ร้านเบเกอรี่นี้ยังได้ออเดอร์หลักจากร้านอาหารของแม่และโรงแรมของพ่อเลี้ยงเป็นหลักด้วย
ตั้งแต่เช้าเปิดร้านจนค่ำปิดร้านจะเป็นภานีที่คุมควบดูแลร้านเองทั้งหมด ยังต้องเข้าคอร์สเรียนเสริมทำเค้กกับเบเกอรี่แบบคลอบคลุมทั้งแบบคลาสสิคและร่วมสมัย อแดปใช้กับสูตรขนมไทย
จนตอนนี้มีเมนูใหม่ไม่ซ้ำใครเยอะมาก อย่างล่าสุดยังออกเมนูเค้กมะพร้าวกะทิสดบลูเบอร์รี่ ทาร์ตอาลัวทับทิมกรอบสามสี คลาฟูตีมะม่วงใบเตย แพนเค้กนมสดมะพร้าวอ่อน
ยังมีนิรัชกับศรุตด้วยที่ช่วยร่วมหุ้น ทว่าพวกเขาไม่เคยช่วยงานอะไรเลย มีแต่ไปนั่งหล่อล่อลวงสาวน้อยสาวใหญ่เข้าร้าน หรือไม่ก็พาเพื่อนๆ ไปนั่งดื่มกาแฟกินขนมอย่างสำราญจนร้านแน่น
เรียกได้ว่าธุรกิจนี้ที่ณภัทรทำร่วมกับภานีค่อนข้างรุ่งมีกำไรเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว
ช่วงนี้ภานีมีสีหน้าดีขึ้นมาก ส่วนน้องพอสก็ซุกซนมากขึ้น พูดได้หลายคำแล้วด้วย เด็กน้อยน่ารักน่าชังเป็นสีสันของร้านทุกวัน
มีเพียงพลวัตรเท่านั้นที่หน้าดำคร่ำเครียดอยู่คนเดียว เพราะตามง้อขอคืนดีภรรยาของตัวเองไม่สำเร็จสักที
ผู้ชายคนหนึ่งต่อให้ไม่ดีร้อยเปอร์เซ็นต์แต่หากมีความคิดสักหน่อยย่อมรู้ว่าควรเลือกภรรยาและลูก ไม่ใช่เมียน้อย ทว่าโอกาสแก้ตัวกลับไม่ได้สวยหรูหรือง่ายดาย ยังต้องอดทนเดินหน้าง้อต่อไป
ไม่ใช่ว่าภานียังโกรธหรืออะไร เพียงแต่เธอไม่มีเวลามานั่งคิดวกวนเวิ่นเว้อเรื่องของใคร เพราะยี่สิบสี่ชั่วโมงมีลูกชายตัวน้อยกับร้านเบเกอรี่ก็หมดไม่เหลือแล้ว
ยังมีโมรินที่มักจะวางมือจากการวาดหุ่นแฟชั่นที่ชอบหันมาวาดภาพหน้าตาขนมตามอารมณ์ศิลปินส่งมาไม่ขาด ให้ภานีได้ออกแบบขนมหน้าตาน่าทานตลอด สมองของเธอจึงไม่ว่างเลยจริงๆ
ส่วนกิ๊กเก่าอย่างน้ำหวาน พลวัตรบอกเลิกตั้งนานแล้ว ทว่าอีกฝ่ายไม่ยอมเลิกง่ายๆ ยังตามอ่อยตามยั่วฝ่ายชายในขณะที่ทำตัวเฟียสใส่ภานีไม่หยุดหย่อน ประมาณว่าดิ้นพล่านเมื่อรู้ว่าผู้ชายเขาไม่เอาแล้ว
ส่วนผู้ชายที่สมัยเป็นหนุ่มน้อยเอาแต่ทำงานไม่เคยเงยหน้า ทว่าพอใจแตกตอนแก่ก็เลยไม่สันทัดเรื่องแบบนี้อย่างพลวัตรก็ได้แต่ปวดเศียรเวียนเกล้าไปตามระเบียบ เกิดภาวะสลัดยากกว่าที่คิด
ครั้นเจอลูกตื้อของสาวเจ้าหนักเข้า เขาก็นัดเจอเพื่อเคลียร์ปัญหาให้เด็ดขาด แต่เมื่อเจอหน้าหวานๆ รอยยิ้มหยาดเยิ้มชวนหวามไหว ถูกมารยาลูกอ้อนผสมแอลกอฮอร์เข้าไป จึงกลายสภาพเป็นวัวเคยค้าม้าเคยขี่ จบลงที่เตียงนอนอย่างเร่าร้อนซะอย่างนั้น
แต่หลังจากศรุตตามจีบแค่สามวัน ให้กระเป๋าใบละแสนห้าแค่หนึ่งใบ น้ำหวานก็ป่าวประกาศทั่วคณะว่าเป็นแฟนกับศรุตแล้ว ถึงขั้นหมั้นหมายกันเรียบร้อย พร้อมแต่งทุกเวลา
เธอไม่สนใจพลวัตรอีกเลย
ทั้งๆ ที่ศรุตแค่จับมือ ยังไม่ถึงขั้นจูบด้วยซ้ำ
เอาจริงๆ แม้แต่นิรัชก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคราวนี้ไอ้เสือหนุ่มตัวร้ายอย่างศรุตถึงไม่ขย้ำเหยื่อ ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้ผู้หญิงเข้าใจผิดว่าศรุตเป็นสุภาพบุรุษ เป็นผู้ชายที่ดีขั้นสุดไปเสียได้
แม้จะจีบติดเร็วกว่าที่คาดการณ์และเสียกระเป๋าแบรนด์หรูแค่ใบเดียว แต่ศรุตก็กุมขมับอย่างกลัดกลุ้ม พร้อมเหตุผลว่า
“ไม่รู้ว่าช่วงนี้เป็นอะไร แค่นึกถึงใบหน้าเกรี้ยวกราดของโม ไอ้นั่นก็ไม่ค่อยแข็งดั่งใจ แถมเรือของฉันก็ล่มตั้งแต่ยังไม่ทันแล่น นึกรังเกียจไปหมด แค่จูบยังไม่อยาก กามตายด้านฉับพลันทุกที”
นิรัชได้ฟังก็นึกขำแต่ก็พอเข้าใจเพื่อนขึ้นมาบ้าง เนื่องจากเขาเองก็เป็น ถ้าไม่ใช่ภัทร ใต้กางเกงของเขาก็ไม่แข็งเหมือนกัน
สาวน้อยร้อนเร็วเข้ากันได้ดีกับเขาที่ใครๆ ก็บอกว่าเย็นชา
ณภัทรต้องคู่กับนิรัชเท่านั้น
เพราะน้ำหวานมีศรุตหนุ่มหล่อหุ่นแน่นพ่อรวยโปรไฟล์เลิศเข้ามาจีบ ทำให้พลวัตรได้ปลดแอกจากน้ำหวานอย่างแท้จริงทว่ากลับเดือดร้อนถึงโมรินที่ต้องทำทีหึงหวงช่วงชิงศรุตกับน้ำหวานอย่างออกหน้าออกตาด้วยค่าจ้างแสนแพงถึงสองแสนบาทคนที่จ้างก็ไม่ใช่ใคร เขาคือศรุตนั่นแหละเรื่องไร้สาระอย่างการใช้กำลังไม่ต้องใช้สมองแบบนี้โมรินก็ถนัดอยู่หรอก แต่การต้องแย่งชิงผู้ชายเจ้าชู้อย่างศรุตก็ออกจะเป็นการเสียมือไปสักหน่อย แต่ไม่เป็นไร เพื่อทุนการศึกษาสองแสนโมรินย่อมจัดให้!แน่นอนว่าการแย่งศรุตจากน้ำหวานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เพราะน้ำหวานที่มีชนักติดหลังเรื่องพลวัตรย่อมไม่กล้าตอแยกับจอมวายร้ายอย่างโมรินอยู่แล้ว หากแต่หวยกลับไปลงที่ณภัทรแทนเพราะกลุ่มของน้ำหวานโดยมีแอมและมะนาวอีกสองคน ไม่อาจเล่นงานโมรินได้ดังใจ เนื่องจากเรียนคนละคณะและยังรู้ซึ้งถึงฤทธิ์เดชอีกฝ่ายว่าร้ายกาจเกรี้ยวกราดขนาดไหน พวกเธอจึงหันไปเล่นงานเพื่อนสนิทของโมรินอย่างณภัทรผู้น่ารักเรียบร้อยแทนเริ่มต้นจากพูดจาแขวะในคลาสเรียน เดินปัดแข้งปัดขา หาเรื่องกลั่นแกล้งต่างๆ นานาให้อับอายไร้ความสุขเวลาเข้าเรียน ต่อมา...ข่าวเรื่องพี่น้องตามกฎหมายกินกันเองโดยไม่
ตั้งแต่ทำร้าน น้องพอสก็มีพี่เลี้ยงคอยวิ่งตาม ภานีจึงเต็มที่กับงานได้อย่างมีความสุข เธอมักจะพูดขอบคุณณภัทรตลอดเวลา“เลิกขอบคุณภัทรได้แล้วค่ะน้าภา ภัทรแค่ออกความคิดกับเงินเก็บไม่เท่าไหร่เอง แต่น้าภาน่ะ ดูแลร้านคนเดียวทุกอย่าง เหนื่อยกว่าภัทรเป็นไหนๆ”แต่ภานีก็ยังขอบคุณณภัทรไม่หยุดอยู่ดี “ถ้าหากน้าไม่ได้เจอภัทร คนขี้กลัวอย่างน้าก็คงไม่กล้าลุกขึ้นสู้แบบนี้ คงยังจมอยู่ในทะเลทุกข์ไม่หลุดพ้นเสียที น้าดีใจจริงๆ ที่โมมีเพื่อนแบบภัทรนะ”สาวน้อยหัวเราะแกล้งพูดหยอก “แต่โชคร้ายที่โมมีน้าชายอย่างน้าพลใช่มั้ยล่ะคะ”ภานีได้ยินอย่างนั้นก็ขมวดคิ้วนิดหนึ่งก่อนจะหลุดหัวเราะเสียงดัง เพราะเห็นด้วยอย่างแรงหากเป็นเมื่อหลายเดือนก่อนเธอคงไม่อาจหัวเราะได้แน่ แค่ได้ยินชื่อเขาเธอก็ปวดร้าวไปทั้งใจทว่ายามนี้ไม่ใช่ผู้ชายเห็นแก่ตัวชั่วร้ายคนนั้นไม่มีค่าอะไรแล้วทุกวันนี้พลวัตรมาง้อขอคืนดีพร้อมดอกไม้ช่อใหญ่ตลอด ขอเริ่มต้นจีบใหม่ทั้งๆ ที่มีลูกวิ่งได้แล้วแบบนี้เธอกลับรู้สึกไปอีกแบบ เธอเหมือนได้เป็นสาวอีกครั้ง ค่อยๆ เริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับผู้ชายคนเดิม แม้ใจไม่โกรธแล้วแต่ยังระแวงอยู่ดี สามีคนนี้ทำเธอเจ็บมากเกินไป
คุยกันไปอีกสักพักก็รู้สึกถึงบรรยากาศแบบแปลกๆ ระบายมากับอากาศทางโซนหน้าร้านณภัทรหันไปมองถึงได้รู้ว่ามีรถสปอตคันหรูมาจอดสองคัน ผู้ชายออร่ากระจายปรากฏกายออกจากรถคนละคันแล้วพากันเดินมาทางหน้าร้าน หนึ่งหล่อเข้มมาดอย่างกับหนุ่มนักธุรกิจไฟแรง อีกหนึ่งเป็นหนุ่มหล่อร้ายมาดคุณชายเย็นชาที่ตอนนี้ใกล้จะได้เป็นท่านประธานสุดเนี้ยบเต็มทีหล่อกระชากใจขนาดนั้น หากไม่ใช่ศรุตกับนิรัชจะเป็นใคร คอยดูเถอะ! อีกประเดี๋ยวลูกค้าสาวๆ คงแน่นร้านมากขึ้นกว่านี้“พวกเราลุกไปทำงานกันดีกว่าค่ะน้าภา”ภานีพยักหน้าเห็นด้วยรีบลุกขึ้นทันที เพราะเวลาที่พ่อหนุ่มสองคนนี้มา เธอกับลูกน้องในร้านรับออเดอร์แทบไม่ทัน บางวันถึงขั้นเซิ้งกันเลยทีเดียวช่วงนี้สองหนุ่มสุดหล่อใกล้จบแล้วจึงต้องฝึกงานข้างนอก ไหนจะต้องคร่ำเคร่งกับโปรเจคจบจึงไม่ค่อยเข้าไปมหาวิทยาลัย สถานที่แห่งการพบหน้าจึงเป็นร้านเบเกอรี่เท่านั้นศรุตบ่นกับนิรัชด้วยความกลัดกลุ้มขณะเดินมาด้วยกัน “โมจีบยากชะมัด ทำยังไงดีวะเพื่อน?”นิรัชตอบเสียงเย็น “ไม่ใช่ว่าเป็นแฟนกันแล้วเหรอ?”อีกฝ่ายถอนหายใจ “ฉันกับโมรินทำทีเป็นแฟนกันหวานชื่นแค่ต่อหน้าสาวน้อยสาวใหญ่ที่คอยตามตื้อฉันเท่าน
ตั้งแต่ณภัทรทำร้านเบเกอรี่ นิรัชจึงมีโอกาสใกล้ชิดเธอได้แบบสะดวกแนบเนียนมากขึ้นเพราะธรรมดาแล้ว ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์คือเวลาเรียน การที่จะได้ใกล้ชิดณภัทรจึงเป็นแค่ช่วงหลังเลิกเรียนเล็กๆ น้อยๆ ก่อนกลับเข้าบ้านเท่านั้น ส่วนเสาร์อาทิตย์ก็ต้องอยู่บ้านในสายตาผู้ใหญ่ รักษาระยะห่างพอควร ไม่มีเหตุผลอะไรต้องออกไปที่อื่นแต่พอณภัทรทำร้านเบเกอรี่ร่วมกับภานี เธอกับเขาจึงมีเหตุผลที่จะอยู่นอกบ้านหลังเลิกเรียนนานยิ่งขึ้น และเสาร์อาทิตย์ยังได้ออกจากบ้านมาขลุกที่ร้านเบเกอรี่ โดยที่ไม่ต้องหาเหตุพาเที่ยวอย่างยากลำบากเหมือนที่เคยทำและเพนท์เฮ้าส์ยังกลายเป็นสถานที่ประจำของสองคนวันนี้เป็นวันเสาร์ นิรัชกับณภัทรจึงออกจากบ้านมาอยู่ช่วยงานร้านเบเกอรี่ครึ่งวันช่วงเช้าส่วนช่วงบ่ายก็กลายร่างเป็นแฟนเต็มตัวที่เพ้นท์เฮ้าส์หญิงสาวถือโอกาสเข้าครัวทำตัวเสมือนศรีภรรยาให้สามี โดยการทำขนมเพื่อสุขภาพให้นิรัชกินช่วงบ่ายอย่างใส่ใจพิถีพิถัน ขนมที่ทำนอกจากจะอร่อย หน้าตายังดีมากเมื่อทำเสร็จณภัทรยังเก็บล้างเครื่องครัวอย่างสะอาดสอ้าน จัดวางอย่างมีระเบียบทุกกระเบียดนิ้วไปทุกซอกทุกมุม ไม่บอกก็รู้ว่าลูกสาวใคร“แม่สอนมาดีก็งี้?”นิ
ทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง นิรัชมักจะเผยนิสัยส่วนตัวอีกด้านหนึ่งออกมายามอยู่ต่อหน้าณภัทรแค่คนเดียวหญิงสาวจึงตั้งฉายาให้เขาว่าแมวเขื่องขี้อ้อนจะไม่ให้เธอตั้งฉายานี้ให้ผู้ชายตัวโตตรงหน้าได้ยังไง ในเมื่อเผลอไม่ได้เป็นนอนหนุนตัก เดี๋ยวหอม เดี๋ยวกอด คลอเคลียไม่ห่าง“ป้อนหน่อย”นิรัชพลิกศีรษะบนตักนุ่มสั่งให้คนตัวหอมหยิบผลไม้ในจานมาส่งที่ปากตน “เอามะละกอนะ ชิ้นที่ไม่สุกมากนัก”ณภัทรเอื้อมมือหยิบชิ้นที่เขาว่าส่งให้ถึงปากคนตัวโตทว่าอีกฝ่ายกลับมองเธอด้วยสายตาตัดพ้อ น้ำเสียงเว้าวอน“ไม่ป้อนแบบนี้สิครับ”นิรัชโหมดนี้ ทำคนใจระส่ำได้อย่างบ้าคลั่งเกินไปจริงๆ หญิงสาวถึงกับกะพริบตาปริบๆชายหนุ่มจึงยกนิ้วตนจิ้มที่กลีบปากนุ่มชื้นของเธอ ก่อนส่งเสียงนุ่มลึกออดอ้อนอย่างต่อเนื่อง“พี่เคยสอนไปแล้วไง”“อ้อ...”ณภัทรจึงส่งมะละกอใส่ปากตนแล้วก้มลงป้อนคนช่างอ้อนอย่างอ่อนโยนนุ่มนวลและเอาใจใส่ที่สุดของที่สุด“อร่อยมั้ย?”“อืม...”“เอาอีกไหม?”“เอาชิ้นนั้น”หญิงสาวจึงทำแบบเดิม ส่งผลไม้ชิ้นนั้นด้วยกลีบปากตนจนถึงปากอุ่นชื้นสีแดงจัดของอีกคนอย่างเชื่อฟังกว่าจะป้อนเสร็จทีละคำยังต้องคอยต้อนรับลิ้นร้อนที่ตวัดอย
ช่วงเวลาดีๆ ค่อยๆ คืบคลาน จะว่ายาวนานก็ยาวนานอยู่ ทว่าความสุขมักเดินทางรวดเร็วเสมอ จนกลายเป็นสั้นแสนสั้น เหมือนฝันแค่หนึ่งตื่นเท่านั้น ไม่รู้ทำไม คำว่าใกล้เรียนจบของนิรัช ทำณภัทรรู้สึกกังวลอยู่ในใจลึกๆ ตลอดเวลาเธอคิดว่าคงเป็นอาการใจหายของคนที่เคยไปเรียนด้วยกัน กลับบ้านพร้อมกันและเรื่องเหล่านั้น อาจไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว...ไม่กี่เดือนต่อมา…นิรัชเรียนจบแล้ว ขณะที่ณภัทรเพิ่งขึ้นปีสอง งานฉลองบัณฑิตใหม่ถูกจัดขึ้นที่โรงแรมในเครือปัญจรักษ์อย่างหรูหรายิ่งใหญ่ มีญาติสนิทมิตรสหายของเสี่ยวิชัยตบเท้ามาร่วมยินดีคับคั่งทั้งศรุตและเอมี่ยังจัดงานฉลองที่นี่เช่นกัน จึงเป็นการรวมบัณฑิตถึงสามคนในงานเดียวโดยครอบครัวของศรุตนั้นตั้งแต่รุ่นปู่ย่า รุ่นพ่อแม่ ล้วนเป็นเพื่อนสนิทกับเสี่ยวิชัย รวมถึงรุ่นลูกอย่างนิรัช ยังเป็นเพื่อนสนิทศรุต ธุรกิจยังร่วมหุ้นกันหลายอย่าง ดังนั้นมิตรสหายและเครือญาติจึงเป็นคนกันเองทั้งงานมีเพียงเอมี่ที่พ่อกับแม่อยู่ต่างประเทศ รอแค่เธอกลับไป จึงจะจัดงานให้ทางโน้น แต่ติดตรงที่เอมี่ยังไม่ยอมไป วิชัยจึงอาสาจัดงานให้พร้อมกันเลยในงานทั้งสถานที่และอาหารล้วนเป็นในส่วนของโรงแรม แต่ส
ทางฝั่งหนึ่ง ศรุตกำลังเบื่อหน่ายมากกับสาวสวยเอ็กซ์เซ็กส์จัดที่ตามมาตอแยไม่เลิกรา เธอคนนี้มีชื่อว่าแซนดี้ที่มีดีกรีเป็นถึงลูกสาวสุดรักสุดหวงของคุณหญิงพิไลวรรณกับคุณจอมพลเพื่อนคู่ค้ารายใหญ่ของพ่อเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว ตอนเขาเรียนอยู่ปีสาม เธอเรียนอยู่ปีสอง พ่อให้เขาไปดูตัวกับเธอ แต่แค่วันเดียวเท่านั้นเธอก็ตามมาขึ้นเตียงกับเขาถึงคอนโด ไวไฟใช้ได้ เขาก็ตอบสนองอย่างเร่าร้อนให้ผ่านพ้นไปตามประสานักล่า แต่ทว่าเธอเองกลับไม่ใช่เหยื่อเท่าที่เขารู้ แซนดี้คนนี้คบซ้อนกับหนุ่มนักเรียนนอกคนหนึ่ง คบกับนักธุรกิจหนุ่มอีกคนหนึ่ง ยังอุตส่าห์มานอนกับเขาที่เพิ่งดูตัวตอนนี้หนุ่มคนแรกนานๆ จะกลับมาสักที ส่วนคนที่สองธุรกิจของบริษัทกำลังย่ำแย่ เขาที่ยังอยู่ดีมีสุขและร่ำรวยเหมือนเดิมและไม่ได้บินออกนอกประเทศไปไหน จึงเป็นเป้าหมายหลักในการแก้ขัดอารมณ์เปลี่ยวอย่างช่วยไม่ได้ เธอกลับมาหาเขาอย่างจงใจ โดยใช้ค่ำคืนนี้ทำทีเป็นพบหน้ากันโดยบังเอิญในรอบหนึ่งปีกว่าๆ“ไม่เจอกันนาน ทำไมทำหน้าเหมือนไม่รู้จักกันล่ะคะ” แซนดี้เอียงคอเล่นหูเล่นตาหยอกเย้าเสียงหวาน “คืนนี้เราไปรำลึกเรื่องเก่ากันสักหน่อยมั้ยคะ พี่รุต”ศรุตมีสีหน้าเรียบเ
จิรัตน์สุดาพอรู้ประวัติของสาวสวยคนนี้มาบ้างเล็กน้อย เพราะหลังจากศรุตมาบอกตรงๆ ว่าคงไปด้วยกันไม่ได้ เธอจึงแอบสืบนิดหน่อย เผื่อว่าเจ้าลูกชายตัดสินใจผิดคิดปล่อยเพชรหลุดมือ แต่เมื่อสืบแล้วว่าเป็นยังไงก็เลยตัดสินใจวางเฉยเรื่องหมั้นหมาย ไม่ได้ปฏิเสธหรือตอบรับกลับไปไม่ใช่ว่าลูกชายของเธอดีเลิศประเสริฐศรีอะไร เพราะตัวเขาก็มั่วคั่วผู้หญิงไปทั่วเหมือนกัน เพียงแต่ศรุตไม่เคยคบซ้อน และคนที่ลูกชายได้นอนด้วยก็เน่าแฟะพอกันแต่สาวเจ้าเล่นเดินตามติดแบบนี้ การแสดงท่าทีรังเกียจคงไม่เหมาะ อีกทั้งคุณหญิงพิไลวรรณกับคุณจอมพลยืนอยู่อีกฝั่งไม่ไกล “แกจะให้แม่กีดกันหนูแซนดี้ต่อหน้าพ่อกับแม่เธอไม่ได้นะ ตารุต! คืนนี้คนเยอะแยะ แกไม่เห็นหรือไง?”จิรัตน์สุดากระซิบถามลูกชายเสียงเครียด “แกเห็นฉันเป็นนางยักษ์หรือไง?”เธอเป็นคนแข็งนอกอ่อนใน คนอื่นอาจไม่รู้ แต่ลูกชายคนนี้รู้ดีแน่นอน ยังจะให้ทำเรื่องลำบากใจ ใช้ได้ที่ไหน!เมื่อถูกผู้เป็นแม่ส่งค้อนมาให้ ศรุตจึงรีบกระซิบตอบ“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ แค่คุณแม่ช่วยการันตีแฟนผมให้หน่อย เดี๋ยวผมให้แฟนผมจัดการแซนดี้เอง”“แฟน?” ผู้เป็นแม่เลิกคิ้ว “แกมีแฟนแล้วเหรอ?”ศรุตเผยสีหน้าภูมิใจ “
แม้ปากจะบอกแบบนั้น แต่ทุกวันที่ผันผ่านก็ยังคงเลวร้ายในความรู้สึกอยู่มากโชคดีที่ณภัทรเป็นคนที่จัดการกับความรู้สึกตนเองได้เป็นอย่างดี หญิงสาวยิ่งรู้สึกว่าโชคดีเหลือเกินที่เธอเลือกเร้นรัก กักเก็บความสัมพันธ์ฉันแฟนกับนิรัชโดยไม่คิดเปิดเผยออกมาเผื่อที่ว่าถึงวันหนึ่งเรื่องของเธอกับเขามันเป็นไปไม่ได้ อะไรๆ จะได้ไม่เลวร้ายมากไปกว่านี้ผู้ชายน่ะ เวลาเปลี่ยนใจไปมีคนใหม่ พวกเขาจะสามารถมองหน้าผู้หญิงคนเก่าได้อย่างสบาย ทำทีเป็นไม่เคยมีอะไรต่อกันก็ยังได้ เพราะฉะนั้น เพื่อรักษาระดับความสัมพันธ์ฉันพี่น้องให้ครอบครัวไร้ปัญหา เธอก็จะต้องทำได้เช่นกันแต่ว่า...นั่นเฉพาะต่อหน้าคนอื่นเท่านั้นนะเวลาอยู่คนเดียว ณภัทรจะแอบร้องไห้บ้างอะไรบ้าง ตามประสาคนอกหักรักคุด รักผิดชีวิตสะดุด หยุดอยู่กับที่ไม่กล้าเดินหน้าคบใครต่อไปหลังจากเรียนจบปีสุดท้าย โมรินกับศรุตก็จับมือบินลัดฟ้า พี่เอมี่ก็ไปเป็นนางแบบอินเตอร์โดยมีคุณเควินคอยซับพอร์ตณภัทรจึงเหลือตัวคนเดียวโดยสมบูรณ์โคตรเหงา...เนื่องจากเรียนจบแล้ว ระหว่างรอรับปริญญา หญิงสาวจึงเข้าออฟฟิศทำงานเต็มตัว เต็มที่กับโครงการร่วมทุนสร้างกับคู่ค้า ตอนนี้เธอยัง
“น้าพลยอมโดยไม่กล้าขัดขืนเลยแหละ แต่เงื่อนไขคือต้องไปกับพี่รุต คุณแม่ของเขาถึงขนาดไปคุยกับน้าพลที่บ้าน ใช้อำนาจเจ้าของบริษัทเลยเชียว น้าพลก็เลยต้องยอม ส่วนค่าใช้จ่ายคุณแม่บอกว่าจะออกให้ทั้งหมด ถือเป็นสินสอดทองหมั้น”ณภัทรเลิกคิ้ว หญิงสาวรู้มาว่าศรุตตามจีบโมรินไม่เว้นวัน กระทั่งพาไปแนะนำตัวกับมารดาว่าเป็นแฟนแบบแนบเนียน หลังจากนั้นก็คอยไปรับไปส่งระหว่างบ้านกับมหาวิทยาลัยตลอด สองคนนี้ตกลงเป็นแฟนกันแล้ว หลังจากเรียนจบศรุตเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทของครอบครัว ไม่ได้ทำตัวล่องลอยไปวันๆ เหมือนแต่ก่อน เขาไม่ใช่ทายาทเพียงคนเดียวของครอบครัว ยังมีพี่ชายคนสำคัญรอสืบทอดกิจการอยู่แล้วทั้งคน จึงไม่จำเป็นต้องรีบไปเรียนต่อพร้อมนิรัช อีกทั้งชายหนุ่มยังต้องการรอโมรินเรียนจบแล้วไปต่างประเทศพร้อมกันณภัทรยิ้มขื่น เธอเองก็ควรให้นิรัชรอเหมือนกันใช่ไหม? แต่คิดไปคิดมา หากย้อนเวลากลับไปเธอจะทำอย่างนั้นได้จริงเหรอเสี่ยวิชัยมีนิรัชเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนแค่เพียงคนเดียว ตัวของเสี่ยวิชัยเองก็ไม่มีพี่น้อง บิดามารดาก็ไม่อยู่แล้ว หลังจากภรรยาคนเก่าเสียชีวิตเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เขาก็อยู่กับนิรัชแค่สองคนจนกระท
หญิงสาวก้มหน้าทำงาน พยายามไม่คิดมากอีกทว่าท้ายที่สุด เธอก็พ่ายแพ้ให้แก่หัวใจไม่รักดีของตัวเองเรียวนิ้วเปิดโปรแกรมเฟสไทม์ ทำใจดีสู้เสือโทรออกไป นานครู่ใหญ่จนเกือบจะถอดใจ ในที่สุดปลายสายก็กดรับภาพของคนคุ้นเคยสุดแสนจะคิดถึงก็ปรากฏ “ว่าไงภัทร?”หญิงสาวกะพริบตา มือบีบโทรศัพท์แน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอพยายามข่มใจไม่คิดมากกับคำถามชวนคิดมากแบบนี้“ก็ไม่ว่าไง พี่รัชทำอะไรอยู่เหรอ?”“ช่วงนี้พี่กำลังยุ่งมากเลยภัทร ไม่ว่างโทรหาเลย”คนฟังมุ่นคิ้ว เธอก็ยุ่งเหมือนกันนี่นา...หญิงสาวกำลังจะเอ่ยปากบอกไปตามตรงว่าเธอเองก็ยุ่งเหมือนกันไง ทำไมยังโทรหาเขาได้ เสียงหวานหนึ่งพลันเอ่ยแทรก“รัช...ไปกันเถอะ”เสียงของผู้หญิงไม่ผิดแน่ ณภัทรยังเห็นภาพเธอจากในโทรศัพท์ด้วย ผู้หญิงคนนั้นคือชัญญ่า...อดีตพี่รหัสของณภัทรนั่นเอง“อ้าว! น้องภัทรเหรอ? สวัสดีจ๊ะ” แค่นั้น ชัญญ่าทักทายเพียงแค่นั้น ก่อนหันไปทางนิรัช “รัช...เราไปกันเถอะ”“อืม...แค่นี้ก่อนนะภัทร”ปลายสายตัดไป ณภัทรได้แต่อึ้ง เธอเห็นภาพที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ที่นั่นคือห้องสี่เหลี่ยมห้องหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ห้องเรียนแน่นอน...ธุรกิจเบเกอรี่ที่ณภัทรร่วมหุ้นกับภานียังคงไ
ระยะเวลาที่ห่างกัน จากหนึ่งวันเป็นหนึ่งเดือน จากนั้นก็เลื่อนเป็นหนึ่งปีสองปีตามลำดับ ณภัทรยังคงคิดถึงนิรัชเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเริ่มเคยชินรถซุปเปอร์คาร์สีเหลืองสดแซ่บจี๊ดวนเข้ามาจอดด้านหน้าของภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง ประตูเปิดออกโดยบริกรที่มาคอยให้บริการ สาวสวยดูดีในมาดนักธุรกิจรุ่นใหม่ค่อยๆ ก้าวเท้าลงมา เธอสวมสูทสไตล์แฟชั่นล้ำสมัย ซึ่งเป็นการรังสรรค์เสื้อผ้าอันโดดเด่นที่มีส่วนช่วยให้เกิดความประทับใจต่อผู้ติดต่อทางธุรกิจ และยังสะท้อนทัศนคติไร้ขีดจำกัดให้กับผู้หญิงยุคนี้ที่บทบาททางสังคมเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจนแตกต่างจากในอดีตเธอคือณภัทร ผู้สลัดลุคนักศึกษาสาววัยใสกลายเป็นสาวสวยมั่นใจเต็มวัย แต่งหน้าทาปากเข้มขึ้นจนมองอายุจริงไม่ออก เสื้อผ้าหน้าผมล้วนได้โมรินช่วยดีไซน์และจัดการให้วันนี้เธอต้องมาเจรจาธุรกิจแทนวิชัยสาเหตุเป็นเพราะอีกฝ่ายออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อนเพลินเกินไปหน่อย กระทั่งเอวเคล็ดกระดูกเคลื่อนเล็กน้อยจนต้องแอดมิทโรงพยาบาล ในขณะที่ลินดาป่วยเข้าโรงพยาบาลไปแล้วก่อนหน้าณภัทรรู้ดีว่ามารดาของตนสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เนื่องจากต้องตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ตอนอายุน้อยอีกทั้งยังตรากตร
หญิงสาวเต้นพองาม คลอกับเพลงที่เปิดอยู่ โดยที่ไม่รู้ว่ากำลังทำให้คนอีกฝั่งแทบคลั่งนิรัชขบกราม กอบกุมแก่นกายแน่น “ดี...แบบนี้ล่ะภัทร”เธอถามเสียงกระเส่า “พี่รัชไม่ต้องไปเรียนหรือไง?”“เดี๋ยวค่อยไป มโนว่าเอากับภัทรก่อน”หญิงสาวขำพรืด “บ้า”“พี่จะกล่อมภัทรให้นอนหลับสบายไง”ณภัทรยิ่งหน้าแดง และแน่นอนเธอยินยอม“ภัทร...”“หืม...”“นิ่งพิงหัวเตียง ถอดผ้า อ้าขา”“อืม...”ณภัทรถอดชุดนอนออกเผยหน้าอกอวบสวยเด้งดึ๋งโดดเด่น นิ้วเล็กเริ่มแตะแต้มน่องขาด้านใน แหวกขอบผ้าตัวบางจิ๋วออกช้าๆ“ภัทรเริ่มแล้วนะ”จบคำมือหนึ่งก็ค่อยๆ ขยำทรวงอกอิ่ม อีกมือเลื่อนลงต่ำ กรีดเรียวนิ้วกับเนินเนื้ออุ่นชื้น ค่อยๆ สอดใส่เข้าไป“คิดถึงพี่ ภัทร...” นิรัชสั่งเสียงทุ้มลึกณภัทรรับคำเสียงหวาน “อา...พี่รัช”ภาพของคนในจอคล้ายหลุดออกมาขยี้ขยำลูบคลำเธอ อุ้งปากร้อนๆ กำลังครอบครองยอดถัน ณภัทรสูดหายใจเข้าลึกยาว เมื่อความรู้สึกร้อนผ่าวจากส่วนสงวนชื้นแฉะกลางกายแล่นไปทั่วตัวตามปลายนิ้วที่เริ่มระรัว เธอรู้สึกเสียวนิรัชก็เช่นกัน เขารูดแก่นกายขึ้นลง สูดปากเบาๆ“อ้าขาอีกสิครับ”“อืม...พี่รัชอ่ะ”เธอแยกขากว้างขึ้นเพื่อเขา“พี่กำลั
ปลายฝนต้นหนาว สายฝนนอกหน้าต่างยังคงสาดซัด สร้างความหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจในห้องนอนส่วนตัว ณภัทรยังคงสะอึกสะอื้นนั่งขดตัวอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำการบ้านโดยมีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คอยู่เป็นเพื่อนเอกสารงานแปลไม่ได้มากมายอะไรเธอทำเสร็จแล้วทั้งหมดแค่รอส่งเท่านั้น ทุกอย่างจึงถูกจัดเก็บเรียบร้อยเมื่อร้องไห้คิดถึงนิรัชจนเหนื่อยล้าก็รีบปาดน้ำตาก่อนฝืนใจกินข้าวสองสามคำ จากนั้นก็นำลงไปเก็บที่ครัว แล้วหมุนตัวขึ้นห้องนอนอย่างรวดเร็วเธออยากอยู่คนเดียวหญิงสาวอาบน้ำ สวมชุดนอนกระโปรงตัวเก่ง มุดเข้าผ้าห่ม พยายามข่มตาหลับให้ลงเหมือนเช่นเคยทว่าก็ไม่เคยหลับลงสักทีเข็มนาฬิกาเดินทางมาค่อนข้างดึกมากแล้ว ณภัทรยังคงพลิกตัวไปมาอยู่ใต้ผ้าห่มที่ไม่เคยอุ่นอีกเลยตั้งแต่ใครบางคนจากไปจังหวะนั้นใครบางคนก็เฟสไทม์มา เธอรีบกดรับอย่างเร็ว ทว่าพูดอะไรไม่ออกสักคำ“ภัทร...”เสียงทุ้มนุ่มดังมาจากปลายสาย ส่งผลให้น้ำใสที่แห้งไปแล้วเริ่มเอ่อคลอตรงขอบตากลมอีกครา“พี่...”เสียงเธอเจือสะอื้นเล็กน้อย ทั้งๆ ที่เพียรสะกดกลั้นเอาไว้ แต่มันยากเกินไป “พี่รัช...”น้ำเสียงแบบนี้ของณภัทร ทำเอาความเงียบพลันปกคลุมรอบด้านอยู่อึดใจใหญ่ ส่งผ
ทุกวัน ณภัทรมักจะเห็นทุกสิ่งเป็นร่องรอยของคนคุ้นเคยอยู่ตลอดเวลาทุกกิจกรรม ทุกการกระทำ ทุกซอกทุกมุมที่กวาดตามอง ยิ่งนานยิ่งติดตรึงในความทรงจำที่โซฟาห้องนั่งเล่น ร่างสูงโดดเด่นมักจะพักผ่อนอยู่ตรงนั้น เขามองมาทางเธอด้วยสองตาดำจัดคมดุที่คนอื่นมองไม่ออกว่ามีความนัยอะไรในสระว่ายน้ำสีคราม สัดส่วนสมบูรณ์แบบที่เปิดเปลือยเผยมัดกล้ามตึงแน่นล่อตาลวงใจที่เขาชอบทำที่โต๊ะอาหาร เขามักกินข้าวแค่เงียบๆ น้อยครั้งถึงจะพูดจา ทว่าก็มักจะคอยมองเธอว่ากินอิ่มหรือยัง จะได้ไปเรียนพร้อมกันยังมีมุมโต๊ะทำงาน หน้าจอคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น... คนตัวโตมักจะมีสีหน้าเรียบเฉย นั่งฟังเธออ่านบทความอย่างเย็นชาเพื่อรอพิมพ์เอกสาร ยามที่เธอกำลังอ่านบทความ สายตาของเขาคล้ายไม่ใส่ใจอะไรรอบกายเลย ทว่าสมาธิทั้งหมดกลับตกอยู่ที่เธอ ตั้งใจฟังแค่เพียงน้ำเสียงของเธอณภัทรเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเรื่องสมัครงานพิเศษวันนั้นเป็นเพราะนิรัชหวังจะได้อยู่กับเธอสองต่อสอง มีเวลาทำอะไรๆ ร่วมกัน โดยไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตต่อพ่อกับแม่ให้เธอต้องลำบากใจยังมีเรื่องที่พาไปเที่ยวทะเล เขาต้องหาสารพัดวิธีเพื่อที่จะพาเธอไปได้อย่างถูกต้องแต่กว่าจะไ
แต่ไม่ว่าจะมีใครมาบอกเธอยังไง คนที่ทำให้เธอหวั่นไหวและเชื่อใจได้กลับมีเพียง...นิรัช...พี่ชายตามกฎหมายคนนี้คนเดียวณภัทรรักนิรัชแค่คนเดียวเท่านั้น ทว่าความรักสำหรับเธอไม่ใช่การยึดติดปิดกั้นหรือครอบครองเอาไว้ข้างกายตลอดเวลา แต่เป็นการมองคนรักด้วยความหวังดีตลอดไปต่างหากหญิงสาวค่อยๆ กล่อม “พี่รัชฟังภัทรนะ คนเรายังต้องเผชิญอีกหลายเหตุการณ์ระหว่างเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มันไม่ใช่ปัญหาแค่มือที่สามมือที่สี่ที่จะเข้ามาแทรกกลางระหว่างเรา แต่มันอาจมีปัญหามากมายรุมเร้า ซึ่งนั่นก็มากพอที่จะทำให้ชีวิตคู่พบทางตัน กระทั่งต้องหันหลังคุยกัน เกราะป้องกันที่ดีคือต้องฝึกฝนแก้ปัญหาเอาไว้แต่เนิ่นๆ ไม่ต้องรอจนความรักเดินทางมาไกลเกินแก้ไข”นิรัชอึ้งงัน ได้ยินเสียงใสกังวานอ่อนหวานแต่หนักแน่นว่า “ภัทรขอสัญญาจะรอพี่รัชอยู่ตรงนี้ เป็นความมั่นคงของพี่ตลอดไป ไม่ว่าพี่ต้องเจอกับปัญหาอะไร หันมาก็จะเจอภัทรเสมอ ตกลงไหม”ณภัทรเป็นคนที่ไม่เคยเชื่อเรื่องคำสัญญา เธอนำพาชีวิตให้อยู่กับปัจจุบัน ตั้งมั่นบนโลกความจริงในแต่ละวันตามหลักการและเหตุผลอันสมควร ไม่ใช้อารมณ์ฝันเฟื่องอย่างเรื่องลมปากที่พ่นออกมาพร้อมกับคำว่า ‘สัญญ
ผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง...คนสองคนที่ทะเลาะกันแทบตาย สุดท้ายก็นอนกอดกันอย่างหมดเรี่ยวแรง เหลือเพียงรสสัมผัสหวามไหวติดค้างชายหนุ่มครางเบาๆ ขยับลึกอีกครั้งก่อนค่อยๆ ถอดถอนตัวตนแผ่วช้า เหงื่อซึมทั่วร่างหนา หยาดไหลร่วมกับร่างบางอ่อนนุ่มหลังจากลมหายใจร้อนๆ กลับมาเป็นปกติ นิรัชถึงได้จูบซับหยดเหงื่อระเรื่อยไปตามข้างขมับให้ณภัทรสาวน้อยปรือตาฉ่ำเยิ้มมองคนขี้งอน “หายโกรธหรือยัง?”“ยัง!”เสียงทุ้มพร่าติดจะแหบห้วนอยู่มาก นิรัชกระชับอ้อมแขนกอดคนตัวนุ่มแน่นขึ้นไม่คิดปล่อยความหวงแหนก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรงในทุกวัน ความรู้สึกเป็นเจ้าของก็เช่นกัน ณภัทรทำนิรัชแทบคลั่งได้ทุกครั้งแค่ก้มมองแล้วถ้าเธอไม่ได้อยู่ในสายตา ถ้าไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้กอด...คำถามแสนง่ายแต่กลับยากมากที่จะหาคำอธิบายมาบรรยายความรู้สึกแค่นึกภาพว่าสิ่งสำคัญที่สุดได้ขาดหายไปในชีวิตประจำวัน แค่นั้นความอึดอัดทรมานที่ยากจะเอ่ยก็กดทับจนหายใจไม่ออกชายหนุ่มกำลังคิดว่า หากเขาต้องอยู่ห่างเธอคนละฟากฟ้าก็โปรดกรุณาเอามีดมาเฉือนหัวใจเขาแทนเถอะ!ณภัทรย่อมเข้าใจนิรัชเป็นอย่างดี ได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้จะไม่เข้าใจได้ยังไง ทว่าเธอก็ยังต้องปล่อยเขาไปเรียนต