ตั้งแต่ทำร้าน น้องพอสก็มีพี่เลี้ยงคอยวิ่งตาม ภานีจึงเต็มที่กับงานได้อย่างมีความสุข เธอมักจะพูดขอบคุณณภัทรตลอดเวลา“เลิกขอบคุณภัทรได้แล้วค่ะน้าภา ภัทรแค่ออกความคิดกับเงินเก็บไม่เท่าไหร่เอง แต่น้าภาน่ะ ดูแลร้านคนเดียวทุกอย่าง เหนื่อยกว่าภัทรเป็นไหนๆ”แต่ภานีก็ยังขอบคุณณภัทรไม่หยุดอยู่ดี “ถ้าหากน้าไม่ได้เจอภัทร คนขี้กลัวอย่างน้าก็คงไม่กล้าลุกขึ้นสู้แบบนี้ คงยังจมอยู่ในทะเลทุกข์ไม่หลุดพ้นเสียที น้าดีใจจริงๆ ที่โมมีเพื่อนแบบภัทรนะ”สาวน้อยหัวเราะแกล้งพูดหยอก “แต่โชคร้ายที่โมมีน้าชายอย่างน้าพลใช่มั้ยล่ะคะ”ภานีได้ยินอย่างนั้นก็ขมวดคิ้วนิดหนึ่งก่อนจะหลุดหัวเราะเสียงดัง เพราะเห็นด้วยอย่างแรงหากเป็นเมื่อหลายเดือนก่อนเธอคงไม่อาจหัวเราะได้แน่ แค่ได้ยินชื่อเขาเธอก็ปวดร้าวไปทั้งใจทว่ายามนี้ไม่ใช่ผู้ชายเห็นแก่ตัวชั่วร้ายคนนั้นไม่มีค่าอะไรแล้วทุกวันนี้พลวัตรมาง้อขอคืนดีพร้อมดอกไม้ช่อใหญ่ตลอด ขอเริ่มต้นจีบใหม่ทั้งๆ ที่มีลูกวิ่งได้แล้วแบบนี้เธอกลับรู้สึกไปอีกแบบ เธอเหมือนได้เป็นสาวอีกครั้ง ค่อยๆ เริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับผู้ชายคนเดิม แม้ใจไม่โกรธแล้วแต่ยังระแวงอยู่ดี สามีคนนี้ทำเธอเจ็บมากเกินไป
คุยกันไปอีกสักพักก็รู้สึกถึงบรรยากาศแบบแปลกๆ ระบายมากับอากาศทางโซนหน้าร้านณภัทรหันไปมองถึงได้รู้ว่ามีรถสปอตคันหรูมาจอดสองคัน ผู้ชายออร่ากระจายปรากฏกายออกจากรถคนละคันแล้วพากันเดินมาทางหน้าร้าน หนึ่งหล่อเข้มมาดอย่างกับหนุ่มนักธุรกิจไฟแรง อีกหนึ่งเป็นหนุ่มหล่อร้ายมาดคุณชายเย็นชาที่ตอนนี้ใกล้จะได้เป็นท่านประธานสุดเนี้ยบเต็มทีหล่อกระชากใจขนาดนั้น หากไม่ใช่ศรุตกับนิรัชจะเป็นใคร คอยดูเถอะ! อีกประเดี๋ยวลูกค้าสาวๆ คงแน่นร้านมากขึ้นกว่านี้“พวกเราลุกไปทำงานกันดีกว่าค่ะน้าภา”ภานีพยักหน้าเห็นด้วยรีบลุกขึ้นทันที เพราะเวลาที่พ่อหนุ่มสองคนนี้มา เธอกับลูกน้องในร้านรับออเดอร์แทบไม่ทัน บางวันถึงขั้นเซิ้งกันเลยทีเดียวช่วงนี้สองหนุ่มสุดหล่อใกล้จบแล้วจึงต้องฝึกงานข้างนอก ไหนจะต้องคร่ำเคร่งกับโปรเจคจบจึงไม่ค่อยเข้าไปมหาวิทยาลัย สถานที่แห่งการพบหน้าจึงเป็นร้านเบเกอรี่เท่านั้นศรุตบ่นกับนิรัชด้วยความกลัดกลุ้มขณะเดินมาด้วยกัน “โมจีบยากชะมัด ทำยังไงดีวะเพื่อน?”นิรัชตอบเสียงเย็น “ไม่ใช่ว่าเป็นแฟนกันแล้วเหรอ?”อีกฝ่ายถอนหายใจ “ฉันกับโมรินทำทีเป็นแฟนกันหวานชื่นแค่ต่อหน้าสาวน้อยสาวใหญ่ที่คอยตามตื้อฉันเท่าน
ตั้งแต่ณภัทรทำร้านเบเกอรี่ นิรัชจึงมีโอกาสใกล้ชิดเธอได้แบบสะดวกแนบเนียนมากขึ้นเพราะธรรมดาแล้ว ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์คือเวลาเรียน การที่จะได้ใกล้ชิดณภัทรจึงเป็นแค่ช่วงหลังเลิกเรียนเล็กๆ น้อยๆ ก่อนกลับเข้าบ้านเท่านั้น ส่วนเสาร์อาทิตย์ก็ต้องอยู่บ้านในสายตาผู้ใหญ่ รักษาระยะห่างพอควร ไม่มีเหตุผลอะไรต้องออกไปที่อื่นแต่พอณภัทรทำร้านเบเกอรี่ร่วมกับภานี เธอกับเขาจึงมีเหตุผลที่จะอยู่นอกบ้านหลังเลิกเรียนนานยิ่งขึ้น และเสาร์อาทิตย์ยังได้ออกจากบ้านมาขลุกที่ร้านเบเกอรี่ โดยที่ไม่ต้องหาเหตุพาเที่ยวอย่างยากลำบากเหมือนที่เคยทำและเพนท์เฮ้าส์ยังกลายเป็นสถานที่ประจำของสองคนวันนี้เป็นวันเสาร์ นิรัชกับณภัทรจึงออกจากบ้านมาอยู่ช่วยงานร้านเบเกอรี่ครึ่งวันช่วงเช้าส่วนช่วงบ่ายก็กลายร่างเป็นแฟนเต็มตัวที่เพ้นท์เฮ้าส์หญิงสาวถือโอกาสเข้าครัวทำตัวเสมือนศรีภรรยาให้สามี โดยการทำขนมเพื่อสุขภาพให้นิรัชกินช่วงบ่ายอย่างใส่ใจพิถีพิถัน ขนมที่ทำนอกจากจะอร่อย หน้าตายังดีมากเมื่อทำเสร็จณภัทรยังเก็บล้างเครื่องครัวอย่างสะอาดสอ้าน จัดวางอย่างมีระเบียบทุกกระเบียดนิ้วไปทุกซอกทุกมุม ไม่บอกก็รู้ว่าลูกสาวใคร“แม่สอนมาดีก็งี้?”นิ
ทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง นิรัชมักจะเผยนิสัยส่วนตัวอีกด้านหนึ่งออกมายามอยู่ต่อหน้าณภัทรแค่คนเดียวหญิงสาวจึงตั้งฉายาให้เขาว่าแมวเขื่องขี้อ้อนจะไม่ให้เธอตั้งฉายานี้ให้ผู้ชายตัวโตตรงหน้าได้ยังไง ในเมื่อเผลอไม่ได้เป็นนอนหนุนตัก เดี๋ยวหอม เดี๋ยวกอด คลอเคลียไม่ห่าง“ป้อนหน่อย”นิรัชพลิกศีรษะบนตักนุ่มสั่งให้คนตัวหอมหยิบผลไม้ในจานมาส่งที่ปากตน “เอามะละกอนะ ชิ้นที่ไม่สุกมากนัก”ณภัทรเอื้อมมือหยิบชิ้นที่เขาว่าส่งให้ถึงปากคนตัวโตทว่าอีกฝ่ายกลับมองเธอด้วยสายตาตัดพ้อ น้ำเสียงเว้าวอน“ไม่ป้อนแบบนี้สิครับ”นิรัชโหมดนี้ ทำคนใจระส่ำได้อย่างบ้าคลั่งเกินไปจริงๆ หญิงสาวถึงกับกะพริบตาปริบๆชายหนุ่มจึงยกนิ้วตนจิ้มที่กลีบปากนุ่มชื้นของเธอ ก่อนส่งเสียงนุ่มลึกออดอ้อนอย่างต่อเนื่อง“พี่เคยสอนไปแล้วไง”“อ้อ...”ณภัทรจึงส่งมะละกอใส่ปากตนแล้วก้มลงป้อนคนช่างอ้อนอย่างอ่อนโยนนุ่มนวลและเอาใจใส่ที่สุดของที่สุด“อร่อยมั้ย?”“อืม...”“เอาอีกไหม?”“เอาชิ้นนั้น”หญิงสาวจึงทำแบบเดิม ส่งผลไม้ชิ้นนั้นด้วยกลีบปากตนจนถึงปากอุ่นชื้นสีแดงจัดของอีกคนอย่างเชื่อฟังกว่าจะป้อนเสร็จทีละคำยังต้องคอยต้อนรับลิ้นร้อนที่ตวัดอย
ช่วงเวลาดีๆ ค่อยๆ คืบคลาน จะว่ายาวนานก็ยาวนานอยู่ ทว่าความสุขมักเดินทางรวดเร็วเสมอ จนกลายเป็นสั้นแสนสั้น เหมือนฝันแค่หนึ่งตื่นเท่านั้น ไม่รู้ทำไม คำว่าใกล้เรียนจบของนิรัช ทำณภัทรรู้สึกกังวลอยู่ในใจลึกๆ ตลอดเวลาเธอคิดว่าคงเป็นอาการใจหายของคนที่เคยไปเรียนด้วยกัน กลับบ้านพร้อมกันและเรื่องเหล่านั้น อาจไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว...ไม่กี่เดือนต่อมา…นิรัชเรียนจบแล้ว ขณะที่ณภัทรเพิ่งขึ้นปีสอง งานฉลองบัณฑิตใหม่ถูกจัดขึ้นที่โรงแรมในเครือปัญจรักษ์อย่างหรูหรายิ่งใหญ่ มีญาติสนิทมิตรสหายของเสี่ยวิชัยตบเท้ามาร่วมยินดีคับคั่งทั้งศรุตและเอมี่ยังจัดงานฉลองที่นี่เช่นกัน จึงเป็นการรวมบัณฑิตถึงสามคนในงานเดียวโดยครอบครัวของศรุตนั้นตั้งแต่รุ่นปู่ย่า รุ่นพ่อแม่ ล้วนเป็นเพื่อนสนิทกับเสี่ยวิชัย รวมถึงรุ่นลูกอย่างนิรัช ยังเป็นเพื่อนสนิทศรุต ธุรกิจยังร่วมหุ้นกันหลายอย่าง ดังนั้นมิตรสหายและเครือญาติจึงเป็นคนกันเองทั้งงานมีเพียงเอมี่ที่พ่อกับแม่อยู่ต่างประเทศ รอแค่เธอกลับไป จึงจะจัดงานให้ทางโน้น แต่ติดตรงที่เอมี่ยังไม่ยอมไป วิชัยจึงอาสาจัดงานให้พร้อมกันเลยในงานทั้งสถานที่และอาหารล้วนเป็นในส่วนของโรงแรม แต่ส
ทางฝั่งหนึ่ง ศรุตกำลังเบื่อหน่ายมากกับสาวสวยเอ็กซ์เซ็กส์จัดที่ตามมาตอแยไม่เลิกรา เธอคนนี้มีชื่อว่าแซนดี้ที่มีดีกรีเป็นถึงลูกสาวสุดรักสุดหวงของคุณหญิงพิไลวรรณกับคุณจอมพลเพื่อนคู่ค้ารายใหญ่ของพ่อเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว ตอนเขาเรียนอยู่ปีสาม เธอเรียนอยู่ปีสอง พ่อให้เขาไปดูตัวกับเธอ แต่แค่วันเดียวเท่านั้นเธอก็ตามมาขึ้นเตียงกับเขาถึงคอนโด ไวไฟใช้ได้ เขาก็ตอบสนองอย่างเร่าร้อนให้ผ่านพ้นไปตามประสานักล่า แต่ทว่าเธอเองกลับไม่ใช่เหยื่อเท่าที่เขารู้ แซนดี้คนนี้คบซ้อนกับหนุ่มนักเรียนนอกคนหนึ่ง คบกับนักธุรกิจหนุ่มอีกคนหนึ่ง ยังอุตส่าห์มานอนกับเขาที่เพิ่งดูตัวตอนนี้หนุ่มคนแรกนานๆ จะกลับมาสักที ส่วนคนที่สองธุรกิจของบริษัทกำลังย่ำแย่ เขาที่ยังอยู่ดีมีสุขและร่ำรวยเหมือนเดิมและไม่ได้บินออกนอกประเทศไปไหน จึงเป็นเป้าหมายหลักในการแก้ขัดอารมณ์เปลี่ยวอย่างช่วยไม่ได้ เธอกลับมาหาเขาอย่างจงใจ โดยใช้ค่ำคืนนี้ทำทีเป็นพบหน้ากันโดยบังเอิญในรอบหนึ่งปีกว่าๆ“ไม่เจอกันนาน ทำไมทำหน้าเหมือนไม่รู้จักกันล่ะคะ” แซนดี้เอียงคอเล่นหูเล่นตาหยอกเย้าเสียงหวาน “คืนนี้เราไปรำลึกเรื่องเก่ากันสักหน่อยมั้ยคะ พี่รุต”ศรุตมีสีหน้าเรียบเ
จิรัตน์สุดาพอรู้ประวัติของสาวสวยคนนี้มาบ้างเล็กน้อย เพราะหลังจากศรุตมาบอกตรงๆ ว่าคงไปด้วยกันไม่ได้ เธอจึงแอบสืบนิดหน่อย เผื่อว่าเจ้าลูกชายตัดสินใจผิดคิดปล่อยเพชรหลุดมือ แต่เมื่อสืบแล้วว่าเป็นยังไงก็เลยตัดสินใจวางเฉยเรื่องหมั้นหมาย ไม่ได้ปฏิเสธหรือตอบรับกลับไปไม่ใช่ว่าลูกชายของเธอดีเลิศประเสริฐศรีอะไร เพราะตัวเขาก็มั่วคั่วผู้หญิงไปทั่วเหมือนกัน เพียงแต่ศรุตไม่เคยคบซ้อน และคนที่ลูกชายได้นอนด้วยก็เน่าแฟะพอกันแต่สาวเจ้าเล่นเดินตามติดแบบนี้ การแสดงท่าทีรังเกียจคงไม่เหมาะ อีกทั้งคุณหญิงพิไลวรรณกับคุณจอมพลยืนอยู่อีกฝั่งไม่ไกล “แกจะให้แม่กีดกันหนูแซนดี้ต่อหน้าพ่อกับแม่เธอไม่ได้นะ ตารุต! คืนนี้คนเยอะแยะ แกไม่เห็นหรือไง?”จิรัตน์สุดากระซิบถามลูกชายเสียงเครียด “แกเห็นฉันเป็นนางยักษ์หรือไง?”เธอเป็นคนแข็งนอกอ่อนใน คนอื่นอาจไม่รู้ แต่ลูกชายคนนี้รู้ดีแน่นอน ยังจะให้ทำเรื่องลำบากใจ ใช้ได้ที่ไหน!เมื่อถูกผู้เป็นแม่ส่งค้อนมาให้ ศรุตจึงรีบกระซิบตอบ“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ แค่คุณแม่ช่วยการันตีแฟนผมให้หน่อย เดี๋ยวผมให้แฟนผมจัดการแซนดี้เอง”“แฟน?” ผู้เป็นแม่เลิกคิ้ว “แกมีแฟนแล้วเหรอ?”ศรุตเผยสีหน้าภูมิใจ “
จิรัตน์สุดาทำท่าตกใจ “อะไรกันตารุต!”ศรุตแอบยิ้มเจ้าเล่ห์ เขารีบดึงแขนตนออกจากมือแซนดี้แล้วเดินไปทางโมริน พาตัวอีกฝ่ายมาทันที“อีกแล้วเหรอพี่รุต?” โมรินถามขณะถูกศรุตจับมือเดินมาด้วยกันทางฝั่งหนึ่ง“ไหนว่าไม่มีแล้วไง? หลายเดือนมานี้ก็ไม่คั่วใคร โกหกนี่!”“ไม่มีจริงๆ คนนี้ตกค้างจากปีที่แล้ว”“ตกค้าง?” โมรินแทบหัวเราะ “คนนะไม่ใช่สารเคมี”“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง”หญิงสาวยังแซวขำๆ “คล้ายๆ มลภาวะเป็นพิษเทือกนั้น?”ศรุตหรี่ตามองคนอารมณ์ดี “ขำมากมั้ยโม?”โมรินหยุดยิ้ม “ถ้าผู้หญิงคนนั้นเป็นมลพิษ งั้นพี่รุตก็เป็นแก๊สพิษแหละ ทั้งฉีดทั้งพ่นความอันตรายใส่กันให้ตายไปข้าง”ศรุตเริ่มหน้าตึง “อยากให้พี่ตาย?”โมรินพยักหน้า “ผู้ชายเจ้าชู้ควรตายๆ ไปซะให้หมดโลก”“โม...” เสียงทุ้มต่ำติดจะเครียดมาก “พี่ก็ทำตัวดีขึ้นแล้วไง รอแค่โมยอมรับ”หญิงสาวเอียงหน้ากะพริบตามองอย่างไม่เข้าใจเลยสักนิด “ทำไมโมต้องยอมรับผู้ชายเจ้าชู้ด้วยล่ะ”สุดท้ายก่อนจะได้ไปเคลียร์กับแซนดี้ ศรุตจึงต้องเคลียร์กับโมรินก่อน “พี่ไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้นะโม ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยนอกใจใคร พี่แค่ใช้ชีวิตเต็มที่ในแบบของพี่ เมื่อถึงเวลาพี่ก็จะหยุดแค่แฟนพี่”ปร
บนเวทีมงคล พิธีกรชายกำลังส่งคำถามแก่คู่บ่าวสาวด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่ม“ตามธรรมเนียม ทั้งสองต้องบอกมาตามตรงว่าพบรักกันได้ยังไง เล่ามาเลยครับ”ข้างล่างต่างรอฟังอย่างตื่นเต้นกันใหญ่ มีบางคนแอบสงสัยว่าพวกเขาคงแพ้ความใกล้ชิดแหละ ประมาณน้ำมันกับไฟเจอกันใครจะคิดอย่างไรไม่ใช่ว่านิรัชกับณภัทรจะรับรู้ไม่ได้ ทว่าต่อให้เป็นเพราะเหตุนั้นแล้วยังไงล่ะเจ้าบ่าวรับไมค์ไปกรอกเสียงตอบก่อน “ผมแอบชอบภัทรตั้งแต่ตอนเธออยู่มัธยมต้น เธอเป็นรักแรกพบของผม ตั้งแต่วันนั้น เจ้าสาวของผมคือเธอคนเดียวครับ”และคำตอบตรงไปตรงมาของคนพูดน้อยเรียกเสียงกรีดร้องจากสาวๆ ทั้งงานเลยทีเดียว หลายคนนับนิ้วกันใหญ่ หลายปีเชียว ผู้ชายในงานยังยกนิ้วโป้งส่งให้ นายแน่มาก...ตอนนี้ณภัทรหน้าแดงก่ำไปหมด เขินจนตอบไม่ถูกแล้วค่ะพิธีกรให้เวลาเธอได้สะเทิ้นอายพอประมาณแล้วเริ่มถาม “แล้วเจ้าสาวล่ะครับ เริ่มรักเจ้าบ่าวตอนไหนเอ่ย?”หญิงสาวค่อยๆ ตอบเสียงสั่น “รู้ตัวว่ารักหมดใจเมื่อไม่นานมานี่ล่ะค่ะ ก่อนหน้านั้นแค่มึนๆ ไม่ค่อยเข้าใจ”เสียงหัวเราะดังครืน คำตอบของเจ้าสาวยียวนใช้ได้เจ้าบ่าวแซวเธอ “เพราะแบบนี้ไงถึงต้องรีบแต่งงานเร็วๆ กลัวเจ้
งานหมั้นถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายหรูหราที่บ้านปัญจรักษ์ในหนึ่งเดือนต่อมา มีเพียงญาติสนิทและมิตรสหายเท่านั้นที่ได้รับสิทธิ์ร่วมงานสำคัญครั้งนี้ ส่วนงานฉลองมงคลสมรสจะถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่โรงแรมในเครืออีกหนึ่งเดือนข้างหน้าทว่าระหว่างนั้นณภัทรกลับเริ่มมีความผิดปกติของร่างกาย เธอรู้สึกผะอืดผะอมขมคอปั่นป่วนมวนท้องในตอนลืมตาตื่นตอนเช้า หญิงสาวคลื่นไส้อาเจียนและไวต่อกลิ่นกับอาหารการกินทุกอย่างเธอนึกขึ้นได้ว่าหยุดกินยาคุมกำเนิดตอนที่ห่างกับนิรัช แต่แล้วพลันถูกเขาจู่โจมอย่างร้อนแรงในเพ้นท์เฮ้าส์วันนั้น ถุงยางอนามัยก็ไม่ได้ใส่ กว่าจะรู้ตัวว่าลืมป้องกันก็ไม่ทันแล้วสุดท้ายความจริงจึงกระจ่าง เนื่องจากผลการตรวจครรภ์ของณภัทรขึ้นสองขีดเต็มๆทั้งนิรัชและณภัทรถูกลินดาเรียกไปต่อว่าเสียยกใหญ่เรียกได้ว่าบ้านแทบแตกพวกเขาได้แต่ก้มหน้าก้มตายอมรับผิดอย่างจำนนคนเป็นแม่โกรธจัดไม่ใช่เพราะอยากทำเหมือนที่บ้านเดิมหรืออะไร แค่รู้สึกผิดหวังที่ลูกสาวไม่ยอมบอกความจริงเท่านั้น“ภัทรไม่ควรโกหกแม่นะ ลูกคิดว่าแม่จะตัดหางปล่อยวัดเหมือนบ้านคุณตาคุณยายหรืออย่างไร? แม่ไม่สิ้นคิดทำร้ายลูกสาวสุดที่รักของแม่ขนา
ย้อนกลับไปเมื่อสองปีที่แล้ว ก่อนนิรัชเดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกา เขาคุยกับวิชัยตามตรงที่สนามบินโดยไม่ปิดบัง‘ผมกับภัทรรักกันเกินพี่น้อง เราสองคนจะแต่งงานทันทีเมื่อเรียนจบ’นั่นจึงทำให้วิชัยถึงขั้นไม่พูดไม่จา ยามเดินกลับมาสมทบกับลินดาและณภัทรที่ร้านอาหาร สีหน้าเขาเย็นชา ท่าทางเคร่งขรึม ครู่ใหญ่จึงยอมปริปาก“ตารัชไปแล้ว...ใจหายเหมือนกันนะ”ลินดารีบจับมือสามีมากุมเอาไว้ “เด็กๆ ต้องโตขึ้นค่ะ ตารัชจะเติบใหญ่โดยสมบูรณ์แล้วกลับมาดูแลปัญจรักษ์อย่างดีนะคะ”ชายวัยกลางคนพยักหน้า ตบเบาๆ ที่หลังมือภรรยา “อืม...ลูกๆ ของเรา พวกเขาโตแล้วจริงๆ”พวกเขาไม่ใช่แค่เด็กชายเด็กหญิงไร้เดียงสาอีกแล้ว... หลังจากนั้น วิชัยจึงค่อยๆ มอบหมายงานถึงขั้นมอบกิจการให้ณภัทรดูแลแบบเต็มตัว เพื่อฝึกเป็นสะใภ้หนึ่งเดียวแห่งปัญจรักษ์เพราะนั่นคือสินสอดทองหมั้น คือของขวัญรอวันแต่งงานของลูกชายกับลูกสาวณภัทรได้ฟังความจริงจากปากของนิรัชก็ได้แต่อึ้งส่วนปัญหาเรื่องผู้หญิงที่ชื่อชัญญ่า และห้องหนึ่งซึ่งพวกเขาอยู่ด้วยกัน ล้วนเป็นการเข้าใจผิดในห้องนั้นคือโซนวีไอพีให้กลุ่มที่นัดทำโปรเจกต์ร่วมกัน เจ้าของห้องคือแฟนต่างชาติของชัญญ่าณภ
ในขณะที่ณภัทรเปล่าเปลือยทั้งตัว นิรัชยังเหลือเสื้อด้านบน เขาหยัดกายขึ้นถอดมันออกไม่ไยดี เผยกล้ามตึงแน่นเรียงตัวงดงามเขาก้มหน้าลง บดจูบเธออีกครั้งและอีกครั้ง ลงลิ้นชิมรสหวานฉ่ำอย่างโหยหามาแรมปี ท่าทางร้อนรนและเก็บกดเต็มที่ เนินอกอวบนิ่มบดเบียดกล้ามลอนแข็งแกร่งแนบแน่นการขยับเสียดสีก่อเกิดความวาบหวิวสยิวซ่านในอีกครา ความพลุ่งพล่านเกิดขึ้นอีกคำรบ พวกเขายังคงไร้ซึ่งคำพูดใดต่อกันกระนั้นร่างกายกลับรู้ดีไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ นิรัชอุ้มณภัทรไปวางลงบนโซฟา เปลี่ยนสถานที่ร่วมกระสัน ปรับเปลี่ยนท่วงท่า เพิ่มความตื่นเต้นในลีลาแห่งรักใคร่คราวนี้เป็นสาวน้อยบ้างขึ้นคร่อมข้างบน อีกคนนั่งเอนกายพิงแผ่นหลังกับพนัก ปล่อยเธอย่ำยีคุมเกมส์ตามอัธยาศัยเสียงหอบกระเส่าของเขาดังอยู่ริมหู อกแกร่งสะท้านขึ้นลงใต้ร่างเธอณภัทรก้มหน้ากัดสันกรามอย่างแรง ทั้งประชดและหมั่นไส้ นิรัชเงยหน้าขึ้น หอมแก้มแดงฟอดใหญ่แววตาคมดุเต็มเปี่ยมไปด้วยความนัย ทำเอาคนถูกจ้องต้องสะเทิ้นอาย ขัดเขินโดยที่เขาไม่ต้องเอ่ยอะไรสักคำสะโพกกลมงามโยกเบาๆ แต่หน่วงหนึบตอดรัด เรียกเสียงสูดปากจากชายใต้ร่างได้ไม่ยาก เขาซุกซบใบหน้าลงบนเนินอกสล้าง ดูดกลื
นิรัชลงมือลงทัณฑ์รวดเร็ว ไม่ให้นักโทษสาวได้ตั้งตัวห้องครัวกลายเป็นสนามรักอันบ้าคลั่ง โต๊ะตัวยาวที่เดิมทีใช้กินอาหารยังกลายเป็นสถานที่เริงรักอันร้อนแรงตอนนี้ ณภัทรใจเต้นเร่าเหมือนจะตายให้ได้ ดวงตาหลับปี๋แน่นอนเธอตกใจ แต่ที่มากกว่านั้นคือกล้ามเนื้อในตัวเธอกำลังเต้นอย่างรุ่มร้อน ปวดตุบๆ ด้วยความถวิลหาผู้ชายตรงหน้าคือนิรัชไม่ผิดแน่ภายในกายเธอบีบรัด ทั้งเปียกทั้งพร้อมในเวลาอันรวดเร็ววูบแรกเธอรู้สึกน้อยใจจนเกือบจะท้อถอยถอดใจ ทว่าวูบต่อมาเธอกลับเอียงหน้าแนบเข้าหาสัมผัสของเขาตามสัญชาตญาณคนเราจะรู้สึกคิดถึงถวิลหาและรักใคร่หมดใจจนความผิดอะไรก็ลืมไปได้จนสิ้นในพริบตา แบบนี้เลยเหรอ?ท่ามกลางความรู้สึกสับสนมึนงงปนเป ณภัทรถูกนิรัชสั่นคลอนจิตใจโดยสมบูรณ์ ชายหนุ่มหญิงสาวคล้ายไฟเจอน้ำมัน เผาไหม้กลืนกินไม่ยั้ง ราวพายุหมุนพัดพาทุกสรรพสิ่งอย่างบ้าคลั่งนิรัชปลดเปลื้องกางเกงของตนอย่างรวดเร็ว หอบทุกความปรารถนาบรรจุลงบนความต้องการของร่างกายที่แข็งขึงตึงผงาดความเป็นชายสั่นระริกเพราะแข็งจัดเบียดเสียดแนบสนิทกับส่วนอ่อนไหวที่บัดนี้ฉ่ำเยิ้มพร้อมพรั่งกระทั่งสองร่างสอดผสานแนบแน่นถึงได้รู้ว่าพวกเขาตัวสั่น อ
แม้ปากจะบอกแบบนั้น แต่ทุกวันที่ผันผ่านก็ยังคงเลวร้ายในความรู้สึกอยู่มากโชคดีที่ณภัทรเป็นคนที่จัดการกับความรู้สึกตนเองได้เป็นอย่างดี หญิงสาวยิ่งรู้สึกว่าโชคดีเหลือเกินที่เธอเลือกเร้นรัก กักเก็บความสัมพันธ์ฉันแฟนกับนิรัชโดยไม่คิดเปิดเผยออกมาเผื่อที่ว่าถึงวันหนึ่งเรื่องของเธอกับเขามันเป็นไปไม่ได้ อะไรๆ จะได้ไม่เลวร้ายมากไปกว่านี้ผู้ชายน่ะ เวลาเปลี่ยนใจไปมีคนใหม่ พวกเขาจะสามารถมองหน้าผู้หญิงคนเก่าได้อย่างสบาย ทำทีเป็นไม่เคยมีอะไรต่อกันก็ยังได้ เพราะฉะนั้น เพื่อรักษาระดับความสัมพันธ์ฉันพี่น้องให้ครอบครัวไร้ปัญหา เธอก็จะต้องทำได้เช่นกันแต่ว่า...นั่นเฉพาะต่อหน้าคนอื่นเท่านั้นนะเวลาอยู่คนเดียว ณภัทรจะแอบร้องไห้บ้างอะไรบ้าง ตามประสาคนอกหักรักคุด รักผิดชีวิตสะดุด หยุดอยู่กับที่ไม่กล้าเดินหน้าคบใครต่อไปหลังจากเรียนจบปีสุดท้าย โมรินกับศรุตก็จับมือบินลัดฟ้า พี่เอมี่ก็ไปเป็นนางแบบอินเตอร์โดยมีคุณเควินคอยซับพอร์ตณภัทรจึงเหลือตัวคนเดียวโดยสมบูรณ์โคตรเหงา...เนื่องจากเรียนจบแล้ว ระหว่างรอรับปริญญา หญิงสาวจึงเข้าออฟฟิศทำงานเต็มตัว เต็มที่กับโครงการร่วมทุนสร้างกับคู่ค้า ตอนนี้เธอยัง
“น้าพลยอมโดยไม่กล้าขัดขืนเลยแหละ แต่เงื่อนไขคือต้องไปกับพี่รุต คุณแม่ของเขาถึงขนาดไปคุยกับน้าพลที่บ้าน ใช้อำนาจเจ้าของบริษัทเลยเชียว น้าพลก็เลยต้องยอม ส่วนค่าใช้จ่ายคุณแม่บอกว่าจะออกให้ทั้งหมด ถือเป็นสินสอดทองหมั้น”ณภัทรเลิกคิ้ว หญิงสาวรู้มาว่าศรุตตามจีบโมรินไม่เว้นวัน กระทั่งพาไปแนะนำตัวกับมารดาว่าเป็นแฟนแบบแนบเนียน หลังจากนั้นก็คอยไปรับไปส่งระหว่างบ้านกับมหาวิทยาลัยตลอด สองคนนี้ตกลงเป็นแฟนกันแล้ว หลังจากเรียนจบศรุตเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทของครอบครัว ไม่ได้ทำตัวล่องลอยไปวันๆ เหมือนแต่ก่อน เขาไม่ใช่ทายาทเพียงคนเดียวของครอบครัว ยังมีพี่ชายคนสำคัญรอสืบทอดกิจการอยู่แล้วทั้งคน จึงไม่จำเป็นต้องรีบไปเรียนต่อพร้อมนิรัช อีกทั้งชายหนุ่มยังต้องการรอโมรินเรียนจบแล้วไปต่างประเทศพร้อมกันณภัทรยิ้มขื่น เธอเองก็ควรให้นิรัชรอเหมือนกันใช่ไหม? แต่คิดไปคิดมา หากย้อนเวลากลับไปเธอจะทำอย่างนั้นได้จริงเหรอเสี่ยวิชัยมีนิรัชเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนแค่เพียงคนเดียว ตัวของเสี่ยวิชัยเองก็ไม่มีพี่น้อง บิดามารดาก็ไม่อยู่แล้ว หลังจากภรรยาคนเก่าเสียชีวิตเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เขาก็อยู่กับนิรัชแค่สองคนจนกระท
หญิงสาวก้มหน้าทำงาน พยายามไม่คิดมากอีกทว่าท้ายที่สุด เธอก็พ่ายแพ้ให้แก่หัวใจไม่รักดีของตัวเองเรียวนิ้วเปิดโปรแกรมเฟสไทม์ ทำใจดีสู้เสือโทรออกไป นานครู่ใหญ่จนเกือบจะถอดใจ ในที่สุดปลายสายก็กดรับภาพของคนคุ้นเคยสุดแสนจะคิดถึงก็ปรากฏ “ว่าไงภัทร?”หญิงสาวกะพริบตา มือบีบโทรศัพท์แน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอพยายามข่มใจไม่คิดมากกับคำถามชวนคิดมากแบบนี้“ก็ไม่ว่าไง พี่รัชทำอะไรอยู่เหรอ?”“ช่วงนี้พี่กำลังยุ่งมากเลยภัทร ไม่ว่างโทรหาเลย”คนฟังมุ่นคิ้ว เธอก็ยุ่งเหมือนกันนี่นา...หญิงสาวกำลังจะเอ่ยปากบอกไปตามตรงว่าเธอเองก็ยุ่งเหมือนกันไง ทำไมยังโทรหาเขาได้ เสียงหวานหนึ่งพลันเอ่ยแทรก“รัช...ไปกันเถอะ”เสียงของผู้หญิงไม่ผิดแน่ ณภัทรยังเห็นภาพเธอจากในโทรศัพท์ด้วย ผู้หญิงคนนั้นคือชัญญ่า...อดีตพี่รหัสของณภัทรนั่นเอง“อ้าว! น้องภัทรเหรอ? สวัสดีจ๊ะ” แค่นั้น ชัญญ่าทักทายเพียงแค่นั้น ก่อนหันไปทางนิรัช “รัช...เราไปกันเถอะ”“อืม...แค่นี้ก่อนนะภัทร”ปลายสายตัดไป ณภัทรได้แต่อึ้ง เธอเห็นภาพที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ที่นั่นคือห้องสี่เหลี่ยมห้องหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ห้องเรียนแน่นอน...ธุรกิจเบเกอรี่ที่ณภัทรร่วมหุ้นกับภานียังคงไ
ระยะเวลาที่ห่างกัน จากหนึ่งวันเป็นหนึ่งเดือน จากนั้นก็เลื่อนเป็นหนึ่งปีสองปีตามลำดับ ณภัทรยังคงคิดถึงนิรัชเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเริ่มเคยชินรถซุปเปอร์คาร์สีเหลืองสดแซ่บจี๊ดวนเข้ามาจอดด้านหน้าของภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง ประตูเปิดออกโดยบริกรที่มาคอยให้บริการ สาวสวยดูดีในมาดนักธุรกิจรุ่นใหม่ค่อยๆ ก้าวเท้าลงมา เธอสวมสูทสไตล์แฟชั่นล้ำสมัย ซึ่งเป็นการรังสรรค์เสื้อผ้าอันโดดเด่นที่มีส่วนช่วยให้เกิดความประทับใจต่อผู้ติดต่อทางธุรกิจ และยังสะท้อนทัศนคติไร้ขีดจำกัดให้กับผู้หญิงยุคนี้ที่บทบาททางสังคมเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจนแตกต่างจากในอดีตเธอคือณภัทร ผู้สลัดลุคนักศึกษาสาววัยใสกลายเป็นสาวสวยมั่นใจเต็มวัย แต่งหน้าทาปากเข้มขึ้นจนมองอายุจริงไม่ออก เสื้อผ้าหน้าผมล้วนได้โมรินช่วยดีไซน์และจัดการให้วันนี้เธอต้องมาเจรจาธุรกิจแทนวิชัยสาเหตุเป็นเพราะอีกฝ่ายออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อนเพลินเกินไปหน่อย กระทั่งเอวเคล็ดกระดูกเคลื่อนเล็กน้อยจนต้องแอดมิทโรงพยาบาล ในขณะที่ลินดาป่วยเข้าโรงพยาบาลไปแล้วก่อนหน้าณภัทรรู้ดีว่ามารดาของตนสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เนื่องจากต้องตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ตอนอายุน้อยอีกทั้งยังตรากตร