Home / โรแมนติก / เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก / บทที่ 1 : ว่าที่ครูศิลปะคนใหม่

Share

บทที่ 1 : ว่าที่ครูศิลปะคนใหม่

last update Last Updated: 2025-01-17 20:04:33

เทอร์เรสกว้างที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสาบและสวนดอกไม้ เป็นมุมโปรดปราณของแม่เลี้ยง ‘สรณ์สิริ’ ซึ่งชอบออกมานั่งเล่นบนเก้าอี้หวายตัวใหญ่ พร้อมกับจิบชาร้อนชื่นชมธรรมชาติ วันนี้ก็เช่นกันต่างตรงที่มีสามีอย่างพ่อเลี้ยง ‘หิรัญ’ วัยหกสิบตอนปลายกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ธุรกิจอยู่ใกล้ๆ

ทั้งคู่สร้างอาณาจักรปางช้าง ‘สรศิลป์ เนเชอรัล’ ขึ้นมาโด่งดังจนมีบรรดานักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติพากันมาเที่ยวชม บ้างก็มาพักที่รีสอร์ทที่นี่เพื่อใกล้ชิดช้างและธรรมชาติ อีกอย่างการจัดการของปางช้างจะเป็นแนวเชิงอนุรักษ์ โดยมีช้างที่เคยปลดระวางจากการลากซุง เร่ร่อน ซึ่งแม่เลี้ยงสรณ์สิริก็รับเข้ามาดูแลไม่ต่ำกว่าสี่สิบถึงห้าสิบตัว

นอกจากจะมีแค่ปางช้างแล้ว ประกอบกับความคิดทางธุรกิจของลูกชายและสามีช่วยกันพัฒนาจนปางช้างไม่ได้เป็นแค่สถานที่มาป้อนอาหารสัตว์ใหญ่เท่านั้น ยังมีจัดกิจกรรมทำค่ายให้คนที่สนใจมาเข้าพักที่รีสอร์ทไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ โดยกิจกรรมส่วนใหญ่ที่ทำร่วมกัน คือพาช้างอาบน้ำ เล่นน้ำกับช้าง หรือนั่งบนเสลี่ยงชมธรรมชาติ จวบจนทำการแสดงศิลปะจากช้าง ถือว่าเป็นธุรกิจปางช้างที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักอันตับต้นๆของจังหวัดเชียงใหม่

ทว่าตอนนี้นางและสามีรามือจากทุกอย่างเพื่อพักผ่อนเที่ยวด้วยกันในวัยเกษียณ ยกให้ลูกชายอย่าง ‘หัสดินทร์ ศิลปการสกุล’ รับช่วงต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ฉันได้ครูศิลปะปางช้างคนใหม่ของเราแล้วค่ะคุณ”

แม่เลี้ยงสรณ์สิริเอ่ยยิ้มๆ พลางยกแก้วน้ำชาขึ้นมาจิบเบาๆ คนเป็นสามีจึงพับหนังสือพิมพ์ลงแล้วเอ่ยถามกลับ

“คนนี้คุณจะไม่วีนแตกแหกอกเค้าอีกใช่ไหม”

หิรัญแอบแซวภรรยาคนงามที่ส่งสายตาค้อนขวับมาให้เขาเสียวงใหญ่ เนื่องจากตำแหน่งครูศิลปะที่ปางช้างมักจะอยู่ได้ไม่เกินเดือน เพราะสาวๆที่มาสมัครไม่ได้ตั้งใจมาสอนศิลปะจริงๆ แต่เล่นมาทอดสะพานให้ลูกชายเป็นประจำ ต้องการสานสัมพันธ์ วันดีคืนดีก็ตามไปสอนศิลปะกันถึงในห้อง ทำงานดีเกินคาดจนคนเป็นมารดาต้องไปถล่ม เล่นเอาพวกสาวน้อยสาวใหญ่ร้อยเล่ห์หนีตายกันอุตลุดชนิดไม่เห็นฝุ่น 

“ไม่แล้วค่ะ คุณน่ะมองฉันเป็นนางมารร้ายไปได้ อีกอย่างคุณครูคนนี้ฉันคัดมากับมือ ลูกสาวคุณทิพย์ไงล่ะคะ”

ภรรยาคลี่ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ นางหลงรักและเอ็นดูแม่หนูน้อยคนนี้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอตอนเด็กน้อยอายุแปดขวบ ความสู้คนพร้อมปกป้องคนรักยังตราตรึงใจแม่เลี้ยงสรณ์สิริไม่หาย

ย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อน นางไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาลแถวจังหวัดนนทบุรี ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายมาจากชายร่างสูงผอมกำลังใช้วาจาทำร้ายจิตใจ ผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนรถเข็นโดยมีเด็กสาวหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาเดาได้ไม่ยากว่าทั้งสามคนคือคนในครอบครัวเดียวกัน

หากแต่คำพูดของชายคนนั้นทำให้นางสรณ์สิริรับไม่ได้เป็นอย่าง ทั้งขู่เข็ญจะเอาเงิน ในขณะที่ภรรยาขาเจ็บนั่งอยู่บนรถเข็นไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะต่อกร ทว่าจู่ๆ ชายผู้นั้นทำท่าจะลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายภรรยาของตัวเอง คนเป็นลูกสาวก็เข้ามากางแขนปกป้องมารดาจนถูกคนเป็นพ่อตบเข้าที่ใบหน้า เด็กน้อยก็สู้ไม่ถอยทั้งกอดมารดาทั้งผลักบิดาที่จะเข้ามาทำร้าย

นั่นจึงเป็นเหตุการณ์ที่สรณ์สิริจำเป็นต้องเข้าไปแทรกแซงเรื่องในครอบครัวของทิพย์อาภาอย่างไม่อาจทนเฉยอยู่ได้ เนื่องจากนางนับถือจิตใจในวัยแปดขวบของพรนลัทที่ไม่เกรงกลัวต่ออะไรทั้งสิ้น พร้อมปกป้องคนที่รักจนสุดกำลังอันน้อยนิดที่มี จึงเป็นเหตุการณ์ที่นางประทับใจตั้งแต่แรกเห็น นางใช้อำนาจและอิทธิพลที่มีจัดการผู้ชายคนนั้นไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวอีก

นับตั้งแต่นั้นมาสรณ์สิริและทิพย์อาภาก็กลายเป็นเพื่อนรักกันมายาวนานจนถึงปัจจุบัน ทั้งคู่ไปมาหาสู่กันอยู่เรื่อยๆ จนแม่เลี้ยงเห็นความน่ารักของหลานสาวที่เติบโตมาเป็นอย่างดี และนางกับสามีก็ถูกชะตากับหลานสาวตัวเล็กอย่างบอกไม่ถูก ทั้งคู่รักและเอ็นดูพรนลัทราวกับลูกแท้ๆเลยก็ว่าได้ 

“อ้อ หนูน้ำผึ้งน่ะหรอ ตอนนี้คงโตเป็นสาวสวยแล้วน่ะสิ แบบนี้คุณทิพย์จะยอมปล่อยให้มาเป็นครูที่ปางช้างเราหรอ”

ประโยคบอกเล่าของสามี ฉุดให้นางหลุดจากภวังค์ที่นึกถึงวันวานในอดีต นางคลี่ยิ้มกว้างไปด้วยความดีใจ พอนึกถึงหลานสาวคนนี้ทีไรอดแอบคิดไม่ได้

ตอนเด็กๆอยากได้เป็นลูกสาว พอโตมาสวยสะพรั่งราวกับดอกไม้แรกแย้มก็อยากจะรักและทะนุถนอมเป็นอย่างดี เหมือนอย่างที่เพื่อนไว้ใจให้นางดูแลลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน

ทว่าด้วยหน้าตาผิวพรรณสวยผ่องเป็นยองใย แถมออกจะสวยสะดุดตาซะขนาดนี้ จากที่ได้เห็นรูปหลานสาวผ่านแชทแอพลิเคชันยอดฮิต ที่นางและเพื่อนใช้ติดต่อกันเป็นประจำ คิดว่าคงจะไม่รอดมือของพ่อลูกชายตัวดีเป็นแน่ เห็นทีงานนี้นางคงต้องเป็นเกราะกำบังชั้นดี ดูแลสาวน้อยที่มาพักใจให้อยู่อย่างมีความสุขตลอดสามเดือนหลังจากนี้ ตามที่ได้รับปากเพื่อนรักอย่างทิพย์อาภาเอาไว้

“มาแน่นอนค่ะ คนสวยๆ เก่งๆ ครบเครื่องอย่างหนูน้ำผึ้ง รับรองเลยว่าปางช้างเราต้องได้รับการตอบรับดีอย่างแน่นอน”

“เรื่องนี้บอกเจ้าช้างหรือยังคุณ ถ้ารายนั้นรู้ว่าคนเก่าถูกคุณเชือด เอาคนใหม่มาเสียบ หนูน้ำผึ้งจะแย่เอานะ”

“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันจะไม่ยอมให้ตาช้างทำเรื่องพิเรนท์ๆใส่หนูน้ำผึ้งเป็นแน่ค่ะ”

“ผมจะเอาใจช่วยแล้วกันนะ” หิรัญเอ่ยยิ้มๆ

อีกสองวันข้างหน้า ปางช้างของเขาก็คงจะมีเรื่องหรรษาเกิดขึ้นไม่เว้นวัน สงสัยวัยเกษียณอันแสนสงบสุขของเขาและภรรยาคงได้มีเรื่องครึกครื้นไม่เว้นวันเป็นแน่ หิรัญคลี่ยิ้มบางๆ พลางยกแก้วกาแฟขึ้นมาดื่ม

*****

โรงเรือนเลี้ยงช้างขนาดใหญ่มีประมาณเกือบสิบหลัง เรียงรายไปด้วยช้างทั้งเพศผู้และเพศเมีย รวมไปถึงเจ้าลูกช้างตัวน้อยๆ ซึ่งโรงเรือนตั้งอยู่ตามจุดต่างๆของอาณาเขตปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัล บรรยากาศด้านในร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ และแหล่งน้ำลำธารที่ไหลให้ความเย็น อีกทั้งเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมไม่ให้ช้างรู้สึกอึดอัด เส้นทางด้านหลังของปางช้างจะมีน้ำตกขนาดใหญ่ ไว้สำหรับทำกิจกรรมอาบน้ำให้ช้าง

การออกแบบโรงเรือนซึ่งทำมาจากไม้ทั้งหมด ประกอบไปด้วยหลังคายกสูงเพื่อให้ลมสามารถพัดผ่านเข้ามาได้ ไม่ทำให้ร้อนและอบอ้าวเกินไป ถัดไปจากโรงเรือนเลี้ยงช้างก็ยังมีโซนที่เป็นรีสอร์ทไว้ให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักแล้วทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนรักสี่ขาตัวใหญ่ และยังมีโซนที่เป็นบ้านพักคนงานอีกด้วย

ช่วงสี่โมงเย็นบริเวณมุมหนึ่งของคอกช้าง เสียงตอกตะปูดังสนั่น คนงานกำลังช่วยกันซ่อมแซมโรงเรือนเลี้ยงช้างหลังเล็กสำหรับลูกช้างที่กำลังจะเกิดจาก ‘พังบังอร’ แม่ช้างท้องแก่ที่อีกไม่นานจะให้กำเนิดลูกช้างตัวน้อยออกมา

ร่างสูงสง่าในชุดกางเกงยีนส์ขายาวกับเสื้อกล้ามสีขาวซึ่งชื้นไปด้วยเหงื่อเต็มแผงอกและแผ่นหลังกว้างนั้นเล็กน้อย หากมันไม่ได้ดูน่ารังเกียจเลยสักนิด เรียกได้ว่าน่ามองจนไม่อาจละสายไปได้

เสื้อกล้ามที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อนั้นมันยิ่งเน้นให้เห็นแผงอกแน่นหนั่นกับกล้ามท้องเป็นลอนสวย จนทำเอาบรรดาคนงานสาวๆ แอบลอบกลืนน้ำลายแล้วมองเคลิ้มเป็นตาเดียว

“อีลำดวน! จ้องคุณช้างขนาดนั้น เกรงใจผัวที่บ้านบ้าง”

‘ลุงศักดิ์ดา’ หัวหน้าคนงานของปางช้างกำลังชี้มือชี้ไม้สั่งการคนงานอยู่ใกล้ๆ หันไปจิกกัดคนงานสาวสวยประจำปางช้าง ติดตรงมีผัวเป็นตัวเป็นตนจ้องมองเจ้านายหนุ่มไม่วางตา

“ก็ฉันหันไปมองผัวแล้วมันไม่เจริญหูเจริญตานิจ๊ะ ดูสิมีแต่พุง ไม่เห็นหล่อล่ำ น่าขย้ำอย่างคุณช้างบ้างเลย”

หญิงสาวในชุดเสื้อคอบัวสีขาวสอดทับด้วยผ้าถุงลายดอกไม้สีแดงนามว่า ‘ลำดวน’หันมาส่งสายตาค้อนวงใหญ่ให้กับหัวหน้าคนงาน ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน ละเมอเพ้อพกอยู่กับภาพน่ามองตรงหน้า ทว่าความฝันของหล่อนต้องพังทลายลง เมื่อมีเสียงทุ้มห้วนเอ่ยแทรกขึ้นมา

“พี่ลำดวน ผัวพี่มองมาโน้นแล้ว”

คนงานหนุ่มร่างผอมสูงพยักเพยิดหน้าไปยังบริเวณที่กำลังทำโรงเรือนพักหลังน้อย ก่อนจะตะโกนออกไปเสียงดังลั่น ทำเอาคนงานทั้งเวิ้งหันมามอง

“พี่ชัย พี่ลำดวนแอบมองคุณช้าง”

ลำดวนทำหน้าเหลอหลา หันไปมองสามีตัวเองทีหันไปยิ้มแหยๆ ให้กับเจ้านายหนุ่มหุ่นน่าฟัด แล้วหันไปทำตาเขียวปั๊ด ยกมือยกไม้ทำท่าจะตีไอ้คนขี้ฟ้อง

“ไอ้ชงนม ไอ้…”

ทว่าหล่อนยังไม่ทันได้ถูกตัว คนตัวผอมจอมขี้ฟ้องก็รีบโกยอ้าวพุ่งตรงไปหาเจ้านายอย่างรวดเร็ว พร้อมกับแก้วน้ำเย็นๆ

“นายช้างคร้าบบ น้ำมาแล้ว”

“เอ่อ ขอบใจ เดี๋ยวมึงไปช่วยไอ้ชัยทำต่อแล้วกัน”

หัสดินทร์ ศิลปการสกุล หรือนายช้าง นายหัวใหญ่ของปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัล ชายหนุ่มมีใบหน้าหล่อเหลาคมคาย สองข้างแก้มมีหนวดเคราขึ้นครึ้ม หากแต่กลับทำให้เขาดูคมเข้มขึ้นไปอีกเท่าตัว รูปร่างสูงใหญ่ส่งผลให้เขาดูภูมิฐาน เจ้านายหนุ่มเป็นคนที่เข้าถึงง่าย มีงานอะไรเขาก็จะมักลงมือทำมากกว่าใช้ปากสั่งการ ด้วยความติดดินเป็นกันเองของเขา จึงทำให้เป็นที่รักที่เทิดทูนของคนงานในปางช้างแห่งนี้

“ได้ครับนาย เมื่อกี้ผมผ่านไปแถวบ้านใหญ่ เห็นแม่เลี้ยงตามหานายอยู่น่ะครับ”

“เอ่อ เดี๋ยวกูไปหาแม่เอง มึงทำงานตามที่สั่งให้เสร็จแล้วกัน”

“สบายมากครับโผ้มม”

เจ้าชงนมยกมือขึ้นมาจรดปลายหางคิ้ว คล้ายตะเบ๊ะของทหาร แล้วคลี่ยิ้มกว้างอวดฟันครบสามสิบสองซี่ จนคนเป็นเจ้านายได้แต่ส่ายหน้าให้ยิ้มๆ ก่อนเขาจะก้าวยาวๆ ไปหยิบเสื้อเชิ้ตสีอ่อนขึ้นมาสวมโดยไม่ติดกระดุม จากนั้นก็เดินไปยังรถยนต์คันใหญ่ทันที

ร่างสูงใหญ่เดินเอื่อยๆผ่านประตูบ้านเข้ามายังโถงกลางบ้านก่อนจะมุ่งตรงไปยังบันไดเวียน ก็ต้องชะงักเท้าเมื่อดวงตาคมเข้มสบเข้ากับร่างระหงของคนเป็นมารดาที่ยืนดักรออยู่ตรงหน้าบันได แม่เลี้ยงสรณ์สิริผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พอเห็นร่างกายของคนเป็นลูกชายโซมไปด้วยเหงื่อ นี่คงไปช่วยคนงานในปางช้างทำอะไรมาอย่างแน่นอน

“วันนี้กลับมานอนบ้านได้นะพ่อตัวดี แล้วดูสิเนี่ย ไปคลุกดินคลุกฝุ่นอยู่กับไอ้เจ้าชงนมมาอีกซิท่า”

มารดาเดินเข้ามาหา แล้วเอื้อมมือมาลูบเนื้อลูบตัวของลูกชาย เช็ดคราบฝุ่นที่ติดตัวออก พลางเอ่ยบ่นอุบไม่จริงจังให้เสียหนึ่งที่

“ก็งานที่ปางช้างมันเหนื่อย ก็ต้องมีบ้างที่ไปนอนพักชาร์จพลังที่เรือนหลังเล็กสิครับ”

“ชาร์จพลังแบตเตอร์รี่รุ่นไหนหรอจ๊ะ ของไทยหรือของเทศถึงได้ชาร์จกันนาน สองวันถึงได้กลับมาบ้าน”

แม่เลี้ยงสรณ์สิริยังเหน็บเข้าให้อย่างรู้ทัน ทว่าคนเป็นลูกก็ยังแย้มยิ้มหน้าระรื่นอยู่ตรงหน้า

“เอาน่า ผมก็พาตัวมาให้แม่เทศนาอยู่นี่ไงครับ”

“จ๊ะ! พ่อตัวดี”คนเป็นแม่ตวัดค้อนให้ลูกชายตาแทบหลุดอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะเอ่ยบอกเรื่องที่นางอยากจะคุยด้วย “เรื่องแม่ศจีครูศิลปะที่ไม่ได้ตั้งใจจะสอน แม่ให้ออกไปแล้วนะ”

“ฮะ! เขาก็ทำงานดีนี่ครับ แล้วแม่จะไล่เขาออกทำไม” หัสดินทร์โวยเสียงดัง

“แหม! ทำงานดีม๊าก วันดีคืนดีก็อยากจะเข้าไปสอนศิลปะในห้องเจ้านาย”

ประโยคกระแนะกระแหนของมารดา ทำให้หัสดินทร์ต้องโคลงศีรษะอย่างจนใจ แล้วยอมยกธงขาวไปในที่สุด

“เอาเถอะครับ แล้วใครจะมาทำแทนศจี”

“หนูน้ำผึ้ง”

แม่เลี้ยงสรณ์สิริคลี่ยิ้มกว้าง ยามเมื่อเรียกชื่อหลานสาวคนสวย

“น้ำผึ้ง!? น้ำผึ้งไหนครับ ชื่อหวานดูก็รู้เลยว่าอรชรอ้อนแอ้น จะอยู่ได้สักกี่วัน”

หัสดินทร์ขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความสงสัย ไม่วายยังแอบประชดมารดาไปด้วยเล็กน้อย

“น้องน้ำผึ้ง ลูกสาวคุณทิพย์อาภา ที่เราเคยไปเที่ยวสวนผลไม้ของคุณน้าเค้าตั้งแต่ตอนช้างเป็นวัยรุ่นไงลูก จำได้หรือยัง”

“น้าทิพย์อาภา…น้ำผึ้ง…”

ชายหนุ่มพึมพำเบาๆกับตัวเอง พลางพยายามนึกตามคำบอกเล่าของมารดา ทว่าจู่ๆ ความหลังวันวานก็ย้อนเข้ามาในจิตสำนึก เล่นเอาเขาต้องยกมือขึ้นลูบใบหูตัวเองอัตโนมัติ ขนอ่อนในร่างกายของเขาพากันลุกชูชันอย่างไม่ได้นัดหมาย อย่าบอกนะว่า ‘ยายเด็กผมเปียจอมแก่น’ จะกลายเป็นครูสอนศิลปะคนใหม่ให้กับปางช้างของเขา!  

Related chapters

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 2 : ชนวนเหตุเสียวหู

    ร่างสูงผอมสมส่วนในวัยยี่สิบปีเดินออกมาหามุมคุยโทรศัพท์ เนื่องจากมีสายเข้าจากเพื่อนคนสนิทในมหาวิทยาลัยโทรมาพูดคุยเรื่องงานที่ต้องทำส่งอาจารย์ ชายหนุ่มเดินถือโทรศัพท์มือถือลัดเลาะไปตามคันร่องสวนมะม่วงและชมพู่ ซึ่งวันนี้ครอบครัวของหัสดินทร์แวะเวียนมาเยี่ยมทิพย์อาภาที่บ้านสวนจังหวัดนนทบุรีทว่าจังหวะที่หัสดินทร์กำลังลอดซุ้มต้นชมพู่ขนาดใหญ่ ซึ่งมีกิ่งก้านแผ่ไพศาลให้ร่มเงาแก่ทางเดินที่เขากำลังเดินผ่าน ก็มีอะไรบางอย่างหล่นตุ้บลงมาตรงหน้า เฉียดศีรษะของเขาไปหวุดหวิด พร้อมกับเสียงเล็กตะโกนร้องบอกเสียงดังลั่น“เฮ้ย! มดแดง”คนตัวโตกว่าก้มมองลงไปก็เห็นเป็นรังมดแดงถูกห่อหุ้มด้วยใบของต้นชมพู่ จากขนาดรังใหญ่พอสมควรตกอยู่ตรงหน้าเท้าของเขา ถ้าชายหนุ่มเดินเร็วกว่านี้อีกนิด รับรองได้ว่าเจ้ามดแดงได้เข้าไปทำรังรุมกัดเขาทั้งตัวเป็นแน่หัสดินทร์จึงก้มไปหยิบกิ่งไม้มาเขี่ยรังมดแดงไปไว้อีกด้านของคันร่องสวน แล้วก็เงยหน้าขึ้นไปมองสาเหตุที่แท้จริงของรังมดแดงที่อยู่ตรงปลายเท้า ดูก็รู้ว่าไม่ได้ร่วงจากต้นแบบปกติธรรมดาอย่างแน่นอนเด็กผู้หญิงผมเปียใบหน้าและตามเสื้อผ้ามอมแมมไปด้วยคราบโคลน ดูจากตัวแล้วอายุอานามคงเป็นน้อง

    Last Updated : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 3 : แค่เห็นก็เหม็นขี้หน้า

    ร่างสูงใหญ่สวมเสื้อกล้ามสีดำทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นสวมกางเกงยีนส์ตัวเก่งสีซีดพาตัวเองมายังโรงจอดรถขนาดใหญ่ เป็นจังหวะเดียวกันกับลูกน้องคนสนิทขี่ซาเล้งพ่วงข้างเลี้ยวเข้ามายังบริเวณที่เขากำลังยืนอยู่ ชายหนุ่มจึงโบกมือเรียกดัก ทำเอาเจ้าชงนมถึงกับเบรกรถหน้าแทบทิ่ม “มีอะไรหรือเปล่าครับนาย”“มึงจะไปไหนไอ้ชงนม”“ผมเอาผักปรังกับใบส้มป่อยมาให้แม่เลี้ยงครับ เห็นว่าวันมะรืนนายแม่จะให้ป้าฟองจันทร์ทำแกงโฮะต้อนรับคุณครูน้ำผึ้งครับ”ชงนมเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่ม แล้วคลี่ยิ้มกว้างอวดทั้งฟันทั้งเหงือกให้คนเป็นนายได้ยล ดูท่าแม่ของเขาจะเตรียมอาหารไว้เป็นอย่างดี คงคิดว่าหลังกลับมาจากลำปางจะต้อนรับหลานสาวแบบจัดเต็มซิท่า ก่อนชายหนุ่มจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“วันนี้แม่ให้มึงไปรับน้ำผึ้งใช่ไหม”“ใช่ครับ นายช้างมีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่า”“เปล่า แต่กูจะเป็นคนไปรับเอง แล้วก็ยืมรถมึงด้วย”คนเป็นเจ้านายแจ้งความประสงค์ เล่นเอาลูกน้องคนสนิทอ้าปากหวอ อดที่จะทำหน้าสงสัยไม่ได้“ห๊ะ! ไปรับเอง แล้วจะยืมไอ้แก่ขาเฟี้ยวของผมไปด้วยเนี่ยนะครับ รถในบ้าน…”ยังไม่ทันที่ชงนมจะพูดจบ ดวงตาคมกริบของคนเป็นนายปรายตามามอง ก็ทำ

    Last Updated : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 4 : ก็เจ๊ากันไปแล้วกัน

    ยามราตรีท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงดาราส่องสว่าง มีเพียงอัสนีบาตที่พาดผ่านมาเป็นระยะ ผ่านไปไม่ถึงนาทีฝนก็กระหน่ำตกลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา ด้วยความที่เป็นบ้านไม้ทำให้พรนลัทได้ยินเสียงน้ำฝนตกกระทบไม้กระดานหน้าระเบียงบ้าน พร้อมกับเสียงกบเสียงเขียดร้องระงมรับพิรุณ ยังทำให้เธอจินตนาการไปถึงเรื่องเล่าที่ได้ฟังมาจากคนงานหนุ่มเมื่อตอนเย็นหญิงสาวนอนเหยียดยาวตัวแข็งทื่ออยู่บนเตียงนอนที่ทั้งแข็งทั้งเย็น พลางใช้ปลายเท้าเล็กของตัวเองเขี่ยๆเอาผ้าแพรเนื้อลื่นขึ้นมาห่มจรดจนถึงคอหอย ดวงตากลมโตสอดส่ายไปทั่วห้องเล็กๆ โดยมีแสงสีเหลืองอ่อนจากหลอดไฟที่ห้อยระย้าจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่ ขยับตามแรงลมของพายุฝนที่อยู่ข้างนอกทว่าจู่ๆ เธอก็ดันได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาเดินอยู่รอบๆบ้านพัก คำบอกเล่าของชงนมก็เข้ามากัดกินหัวใจดวงน้อยของเธอให้หวาดหวั่น ความคิดฟุ้งซ่านเข้ามาในหัวเต็มไปหมด กระทั่งต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงกระหน่ำเคาะที่ประตูห้องสามถึงสี่ที~ ก๊อกๆ ก๊อกๆ ~“ใครอ่ะ?”พรนลัทตะโกนแข่งกับเสียงฝนที่ตกไม่มีพักอยู่ข้างนอก แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมา ยิ่งทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ หญิงสาวพนมมือขึ้นแล้วสวดมนต์ผิดๆถูกๆ บ

    Last Updated : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 5 : ขิงก็ร่า ข่าก็แรง

    บ้านหลังใหญ่ของครอบครัวศิลปการสกุล ไม่สิ! ต้องเรียกเป็นคฤหาสน์เลยก็ว่าได้ เพราะทั้งกว้างใหญ่ติดกับทะเลสาปเล็กๆและมีสวนดอกไม้เบ่งบานสวยงามหลากหลายสายพันธ์ บ้านหลังนี้อยู่ห่างจากปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลประมาณห้ากิโลเมตร สามารถขับรถหรือปั่นจักรยานลัดเลาะไปตามถนนเล็กๆด้านหลังได้มีอีกเรื่องหนึ่งที่พรนลัทพึ่งได้รู้จากผู้เป็นป้าคือเส้นทางที่หัสดินทร์พาเธอมาในวันแรกเป็นทางด้านหลังของปางช้าง ที่ส่วนใหญ่มักจะให้ควาญช้างจูงช้างไปเดินออกกำลังกาย เท่านี้ก็ทำให้รู้แล้วว่าชายหนุ่มตั้งใจกลั่นแกล้งเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันร่างบางทรุดนั่งลงบนปลายเตียงนอนหลังใหญ่ โดยมีสาลี่คอยช่วยจัดข้าวของของเธอเข้าที่ให้เรียบร้อยตามคำสั่งของแม่เลี้ยงสรณ์สิริ ก่อนเสียงหวานจะเอ่ยถามสาวใช้เกี่ยวกับเรื่องที่เธอข้องใจสงสัย“สาลี่ ถามอะไรหน่อยสิ”“ถามเยอะๆก็ได้ค่ะ คุณน้ำผึ้ง” สาลี่เอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะหันมาจ้องใบหน้าสวยใสของเจ้านายสาวคนใหม่“บ้านพักหลังเล็กมีผีจริงป่ะ”“ตั้งแต่สาลี่โตมาจนเป็นสาวอยู่ที่นี่มาไม่เคยไม่ผีหรอกค่ะ พี่ชงนมก็อำเล่นไปอย่างนั้นแหละ คุณน้ำผึ้งสบายใจได้”“แต่เมื่อคืนฉันได้ยินเสียงคนเคาะประตู กับเห็นเงาตะ

    Last Updated : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 6 : ลึกๆ ก็แอบห่วง

    พรนลัทเดินออกมาสงบสติอารมณ์คุกรุ่นของตัวเอง จนกระทั่งรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาเธอจึงแบมือออกมาดูก็พบว่าฝ่ามือเล็กมีรอยเหมือนเศษแก้วบาดเป็นแผลทางยาว แต่ไม่ได้ลึกมากขนาดต้องเย็บ คงเป็นเศษแก้วที่ตกลงมาแตกแล้วกระเด็นมาโดนมือเธอตอนที่ล้มหญิงสาวมารู้สึกเจ็บเมื่อเห็นบาดแผล อาจเป็นเพราะตอนนั้นเธอทั้งโมโหทั้งโกรธบวกกับแผลยังคงชาจนลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ เธอจึงเดินไปที่ก๊อกน้ำแล้วทำการล้างแผลและพันด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก จากนั้นก็เดินกลับไปยังห้องเรือนประชาสัมพันธ์เธอสวนกับร่างสูงของเจ้าของปางช้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดวงตาสองคู่ต่างอารมณ์ จ้องกันนิ่งอย่างไม่มีใครยอมหลบ ฝ่ายหนึ่งรู้สึกผิดที่พูดจารุนแรง อีกคนก็เฉยเมยและยอมเป็นฝ่ายเมินหน้าหนี พรนลัทจึงไม่เห็นดวงตาคมเข้มก้มลงไปมองมือเล็กที่มีผ้าเช็ดหน้าพันเอาไว้อยู่ชั่วครู่ แล้วทำท่าจะเอ่ยถามอะไรสักอย่าง หากแต่คนตัวเล็กเลือกที่จะเดินไปหาสาวน้อยคนสนิทอย่างรวดเร็วจากนั้นบรรยากาศการทำงานในปางช้างก็ขมุกขมัวราวกับจะมีพายุโหมกระหน่ำอย่างไรอย่างนั้น เจ้านายหนุ่มมีสีหน้าเรียบตึงไปร่วมทำงานกับคนงานที่ท้ายปางช้าง ส่วนพรนลัทกลับเข้าไปทำงานของตัวเองในห้องสอนศิลปะเง

    Last Updated : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 7 : เจ้าไข่ตุ๋น

    ช่วงสี่โมงเย็น พรนลัทชวนสาลี่ปั่นจักรยานลัดเลาะไปทางซอยด้านหลังของบ้าน ที่สามารถขี่เลาะทางลูกรังเล็กๆไปถึงปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลได้ ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นสนสามใบเรียงรายเขียวขจี ทำให้พอมีร่มเงาไม่ร้อนจนเกินไป บวกกับอากาศช่วงหน้าฝนที่เชียงใหม่ค่อนข้างจะชุ่มชื้นไม่ได้แห้งแล้งสองสาวพากันเข้ามาจอดจักรยานพิงต้นไม้ใหญ่ จากนั้นก็พากันเดินชมธรรมชาติในปางช้าง เนื่องจากตั้งแต่พรนลัทเริ่มทำงานก็ยังไม่ได้มาทัวร์ที่นี่ให้รอบเลย เธอจึงไหว้วานให้สาลี่เป็นไกด์กิตติมศักดิ์ในวันนี้ หญิงสาวตื่นตาตื่นใจกับบ้านพักโซนรีสอร์ทมาก บ้านพักทั้งสิบหลังถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขาทั้งสี่ด้าน เสมือนบ้านอยู่ตรงกลางท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามโครงสร้างทั้งหมดทำมาจากไม้ การออกแบบคล้ายกระท่อมเล็กๆในป่าใหญ่ ค่อนข้างแข็งแรง ด้านหน้ามีระเบียงเปิดโล่งยื่นออกมา ส่วนด้านหลังก็ติดกับลำธารขนาดเล็กที่น้ำไหลมาจากเทือกเขา ทุกเช้าจะมีบรรดาช้างออกมาเดินตรงลานหญ้ามารับกล้วยและผลไม้อื่นๆที่นักท่องเที่ยวอยากให้อาหาร ยิ่งเป็นจุดเด่นทำให้สถานที่แห่งนี้มีเอกลักษณ์ จนนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมาไม่ขาดสาย ถึงขนาดต้องจองห้องพักกันข้ามปีเลยทีเด

    Last Updated : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 8 : จิงโจ้ออสเตรเลีย ปะทะ ช้างแมมมอธป่า

    รถคันใหญ่เคลื่อนตัวเข้ามาจอดในโรงจอดรถของบ้าน หัวคิ้วเข้มของหัสดินทร์ต้องขมวดเป็นปมด้วยความสงสัย เมื่อสายตาคมของเขาสบเข้ากับรถสปอร์ตคันหรูจอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน บ่งบอกว่ามีแขกมาบ้านของเขาอย่างแน่นอน สองหนุ่มสาวเดินเคียงคู่กันเข้ามายังห้องโถงกลางบ้านก็ต้องได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกของบุพการีและแขกออกรสออกชาติอย่างสนุกสนานในห้องรับแขกขนาดใหญ่ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อโปโลคอปกสีเข้มกับกางเกงขาสั้นพอดีเข่าสีครีมกำลังนั่งจ้อกับแม่เลี้ยงสรณ์สิริ และพ่อเลี้ยงหิรัญ ชายหนุ่มหันหน้ามาทางประตูของห้องรับแขก ดวงตาของเขาสบเข้ากับสองร่างต่างไซส์เดินเคียงกันเข้ามา เขาก็รีบลุกขึ้นมาพร้อมกับแย้มยิ้มกว้างและเดินมากอดคอหัสดินทร์“มาทำไมวะ บ้านไม่มีอยู่หรือไง”“มีอยู่เว้ย แต่ไม่มีวิวสวยๆให้ดูแบบนี้ สวยด้วยเด็กด้วย โคตรแจ่ม”‘จิรสิน’ หรือ ‘จิงโจ้’ ลูกพี่ลูกน้องของหัสดินทร์ เขาชอบให้เรียกว่า ‘โจ้’ มากกว่า เอ่ยกระซิบข้างใบหูของคนมีศักดิ์เป็นพี่ที่ห่างกันแค่หนึ่งปี ตัวเองก็เลยปีนเกลียวทำเป็นรุ่นเดียวกัน น้ำเสียงกระเซ้าเย้าแหย่ พลางเหล่ไปมองร่างเล็กใบหน้าสวยหวานที่ยืนข้างๆ ด้วยความสนใจ“อย่ามาปากดี ไอ้เวรโจ้ สาระแน

    Last Updated : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 9 : ฤทธิ์แม่ตัวแสบ

    ร่างอรชรในชุดเสื้อยืดสีดำพอดีตัวกับกางเกงผ้าฝ้ายขาสั้นสีน้ำตาลอ่อนกำลังนั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้หวายลักษณะคล้ายตัวเล็กภายในห้องสอนศิลปะ วันนี้ไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรมากมาย อาจเพราะเป็นวันธรรมดานักท่องเที่ยวจึงจะน้อยกว่า วันเสาร์-อาทิตย์ พรนลัทกำลังก้มหน้าก้มตาขีดๆเขียนๆ บนไอแพดเครื่องบางอย่างสบายอารมณ์เนื่องจากหญิงสาวได้ออกแบบลายกระเป๋าผ้าสำหรับวางสินค้าขายในปางช้าง โดยมีตัวแบบแสนน่ารักอย่างเจ้าไข่ตุ๋น แถมยังได้คนงานผู้หญิงในปางช้างมาคอยช่วยเย็บปักลวดลายเล็กๆน้อยๆ อีกด้วย เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับคนงาน โดยกระเป๋าผ้าลายน่ารักๆ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวรวมไปถึงแม่เลี้ยงสรณ์สิริที่นำกระเป๋าผ้าใบต้นแบบไปอวดให้กับบรรดาคุณหญิงคุณนายในมูลนิธิช่วยเด็กยากไร้ จนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีแต่คนหลั่งไหลเข้ามาสั่งไม่ขาดสาย เธอจึงคิดว่ารายได้ทั้งหมดหักค่าแรงให้คนงานแล้วที่เหลือก็จะมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กที่ขัดสนทุนทรัพย์ในมูลนิธิของแม่เลี้ยงอีกด้วยพรนลัทค่อยๆ บิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยขบของร่างกายที่นั่งทำงานมาเป็นเวลานาน ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นนาฬิกาบนฝาผนังบ่งบอกเวลาสี่โมงเย็น ซึ่งเธอได้นัดแนะ

    Last Updated : 2025-01-17

Latest chapter

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 10 : ความรู้สึกเล็กๆเริ่มก่อตัว

    พรนลัทมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อถูกปล่อยลงให้ยืนในห้องน้ำกว้าง นั่นแหละเลยทำให้เธอรู้ว่าตอนนี้กำลังอยู่ในเรือนเล็กของเจ้าของปางช้าง ยังไม่ทันที่เธอจะจับต้นชนปลายได้ถูก เสียงกดล็อกประตูห้องน้ำก็ทำเอาเธอสะดุ้งตกใจ พอหันกลับไปมองคนที่ล็อกประตูก็ต้องเบิกตาโต เมื่อเขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกทั้งแถวแล้วถอดออกจากตัวเหวี่ยงทิ้งไปที่ตะกร้ามุมหนึ่งของห้องน้ำ คนตัวเล็กต้องรีบหันหลังซ่อนใบหน้าแดงแจ๋ไปทางผนังห้องน้ำ‘แล้วเป็นบ้าอะไรเนี่ย มาแก้ผ้าต่อหน้าทำไม!’คนหน้าแดงค่อนขอดอยู่ภายในใจ ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะเอื้อนเอ่ยออกไป ร่างสูงใหญ่ที่ตอนนี้เหลือเพียงผ้าขนหนูพันกายท่อนล่าง ก็ก้าวมายันฝ่ามือกับผนังห้องน้ำข้างหัวไหล่มนทั้งสองด้าน เพื่อกักร่างบางไว้ในวงแขน พรนลัทจึงหันกลับมาทำสีหน้าแตกตื่น พลางถอยหลังเบียดไปกับผนังห้องน้ำ นี่ถ้าเธอล่องหนหายไปได้เธอคงทำไปแล้ว“ทะ…ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย ฉันไม่เล่นนะ!”“ใครว่าผมเล่น ผมจะอาบน้ำต่างหาก”“ก็อาบไปสิ จะให้ฉันมาอยู่ตรงนี้ทำไมล่ะ”คนตัวเล็กช้อนตาขึ้นมองพร้อมกับเถียงคอเป็นเอ็นอย่างไม่ลดละ แถมยังทำหน้ายับยุ่ง จนคนมองได้แต่กระตุกยิ้มร้ายที่มุมปากพาลนึกในใจ‘แสบ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 9 : ฤทธิ์แม่ตัวแสบ

    ร่างอรชรในชุดเสื้อยืดสีดำพอดีตัวกับกางเกงผ้าฝ้ายขาสั้นสีน้ำตาลอ่อนกำลังนั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้หวายลักษณะคล้ายตัวเล็กภายในห้องสอนศิลปะ วันนี้ไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรมากมาย อาจเพราะเป็นวันธรรมดานักท่องเที่ยวจึงจะน้อยกว่า วันเสาร์-อาทิตย์ พรนลัทกำลังก้มหน้าก้มตาขีดๆเขียนๆ บนไอแพดเครื่องบางอย่างสบายอารมณ์เนื่องจากหญิงสาวได้ออกแบบลายกระเป๋าผ้าสำหรับวางสินค้าขายในปางช้าง โดยมีตัวแบบแสนน่ารักอย่างเจ้าไข่ตุ๋น แถมยังได้คนงานผู้หญิงในปางช้างมาคอยช่วยเย็บปักลวดลายเล็กๆน้อยๆ อีกด้วย เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับคนงาน โดยกระเป๋าผ้าลายน่ารักๆ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวรวมไปถึงแม่เลี้ยงสรณ์สิริที่นำกระเป๋าผ้าใบต้นแบบไปอวดให้กับบรรดาคุณหญิงคุณนายในมูลนิธิช่วยเด็กยากไร้ จนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีแต่คนหลั่งไหลเข้ามาสั่งไม่ขาดสาย เธอจึงคิดว่ารายได้ทั้งหมดหักค่าแรงให้คนงานแล้วที่เหลือก็จะมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กที่ขัดสนทุนทรัพย์ในมูลนิธิของแม่เลี้ยงอีกด้วยพรนลัทค่อยๆ บิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยขบของร่างกายที่นั่งทำงานมาเป็นเวลานาน ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นนาฬิกาบนฝาผนังบ่งบอกเวลาสี่โมงเย็น ซึ่งเธอได้นัดแนะ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 8 : จิงโจ้ออสเตรเลีย ปะทะ ช้างแมมมอธป่า

    รถคันใหญ่เคลื่อนตัวเข้ามาจอดในโรงจอดรถของบ้าน หัวคิ้วเข้มของหัสดินทร์ต้องขมวดเป็นปมด้วยความสงสัย เมื่อสายตาคมของเขาสบเข้ากับรถสปอร์ตคันหรูจอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน บ่งบอกว่ามีแขกมาบ้านของเขาอย่างแน่นอน สองหนุ่มสาวเดินเคียงคู่กันเข้ามายังห้องโถงกลางบ้านก็ต้องได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกของบุพการีและแขกออกรสออกชาติอย่างสนุกสนานในห้องรับแขกขนาดใหญ่ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อโปโลคอปกสีเข้มกับกางเกงขาสั้นพอดีเข่าสีครีมกำลังนั่งจ้อกับแม่เลี้ยงสรณ์สิริ และพ่อเลี้ยงหิรัญ ชายหนุ่มหันหน้ามาทางประตูของห้องรับแขก ดวงตาของเขาสบเข้ากับสองร่างต่างไซส์เดินเคียงกันเข้ามา เขาก็รีบลุกขึ้นมาพร้อมกับแย้มยิ้มกว้างและเดินมากอดคอหัสดินทร์“มาทำไมวะ บ้านไม่มีอยู่หรือไง”“มีอยู่เว้ย แต่ไม่มีวิวสวยๆให้ดูแบบนี้ สวยด้วยเด็กด้วย โคตรแจ่ม”‘จิรสิน’ หรือ ‘จิงโจ้’ ลูกพี่ลูกน้องของหัสดินทร์ เขาชอบให้เรียกว่า ‘โจ้’ มากกว่า เอ่ยกระซิบข้างใบหูของคนมีศักดิ์เป็นพี่ที่ห่างกันแค่หนึ่งปี ตัวเองก็เลยปีนเกลียวทำเป็นรุ่นเดียวกัน น้ำเสียงกระเซ้าเย้าแหย่ พลางเหล่ไปมองร่างเล็กใบหน้าสวยหวานที่ยืนข้างๆ ด้วยความสนใจ“อย่ามาปากดี ไอ้เวรโจ้ สาระแน

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 7 : เจ้าไข่ตุ๋น

    ช่วงสี่โมงเย็น พรนลัทชวนสาลี่ปั่นจักรยานลัดเลาะไปทางซอยด้านหลังของบ้าน ที่สามารถขี่เลาะทางลูกรังเล็กๆไปถึงปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลได้ ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นสนสามใบเรียงรายเขียวขจี ทำให้พอมีร่มเงาไม่ร้อนจนเกินไป บวกกับอากาศช่วงหน้าฝนที่เชียงใหม่ค่อนข้างจะชุ่มชื้นไม่ได้แห้งแล้งสองสาวพากันเข้ามาจอดจักรยานพิงต้นไม้ใหญ่ จากนั้นก็พากันเดินชมธรรมชาติในปางช้าง เนื่องจากตั้งแต่พรนลัทเริ่มทำงานก็ยังไม่ได้มาทัวร์ที่นี่ให้รอบเลย เธอจึงไหว้วานให้สาลี่เป็นไกด์กิตติมศักดิ์ในวันนี้ หญิงสาวตื่นตาตื่นใจกับบ้านพักโซนรีสอร์ทมาก บ้านพักทั้งสิบหลังถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขาทั้งสี่ด้าน เสมือนบ้านอยู่ตรงกลางท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามโครงสร้างทั้งหมดทำมาจากไม้ การออกแบบคล้ายกระท่อมเล็กๆในป่าใหญ่ ค่อนข้างแข็งแรง ด้านหน้ามีระเบียงเปิดโล่งยื่นออกมา ส่วนด้านหลังก็ติดกับลำธารขนาดเล็กที่น้ำไหลมาจากเทือกเขา ทุกเช้าจะมีบรรดาช้างออกมาเดินตรงลานหญ้ามารับกล้วยและผลไม้อื่นๆที่นักท่องเที่ยวอยากให้อาหาร ยิ่งเป็นจุดเด่นทำให้สถานที่แห่งนี้มีเอกลักษณ์ จนนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมาไม่ขาดสาย ถึงขนาดต้องจองห้องพักกันข้ามปีเลยทีเด

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 6 : ลึกๆ ก็แอบห่วง

    พรนลัทเดินออกมาสงบสติอารมณ์คุกรุ่นของตัวเอง จนกระทั่งรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาเธอจึงแบมือออกมาดูก็พบว่าฝ่ามือเล็กมีรอยเหมือนเศษแก้วบาดเป็นแผลทางยาว แต่ไม่ได้ลึกมากขนาดต้องเย็บ คงเป็นเศษแก้วที่ตกลงมาแตกแล้วกระเด็นมาโดนมือเธอตอนที่ล้มหญิงสาวมารู้สึกเจ็บเมื่อเห็นบาดแผล อาจเป็นเพราะตอนนั้นเธอทั้งโมโหทั้งโกรธบวกกับแผลยังคงชาจนลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ เธอจึงเดินไปที่ก๊อกน้ำแล้วทำการล้างแผลและพันด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก จากนั้นก็เดินกลับไปยังห้องเรือนประชาสัมพันธ์เธอสวนกับร่างสูงของเจ้าของปางช้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดวงตาสองคู่ต่างอารมณ์ จ้องกันนิ่งอย่างไม่มีใครยอมหลบ ฝ่ายหนึ่งรู้สึกผิดที่พูดจารุนแรง อีกคนก็เฉยเมยและยอมเป็นฝ่ายเมินหน้าหนี พรนลัทจึงไม่เห็นดวงตาคมเข้มก้มลงไปมองมือเล็กที่มีผ้าเช็ดหน้าพันเอาไว้อยู่ชั่วครู่ แล้วทำท่าจะเอ่ยถามอะไรสักอย่าง หากแต่คนตัวเล็กเลือกที่จะเดินไปหาสาวน้อยคนสนิทอย่างรวดเร็วจากนั้นบรรยากาศการทำงานในปางช้างก็ขมุกขมัวราวกับจะมีพายุโหมกระหน่ำอย่างไรอย่างนั้น เจ้านายหนุ่มมีสีหน้าเรียบตึงไปร่วมทำงานกับคนงานที่ท้ายปางช้าง ส่วนพรนลัทกลับเข้าไปทำงานของตัวเองในห้องสอนศิลปะเง

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 5 : ขิงก็ร่า ข่าก็แรง

    บ้านหลังใหญ่ของครอบครัวศิลปการสกุล ไม่สิ! ต้องเรียกเป็นคฤหาสน์เลยก็ว่าได้ เพราะทั้งกว้างใหญ่ติดกับทะเลสาปเล็กๆและมีสวนดอกไม้เบ่งบานสวยงามหลากหลายสายพันธ์ บ้านหลังนี้อยู่ห่างจากปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลประมาณห้ากิโลเมตร สามารถขับรถหรือปั่นจักรยานลัดเลาะไปตามถนนเล็กๆด้านหลังได้มีอีกเรื่องหนึ่งที่พรนลัทพึ่งได้รู้จากผู้เป็นป้าคือเส้นทางที่หัสดินทร์พาเธอมาในวันแรกเป็นทางด้านหลังของปางช้าง ที่ส่วนใหญ่มักจะให้ควาญช้างจูงช้างไปเดินออกกำลังกาย เท่านี้ก็ทำให้รู้แล้วว่าชายหนุ่มตั้งใจกลั่นแกล้งเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันร่างบางทรุดนั่งลงบนปลายเตียงนอนหลังใหญ่ โดยมีสาลี่คอยช่วยจัดข้าวของของเธอเข้าที่ให้เรียบร้อยตามคำสั่งของแม่เลี้ยงสรณ์สิริ ก่อนเสียงหวานจะเอ่ยถามสาวใช้เกี่ยวกับเรื่องที่เธอข้องใจสงสัย“สาลี่ ถามอะไรหน่อยสิ”“ถามเยอะๆก็ได้ค่ะ คุณน้ำผึ้ง” สาลี่เอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะหันมาจ้องใบหน้าสวยใสของเจ้านายสาวคนใหม่“บ้านพักหลังเล็กมีผีจริงป่ะ”“ตั้งแต่สาลี่โตมาจนเป็นสาวอยู่ที่นี่มาไม่เคยไม่ผีหรอกค่ะ พี่ชงนมก็อำเล่นไปอย่างนั้นแหละ คุณน้ำผึ้งสบายใจได้”“แต่เมื่อคืนฉันได้ยินเสียงคนเคาะประตู กับเห็นเงาตะ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 4 : ก็เจ๊ากันไปแล้วกัน

    ยามราตรีท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงดาราส่องสว่าง มีเพียงอัสนีบาตที่พาดผ่านมาเป็นระยะ ผ่านไปไม่ถึงนาทีฝนก็กระหน่ำตกลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา ด้วยความที่เป็นบ้านไม้ทำให้พรนลัทได้ยินเสียงน้ำฝนตกกระทบไม้กระดานหน้าระเบียงบ้าน พร้อมกับเสียงกบเสียงเขียดร้องระงมรับพิรุณ ยังทำให้เธอจินตนาการไปถึงเรื่องเล่าที่ได้ฟังมาจากคนงานหนุ่มเมื่อตอนเย็นหญิงสาวนอนเหยียดยาวตัวแข็งทื่ออยู่บนเตียงนอนที่ทั้งแข็งทั้งเย็น พลางใช้ปลายเท้าเล็กของตัวเองเขี่ยๆเอาผ้าแพรเนื้อลื่นขึ้นมาห่มจรดจนถึงคอหอย ดวงตากลมโตสอดส่ายไปทั่วห้องเล็กๆ โดยมีแสงสีเหลืองอ่อนจากหลอดไฟที่ห้อยระย้าจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่ ขยับตามแรงลมของพายุฝนที่อยู่ข้างนอกทว่าจู่ๆ เธอก็ดันได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาเดินอยู่รอบๆบ้านพัก คำบอกเล่าของชงนมก็เข้ามากัดกินหัวใจดวงน้อยของเธอให้หวาดหวั่น ความคิดฟุ้งซ่านเข้ามาในหัวเต็มไปหมด กระทั่งต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงกระหน่ำเคาะที่ประตูห้องสามถึงสี่ที~ ก๊อกๆ ก๊อกๆ ~“ใครอ่ะ?”พรนลัทตะโกนแข่งกับเสียงฝนที่ตกไม่มีพักอยู่ข้างนอก แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมา ยิ่งทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ หญิงสาวพนมมือขึ้นแล้วสวดมนต์ผิดๆถูกๆ บ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 3 : แค่เห็นก็เหม็นขี้หน้า

    ร่างสูงใหญ่สวมเสื้อกล้ามสีดำทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นสวมกางเกงยีนส์ตัวเก่งสีซีดพาตัวเองมายังโรงจอดรถขนาดใหญ่ เป็นจังหวะเดียวกันกับลูกน้องคนสนิทขี่ซาเล้งพ่วงข้างเลี้ยวเข้ามายังบริเวณที่เขากำลังยืนอยู่ ชายหนุ่มจึงโบกมือเรียกดัก ทำเอาเจ้าชงนมถึงกับเบรกรถหน้าแทบทิ่ม “มีอะไรหรือเปล่าครับนาย”“มึงจะไปไหนไอ้ชงนม”“ผมเอาผักปรังกับใบส้มป่อยมาให้แม่เลี้ยงครับ เห็นว่าวันมะรืนนายแม่จะให้ป้าฟองจันทร์ทำแกงโฮะต้อนรับคุณครูน้ำผึ้งครับ”ชงนมเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่ม แล้วคลี่ยิ้มกว้างอวดทั้งฟันทั้งเหงือกให้คนเป็นนายได้ยล ดูท่าแม่ของเขาจะเตรียมอาหารไว้เป็นอย่างดี คงคิดว่าหลังกลับมาจากลำปางจะต้อนรับหลานสาวแบบจัดเต็มซิท่า ก่อนชายหนุ่มจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“วันนี้แม่ให้มึงไปรับน้ำผึ้งใช่ไหม”“ใช่ครับ นายช้างมีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่า”“เปล่า แต่กูจะเป็นคนไปรับเอง แล้วก็ยืมรถมึงด้วย”คนเป็นเจ้านายแจ้งความประสงค์ เล่นเอาลูกน้องคนสนิทอ้าปากหวอ อดที่จะทำหน้าสงสัยไม่ได้“ห๊ะ! ไปรับเอง แล้วจะยืมไอ้แก่ขาเฟี้ยวของผมไปด้วยเนี่ยนะครับ รถในบ้าน…”ยังไม่ทันที่ชงนมจะพูดจบ ดวงตาคมกริบของคนเป็นนายปรายตามามอง ก็ทำ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 2 : ชนวนเหตุเสียวหู

    ร่างสูงผอมสมส่วนในวัยยี่สิบปีเดินออกมาหามุมคุยโทรศัพท์ เนื่องจากมีสายเข้าจากเพื่อนคนสนิทในมหาวิทยาลัยโทรมาพูดคุยเรื่องงานที่ต้องทำส่งอาจารย์ ชายหนุ่มเดินถือโทรศัพท์มือถือลัดเลาะไปตามคันร่องสวนมะม่วงและชมพู่ ซึ่งวันนี้ครอบครัวของหัสดินทร์แวะเวียนมาเยี่ยมทิพย์อาภาที่บ้านสวนจังหวัดนนทบุรีทว่าจังหวะที่หัสดินทร์กำลังลอดซุ้มต้นชมพู่ขนาดใหญ่ ซึ่งมีกิ่งก้านแผ่ไพศาลให้ร่มเงาแก่ทางเดินที่เขากำลังเดินผ่าน ก็มีอะไรบางอย่างหล่นตุ้บลงมาตรงหน้า เฉียดศีรษะของเขาไปหวุดหวิด พร้อมกับเสียงเล็กตะโกนร้องบอกเสียงดังลั่น“เฮ้ย! มดแดง”คนตัวโตกว่าก้มมองลงไปก็เห็นเป็นรังมดแดงถูกห่อหุ้มด้วยใบของต้นชมพู่ จากขนาดรังใหญ่พอสมควรตกอยู่ตรงหน้าเท้าของเขา ถ้าชายหนุ่มเดินเร็วกว่านี้อีกนิด รับรองได้ว่าเจ้ามดแดงได้เข้าไปทำรังรุมกัดเขาทั้งตัวเป็นแน่หัสดินทร์จึงก้มไปหยิบกิ่งไม้มาเขี่ยรังมดแดงไปไว้อีกด้านของคันร่องสวน แล้วก็เงยหน้าขึ้นไปมองสาเหตุที่แท้จริงของรังมดแดงที่อยู่ตรงปลายเท้า ดูก็รู้ว่าไม่ได้ร่วงจากต้นแบบปกติธรรมดาอย่างแน่นอนเด็กผู้หญิงผมเปียใบหน้าและตามเสื้อผ้ามอมแมมไปด้วยคราบโคลน ดูจากตัวแล้วอายุอานามคงเป็นน้อง

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status