งที่พรนลัทพึ่งได้รู้จากผู้เป็นป้าคือเส้นทางที่หัสดินทร์พาเธอมาในวันแรกเป็นทางด้านหลังของปางช้าง ที่ส่วนใหญ่มักจะให้ควาญช้างจูงช้างไปเดินออกกำลังกาย เท่านี้ก็ทำให้รู้แล้วว่าชายหนุ่มตั้งใจกลั่นแกล้งเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันร่างบางทรุดนั่งลงบนปลายเตียงนอนหลังใหญ่ โดยมีสาลี่คอยช่วยจัดข้าวของของเธอเข้าที่ให้เรียบร้อยตามคำสั่งของแม่เลี้ยงสรณ์สิริ ก่อนเสียงหวานจะเอ่ยถามสาวใช้เกี่ยวกับเรื่องที่เธอข้องใจสงสัย“สาลี่ ถามอะไรหน่อยสิ”“ถามเยอะๆก็ได้ค่ะ คุณน้ำผึ้ง” สาลี่เอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะหันมาจ้องใบหน้าสวยใสของเจ้านายสาวคนใหม่“บ้านพักหลังเล็กมีผีจริงป่ะ”“ตั้งแต่สาลี่โตมาจนเป็นสาวอยู่ที่นี่มาไม่เคยไม่ผีหรอกค่ะ พี่ชงนมก็อำเล่นไปอย่างนั้นแหละ คุณน้ำผึ้งสบายใจได้”“แต่เมื่อคืนฉันได้ยินเสียงคนเคาะประตู กับเห็นเงาตะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 6 : ลึกๆ ก็แอบห่วง

    พรนลัทเดินออกมาสงบสติอารมณ์คุกรุ่นของตัวเอง จนกระทั่งรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาเธอจึงแบมือออกมาดูก็พบว่าฝ่ามือเล็กมีรอยเหมือนเศษแก้วบาดเป็นแผลทางยาว แต่ไม่ได้ลึกมากขนาดต้องเย็บ คงเป็นเศษแก้วที่ตกลงมาแตกแล้วกระเด็นมาโดนมือเธอตอนที่ล้มหญิงสาวมารู้สึกเจ็บเมื่อเห็นบาดแผล อาจเป็นเพราะตอนนั้นเธอทั้งโมโหทั้งโกรธบวกกับแผลยังคงชาจนลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ เธอจึงเดินไปที่ก๊อกน้ำแล้วทำการล้างแผลและพันด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก จากนั้นก็เดินกลับไปยังห้องเรือนประชาสัมพันธ์เธอสวนกับร่างสูงของเจ้าของปางช้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดวงตาสองคู่ต่างอารมณ์ จ้องกันนิ่งอย่างไม่มีใครยอมหลบ ฝ่ายหนึ่งรู้สึกผิดที่พูดจารุนแรง อีกคนก็เฉยเมยและยอมเป็นฝ่ายเมินหน้าหนี พรนลัทจึงไม่เห็นดวงตาคมเข้มก้มลงไปมองมือเล็กที่มีผ้าเช็ดหน้าพันเอาไว้อยู่ชั่วครู่ แล้วทำท่าจะเอ่ยถามอะไรสักอย่าง หากแต่คนตัวเล็กเลือกที่จะเดินไปหาสาวน้อยคนสนิทอย่างรวดเร็วจากนั้นบรรยากาศการทำงานในปางช้างก็ขมุกขมัวราวกับจะมีพายุโหมกระหน่ำอย่างไรอย่างนั้น เจ้านายหนุ่มมีสีหน้าเรียบตึงไปร่วมทำงานกับคนงานที่ท้ายปางช้าง ส่วนพรนลัทกลับเข้าไปทำงานของตัวเองในห้องสอนศิลปะเง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 7 : เจ้าไข่ตุ๋น

    ช่วงสี่โมงเย็น พรนลัทชวนสาลี่ปั่นจักรยานลัดเลาะไปทางซอยด้านหลังของบ้าน ที่สามารถขี่เลาะทางลูกรังเล็กๆไปถึงปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลได้ ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นสนสามใบเรียงรายเขียวขจี ทำให้พอมีร่มเงาไม่ร้อนจนเกินไป บวกกับอากาศช่วงหน้าฝนที่เชียงใหม่ค่อนข้างจะชุ่มชื้นไม่ได้แห้งแล้งสองสาวพากันเข้ามาจอดจักรยานพิงต้นไม้ใหญ่ จากนั้นก็พากันเดินชมธรรมชาติในปางช้าง เนื่องจากตั้งแต่พรนลัทเริ่มทำงานก็ยังไม่ได้มาทัวร์ที่นี่ให้รอบเลย เธอจึงไหว้วานให้สาลี่เป็นไกด์กิตติมศักดิ์ในวันนี้ หญิงสาวตื่นตาตื่นใจกับบ้านพักโซนรีสอร์ทมาก บ้านพักทั้งสิบหลังถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขาทั้งสี่ด้าน เสมือนบ้านอยู่ตรงกลางท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามโครงสร้างทั้งหมดทำมาจากไม้ การออกแบบคล้ายกระท่อมเล็กๆในป่าใหญ่ ค่อนข้างแข็งแรง ด้านหน้ามีระเบียงเปิดโล่งยื่นออกมา ส่วนด้านหลังก็ติดกับลำธารขนาดเล็กที่น้ำไหลมาจากเทือกเขา ทุกเช้าจะมีบรรดาช้างออกมาเดินตรงลานหญ้ามารับกล้วยและผลไม้อื่นๆที่นักท่องเที่ยวอยากให้อาหาร ยิ่งเป็นจุดเด่นทำให้สถานที่แห่งนี้มีเอกลักษณ์ จนนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมาไม่ขาดสาย ถึงขนาดต้องจองห้องพักกันข้ามปีเลยทีเด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 8 : จิงโจ้ออสเตรเลีย ปะทะ ช้างแมมมอธป่า

    รถคันใหญ่เคลื่อนตัวเข้ามาจอดในโรงจอดรถของบ้าน หัวคิ้วเข้มของหัสดินทร์ต้องขมวดเป็นปมด้วยความสงสัย เมื่อสายตาคมของเขาสบเข้ากับรถสปอร์ตคันหรูจอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน บ่งบอกว่ามีแขกมาบ้านของเขาอย่างแน่นอน สองหนุ่มสาวเดินเคียงคู่กันเข้ามายังห้องโถงกลางบ้านก็ต้องได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกของบุพการีและแขกออกรสออกชาติอย่างสนุกสนานในห้องรับแขกขนาดใหญ่ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อโปโลคอปกสีเข้มกับกางเกงขาสั้นพอดีเข่าสีครีมกำลังนั่งจ้อกับแม่เลี้ยงสรณ์สิริ และพ่อเลี้ยงหิรัญ ชายหนุ่มหันหน้ามาทางประตูของห้องรับแขก ดวงตาของเขาสบเข้ากับสองร่างต่างไซส์เดินเคียงกันเข้ามา เขาก็รีบลุกขึ้นมาพร้อมกับแย้มยิ้มกว้างและเดินมากอดคอหัสดินทร์“มาทำไมวะ บ้านไม่มีอยู่หรือไง”“มีอยู่เว้ย แต่ไม่มีวิวสวยๆให้ดูแบบนี้ สวยด้วยเด็กด้วย โคตรแจ่ม”‘จิรสิน’ หรือ ‘จิงโจ้’ ลูกพี่ลูกน้องของหัสดินทร์ เขาชอบให้เรียกว่า ‘โจ้’ มากกว่า เอ่ยกระซิบข้างใบหูของคนมีศักดิ์เป็นพี่ที่ห่างกันแค่หนึ่งปี ตัวเองก็เลยปีนเกลียวทำเป็นรุ่นเดียวกัน น้ำเสียงกระเซ้าเย้าแหย่ พลางเหล่ไปมองร่างเล็กใบหน้าสวยหวานที่ยืนข้างๆ ด้วยความสนใจ“อย่ามาปากดี ไอ้เวรโจ้ สาระแน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 9 : ฤทธิ์แม่ตัวแสบ

    ร่างอรชรในชุดเสื้อยืดสีดำพอดีตัวกับกางเกงผ้าฝ้ายขาสั้นสีน้ำตาลอ่อนกำลังนั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้หวายลักษณะคล้ายตัวเล็กภายในห้องสอนศิลปะ วันนี้ไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรมากมาย อาจเพราะเป็นวันธรรมดานักท่องเที่ยวจึงจะน้อยกว่า วันเสาร์-อาทิตย์ พรนลัทกำลังก้มหน้าก้มตาขีดๆเขียนๆ บนไอแพดเครื่องบางอย่างสบายอารมณ์เนื่องจากหญิงสาวได้ออกแบบลายกระเป๋าผ้าสำหรับวางสินค้าขายในปางช้าง โดยมีตัวแบบแสนน่ารักอย่างเจ้าไข่ตุ๋น แถมยังได้คนงานผู้หญิงในปางช้างมาคอยช่วยเย็บปักลวดลายเล็กๆน้อยๆ อีกด้วย เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับคนงาน โดยกระเป๋าผ้าลายน่ารักๆ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวรวมไปถึงแม่เลี้ยงสรณ์สิริที่นำกระเป๋าผ้าใบต้นแบบไปอวดให้กับบรรดาคุณหญิงคุณนายในมูลนิธิช่วยเด็กยากไร้ จนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีแต่คนหลั่งไหลเข้ามาสั่งไม่ขาดสาย เธอจึงคิดว่ารายได้ทั้งหมดหักค่าแรงให้คนงานแล้วที่เหลือก็จะมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กที่ขัดสนทุนทรัพย์ในมูลนิธิของแม่เลี้ยงอีกด้วยพรนลัทค่อยๆ บิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยขบของร่างกายที่นั่งทำงานมาเป็นเวลานาน ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นนาฬิกาบนฝาผนังบ่งบอกเวลาสี่โมงเย็น ซึ่งเธอได้นัดแนะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 10 : ความรู้สึกเล็กๆเริ่มก่อตัว

    พรนลัทมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อถูกปล่อยลงให้ยืนในห้องน้ำกว้าง นั่นแหละเลยทำให้เธอรู้ว่าตอนนี้กำลังอยู่ในเรือนเล็กของเจ้าของปางช้าง ยังไม่ทันที่เธอจะจับต้นชนปลายได้ถูก เสียงกดล็อกประตูห้องน้ำก็ทำเอาเธอสะดุ้งตกใจ พอหันกลับไปมองคนที่ล็อกประตูก็ต้องเบิกตาโต เมื่อเขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกทั้งแถวแล้วถอดออกจากตัวเหวี่ยงทิ้งไปที่ตะกร้ามุมหนึ่งของห้องน้ำ คนตัวเล็กต้องรีบหันหลังซ่อนใบหน้าแดงแจ๋ไปทางผนังห้องน้ำ‘แล้วเป็นบ้าอะไรเนี่ย มาแก้ผ้าต่อหน้าทำไม!’คนหน้าแดงค่อนขอดอยู่ภายในใจ ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะเอื้อนเอ่ยออกไป ร่างสูงใหญ่ที่ตอนนี้เหลือเพียงผ้าขนหนูพันกายท่อนล่าง ก็ก้าวมายันฝ่ามือกับผนังห้องน้ำข้างหัวไหล่มนทั้งสองด้าน เพื่อกักร่างบางไว้ในวงแขน พรนลัทจึงหันกลับมาทำสีหน้าแตกตื่น พลางถอยหลังเบียดไปกับผนังห้องน้ำ นี่ถ้าเธอล่องหนหายไปได้เธอคงทำไปแล้ว“ทะ…ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย ฉันไม่เล่นนะ!”“ใครว่าผมเล่น ผมจะอาบน้ำต่างหาก”“ก็อาบไปสิ จะให้ฉันมาอยู่ตรงนี้ทำไมล่ะ”คนตัวเล็กช้อนตาขึ้นมองพร้อมกับเถียงคอเป็นเอ็นอย่างไม่ลดละ แถมยังทำหน้ายับยุ่ง จนคนมองได้แต่กระตุกยิ้มร้ายที่มุมปากพาลนึกในใจ‘แสบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17

บทล่าสุด

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 10 : ความรู้สึกเล็กๆเริ่มก่อตัว

    พรนลัทมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อถูกปล่อยลงให้ยืนในห้องน้ำกว้าง นั่นแหละเลยทำให้เธอรู้ว่าตอนนี้กำลังอยู่ในเรือนเล็กของเจ้าของปางช้าง ยังไม่ทันที่เธอจะจับต้นชนปลายได้ถูก เสียงกดล็อกประตูห้องน้ำก็ทำเอาเธอสะดุ้งตกใจ พอหันกลับไปมองคนที่ล็อกประตูก็ต้องเบิกตาโต เมื่อเขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกทั้งแถวแล้วถอดออกจากตัวเหวี่ยงทิ้งไปที่ตะกร้ามุมหนึ่งของห้องน้ำ คนตัวเล็กต้องรีบหันหลังซ่อนใบหน้าแดงแจ๋ไปทางผนังห้องน้ำ‘แล้วเป็นบ้าอะไรเนี่ย มาแก้ผ้าต่อหน้าทำไม!’คนหน้าแดงค่อนขอดอยู่ภายในใจ ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะเอื้อนเอ่ยออกไป ร่างสูงใหญ่ที่ตอนนี้เหลือเพียงผ้าขนหนูพันกายท่อนล่าง ก็ก้าวมายันฝ่ามือกับผนังห้องน้ำข้างหัวไหล่มนทั้งสองด้าน เพื่อกักร่างบางไว้ในวงแขน พรนลัทจึงหันกลับมาทำสีหน้าแตกตื่น พลางถอยหลังเบียดไปกับผนังห้องน้ำ นี่ถ้าเธอล่องหนหายไปได้เธอคงทำไปแล้ว“ทะ…ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย ฉันไม่เล่นนะ!”“ใครว่าผมเล่น ผมจะอาบน้ำต่างหาก”“ก็อาบไปสิ จะให้ฉันมาอยู่ตรงนี้ทำไมล่ะ”คนตัวเล็กช้อนตาขึ้นมองพร้อมกับเถียงคอเป็นเอ็นอย่างไม่ลดละ แถมยังทำหน้ายับยุ่ง จนคนมองได้แต่กระตุกยิ้มร้ายที่มุมปากพาลนึกในใจ‘แสบ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 9 : ฤทธิ์แม่ตัวแสบ

    ร่างอรชรในชุดเสื้อยืดสีดำพอดีตัวกับกางเกงผ้าฝ้ายขาสั้นสีน้ำตาลอ่อนกำลังนั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้หวายลักษณะคล้ายตัวเล็กภายในห้องสอนศิลปะ วันนี้ไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรมากมาย อาจเพราะเป็นวันธรรมดานักท่องเที่ยวจึงจะน้อยกว่า วันเสาร์-อาทิตย์ พรนลัทกำลังก้มหน้าก้มตาขีดๆเขียนๆ บนไอแพดเครื่องบางอย่างสบายอารมณ์เนื่องจากหญิงสาวได้ออกแบบลายกระเป๋าผ้าสำหรับวางสินค้าขายในปางช้าง โดยมีตัวแบบแสนน่ารักอย่างเจ้าไข่ตุ๋น แถมยังได้คนงานผู้หญิงในปางช้างมาคอยช่วยเย็บปักลวดลายเล็กๆน้อยๆ อีกด้วย เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับคนงาน โดยกระเป๋าผ้าลายน่ารักๆ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวรวมไปถึงแม่เลี้ยงสรณ์สิริที่นำกระเป๋าผ้าใบต้นแบบไปอวดให้กับบรรดาคุณหญิงคุณนายในมูลนิธิช่วยเด็กยากไร้ จนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีแต่คนหลั่งไหลเข้ามาสั่งไม่ขาดสาย เธอจึงคิดว่ารายได้ทั้งหมดหักค่าแรงให้คนงานแล้วที่เหลือก็จะมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กที่ขัดสนทุนทรัพย์ในมูลนิธิของแม่เลี้ยงอีกด้วยพรนลัทค่อยๆ บิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยขบของร่างกายที่นั่งทำงานมาเป็นเวลานาน ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นนาฬิกาบนฝาผนังบ่งบอกเวลาสี่โมงเย็น ซึ่งเธอได้นัดแนะ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 8 : จิงโจ้ออสเตรเลีย ปะทะ ช้างแมมมอธป่า

    รถคันใหญ่เคลื่อนตัวเข้ามาจอดในโรงจอดรถของบ้าน หัวคิ้วเข้มของหัสดินทร์ต้องขมวดเป็นปมด้วยความสงสัย เมื่อสายตาคมของเขาสบเข้ากับรถสปอร์ตคันหรูจอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน บ่งบอกว่ามีแขกมาบ้านของเขาอย่างแน่นอน สองหนุ่มสาวเดินเคียงคู่กันเข้ามายังห้องโถงกลางบ้านก็ต้องได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกของบุพการีและแขกออกรสออกชาติอย่างสนุกสนานในห้องรับแขกขนาดใหญ่ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อโปโลคอปกสีเข้มกับกางเกงขาสั้นพอดีเข่าสีครีมกำลังนั่งจ้อกับแม่เลี้ยงสรณ์สิริ และพ่อเลี้ยงหิรัญ ชายหนุ่มหันหน้ามาทางประตูของห้องรับแขก ดวงตาของเขาสบเข้ากับสองร่างต่างไซส์เดินเคียงกันเข้ามา เขาก็รีบลุกขึ้นมาพร้อมกับแย้มยิ้มกว้างและเดินมากอดคอหัสดินทร์“มาทำไมวะ บ้านไม่มีอยู่หรือไง”“มีอยู่เว้ย แต่ไม่มีวิวสวยๆให้ดูแบบนี้ สวยด้วยเด็กด้วย โคตรแจ่ม”‘จิรสิน’ หรือ ‘จิงโจ้’ ลูกพี่ลูกน้องของหัสดินทร์ เขาชอบให้เรียกว่า ‘โจ้’ มากกว่า เอ่ยกระซิบข้างใบหูของคนมีศักดิ์เป็นพี่ที่ห่างกันแค่หนึ่งปี ตัวเองก็เลยปีนเกลียวทำเป็นรุ่นเดียวกัน น้ำเสียงกระเซ้าเย้าแหย่ พลางเหล่ไปมองร่างเล็กใบหน้าสวยหวานที่ยืนข้างๆ ด้วยความสนใจ“อย่ามาปากดี ไอ้เวรโจ้ สาระแน

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 7 : เจ้าไข่ตุ๋น

    ช่วงสี่โมงเย็น พรนลัทชวนสาลี่ปั่นจักรยานลัดเลาะไปทางซอยด้านหลังของบ้าน ที่สามารถขี่เลาะทางลูกรังเล็กๆไปถึงปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลได้ ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นสนสามใบเรียงรายเขียวขจี ทำให้พอมีร่มเงาไม่ร้อนจนเกินไป บวกกับอากาศช่วงหน้าฝนที่เชียงใหม่ค่อนข้างจะชุ่มชื้นไม่ได้แห้งแล้งสองสาวพากันเข้ามาจอดจักรยานพิงต้นไม้ใหญ่ จากนั้นก็พากันเดินชมธรรมชาติในปางช้าง เนื่องจากตั้งแต่พรนลัทเริ่มทำงานก็ยังไม่ได้มาทัวร์ที่นี่ให้รอบเลย เธอจึงไหว้วานให้สาลี่เป็นไกด์กิตติมศักดิ์ในวันนี้ หญิงสาวตื่นตาตื่นใจกับบ้านพักโซนรีสอร์ทมาก บ้านพักทั้งสิบหลังถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขาทั้งสี่ด้าน เสมือนบ้านอยู่ตรงกลางท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามโครงสร้างทั้งหมดทำมาจากไม้ การออกแบบคล้ายกระท่อมเล็กๆในป่าใหญ่ ค่อนข้างแข็งแรง ด้านหน้ามีระเบียงเปิดโล่งยื่นออกมา ส่วนด้านหลังก็ติดกับลำธารขนาดเล็กที่น้ำไหลมาจากเทือกเขา ทุกเช้าจะมีบรรดาช้างออกมาเดินตรงลานหญ้ามารับกล้วยและผลไม้อื่นๆที่นักท่องเที่ยวอยากให้อาหาร ยิ่งเป็นจุดเด่นทำให้สถานที่แห่งนี้มีเอกลักษณ์ จนนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมาไม่ขาดสาย ถึงขนาดต้องจองห้องพักกันข้ามปีเลยทีเด

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 6 : ลึกๆ ก็แอบห่วง

    พรนลัทเดินออกมาสงบสติอารมณ์คุกรุ่นของตัวเอง จนกระทั่งรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาเธอจึงแบมือออกมาดูก็พบว่าฝ่ามือเล็กมีรอยเหมือนเศษแก้วบาดเป็นแผลทางยาว แต่ไม่ได้ลึกมากขนาดต้องเย็บ คงเป็นเศษแก้วที่ตกลงมาแตกแล้วกระเด็นมาโดนมือเธอตอนที่ล้มหญิงสาวมารู้สึกเจ็บเมื่อเห็นบาดแผล อาจเป็นเพราะตอนนั้นเธอทั้งโมโหทั้งโกรธบวกกับแผลยังคงชาจนลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ เธอจึงเดินไปที่ก๊อกน้ำแล้วทำการล้างแผลและพันด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก จากนั้นก็เดินกลับไปยังห้องเรือนประชาสัมพันธ์เธอสวนกับร่างสูงของเจ้าของปางช้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดวงตาสองคู่ต่างอารมณ์ จ้องกันนิ่งอย่างไม่มีใครยอมหลบ ฝ่ายหนึ่งรู้สึกผิดที่พูดจารุนแรง อีกคนก็เฉยเมยและยอมเป็นฝ่ายเมินหน้าหนี พรนลัทจึงไม่เห็นดวงตาคมเข้มก้มลงไปมองมือเล็กที่มีผ้าเช็ดหน้าพันเอาไว้อยู่ชั่วครู่ แล้วทำท่าจะเอ่ยถามอะไรสักอย่าง หากแต่คนตัวเล็กเลือกที่จะเดินไปหาสาวน้อยคนสนิทอย่างรวดเร็วจากนั้นบรรยากาศการทำงานในปางช้างก็ขมุกขมัวราวกับจะมีพายุโหมกระหน่ำอย่างไรอย่างนั้น เจ้านายหนุ่มมีสีหน้าเรียบตึงไปร่วมทำงานกับคนงานที่ท้ายปางช้าง ส่วนพรนลัทกลับเข้าไปทำงานของตัวเองในห้องสอนศิลปะเง

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 5 : ขิงก็ร่า ข่าก็แรง

    บ้านหลังใหญ่ของครอบครัวศิลปการสกุล ไม่สิ! ต้องเรียกเป็นคฤหาสน์เลยก็ว่าได้ เพราะทั้งกว้างใหญ่ติดกับทะเลสาปเล็กๆและมีสวนดอกไม้เบ่งบานสวยงามหลากหลายสายพันธ์ บ้านหลังนี้อยู่ห่างจากปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลประมาณห้ากิโลเมตร สามารถขับรถหรือปั่นจักรยานลัดเลาะไปตามถนนเล็กๆด้านหลังได้มีอีกเรื่องหนึ่งที่พรนลัทพึ่งได้รู้จากผู้เป็นป้าคือเส้นทางที่หัสดินทร์พาเธอมาในวันแรกเป็นทางด้านหลังของปางช้าง ที่ส่วนใหญ่มักจะให้ควาญช้างจูงช้างไปเดินออกกำลังกาย เท่านี้ก็ทำให้รู้แล้วว่าชายหนุ่มตั้งใจกลั่นแกล้งเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันร่างบางทรุดนั่งลงบนปลายเตียงนอนหลังใหญ่ โดยมีสาลี่คอยช่วยจัดข้าวของของเธอเข้าที่ให้เรียบร้อยตามคำสั่งของแม่เลี้ยงสรณ์สิริ ก่อนเสียงหวานจะเอ่ยถามสาวใช้เกี่ยวกับเรื่องที่เธอข้องใจสงสัย“สาลี่ ถามอะไรหน่อยสิ”“ถามเยอะๆก็ได้ค่ะ คุณน้ำผึ้ง” สาลี่เอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะหันมาจ้องใบหน้าสวยใสของเจ้านายสาวคนใหม่“บ้านพักหลังเล็กมีผีจริงป่ะ”“ตั้งแต่สาลี่โตมาจนเป็นสาวอยู่ที่นี่มาไม่เคยไม่ผีหรอกค่ะ พี่ชงนมก็อำเล่นไปอย่างนั้นแหละ คุณน้ำผึ้งสบายใจได้”“แต่เมื่อคืนฉันได้ยินเสียงคนเคาะประตู กับเห็นเงาตะ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 4 : ก็เจ๊ากันไปแล้วกัน

    ยามราตรีท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงดาราส่องสว่าง มีเพียงอัสนีบาตที่พาดผ่านมาเป็นระยะ ผ่านไปไม่ถึงนาทีฝนก็กระหน่ำตกลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา ด้วยความที่เป็นบ้านไม้ทำให้พรนลัทได้ยินเสียงน้ำฝนตกกระทบไม้กระดานหน้าระเบียงบ้าน พร้อมกับเสียงกบเสียงเขียดร้องระงมรับพิรุณ ยังทำให้เธอจินตนาการไปถึงเรื่องเล่าที่ได้ฟังมาจากคนงานหนุ่มเมื่อตอนเย็นหญิงสาวนอนเหยียดยาวตัวแข็งทื่ออยู่บนเตียงนอนที่ทั้งแข็งทั้งเย็น พลางใช้ปลายเท้าเล็กของตัวเองเขี่ยๆเอาผ้าแพรเนื้อลื่นขึ้นมาห่มจรดจนถึงคอหอย ดวงตากลมโตสอดส่ายไปทั่วห้องเล็กๆ โดยมีแสงสีเหลืองอ่อนจากหลอดไฟที่ห้อยระย้าจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่ ขยับตามแรงลมของพายุฝนที่อยู่ข้างนอกทว่าจู่ๆ เธอก็ดันได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาเดินอยู่รอบๆบ้านพัก คำบอกเล่าของชงนมก็เข้ามากัดกินหัวใจดวงน้อยของเธอให้หวาดหวั่น ความคิดฟุ้งซ่านเข้ามาในหัวเต็มไปหมด กระทั่งต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงกระหน่ำเคาะที่ประตูห้องสามถึงสี่ที~ ก๊อกๆ ก๊อกๆ ~“ใครอ่ะ?”พรนลัทตะโกนแข่งกับเสียงฝนที่ตกไม่มีพักอยู่ข้างนอก แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมา ยิ่งทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ หญิงสาวพนมมือขึ้นแล้วสวดมนต์ผิดๆถูกๆ บ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 3 : แค่เห็นก็เหม็นขี้หน้า

    ร่างสูงใหญ่สวมเสื้อกล้ามสีดำทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นสวมกางเกงยีนส์ตัวเก่งสีซีดพาตัวเองมายังโรงจอดรถขนาดใหญ่ เป็นจังหวะเดียวกันกับลูกน้องคนสนิทขี่ซาเล้งพ่วงข้างเลี้ยวเข้ามายังบริเวณที่เขากำลังยืนอยู่ ชายหนุ่มจึงโบกมือเรียกดัก ทำเอาเจ้าชงนมถึงกับเบรกรถหน้าแทบทิ่ม “มีอะไรหรือเปล่าครับนาย”“มึงจะไปไหนไอ้ชงนม”“ผมเอาผักปรังกับใบส้มป่อยมาให้แม่เลี้ยงครับ เห็นว่าวันมะรืนนายแม่จะให้ป้าฟองจันทร์ทำแกงโฮะต้อนรับคุณครูน้ำผึ้งครับ”ชงนมเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่ม แล้วคลี่ยิ้มกว้างอวดทั้งฟันทั้งเหงือกให้คนเป็นนายได้ยล ดูท่าแม่ของเขาจะเตรียมอาหารไว้เป็นอย่างดี คงคิดว่าหลังกลับมาจากลำปางจะต้อนรับหลานสาวแบบจัดเต็มซิท่า ก่อนชายหนุ่มจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“วันนี้แม่ให้มึงไปรับน้ำผึ้งใช่ไหม”“ใช่ครับ นายช้างมีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่า”“เปล่า แต่กูจะเป็นคนไปรับเอง แล้วก็ยืมรถมึงด้วย”คนเป็นเจ้านายแจ้งความประสงค์ เล่นเอาลูกน้องคนสนิทอ้าปากหวอ อดที่จะทำหน้าสงสัยไม่ได้“ห๊ะ! ไปรับเอง แล้วจะยืมไอ้แก่ขาเฟี้ยวของผมไปด้วยเนี่ยนะครับ รถในบ้าน…”ยังไม่ทันที่ชงนมจะพูดจบ ดวงตาคมกริบของคนเป็นนายปรายตามามอง ก็ทำ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 2 : ชนวนเหตุเสียวหู

    ร่างสูงผอมสมส่วนในวัยยี่สิบปีเดินออกมาหามุมคุยโทรศัพท์ เนื่องจากมีสายเข้าจากเพื่อนคนสนิทในมหาวิทยาลัยโทรมาพูดคุยเรื่องงานที่ต้องทำส่งอาจารย์ ชายหนุ่มเดินถือโทรศัพท์มือถือลัดเลาะไปตามคันร่องสวนมะม่วงและชมพู่ ซึ่งวันนี้ครอบครัวของหัสดินทร์แวะเวียนมาเยี่ยมทิพย์อาภาที่บ้านสวนจังหวัดนนทบุรีทว่าจังหวะที่หัสดินทร์กำลังลอดซุ้มต้นชมพู่ขนาดใหญ่ ซึ่งมีกิ่งก้านแผ่ไพศาลให้ร่มเงาแก่ทางเดินที่เขากำลังเดินผ่าน ก็มีอะไรบางอย่างหล่นตุ้บลงมาตรงหน้า เฉียดศีรษะของเขาไปหวุดหวิด พร้อมกับเสียงเล็กตะโกนร้องบอกเสียงดังลั่น“เฮ้ย! มดแดง”คนตัวโตกว่าก้มมองลงไปก็เห็นเป็นรังมดแดงถูกห่อหุ้มด้วยใบของต้นชมพู่ จากขนาดรังใหญ่พอสมควรตกอยู่ตรงหน้าเท้าของเขา ถ้าชายหนุ่มเดินเร็วกว่านี้อีกนิด รับรองได้ว่าเจ้ามดแดงได้เข้าไปทำรังรุมกัดเขาทั้งตัวเป็นแน่หัสดินทร์จึงก้มไปหยิบกิ่งไม้มาเขี่ยรังมดแดงไปไว้อีกด้านของคันร่องสวน แล้วก็เงยหน้าขึ้นไปมองสาเหตุที่แท้จริงของรังมดแดงที่อยู่ตรงปลายเท้า ดูก็รู้ว่าไม่ได้ร่วงจากต้นแบบปกติธรรมดาอย่างแน่นอนเด็กผู้หญิงผมเปียใบหน้าและตามเสื้อผ้ามอมแมมไปด้วยคราบโคลน ดูจากตัวแล้วอายุอานามคงเป็นน้อง

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status