ภาคินได้เตรียมบ้านหลังใหญ่ไว้ให้ลลนาในย่านคนรวยของกรุงลอนดอน บ้านหลังนี้มีขนาดใหญ่โอ่อ่า ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัวมาก เนื่องจากหมู่บ้านนี้เป็นที่อยู่อาศัยของคนมีฐานะ มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาและเข้มงวด ทำให้ลลนาสามารถรู้สึกปลอดภัยและสบายใจได้อย่างเต็มที่
ตัวบ้านเองมีการตกแต่งอย่างหรูหราและครบครัน ภายในห้องต่างๆ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ชั้นดีที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ ห้องนั่งเล่นกว้างขวาง มีหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติและลมเย็นจากสวนหลังบ้าน สวนดอกไม้ที่ภาคินให้คนมาจัดแต่งไว้อย่างสวยงามนั้นเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสันที่ผลิบานในทุกฤดูกาล มีมุมพักผ่อนหลายมุมที่ลลนาสามารถนั่งจิบชาอ่านหนังสือได้อย่างสบายใจ
ที่พิเศษที่สุดคือสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่หลังบ้าน ขอบสระล้อมรอบด้วยต้นไม้เขียวขจีและดอกไม้ที่หอมกรุ่น สระนี้ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี น้ำใสสะอาด สามารถมองเห็นพื้นสระได้ชัดเจน ช่วงเย็นๆ ลลนาสามารถลงเล่นน้ำเพื่อผ่อนคลาย หรือเลือกนอนอาบแดดที่เก้าอี้ริมสระ พร้อมเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัว
บ้านหลังนี้ไม่เพียงแค่เป็นที่พักอาศัย แต่ยังเป็นสถานที่ที่ลลนาสามารถพักผ่อนและเติมเต็มความสุขในชีวิตได้อย่างเต็มที่ ซึ่งภาคินได้จัดเตรียมทุกอย่างไว้อย่างดี เพื่อให้ลลนาได้สัมผัสกับความสะดวกสบายและความสุขในทุกๆ วันของการอยู่ที่นี่
“พี่มินนี่ไม่อยู่ที่นี่กับหนูเหรอคะ?”
ลลนาเอ่ยถามด้วยเสียงแผ่วเบา พลางมองไปที่บ้านหลังใหญ่ที่ภาคินเตรียมไว้ให้
มินนี่หัวเราะเบาๆ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงสดใส
“ม่ายยยยค่ะ! พี่อยู่ที่อพาร์ทเม้นท์กับหนุ่มหล่อแซ่บๆ ค่ะ”
เธอยักคิ้วให้เป็นเชิงหยอกล้อ
“แต่ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ ที่นี่มีแม่บ้านคอยดูแลทุกอย่าง พี่จัดเตรียมไว้ให้หมดแล้ว หนูจะได้ไม่ต้องลำบากอะไรเลย”
ลลนาพยักหน้าเข้าใจ แม้จะรู้สึกโล่งใจที่มินนี่ดูแลจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความเงียบเหงาในบ้านหลังใหญ่แห่งนี้
มินนี่พูดต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ไม่ต้องห่วงนะ ลิส มีอะไรโทรหาพี่ได้เลยนะที่รัก”
เธอยิ้มให้กำลังใจ ลลนา หรือที่เธอเรียกว่า “ลิส” รู้สึกอุ่นใจขึ้นเล็กน้อย แม้จะยังมีความกังวลใจเกี่ยวกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในต่างแดน แต่คำพูดของมินนี่ก็ช่วยปลอบโยนเธอได้ไม่น้อย
"ขอบคุณค่ะ พี่มินนี่"
ลลนาตอบกลับเบา ๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่ซ่อนความคิดหลายอย่างไว้ภายใน
……………………………………………………………………………………..
ที่มหาวิทยาลัย ลลนากลายเป็นจุดสนใจของใครหลายๆ คน ด้วยความสดใสและเสน่ห์ที่มีในตัว เธอมักจะมีเพื่อนๆ รายล้อมอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสาวที่สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว หรือหนุ่มๆ ที่หลงใหลในความน่ารักและบุคลิกที่เป็นกันเองของเธอ
ลลนาใช้ชีวิตในแบบที่เธอชอบสุดๆ ไม่ปล่อยให้ความกังวลหรืออดีตมาฉุดรั้งเธอไว้ เธอเข้าร่วมทุกปาร์ตี้ที่จัดขึ้นในมหาวิทยาลัย และเป็นที่รู้จักในฐานะสาวที่สนุกสนานและไม่เคยขาดสีสันในชีวิต แม้จะมีชีวิตที่เต็มไปด้วยกิจกรรม แต่ลลนาก็ยังไม่ลืมเรื่องการเรียน เธอสามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างลงตัว ทั้งการเรียนที่เคร่งครัดและการใช้ชีวิตที่อิสระเสรี
เธอได้เรียนรู้ที่จะเปิดใจกับเพื่อนใหม่ๆ ได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดี และแม้จะมีหนุ่มๆ มากมายเข้ามารายล้อมจีบเธอ แต่ลลนาก็ยังคงเลือกที่จะใช้ชีวิตในแบบที่เธอพอใจ โดยไม่เร่งรีบที่จะตอบรับความรักของใคร
แต่ภาพที่ถูกส่งไปยังห้องทำงานของภาคินกลับเล่าเรื่องราวอีกแบบหนึ่ง ภาพเหล่านั้นแสดงให้เห็นว่าลลนากำลังใช้ชีวิตอย่างสุดเหวี่ยง รายล้อมไปด้วยผู้ชายมากหน้าหลายตา บางภาพเผยให้เห็นเธอกำลังหัวเราะอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางบรรยากาศของปาร์ตี้สุดเหวี่ยงที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความรื่นเริง
ภาคินนั่งอยู่ในห้องทำงาน แสงจากหน้าต่างส่องเข้ามาอย่างเลือนราง เขากำรูปเหล่านั้นไว้แน่นในมือ ดวงตาเข้มขรึมของเขาจ้องมองภาพในมือโดยไม่พูดอะไร สีหน้าบึ้งตึงบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน ขณะที่เขาพยายามควบคุมอารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่ภายใน
ทันใดนั้น ประตูห้องก็เปิดออกอย่างแผ่วเบา เมื่อเขาเห็นว่าสสาวิตรีเข้ามา ภาคินรีบเก็บรูปถ่ายลงในลิ้นชักอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขายังคงมีแววเครียดอยู่ แม้จะพยายามเก็บความรู้สึกนั้นไว้ภายใน แต่สีหน้าบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน
สาวิตรีสังเกตเห็นท่าทางของภาคินและสงสัย “คุณภาคินคะ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและเป็นห่วง ขณะที่มองไปที่ลิ้นชักที่เพิ่งถูกปิดลง
ภาคินหันไปมองสาวิตรี ดึงตัวเองออกจากความคิดที่วุ่นวาย “ไม่มีอะไรหรอกสาวิตรี” เขาตอบเสียงเรียบ แต่ไม่อาจปิดบังความเครียดที่ซ่อนอยู่ในดวงตาได้ “แค่บางสิ่งที่ต้องจัดการ”
สาวิตรีเดินมานั่งลงบนตักกว้างของภาคิน โอบแขนรอบคอเขาด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความใกล้ชิด เธอหอมแก้มเขาเบาๆ ก่อนจะพูดด้วยเสียงอ่อนหวาน “คือว่าคุณพ่อคุณแม่เริ่มถามแล้วน่ะค่ะ” เธอเว้นระยะคำพูดอย่างมีความหมาย “พวกท่านเห็นฉันขลุกอยู่แต่กับคุณ พวกท่านคิดว่าาาา...”
ภาคินรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวและความอบอุ่นจากตัวสาวิตรี แต่กลับไม่สามารถปล่อยใจให้เป็นอิสระจากความคิดเกี่ยวกับลลนาได้ เขาพยายามรักษาสีหน้าที่ไม่แสดงความวิตกกังวล “คิดว่าอะไรครับ?” เขาถามอย่างระมัดระวัง
“พวกเราอาจจะแต่งงานกัน” สาวิตรีพูดต่ออย่างกล้าๆ กลัวๆ พร้อมกับยิ้มหวาน ขณะเดียวกันก็จับตามองปฏิกิริยาของเขา
ภาคินนิ่งเงียบไปชั่วครู่ เขายิ้มออกมาด้วยความพยายามที่จะทำให้สถานการณ์ดูดีขึ้น “สาวิตรี...” เขาเริ่มพูด “ฉันก็คิดว่าเราควรจะคุยเรื่องนี้กันให้ดี
“เราสองคนตกลงกันแล้วว่าแค่สนุกกันไม่ผูกมัด อันนี้คุณเป็นคนเสนอเอง” ภาคินพูดเสียงเข้ม
สาวิตรีคลายอ้อมแขนจากเขาและนั่งตัวตรงขึ้น ท่าทางของเธอแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกที่สับสนและผิดหวัง เธอเปิดปากจะพูด แต่แล้วก็เปลี่ยนใจและถอนหายใจเฮือกใหญ่แทน
“ฉันรู้ค่ะ” สาวิตรีพูดเสียงแผ่ว “แต่บางครั้ง ฉันก็ไม่สามารถหลีกหนีความรู้สึกของตัวเองได้ ฉันรู้ว่าเราเคยตกลงกันไว้ แต่ใจฉันกลับบอกให้ฉันต้องการมากกว่านั้น”
เสียงล้อรถหรูค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่กลางสวนสวย ลลนา สาวน้อยวัยสิบหกปี ก้าวลงจากรถด้วยท่าทางมั่นใจ สวมกระโปรงสั้นและเสื้อแบรนด์เนม เธอสะพายกระเป๋าหรูข้างลำตัว ดวงตาสีน้ำตาลเข้มซ่อนแววท้าทายตามแบบเด็กสาวที่เติบโตในโรงเรียนอินเตอร์เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมองบ้านหลังใหม่ บ้านที่เธอจะต้องอยู่กับผู้ปกครองคนใหม่ ผู้ชายที่เคยเป็นเพื่อนรักของพ่อเธอ ภาคิน หนุ่มใหญ่ในวัยสามสิบยืนรออยู่ที่หน้าประตู เขามองสาวน้อยที่เพิ่งมาถึงอย่างพิจารณา ท่าทางมั่นใจของเธอไม่สอดคล้องกับวัยที่ยังอ่อนเยาว์“ยินดีต้อนรับลลนา” เสียงนุ่มลึกของภาคินทำลายความเงียบงันเธอพยักหน้า แต่ไม่อาจละสายตาจากเขาได้ ภาคินยิ้มเบาๆ ก่อนจะยื่นมือออกมา “ยินดีต้อนรับสู่บ้านของฉัน”มือของลลนาอุ่นขึ้นเมื่อสัมผัสกับมือของเขา ความรู้สึกที่เธอมีในตอนนี้ไม่ใช่แค่ความตื่นเต้นธรรมดา แต่เป็นความหลงใหลที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง รู้สึกว่าทุกย่างก้าวของเธอต่อจากนี้ จะไม่มีวันเหมือนเดิม.ภาคินไม่รู้ตัวเลยว่าในเวลานี้เขาได้ปลุกความปรารถนาที่ซ่อนอยู่ในหัวใจของเด็กสาวผู้ที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา ความสัมพันธ
ภาคิน หนุ่มใหญ่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเคร่งขรึม เขาเป็นชายโสดที่มีชีวิตเรียบง่ายและทุ่มเทให้กับธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่เขาสร้างขึ้นมาเอง ด้วยความเป็นคนสุขุมและจริงจัง ทำให้เขาไม่เคยมีใครเข้ามาในชีวิตอย่างจริงจัง แต่แล้วโชคชะตาก็พลิกผันเมื่อเขาต้องรับ ลลนา สาวน้อยลูกสาวของเพื่อนรักที่เสียชีวิตอย่างกระทันหันเข้ามาอยู่ในการปกครองของเขา ลลนาที่อายุเพียงสิบหกปี ไม่มีญาติพี่น้องหรือใครในชีวิต ทำให้ภาคินต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอการย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านของภาคิน ลลนาพยายามเก็บงำความรู้สึกที่พลุ่งพล่านอยู่ในใจ แม้จะอยู่ในห้องส่วนตัวที่ภาคินเตรียมไว้ให้ เธอก็ไม่อาจหยุดคิดถึงสายตาและรอยยิ้มของเขาได้ มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกสะกด ความรู้สึกนี้เธอไม่เคยพบมาก่อน เธอรู้สึกทั้งตื่นเต้นและอึดอัดในเวลาเดียวกันภาคิน ชายหนุ่มใหญ่ที่เธอเพิ่งรู้จัก แต่กลับมีอิทธิพลต่อหัวใจเธออย่างรุนแรง ตั้งแต่ย้ายเข้ามาในบ้านหลังนี้ ลลนารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและการดูแลอย่างดีจากภาคิน แต่ลึกๆ ในใจเธอกลับรู้สึกไม่พอใจที่จะเป็นเพียงแค่เด็กสาวในสายตาของเขา เธออยากให้เขามองเธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีเสน่ห์และคว
ภาคินรู้สึกถึงความอบอุ่นของลลนาที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา เดรสแดงของเธอทำให้เขาสัมผัสถึงความเซ็กซี่ที่เกินวัย เธอซบลงกับอกกว้างของเขา ในขณะที่ภาคินเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นบน เขารู้สึกถึงความหนักหน่วงของความรู้สึกที่ต้องควบคุมเมื่อเขาถึงห้องนอน เขาพาเธอเข้ามาในห้องและวางเธอลงบนเตียงกว้างอย่างนุ่มนวล เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ที่จะมองเห็นเดรสแดงที่เผยให้เห็นส่วนโค้งของร่างกายเธออย่างชัดเจน ขณะที่เธอเริ่มหลับตาลง ภาคินนั่งลงข้างเตียงและมองดูเธอด้วยความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างความห่วงใยและความอดกลั้น“นอนพักเถอะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น “ลุงจะอยู่ใกล้ๆ ถ้าต้องการอะไรเรียกได้เสมอ”เขานั่งอยู่ข้างเตียงด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล ภาคินยืนอยู่ตรงหน้าลลนาที่นอนหลับบนเตียงด้วยท่าทางที่อ่อนโยนและน่าเป็นห่วงในขณะเดียวกัน เขาต้องการที่จะเป็นผู้ปกครองที่ดีให้กับสาวน้อยวัยสิบหกที่ก๋ากั่นและดูเหมือนจะมีความเป็นผู้ใหญ่เกินวัยขนาดนี้ แต่เขารู้ดีว่านี่คือบททดสอบที่ใหญ่หลวงสำหรับเขา ลลนาในวัยสิบหกปีมีบุคลิกที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและแรงดึงดูดที่เป็นอันตรายต่อผู้ใหญ่รอบตัวเธอ รวม
Lallana:Anna, he’s about to send me away from here. I don’t want to go, not now and not ever.แอนนา เขากำลังจะส่งฉันออกไปจากที่นี่ ฉันไม่อยากไปเลย ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหนก็ไม่เคยคิดจะไปAnna:You must really be in love with him, huh? But maybe it’s time to move on, don’t you think?แอนนา: เธอคงจะหลงรักเขามากเลยนะ แต่ฉันว่าตัดใจเถอะ เธอคิดว่ายังไง? ลลนา วางโทรศัพท์ลงอย่างหนักใจ น้ำตาซึม เธอเอนตัวลงบนเตียง บรรยากาศในห้องเงียบสงัด แต่เสียงหัวใจที่เต้นรัวของเธอกลับดังขึ้นในหู เธอคิดถึงคำพูดของแอนนา “ตัดใจเถอะ” คำเหล่านั้นกลับก้องอยู่ในหัวของเธอลลนา นอนพลิกไปมาบนเตียง ความรู้สึกที่มีต่อภาคินท่วมท้นจนทำให้เธอไม่สามารถสงบลงได้ ความรักของเธอช่างร้อนแรงและไม่ยอมที่จะหายไปง่ายๆ“ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้?” เธอครางออกมา ความรู้สึกที่ปั่นป่วนในหัวใจทำให้เธอรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า เธอรู้ดีว่าเขาไม่ใช่ญาติทางสายเลือดของเธอ ความห่างของอายุสิบสี่ปีไม่ควรจะเป็นปัญหา แต่ทำไมมันถึงรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ยิ่ง? เธอจินตนาการถึงภาพของภาคิน ว่าด้วยความหล่อเหลาของเขา ความอบ
ภาคินนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในห้องที่สลัวเพียงแสงจากโคมไฟสลัวบนโต๊ะทำงานเขา ดื่มไวน์อย่างช้าๆ เพื่อคลายความเครียดจากวันที่ยาวนาน และพยายามปล่อยให้ความคิดของเขาหลุดลอยไปจากเรื่องที่รบกวนจิตใจเสียงเปิดประตูเบาๆ ทำให้เขาหันไปมอง ร่างเด็กสาวในชุดนอนสุดเซ็กซี่และเย้ายวนใจเดินเข้ามาในห้องอย่างมั่นใจ ชุดนอนที่เธอสวมใส่สั้นและเผยให้เห็นผิวเนียนสวยของเธออย่างชัดเจน สร้างความรู้สึกตื่นเต้นให้กับภาคินที่นั่งอยู่ตรงนั้น“ลลนา” ภาคินเรียกชื่อเธอด้วยเสียงที่ต่ำและไม่ค่อยเชื่อมั่น เขารู้ว่าความรู้สึกที่เขามีต่อเธอเป็นสิ่งที่เขาต้องควบคุม แต่ตอนนี้มันเริ่มยากเกินไปลลนายิ้มให้เขาอย่างมีเสน่ห์ เดินเข้ามาใกล้เธอ และท่าทางของเธอช่างเต็มไปด้วยความมั่นใจและความตั้งใจ “ทำไมลุงยังไม่หลับคะ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงหวานที่แฝงไปด้วยความท้าทาย ภาคินพยายามปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่กำลังเปลี่ยนไป การมาของลลนาในสภาพนี้ทำให้เขารู้สึกถึงแรงดึงดูดที่เขาพยายามจะควบคุม ความร้อนที่เกิดขึ้นในตัวเขามันเพิ่มขึ้นจนแทบจะทนไม่ไหว“มันดึกแล้วลลนา” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้ฟังดูสงบ แต่ลึกๆ แล้วมันเต็มไปด้
หลังจากค่ำคืนนั้นที่ลลนาแสนผิดหวัง เธอหลบหน้าภาคินด้วยการหนีเที่ยวแทบทุกคืน เพื่อปกปิดความรู้สึกที่บอบช้ำ เธอใช้ชีวิตในแบบที่เธอไม่เคยใช้มาก่อน ดื่มด่ำกับการปาร์ตี้และสังสรรค์กับเพื่อนๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ช่วงเย็นของทุกวัน เธอมักจะอาศัยช่วงเวลาที่เหลืออยู่เพื่อเดินทางไปยังผับหรือคลับสุดฮิตในเมือง หรือไม่ก็ออกไปพบปะกับกลุ่มเพื่อนที่มีชีวิตชีวาในงานเลี้ยงต่างๆ การที่เธอหลบหน้าและตัดขาดจากความสัมพันธ์ที่เคยใกล้ชิดกับภาคินนั้นทำให้เธอรู้สึกว่าการใช้ชีวิตอย่างไม่คิดอะไรมากอาจจะช่วยให้เธอหลุดพ้นจากความรู้สึกที่เจ็บปวดได้ในขณะที่เธอหลีกเลี่ยงการกลับบ้านและการพบปะกับภาคิน เธอรู้สึกถึงความสับสนและความรู้สึกผิดหวังที่ยังคงค้างคาในใจ แม้ว่าการเที่ยวไปทุกคืนจะช่วยให้เธอเบี่ยงเบนความสนใจจากสิ่งที่ทำให้เธอเจ็บปวด แต่เธอก็รู้ดีว่าในที่สุด ความรู้สึกที่แท้จริงและความเจ็บปวดที่เธอพยายามหลบหนีจะต้องตามกลับมาทำให้เธอต้องเผชิญหน้าอีกครั้งท่ามกลางเสียงเพลงและความสนุกสนาน เธออาจจะหลงลืมความเจ็บปวดในชั่วขณะ แต่ลึกลงไปในใจ เธอกลับรู้สึกถึงความโหยหาต่อความรักและการยอมรับที่เธอไม่สามารถหาได้จากการ
การเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศของลลนา เขาเริ่มวางแผนตั้งแต่ก่อนจะเอ่ยปากกับเธอเสียอีก ทุกขั้นตอนถูกคำนวณมาอย่างดี ไม่ใช่แค่เรื่องที่พักอาศัยหรือการสมัครเข้าเรียนเท่านั้นที่เขาจัดการให้เสร็จสรรพ แต่ยังมีเรื่องอื่น ๆ ที่เขาไม่อยากให้ลลนาต้องกังวลเลยแม้แต่น้อย ภาคินเลือกเมืองที่ลลนาจะได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระแต่ปลอดภัย เลือกมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับเธอที่สุด จากนั้นเขาก็เตรียมผู้ช่วยส่วนตัวที่ไว้ใจได้ ไว้คอยดูแลเธอตลอดเวลา ผู้ช่วยคนนี้ไม่เพียงแต่จะจัดการเรื่องเอกสารการเรียน การใช้ชีวิตในต่างแดน หรือการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ แต่ยังถูกฝึกมาให้รู้ใจลลนา รู้ว่าความต้องการของเธอคืออะไร แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ชนิดของกาแฟที่เธอชอบทานตอนเช้า หรือร้านเสื้อผ้าโปรดที่เธออาจอยากไปเยือน ภาคินรู้ดีว่าลลนาอาจจะรู้สึกโดดเดี่ยวในต่างแดน เขาจึงให้ผู้ช่วยคนนี้เป็นทั้งเพื่อนและที่ปรึกษาในทุกเรื่อง แต่แม้ว่าผู้ช่วยจะดูแลเธออย่างใกล้ชิด รายงานทุกความเคลื่อนไหวของเธอก็จะถูกส่งตรงกลับมาหาเขาอย่างสม่ำเสมอโดยที่ลลนาไม่รู้ตัว เพื่อให้แน่ใจว่าเธอปลอดภัยและมีความสุ
ภาคินได้เตรียมบ้านหลังใหญ่ไว้ให้ลลนาในย่านคนรวยของกรุงลอนดอน บ้านหลังนี้มีขนาดใหญ่โอ่อ่า ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัวมาก เนื่องจากหมู่บ้านนี้เป็นที่อยู่อาศัยของคนมีฐานะ มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาและเข้มงวด ทำให้ลลนาสามารถรู้สึกปลอดภัยและสบายใจได้อย่างเต็มที่ ตัวบ้านเองมีการตกแต่งอย่างหรูหราและครบครัน ภายในห้องต่างๆ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ชั้นดีที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ ห้องนั่งเล่นกว้างขวาง มีหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติและลมเย็นจากสวนหลังบ้าน สวนดอกไม้ที่ภาคินให้คนมาจัดแต่งไว้อย่างสวยงามนั้นเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสันที่ผลิบานในทุกฤดูกาล มีมุมพักผ่อนหลายมุมที่ลลนาสามารถนั่งจิบชาอ่านหนังสือได้อย่างสบายใจ ที่พิเศษที่สุดคือสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่หลังบ้าน ขอบสระล้อมรอบด้วยต้นไม้เขียวขจีและดอกไม้ที่หอมกรุ่น สระนี้ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี น้ำใสสะอาด สามารถมองเห็นพื้นสระได้ชัดเจน ช่วงเย็นๆ ลลนาสามารถลงเล่นน้ำเพื่อผ่อนคลาย หรือเลือกนอนอาบแดดที่เก้าอี้ริมสระ พร้อมเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัว บ้านหลังนี้ไม่เพีย
การเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศของลลนา เขาเริ่มวางแผนตั้งแต่ก่อนจะเอ่ยปากกับเธอเสียอีก ทุกขั้นตอนถูกคำนวณมาอย่างดี ไม่ใช่แค่เรื่องที่พักอาศัยหรือการสมัครเข้าเรียนเท่านั้นที่เขาจัดการให้เสร็จสรรพ แต่ยังมีเรื่องอื่น ๆ ที่เขาไม่อยากให้ลลนาต้องกังวลเลยแม้แต่น้อย ภาคินเลือกเมืองที่ลลนาจะได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระแต่ปลอดภัย เลือกมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับเธอที่สุด จากนั้นเขาก็เตรียมผู้ช่วยส่วนตัวที่ไว้ใจได้ ไว้คอยดูแลเธอตลอดเวลา ผู้ช่วยคนนี้ไม่เพียงแต่จะจัดการเรื่องเอกสารการเรียน การใช้ชีวิตในต่างแดน หรือการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ แต่ยังถูกฝึกมาให้รู้ใจลลนา รู้ว่าความต้องการของเธอคืออะไร แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ชนิดของกาแฟที่เธอชอบทานตอนเช้า หรือร้านเสื้อผ้าโปรดที่เธออาจอยากไปเยือน ภาคินรู้ดีว่าลลนาอาจจะรู้สึกโดดเดี่ยวในต่างแดน เขาจึงให้ผู้ช่วยคนนี้เป็นทั้งเพื่อนและที่ปรึกษาในทุกเรื่อง แต่แม้ว่าผู้ช่วยจะดูแลเธออย่างใกล้ชิด รายงานทุกความเคลื่อนไหวของเธอก็จะถูกส่งตรงกลับมาหาเขาอย่างสม่ำเสมอโดยที่ลลนาไม่รู้ตัว เพื่อให้แน่ใจว่าเธอปลอดภัยและมีความสุ
หลังจากค่ำคืนนั้นที่ลลนาแสนผิดหวัง เธอหลบหน้าภาคินด้วยการหนีเที่ยวแทบทุกคืน เพื่อปกปิดความรู้สึกที่บอบช้ำ เธอใช้ชีวิตในแบบที่เธอไม่เคยใช้มาก่อน ดื่มด่ำกับการปาร์ตี้และสังสรรค์กับเพื่อนๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ช่วงเย็นของทุกวัน เธอมักจะอาศัยช่วงเวลาที่เหลืออยู่เพื่อเดินทางไปยังผับหรือคลับสุดฮิตในเมือง หรือไม่ก็ออกไปพบปะกับกลุ่มเพื่อนที่มีชีวิตชีวาในงานเลี้ยงต่างๆ การที่เธอหลบหน้าและตัดขาดจากความสัมพันธ์ที่เคยใกล้ชิดกับภาคินนั้นทำให้เธอรู้สึกว่าการใช้ชีวิตอย่างไม่คิดอะไรมากอาจจะช่วยให้เธอหลุดพ้นจากความรู้สึกที่เจ็บปวดได้ในขณะที่เธอหลีกเลี่ยงการกลับบ้านและการพบปะกับภาคิน เธอรู้สึกถึงความสับสนและความรู้สึกผิดหวังที่ยังคงค้างคาในใจ แม้ว่าการเที่ยวไปทุกคืนจะช่วยให้เธอเบี่ยงเบนความสนใจจากสิ่งที่ทำให้เธอเจ็บปวด แต่เธอก็รู้ดีว่าในที่สุด ความรู้สึกที่แท้จริงและความเจ็บปวดที่เธอพยายามหลบหนีจะต้องตามกลับมาทำให้เธอต้องเผชิญหน้าอีกครั้งท่ามกลางเสียงเพลงและความสนุกสนาน เธออาจจะหลงลืมความเจ็บปวดในชั่วขณะ แต่ลึกลงไปในใจ เธอกลับรู้สึกถึงความโหยหาต่อความรักและการยอมรับที่เธอไม่สามารถหาได้จากการ
ภาคินนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในห้องที่สลัวเพียงแสงจากโคมไฟสลัวบนโต๊ะทำงานเขา ดื่มไวน์อย่างช้าๆ เพื่อคลายความเครียดจากวันที่ยาวนาน และพยายามปล่อยให้ความคิดของเขาหลุดลอยไปจากเรื่องที่รบกวนจิตใจเสียงเปิดประตูเบาๆ ทำให้เขาหันไปมอง ร่างเด็กสาวในชุดนอนสุดเซ็กซี่และเย้ายวนใจเดินเข้ามาในห้องอย่างมั่นใจ ชุดนอนที่เธอสวมใส่สั้นและเผยให้เห็นผิวเนียนสวยของเธออย่างชัดเจน สร้างความรู้สึกตื่นเต้นให้กับภาคินที่นั่งอยู่ตรงนั้น“ลลนา” ภาคินเรียกชื่อเธอด้วยเสียงที่ต่ำและไม่ค่อยเชื่อมั่น เขารู้ว่าความรู้สึกที่เขามีต่อเธอเป็นสิ่งที่เขาต้องควบคุม แต่ตอนนี้มันเริ่มยากเกินไปลลนายิ้มให้เขาอย่างมีเสน่ห์ เดินเข้ามาใกล้เธอ และท่าทางของเธอช่างเต็มไปด้วยความมั่นใจและความตั้งใจ “ทำไมลุงยังไม่หลับคะ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงหวานที่แฝงไปด้วยความท้าทาย ภาคินพยายามปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่กำลังเปลี่ยนไป การมาของลลนาในสภาพนี้ทำให้เขารู้สึกถึงแรงดึงดูดที่เขาพยายามจะควบคุม ความร้อนที่เกิดขึ้นในตัวเขามันเพิ่มขึ้นจนแทบจะทนไม่ไหว“มันดึกแล้วลลนา” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้ฟังดูสงบ แต่ลึกๆ แล้วมันเต็มไปด้
Lallana:Anna, he’s about to send me away from here. I don’t want to go, not now and not ever.แอนนา เขากำลังจะส่งฉันออกไปจากที่นี่ ฉันไม่อยากไปเลย ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหนก็ไม่เคยคิดจะไปAnna:You must really be in love with him, huh? But maybe it’s time to move on, don’t you think?แอนนา: เธอคงจะหลงรักเขามากเลยนะ แต่ฉันว่าตัดใจเถอะ เธอคิดว่ายังไง? ลลนา วางโทรศัพท์ลงอย่างหนักใจ น้ำตาซึม เธอเอนตัวลงบนเตียง บรรยากาศในห้องเงียบสงัด แต่เสียงหัวใจที่เต้นรัวของเธอกลับดังขึ้นในหู เธอคิดถึงคำพูดของแอนนา “ตัดใจเถอะ” คำเหล่านั้นกลับก้องอยู่ในหัวของเธอลลนา นอนพลิกไปมาบนเตียง ความรู้สึกที่มีต่อภาคินท่วมท้นจนทำให้เธอไม่สามารถสงบลงได้ ความรักของเธอช่างร้อนแรงและไม่ยอมที่จะหายไปง่ายๆ“ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้?” เธอครางออกมา ความรู้สึกที่ปั่นป่วนในหัวใจทำให้เธอรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า เธอรู้ดีว่าเขาไม่ใช่ญาติทางสายเลือดของเธอ ความห่างของอายุสิบสี่ปีไม่ควรจะเป็นปัญหา แต่ทำไมมันถึงรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ยิ่ง? เธอจินตนาการถึงภาพของภาคิน ว่าด้วยความหล่อเหลาของเขา ความอบ
ภาคินรู้สึกถึงความอบอุ่นของลลนาที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา เดรสแดงของเธอทำให้เขาสัมผัสถึงความเซ็กซี่ที่เกินวัย เธอซบลงกับอกกว้างของเขา ในขณะที่ภาคินเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นบน เขารู้สึกถึงความหนักหน่วงของความรู้สึกที่ต้องควบคุมเมื่อเขาถึงห้องนอน เขาพาเธอเข้ามาในห้องและวางเธอลงบนเตียงกว้างอย่างนุ่มนวล เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ที่จะมองเห็นเดรสแดงที่เผยให้เห็นส่วนโค้งของร่างกายเธออย่างชัดเจน ขณะที่เธอเริ่มหลับตาลง ภาคินนั่งลงข้างเตียงและมองดูเธอด้วยความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างความห่วงใยและความอดกลั้น“นอนพักเถอะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น “ลุงจะอยู่ใกล้ๆ ถ้าต้องการอะไรเรียกได้เสมอ”เขานั่งอยู่ข้างเตียงด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล ภาคินยืนอยู่ตรงหน้าลลนาที่นอนหลับบนเตียงด้วยท่าทางที่อ่อนโยนและน่าเป็นห่วงในขณะเดียวกัน เขาต้องการที่จะเป็นผู้ปกครองที่ดีให้กับสาวน้อยวัยสิบหกที่ก๋ากั่นและดูเหมือนจะมีความเป็นผู้ใหญ่เกินวัยขนาดนี้ แต่เขารู้ดีว่านี่คือบททดสอบที่ใหญ่หลวงสำหรับเขา ลลนาในวัยสิบหกปีมีบุคลิกที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและแรงดึงดูดที่เป็นอันตรายต่อผู้ใหญ่รอบตัวเธอ รวม
ภาคิน หนุ่มใหญ่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเคร่งขรึม เขาเป็นชายโสดที่มีชีวิตเรียบง่ายและทุ่มเทให้กับธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่เขาสร้างขึ้นมาเอง ด้วยความเป็นคนสุขุมและจริงจัง ทำให้เขาไม่เคยมีใครเข้ามาในชีวิตอย่างจริงจัง แต่แล้วโชคชะตาก็พลิกผันเมื่อเขาต้องรับ ลลนา สาวน้อยลูกสาวของเพื่อนรักที่เสียชีวิตอย่างกระทันหันเข้ามาอยู่ในการปกครองของเขา ลลนาที่อายุเพียงสิบหกปี ไม่มีญาติพี่น้องหรือใครในชีวิต ทำให้ภาคินต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอการย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านของภาคิน ลลนาพยายามเก็บงำความรู้สึกที่พลุ่งพล่านอยู่ในใจ แม้จะอยู่ในห้องส่วนตัวที่ภาคินเตรียมไว้ให้ เธอก็ไม่อาจหยุดคิดถึงสายตาและรอยยิ้มของเขาได้ มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกสะกด ความรู้สึกนี้เธอไม่เคยพบมาก่อน เธอรู้สึกทั้งตื่นเต้นและอึดอัดในเวลาเดียวกันภาคิน ชายหนุ่มใหญ่ที่เธอเพิ่งรู้จัก แต่กลับมีอิทธิพลต่อหัวใจเธออย่างรุนแรง ตั้งแต่ย้ายเข้ามาในบ้านหลังนี้ ลลนารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและการดูแลอย่างดีจากภาคิน แต่ลึกๆ ในใจเธอกลับรู้สึกไม่พอใจที่จะเป็นเพียงแค่เด็กสาวในสายตาของเขา เธออยากให้เขามองเธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีเสน่ห์และคว
เสียงล้อรถหรูค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่กลางสวนสวย ลลนา สาวน้อยวัยสิบหกปี ก้าวลงจากรถด้วยท่าทางมั่นใจ สวมกระโปรงสั้นและเสื้อแบรนด์เนม เธอสะพายกระเป๋าหรูข้างลำตัว ดวงตาสีน้ำตาลเข้มซ่อนแววท้าทายตามแบบเด็กสาวที่เติบโตในโรงเรียนอินเตอร์เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมองบ้านหลังใหม่ บ้านที่เธอจะต้องอยู่กับผู้ปกครองคนใหม่ ผู้ชายที่เคยเป็นเพื่อนรักของพ่อเธอ ภาคิน หนุ่มใหญ่ในวัยสามสิบยืนรออยู่ที่หน้าประตู เขามองสาวน้อยที่เพิ่งมาถึงอย่างพิจารณา ท่าทางมั่นใจของเธอไม่สอดคล้องกับวัยที่ยังอ่อนเยาว์“ยินดีต้อนรับลลนา” เสียงนุ่มลึกของภาคินทำลายความเงียบงันเธอพยักหน้า แต่ไม่อาจละสายตาจากเขาได้ ภาคินยิ้มเบาๆ ก่อนจะยื่นมือออกมา “ยินดีต้อนรับสู่บ้านของฉัน”มือของลลนาอุ่นขึ้นเมื่อสัมผัสกับมือของเขา ความรู้สึกที่เธอมีในตอนนี้ไม่ใช่แค่ความตื่นเต้นธรรมดา แต่เป็นความหลงใหลที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง รู้สึกว่าทุกย่างก้าวของเธอต่อจากนี้ จะไม่มีวันเหมือนเดิม.ภาคินไม่รู้ตัวเลยว่าในเวลานี้เขาได้ปลุกความปรารถนาที่ซ่อนอยู่ในหัวใจของเด็กสาวผู้ที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา ความสัมพันธ