หน้าหลัก / โรแมนติก / เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก / บทที่ 10 : ความรู้สึกเล็กๆเริ่มก่อตัว

แชร์

บทที่ 10 : ความรู้สึกเล็กๆเริ่มก่อตัว

ผู้เขียน: แสงลลิณ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-17 20:07:09

พรนลัทมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อถูกปล่อยลงให้ยืนในห้องน้ำกว้าง นั่นแหละเลยทำให้เธอรู้ว่าตอนนี้กำลังอยู่ในเรือนเล็กของเจ้าของปางช้าง ยังไม่ทันที่เธอจะจับต้นชนปลายได้ถูก เสียงกดล็อกประตูห้องน้ำก็ทำเอาเธอสะดุ้งตกใจ พอหันกลับไปมองคนที่ล็อกประตูก็ต้องเบิกตาโต เมื่อเขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกทั้งแถวแล้วถอดออกจากตัวเหวี่ยงทิ้งไปที่ตะกร้ามุมหนึ่งของห้องน้ำ คนตัวเล็กต้องรีบหันหลังซ่อนใบหน้าแดงแจ๋ไปทางผนังห้องน้ำ

แล้วเป็นบ้าอะไรเนี่ย มาแก้ผ้าต่อหน้าทำไม!’

คนหน้าแดงค่อนขอดอยู่ภายในใจ ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะเอื้อนเอ่ยออกไป ร่างสูงใหญ่ที่ตอนนี้เหลือเพียงผ้าขนหนูพันกายท่อนล่าง ก็ก้าวมายันฝ่ามือกับผนังห้องน้ำข้างหัวไหล่มนทั้งสองด้าน เพื่อกักร่างบางไว้ในวงแขน พรนลัทจึงหันกลับมาทำสีหน้าแตกตื่น พลางถอยหลังเบียดไปกับผนังห้องน้ำ นี่ถ้าเธอล่องหนหายไปได้เธอคงทำไปแล้ว

“ทะ…ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย ฉันไม่เล่นนะ!”

“ใครว่าผมเล่น ผมจะอาบน้ำต่างหาก”

“ก็อาบไปสิ จะให้ฉันมาอยู่ตรงนี้ทำไมล่ะ”

คนตัวเล็กช้อนตาขึ้นมองพร้อมกับเถียงคอเป็นเอ็นอย่างไม่ลดละ แถมยังทำหน้ายับยุ่ง จนคนมองได้แต่กระตุกยิ้มร้ายที่มุมปากพาลนึกในใจ

‘แสบ ซน แบบนี้ คอยดูจะปราบให้เข็ด

“ไถ่โทษไง โทษฐานที่คุณทำผมเปื้อนไปหมดแบบนี้ เลือกเอานะน้ำผึ้ง ระหว่างอาบน้ำให้ผมกับผมอาบให้คุณ”

เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยดังแผ่วๆ อยู่ข้างใบหูเล็ก ทำเอาคนที่ได้ยินถึงกับใบหน้าแดงสุกปลั่งไปทั่วทั้งหน้า รู้สึกหวั่นใจแปลกๆ

“ไม่เอาหรอก! เรื่องอะไรต้องอาบให้ล่ะ ปล่อยเลยนะ ฉันจะออกไปข้างนอก”

เสียงหวานแหวออกมาเสียงดัง พลางก้มตัวจะมุดหนีใต้วงแขนของเขา แต่ท่อนแขนแข็งแรงก็ไวกว่ามากตะครุบเอวเล็กไว้เสียแนบแน่น

“คุณทำผมไว้แสบมากนะน้ำผึ้ง แล้วยังจะคิดหนีอีก คุณลืมไปแล้วหรือไง ว่าคุณเป็นคนพูดเองว่าเป็นแฟนผม งั้นหน้าที่อาบน้ำต้องให้คุณทำสิ จริงไหม”

“ฉันแค่แกล้งเล่นต่างหาก”

“นี่ไง ยอมรับออกมาแล้วว่าจงใจแกล้งผม ถ้างั้นก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่คุณทำ หรือคุณเป็นพวกทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิดกันแน่”

คนถูกต้อนจนมุมทำหน้าบึ้งตึงไม่สบอารมณ์ เธอเถียงไม่ออกก็เพราะสิ่งที่เขากำลังเอ่ยอยู่นั้นมันคือเรื่องจริง ด้านคนถือไพ่เหนือกว่าพอเห็นคนในอ้อมแขนจำยอมกับสิ่งที่ทำตรงหน้า เขาจึงเอ่ยสำทับเสียงหนักๆ

“ตกลงเลือกได้ยัง ว่าจะให้ผมอาบ หรือคุณอาบ ถ้าไม่ได้งั้นผมเลือกให้”

ว่าจบมือหนาก็เคลื่อนไปที่ชายเสื้อยืดตัวเล็กเตรียมจะเลิกเสื้อถอดออกจากตัวให้เธอ ซึ่งพรนลัทรู้ว่าเขาเลือกข้อไหน และเป็นข้อที่เธอเสียเปรียบทั้งขึ้นทั้งร่อง มือบางจึงรีบคว้าข้อมือแข็งๆไว้ได้ทันอย่างฉิวเฉียด ปากจิ้มลิ้มรีบละล่ำละลักเอ่ยบอก

“ฉันอาบให้คุณเอง”

หัสดินทร์กระตุกยิ้มน้อยๆ ยอมคลายมือออกจากเสื้อยืดของเธอ แล้วผละออกจากร่างละมุนเล็กน้อย หากแต่ก็ยังไม่ยอมให้เธอได้ก้าวออกไปไหน เพราะมือหนาอีกข้างคว้าข้อมือเล็กไว้แน่น ส่วนมืออีกข้างก็กระตุกผ้าขนหนูผืนนั้นโยนทิ้งไปที่มุมห้อง พรนลัทตาเหลือกแทบถลนออกมาจากเบ้า เธอจึงรีบหลับตาปี๋ พร้อมๆกับหันหน้าแดงเถือกหนีเข้ากำแพงห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ชั่ววินาทีก็ได้ยินเสียงหัวเราะหึๆในลำคอ ดังขึ้นมา ตามด้วยเสียงทุ้มเอ่ยกระเซ้า

“อายทำไมล่ะครับที่รัก ซ้อมไว้ จะได้ชิน เพราะเดี๋ยวคุณก็จะได้เห็นบ่อยๆ”

“คนบ้า! ใครเขาอยากจะเห็นบ่อยๆ ได้เป็นตากุ้งยิงกันพอดี”

พรนลัทขมุบขมิบว่าคนหน้าหนาที่ก้าวเดินโทงๆ ไร้อาภรณ์ลงไปนอนในอ่างอาบน้ำอย่างหน้าตาเฉย เธอทั้งเขินทั้งโมโหปนกันไปหมด

“เอ้า! ลงมืออาบสิครับ ช้าแบบนี้ ผมเปลี่ยนใจอาบให้คุณขึ้นมา จะมาว่าไม่ได้นะ”

คนนอนในอ่างอาบน้ำเร่งยิกๆ เมื่อเห็นว่าเธอยังคงยืนนิ่งหลับตาปี๋อยู่ที่เดิม พรนลัทค่อยๆหรี่ตาเหลือบมานิดหนึ่ง พอเห็นฟองสบู่ฟูฟ่องเต็มอ่างท่วมคนตัวโตมิดเห็นแค่ลำคอ ก็ผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะก้าวไปใกล้ๆ อ่างอาบน้ำ แล้วเอื้อมไปหยิบเก้าอี้ตัวเล็กมาค่อยๆนั่งลงอย่างละล้าละลังไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี 

“รีบๆ ถูสิครับ ผมรออยู่นะที่รัก”

คนถูกเรียก ‘ที่รัก’ มาสองครั้งติดแล้ว ส่งสายตาค้อนวงใหญ่ให้กับคนสั่ง แต่ก็จำยอมอาบน้ำให้เขาแต่โดยดี ตั้งแต่เกิดมาจนโตเป็นสาวสะพรั่ง เธอยังไม่เคยอาบน้ำให้ใคร อ้อ! เว้นแต่เคยอาบให้หมา ให้ช้างมาแล้ว ก็แค่อาบให้คนที่ชื่อเหมือนสัตว์ก็คงเหมือนๆกันหล่ะมั้ง คิดปลอบใจตัวเองเสร็จก็ลงมือ

ทว่าพอได้สัมผัสบ่าหนาจวบจนไหล่กว้างที่แน่นหนั่นไปด้วยมัดกล้าม ใบหน้านวลเนียนก็เห่อแดงก่ำขึ้นมาอีกระลอก แล้วคนที่รอให้เธออาบน้ำให้ก็ใจร้อนขึ้นมา คว้าฝ่ามือเล็กของเธอแล้วยัดฟองน้ำถูตัวใส่มาให้ แล้วลากไล้ไปตามแผงอกกว้าง พรนลัทจึงรีบหลับหูหลับตาคว้าท่อนแขนกำยำออกมาถูๆ ขัดๆ อย่างกระแทกกระทั้น  ขณะที่หัสดินทร์ลอบแอบยิ้มขำแล้วข่มตัวเองให้เปล่งเสียงเข้มข่มขู่คนตัวเล็ก 

“ถูจนแขนผมขึ้นเลขแล้วมั้งคุณ ย้ายไปตรงอื่นบ้างสิครับ”

ไม่ว่าเปล่ามือหนายังคว้าฝ่ามือเล็กมุดลงไปในอ่างน้ำอย่างรวดเร็ว เล่นเอาคนอาบน้ำให้ถึงกับตกใจลนลาน รีบสลัดมือออกแล้วโวยวายเสียงดังลั่น

“อ๊ายยย ไม่องไม่อาบมันแล้ว ไอ้คนบ้า ไอ้คนลามก”

พรนลัทรีบสะบัดตัว พร้อมกับปาฟองน้ำถูตัวใส่คนในอ่าง แล้วลุกขึ้นหนีแต่ชายหนุ่มก็ไวกว่ามาก เขาคว้าข้อมือเล็กแล้วกระตุกทีเดียว ร่างอรชรก็เสียหลักหงายหลังตกลงไปในอ่างจนน้ำแตกกระจาย

ตูม!

“ว้ายยย!!”

คนไม่ทันได้ตั้งตัวก็ดิ้นขลุกขลักอยู่บนร่างหนาที่เปียกลื่นไปหมด เรือนกายกำยำที่เธอไม่กล้าจะแตะต้องตอนนี้ได้สัมผัสแนบชิดชนิดเนื้อแนบเนื้อ เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ก็เปียกลู่ไปทั้งตัวไม่สามารถขวางกั้นความแข็งแกร่งไปทั้งเนื้อทั้งตัวของเขาได้

หัสดินทร์รวบร่างเล็กเปียกปอนกระชับเข้ากับแผงอก ทว่าในอ้อมแขนยังดิ้นไปมาราวกับอยู่บนของร้อน เธอซัดฝ่ามือลงบนบ่าหนาไม่ยั้ง แล้วยังแหวเสียงเขียวไม่พัก

“คุณช้าง ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ ไอ้คนหื่นกาม”

“ถ้าคุณไม่หยุดโวยวาย ผมจะอาบน้ำให้คุณแทนนะน้ำผึ้ง”

ประโยคข่มขู่เสียงกร้าวกระด้างขึ้น ทำเอาคนที่ดิ้นเร่าๆ บนตัวหยุดชะงักฉับพลัน

“คุณมันโวยวายเก่งที่หนึ่งเลยนะน้ำผึ้ง เสียงคุณนี่จะทำผมหูหนวกเข้าสักวัน” เสียงห้าวยังบ่นคนตัวเล็กไม่หยุด

“ก็ปล่อยฉันสิ ไอ้คน…อื้อ!”

ปากอิ่มที่กำลังโต้เถียงไม่หยุดก็ถูกปากหยักได้รูปฉกลงมาปิดเอาไว้เสียเหมาะเหม็ง พลางบดคลึงหนักหน่วงอยู่เพียงชั่วครู่ หัสดินทร์ไม่ได้จูบดูดดื่มในคราแรกแต่อย่างใด เขาแค่ต้องการปิดปากเล็กที่ยังต่อปากต่อคำไม่เลิกให้เงียบลงเท่านั้น หากแต่บทลงโทษแสนรัญจวนใจ ก็ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยน เมื่อปลายลิ้นร้อนแทรกเข้าไปเกี่ยวกระหวัดเรียวลิ้นเล็ก ตักตวงความหอมหวานไปเสียหมดสิ้น ก่อนเขาจะผละออกให้เธอได้หายใจเอาอากาศเข้าปอด

พรนลัทได้แต่หอบหายใจอิงศีรษะซบลงบนอกกว้างของเขาอย่างอ่อนแรง ส่วนปากร้อนยังคงคลอเคลียไปตามขมับบางเปียกชื้น ลากไล้มายังพวงแก้มสีแดงระเรื่อ เสียงทุ้มนุ่มก็เอ่ยบอกเบาๆ

“ผมจะลุกขึ้นแล้ว ให้เวลาแค่ห้านาที รีบอาบน้ำซะ ขืนชักช้าผมมาช่วยอาบแน่นอน”

ว่าจบก็เบี่ยงร่างเล็กให้นั่งลงในอ่าง แล้วหยัดกายสูงกำยำของตัวเองลุกขึ้น ทำเอาพรนลัทรีบหลับตาปี๋ พลางยกมือขึ้นมาปิดหน้า พร้อมๆ กับก้มหน้างุดลงไปกับอ่างอาบน้ำ ก่อนจะได้ยินเสียงน้ำไหลจากฝักบัว บอกให้รู้ว่าเขาคงกำลังล้างตัวจากน้ำสบู่

หัสดินทร์คว้าผ้าขนหนูบนชั้นวางผ้าข้างผนังห้องมาพันรอบเอวสอบไว้ลวกๆ ก่อนจะก้าวไปยังอ่างอาบน้ำ พร้อมกับเอื้อมมือไปแกะฝ่ามือเล็กออกจากใบหน้าเนียนใส แล้วประคองสองแก้มนุ่มของคนที่อยู่ในอ่าง พรนลัทจึงลืมตาสบเข้ากับดวงตาสีนิลคมกริบฉายแววพราวระยับ กับเรียวปากหยักคลี่ยิ้มเล็กๆ ที่อยู่ห่างไม่ถึงคืบ เสียงทุ้มเอ่ยกำชับ

“อาบน้ำได้แล้ว เหม็นบูดจะแย่”

คนบอกว่าเหม็นก็ก้มลงมาจูบกลีบปากสีระเรื่อเสียหนักหน่วง ก่อนจะก้าวออกจากห้องน้ำไปทันที ปล่อยให้คนในอ่างมองตามด้วยสายตาเขียวขุ่น เมื่อประตูห้องน้ำถูกปิดลง เธอจึงรีบลนลานลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำ แล้วตาลีตาเหลือกเปิดฝักบัวชำระร่างกายอย่างเร่งรีบที่สุดในชีวิต เกรงว่าถ้าเธอช้า คนบ้าอำนาจจะเข้ามาช่วยอาบตามที่ขู่เอาไว้น่ะสิ ไม่ได้กลัวหรอกนะ แค่เกรงใจเฉยๆ

*****

เพียงไม่นานร่างเล็กในชุดผ้าขนหนูสีขาวก็ค่อยๆ แง้มประตูห้องน้ำออกมา เป็นการอาบน้ำเร็วที่สุดในชีวิตของเธอแล้ว พรนลัทโผล่แค่ศีรษะออกมากวาดสายตาดูลาดเลา เมื่อเห็นว่าไร้ซึ่งเงาของเจ้าของห้อง เธอก็รีบย่องออกมา หญิงสาวเหลือบไปเห็นโซนแต่งตัวของห้อง ก็ถือวิสาสะค้นตู้เสื้อผ้าของเขาหาเสื้อผ้าที่เธอพอจะสวมใส่ได้ ก็ได้เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่สีน้ำเงินเข้มเนื้อผ้าค่อนข้างทึบและหนามาตัวหนึ่ง จากนั้นก็รีบผลัดเปลี่ยนดีกว่าให้เธอนุ่งผ้าขนหนูตัวเดียวมันเสี่ยงเกินไป

ด้วยความที่ค่อนข้างจะสีทึบและใหญ่เกินกว่าตัวของเธอมาก มันจึงช่วยอำพรางเรือนร่างที่ไร้ซึ่งซับในได้เป็นอย่างดี แขนเสื้อเธอก็พับขึ้นไปสองตลบ ถือว่าใส่ไปก่อนกลับบ้านค่อยไปเปลี่ยน ส่วนความยาวของชุดคลุมลงไปเกือบถึงเข่าโดยไม่ต้องพึ่งกางเกงก็ดูไม่น่าเกลียด มองเผินๆ เหมือนเธอใส่ชุดนอนตัวโคร่งอย่างไรอย่างนั้น

หากแต่ท้องฟ้าและสภาพอากาศเหมือนกำลังทำร้ายเธอ จู่ๆ ฝนก็กระหน่ำตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา เรียกว่ามืดฟ้ามัวดินมาก เสียงพิรุณที่พร่ำอยู่ด้านนอก มาพร้อมๆ กับร่างสูงใหญ่ที่มีเพียงกางเกงขายาวสีเทาเข้มอวดกล้ามท้องเป็นลอนสวยผ่านการออกกำลังกายมาเป็นอย่างดีก้าวเข้ามาในห้อง ทำเอาคนเผลอมองใบหน้าเห่อร้อนอย่างห้ามไว้ไม่อยู่ เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องน้ำ

‘อื้อหื้อ ซิกแพ็ค กล้ามท้อง ไม่สิ! อย่าไปมองนะยัยน้ำผึ้ง

พรนลัทรีบสะบัดความคิดน่าอายของตัวเองทิ้งไป แล้วเบี่ยงใบหน้าแดงแจ๋ของตัวเองหนีสายตาคมกริบที่จ้องมองเธอเป็นประกายคู่นั้น ขณะที่หัสดินทร์ก็จ้องร่างอรชรที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ผิวขาวอมชมพูของเธอที่โผล่พ้นชายเสื้อสีเข้มช่างตัดกันได้อย่างสวยงาม เขายอมรับว่าพอได้เห็นร่างบางอยู่ในชุดของเขาก็ทำให้หัวใจแกร่งเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก

“ฝนตกหนักไม่มีท่าทีจะหยุด คืนนี้คุณคงต้องนอนที่นี่”

“อะไรนะ! ฉันไปนอนกับสาลี่ก็ได้”

“ฝนตกขนาดนี้ใครจะมารับคุณไปได้ อย่าเรื่องมากน่าน้ำผึ้ง คุณกำลังทำให้คนอื่นลำบากใจนะ”

“แล้วการที่ฉันต้องนอนกับคุณนี่ไม่ลำบากใจฉันหรือไง”

“ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าจะนอนกับคุณ ผมนอนโซฟาที่อยู่ตรงนี้ต่างหาก”

หัสดินทร์กระตุกยิ้มน้อยๆ ก่อนจะชี้ไปที่โซฟาตัวหนึ่งที่อยู่ตรงมุมห้อง ทำเอาคนเข้าใจผิดหน้าแดงก่ำไม่รู้เพราะโกรธหรือว่าอายกันแน่  เธอจึงเอ่ยอุบอิบเถียงข้างๆคูๆ

“แล้วใครจะไปรู้ล่ะ”

“คุณน่ะคิดอะไรกับผมหรือเปล่า”

ไม่ว่าเปล่าร่างสูงใหญ่ก็ก้าวเข้ามาใกล้ช้าๆ เล่นเอาพรนลัทต้องถอยหลังกรูจนไปชนเข้ากับผนังห้องอีกฝั่ง เธอไม่ยอมจนมุมง่ายๆ ก็ค่อยๆเลียบๆเคียงๆไปตามผนังห้อง ชายหนุ่มยกมือยันผนังคร่อมร่างเล็กเอาไว้ทั้งสองด้าน ขณะเดียวกันคนถูกต้อนก็ยกมือดันแผงอกล่ำๆ

“ถะ…ถอยไปเลยนะ”

หัสดินทร์หัวเราะหึๆ ใส่ใบหูเล็ก ยิ่งพอเขาได้เห็นใบหน้าตื่นๆและเสียงสั่นๆของเธอ ทำให้เขารู้ว่าคนที่ถูกกักอยู่ในอ้อมแขนกำลังกล้าๆ กลัวๆ เขาจึงเอ่ยกระเซ้าน้ำเสียงเนิบๆ ด้วยความใจเย็น

“คนเก่งแสนแสบของผมไปไหนแล้วล่ะ”

เขายกข้อนิ้วแข็งๆ ลูบไล้พวงแก้มนุ่มสีระเรื่อเบาๆ พลางคลี่ยิ้มขำกับสีหน้าแตกตื่นที่อยู่ใกล้แค่ปลายจมูก ซึ่งมันน่ารักน่ามองอย่างบอกไม่ถูก

“ไปกินข้าวกันดีกว่า คุณจะได้มีแรงเถียงผมทั้งคืนไงดีไหม”

ว่าจบก็สองแขนแข็งแรงก็รวบร่างบางเข้ามากอดเอาไว้แนบอก พร้อมๆ กับก้มลงจูบกลีบปากอิ่มหนักๆ สองครั้งติดอย่างมันเขี้ยว ก่อนจะยอมผละออกจากความหวานละมุน แล้วจูงข้อมือเล็กให้เดินไปนอกห้อง พรนลัทได้แต่ย่นจมูกใส่คนตัวโตไปหนึ่งที แต่ก็ยอมเดินตามเขาไปเพราะตอนนี้เธอหิวจนจะเขมือบช้างได้ทั้งตัวแล้ว

ชายหนุ่มพาเธอมานั่งที่โต๊ะไม้ที่สามารถนั่งรับประทานอาหารได้สี่คนอยู่มุมหนึ่งของห้องครัว ซึ่งพอเธอได้สังเกตก็เห็นว่าห้องนี้เป็นโซนของห้องครัวขนาดเล็ก เรียกได้ว่าเป็นบ้านพักที่ครบครันแม้จะขนาดเล็ก แต่ก็ถือว่าใช้พื้นที่ได้อย่างเหมาะสม ก่อนหน้านี้หัสดินทร์ได้สั่งการให้สาลี่นำอาหารมาให้ก่อนที่ฝนจะตก บนโต๊ะอาหารจึงมีจานข้าวสำหรับสองที่และอาหารอยู่ประมาณสองสามอย่าง

พรนลัทลงมือรับประทานอาหารตรงหน้าเงียบๆ หรือเรียกอีกนัยเธอกำลังหลบสายตาคมที่จ้องมาเป็นระยะๆ มากกว่า ส่วนหัสดินทร์ก็คอยตักอาหารใส่จานเธอบ้าง ตักให้ตัวเองบ้าง ชายหนุ่มจ้องมองคนตัวเล็กที่กำลังเคี้ยวข้าวแก้มป่องด้วยความเอ็นดู เขาเคยสงสัยว่าทำไมผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอถึงได้ระหกระเหินมาอยู่ที่นี่ อีกอย่างน้าทิพย์อาภายังไว้ใจให้ครอบครัวของเขาดูแลเธอ หรือมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเธอหรือเปล่า เขาจึงตัดสินใจถามออกไป

“น้ำผึ้ง…ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ”

คนถูกถามเงยหน้ามองด้วยความสงสัย ดวงตากลมโตของเธอฉายแววประหลาดใจกับคำถามของเขา แต่ยังไม่ทันที่เธอจะว่าอย่างไร เสียงทุ้มก็ขยายความประโยคก่อนหน้าที่ถาม

“ที่ผมถามไม่ใช่จะไล่คุณกลับกรุงเทพหรอกนะ คุณจะอยู่นี่อีกกี่เดือนกี่ปีก็ตามใจ จะคอยป่วนจนปางช้างของผมให้วุ่นแค่ไหนก็ได้ ผมแค่สงสัยว่าคุณมีเรื่องไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า ผมอยากรู้เฉยๆ”

“ฉัน…”

จู่ๆ สิ่งที่อยากจะพูดก็จุกที่ลำคอ พรนลัทวางช้อนส้อมลงบนจานอาหาร แล้วพยายามปรับเสียงตัวเองไม่ให้สั่นเครือ ยามนึกถึงเรื่องที่เกิดกับตัวเอง และดูเหมือนคนที่นั่งตรงข้ามจะรับรู้ได้ เขาลุกขึ้นพร้อมกับพาตัวเองมาทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ พลางเอื้อมมือหนามากุมมือเล็กไว้เบาๆ ราวกับกำลังปลอบและให้กำลังใจไปในตัว

“งานที่ฉันตั้งใจทำมากๆ กลับถูกขโมยไปซึ่งๆหน้า แถมคนขโมยก็มีอิทธิพลในที่ทำงาน ฉันโมโหก็เลยทำร้ายเขาไป ความจริงฉันรู้สึกผิดต่อแม่มาก ถ้าฉันไม่ใจร้อนทำอะไรบุ่มบ่าม คงไม่ถูกพักงานไม่มีรายได้แบบนี้หรอกคุณ ฉันสัญญากับแม่มาตลอดว่าจะดูแลแม่อย่างดี ไม่อยากให้แม่ต้องทำงานหนักอีกแล้ว ตั้งแต่พ่อทิ้งไปแต่งงานใหม่…”

“ไม่ผิดหรอกนะที่คุณปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง แต่อย่างที่คุณว่าอารมณ์ถ้าอยู่เหนือการควบคุมของเรา ก็นำพามาสู่ความเสียใจ ผมว่าน้าทิพย์ภูมิใจในตัวคุณมากนะ คุณเก่งมากๆแล้ว”

ประโยคปลอบประโลมของเขา ทำเอาพรนลัทที่ฝืนเข้มแข็งมานานก็พังทลายลง กลายเป็นความอ่อนแอกัดกินหัวใจ แล้วน้ำอุ่นๆก็ค่อยๆไหลออกมาตามหางตาคู่สวยราวกับห่าฝน คนได้เห็นจึงรีบเกลี่ยปลายนิ้วเช็ดให้อย่างนุ่มนวล

“มานี่มาน้ำผึ้ง”

หัสดินทร์รั้งร่างละมุนที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นเข้ามากอดแนบอก และลำแขนกลมกลึงก็โอบกอดเรือนกายหนาของเขาราวกับเป็นที่พึ่ง ชายหนุ่มเข้าใจความรู้สึกของเธอดี ที่ต้องลุกขึ้นทำตัวเข้มแข็งเพื่อเป็นที่พึ่งให้กับผู้เป็นมารดา หากใครจะรู้ว่าจริงๆแล้วผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอก็ต้องการที่พึ่งยามที่อ่อนแอเช่นกัน ฝ่ามือใหญ่ลูบศีรษะเล็กตลอดไปจนถึงแผ่นหลังบางอย่างแผ่วเบาอย่างปลอบประโลม เขาปล่อยให้เธอร้องไห้เสียให้พอ

กระทั่งเสียงสะอื้นซาลงเขาจึงดันร่างบางในอ้อมแขนออกมาจ้องหน้ากัน แล้วใช้มือใหญ่ทั้งสองข้างประคองแก้มนุ่มเอาไว้ทั้งสองข้าง พลางใช้ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยคราบน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา พร้อมกับเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงน่าฟังอย่างใจเย็น

“ไม่ร้องแล้วนะครับ คนเก่ง”

หัสดินทร์คลี่ยิ้มละมุนราวกับให้กำลังใจคนตรงหน้า เขาทำให้เธอแย้มยิ้มออกมาทั้งน้ำตาอย่างอิ่มเอมหัวใจ เขาทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัยและพึ่งพาได้ในเวลาเดียวกัน เขารับฟังและพร้อมให้คำแนะนำเธอได้เป็นอย่างดี เป็นสิ่งที่หัวใจดวงน้อยๆของเธอมันเริ่มตอบรับสิ่งดีๆจากเขาคนนี้

“ขอบคุณนะคะ”

พรนลัทสบนัยน์ตาสีนิลที่เจือไปด้วยความอ่อนโยนชั่วอึดใจ พลางดึงมือใหญ่ออกจากแก้มนุ่ม และเป็นฝ่ายหลบสายตาซ่อนใบหน้าที่แดงสุกปลั่ง ก่อนจะผละออกจากอ้อมกอดแสนอบอุ่นของเขา แล้วทำทีเป็นสนใจอาหารตรงหน้าแทน

“เราพักเรื่องเสียใจ เปลี่ยนมาเป็นเรื่องตื่นเต้นดีไหม”

คนชวนคุยเรื่องตื่นเต้นก็ส่งสายตาเป็นประกาย พร้อมๆกับแย้มยิ้มกรุ้มกริ่ม ทำเอาพรนลัทหันกลับไปมองด้วยความแปลกใจ จู่ๆ ก็เปลี่ยนเรื่องเปลี่ยนอารมณ์ ตามพ่อคุณไม่ทันจริงๆ

“คุณรู้ไหมว่า ที่นี่เวลาฝนตกๆ พวกคนงานชอบเล่าเรื่อง ‘ผีผิวปาก’ ให้ฟัง”

คนนั่งตรงข้างๆชวนคุยขึ้นมา หากแต่เรื่องที่เขาชวนคุยมันค่อนข้างขนลุกแปลกๆ กับบรรยากาศฝนตกเย็นๆแบบนี้ หญิงสาวจึงทำสีหน้าไม่อยากจะเชื่อเรื่องที่เขากำลังพูด

“เรื่องแต่งมากกว่ามั้ง คุณก็ไปเชื่อพวกเขา”

“ฟังไว้บ้างก็ดีนะคุณ ไม่อยากฟังหรอ เนี่ยกินข้าวไปฟังเรื่องผีไปสนุกดีนะ”

หัสดินทร์ยังคงเย้าแหย่คนตัวเล็กไม่พัก จริงๆเรื่องผีที่เขาเอามาเล่าไม่ได้มีจริงหรอก แค่อยากจะแกล้งกระเซ้าคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามให้เธอหายจากเรื่องทุกข์ใจก็แค่นั้นเอง เธอมักจะชอบทำเป็นแข็งแกร่งแต่แท้จริงแล้วเปราะบางจนน่าทะนุถนอม และเขาก็อยากจะเป็นคนที่ปกป้องเธอไปตลอดหลังจากนี้

“ไม่ต้องมาหลอกฉันให้กลัวหรอก ฉันไม่ใช่เด็กๆนะคะ”

“ถ้าไม่กลัว งั้นก็ฟังได้สิ” ว่าจบก็แย้มยิ้มเจ้าเล่ห์ “เขาเล่ากันว่าที่นี่ตอนฝนตกๆ มืดๆ ถ้าได้ยินเสียงผิวปากมาแต่ไกล แล้วคนที่ได้ยินอ่ะ ผีจะเอาไปอยู่ด้วย” คนตัวสูงยังคงเล่าอย่างออกรสออกชาติ หากแต่คนขี้กลัวก็ทำใจแข็งรีบตัดบทไม่อยากฟัง

“ไร้สาระน่ะคุณ เรื่องหลอกเด็กชัดๆ ฉันอิ่มแล้วค่ะ”

พูดจบร่างเล็กก็ลุกขึ้นเอาจานไปเก็บล้างที่อ่างล้างจานเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ก่อนจะรีบเดินหนีเข้าไปในห้องพัก ปล่อยให้คนแกล้งเล่าเรื่องผีมองตามไปอย่างยิ้มๆ หัสดินทร์ได้แต่โคลงศีรษะเบาๆ คิดว่าแม่สาวน้อยของเขาปากแข็งเสียจริง อยากจะรู้ว่าจะทำเป็นเก่งได้อีกนานแค่ไหน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทนำ : โดนพักงาน เลยต้องพักใจ

    เวลาเก้าโมงตรง…ณ ห้องประชุมใหญ่ของสตูดิโอ Artis One หลังจบการประชุมคัดเลือกตัวแทนเข้าร่วมโปรเจกต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับรังสรรค์ตัวละครในเกมยอดนิยม ‘Siam’s arena of valor’ หรือที่รู้จักกันในนาม ‘SAV’ เป็นเกมส์แนวโมบาย มีภารกิจต่างๆให้ปกป้องมรดกของไทยอีกทั้งงานนี้ยังได้รับความร่วมมือจากกระทรวงการท่องเที่ยว และผู้พัฒนาเกม ให้ทางสตูดิโออาร์ทติสวันช่วยออกแบบตัวละคร และภาพประกอบในฉาก ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่ค่อนข้างใหญ่และสำคัญเป็นอย่างมากทว่า…ดันไม่ใช่เจ้าของผลงานที่แท้จริงอย่าง ‘พรนลัท เลิศรัตนชัย’ สาวสวยหน้าหวานวัยยี่สิบสี่ปี ดีกรีมือนักวาดภาพตัวประกอบและฉากมือหนึ่งของสตูดิโอ นอกจากมีใบหน้าสวยถูกตาต้องใจหนุ่มๆหลายคนแล้ว เธอยังมีพรสวรรค์ในงานศิลปะเป็นเลิศเรียกว่าเก่งกาจหาตัวจับยากแต่เธอกลับโดนขโมยผลงานไปเป็นของ ‘มธุริน’ เด็กเส้นหลานสาวของท่านประธานเจ้าของสตูดิโอแห่งนี้ ลอกเลียนแบบตัวละครที่เธอออกแบบไปทั้งหมดแล้วดัดแปลงไปเป็นผลงานของตัวเองอย่างหน้าตาเฉย แถมยังนำผลงานไปเสนอให้กับลูกค้าเป็นการส่วนตัว เลยทำให้หล่อนได้เป็นตัวเต็งสำหรับงานในครั้งนี้ไปไม่นานพอคล้อยหลังผู้เข้าประชุมที่ต่างเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 1 : ว่าที่ครูศิลปะคนใหม่

    เทอร์เรสกว้างที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสาบและสวนดอกไม้ เป็นมุมโปรดปราณของแม่เลี้ยง ‘สรณ์สิริ’ ซึ่งชอบออกมานั่งเล่นบนเก้าอี้หวายตัวใหญ่ พร้อมกับจิบชาร้อนชื่นชมธรรมชาติ วันนี้ก็เช่นกันต่างตรงที่มีสามีอย่างพ่อเลี้ยง ‘หิรัญ’ วัยหกสิบตอนปลายกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ธุรกิจอยู่ใกล้ๆทั้งคู่สร้างอาณาจักรปางช้าง ‘สรศิลป์ เนเชอรัล’ ขึ้นมาโด่งดังจนมีบรรดานักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติพากันมาเที่ยวชม บ้างก็มาพักที่รีสอร์ทที่นี่เพื่อใกล้ชิดช้างและธรรมชาติ อีกอย่างการจัดการของปางช้างจะเป็นแนวเชิงอนุรักษ์ โดยมีช้างที่เคยปลดระวางจากการลากซุง เร่ร่อน ซึ่งแม่เลี้ยงสรณ์สิริก็รับเข้ามาดูแลไม่ต่ำกว่าสี่สิบถึงห้าสิบตัวนอกจากจะมีแค่ปางช้างแล้ว ประกอบกับความคิดทางธุรกิจของลูกชายและสามีช่วยกันพัฒนาจนปางช้างไม่ได้เป็นแค่สถานที่มาป้อนอาหารสัตว์ใหญ่เท่านั้น ยังมีจัดกิจกรรมทำค่ายให้คนที่สนใจมาเข้าพักที่รีสอร์ทไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ โดยกิจกรรมส่วนใหญ่ที่ทำร่วมกัน คือพาช้างอาบน้ำ เล่นน้ำกับช้าง หรือนั่งบนเสลี่ยงชมธรรมชาติ จวบจนทำการแสดงศิลปะจากช้าง ถือว่าเป็นธุรกิจปางช้างที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียง เป็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 2 : ชนวนเหตุเสียวหู

    ร่างสูงผอมสมส่วนในวัยยี่สิบปีเดินออกมาหามุมคุยโทรศัพท์ เนื่องจากมีสายเข้าจากเพื่อนคนสนิทในมหาวิทยาลัยโทรมาพูดคุยเรื่องงานที่ต้องทำส่งอาจารย์ ชายหนุ่มเดินถือโทรศัพท์มือถือลัดเลาะไปตามคันร่องสวนมะม่วงและชมพู่ ซึ่งวันนี้ครอบครัวของหัสดินทร์แวะเวียนมาเยี่ยมทิพย์อาภาที่บ้านสวนจังหวัดนนทบุรีทว่าจังหวะที่หัสดินทร์กำลังลอดซุ้มต้นชมพู่ขนาดใหญ่ ซึ่งมีกิ่งก้านแผ่ไพศาลให้ร่มเงาแก่ทางเดินที่เขากำลังเดินผ่าน ก็มีอะไรบางอย่างหล่นตุ้บลงมาตรงหน้า เฉียดศีรษะของเขาไปหวุดหวิด พร้อมกับเสียงเล็กตะโกนร้องบอกเสียงดังลั่น“เฮ้ย! มดแดง”คนตัวโตกว่าก้มมองลงไปก็เห็นเป็นรังมดแดงถูกห่อหุ้มด้วยใบของต้นชมพู่ จากขนาดรังใหญ่พอสมควรตกอยู่ตรงหน้าเท้าของเขา ถ้าชายหนุ่มเดินเร็วกว่านี้อีกนิด รับรองได้ว่าเจ้ามดแดงได้เข้าไปทำรังรุมกัดเขาทั้งตัวเป็นแน่หัสดินทร์จึงก้มไปหยิบกิ่งไม้มาเขี่ยรังมดแดงไปไว้อีกด้านของคันร่องสวน แล้วก็เงยหน้าขึ้นไปมองสาเหตุที่แท้จริงของรังมดแดงที่อยู่ตรงปลายเท้า ดูก็รู้ว่าไม่ได้ร่วงจากต้นแบบปกติธรรมดาอย่างแน่นอนเด็กผู้หญิงผมเปียใบหน้าและตามเสื้อผ้ามอมแมมไปด้วยคราบโคลน ดูจากตัวแล้วอายุอานามคงเป็นน้อง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 3 : แค่เห็นก็เหม็นขี้หน้า

    ร่างสูงใหญ่สวมเสื้อกล้ามสีดำทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นสวมกางเกงยีนส์ตัวเก่งสีซีดพาตัวเองมายังโรงจอดรถขนาดใหญ่ เป็นจังหวะเดียวกันกับลูกน้องคนสนิทขี่ซาเล้งพ่วงข้างเลี้ยวเข้ามายังบริเวณที่เขากำลังยืนอยู่ ชายหนุ่มจึงโบกมือเรียกดัก ทำเอาเจ้าชงนมถึงกับเบรกรถหน้าแทบทิ่ม “มีอะไรหรือเปล่าครับนาย”“มึงจะไปไหนไอ้ชงนม”“ผมเอาผักปรังกับใบส้มป่อยมาให้แม่เลี้ยงครับ เห็นว่าวันมะรืนนายแม่จะให้ป้าฟองจันทร์ทำแกงโฮะต้อนรับคุณครูน้ำผึ้งครับ”ชงนมเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่ม แล้วคลี่ยิ้มกว้างอวดทั้งฟันทั้งเหงือกให้คนเป็นนายได้ยล ดูท่าแม่ของเขาจะเตรียมอาหารไว้เป็นอย่างดี คงคิดว่าหลังกลับมาจากลำปางจะต้อนรับหลานสาวแบบจัดเต็มซิท่า ก่อนชายหนุ่มจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“วันนี้แม่ให้มึงไปรับน้ำผึ้งใช่ไหม”“ใช่ครับ นายช้างมีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่า”“เปล่า แต่กูจะเป็นคนไปรับเอง แล้วก็ยืมรถมึงด้วย”คนเป็นเจ้านายแจ้งความประสงค์ เล่นเอาลูกน้องคนสนิทอ้าปากหวอ อดที่จะทำหน้าสงสัยไม่ได้“ห๊ะ! ไปรับเอง แล้วจะยืมไอ้แก่ขาเฟี้ยวของผมไปด้วยเนี่ยนะครับ รถในบ้าน…”ยังไม่ทันที่ชงนมจะพูดจบ ดวงตาคมกริบของคนเป็นนายปรายตามามอง ก็ทำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 4 : ก็เจ๊ากันไปแล้วกัน

    ยามราตรีท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงดาราส่องสว่าง มีเพียงอัสนีบาตที่พาดผ่านมาเป็นระยะ ผ่านไปไม่ถึงนาทีฝนก็กระหน่ำตกลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา ด้วยความที่เป็นบ้านไม้ทำให้พรนลัทได้ยินเสียงน้ำฝนตกกระทบไม้กระดานหน้าระเบียงบ้าน พร้อมกับเสียงกบเสียงเขียดร้องระงมรับพิรุณ ยังทำให้เธอจินตนาการไปถึงเรื่องเล่าที่ได้ฟังมาจากคนงานหนุ่มเมื่อตอนเย็นหญิงสาวนอนเหยียดยาวตัวแข็งทื่ออยู่บนเตียงนอนที่ทั้งแข็งทั้งเย็น พลางใช้ปลายเท้าเล็กของตัวเองเขี่ยๆเอาผ้าแพรเนื้อลื่นขึ้นมาห่มจรดจนถึงคอหอย ดวงตากลมโตสอดส่ายไปทั่วห้องเล็กๆ โดยมีแสงสีเหลืองอ่อนจากหลอดไฟที่ห้อยระย้าจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่ ขยับตามแรงลมของพายุฝนที่อยู่ข้างนอกทว่าจู่ๆ เธอก็ดันได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาเดินอยู่รอบๆบ้านพัก คำบอกเล่าของชงนมก็เข้ามากัดกินหัวใจดวงน้อยของเธอให้หวาดหวั่น ความคิดฟุ้งซ่านเข้ามาในหัวเต็มไปหมด กระทั่งต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงกระหน่ำเคาะที่ประตูห้องสามถึงสี่ที~ ก๊อกๆ ก๊อกๆ ~“ใครอ่ะ?”พรนลัทตะโกนแข่งกับเสียงฝนที่ตกไม่มีพักอยู่ข้างนอก แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมา ยิ่งทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ หญิงสาวพนมมือขึ้นแล้วสวดมนต์ผิดๆถูกๆ บ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 5 : ขิงก็ร่า ข่าก็แรง

    บ้านหลังใหญ่ของครอบครัวศิลปการสกุล ไม่สิ! ต้องเรียกเป็นคฤหาสน์เลยก็ว่าได้ เพราะทั้งกว้างใหญ่ติดกับทะเลสาปเล็กๆและมีสวนดอกไม้เบ่งบานสวยงามหลากหลายสายพันธ์ บ้านหลังนี้อยู่ห่างจากปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลประมาณห้ากิโลเมตร สามารถขับรถหรือปั่นจักรยานลัดเลาะไปตามถนนเล็กๆด้านหลังได้มีอีกเรื่องหนึ่งที่พรนลัทพึ่งได้รู้จากผู้เป็นป้าคือเส้นทางที่หัสดินทร์พาเธอมาในวันแรกเป็นทางด้านหลังของปางช้าง ที่ส่วนใหญ่มักจะให้ควาญช้างจูงช้างไปเดินออกกำลังกาย เท่านี้ก็ทำให้รู้แล้วว่าชายหนุ่มตั้งใจกลั่นแกล้งเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันร่างบางทรุดนั่งลงบนปลายเตียงนอนหลังใหญ่ โดยมีสาลี่คอยช่วยจัดข้าวของของเธอเข้าที่ให้เรียบร้อยตามคำสั่งของแม่เลี้ยงสรณ์สิริ ก่อนเสียงหวานจะเอ่ยถามสาวใช้เกี่ยวกับเรื่องที่เธอข้องใจสงสัย“สาลี่ ถามอะไรหน่อยสิ”“ถามเยอะๆก็ได้ค่ะ คุณน้ำผึ้ง” สาลี่เอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะหันมาจ้องใบหน้าสวยใสของเจ้านายสาวคนใหม่“บ้านพักหลังเล็กมีผีจริงป่ะ”“ตั้งแต่สาลี่โตมาจนเป็นสาวอยู่ที่นี่มาไม่เคยไม่ผีหรอกค่ะ พี่ชงนมก็อำเล่นไปอย่างนั้นแหละ คุณน้ำผึ้งสบายใจได้”“แต่เมื่อคืนฉันได้ยินเสียงคนเคาะประตู กับเห็นเงาตะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 6 : ลึกๆ ก็แอบห่วง

    พรนลัทเดินออกมาสงบสติอารมณ์คุกรุ่นของตัวเอง จนกระทั่งรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาเธอจึงแบมือออกมาดูก็พบว่าฝ่ามือเล็กมีรอยเหมือนเศษแก้วบาดเป็นแผลทางยาว แต่ไม่ได้ลึกมากขนาดต้องเย็บ คงเป็นเศษแก้วที่ตกลงมาแตกแล้วกระเด็นมาโดนมือเธอตอนที่ล้มหญิงสาวมารู้สึกเจ็บเมื่อเห็นบาดแผล อาจเป็นเพราะตอนนั้นเธอทั้งโมโหทั้งโกรธบวกกับแผลยังคงชาจนลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ เธอจึงเดินไปที่ก๊อกน้ำแล้วทำการล้างแผลและพันด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก จากนั้นก็เดินกลับไปยังห้องเรือนประชาสัมพันธ์เธอสวนกับร่างสูงของเจ้าของปางช้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดวงตาสองคู่ต่างอารมณ์ จ้องกันนิ่งอย่างไม่มีใครยอมหลบ ฝ่ายหนึ่งรู้สึกผิดที่พูดจารุนแรง อีกคนก็เฉยเมยและยอมเป็นฝ่ายเมินหน้าหนี พรนลัทจึงไม่เห็นดวงตาคมเข้มก้มลงไปมองมือเล็กที่มีผ้าเช็ดหน้าพันเอาไว้อยู่ชั่วครู่ แล้วทำท่าจะเอ่ยถามอะไรสักอย่าง หากแต่คนตัวเล็กเลือกที่จะเดินไปหาสาวน้อยคนสนิทอย่างรวดเร็วจากนั้นบรรยากาศการทำงานในปางช้างก็ขมุกขมัวราวกับจะมีพายุโหมกระหน่ำอย่างไรอย่างนั้น เจ้านายหนุ่มมีสีหน้าเรียบตึงไปร่วมทำงานกับคนงานที่ท้ายปางช้าง ส่วนพรนลัทกลับเข้าไปทำงานของตัวเองในห้องสอนศิลปะเง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 7 : เจ้าไข่ตุ๋น

    ช่วงสี่โมงเย็น พรนลัทชวนสาลี่ปั่นจักรยานลัดเลาะไปทางซอยด้านหลังของบ้าน ที่สามารถขี่เลาะทางลูกรังเล็กๆไปถึงปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลได้ ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นสนสามใบเรียงรายเขียวขจี ทำให้พอมีร่มเงาไม่ร้อนจนเกินไป บวกกับอากาศช่วงหน้าฝนที่เชียงใหม่ค่อนข้างจะชุ่มชื้นไม่ได้แห้งแล้งสองสาวพากันเข้ามาจอดจักรยานพิงต้นไม้ใหญ่ จากนั้นก็พากันเดินชมธรรมชาติในปางช้าง เนื่องจากตั้งแต่พรนลัทเริ่มทำงานก็ยังไม่ได้มาทัวร์ที่นี่ให้รอบเลย เธอจึงไหว้วานให้สาลี่เป็นไกด์กิตติมศักดิ์ในวันนี้ หญิงสาวตื่นตาตื่นใจกับบ้านพักโซนรีสอร์ทมาก บ้านพักทั้งสิบหลังถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขาทั้งสี่ด้าน เสมือนบ้านอยู่ตรงกลางท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามโครงสร้างทั้งหมดทำมาจากไม้ การออกแบบคล้ายกระท่อมเล็กๆในป่าใหญ่ ค่อนข้างแข็งแรง ด้านหน้ามีระเบียงเปิดโล่งยื่นออกมา ส่วนด้านหลังก็ติดกับลำธารขนาดเล็กที่น้ำไหลมาจากเทือกเขา ทุกเช้าจะมีบรรดาช้างออกมาเดินตรงลานหญ้ามารับกล้วยและผลไม้อื่นๆที่นักท่องเที่ยวอยากให้อาหาร ยิ่งเป็นจุดเด่นทำให้สถานที่แห่งนี้มีเอกลักษณ์ จนนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมาไม่ขาดสาย ถึงขนาดต้องจองห้องพักกันข้ามปีเลยทีเด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17

บทล่าสุด

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 10 : ความรู้สึกเล็กๆเริ่มก่อตัว

    พรนลัทมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อถูกปล่อยลงให้ยืนในห้องน้ำกว้าง นั่นแหละเลยทำให้เธอรู้ว่าตอนนี้กำลังอยู่ในเรือนเล็กของเจ้าของปางช้าง ยังไม่ทันที่เธอจะจับต้นชนปลายได้ถูก เสียงกดล็อกประตูห้องน้ำก็ทำเอาเธอสะดุ้งตกใจ พอหันกลับไปมองคนที่ล็อกประตูก็ต้องเบิกตาโต เมื่อเขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกทั้งแถวแล้วถอดออกจากตัวเหวี่ยงทิ้งไปที่ตะกร้ามุมหนึ่งของห้องน้ำ คนตัวเล็กต้องรีบหันหลังซ่อนใบหน้าแดงแจ๋ไปทางผนังห้องน้ำ‘แล้วเป็นบ้าอะไรเนี่ย มาแก้ผ้าต่อหน้าทำไม!’คนหน้าแดงค่อนขอดอยู่ภายในใจ ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะเอื้อนเอ่ยออกไป ร่างสูงใหญ่ที่ตอนนี้เหลือเพียงผ้าขนหนูพันกายท่อนล่าง ก็ก้าวมายันฝ่ามือกับผนังห้องน้ำข้างหัวไหล่มนทั้งสองด้าน เพื่อกักร่างบางไว้ในวงแขน พรนลัทจึงหันกลับมาทำสีหน้าแตกตื่น พลางถอยหลังเบียดไปกับผนังห้องน้ำ นี่ถ้าเธอล่องหนหายไปได้เธอคงทำไปแล้ว“ทะ…ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย ฉันไม่เล่นนะ!”“ใครว่าผมเล่น ผมจะอาบน้ำต่างหาก”“ก็อาบไปสิ จะให้ฉันมาอยู่ตรงนี้ทำไมล่ะ”คนตัวเล็กช้อนตาขึ้นมองพร้อมกับเถียงคอเป็นเอ็นอย่างไม่ลดละ แถมยังทำหน้ายับยุ่ง จนคนมองได้แต่กระตุกยิ้มร้ายที่มุมปากพาลนึกในใจ‘แสบ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 9 : ฤทธิ์แม่ตัวแสบ

    ร่างอรชรในชุดเสื้อยืดสีดำพอดีตัวกับกางเกงผ้าฝ้ายขาสั้นสีน้ำตาลอ่อนกำลังนั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้หวายลักษณะคล้ายตัวเล็กภายในห้องสอนศิลปะ วันนี้ไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรมากมาย อาจเพราะเป็นวันธรรมดานักท่องเที่ยวจึงจะน้อยกว่า วันเสาร์-อาทิตย์ พรนลัทกำลังก้มหน้าก้มตาขีดๆเขียนๆ บนไอแพดเครื่องบางอย่างสบายอารมณ์เนื่องจากหญิงสาวได้ออกแบบลายกระเป๋าผ้าสำหรับวางสินค้าขายในปางช้าง โดยมีตัวแบบแสนน่ารักอย่างเจ้าไข่ตุ๋น แถมยังได้คนงานผู้หญิงในปางช้างมาคอยช่วยเย็บปักลวดลายเล็กๆน้อยๆ อีกด้วย เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับคนงาน โดยกระเป๋าผ้าลายน่ารักๆ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวรวมไปถึงแม่เลี้ยงสรณ์สิริที่นำกระเป๋าผ้าใบต้นแบบไปอวดให้กับบรรดาคุณหญิงคุณนายในมูลนิธิช่วยเด็กยากไร้ จนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีแต่คนหลั่งไหลเข้ามาสั่งไม่ขาดสาย เธอจึงคิดว่ารายได้ทั้งหมดหักค่าแรงให้คนงานแล้วที่เหลือก็จะมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กที่ขัดสนทุนทรัพย์ในมูลนิธิของแม่เลี้ยงอีกด้วยพรนลัทค่อยๆ บิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยขบของร่างกายที่นั่งทำงานมาเป็นเวลานาน ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นนาฬิกาบนฝาผนังบ่งบอกเวลาสี่โมงเย็น ซึ่งเธอได้นัดแนะ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 8 : จิงโจ้ออสเตรเลีย ปะทะ ช้างแมมมอธป่า

    รถคันใหญ่เคลื่อนตัวเข้ามาจอดในโรงจอดรถของบ้าน หัวคิ้วเข้มของหัสดินทร์ต้องขมวดเป็นปมด้วยความสงสัย เมื่อสายตาคมของเขาสบเข้ากับรถสปอร์ตคันหรูจอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน บ่งบอกว่ามีแขกมาบ้านของเขาอย่างแน่นอน สองหนุ่มสาวเดินเคียงคู่กันเข้ามายังห้องโถงกลางบ้านก็ต้องได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกของบุพการีและแขกออกรสออกชาติอย่างสนุกสนานในห้องรับแขกขนาดใหญ่ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อโปโลคอปกสีเข้มกับกางเกงขาสั้นพอดีเข่าสีครีมกำลังนั่งจ้อกับแม่เลี้ยงสรณ์สิริ และพ่อเลี้ยงหิรัญ ชายหนุ่มหันหน้ามาทางประตูของห้องรับแขก ดวงตาของเขาสบเข้ากับสองร่างต่างไซส์เดินเคียงกันเข้ามา เขาก็รีบลุกขึ้นมาพร้อมกับแย้มยิ้มกว้างและเดินมากอดคอหัสดินทร์“มาทำไมวะ บ้านไม่มีอยู่หรือไง”“มีอยู่เว้ย แต่ไม่มีวิวสวยๆให้ดูแบบนี้ สวยด้วยเด็กด้วย โคตรแจ่ม”‘จิรสิน’ หรือ ‘จิงโจ้’ ลูกพี่ลูกน้องของหัสดินทร์ เขาชอบให้เรียกว่า ‘โจ้’ มากกว่า เอ่ยกระซิบข้างใบหูของคนมีศักดิ์เป็นพี่ที่ห่างกันแค่หนึ่งปี ตัวเองก็เลยปีนเกลียวทำเป็นรุ่นเดียวกัน น้ำเสียงกระเซ้าเย้าแหย่ พลางเหล่ไปมองร่างเล็กใบหน้าสวยหวานที่ยืนข้างๆ ด้วยความสนใจ“อย่ามาปากดี ไอ้เวรโจ้ สาระแน

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 7 : เจ้าไข่ตุ๋น

    ช่วงสี่โมงเย็น พรนลัทชวนสาลี่ปั่นจักรยานลัดเลาะไปทางซอยด้านหลังของบ้าน ที่สามารถขี่เลาะทางลูกรังเล็กๆไปถึงปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลได้ ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นสนสามใบเรียงรายเขียวขจี ทำให้พอมีร่มเงาไม่ร้อนจนเกินไป บวกกับอากาศช่วงหน้าฝนที่เชียงใหม่ค่อนข้างจะชุ่มชื้นไม่ได้แห้งแล้งสองสาวพากันเข้ามาจอดจักรยานพิงต้นไม้ใหญ่ จากนั้นก็พากันเดินชมธรรมชาติในปางช้าง เนื่องจากตั้งแต่พรนลัทเริ่มทำงานก็ยังไม่ได้มาทัวร์ที่นี่ให้รอบเลย เธอจึงไหว้วานให้สาลี่เป็นไกด์กิตติมศักดิ์ในวันนี้ หญิงสาวตื่นตาตื่นใจกับบ้านพักโซนรีสอร์ทมาก บ้านพักทั้งสิบหลังถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขาทั้งสี่ด้าน เสมือนบ้านอยู่ตรงกลางท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามโครงสร้างทั้งหมดทำมาจากไม้ การออกแบบคล้ายกระท่อมเล็กๆในป่าใหญ่ ค่อนข้างแข็งแรง ด้านหน้ามีระเบียงเปิดโล่งยื่นออกมา ส่วนด้านหลังก็ติดกับลำธารขนาดเล็กที่น้ำไหลมาจากเทือกเขา ทุกเช้าจะมีบรรดาช้างออกมาเดินตรงลานหญ้ามารับกล้วยและผลไม้อื่นๆที่นักท่องเที่ยวอยากให้อาหาร ยิ่งเป็นจุดเด่นทำให้สถานที่แห่งนี้มีเอกลักษณ์ จนนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมาไม่ขาดสาย ถึงขนาดต้องจองห้องพักกันข้ามปีเลยทีเด

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 6 : ลึกๆ ก็แอบห่วง

    พรนลัทเดินออกมาสงบสติอารมณ์คุกรุ่นของตัวเอง จนกระทั่งรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาเธอจึงแบมือออกมาดูก็พบว่าฝ่ามือเล็กมีรอยเหมือนเศษแก้วบาดเป็นแผลทางยาว แต่ไม่ได้ลึกมากขนาดต้องเย็บ คงเป็นเศษแก้วที่ตกลงมาแตกแล้วกระเด็นมาโดนมือเธอตอนที่ล้มหญิงสาวมารู้สึกเจ็บเมื่อเห็นบาดแผล อาจเป็นเพราะตอนนั้นเธอทั้งโมโหทั้งโกรธบวกกับแผลยังคงชาจนลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ เธอจึงเดินไปที่ก๊อกน้ำแล้วทำการล้างแผลและพันด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก จากนั้นก็เดินกลับไปยังห้องเรือนประชาสัมพันธ์เธอสวนกับร่างสูงของเจ้าของปางช้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดวงตาสองคู่ต่างอารมณ์ จ้องกันนิ่งอย่างไม่มีใครยอมหลบ ฝ่ายหนึ่งรู้สึกผิดที่พูดจารุนแรง อีกคนก็เฉยเมยและยอมเป็นฝ่ายเมินหน้าหนี พรนลัทจึงไม่เห็นดวงตาคมเข้มก้มลงไปมองมือเล็กที่มีผ้าเช็ดหน้าพันเอาไว้อยู่ชั่วครู่ แล้วทำท่าจะเอ่ยถามอะไรสักอย่าง หากแต่คนตัวเล็กเลือกที่จะเดินไปหาสาวน้อยคนสนิทอย่างรวดเร็วจากนั้นบรรยากาศการทำงานในปางช้างก็ขมุกขมัวราวกับจะมีพายุโหมกระหน่ำอย่างไรอย่างนั้น เจ้านายหนุ่มมีสีหน้าเรียบตึงไปร่วมทำงานกับคนงานที่ท้ายปางช้าง ส่วนพรนลัทกลับเข้าไปทำงานของตัวเองในห้องสอนศิลปะเง

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 5 : ขิงก็ร่า ข่าก็แรง

    บ้านหลังใหญ่ของครอบครัวศิลปการสกุล ไม่สิ! ต้องเรียกเป็นคฤหาสน์เลยก็ว่าได้ เพราะทั้งกว้างใหญ่ติดกับทะเลสาปเล็กๆและมีสวนดอกไม้เบ่งบานสวยงามหลากหลายสายพันธ์ บ้านหลังนี้อยู่ห่างจากปางช้างสรศิลป์ เนเชอรัลประมาณห้ากิโลเมตร สามารถขับรถหรือปั่นจักรยานลัดเลาะไปตามถนนเล็กๆด้านหลังได้มีอีกเรื่องหนึ่งที่พรนลัทพึ่งได้รู้จากผู้เป็นป้าคือเส้นทางที่หัสดินทร์พาเธอมาในวันแรกเป็นทางด้านหลังของปางช้าง ที่ส่วนใหญ่มักจะให้ควาญช้างจูงช้างไปเดินออกกำลังกาย เท่านี้ก็ทำให้รู้แล้วว่าชายหนุ่มตั้งใจกลั่นแกล้งเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันร่างบางทรุดนั่งลงบนปลายเตียงนอนหลังใหญ่ โดยมีสาลี่คอยช่วยจัดข้าวของของเธอเข้าที่ให้เรียบร้อยตามคำสั่งของแม่เลี้ยงสรณ์สิริ ก่อนเสียงหวานจะเอ่ยถามสาวใช้เกี่ยวกับเรื่องที่เธอข้องใจสงสัย“สาลี่ ถามอะไรหน่อยสิ”“ถามเยอะๆก็ได้ค่ะ คุณน้ำผึ้ง” สาลี่เอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะหันมาจ้องใบหน้าสวยใสของเจ้านายสาวคนใหม่“บ้านพักหลังเล็กมีผีจริงป่ะ”“ตั้งแต่สาลี่โตมาจนเป็นสาวอยู่ที่นี่มาไม่เคยไม่ผีหรอกค่ะ พี่ชงนมก็อำเล่นไปอย่างนั้นแหละ คุณน้ำผึ้งสบายใจได้”“แต่เมื่อคืนฉันได้ยินเสียงคนเคาะประตู กับเห็นเงาตะ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 4 : ก็เจ๊ากันไปแล้วกัน

    ยามราตรีท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงดาราส่องสว่าง มีเพียงอัสนีบาตที่พาดผ่านมาเป็นระยะ ผ่านไปไม่ถึงนาทีฝนก็กระหน่ำตกลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา ด้วยความที่เป็นบ้านไม้ทำให้พรนลัทได้ยินเสียงน้ำฝนตกกระทบไม้กระดานหน้าระเบียงบ้าน พร้อมกับเสียงกบเสียงเขียดร้องระงมรับพิรุณ ยังทำให้เธอจินตนาการไปถึงเรื่องเล่าที่ได้ฟังมาจากคนงานหนุ่มเมื่อตอนเย็นหญิงสาวนอนเหยียดยาวตัวแข็งทื่ออยู่บนเตียงนอนที่ทั้งแข็งทั้งเย็น พลางใช้ปลายเท้าเล็กของตัวเองเขี่ยๆเอาผ้าแพรเนื้อลื่นขึ้นมาห่มจรดจนถึงคอหอย ดวงตากลมโตสอดส่ายไปทั่วห้องเล็กๆ โดยมีแสงสีเหลืองอ่อนจากหลอดไฟที่ห้อยระย้าจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่ ขยับตามแรงลมของพายุฝนที่อยู่ข้างนอกทว่าจู่ๆ เธอก็ดันได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาเดินอยู่รอบๆบ้านพัก คำบอกเล่าของชงนมก็เข้ามากัดกินหัวใจดวงน้อยของเธอให้หวาดหวั่น ความคิดฟุ้งซ่านเข้ามาในหัวเต็มไปหมด กระทั่งต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงกระหน่ำเคาะที่ประตูห้องสามถึงสี่ที~ ก๊อกๆ ก๊อกๆ ~“ใครอ่ะ?”พรนลัทตะโกนแข่งกับเสียงฝนที่ตกไม่มีพักอยู่ข้างนอก แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมา ยิ่งทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ หญิงสาวพนมมือขึ้นแล้วสวดมนต์ผิดๆถูกๆ บ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 3 : แค่เห็นก็เหม็นขี้หน้า

    ร่างสูงใหญ่สวมเสื้อกล้ามสีดำทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นสวมกางเกงยีนส์ตัวเก่งสีซีดพาตัวเองมายังโรงจอดรถขนาดใหญ่ เป็นจังหวะเดียวกันกับลูกน้องคนสนิทขี่ซาเล้งพ่วงข้างเลี้ยวเข้ามายังบริเวณที่เขากำลังยืนอยู่ ชายหนุ่มจึงโบกมือเรียกดัก ทำเอาเจ้าชงนมถึงกับเบรกรถหน้าแทบทิ่ม “มีอะไรหรือเปล่าครับนาย”“มึงจะไปไหนไอ้ชงนม”“ผมเอาผักปรังกับใบส้มป่อยมาให้แม่เลี้ยงครับ เห็นว่าวันมะรืนนายแม่จะให้ป้าฟองจันทร์ทำแกงโฮะต้อนรับคุณครูน้ำผึ้งครับ”ชงนมเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่ม แล้วคลี่ยิ้มกว้างอวดทั้งฟันทั้งเหงือกให้คนเป็นนายได้ยล ดูท่าแม่ของเขาจะเตรียมอาหารไว้เป็นอย่างดี คงคิดว่าหลังกลับมาจากลำปางจะต้อนรับหลานสาวแบบจัดเต็มซิท่า ก่อนชายหนุ่มจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“วันนี้แม่ให้มึงไปรับน้ำผึ้งใช่ไหม”“ใช่ครับ นายช้างมีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่า”“เปล่า แต่กูจะเป็นคนไปรับเอง แล้วก็ยืมรถมึงด้วย”คนเป็นเจ้านายแจ้งความประสงค์ เล่นเอาลูกน้องคนสนิทอ้าปากหวอ อดที่จะทำหน้าสงสัยไม่ได้“ห๊ะ! ไปรับเอง แล้วจะยืมไอ้แก่ขาเฟี้ยวของผมไปด้วยเนี่ยนะครับ รถในบ้าน…”ยังไม่ทันที่ชงนมจะพูดจบ ดวงตาคมกริบของคนเป็นนายปรายตามามอง ก็ทำ

  • เล่ห์ลวงภุมริน หัสดินทร์ถวิลรัก   บทที่ 2 : ชนวนเหตุเสียวหู

    ร่างสูงผอมสมส่วนในวัยยี่สิบปีเดินออกมาหามุมคุยโทรศัพท์ เนื่องจากมีสายเข้าจากเพื่อนคนสนิทในมหาวิทยาลัยโทรมาพูดคุยเรื่องงานที่ต้องทำส่งอาจารย์ ชายหนุ่มเดินถือโทรศัพท์มือถือลัดเลาะไปตามคันร่องสวนมะม่วงและชมพู่ ซึ่งวันนี้ครอบครัวของหัสดินทร์แวะเวียนมาเยี่ยมทิพย์อาภาที่บ้านสวนจังหวัดนนทบุรีทว่าจังหวะที่หัสดินทร์กำลังลอดซุ้มต้นชมพู่ขนาดใหญ่ ซึ่งมีกิ่งก้านแผ่ไพศาลให้ร่มเงาแก่ทางเดินที่เขากำลังเดินผ่าน ก็มีอะไรบางอย่างหล่นตุ้บลงมาตรงหน้า เฉียดศีรษะของเขาไปหวุดหวิด พร้อมกับเสียงเล็กตะโกนร้องบอกเสียงดังลั่น“เฮ้ย! มดแดง”คนตัวโตกว่าก้มมองลงไปก็เห็นเป็นรังมดแดงถูกห่อหุ้มด้วยใบของต้นชมพู่ จากขนาดรังใหญ่พอสมควรตกอยู่ตรงหน้าเท้าของเขา ถ้าชายหนุ่มเดินเร็วกว่านี้อีกนิด รับรองได้ว่าเจ้ามดแดงได้เข้าไปทำรังรุมกัดเขาทั้งตัวเป็นแน่หัสดินทร์จึงก้มไปหยิบกิ่งไม้มาเขี่ยรังมดแดงไปไว้อีกด้านของคันร่องสวน แล้วก็เงยหน้าขึ้นไปมองสาเหตุที่แท้จริงของรังมดแดงที่อยู่ตรงปลายเท้า ดูก็รู้ว่าไม่ได้ร่วงจากต้นแบบปกติธรรมดาอย่างแน่นอนเด็กผู้หญิงผมเปียใบหน้าและตามเสื้อผ้ามอมแมมไปด้วยคราบโคลน ดูจากตัวแล้วอายุอานามคงเป็นน้อง

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status