การเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศของลลนา เขาเริ่มวางแผนตั้งแต่ก่อนจะเอ่ยปากกับเธอเสียอีก ทุกขั้นตอนถูกคำนวณมาอย่างดี ไม่ใช่แค่เรื่องที่พักอาศัยหรือการสมัครเข้าเรียนเท่านั้นที่เขาจัดการให้เสร็จสรรพ แต่ยังมีเรื่องอื่น ๆ ที่เขาไม่อยากให้ลลนาต้องกังวลเลยแม้แต่น้อย
ภาคินเลือกเมืองที่ลลนาจะได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระแต่ปลอดภัย เลือกมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับเธอที่สุด จากนั้นเขาก็เตรียมผู้ช่วยส่วนตัวที่ไว้ใจได้ ไว้คอยดูแลเธอตลอดเวลา ผู้ช่วยคนนี้ไม่เพียงแต่จะจัดการเรื่องเอกสารการเรียน การใช้ชีวิตในต่างแดน หรือการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ แต่ยังถูกฝึกมาให้รู้ใจลลนา รู้ว่าความต้องการของเธอคืออะไร แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ชนิดของกาแฟที่เธอชอบทานตอนเช้า หรือร้านเสื้อผ้าโปรดที่เธออาจอยากไปเยือน
ภาคินรู้ดีว่าลลนาอาจจะรู้สึกโดดเดี่ยวในต่างแดน เขาจึงให้ผู้ช่วยคนนี้เป็นทั้งเพื่อนและที่ปรึกษาในทุกเรื่อง แต่แม้ว่าผู้ช่วยจะดูแลเธออย่างใกล้ชิด รายงานทุกความเคลื่อนไหวของเธอก็จะถูกส่งตรงกลับมาหาเขาอย่างสม่ำเสมอโดยที่ลลนาไม่รู้ตัว เพื่อให้แน่ใจว่าเธอปลอดภัยและมีความสุข
แม้ว่าลลนาจะไม่ได้อยู่ใกล้เขาแล้ว แต่ภาคินก็ยังรู้สึกว่าเธออยู่ในสายตาของเขาเสมอ มันเป็นการดูแลจากระยะไกลที่เขาจัดการไว้ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด แม้ว่าเขาจะต้องยอมรับว่าความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังเปลี่ยนไป แต่เขาก็ยังไม่สามารถละทิ้งความห่วงใยที่มีต่อเธอได้
ลลนายืนอยู่หน้าเกตด้วยดวงตาที่แฝงความเศร้า เธอหันกลับมามองภาคินเป็นครั้งสุดท้าย
“ขอบคุณสำหรับทุกๆ อย่างค่ะคุณลุง... หนูคิดว่าการลาครั้งนี้ หนูอาจจะไม่กลับมาอีก”
คำพูดของเธอทำให้หัวใจของภาคินสั่นไหว ความรู้สึกหวาดหวั่นแผ่ซ่านเข้ามาทันทีที่ได้ยิน เขาพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เสียงของเขากลับติดขัด ไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยคำใดออกมา ลลนาก็หมุนตัวเดินจากไปอย่างแน่วแน่ ทิ้งเขาไว้เพียงลำพังกับความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายได้ เธอจากไปพร้อมกับความรู้สึกที่เหมือนจะพรากบางสิ่งสำคัญไปจากเขาอย่างไม่มีวันหวนกลับ
………………………………………………….
สามเดือนผ่านไป รายงานเกี่ยวกับลลนาถูกส่งมาวางไว้บนโต๊ะภาคินอย่างสม่ำเสมอ เกือบทุกอาทิตย์ เขามักจะเปิดอ่านทันทีที่ได้รับ แต่ครั้งนี้เขาหยิบภาพถ่ายที่แนบมาด้วยขึ้นมาดูอย่างเงียบๆ ในภาพ ลลนาดูสดใส ร่าเริง หัวเราะท่ามกลางเพื่อนใหม่มากมาย มุมปากของภาคินยกขึ้นเล็กน้อยแต่ในใจกลับรู้สึกเหมือนมีบางอย่างขาดหายไป เขาเฝ้ามองภาพถ่ายเหล่านั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า รู้สึกถึงความสุขที่เธอพบเจอในที่ห่างไกล
ขณะที่เขากำลังจมอยู่กับภาพเหล่านั้น เสียงประตูเปิดออกทำให้เขาสะดุ้ง เคนเดินเข้ามาในห้อง
“นายไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนนะ ภาคิน”
เคนเอ่ยขึ้น พลางหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ
“สาวน้อยสาวใหญ่มารุมล้อมก็ไม่เคยเห็นหวั่นไหวกับใคร อย่าบอกนะว่าคราวนี้โดนสาวน้อยวัยคราวลูกขโมยหัวใจเข้าให้แล้ว”
ภาคินเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนสนิทด้วยสายตาที่เคร่งขรึม เขานิ่งไปครู่หนึ่ง ไม่ได้ตอบอะไรออกมาทันที ความเงียบที่ปกคลุมระหว่างพวกเขาทำให้เคนยิ่งมั่นใจในสิ่งที่ตนเองพูด
“ไม่พูดอะไร แสดงว่าไม่ปฏิเสธสินะ” เคนพูดต่อด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “แบบนี้แสดงว่าลลนามีผลกับนายจริง ๆ”
ภาคินยังคงเงียบ แต่สายตาที่หลบไปเล็กน้อยก็บ่งบอกได้ชัดเจนว่าเขาไม่สามารถปฏิเสธความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจตัวเองได้ ไม่ว่าจะพยายามกี่ครั้ง ความหวั่นไหวเมื่อได้อยู่ใกล้ลลนาก็ไม่เคยจางหาย มันกลับยิ่งชัดเจนขึ้นทุกวัน
“ฉันไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้”
ภาคินพูดออกมาเบา ๆ หลังจากเงียบไปนาน น้ำเสียงที่ราบเรียบแต่เจือความรู้สึกบางอย่างที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ทำให้เคนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นใจเพื่อนรัก
“บางครั้ง ความรู้สึกมันก็ห้ามกันไม่ได้ นายก็รู้”
เคนพูดเบา ๆ และวางมือลงบนไหล่ของภาคิน
“แต่ยังไงก็อย่าลืมนะว่าลลนาเป็นใคร และนายเองก็เป็นใคร”
ภาคินพยักหน้าอย่างเข้าใจ แม้ว่าคำพูดของเคนจะย้ำเตือนถึงความเป็นจริงที่เขาไม่อาจมองข้ามได้ แต่ความรู้สึกในใจกลับไม่อาจจะปิดกั้นได้อีกต่อไปแล้ว
ภาคินได้เตรียมบ้านหลังใหญ่ไว้ให้ลลนาในย่านคนรวยของกรุงลอนดอน บ้านหลังนี้มีขนาดใหญ่โอ่อ่า ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัวมาก เนื่องจากหมู่บ้านนี้เป็นที่อยู่อาศัยของคนมีฐานะ มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาและเข้มงวด ทำให้ลลนาสามารถรู้สึกปลอดภัยและสบายใจได้อย่างเต็มที่ ตัวบ้านเองมีการตกแต่งอย่างหรูหราและครบครัน ภายในห้องต่างๆ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ชั้นดีที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ ห้องนั่งเล่นกว้างขวาง มีหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติและลมเย็นจากสวนหลังบ้าน สวนดอกไม้ที่ภาคินให้คนมาจัดแต่งไว้อย่างสวยงามนั้นเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสันที่ผลิบานในทุกฤดูกาล มีมุมพักผ่อนหลายมุมที่ลลนาสามารถนั่งจิบชาอ่านหนังสือได้อย่างสบายใจ ที่พิเศษที่สุดคือสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่หลังบ้าน ขอบสระล้อมรอบด้วยต้นไม้เขียวขจีและดอกไม้ที่หอมกรุ่น สระนี้ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี น้ำใสสะอาด สามารถมองเห็นพื้นสระได้ชัดเจน ช่วงเย็นๆ ลลนาสามารถลงเล่นน้ำเพื่อผ่อนคลาย หรือเลือกนอนอาบแดดที่เก้าอี้ริมสระ พร้อมเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัว บ้านหลังนี้ไม่เพีย
เสียงล้อรถหรูค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่กลางสวนสวย ลลนา สาวน้อยวัยสิบหกปี ก้าวลงจากรถด้วยท่าทางมั่นใจ สวมกระโปรงสั้นและเสื้อแบรนด์เนม เธอสะพายกระเป๋าหรูข้างลำตัว ดวงตาสีน้ำตาลเข้มซ่อนแววท้าทายตามแบบเด็กสาวที่เติบโตในโรงเรียนอินเตอร์เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมองบ้านหลังใหม่ บ้านที่เธอจะต้องอยู่กับผู้ปกครองคนใหม่ ผู้ชายที่เคยเป็นเพื่อนรักของพ่อเธอ ภาคิน หนุ่มใหญ่ในวัยสามสิบยืนรออยู่ที่หน้าประตู เขามองสาวน้อยที่เพิ่งมาถึงอย่างพิจารณา ท่าทางมั่นใจของเธอไม่สอดคล้องกับวัยที่ยังอ่อนเยาว์“ยินดีต้อนรับลลนา” เสียงนุ่มลึกของภาคินทำลายความเงียบงันเธอพยักหน้า แต่ไม่อาจละสายตาจากเขาได้ ภาคินยิ้มเบาๆ ก่อนจะยื่นมือออกมา “ยินดีต้อนรับสู่บ้านของฉัน”มือของลลนาอุ่นขึ้นเมื่อสัมผัสกับมือของเขา ความรู้สึกที่เธอมีในตอนนี้ไม่ใช่แค่ความตื่นเต้นธรรมดา แต่เป็นความหลงใหลที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง รู้สึกว่าทุกย่างก้าวของเธอต่อจากนี้ จะไม่มีวันเหมือนเดิม.ภาคินไม่รู้ตัวเลยว่าในเวลานี้เขาได้ปลุกความปรารถนาที่ซ่อนอยู่ในหัวใจของเด็กสาวผู้ที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา ความสัมพันธ
ภาคิน หนุ่มใหญ่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเคร่งขรึม เขาเป็นชายโสดที่มีชีวิตเรียบง่ายและทุ่มเทให้กับธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่เขาสร้างขึ้นมาเอง ด้วยความเป็นคนสุขุมและจริงจัง ทำให้เขาไม่เคยมีใครเข้ามาในชีวิตอย่างจริงจัง แต่แล้วโชคชะตาก็พลิกผันเมื่อเขาต้องรับ ลลนา สาวน้อยลูกสาวของเพื่อนรักที่เสียชีวิตอย่างกระทันหันเข้ามาอยู่ในการปกครองของเขา ลลนาที่อายุเพียงสิบหกปี ไม่มีญาติพี่น้องหรือใครในชีวิต ทำให้ภาคินต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอการย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านของภาคิน ลลนาพยายามเก็บงำความรู้สึกที่พลุ่งพล่านอยู่ในใจ แม้จะอยู่ในห้องส่วนตัวที่ภาคินเตรียมไว้ให้ เธอก็ไม่อาจหยุดคิดถึงสายตาและรอยยิ้มของเขาได้ มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกสะกด ความรู้สึกนี้เธอไม่เคยพบมาก่อน เธอรู้สึกทั้งตื่นเต้นและอึดอัดในเวลาเดียวกันภาคิน ชายหนุ่มใหญ่ที่เธอเพิ่งรู้จัก แต่กลับมีอิทธิพลต่อหัวใจเธออย่างรุนแรง ตั้งแต่ย้ายเข้ามาในบ้านหลังนี้ ลลนารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและการดูแลอย่างดีจากภาคิน แต่ลึกๆ ในใจเธอกลับรู้สึกไม่พอใจที่จะเป็นเพียงแค่เด็กสาวในสายตาของเขา เธออยากให้เขามองเธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีเสน่ห์และคว
ภาคินรู้สึกถึงความอบอุ่นของลลนาที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา เดรสแดงของเธอทำให้เขาสัมผัสถึงความเซ็กซี่ที่เกินวัย เธอซบลงกับอกกว้างของเขา ในขณะที่ภาคินเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นบน เขารู้สึกถึงความหนักหน่วงของความรู้สึกที่ต้องควบคุมเมื่อเขาถึงห้องนอน เขาพาเธอเข้ามาในห้องและวางเธอลงบนเตียงกว้างอย่างนุ่มนวล เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ที่จะมองเห็นเดรสแดงที่เผยให้เห็นส่วนโค้งของร่างกายเธออย่างชัดเจน ขณะที่เธอเริ่มหลับตาลง ภาคินนั่งลงข้างเตียงและมองดูเธอด้วยความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างความห่วงใยและความอดกลั้น“นอนพักเถอะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น “ลุงจะอยู่ใกล้ๆ ถ้าต้องการอะไรเรียกได้เสมอ”เขานั่งอยู่ข้างเตียงด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล ภาคินยืนอยู่ตรงหน้าลลนาที่นอนหลับบนเตียงด้วยท่าทางที่อ่อนโยนและน่าเป็นห่วงในขณะเดียวกัน เขาต้องการที่จะเป็นผู้ปกครองที่ดีให้กับสาวน้อยวัยสิบหกที่ก๋ากั่นและดูเหมือนจะมีความเป็นผู้ใหญ่เกินวัยขนาดนี้ แต่เขารู้ดีว่านี่คือบททดสอบที่ใหญ่หลวงสำหรับเขา ลลนาในวัยสิบหกปีมีบุคลิกที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและแรงดึงดูดที่เป็นอันตรายต่อผู้ใหญ่รอบตัวเธอ รวม
Lallana:Anna, he’s about to send me away from here. I don’t want to go, not now and not ever.แอนนา เขากำลังจะส่งฉันออกไปจากที่นี่ ฉันไม่อยากไปเลย ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหนก็ไม่เคยคิดจะไปAnna:You must really be in love with him, huh? But maybe it’s time to move on, don’t you think?แอนนา: เธอคงจะหลงรักเขามากเลยนะ แต่ฉันว่าตัดใจเถอะ เธอคิดว่ายังไง? ลลนา วางโทรศัพท์ลงอย่างหนักใจ น้ำตาซึม เธอเอนตัวลงบนเตียง บรรยากาศในห้องเงียบสงัด แต่เสียงหัวใจที่เต้นรัวของเธอกลับดังขึ้นในหู เธอคิดถึงคำพูดของแอนนา “ตัดใจเถอะ” คำเหล่านั้นกลับก้องอยู่ในหัวของเธอลลนา นอนพลิกไปมาบนเตียง ความรู้สึกที่มีต่อภาคินท่วมท้นจนทำให้เธอไม่สามารถสงบลงได้ ความรักของเธอช่างร้อนแรงและไม่ยอมที่จะหายไปง่ายๆ“ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้?” เธอครางออกมา ความรู้สึกที่ปั่นป่วนในหัวใจทำให้เธอรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า เธอรู้ดีว่าเขาไม่ใช่ญาติทางสายเลือดของเธอ ความห่างของอายุสิบสี่ปีไม่ควรจะเป็นปัญหา แต่ทำไมมันถึงรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ยิ่ง? เธอจินตนาการถึงภาพของภาคิน ว่าด้วยความหล่อเหลาของเขา ความอบ
ภาคินนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในห้องที่สลัวเพียงแสงจากโคมไฟสลัวบนโต๊ะทำงานเขา ดื่มไวน์อย่างช้าๆ เพื่อคลายความเครียดจากวันที่ยาวนาน และพยายามปล่อยให้ความคิดของเขาหลุดลอยไปจากเรื่องที่รบกวนจิตใจเสียงเปิดประตูเบาๆ ทำให้เขาหันไปมอง ร่างเด็กสาวในชุดนอนสุดเซ็กซี่และเย้ายวนใจเดินเข้ามาในห้องอย่างมั่นใจ ชุดนอนที่เธอสวมใส่สั้นและเผยให้เห็นผิวเนียนสวยของเธออย่างชัดเจน สร้างความรู้สึกตื่นเต้นให้กับภาคินที่นั่งอยู่ตรงนั้น“ลลนา” ภาคินเรียกชื่อเธอด้วยเสียงที่ต่ำและไม่ค่อยเชื่อมั่น เขารู้ว่าความรู้สึกที่เขามีต่อเธอเป็นสิ่งที่เขาต้องควบคุม แต่ตอนนี้มันเริ่มยากเกินไปลลนายิ้มให้เขาอย่างมีเสน่ห์ เดินเข้ามาใกล้เธอ และท่าทางของเธอช่างเต็มไปด้วยความมั่นใจและความตั้งใจ “ทำไมลุงยังไม่หลับคะ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงหวานที่แฝงไปด้วยความท้าทาย ภาคินพยายามปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่กำลังเปลี่ยนไป การมาของลลนาในสภาพนี้ทำให้เขารู้สึกถึงแรงดึงดูดที่เขาพยายามจะควบคุม ความร้อนที่เกิดขึ้นในตัวเขามันเพิ่มขึ้นจนแทบจะทนไม่ไหว“มันดึกแล้วลลนา” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้ฟังดูสงบ แต่ลึกๆ แล้วมันเต็มไปด้
หลังจากค่ำคืนนั้นที่ลลนาแสนผิดหวัง เธอหลบหน้าภาคินด้วยการหนีเที่ยวแทบทุกคืน เพื่อปกปิดความรู้สึกที่บอบช้ำ เธอใช้ชีวิตในแบบที่เธอไม่เคยใช้มาก่อน ดื่มด่ำกับการปาร์ตี้และสังสรรค์กับเพื่อนๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ช่วงเย็นของทุกวัน เธอมักจะอาศัยช่วงเวลาที่เหลืออยู่เพื่อเดินทางไปยังผับหรือคลับสุดฮิตในเมือง หรือไม่ก็ออกไปพบปะกับกลุ่มเพื่อนที่มีชีวิตชีวาในงานเลี้ยงต่างๆ การที่เธอหลบหน้าและตัดขาดจากความสัมพันธ์ที่เคยใกล้ชิดกับภาคินนั้นทำให้เธอรู้สึกว่าการใช้ชีวิตอย่างไม่คิดอะไรมากอาจจะช่วยให้เธอหลุดพ้นจากความรู้สึกที่เจ็บปวดได้ในขณะที่เธอหลีกเลี่ยงการกลับบ้านและการพบปะกับภาคิน เธอรู้สึกถึงความสับสนและความรู้สึกผิดหวังที่ยังคงค้างคาในใจ แม้ว่าการเที่ยวไปทุกคืนจะช่วยให้เธอเบี่ยงเบนความสนใจจากสิ่งที่ทำให้เธอเจ็บปวด แต่เธอก็รู้ดีว่าในที่สุด ความรู้สึกที่แท้จริงและความเจ็บปวดที่เธอพยายามหลบหนีจะต้องตามกลับมาทำให้เธอต้องเผชิญหน้าอีกครั้งท่ามกลางเสียงเพลงและความสนุกสนาน เธออาจจะหลงลืมความเจ็บปวดในชั่วขณะ แต่ลึกลงไปในใจ เธอกลับรู้สึกถึงความโหยหาต่อความรักและการยอมรับที่เธอไม่สามารถหาได้จากการ
ภาคินได้เตรียมบ้านหลังใหญ่ไว้ให้ลลนาในย่านคนรวยของกรุงลอนดอน บ้านหลังนี้มีขนาดใหญ่โอ่อ่า ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัวมาก เนื่องจากหมู่บ้านนี้เป็นที่อยู่อาศัยของคนมีฐานะ มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาและเข้มงวด ทำให้ลลนาสามารถรู้สึกปลอดภัยและสบายใจได้อย่างเต็มที่ ตัวบ้านเองมีการตกแต่งอย่างหรูหราและครบครัน ภายในห้องต่างๆ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ชั้นดีที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ ห้องนั่งเล่นกว้างขวาง มีหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติและลมเย็นจากสวนหลังบ้าน สวนดอกไม้ที่ภาคินให้คนมาจัดแต่งไว้อย่างสวยงามนั้นเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสันที่ผลิบานในทุกฤดูกาล มีมุมพักผ่อนหลายมุมที่ลลนาสามารถนั่งจิบชาอ่านหนังสือได้อย่างสบายใจ ที่พิเศษที่สุดคือสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่หลังบ้าน ขอบสระล้อมรอบด้วยต้นไม้เขียวขจีและดอกไม้ที่หอมกรุ่น สระนี้ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี น้ำใสสะอาด สามารถมองเห็นพื้นสระได้ชัดเจน ช่วงเย็นๆ ลลนาสามารถลงเล่นน้ำเพื่อผ่อนคลาย หรือเลือกนอนอาบแดดที่เก้าอี้ริมสระ พร้อมเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัว บ้านหลังนี้ไม่เพีย
การเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศของลลนา เขาเริ่มวางแผนตั้งแต่ก่อนจะเอ่ยปากกับเธอเสียอีก ทุกขั้นตอนถูกคำนวณมาอย่างดี ไม่ใช่แค่เรื่องที่พักอาศัยหรือการสมัครเข้าเรียนเท่านั้นที่เขาจัดการให้เสร็จสรรพ แต่ยังมีเรื่องอื่น ๆ ที่เขาไม่อยากให้ลลนาต้องกังวลเลยแม้แต่น้อย ภาคินเลือกเมืองที่ลลนาจะได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระแต่ปลอดภัย เลือกมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับเธอที่สุด จากนั้นเขาก็เตรียมผู้ช่วยส่วนตัวที่ไว้ใจได้ ไว้คอยดูแลเธอตลอดเวลา ผู้ช่วยคนนี้ไม่เพียงแต่จะจัดการเรื่องเอกสารการเรียน การใช้ชีวิตในต่างแดน หรือการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ แต่ยังถูกฝึกมาให้รู้ใจลลนา รู้ว่าความต้องการของเธอคืออะไร แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ชนิดของกาแฟที่เธอชอบทานตอนเช้า หรือร้านเสื้อผ้าโปรดที่เธออาจอยากไปเยือน ภาคินรู้ดีว่าลลนาอาจจะรู้สึกโดดเดี่ยวในต่างแดน เขาจึงให้ผู้ช่วยคนนี้เป็นทั้งเพื่อนและที่ปรึกษาในทุกเรื่อง แต่แม้ว่าผู้ช่วยจะดูแลเธออย่างใกล้ชิด รายงานทุกความเคลื่อนไหวของเธอก็จะถูกส่งตรงกลับมาหาเขาอย่างสม่ำเสมอโดยที่ลลนาไม่รู้ตัว เพื่อให้แน่ใจว่าเธอปลอดภัยและมีความสุ
หลังจากค่ำคืนนั้นที่ลลนาแสนผิดหวัง เธอหลบหน้าภาคินด้วยการหนีเที่ยวแทบทุกคืน เพื่อปกปิดความรู้สึกที่บอบช้ำ เธอใช้ชีวิตในแบบที่เธอไม่เคยใช้มาก่อน ดื่มด่ำกับการปาร์ตี้และสังสรรค์กับเพื่อนๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ช่วงเย็นของทุกวัน เธอมักจะอาศัยช่วงเวลาที่เหลืออยู่เพื่อเดินทางไปยังผับหรือคลับสุดฮิตในเมือง หรือไม่ก็ออกไปพบปะกับกลุ่มเพื่อนที่มีชีวิตชีวาในงานเลี้ยงต่างๆ การที่เธอหลบหน้าและตัดขาดจากความสัมพันธ์ที่เคยใกล้ชิดกับภาคินนั้นทำให้เธอรู้สึกว่าการใช้ชีวิตอย่างไม่คิดอะไรมากอาจจะช่วยให้เธอหลุดพ้นจากความรู้สึกที่เจ็บปวดได้ในขณะที่เธอหลีกเลี่ยงการกลับบ้านและการพบปะกับภาคิน เธอรู้สึกถึงความสับสนและความรู้สึกผิดหวังที่ยังคงค้างคาในใจ แม้ว่าการเที่ยวไปทุกคืนจะช่วยให้เธอเบี่ยงเบนความสนใจจากสิ่งที่ทำให้เธอเจ็บปวด แต่เธอก็รู้ดีว่าในที่สุด ความรู้สึกที่แท้จริงและความเจ็บปวดที่เธอพยายามหลบหนีจะต้องตามกลับมาทำให้เธอต้องเผชิญหน้าอีกครั้งท่ามกลางเสียงเพลงและความสนุกสนาน เธออาจจะหลงลืมความเจ็บปวดในชั่วขณะ แต่ลึกลงไปในใจ เธอกลับรู้สึกถึงความโหยหาต่อความรักและการยอมรับที่เธอไม่สามารถหาได้จากการ
ภาคินนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในห้องที่สลัวเพียงแสงจากโคมไฟสลัวบนโต๊ะทำงานเขา ดื่มไวน์อย่างช้าๆ เพื่อคลายความเครียดจากวันที่ยาวนาน และพยายามปล่อยให้ความคิดของเขาหลุดลอยไปจากเรื่องที่รบกวนจิตใจเสียงเปิดประตูเบาๆ ทำให้เขาหันไปมอง ร่างเด็กสาวในชุดนอนสุดเซ็กซี่และเย้ายวนใจเดินเข้ามาในห้องอย่างมั่นใจ ชุดนอนที่เธอสวมใส่สั้นและเผยให้เห็นผิวเนียนสวยของเธออย่างชัดเจน สร้างความรู้สึกตื่นเต้นให้กับภาคินที่นั่งอยู่ตรงนั้น“ลลนา” ภาคินเรียกชื่อเธอด้วยเสียงที่ต่ำและไม่ค่อยเชื่อมั่น เขารู้ว่าความรู้สึกที่เขามีต่อเธอเป็นสิ่งที่เขาต้องควบคุม แต่ตอนนี้มันเริ่มยากเกินไปลลนายิ้มให้เขาอย่างมีเสน่ห์ เดินเข้ามาใกล้เธอ และท่าทางของเธอช่างเต็มไปด้วยความมั่นใจและความตั้งใจ “ทำไมลุงยังไม่หลับคะ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงหวานที่แฝงไปด้วยความท้าทาย ภาคินพยายามปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่กำลังเปลี่ยนไป การมาของลลนาในสภาพนี้ทำให้เขารู้สึกถึงแรงดึงดูดที่เขาพยายามจะควบคุม ความร้อนที่เกิดขึ้นในตัวเขามันเพิ่มขึ้นจนแทบจะทนไม่ไหว“มันดึกแล้วลลนา” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้ฟังดูสงบ แต่ลึกๆ แล้วมันเต็มไปด้
Lallana:Anna, he’s about to send me away from here. I don’t want to go, not now and not ever.แอนนา เขากำลังจะส่งฉันออกไปจากที่นี่ ฉันไม่อยากไปเลย ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหนก็ไม่เคยคิดจะไปAnna:You must really be in love with him, huh? But maybe it’s time to move on, don’t you think?แอนนา: เธอคงจะหลงรักเขามากเลยนะ แต่ฉันว่าตัดใจเถอะ เธอคิดว่ายังไง? ลลนา วางโทรศัพท์ลงอย่างหนักใจ น้ำตาซึม เธอเอนตัวลงบนเตียง บรรยากาศในห้องเงียบสงัด แต่เสียงหัวใจที่เต้นรัวของเธอกลับดังขึ้นในหู เธอคิดถึงคำพูดของแอนนา “ตัดใจเถอะ” คำเหล่านั้นกลับก้องอยู่ในหัวของเธอลลนา นอนพลิกไปมาบนเตียง ความรู้สึกที่มีต่อภาคินท่วมท้นจนทำให้เธอไม่สามารถสงบลงได้ ความรักของเธอช่างร้อนแรงและไม่ยอมที่จะหายไปง่ายๆ“ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้?” เธอครางออกมา ความรู้สึกที่ปั่นป่วนในหัวใจทำให้เธอรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า เธอรู้ดีว่าเขาไม่ใช่ญาติทางสายเลือดของเธอ ความห่างของอายุสิบสี่ปีไม่ควรจะเป็นปัญหา แต่ทำไมมันถึงรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ยิ่ง? เธอจินตนาการถึงภาพของภาคิน ว่าด้วยความหล่อเหลาของเขา ความอบ
ภาคินรู้สึกถึงความอบอุ่นของลลนาที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา เดรสแดงของเธอทำให้เขาสัมผัสถึงความเซ็กซี่ที่เกินวัย เธอซบลงกับอกกว้างของเขา ในขณะที่ภาคินเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นบน เขารู้สึกถึงความหนักหน่วงของความรู้สึกที่ต้องควบคุมเมื่อเขาถึงห้องนอน เขาพาเธอเข้ามาในห้องและวางเธอลงบนเตียงกว้างอย่างนุ่มนวล เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ที่จะมองเห็นเดรสแดงที่เผยให้เห็นส่วนโค้งของร่างกายเธออย่างชัดเจน ขณะที่เธอเริ่มหลับตาลง ภาคินนั่งลงข้างเตียงและมองดูเธอด้วยความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างความห่วงใยและความอดกลั้น“นอนพักเถอะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น “ลุงจะอยู่ใกล้ๆ ถ้าต้องการอะไรเรียกได้เสมอ”เขานั่งอยู่ข้างเตียงด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล ภาคินยืนอยู่ตรงหน้าลลนาที่นอนหลับบนเตียงด้วยท่าทางที่อ่อนโยนและน่าเป็นห่วงในขณะเดียวกัน เขาต้องการที่จะเป็นผู้ปกครองที่ดีให้กับสาวน้อยวัยสิบหกที่ก๋ากั่นและดูเหมือนจะมีความเป็นผู้ใหญ่เกินวัยขนาดนี้ แต่เขารู้ดีว่านี่คือบททดสอบที่ใหญ่หลวงสำหรับเขา ลลนาในวัยสิบหกปีมีบุคลิกที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและแรงดึงดูดที่เป็นอันตรายต่อผู้ใหญ่รอบตัวเธอ รวม
ภาคิน หนุ่มใหญ่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเคร่งขรึม เขาเป็นชายโสดที่มีชีวิตเรียบง่ายและทุ่มเทให้กับธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่เขาสร้างขึ้นมาเอง ด้วยความเป็นคนสุขุมและจริงจัง ทำให้เขาไม่เคยมีใครเข้ามาในชีวิตอย่างจริงจัง แต่แล้วโชคชะตาก็พลิกผันเมื่อเขาต้องรับ ลลนา สาวน้อยลูกสาวของเพื่อนรักที่เสียชีวิตอย่างกระทันหันเข้ามาอยู่ในการปกครองของเขา ลลนาที่อายุเพียงสิบหกปี ไม่มีญาติพี่น้องหรือใครในชีวิต ทำให้ภาคินต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอการย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านของภาคิน ลลนาพยายามเก็บงำความรู้สึกที่พลุ่งพล่านอยู่ในใจ แม้จะอยู่ในห้องส่วนตัวที่ภาคินเตรียมไว้ให้ เธอก็ไม่อาจหยุดคิดถึงสายตาและรอยยิ้มของเขาได้ มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกสะกด ความรู้สึกนี้เธอไม่เคยพบมาก่อน เธอรู้สึกทั้งตื่นเต้นและอึดอัดในเวลาเดียวกันภาคิน ชายหนุ่มใหญ่ที่เธอเพิ่งรู้จัก แต่กลับมีอิทธิพลต่อหัวใจเธออย่างรุนแรง ตั้งแต่ย้ายเข้ามาในบ้านหลังนี้ ลลนารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและการดูแลอย่างดีจากภาคิน แต่ลึกๆ ในใจเธอกลับรู้สึกไม่พอใจที่จะเป็นเพียงแค่เด็กสาวในสายตาของเขา เธออยากให้เขามองเธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีเสน่ห์และคว
เสียงล้อรถหรูค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่กลางสวนสวย ลลนา สาวน้อยวัยสิบหกปี ก้าวลงจากรถด้วยท่าทางมั่นใจ สวมกระโปรงสั้นและเสื้อแบรนด์เนม เธอสะพายกระเป๋าหรูข้างลำตัว ดวงตาสีน้ำตาลเข้มซ่อนแววท้าทายตามแบบเด็กสาวที่เติบโตในโรงเรียนอินเตอร์เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมองบ้านหลังใหม่ บ้านที่เธอจะต้องอยู่กับผู้ปกครองคนใหม่ ผู้ชายที่เคยเป็นเพื่อนรักของพ่อเธอ ภาคิน หนุ่มใหญ่ในวัยสามสิบยืนรออยู่ที่หน้าประตู เขามองสาวน้อยที่เพิ่งมาถึงอย่างพิจารณา ท่าทางมั่นใจของเธอไม่สอดคล้องกับวัยที่ยังอ่อนเยาว์“ยินดีต้อนรับลลนา” เสียงนุ่มลึกของภาคินทำลายความเงียบงันเธอพยักหน้า แต่ไม่อาจละสายตาจากเขาได้ ภาคินยิ้มเบาๆ ก่อนจะยื่นมือออกมา “ยินดีต้อนรับสู่บ้านของฉัน”มือของลลนาอุ่นขึ้นเมื่อสัมผัสกับมือของเขา ความรู้สึกที่เธอมีในตอนนี้ไม่ใช่แค่ความตื่นเต้นธรรมดา แต่เป็นความหลงใหลที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง รู้สึกว่าทุกย่างก้าวของเธอต่อจากนี้ จะไม่มีวันเหมือนเดิม.ภาคินไม่รู้ตัวเลยว่าในเวลานี้เขาได้ปลุกความปรารถนาที่ซ่อนอยู่ในหัวใจของเด็กสาวผู้ที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา ความสัมพันธ