“คะ? เขา...เขาตกลงจะผ่าตัดให้เหรอคะ...”“ใช่แล้ว เขาพึ่งตอบตกลงมา และอีกอย่างเขาต้องการผ่าตัดที่นี่เลย ตอนนี้ผมกำลังให้คนเตรียมห้องผ่าตัดอยู่ ส่วนเรื่องที่คุณขอลา 2 เดือน ผมให้ได้แค่ เดือนเดียว ไปจัดการงานที่เหลือให้เรียบร้อยแล้วค่อยลงวันลามา”“ขอบคุณนะคะผู้อำนวยการ...แล้ววันผ่าตัด...”“พรุ่งนี้เช้า”“คะ? เอ่อ ค่ะ...”ธาราที่ถูกเรียกมาเพื่อแจ้งเรื่องการผ่าตัดแทบไม่อยากเชื่อว่าเขาจะตอบตกลง เมื่อเธอรู้ดีว่าถ้าเขาเห็นนามสกุลของบิดาเธอเขาต้องจำได้อย่างแน่นอนว่าเป็นนามสกุลเดียวกันกับเธอหรือเขาจำมันไม่ได้…ไม่มีทาง เขาต้องการอะไรกันแน่...ธาราเอาแต่คิดหาเหตุผลที่เขายอมรักษาให้กับบิดาของเธอ เมื่อมันดูไม่สมเหตุสมผลเ
ส่วนทางด้านธารา ตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัดเป็นที่สุด พ่อเลี้ยงดนัยที่กำลังแนะนำและพรีเซนต์ตัวเองกับมารดาของเธอโดยไม่รู้กาลเทศะเมื่อบิดาเธอก็ยังนอนป่วยอยู่แท้ๆ“เฮ้อ กลับไปสักทีนะ ผู้ชายอะไรพูดเป็นต่อยหอยเลย”แม่เลี้ยงนาราอดที่จะเสียมารยาทไม่ได้เมื่อสุดท้ายก็สามารถไล่พ่อเลี้ยงดนัยกลับไปได้สักที หลังจากทนนั่งฟังเขาเล่าประสบการณ์ชีวิตตั้งแต่เด็กจนโตมาเป็นชั่วโมงๆ“ขอโทษนะคะ พอดีเขาบอกอยากมาเยี่ยมพ่อ...แล้วคุณหมอคนนั้น...เขาว่ายังไงบ้างคะ?”ธาราที่พึ่งหาคำพูดของตัวเองเจอถามขึ้น“เขาก็บอกว่าอาการคุณพ่อน่ะพร้อมผ่าตัด เขาเข้ามาเช็คดูโน่นนี่นั่นหลายอย่างเลยล่ะ เขาดูเก่งมากเลยนะลูก...แต่ว่าดูเงียบๆ แต่ไม่เคยเจอหมอคนไหนหล่อขนาดนี้มาก่อนเลยนะ แม่น่ะถึงกับหัวใจเต้นแรงเลยตอนเขาเดินเข้ามาหา”แม่เลี้
“อ่าว ลม มาถึงตั้งแต่ตอนไหน...แล้วนี่...”ทางด้านแม่เลี้ยงนาราที่พึ่งเดินเข้ามาในห้องพักฟื้นของสามีเอ่ยทักขึ้นอย่างนึกแปลกใจที่วารีนั่งอยู่ในห้องแถมมีชายหนุ่มหน้าตาดีอีกคนนั่งอยู่ไม่ไกล เมื่ออันที่จริงแล้วว่ารีคิดจะกลับบ้านก่อนแต่เป็นห่วงธาราจนเดินกลับมารอที่ห้องพักฟื้นเหมือนเดิม“สวัสดีครับ ผมเทวา เพื่อนของธารครับ”เทวารีบลุกขึ้นแนะนำตัวพร้อมรอยยิ้มอันแสนมีเสน่ห์จนแม่เลี้ยงนาราต้องยิ้มตอบอย่างนึกเอ็นดู“คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ หมอที่ผ่าตัดให้กับคุณพ่อน่ะเป็นหมอชื่อดังระดับโลก เขาไม่เคยผ่าตัดผิดพลาดเลยสักครั้ง”วารีรีบบอก เมื่อไม่อยากให้แม่เลี้ยงนารากังวล“จ๊ะ แม่รู้แล้ว แล้วนี่กินอะไรกันมารึยัง”“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
และจากนั้นไม่นานพ่อเลี้ยงสายชลก็ฟื้น แถมร่างกายยังปกติดีทุกอย่างเพียงต้องพักฟื้นต่ออีกสักหน่อยกว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ ทำเอาทั้งธาราและแม่เลี้ยงนาราอดโล่งใจไม่ได้“ฝากดูแลพ่อด้วยนะลูก เดี๋ยวแม่จัดการที่ไร่เสร็จจะรีบกลับมา”“ให้หนูไปดีไหมคะ แม่จะได้ดูแลพ่อ”“ลูกแหละอยู่ ยังไงลูกก็เป็นหมอ เผื่อจะได้ช่วยดูแลคนไข้คนอื่นถ้ามีเหตุฉุกเฉินจริงๆเข้ามาด้วย”หลังจากพ่อเลี้ยงสายชลฟื้นและดูท่าจะไม่มีอาการแทรกซ้อนใดใด แม่เลี้ยงนาราก็เลยขอกลับไปดูงานในไร่เมื่อร่วมเดือนแล้วที่ทิ้งมา ถึงแม้จะมีผู้จัดการคอยดูแลให้ แต่ก็ยังเกิดปัญหาอยู่ดี“ทำไมพึ่งมารายงานฉัน ส่งคนไปคอยดูแลก่อนจะเกิดเรื่องขึ้น”“ครับ...”
“แก! ฉันรักเขา อ๊ายยยยย ผู้ชายอะไรหล่อเว่อร์วังขนาดนั้น”“ใช่...หล่อ รวย เรียนก็เก่ง แถมเป็นแบดบอยอีก โอ๊ย! ฉันอยากได้เขาอ่ะแก”“เฮ้อ ถ้าไม่ใช่ระดับดาวมหาลัยก็แทบไม่มีสิทธิ์ได้คุยกับเขาหรอก”“ขนาดดาวอย่างยัยพิมพ์ยังถูกไล่ออกมาเลยอ่ะแก อย่างพวกเรานี่ ได้มองไกลๆแบบนี้ก็บุญแล้ว”เสียงสาวๆมหาลัยที่พากันนั่งจับกลุ่มอยู่ในสวนดังขึ้นไม่ขาดสาย เมื่อมีนักศึกษาหนุ่มกลุ่มหนึ่งเดินผ่านพวกเธอไป“มาตึกนี้ทีไรเป็นต้องรำคาญทุกที”ศิวะ นักศึกษาแพทย์ปี 5 อดพูดขึ้นอย่างรู้สึกรำคาญไม่ได้“แหม เขากรี๊ดแกไหมล่ะ ไอ้สองตัวนี่ต่างหากที่พวกนั้นกรี๊ดอ่ะ”เทวา หนึ่งในหนุ่มฮอตอดหันไปพูดตอกหน้าเพื่อนไม่ได้ เพราะทั้งกลุ่มนั้นศิวะดูท่าจะหล่อน้อยที่สุด หรือเรียกได้ว่าธรรมดาเลยก็ยังได้ ดีแค่มีผิวสีขาวราวน้ำนมก็เพียงเท่านั้นที่ทำให้เขาพอจะดูดีบ้างส่วนอีกสองหนุ่มที่ไม่ได้พูดอะไรออกมานอกจากเดินหน้านิ่งเขาไปในอาคารเรียน ที่วันนี้ต้องเขาเรียนทฤษฎีกับอาจารย์ที่เรียกได้ว่าเข้มงวดที่สุด พวกเขาเลยต้องจำใจมาอย่างเลี่ยงไม่ได้รามินทร์ หรือ ราม หนุ่มหล่อ พ่อรวย แถมเรียนดีจนติดอันดับของมหาลัย นิสัยนิ่งเงียบแต่น่าเข้าหาด้วยรอยยิ้ม
พลั๊ก!“ว๊าย! เอ่อ...ขอโทษนะ...”“ขอโทษแล้วมันหายเจ็บไหม?”ศิวะที่นั่งยื่นขายาวออกไปนอกโต๊ะเพราะอยากนั่งเรียนแบบสบายๆแต่กลับเกะกะทางเดินจนคนที่เดินผ่านสะดุดเกือบล้ม ดีที่เกาะเพื่อนอีกคนเอาไว้ทัน“เอ่อ ฉัน...ฉันมองไม่เห็น...”เธอรีบเอ่ยขอโทษอย่างหวาดกลัว เพราะต่างก็รู้กิตติศัพท์ของหนุ่มๆกลุ่มนี้“จะมองเห็นได้ไงใส่แว่นซะใหญ่กว่าหน้าขนาดนี้! เรียนห้องนี้เหรอ?”ส่วนคนที่ถูกกระทำยังคงพูดออกมาอย่างไม่พอใจพร้อมกับมองผู้หญิงตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าอย่างรู้สึกเคืองสายตา“อื้อ...”“ฮ่าฮ่าฮ่า เธอเข้าห้องผิดรึเปล่า นี่มันนักศึกษาแพทย์นะ ไม่ใช่วรรณกรรมดึกดำบรรพ์ ดูสภาพ เชยสิ้นดี”ศิวะดึงขาหลบพร้อมกับดูถูกเธอออกมา จนคนที่ถูกดูถูกถึงกับก้มหน้าหนีความอาย เมื่อเพื่อนๆทั้งห้องกำลังจ้องมองมาที่เธออยู่“พอได้แล้ว! ขอโทษแล้วก็แล้วๆไปสิ จะต้องมาพูดดูถูกคนอื่นทำไม?”เพื่อนสนิทที่ยืนฟังอย่างไม่พอใจอดต่อว่าขึ้นไม่ได้“นี่ยัยอ้วน! มาแส่อะไรด้วยห๊ะ! ดูสารรูปแต่ละคน แน่ใจเหรอว่ามาเรียนหมอ!”“นี่!...”“พอได้แล้ว! เสียงดังออกไปนอกห้องโน่น ไปนั่งที่ก่อนจะถูกหักคะแนน”และเสียงของอาจารย์ก็ดังขึ้นห้ามศึกที่ไม่มีท
“อ๊ายๆๆๆ แก! ฉันนึกว่าฉันฝันไป 5 ปีที่ผ่านมาฉันไปทำอะไรอยู่ที่ไหนมาถึงไม่เคยเห็นเทพบุตรอย่างราม คนอะไร ยิ้มทีเหมือนสวรรค์”พอการเรียนจบลง วารีก็เอาแต่พูดถึงรามินทร์อย่างเพ้อฝัน เพราะพึ่งเคยพูดกับเขาทั้งๆที่เรียนด้วยกันมาตั้ง 5 ปี จากที่รู้สึกไม่ชอบเธอกลับกำลังหลงรักเขาเข้าอย่างจัง ด้วยความน่ารัก สุภาพแถมขี้เล่น ทำให้สาวๆอดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กันเป็นแถบๆ ไม่เว้นแม้แต่ธารา ที่แอบยิ้มแทบทุกครั้งที่เขาเล่นมุกตลกๆและแอบเขินทุกครั้งที่เขาหันมามองหรือพูดกับเธอ“เขาก็เป็นแบบนั้นมาตั้งนานแล้ว...แกแค่ไม่เคยสังเกตเองต่างหาก”ธาราอดพูดขึ้นไม่ได้“อะไรๆๆ แสดงว่าแกแอบมองเขามาตั้งนานแล้วสิใช่ไหม? ฮั่นแน่ ธาร แกก็ชอบรามใช่ไหม? บอกฉันมานะ ใช่รึเปล่า...”วารีที่จับสังเกตได้พยายามคาดคั้นเอาคำตอบ จนธาราเขินจนต้องรีบเดินหนี ส่านวารีก็เอาแต่เดินตามเพื่อล้อเพื่อนสนิทจนธาราต้องรีบวิ่งซ่อนพลั๊ก!“โอ๊ย! เอ่อ ขอโทษ...!?”ธาราที่เอาแต่มองไปด้านหลังเพราะกลัววารีจะวิ่งตามมาทันจนไม่ทันได้ดูเลยชนเข้ากับใครอีกคน และพอเงยหน้าขึ้นมองเธอก็ต้องตกใจถอยหลังหนี“ไม่มีตาเหรอ...แว่นก็ใหญ่เท่าใบลาน”โรมันพูดออมาอย่างรู้สึกหงุดหงิ
“ถึงห้องแล้ว เอ่อ นายเข้าไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันค่อยเดินตามเข้าไป”ธาราบอกขึ้นเมื่อเดินมาถึงห้องเรียนแล้ว“อ่าว ทำไมล่ะ เธอจะไปไหน?”“ฉันไม่อยากให้คนอื่นมอง นายพอเข้าใจใช่ไหม ถ้าเกิดฉันเดินเข้าไป เอ่อ กับนาย ชีวิตฉันอาจไม่สงบสุขอีกต่อไป...”และรามินทร์ก็เข้าใจ เขามองท่าทางวิตกของเธออย่างรู้สึกหงุดหงิด เมื่อเขานั้นไม่ได้ต้องการให้เกิดเรื่องแบบที่เธอพูดแต่ก็คงเลี่ยงไม่ได้เมื่อลับหลังเขานั้นเธออาจถูกรังแกได้“งั้นก็ได้”เขายอมเดินเข้าไปคนเดียว ส่วนธาราก็รอเวลา ก่อนจะเดินตามเขาเข้าไป“ใครน่ะ?...”“เด็กใหม่เหรอ?”“เข้าผิดห้องรึเปล่า?”“หรือว่าหลงทางมา”“แต่คุ้นๆอยู่นะ...”และพอธาราเดินเข้าไปในห้องเรียน คำถามมากมายก็หลุดออกมาจากปากของเพื่อนๆเมื่อดันจำเธอไม่ได้กันเสียอย่างนั้น เพราะตลอด 5 ปีที่เรียนที่นี่เธอมักบดบังหน้าตาด้วยแว่นตาอันใหญ่ยักษ์นั่นเอง“ธาร! ทางนี้ๆๆ”เป็นวารีที่กวักมือเรียกเพื่อนสนิท เมื่อเธอนั้นมาถึงห้องเรียนก่อน ทำเอาพวกเพื่อนในห้องเรียนต่างพากันมองจ้องธาราอย่างไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เห็น“ธารเหรอ?”“เฮ้ย! ใช่เหรอ?”“โอ้มายก๊อด!”“ทำไมไม่เหมือน”“ใช่จริงเหรอ?”ธาราเดินผ่านกลุ่ม
และจากนั้นไม่นานพ่อเลี้ยงสายชลก็ฟื้น แถมร่างกายยังปกติดีทุกอย่างเพียงต้องพักฟื้นต่ออีกสักหน่อยกว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ ทำเอาทั้งธาราและแม่เลี้ยงนาราอดโล่งใจไม่ได้“ฝากดูแลพ่อด้วยนะลูก เดี๋ยวแม่จัดการที่ไร่เสร็จจะรีบกลับมา”“ให้หนูไปดีไหมคะ แม่จะได้ดูแลพ่อ”“ลูกแหละอยู่ ยังไงลูกก็เป็นหมอ เผื่อจะได้ช่วยดูแลคนไข้คนอื่นถ้ามีเหตุฉุกเฉินจริงๆเข้ามาด้วย”หลังจากพ่อเลี้ยงสายชลฟื้นและดูท่าจะไม่มีอาการแทรกซ้อนใดใด แม่เลี้ยงนาราก็เลยขอกลับไปดูงานในไร่เมื่อร่วมเดือนแล้วที่ทิ้งมา ถึงแม้จะมีผู้จัดการคอยดูแลให้ แต่ก็ยังเกิดปัญหาอยู่ดี“ทำไมพึ่งมารายงานฉัน ส่งคนไปคอยดูแลก่อนจะเกิดเรื่องขึ้น”“ครับ...”
“อ่าว ลม มาถึงตั้งแต่ตอนไหน...แล้วนี่...”ทางด้านแม่เลี้ยงนาราที่พึ่งเดินเข้ามาในห้องพักฟื้นของสามีเอ่ยทักขึ้นอย่างนึกแปลกใจที่วารีนั่งอยู่ในห้องแถมมีชายหนุ่มหน้าตาดีอีกคนนั่งอยู่ไม่ไกล เมื่ออันที่จริงแล้วว่ารีคิดจะกลับบ้านก่อนแต่เป็นห่วงธาราจนเดินกลับมารอที่ห้องพักฟื้นเหมือนเดิม“สวัสดีครับ ผมเทวา เพื่อนของธารครับ”เทวารีบลุกขึ้นแนะนำตัวพร้อมรอยยิ้มอันแสนมีเสน่ห์จนแม่เลี้ยงนาราต้องยิ้มตอบอย่างนึกเอ็นดู“คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ หมอที่ผ่าตัดให้กับคุณพ่อน่ะเป็นหมอชื่อดังระดับโลก เขาไม่เคยผ่าตัดผิดพลาดเลยสักครั้ง”วารีรีบบอก เมื่อไม่อยากให้แม่เลี้ยงนารากังวล“จ๊ะ แม่รู้แล้ว แล้วนี่กินอะไรกันมารึยัง”“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
ส่วนทางด้านธารา ตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัดเป็นที่สุด พ่อเลี้ยงดนัยที่กำลังแนะนำและพรีเซนต์ตัวเองกับมารดาของเธอโดยไม่รู้กาลเทศะเมื่อบิดาเธอก็ยังนอนป่วยอยู่แท้ๆ“เฮ้อ กลับไปสักทีนะ ผู้ชายอะไรพูดเป็นต่อยหอยเลย”แม่เลี้ยงนาราอดที่จะเสียมารยาทไม่ได้เมื่อสุดท้ายก็สามารถไล่พ่อเลี้ยงดนัยกลับไปได้สักที หลังจากทนนั่งฟังเขาเล่าประสบการณ์ชีวิตตั้งแต่เด็กจนโตมาเป็นชั่วโมงๆ“ขอโทษนะคะ พอดีเขาบอกอยากมาเยี่ยมพ่อ...แล้วคุณหมอคนนั้น...เขาว่ายังไงบ้างคะ?”ธาราที่พึ่งหาคำพูดของตัวเองเจอถามขึ้น“เขาก็บอกว่าอาการคุณพ่อน่ะพร้อมผ่าตัด เขาเข้ามาเช็คดูโน่นนี่นั่นหลายอย่างเลยล่ะ เขาดูเก่งมากเลยนะลูก...แต่ว่าดูเงียบๆ แต่ไม่เคยเจอหมอคนไหนหล่อขนาดนี้มาก่อนเลยนะ แม่น่ะถึงกับหัวใจเต้นแรงเลยตอนเขาเดินเข้ามาหา”แม่เลี้
“คะ? เขา...เขาตกลงจะผ่าตัดให้เหรอคะ...”“ใช่แล้ว เขาพึ่งตอบตกลงมา และอีกอย่างเขาต้องการผ่าตัดที่นี่เลย ตอนนี้ผมกำลังให้คนเตรียมห้องผ่าตัดอยู่ ส่วนเรื่องที่คุณขอลา 2 เดือน ผมให้ได้แค่ เดือนเดียว ไปจัดการงานที่เหลือให้เรียบร้อยแล้วค่อยลงวันลามา”“ขอบคุณนะคะผู้อำนวยการ...แล้ววันผ่าตัด...”“พรุ่งนี้เช้า”“คะ? เอ่อ ค่ะ...”ธาราที่ถูกเรียกมาเพื่อแจ้งเรื่องการผ่าตัดแทบไม่อยากเชื่อว่าเขาจะตอบตกลง เมื่อเธอรู้ดีว่าถ้าเขาเห็นนามสกุลของบิดาเธอเขาต้องจำได้อย่างแน่นอนว่าเป็นนามสกุลเดียวกันกับเธอหรือเขาจำมันไม่ได้…ไม่มีทาง เขาต้องการอะไรกันแน่...ธาราเอาแต่คิดหาเหตุผลที่เขายอมรักษาให้กับบิดาของเธอ เมื่อมันดูไม่สมเหตุสมผลเ
“ทำไมติดต่อไม่ได้เนี่ย หรือกำลังสนุก ยัยเพื่อนบ้า จะโทรมาบอกหน่อยก็ไม่ได้ว่าถึงแล้ว เฮ้อ...”ทางด้านธารา ที่เดินออกมานอกระเบียงห้องนอนแล้วพยายามโทรหาวารี แต่กลับไม่มีคนรับสายเธอเลยไม่คิดเซ้าซี้ ก่อนจะมองออกไปยังความมืดมิดของไร่ชา ที่ตอนนี้มองไม่เห็นอะไรนอกจากดาวบนฟ้าที่ส่องสวางอยู่“เขาจะเป็นยังบ้างนะ...คงสบายดีและคงมีความสุขอยู่ที่ไหนสักที่...”ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา คำถามที่ผุดขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าคือคำถามนี้ ซึ่งเป็นคำถามที่เธอเองก็ไม่เคยรู้คำตอบติ๊ง...‘นอนรึยังครับคุณหมอ’ติ๊ง...‘คิดถึงคุณหมอจังครับ’ติ๊ง...‘รีบกลับมานะครับ ผมทนคิดถึงไม่ไหวแล้ว’ติ๊ง...‘ฝันดีครับ หวังว่าสักวันคุณหมอจะรับรักผมบ้าง’ขณะยืนคิดถึงอีกคน ข้อความในโทรศัพท์ก็ถูกส่งเข้ามา ธาราเปิดดู และก็พบว่าเป็นข้อความจากคนไข้ของเธอ ซึ่งเขามารักษาอาการแขนหัก ทั้งๆที่เธอรักษาเขาจนหายดีแล้วแต่เขาก็เอาแต่มาหาหมอแล้วบอกเจ็บตรงนั้นบ้าง ปวดตรงโน้นบ้าง จนสุดท้ายก็ยอมสารภาพกับเธอว่าเขานั้นแอบชอบเธอ จากนั้นเขาก็เริ่มส่งข้อความมาหาบ้าง โทรมาบ้าง ขนาดเธอบอกปฏิเสธไป เขาก็ยังคงพยายามจีบจนเธอต้องยอมให้เขาได้ทำตามใจ เมื่อบางครั้งมันก็ท
“นี่เป็นรายชื่อและรายละเอียดของเคสผ่าตัดที่ถูกส่งมาให้ครับ ส่วนนี่เป็นเอกสารเกี่ยวกับโรงพยาบาลทั้งหมด ทั้งที่นี่และตามสาขา ท่านรอง...”“อย่าเรียกฉันแบนั้น แล้วเรื่องท่านประธานล่ะ เป็นยังไงบ้าง”“พึ่งหลับไปครับ เห็นว่าถามถึง เอ่อ คุณโรมด้วย”“อืม วันนี้คุณกลับไปเถอะ ส่วนพรุ่งนี้ผมจะวางรายชื่อคนที่ผมจะผ่าตัดให้เอาไว้บนโต๊ะ ผมอาจเข้างานช้าหน่อย ถ้ามีอะไรฉุกเฉินก็ส่งทิ้งไว้ทางเมล์ได้เลย”โรมันบอกออกมาทั้งๆที่กำลังเปิดอ่านเอกสารที่นนนน์เอามาให้ ซึ่งแต่ละเคสก็มีแต่ด่วนๆทั้งนั้น ส่วนนนนน์ พอโรมันอนุญาตให้กลับ เขาก็เอ่ยลาแล้วเดินกลับออกจากห้องทำงานของเจ้านายหนุ่มไปส่วนคนที่ยังอยู่ในห้อง หลังจากวันนี้ไปเขาคงต้องทำงานอย่างหนัก เพราะพอแถลงข่าวเรื่องการย้ายมาทำงานที่โรงพยาบาลนี้ พวกคนไข้ทั้งในและต่างประเทศก็ขอยื่นเอกสารเข้ามารักษาตัวที่
“ดูก็รู้ว่าเธอสบายดี หึหึ ก็นะ บอกเลิก หายตัวไป แล้วไปมีคนใหม่...นี่สินะที่เธอทำกับฉันน่ะ”ทางด้านวารี พอหันหลังกลับเพื่อที่จะเดินเข้าไปในห้องอาหารจีน เธอถึงกับต้องตกใจยืนแข็งเป็นหิน เมื่อคนที่เธอพยายามหนีมาโดยตลอดกำลังยืนมองมาที่เธอนิ่ง“เทพ...นะ...นายมาทำอะไรที่นี่...”เธอถึงกับพูดไม่ออก เมื่อไม่รู้จะเริ่มต้นพูดกับเขายังไงดี“อยากรู้ไปทำไม? เราไม่ได้เป็นอะไรกัน คงไม่จำเป็นต้องบอก”เทวาเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับจ้องมองวารีอย่างโกรธเคือง เธอทิ้งเขาไปอย่างไร้เหตุผล การบอกเลิกทางข้อความทำให้เขาเหมือนคนบ้าที่ไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง กว่าจะกลับมาตั้งหลักได้เขาก็เสียเวลาไปหลายเดือน“งั้น...ฉันขอตัว”หมับ!“ว๊าย! ปล่อยนะ จะ
และการผ่าตัดของคุณดาวิชย์ก็ผ่านไปด้วยดี ทางโรงพยาบาลได้จัดแถลงข่าวใหญ่โตถึงการกลับมาของว่าที่ท่านประธานคนใหม่พ่วงตำแหน่งหมอศัลยกรรมระบบประสาทและทรวงอกผู้โด่งดังของโรงพยาบาล ทั้งๆที่โรมันบอกว่ายังไม่อยากให้พูดเรื่องนั้นแต่ด้วยเป็นคำสั่งก่อนเข้าผ่าตัดของคุณดาวิชย์ทำให้ไม่มีใครกล้าขัด จากนั้นโรมันก็เป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง มีการขุดคุ้นเรื่องราวของเขาออกมาตีแผ่ ซึ่งยิ่งทำให้โรมันเป็นที่สนใจอย่างหนัก“ทำไมต้องทำให้เป็นข่าวใหญ่โตแบบนั้น ผมบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่ต้องการ”“เป็นคำสั่งของท่านประธานน่ะครับ ส่วนนี่คือนนนน์จะมาเป็นเลขาและผู้ช่วยของคุณโรม ถ้าต้องการอะไรก็บอกเขาได้เลย”พอแถลงการณ์ทุกอย่างเสร็จ คุณนครก็ขอตัวกลับไปดูแลคุณดาวิชย์ที่นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องพักผู้ป่วยวีไอพี ส่วนโรมันก็หันไปมองนนนน์ ที่เขาจำได้ว่าเคยเจอกันแล้วก่อนหน้านี้“ทำไมไม่บอกว่านายจะมาทำงานกับฉันล่ะ”เขาถามขึ้น“ผมรอให้ท่านประธานเป็นคนบอกครับ”นนนน์อดตื่นเต้นไม่ได้ เมื่อเขารอเวลานี้มานานแล้ว เขาเฝ้าเรียนรู้และศึกษาเกี่ยวกับโรมันมาตลอด 5 ปี และรู้ด้วยว่าเจ้านายคนใหม่ของเขานั้นทั้งเก่งทั้งมีความสารถอย่างหาตัวเทียบยา
“ห๊ะ! แก...แกบอกว่าไอ้โรมมันกลับมาแล้วอย่างนั้นเหรอ?”“อืม มีคนเห็นมันที่โรงพยาบาลของพ่อมันน่ะ”ศิวะพูดออกมาอย่างตกใจระคนตื่นเต้นเมื่อเทวาโทรมาบอกว่ามีคนเห็นโรมันที่โรงพยาบาล“เฮ้ย! มันยังไม่ตายจริงๆเว้ย ฮ่าฮ่า เดี๋ยวปิดคลินิกแล้วฉันจะไปหามัน แกจะไปด้วยไหม?”ศิวะบอกออกมาอย่างตื่นเต้นดีใจ เมื่อจะได้เจอโรมันอีกครั้ง“ไม่ล่ะ ไอ้เพื่อนนิสัยไม่ดีแบบมัน เลิกคบไปนานแล้ว”ต่างจากเทวา ที่ทำเป็นไม่สนใจ เมื่อยังโกรธโรมันที่อยู่ดีๆก็หายไปแบบนั้นอยู่“โธ่ งอนเหมือนเด็กไปได้ ฉันจะโทรไปชวนไอ้ราม แกไม่ไปก็...แล้วแต่”พูดจบศิวะก็กดวางสายไปทันที เพราะจะโทรไปบอกรามินทร์เรื่องที่พึ่งรู้มา ทำเอาเทวาถึงกับมองผ่านโทรศัพท์อย่างน้อยใจ เพราะอันที่จริงเขาก็ดีใจที่โรมันปรากฏตัวแต่ก็ยังคงโกรธเคืองอยู่“แล้วแกจะลากฉันมาด้วยทำไม ไม่รู้เหรอว่างานฉันยุ่งขนาดไหน”“เอาน่า เดี๋ยวฉันจ่ายค่าจ้างให้แกเอง มาสิเร็วเข้า”ตกเย็น ศิวะที่ไปลากรามินทร์มาจากโรงพยาบาลเพราะอยากมาเจอโรมัน จนคนที่งานยุ่งเอาแต่บ่นกระปอดกระแปดเพราะถูกบังคับให้มาด้วย“แล้วแกรู้เหรอว่ามันอยู่ที่ไหน?”“ไม่รู้ แต่มีคนบอกว่าเห็นมันที่นี่ ก็ถามคนที่นี่เอาสิวะ