“ถึงห้องแล้ว เอ่อ นายเข้าไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันค่อยเดินตามเข้าไป”
ธาราบอกขึ้นเมื่อเดินมาถึงห้องเรียนแล้ว
“อ่าว ทำไมล่ะ เธอจะไปไหน?”
“ฉันไม่อยากให้คนอื่นมอง นายพอเข้าใจใช่ไหม ถ้าเกิดฉันเดินเข้าไป เอ่อ กับนาย ชีวิตฉันอาจไม่สงบสุขอีกต่อไป...”
และรามินทร์ก็เข้าใจ เขามองท่าทางวิตกของเธออย่างรู้สึกหงุดหงิด เมื่อเขานั้นไม่ได้ต้องการให้เกิดเรื่องแบบที่เธอพูดแต่ก็คงเลี่ยงไม่ได้เมื่อลับหลังเขานั้นเธออาจถูกรังแกได้
“งั้นก็ได้”
เขายอมเดินเข้าไปคนเดียว ส่วนธาราก็รอเวลา ก่อนจะเดินตามเขาเข้าไป
“ใครน่ะ?...”
“เด็กใหม่เหรอ?”
“เข้าผิดห้องรึเปล่า?”
“หรือว่าหลงทางมา”
“แต่คุ้นๆอยู่นะ...”
และพอธาราเดินเข้าไปในห้องเรียน คำถามมากมายก็หลุดออกมาจากปากของเพื่อนๆเมื่อดันจำเธอไม่ได้กันเสียอย่างนั้น เพราะตลอด 5 ปีที่เรียนที่นี่เธอมักบดบังหน้าตาด้วยแว่นตาอันใหญ่ยักษ์นั่นเอง
“ธาร! ทางนี้ๆๆ”
เป็นวารีที่กวักมือเรียกเพื่อนสนิท เมื่อเธอนั้นมาถึงห้องเรียนก่อน ทำเอาพวกเพื่อนในห้องเรียนต่างพากันมองจ้องธาราอย่างไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เห็น
“ธารเหรอ?”
“เฮ้ย! ใช่เหรอ?”
“โอ้มายก๊อด!”
“ทำไมไม่เหมือน”
“ใช่จริงเหรอ?”
ธาราเดินผ่านกลุ่มเพื่อนๆไปหาวารีพร้อมกับคำถามที่ผ่านเข้าหูมากมาย จากที่ตัวเล็กอยู่แล้ว เหมือนกับว่าตอนนี้เธอยิ่งเล็กลงไปอีก
“แกๆๆๆ ขนาดฉันเป็นเพื่อนแกฉันยังแทบจำแกไม่ได้ โอ๊ย! บอกให้ไปเลสิคๆก็ไม่เชื่อ ดูสิแกสวยขนาดไหนเนี่ย”
“พอได้แล้วน่า! แค่นี้ก็อายจะแย่อยู่แล้ว”
ธารารีบห้ามเพื่อน เมื่อดูท่าชีวิตของเธอจะไม่สงบสุขเสียแล้ว จากนั้นไม่นานสามหนุ่มหล่อของห้องก็เดินเข้ามาสมทบกับอีกหนึ่งหนุ่มที่มาก่อนแล้ว จากนั้นก็มีการทดสอบในห้องเรียนและโรมันก็ทำคะแนนได้ดีเยี่ยมอีกตามเคย ตามมาติดๆด้วยรามินทร์ ทำเอาสาวๆในห้องถึงกับมองพวกเขาตาเยิ้มกับพรสวรรค์อันหาคนเทียบยากแบบพวกเขา
“เฮ้อ เราคงไม่ได้กลับบ้าน...ดูพวกนั้นสิ ตอนเรียนก็หลับ ทำไมถึงได้คะแนนเยอะทุกวิชาเลย เราสิ อ่านหนังสือกันแทบตาย ดูวีดีโอจนตาแฉะกลับไม่ได้ซึมซับเลย...ถ้าไม่ผ่านอาจารย์หมอก็ไม่ให้กลับ...เฮ้อ”
วารีที่มองไปยังกลุ่มเพื่อนที่สอบผ่านด้วยสายตาสุดแสนอิจฉา เพราะเธอกับธารายังต้องอยู่ต่อเพราะดันสอบไม่ผ่านกัน และก็ไม่รู้ว่าจะผ่านรึเปล่าอีก
“ธาร...โรม...โรมมองแกแปลกๆ...แกได้ไปทำอะไรผิดมารึเปล่าอีตานั่นถึงมองมาที่แกอ่ะ”
“ห๊ะ?...ไม่...ไม่นี่...เขาแค่มองผ่านๆรึเปล่า”
“ไม่นะ ฉันเห็นเขามองมาพักใหญ่ๆแล้ว...หรือว่าสนใจแก”
“บ้า! เขาไม่มีวันสนใจฉันหรอก แกพูดอะไรไม่รู้”
“ก็...”
“พอเลยๆ ถ้าเกิดใครมาได้ยินฉันตายแน่”
จากนั้นสองสาวก็เริ่มกลับไปสนใจหุ่นที่นอนตรงหน้า เพราะถ้าสอบไม่ผ่านอีกก็คงต้องพากันสอบจนผ่านโดยไม่รู้เลยว่ากำลังมีคนจ้องมองมาที่เธออยู่
ทำไมยัยนั่นถึง...
โรมันที่แอบมองไปยังธาราด้วยความหงุดหงิดใจอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะทำหน้าเข้มแล้วเดินออกจากห้องเรียนไป เพราะเขาเป็นคนแรกที่สอบผ่าน และก็ตามมาด้วยรามินทร์ที่สอบผ่านเป็นคนที่สอง ก่อนจะตามมาด้วยศิวะและเทวาที่เดินยืดอกออกมาอย่างมั่นใจในความเก่งของตัวเอง
“เย็นนี้มีปาร์ตี้ที่ร้านแม่ของลูกเกด แกสองคนไปกับเราไหม ถ้าไม่ไป บอกเลยว่าพลาด งานรวมดาวมหาลัยเลยนะเว้ย!”
ขณะเดินไปที่รถ เทวาก็ชวนขึ้น เมื่อเขากับศิวะตกลงที่จะไป
“ฉันขอบาย เย็นนี้แม่ฉันให้พาไปทำธุระ”
รามินทร์บอกออกมา พร้อมกับเดินไปที่รถของเขา ก่อนจะขับออกไป
“แล้วแกล่ะ ไปไหม?”
ศิวะหันไปถามโรมัน
“อืม ไปสิ”
และโรมันก็ตอบรับอย่างไม่ต้องคิดอะไรมากมาย เมื่อยังไงนอกจากกินกับเที่ยวเขาก็ไม่มีอะไรทำแล้วหลังเลิกเรียนแบบนี้ เพราะความเก่งของเขามันอยู่ในสายเลือดและพรสวรรค์ที่ฟ้าให้มา ต่อให้ไม่หาความรู้ใส่หัว แค่ได้ฟังจากห้องเรียนนิดๆหน่อยๆเขาก็สามารถทำมันได้อย่างง่ายดาย
“แก ฉันได้ยินมาว่าโรมจะมา...แกว่าชุดนี้เซ็กซี่พอไหม ดูให้หน่อยสิ”
อิงอิง สาวสวย เชียร์ลีดเดอร์ระดับมหาวิทยาลัย ที่มางานปาร์ตี้รีบเดินเข้ามาหากลุ่มเพื่อนสาวสวยของเธออย่างตื่นเต้น เมื่อได้ยินว่าหนุ่มฮอตอย่างโรมันจะมางานนี้ด้วย ทำเอาสาวๆที่นั่งอยู่ต่างรีบลุกมองชุดของตัวเอง เผื่อจะได้เป็นคู่ควงของว่าที่คุณหมอหนุ่มบ้าง
“แบบพวกเธอเขาไม่มองหรอก เพราะเขาเป็นของฉัน”
ซ่าร่า ดาวมหาลัยปี 5 บอกขึ้นอย่างมั่นใจ เมื่อเธอแน่ใจว่าเธอทั้งสวยและเซ็กซี่ที่สุดแล้วในงานวันนี้ และที่เธอมั่นใจอีกอย่างคือเมื่อวาน เพื่อนสนิทของโรมันเดินมาบอกว่าเขาสนใจเธออยู่ ทำเอาเธอแทบอยู่ไม่เป็นสุข เมื่อแอบชอบเขามานานแล้ว
จากนั้นไม่นานโรมันกับเพื่อนๆก็มาถึงร้านอาหารกึ่งผับที่ถูกจองเอาไว้สำหรับงานเลี้ยงของวันนี้โดยเฉพาะ พอเดินเข้ามาเขาก็ตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนไปโดยปริยาย เมื่อรูปร่างสูงใหญ่แถมกำยำไม่ได้เหมือนนักศึกษาแพทย์เลยสักนิดทำให้เขายิ่งดูโดดเด่น ส่วนศิวะและเทวาก็ดูดีไม่ต่างกัน ด้วยเป็นหนุ่มเชื้อสายจีน มีลักษณะเจ้าเล่ห์แพรวพราวถูกใจสาวๆด้วยคารมอันเหนือชั้น แต่ก็ยังสู้ชายหนุ่มผู้เคร่งครึมแต่กลับดึงดูดสาวๆสวยๆโดยไม่ต้องทำอะไรแบบโรมันไม่ได้อยู่ดี
“เอาแบบเดิมใช่ไหม? หรือเอาหนักกว่าเดิม”
ศิวะผู้ชอบเอนเตอร์เทนหันไปถามเพื่อนๆเมื่อเดินเข้ามานั่งแล้ว และพอได้คำตอบเขาก็เดินไปหาเจ้าภาพของงานนี้ ซึ่งเป็นเพื่อนๆจากต่างคณะที่มารวมตัวกันแทบจะทุกวัน
“ขอแบบพิเศษๆหน่อยนะ วันนี้ไอ้โรมบอกขอหนักๆ...แล้วสาวๆ อ้อ อยู่โน่นสินะ”
ศิวะเดินมาหาหนุ่มๆกลุ่มใหญ่ที่นั่งดื่มกันอยู่แล้วบอกขึ้น เมื่อหนุ่มๆพวกนี้เป็นคนชวนพวกเขามาในคืนนี้ เพราะรู้ว่าถ้าเกิดชวนพวกเขามาได้จะมีสาวๆสวยๆมาร่วมงานเพิ่มขึ้นไปอีก จากนั้นศิวะก็เดินไปหาเป้าหมายของเขาในคืนนี้ ซึ่งก็คือสาวๆดาวมหาลัย
“ศิวะ! ทางนี้ๆๆๆ อ๊ายยย มาแล้วๆๆๆ”
เป็นอิงอิงที่ร้องเรียกอย่างตื่นเต้นพร้อมกับเดินเข้าไปหาแล้วตวัดควงแขนของเขาอย่างเป็นเจ้าของทำเอาเพื่อนๆที่นั่งอยู่ถึงกับเบะปากมองบน
“นี่ๆๆๆ ศิวะมาชวนไปร่วมวงด้วย พวกเธอสนใจไหม? โรมก็มา เทพก็มานะ แต่เสียดายรามไม่มา”
อิงอิงที่เดินเข้ามาพร้อมศิวะบอกขึ้น ทำเอาพวกเพื่อนๆของเธอต่างลุกขึ้นยืนกันอย่างพร้อมเพียง
“อ่าว ซาร่า ไม่อยากไปร่วมวงกับเราเหรอ?”
ศิวะที่เห็นซาร่ายังนั่งอยู่ที่เดิมอดถามขึ้นไม่ได้ เมื่อที่เขามาวันนี้เพราะอยากมาเจอซาร่านี่แหละ เพราะเขาดันแอบชอบเธอมานานแล้ว แต่ไม่กล้าสักที จนตอนนี้เป็นปีสุดท้ายแล้วที่จะได้อยู่ที่มหาลัยก่อนจะต้องออกไปฝึกงานที่โรงพยาบาล เขาเลยตัดสินใจว่าจะเอาเธอมาเป็นแฟนให้ได้
“ไม่ล่ะ ฉันไม่ชอบคนเยอะๆ”
ซาร่าที่พยายามเล่นตัวแกล้งทำเป็นไม่สนใจ จนเจอพวกที่ยืนอยู่หันมองอย่างหมั่นไส้ เพราะรู้ดีว่าซาร่ากำลังเล่นตัว
“ซาร่าไม่ไปก็ปล่อยไปเถอะ มีแค่เราก็พอแล้ว นะ...ไปกันเถอะ อิงอิงอยากร่วมวงจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว”
อิงอิงเอนหัวไปพิงบ่าของศิวะอย่างออดอ้อน แต่ศิวะก็เอาแต่มองไปที่ซาร่าอย่างแสนเสียดายถ้าเธอจะไม่ไปจริงๆ ก่อนจะตัดใจแล้วเดินนำพวกสาวๆไปที่โต๊ะ ซึ่งเทวาและโรมันก็เริ่มดื่มกันแล้ว หลังจากเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ
“โห แจ่มๆทั้งนั้นเลยเว้ยเห้ย!”
เทวาที่เงยหน้าขึ้นไปเจอสาวๆที่ศิวะพามาอดสูดปากยิ้มกว้างไม่ได้ เพราะรู้ว่าหนึ่งในนั้นต้องได้อยู่บนเตียงของเขาในคืนนี้อย่างแน่นอน เผลอๆเขาอาจได้คู่ควงก็เป็นได้
ส่วนโรมันเองก็ไม่ต่างกัน ตาคมกวาดมองหาคนที่เขาอาจถูกใจ แต่ก็ไม่มีเลยสักคน เขาเลยหันกลับไปสนใจแก้วเหล้าตรงหน้าแทน
“ไปเลย สนุกกันให้เต็มที่”
พอมาถึงโต๊ะ ศิวะก็เชิญให้สาวๆนั่ง ซึ่งแต่ละคนก็พากันเดินไปนั่งลงข้างๆสองหนุ่มที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว ส่วนอิงอิง อยากเดินไปนั่งข้างโรมันแต่ด้วยควงมากับศิวะ เธอเลยจำใจต้องนั่งลงข้างกับศิวะ
จากนั้นงานปาร์ตี้ก็เริ่มครึกครื้นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อยิ่งดึก คนก็ยิ่งเยอะแถมเริ่มเมามายสนุกสนาน ไม่เว้นแม้แต่โรมัน ที่ดื่มหนักและก็โดนสาวๆลวนลามลูบไล้บนร่างกายของเขา แต่ก็ต้องทะเลาะกันเมื่อต่างก็อยากครอบครองโรมัน
“อื้อออ รำคาญ...”
โรมันที่ดื่มหนักจนอยากเข้าห้องน้ำดันสาวๆที่ทะเลาะกันออกห่างแล้วลุกเดินไปที่ห้องน้ำ ซึ่งตลอดทางก็ถูกพวกสาวๆลูบไล้อย่างแสนหลงใหล จนเดินมาถึงห้องน้ำหลังร้าน
“ฮู้วววว”
เขาปล่อยเสียงแห่งการปลดปล่อยออกมา ก่อนจะอดนึกไปถึงหน้าตาใสใสอันไร้แว่นหนาเตอะของธาราไม่ได้
“บ้าเอ้ย! ไปนึกถึงยัยแว่นนั่นได้ไงวะ...เฮ้อออ”
เขาสบถด่าตัวเอง ก่อนจะเก็บน้องชายสุดที่รักของเขาเข้าที่ แล้วเดินเซไปเซมาออกไปนอกห้องน้ำ และก็เจอเข้ากับซาร่า ที่เดินตามเขามา
“หวัดดี ยังไม่ดึกก็เมาแล้วเหรอ?”
เธอทักทายออกมาพร้อมกับมองเขาอย่างหลงใหล เธอนั่งรอเวลานี้มาเกือบ 2 ชั่วโมง เมื่อไม่อยากเดินไปรวมกลุ่มกับพวกเพื่อนๆ และสุดท้ายการรอคอยของเธอก็สิ้นสุดลง
“เมาอะไร ยังอีกนาน แล้วเธอ...พึ่งมาถึงเหรอ?”
โรมันถามออกมา ทำเอาซาร่าถึงกับหุบยิ้ม เมื่อมันแสดงว่าเขาไม่ได้มองมาที่เธอเลยสักนิด ทั้งๆที่เธอก็นั่งไม่ไกลจากเขาแท้ๆ
“นายสนใจไปนั่งกับฉันไหมล่ะ?”
“อืม”
และโรมันก็ตอบตกลงอย่างไม่ต้องคิดเยอะเมื่อเขานั้นรำคาญสาวๆที่เอาแต่ทะเลาะกันอยู่ก่อนแล้ว ส่วนซาร่าก็ยิ้มอย่างสมใจ เธอนั่งลงข้างเขาแล้วก็เอาแก้วขึ้นมาชงเหล้าให้เขาอย่างเอาอกเอาใจ ซึ่งก็ถูกใจโรมัน เมื่อเขาได้ดื่มอย่างสงบเสียที
หมับ!“อึ๊ อื้อ...”หลังจากดื่มต่อกับซาร่าพักใหญ่ๆ ทั้งสองก็เดินออกมาจากงานปาร์ตี้ เมื่อต่างก็พอรู้ถึงความต้องการของกันและกัน ซาร่าพาโรมันมาที่หอพักของเธอ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย พอมาถึงห้องทั้งสองก็ไม่ได้รีรอสวบ!!“อ๊ะ!...”โรมันที่รูดซิบกางเกงลงมาแล้วสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน ก่อนจะดันมันเข้าไปในรูรักแสนหวานของซาร่าอย่างรวดเร็วและรุนแรงจะเธอถึงกับอ้าปากค้างด้วยความเจ็บจุกปึก!“อ๊ะ! โรม...โรมคะ ซาร่า อ๊ะ!...”ซาร่ารีบเอามือไปดันท้องเขาเอาไว้ เมื่อขนาดที่เขาส่งเข้ามานั้นมันใหญ่จนเกินที่เธอจะรับไหว ร่างสาวงองุ้มอย่างเจ็บจุก แต่โรมันไม่สนใจ เขาเริ่มกระหน่ำแทงหนักหน่วง เมื่อตอนนี้ต้องการจนแทบบ้าอยู่แล้วปึก! ปึก!“โอ๊ย! โรม อ๊ะ! โรมคะ อื้อ โรม อ๊า ซาร่าเจ็บ อึก! โรม...”ซาร่าไม่ได้มีความสุขร่วมด้วยกับเขาเลยสักนิด เมื่อหน้าสวยเหยเก เต็มไปด้วยความเจ็บและทรมาน สองมือกำเข้าหากันแน่น เมื่อเคยได้ยินว่าเขาดุดันเรื่องบนเตียง แต่ไม่คิดว่าจะมากมายขนาดนี้ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!ส่วนโรมัน เขาเอาแต่กระแทกเข้าใส่เธอเหมือนกับเห็นเธอเป็นแค่ที่รองรับความต้องการที่เกิดขึ้น เขาไม่แม้แต่จะโอ้โลม หรือพาเธอไปม
“ห๊ะ?...เธอว่ายังไงนะ...”ขณะนั่งรอเรียน อยู่ดีๆธาราก็เดินก้มหน้าตรงเข้ามาหาโรมัน ทำเอากลุ่มของหนุ่มหล่อถึงกับมองจ้องเธออย่างตกใจ“ช่วยติววิชานิติเวชฯ เอ่อ ให้หน่อยได้ไหม?...”ธาราพูดขึ้นทั้งๆที่ก้มหน้างุดจนแทบมองหน้าเธอไม่เห็น“ใครวะ...ไม่เคยเห็นหน้า”ศิวะที่มองจ้องตั้งแต่เห็นธาราเดินเข้ามาอย่างมีคำถาม เมื่อเขาจำเธอไม่ได้เพราะไม่ได้ใส่แว่น เขาลุกเดินเข้ามามองเธอใกล้ๆ ทั้งก้ม ทั้งเบี่ยงตัวไปมาแต่ก็มองไม่ชัดเมื่อธาราพยายามก้มหน้าหลบเขา“ไม่ต้องยุ่งน่า!...เดี๋ยวฉันติวให้เอง...”เป็นรามินทร์ที่บอกขึ้น พร้อมกับตำหนิศิวะ จนศิวะต้องเดินกลับไปนั่งที่เดิม ส่วนโรมัน ตอนนี้เขากำลังมองรามินทร์ด้วยสีหน้าและสายตาเป็นคำถาม เพราะปกติรามินทร์ไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นแท้ๆ“ไม่ต้อง ฉันตกลง”โรมันบอกขึ้น ทำเอาคนที่ได้ยินถึงกับอ้าปากค้าง ไม่เว้นแม้แต่ธาราที่ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างตกตะลึง ก่อนจะเผยรอยยิ้มกว้างออกมา“ขอบคุณนะ! ขอบคุณจริงๆ”เธอเอ่ยขอบคุณเสร็จก็รีบวิ่งกลับไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ โดยทิ้งให้สองหนุ่ม ทั้งรามินทร์และโรมันได้แต่มองตามหลังเธอไปเหมือนถูกมนต์สะกดกับรอยยิ้มของเธอตึกตัก ตึกตัก ตึก
“เฮ้ย!! นี่ใส่อะไรวะเนี่ย!!! โอ๊ยยยยยย!!! ไอ้บ้าเอ้ย!!!”พอเดินมาหยุดยืนอยู่หน้ากระจกในห้องนอน โรมันถึงกับร้องลั่นกับการแต่งตัวของเขาผลั๊วะ!!“เกิดอะไรขึ้น! อ๊าย!! ขอ...ขอโทษ...”ธาราที่ได้ยินเสียงตะโกนดังลั่นของโรมันรีบลุกขึ้นวิ่งตรงมาที่ห้องนอนของเขาแล้วเปิดประตูออกอย่างรวดเร็วเพราะคิดว่าเกิดเรื่อง แต่สิ่งที่เห็นคือร่างใหญ่เปลือยเปล่าเพราะดันดึงชุดที่ใส่อยู่ออกอย่างโมโหนี่ก็เวร!!โรมันที่หันหน้ามามองธาราถึงกับอ้าปากค้างเพราะเธอดันเข้ามาได้จังหวะพอดิบพอดีที่กางเกงถูกถอดออก“ฉันขอโทษ”ปึง!...เอ่ยขอโทษเสร็จธาราก็รีบเดินกลับออกไปพร้อมปิดประตูให้กับเขา ซึ่งพอเธอออกไปแล้ว ของที่ถืออยู่ก็ถูกขว้างทิ้งอย่างโมโห โรมันได้แต่ตะโกนด่าในใจโดยไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาเลยสักนิด ไม่นานเขาก็เดินออกมาจากห้องพร้อมแต่งตัวอย่างเรียบร้อย“เอ่อ...ฉันไม่เห็นอะไร...เอ่อ จริงๆ..นะ”พอเขาเดินออกมา ธารารีบบอกขึ้นด้วยหน้าอันแดงเถือก“ไม่มีอะไรที่ฉันต้องอายนี่”โรมันบอกออกมาเหมือนกับไม่ได้สนใจอะไร แต่ก็อายกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขาเดินมานั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเธอในท่าทางสบายๆ“ว่ามาสิ”เขาบอกออกมาเมื่อนั่งลงแล้ว“คือว
“ทำไมมันไม่มาวะ ปกติไม่เคยผิดคำพูดนี่หว่า”เทวาที่โทรไปตามโรมันแต่กลับถูกปฏิเสธที่จะมาเลยพูดขึ้นอย่างไม่เข้าใจ“หรือว่าติวกับผู้หญิงคนนั้นจนหมดแรงถึงมาไม่ได้”ศิวะบอกขึ้น เพราะรู้ว่าโรมันตกลงจะไปติวหนังสือ ส่วนรามินทร์ที่นั่งฟังอยู่ก็ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ตอนนี้เขาไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด ทำไมโรมันถึงทำแบบนั้น หรือว่าสิ่งที่เพื่อนสองคนของเขาพูดจะเป็นความจริง แต่ธารานั้นไม่ใช่สเปคของโรมัน ซึ่งไม่มีทางที่หมอนั่นจะพาขึ้นเตียงอย่างแน่นอน“คิดอะไรอยู่...ไปต่อกับนานะนะคะ คืนนี้ว่าง...”นานะ สาวสวยอักษรฯปี 3 ที่เป็นคู่ควงของรามินทร์ในคืนนี้บอกขึ้น พร้อมกับซุกซบไปที่แขนของเขาอย่างออดอ้อน ส่วนอีกสองหนุ่มก็ต่างมีสาวสวยควงกันมาดื่ม จะมีก็แค่สาวสวยอีกคนที่ไร้คู่เมื่อโรมันไม่ได้มาด้วยเธอเลยขอตัวกลับไปก่อน“แกจะพาฉันมาด้วยทำไม? มากับผู้(ชาย)สองคนไม่ได้รึไง เสียเวลานอน”เสียงบ่นกระปอดกระแปดของวารีดังขึ้นไม่หยุด เมื่อถูกบ๊อบบี้ลากออกมาเที่ยวผับทั้งๆที่เธอต้องอ่านหนังสือ“แค่แปปเดียว น่ะๆๆ คนนี้ฉันรักจริง”บ๊อบบี้พยายามอ้อนวอนขั้นสุด เพราะด้วยร่างกายเป็นชาย กลัวคนอื่นมาเห็นแล้วเรื่องที่เธอชอบผู้ชายด้วยกัน
“ลงมา! เร็วๆสิ! เดี๋ยวก็ตายหรอก ลงมา!”เทวาพาวารีมาที่โรงแรมม่านรูดที่อยู่ข้างผับ ก่อนจะบอกให้เธอลงจากรถ“ไม่...ไม่เอา...”เสียงกระท่อนกระแท่นของวารีบอกขึ้น เขาพาเธอเข้าโรงแรมม่านรูดแบบนี้ จะให้เธอคิดยังไงนอกจากเขาก็เลวไม่ต่างจากไอ้หนุ่มแว่นนั่น“โอ๊ย!! ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกน่า! ลงมา! เดี๋ยวได้ตายคารถหรอก ลงมา!...”เขาพยามดึงเธอลงจากรถ ซึ่งทุกครั้งที่เขาแตะต้องร่างกายของวารีกลับร้อนรุ่มไปหมด เธอค่อยๆลงมาจากรถ ก่อนเขาจะดึงพาเข้าไปในห้อง จนมาหยุดอยู่ที่ห้องน้ำ เทวาเปิดน้ำเย็นๆแล้วดันเธอเข้าไป“เฮ้อ เหนื่อยกับเธอจริงๆ...คิดได้ไงว่าฉันจะทำอะไรเธอ...”เทวามองคนที่นั่งกอดตัวเองในห้องน้ำพร้อมกับส่ายหัว กว่าจะพามาได้ทำเอาเขาเหนื่อยจนแทบหมดแรง เขามองร่างอวบอ้วนที่เริ่มสะอื้นไห้ใต้ฝักบัวอย่างเริ่มสงสาร“งั้น...ฉันไปรอบนรถนะ...ดีขึ้นก็ออกมาล่ะ...”เขาบอกออกมาก่อนจะเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้วารีได้ปลดปล่อยความรู้สึกออกมาโดยเขาขอไปนั่งรอที่รถเพื่อความสบายใจของเธอส่วนวารี พอเขาเดินออกไปเธอก็ร้องไห้หนักขึ้น เกิดมาเธอพึ่งเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้ เธอเกือบถูกหลอกแถมยังมาถูกจับได้โดยเพื่อนร่วมห้องอีก ไม่มีอ
วันต่อมา บ๊อบบี้ที่มาเรียนตั้งแต่เช้าเผื่อว่าวารีจะมาก่อนตัวเอง แต่กลับพบว่าทั้งวารีและธารากลับไม่โผล่มาจนถึงเวลาเรียน ติดต่อก็ไม่ได้ ทำเอาบ๊อบบี้แทบเรียนไม่รู้เรื่อง เธอเอาแต่นั่งมองไปที่ประตูเผื่อเพื่อนทั้งสองจะโผล่มาแต่ก็ไร้เงาจนจบคาบเรียนส่วนสองคนที่หายไปนั้น แทบพากันลุกไม่ขึ้น เมื่อดันถูกเปิดบริสุทธิ์เอาวันเดียวกัน แถมยังหนักหน่วงจนเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งร่างจนพากันไข้กิน“นี่...เธอ ลุกไหวไหม...ไปหาหมอเถอะ...”“หือ?...ไม่...”เทวาที่ตอนนี้กำลังนั่งมองวารีที่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มพร้อมอุณหภูมิร่างกายทะลุ 39 องศา แต่ก็ยังไม่ยอมไปหาหมออีก พอจะเช็ดตัวให้เธอก็ไม่ยอม เอาแต่ไล่เขากลับไป จนเทวาเริ่มหนักใจ เธอทั้งโดนยา ทั้งถูกเขาเปิดซิง เป็นธรรมดาที่จะป่วย แต่ที่นี่มันม่านรูด จะมานอนยาวๆก็ไม่น่าจะดีเท่าไหร่“งั้นก็ลุกเถอะ นี่มันม่านรูดนะ เธอจะนอนจนพรุ่งนี้ก็คงไม่ได้”“นาย...นายก็ออกไปก่อนสิ...ฉันอาย”และเทวาก็ต้องลุกเดินออกไปรอที่รถ ส่วนวารีที่ทั้งอาย ทั้งเสียใจที่เสียบริสุทธิ์ค่อยๆพยุงร่างลุกขึ้น เสื้อผ้าของเธอถูกเขาส่งไปซักให้และวางเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว“จะอายอะไร...เหลือแค่ไส้ในแหละที่ยังไ
วันต่อมา หลังจากได้พักกันทั้งวันสองสาวก็ดีขึ้น แต่กลับไม่ได้เล่าเรื่องราวทุกอย่างให้กันฟัง ต่างคนต่างคิดที่จะเก็บเป็นความลับแล้วทำตัวเหมือนปกติ“แกจะใส่ทำไมธาร ใส่คอนแทคเลนส์ก็ดีอยู่แล้ว...อีกอย่างแว่นนั่นน่ะ น่าเกลียดกว่าอันเก่าอีกนะ”ธาราหยิบแว่นมาใส่หลังจากใส่คอนแทคเลนส์แล้วเพราะอยากปิดบังใบหน้าจะได้ไม่มีคนสนใจอีก ทำให้วารีอดที่จะว่าออกมาไม่ได้“ก็ฉันไม่อยากให้คนมอง...”ธาราบอกออกมาตามความจริง เพราะตั้งแต่ไม่มีแว่นเหมือนชีวิตของเธอนั้นเริ่มวุ่นวาย เธอเลยไปซื้อแว่นตาอันใหญ่โตมาใส่เพื่อรออันที่เธอสั่งตัดอยู่จากนั้นสองสาวก็ไปเข้าเรียน และทำเหมือนไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ขนาดเดินไปเจอพวก 4 หนุ่มสองสาวก็ไม่ได้ทักทายหรือมีท่าทีผิดปกติเลยสักนิด ทำเอาทั้งโรมัน ทั้งเทวาถึงกับอ้าปากค้าง“เมื่อวานพวกแกสองคนหายหัวไปไหนมา นี่จะไม่ตอบฉันจริงๆเหรอ?”ศิวะที่ยังคงคาใจและสงสัยหันมาถามเทวาและโรมันอีกครั้ง ตั้งแต่มาเรียนเขาก็ถามมันออกมาไม่ต่ำกว่าสิบรอบแล้ว แต่ก็ไม่ได้คำตอบส่วนรามินทร์ เขาไม่ได้พูดหรือถามอะไรนอกจากคอยสังเกตโรมันที่เอาแต่หงุดหงิด ส่วนเทวาก็เหมือนประหม่าอยู่ตลอดเวลา และยิ่งสองสาวเดิน
เอี๊ยด!“ขึ้นมา”“ห๊ะ!? เอ่อ...”“บอกให้ขึ้นมา”ทางด้านธาราที่เดินออกมาเพื่อกลับหอพักกลับถูกรถคันหนึ่งขับมาจอดแทบจะเหยียบเท้าของเธอ และพอกระจกรถลดลงก็เป็นโรมันที่มาดักรอพบเธอ“เอ่อ นายมีอะไร...”พอขึ้นมาบนรถ ธาราก็ถามขึ้นทันที“ติวไง วันนี้เรามีติว หรือเธอไม่ต้องการแล้ว”และพอได้ยินแบบนั้น ธาราก็พูดอะไรไม่ออก เธอทั้งโกรธทั้งน้อยใจเขาแทบตายจนท้อแท้และหมดกำลังใจแต่เขากลับมารับเธอไปติว ทำให้เธออดที่จะรู้สึกผิดกับตัวเองไม่ได้“นายจะติวที่นี่อีกเหรอ...ฉันว่าเราไป...”“ลงไป”และโรมันก็พาเธอมาที่คอนโดของเขาอีกครั้ง ธาราถึงกับใจเต้นแรง เพราะเรื่องที่เคยเกิดขึ้นดันฉายชัดในหัวของเธอในตอนนี้ ก่อนจะลงรถแล้วเดินตามเขาเข้าไปนี่มันอะไรกัน...ขึ้นห้องกับผู้ชายได้อย่างหน้าไม่อายจริงๆยัยธารเอ้ย!ธาราอดคิดอย่างรู้สึกอายไม่ได้ ไม่นานเธอก็มายืนอยู่ในห้องของเขา“วางของสิ เดี๋ยวฉันเปลี่ยนชุดก่อน”“อื้อ...”ธาราเดินไปนั่งลงที่เดิมของเธอ ก่อนจะหยิบของในกระเป๋าออกมา รอไม่นานโรมันก็เดินออกมา และพอเงยหน้าขึ้นมองธาราถึงกับอ้าปากค้างโอ้วแม่เจ้า!! นี่มัน...นายแบบ...ไม่สิ โรมจริงๆเหรอเนี่ย ทำไมหล่อขั้นเทพ หล่อระเบิ
“พยาบาลออม เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”“คนไข้เจ้าปัญหาน่ะสิคะ ไม่ยอมทานอาหารอีกแล้ว ยาก็ด้วย แล้วช่วงบ่ายมีกายภาพอีก น่าจะไม่ได้ทำอีกตามเคย”ธารามองพยาบาลผู้ช่วยของเธออย่างเข้าใจ“งั้นเดี๋ยวธารเอาเข้าไปเอง พยาบาลออมช่วยไปดูคนไข้ห้อง 8 ให้หน่อยนะคะ”“ได้ค่ะ นี่ค่ะคุณหมอ”พยาบาลสาวรีบยื่นถาดในมือไปให้ ก่อนจะเดินจากไปปล่อยให้ธาราได้แต่มองถาดในมืออย่างเริ่มหนักใจ เมื่อเธอนั้นรู้ดีว่าคนไข้เจ้าปัญหานั้นคือโรมันเธอเปิดดูข้อมูลการรักษาของเขาตลอด 2 เดือนที่ผ่านมามันแทบไม่มีข้อมูลอะไรเลย เมื่อเหมือนกับว่าเขาปฏิเสธการรักษา ทั้งๆที่ถ้าเขาตั้งใจป่านนี้เขาคงเริ่มดีขึ้นแล้วแท้ๆ“ธาร ไปกินข้าวกันไหม วันนี้ฉันจองโต๊ะที่ร้านอาหารแถวนี้เอาไว้ แล้วนี่...ยัยอ้วนไปไหนล่ะ หรือยังทำงานอยู่”เทวาที่พึ่งเสร็จงานเดินเข้ามาหาธาราแล้วถามขึ้น เมื่อตอนนี้ถึงเวลาอาหารเที่ยงแล้ว“ยัยลมไม่อยู่หรอก ออกไปกินข้ากับหนุ่มหล่อ สงสัยนายคงต้องไปกินคนเดียวแล้วล่ะ พอดีฉันต้องทำงานอีก ขอตัวนะ”พอวางระเบิดเสร็จธาราก็เดินหนีออกไป ปล่อยให้เทวาได้แต่ยืนอึ้ง เมื่อทำงานวันแรกยัยอ้วนของเขาก็ถูกหมายตาเสียแล้วเหรอเนี่ย“อะไรวะเนี่ย...ขนาดพามาน
“โหหหหห นี่คือห้องที่เราจะได้พักตลอดเวลาที่อยู่นี่จริงๆเหรอ? ทำไม...ถ้าเป็นแบบนี้ฉันขออยู่ตลอดไปเลยได้ไหมแก”วันต่อมา พอมาถึงที่พัก วารีที่เดินเข้ามาก่อนถึงกับร้องออกมาอย่างไม่อยากเชื่อกับห้องพักที่โรงพยาบาลจัดให้กับเธอสองคน ซึ่งเป็นห้องชุดที่ทั้งใหญ่และหรูหราแถมยังมีวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอันสวยงามอีก“งั้นแกก็อยู่ไปเลยสิ จะได้ไม่ต้องกลับไปเจอหมอคิมไง”ธาราที่เดินตามเข้ามาพูดขึ้น เมื่อเธอรู้เรื่องความสัมพันธ์ของวารีมาโดยตลอด“ได้ก็ดีสิ เฮ้อ ฉันจะทำยังไงกับหมอคิมดีอ่ะแก”“เอาน่า มีเวลาคิดตั้ง 1 เดือน ค่อยๆคิดไป งั้นเดี๋ยวฉันเอาของไปเก็บก่อน เห็นว่ามีสองห้อง เอาคนละห้องแล้วกัน”ธาราบอกขึ้นพร้อมกับลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไปยังประตูที่ปิดสนิทอยู่ ส่วนวารีเองก็ไม่ต่างกันลากกระเป๋าเดินเข้าไปดูห้องนอนอีกห้องวันต่อมา สองสาวก็เดินไปทำงานเมื่อห้องของพวกเธออยู่ห่างจากโรงพยาบาลแค่ 5 นาทีเท่านั้น และพอไปถึง วารีถึงกับแทบลืมหายใจเมื่อคนที่ออกมารับพวกเธอนั้นคือคนที่ไม่อยากเจอที่สุดทำไมอีตานี่มาอยู่ที่นี่ล่ะ...เขาทำงานอยู่ที่เซนต์จอห์นไม่ใช่เหรอ?...เธอคิดขึ้นเมื่อยังไม่รู้เรื่องที่เทวาย้ายมาทำงานที่โรง
1 เดือนต่อมาเพล้ง! เพล้ง! ปึก! ปัก!“ออกไป! ฉันบอกให้ออกไปให้หมด! ออกไป!!”เสียงไล่ดังขึ้นพร้อมกับสิ่งของตกดังกระทบพื้นเมื่อเจ้าของห้องไม่ต้องการให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับตัวเองจนทั้งหมอและพยาบาลต่างรีบหอบอุปกรณ์ต่างๆกลับออกไป เหลือก็เพียงแค่นนนน์ ที่ตอนนี้ยืนทำหน้าเศร้าอยู่ที่มุมห้อง“นายด้วย ออกไป”“แต่...เอ่อ ครับ...”และเขาก็ถูกไล่ออกมาไม่ต่างจากคนอื่น“เฮ้อ...ออกมาก็ถูกด่า อยู่ในนั้นก็ถูกไล่ เอาไงกับชีวิตดีวะเนี่ยเรา”พอเดินออกมานอกห้องของเจ้านายหนุ่ม นนนน์ถึงกับต้องถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ เมื่อนี่ก็เป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้วหลังจากที่โรมันเข้ารับการรักษาจนอาการเริ่มดีขึ้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่รอดมาได้ แต่หลังจากรอดมาได้โรมันกลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เมื่อสมองที่คาดว่าจะได้รับการกระทบกระเทือนและเสียหายอย่างหนักนั้นดูท่าจะเจาะจงไปที่ความเสียหายด้านอารมณ์มากกว่าด้านอื่นๆ เพราะตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาโรมันก็มีอารมณ์ฉุนเฉียวจนไม่มีใครเข้าหน้าติด เขาไม่ยอมให้ใครเข้ามารักษาแถมไม่ยอมทำกายภาพบำบัดในส่วนของขาข้างซ้ายที่หักจากอุบัติเหตุนั่นอีก“นายถูกไล่ออกมาอีกแล้วเหรอ?”“ครับ...คุณเทพช่วย
และจากนั้นไม่นานพ่อเลี้ยงสายชลก็ฟื้น แถมร่างกายยังปกติดีทุกอย่างเพียงต้องพักฟื้นต่ออีกสักหน่อยกว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ ทำเอาทั้งธาราและแม่เลี้ยงนาราอดโล่งใจไม่ได้“ฝากดูแลพ่อด้วยนะลูก เดี๋ยวแม่จัดการที่ไร่เสร็จจะรีบกลับมา”“ให้หนูไปดีไหมคะ แม่จะได้ดูแลพ่อ”“ลูกแหละอยู่ ยังไงลูกก็เป็นหมอ เผื่อจะได้ช่วยดูแลคนไข้คนอื่นถ้ามีเหตุฉุกเฉินจริงๆเข้ามาด้วย”หลังจากพ่อเลี้ยงสายชลฟื้นและดูท่าจะไม่มีอาการแทรกซ้อนใดใด แม่เลี้ยงนาราก็เลยขอกลับไปดูงานในไร่เมื่อร่วมเดือนแล้วที่ทิ้งมา ถึงแม้จะมีผู้จัดการคอยดูแลให้ แต่ก็ยังเกิดปัญหาอยู่ดี“ทำไมพึ่งมารายงานฉัน ส่งคนไปคอยดูแลก่อนจะเกิดเรื่องขึ้น”“ครับ...”
“อ่าว ลม มาถึงตั้งแต่ตอนไหน...แล้วนี่...”ทางด้านแม่เลี้ยงนาราที่พึ่งเดินเข้ามาในห้องพักฟื้นของสามีเอ่ยทักขึ้นอย่างนึกแปลกใจที่วารีนั่งอยู่ในห้องแถมมีชายหนุ่มหน้าตาดีอีกคนนั่งอยู่ไม่ไกล เมื่ออันที่จริงแล้วว่ารีคิดจะกลับบ้านก่อนแต่เป็นห่วงธาราจนเดินกลับมารอที่ห้องพักฟื้นเหมือนเดิม“สวัสดีครับ ผมเทวา เพื่อนของธารครับ”เทวารีบลุกขึ้นแนะนำตัวพร้อมรอยยิ้มอันแสนมีเสน่ห์จนแม่เลี้ยงนาราต้องยิ้มตอบอย่างนึกเอ็นดู“คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ หมอที่ผ่าตัดให้กับคุณพ่อน่ะเป็นหมอชื่อดังระดับโลก เขาไม่เคยผ่าตัดผิดพลาดเลยสักครั้ง”วารีรีบบอก เมื่อไม่อยากให้แม่เลี้ยงนารากังวล“จ๊ะ แม่รู้แล้ว แล้วนี่กินอะไรกันมารึยัง”“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
ส่วนทางด้านธารา ตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัดเป็นที่สุด พ่อเลี้ยงดนัยที่กำลังแนะนำและพรีเซนต์ตัวเองกับมารดาของเธอโดยไม่รู้กาลเทศะเมื่อบิดาเธอก็ยังนอนป่วยอยู่แท้ๆ“เฮ้อ กลับไปสักทีนะ ผู้ชายอะไรพูดเป็นต่อยหอยเลย”แม่เลี้ยงนาราอดที่จะเสียมารยาทไม่ได้เมื่อสุดท้ายก็สามารถไล่พ่อเลี้ยงดนัยกลับไปได้สักที หลังจากทนนั่งฟังเขาเล่าประสบการณ์ชีวิตตั้งแต่เด็กจนโตมาเป็นชั่วโมงๆ“ขอโทษนะคะ พอดีเขาบอกอยากมาเยี่ยมพ่อ...แล้วคุณหมอคนนั้น...เขาว่ายังไงบ้างคะ?”ธาราที่พึ่งหาคำพูดของตัวเองเจอถามขึ้น“เขาก็บอกว่าอาการคุณพ่อน่ะพร้อมผ่าตัด เขาเข้ามาเช็คดูโน่นนี่นั่นหลายอย่างเลยล่ะ เขาดูเก่งมากเลยนะลูก...แต่ว่าดูเงียบๆ แต่ไม่เคยเจอหมอคนไหนหล่อขนาดนี้มาก่อนเลยนะ แม่น่ะถึงกับหัวใจเต้นแรงเลยตอนเขาเดินเข้ามาหา”แม่เลี้
“คะ? เขา...เขาตกลงจะผ่าตัดให้เหรอคะ...”“ใช่แล้ว เขาพึ่งตอบตกลงมา และอีกอย่างเขาต้องการผ่าตัดที่นี่เลย ตอนนี้ผมกำลังให้คนเตรียมห้องผ่าตัดอยู่ ส่วนเรื่องที่คุณขอลา 2 เดือน ผมให้ได้แค่ เดือนเดียว ไปจัดการงานที่เหลือให้เรียบร้อยแล้วค่อยลงวันลามา”“ขอบคุณนะคะผู้อำนวยการ...แล้ววันผ่าตัด...”“พรุ่งนี้เช้า”“คะ? เอ่อ ค่ะ...”ธาราที่ถูกเรียกมาเพื่อแจ้งเรื่องการผ่าตัดแทบไม่อยากเชื่อว่าเขาจะตอบตกลง เมื่อเธอรู้ดีว่าถ้าเขาเห็นนามสกุลของบิดาเธอเขาต้องจำได้อย่างแน่นอนว่าเป็นนามสกุลเดียวกันกับเธอหรือเขาจำมันไม่ได้…ไม่มีทาง เขาต้องการอะไรกันแน่...ธาราเอาแต่คิดหาเหตุผลที่เขายอมรักษาให้กับบิดาของเธอ เมื่อมันดูไม่สมเหตุสมผลเ
“ทำไมติดต่อไม่ได้เนี่ย หรือกำลังสนุก ยัยเพื่อนบ้า จะโทรมาบอกหน่อยก็ไม่ได้ว่าถึงแล้ว เฮ้อ...”ทางด้านธารา ที่เดินออกมานอกระเบียงห้องนอนแล้วพยายามโทรหาวารี แต่กลับไม่มีคนรับสายเธอเลยไม่คิดเซ้าซี้ ก่อนจะมองออกไปยังความมืดมิดของไร่ชา ที่ตอนนี้มองไม่เห็นอะไรนอกจากดาวบนฟ้าที่ส่องสวางอยู่“เขาจะเป็นยังบ้างนะ...คงสบายดีและคงมีความสุขอยู่ที่ไหนสักที่...”ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา คำถามที่ผุดขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าคือคำถามนี้ ซึ่งเป็นคำถามที่เธอเองก็ไม่เคยรู้คำตอบติ๊ง...‘นอนรึยังครับคุณหมอ’ติ๊ง...‘คิดถึงคุณหมอจังครับ’ติ๊ง...‘รีบกลับมานะครับ ผมทนคิดถึงไม่ไหวแล้ว’ติ๊ง...‘ฝันดีครับ หวังว่าสักวันคุณหมอจะรับรักผมบ้าง’ขณะยืนคิดถึงอีกคน ข้อความในโทรศัพท์ก็ถูกส่งเข้ามา ธาราเปิดดู และก็พบว่าเป็นข้อความจากคนไข้ของเธอ ซึ่งเขามารักษาอาการแขนหัก ทั้งๆที่เธอรักษาเขาจนหายดีแล้วแต่เขาก็เอาแต่มาหาหมอแล้วบอกเจ็บตรงนั้นบ้าง ปวดตรงโน้นบ้าง จนสุดท้ายก็ยอมสารภาพกับเธอว่าเขานั้นแอบชอบเธอ จากนั้นเขาก็เริ่มส่งข้อความมาหาบ้าง โทรมาบ้าง ขนาดเธอบอกปฏิเสธไป เขาก็ยังคงพยายามจีบจนเธอต้องยอมให้เขาได้ทำตามใจ เมื่อบางครั้งมันก็ท
“นี่เป็นรายชื่อและรายละเอียดของเคสผ่าตัดที่ถูกส่งมาให้ครับ ส่วนนี่เป็นเอกสารเกี่ยวกับโรงพยาบาลทั้งหมด ทั้งที่นี่และตามสาขา ท่านรอง...”“อย่าเรียกฉันแบนั้น แล้วเรื่องท่านประธานล่ะ เป็นยังไงบ้าง”“พึ่งหลับไปครับ เห็นว่าถามถึง เอ่อ คุณโรมด้วย”“อืม วันนี้คุณกลับไปเถอะ ส่วนพรุ่งนี้ผมจะวางรายชื่อคนที่ผมจะผ่าตัดให้เอาไว้บนโต๊ะ ผมอาจเข้างานช้าหน่อย ถ้ามีอะไรฉุกเฉินก็ส่งทิ้งไว้ทางเมล์ได้เลย”โรมันบอกออกมาทั้งๆที่กำลังเปิดอ่านเอกสารที่นนนน์เอามาให้ ซึ่งแต่ละเคสก็มีแต่ด่วนๆทั้งนั้น ส่วนนนนน์ พอโรมันอนุญาตให้กลับ เขาก็เอ่ยลาแล้วเดินกลับออกจากห้องทำงานของเจ้านายหนุ่มไปส่วนคนที่ยังอยู่ในห้อง หลังจากวันนี้ไปเขาคงต้องทำงานอย่างหนัก เพราะพอแถลงข่าวเรื่องการย้ายมาทำงานที่โรงพยาบาลนี้ พวกคนไข้ทั้งในและต่างประเทศก็ขอยื่นเอกสารเข้ามารักษาตัวที่