ทางฝั่งหนึ่ง ศรุตกำลังเบื่อหน่ายมากกับสาวสวยเอ็กซ์เซ็กส์จัดที่ตามมาตอแยไม่เลิกรา
เธอคนนี้มีชื่อว่าแซนดี้ที่มีดีกรีเป็นถึงลูกสาวสุดรักสุดหวงของคุณหญิงพิไลวรรณกับคุณจอมพลเพื่อนคู่ค้ารายใหญ่ของพ่อ
เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว ตอนเขาเรียนอยู่ปีสาม เธอเรียนอยู่ปีสอง พ่อให้เขาไปดูตัวกับเธอ แต่แค่วันเดียวเท่านั้นเธอก็ตามมาขึ้นเตียงกับเขาถึงคอนโด ไวไฟใช้ได้ เขาก็ตอบสนองอย่างเร่าร้อนให้ผ่านพ้นไปตามประสานักล่า แต่ทว่าเธอเองกลับไม่ใช่เหยื่อ
เท่าที่เขารู้ แซนดี้คนนี้คบซ้อนกับหนุ่มนักเรียนนอกคนหนึ่ง คบกับนักธุรกิจหนุ่มอีกคนหนึ่ง ยังอุตส่าห์มานอนกับเขาที่เพิ่งดูตัว
ตอนนี้หนุ่มคนแรกนานๆ จะกลับมาสักที ส่วนคนที่สองธุรกิจของบริษัทกำลังย่ำแย่ เขาที่ยังอยู่ดีมีสุขและร่ำรวยเหมือนเดิมและไม่ได้บินออกนอกประเทศไปไหน จึงเป็นเป้าหมายหลักในการแก้ขัดอารมณ์เปลี่ยวอย่างช่วยไม่ได้ เธอกลับมาหาเขาอย่างจงใจ โดยใช้ค่ำคืนนี้ทำทีเป็นพบหน้ากันโดยบังเอิญในรอบหนึ่งปีกว่าๆ
“ไม่เจอกันนาน ทำไมทำหน้าเหมือนไม่รู้จักกันล่ะคะ” แซนดี้เอียงคอเล่นหูเล่นตาหยอกเย้าเสียงหวาน “คืนนี้เราไปรำลึกเรื่องเก่ากันสักหน่อยมั้ยคะ พี่รุต”
ศรุตมีสีหน้าเรียบเฉยขณะที่แซนดี้เข้ามากระซิบข้างหูพร้อมแอบเป่าลมร้อนๆ เพื่อจุดประกายไฟอย่างยั่วยวนเต็มที่
“เราเคยดูตัวกันไว้นะคะ แค่แซนดี้ตอบโอเค พ่อกับแม่คงไม่คัดค้านอะไร สัญญาหมั้นหมายร่างแปบเดียวเองค่ะ”
ดูตัว? หมั้นหมาย?
ไม่ได้มารื้อฟื้นความสัมพันธ์เพื่อกินกันแค่ชั่วครู่เหรอ?
ศรุตให้รู้สึกถึงอันตรายเกินคาดการณ์...
ท่ามกลางผู้คนมากมายเดินกันขวักไขว่ ภายใต้แสงสีสลัว เธอหาจังหวะสนทนาได้ดี ทั้งแนบชิดสนิทสนม ยื่นใบหน้าคลอเคลีย หน้าอกอวบอึ๋มนุ่มนิ่มถูไถกับแขนกำยำของศรุตไปมา
ชายหนุ่มให้รู้สึกร้อนรุ่มวูบวาบอย่างช่วยไม่ได้ แต่ขอโทษ ช่วงนี้ผมไม่สะดวกมั่วผู้หญิงนะครับ
“คุณเลิกอ่อยผมได้แล้วนะ แฟนผมดุมาก บอกเลย”
แฟน? แซนดี้เลิกคิ้ว “คุณมีแฟนแล้ว?”
“ครับผม” ศรุตตอบยิ้มๆ กวาดตามองหาโมริน
แซนดี้แค่นเสียง “ฉันต้องสนด้วยเหรอ?”
“...!?”
ชายหนุ่มลืมไป คนอย่างแซนดี้ทั้งมั่วทั้งชั่ว แฟนใครผัวใครไม่สน ไม่เหมาะเอามาทำแม่ของลูกเด็ดขาด
และแน่นอนว่าพ่อกับแม่ของเธอไม่รู้เรื่องพฤติกรรมเหล่านี้ เพราะในสายตาของพวกท่าน ลูกฉันแสนดี สุดเลิศเลอเพอร์เฟค ใครเห็นใครรัก เป็นที่ต้องการทั่ววงการไฮไซ
เขาทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอเน่าในก็ได้แต่มองบน เพราะการที่จะป่าวประกาศความจริงอันขัดแย้งออกไปก็คงไม่ใช่
เขาเองก็เป็นสุภาพบุรุษพอตัวนะครับ
แซนดี้ยังคงหัวเราะเบาๆ กล่าวกระซิบกระซาบซ่านเสียว “คุณรู้ใจฉันและฉันก็รู้ใจคุณ เราสองไม่ใช่ว่าร้อนแรงถูกอกถูกใจกันหรือยังไง แฟนเฟินอะไรกันคะ หยาบคายจริงเชียว”
ศรุตฝืนยิ้มฝืดเฝื่อน ลอบคบคิด
คืนนี้เขาต้องจัดการสลัดผู้หญิงทุกคนออกไป และรวบรัดประกาศตัวเป็นแฟนกับโมรินให้ได้
คิดไปคิดมาก็หันไปเห็นแม่บังเกิดเกล้า คุณนายจิรัตน์สุดา
“อ้อ...คุณแม่มองมาพอดี ผมขอตัวไปหาคุณแม่ก่อนนะ เผื่อท่านมีเรื่องสำคัญจะเอ่ยปาก”
อันที่จริง แม่แค่มองทั่วไป ไม่ได้มองมาที่ลูกชายคนนี้สักนิด
ศรุตปลีกตัวออกห่างแซนดี้อย่างแนบเนียน โดยไม่คิดทำการหักหน้าอีกฝ่ายให้มีปัญหาไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่ เพราะถึงอย่างไร สายสัมพันธ์วงการค้าของรุ่นพ่อแม่ไม่สามารถละเลยได้
“แม่เรียกผมเหรอ?”
คุณนายจิรัตน์สุดามองลูกชายงงๆ “ฉันเรียกแกเหรอ?”
ศรุตมุ่นคิ้ว “ใช่! แม่เรียกผมเมื่อกี้ไง? ผมจึงไม่สะดวกคุยกับแซนดี้” ว่าพลางส่งสายตาบางอย่าง ไม่นานผู้เป็นแม่ก็เข้าใจ เพราะเห็นแซนดี้กำลังเดินตามลูกชายมา
จิรัตน์สุดาพอรู้ประวัติของสาวสวยคนนี้มาบ้างเล็กน้อย เพราะหลังจากศรุตมาบอกตรงๆ ว่าคงไปด้วยกันไม่ได้ เธอจึงแอบสืบนิดหน่อย เผื่อว่าเจ้าลูกชายตัดสินใจผิดคิดปล่อยเพชรหลุดมือ แต่เมื่อสืบแล้วว่าเป็นยังไงก็เลยตัดสินใจวางเฉยเรื่องหมั้นหมาย ไม่ได้ปฏิเสธหรือตอบรับกลับไปไม่ใช่ว่าลูกชายของเธอดีเลิศประเสริฐศรีอะไร เพราะตัวเขาก็มั่วคั่วผู้หญิงไปทั่วเหมือนกัน เพียงแต่ศรุตไม่เคยคบซ้อน และคนที่ลูกชายได้นอนด้วยก็เน่าแฟะพอกันแต่สาวเจ้าเล่นเดินตามติดแบบนี้ การแสดงท่าทีรังเกียจคงไม่เหมาะ อีกทั้งคุณหญิงพิไลวรรณกับคุณจอมพลยืนอยู่อีกฝั่งไม่ไกล “แกจะให้แม่กีดกันหนูแซนดี้ต่อหน้าพ่อกับแม่เธอไม่ได้นะ ตารุต! คืนนี้คนเยอะแยะ แกไม่เห็นหรือไง?”จิรัตน์สุดากระซิบถามลูกชายเสียงเครียด “แกเห็นฉันเป็นนางยักษ์หรือไง?”เธอเป็นคนแข็งนอกอ่อนใน คนอื่นอาจไม่รู้ แต่ลูกชายคนนี้รู้ดีแน่นอน ยังจะให้ทำเรื่องลำบากใจ ใช้ได้ที่ไหน!เมื่อถูกผู้เป็นแม่ส่งค้อนมาให้ ศรุตจึงรีบกระซิบตอบ“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ แค่คุณแม่ช่วยการันตีแฟนผมให้หน่อย เดี๋ยวผมให้แฟนผมจัดการแซนดี้เอง”“แฟน?” ผู้เป็นแม่เลิกคิ้ว “แกมีแฟนแล้วเหรอ?”ศรุตเผยสีหน้าภูมิใจ “
จิรัตน์สุดาทำท่าตกใจ “อะไรกันตารุต!”ศรุตแอบยิ้มเจ้าเล่ห์ เขารีบดึงแขนตนออกจากมือแซนดี้แล้วเดินไปทางโมริน พาตัวอีกฝ่ายมาทันที“อีกแล้วเหรอพี่รุต?” โมรินถามขณะถูกศรุตจับมือเดินมาด้วยกันทางฝั่งหนึ่ง“ไหนว่าไม่มีแล้วไง? หลายเดือนมานี้ก็ไม่คั่วใคร โกหกนี่!”“ไม่มีจริงๆ คนนี้ตกค้างจากปีที่แล้ว”“ตกค้าง?” โมรินแทบหัวเราะ “คนนะไม่ใช่สารเคมี”“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง”หญิงสาวยังแซวขำๆ “คล้ายๆ มลภาวะเป็นพิษเทือกนั้น?”ศรุตหรี่ตามองคนอารมณ์ดี “ขำมากมั้ยโม?”โมรินหยุดยิ้ม “ถ้าผู้หญิงคนนั้นเป็นมลพิษ งั้นพี่รุตก็เป็นแก๊สพิษแหละ ทั้งฉีดทั้งพ่นความอันตรายใส่กันให้ตายไปข้าง”ศรุตเริ่มหน้าตึง “อยากให้พี่ตาย?”โมรินพยักหน้า “ผู้ชายเจ้าชู้ควรตายๆ ไปซะให้หมดโลก”“โม...” เสียงทุ้มต่ำติดจะเครียดมาก “พี่ก็ทำตัวดีขึ้นแล้วไง รอแค่โมยอมรับ”หญิงสาวเอียงหน้ากะพริบตามองอย่างไม่เข้าใจเลยสักนิด “ทำไมโมต้องยอมรับผู้ชายเจ้าชู้ด้วยล่ะ”สุดท้ายก่อนจะได้ไปเคลียร์กับแซนดี้ ศรุตจึงต้องเคลียร์กับโมรินก่อน “พี่ไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้นะโม ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยนอกใจใคร พี่แค่ใช้ชีวิตเต็มที่ในแบบของพี่ เมื่อถึงเวลาพี่ก็จะหยุดแค่แฟนพี่”ปร
แซนดี้แอบชักสีหน้าตามหลังจิรัตน์สุดา ก่อนหันมาทางเจ้าของใบหน้าขาวเนียนที่กำลังเผยยิ้มบาง เห็นอีกฝ่ายยืนเคียงข้างกับผู้ชายหล่อเข้มร่ำรวยผู้ที่เป็นเป้าหมาย เธอยิ่งไม่สนและยิ่งรู้สึกคันไม้คันมืออยากแย่งชิง อย่างไรเสีย พ่อกับแม่ของเธอก็ยิ่งใหญ่ เธออยากได้ผู้ชายคนไหนก็ต้องได้อยู่แล้ว ส่วนผู้หญิงของเขาเหรอ เธอแค่ส่งมือปืนไปข่มขู่สักครั้งสองครั้ง ขี้คร้านจะรีบหนีแทบไม่ทันหญิงสาวไม่สนใจโมริน เธอเดินเข้าหาศรุต เอื้อมมือคล้องแขนกำยำอีกข้างของเขาอย่างถือสิทธิ์“พี่รุต คุณพ่อกับคุณแม่ของแซนดี้อยากคุยเรื่องหมั้นหมายของเรานะคะ”“หมั้น?” โมรินถลึงตามองคนทั้งสองอย่างไม่อยากเชื่อ “ผู้หญิงคนนี้พูดเรื่องอะไรกันคะพี่รุต ไหนพี่บอกว่าแค่ซื้อกินไง?”ซื้อกิน? เธอเหมือนผู้หญิงขายตัวหรืออย่างไร?แซนดี้ตวัดสายตามองโมรินด้วยสีหน้าพร้อมบวกโมรินเลิกคิ้วมองตอบแซนดี้ด้วยสายตาพร้อมบวกยิ่งกว่า แต่ติดตรงที่งานแบบนี้ไม่เหมาะจะใช้ความรุนแรง เธอจึงทำตาโตก่อนอุทานเสียงดังลั่น “ตายจริง! แล้วไอ้โรค HPV ที่พี่รุตตรวจเจอ ยังจะรักษาหายอยู่ไหม? ไหนจะหูดหงอนไก่อีก”HPV คือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ต้นตอมะเร็งปากมดลูกแซนดี้ได้ยิ
ทางฝั่งนิรัช ทั้งๆ ที่เป็นแค่งานเลี้ยงฉลองเรียนจบ...แต่ผู้คนกลับมาร่วมงานเยอะขนาดนี้ เห็นทีคงไม่ใช่แค่เรื่องที่นิรัชเรียนจบอย่างเดียวและก็เป็นดังคาด เมื่อมีหนึ่งในคณะผู้บริหารอาวุโสเปรยขึ้นว่าธุรกิจในเครือปัญจรักษ์ทั้งหมดกำลังจะเปลี่ยนมือทุกอย่างกำลังจะถูกถ่ายโอนให้ทายาทเพียงคนเดียวของเสี่ยวิชัยซึ่งเป็นผู้นำในทุกธุรกิจของปัญจรักษ์ท่านประธานคนใหม่จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากนิรัชและแน่นอนว่าเจ้าตัวย่อมรู้อยู่แล้ว วันนี้เขาจึงจำเป็นต้องอยู่ร่วมวงสนทนากับผู้อาวุโสทั้งหลายแต่โดยดี ยอมให้วิชัยผู้เป็นพ่อลากตัวไปแนะนำกับคนโน้นทีคนนี้ทีไปทั่วงานที่สำคัญนอกจากคุยเรื่องทั่วไปในเชิงธุรกิจยังต้องใช้ความอดทนขั้นสูงสุดคุยกับคนที่อยากเป็นพ่อตาแม่ยายในอนาคตอีกด้วยหัวข้อที่สนทนาล้วนเกี่ยวกับคำถามว่าสเปกในใจของนิรัชเป็นแบบไหนกันแน่นะ? ใช่คุณหนูสวยสง่าตระกูลใหญ่หรือไม่? เป็นกุลสตรีผู้เพียบพร้อมหรือเปล่า? เจ้าสาวในอนาคตของนิรัชจะเป็นสาวสวยเก่งกาจรอบด้านคนไหนกันหนอ?ตบท้ายด้วยการพูดกรอกหูถึงประวัติความเป็นมาอันดีงามกอปรกับความเลิศหรูอลังการของลูกสาวพวกเขา ยังขอนัดเจอแบบส่วนตัวเพื่อให้ได้พบกับผู้หญิงที
ดีกรีของพิมพ์วดีไม่ธรรมดา เธอเกิดที่เมืองไทยแต่ไปเติบโตไกลถึงในอเมริกา กลับมาอยู่ที่เมืองไทยเป็นครั้งคราว อายุแค่สิบเก้าแต่เรียนจบปริญญาตรีแล้ว หน้าตาสะสวย ทรวดทรงระเหิดระหง ส่วนเว้าส่วนโค้งสมบูรณ์แบบ มีดีที่ท่วงท่าสูงส่ง เปี่ยมเสน่ห์งดงามแบบไร้ที่ติ เปรียบเทียบใกล้เคียงกับคำว่าเจ้าหญิงก็ยังได้“สวัสดีค่ะคุณลุงวิชัย สวัสดีค่ะพี่นิรัช”น้ำเสียงอ่อนหวานเอ่ยทักทายอย่างอ่อนโยนนุ่มนวล ผู้ชายต่างวัยทั้งสองยิ้มแล้วรับไหว้ตามมารยาทพิมพ์วดีมองนิรัชนิ่งๆ ท่าทางของเธอแลดูเชิดหยิ่งพองามและดูเป็นผู้ดีเจ้าระเบียบสบายตา มองมุมไหนก็สวยสดหมดจดเธอยิ้มอ่อนหวานให้นิรัชอย่างน้อยครั้งที่ใครจะได้เห็น ชนิดที่ไม่เคยทำมาก่อนชื่นผกาสัมผัสได้ว่าลูกสาวตนคงเจอคนถูกใจเข้าให้แล้ว จะไม่ให้ถูกใจได้อย่างไร ทั้งหล่อทั้งโปรไฟล์เลิศขนาดนี้ เธอจึงพูดอีก “ดูสิคะ ลูกชายคุณกับลูกสาวเดี้ยนดูเข้ากั๊นเข้ากันนะคะคุณวิชัย”ความหมายคือเหมาะสมกันมาก คล้ายเกิดมาคู่กันทั้งชาติ ยิ่งยืนอยู่ข้างกายยิ่งไม่ต่างจากกิ่งทองใบหยกเลยสักนิดใบหน้าหล่อเหลาของนิรัชยังคงเรียบเฉยเป็นทุนเดิม เขาปรายสายตามองบิดาอย่างเย็นชาแวบหนึ่งโดยปกติแ
“สวัสดีค่ะ” ดวงหน้าเนียนกระจ่างเผยรอยยิ้มอ่อนหวานขณะทักทาย ดวงตากลมโตภายใต้แพขนตายาวงอนมองคนตรงหน้าอย่างชื่นชม “คุณแพทตี้ดูดีจังเลยค่ะ สวยกว่าทุกคนในงานเลย”มีใครบ้างไม่ชอบคำหวาน พิมพ์วดีจึงละสายตาจากนิรัช หันมาสนใจณภัทร“ขอโทษค่ะ คุณคือ?”“เรียกภัทรได้ค่ะ เป็นน้องสาวของพี่รัช”น้องสาว? พิมพ์วดีเลิกคิ้ว ได้ข่าวว่าเสี่ยวิชัยแต่งงานใหม่กับหญิงแก่แม่หม้ายที่มีลูกติดโตเป็นสาวแล้วคนหนึ่งต้องน่ารักขนาดนี้? ความอิจฉาริษยามักขึ้นตาชนิดฉับพลันระหว่างผู้หญิงด้วยกันเสมอ และเธอยังมีเซนส์บางอย่างแรงมากน้องสาวเหรอ? ไม่ใช่น้องแท้ๆ เสียหน่อยเผลอๆ อาจจะมีความคิดจับผู้ชายรวยๆ ทั้งแม่ทั้งลูกก็ได้!พิมพ์วดีคิดในใจไปร้อยแปดพันประการ พลางตอบรับ “อ๋อ...ค่ะ น้องภัทรนะคะ” แม้น้ำเสียงจะราบเรียบปกติ แต่สายตาที่มองมากลับแฝงแววดูแคลนผู้หญิงด้วยกันย่อมมีความรู้สึกบางอย่างที่ฉับไวเสมอ ซึ่งณภัทรเองก็เป็นคนที่มีความสามารถด้านการจับสีหน้ามากๆ เธอสังเกตปฏิกิริยาของคู่สนทนาได้ทันทีทว่าแม้รู้แน่ชัดว่าอีกฝ่ายกำลังใช้สายตาอย่างไรมองตน แต่ณภัทรก็ยังคงรักษารอยยิ้มสดใสไร้พิษภัยไว้เหมือนเดิม“คุณแพทตี้มีอ
เจ้าของงานอย่างนิรัชกับครอบครัวของเสี่ยวิชัยทุกคน พวกเขาก็อนุญาตเองว่าให้พาน้องพอสมาด้วยกันที่สำคัญลานสำหรับเต้นก็อยู่ตรงนั้น ตรงนี้คือเด็กเล็กวิ่งได้ขนาดงานแต่งของคนไฮโซที่จัดทางโซนอีกฝั่งยังอุ้มลูกเล็กเด็กแดงมาทั้งชุดราตรีลากยาวเลย เธอเห็นเด็กตัวเล็กๆ วิ่งเล่นกันให้ควั่กอยู่หน้างานนั่นไงแต่จะว่าไปเธอก็ผิดเองที่ปล่อยน้องพอสให้วิ่งมาทางนี้เพราะเด็กน้อยเห็นนิรัชซึ่งคุ้นเคยกันดีก็วิ่งมาหาเลย เธอจึงไม่ทันได้ฉุกคิดหรือห้ามปรามอะไร “ขอโทษค่ะ ขอโทษจริงๆ” พี่เลี้ยงเพียรขอโทษอีกหลายคำทว่าพิมพ์วดีก็ยังคงรักษาสีหน้าราบเรียบออกไปทางบึ้งตึงไร้วี่แววผ่อนคลายอยู่อย่างนั้น “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันหวังดีหรอกนะคะถึงได้ช่วยเตือน อย่าหาว่าสอนแทนพ่อแม่ของน้องเลยค่ะ ขืนปล่อยให้ซุกซนต่อไปอาจทำร้ายคนอื่นได้นะคะ”ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่เห็นด้วย พี่เลี้ยงมองน้องพอสที่อายุย่างสามขวบ เด็กตัวแค่นี้ไม่น่าจะซุกซนจนทำร้ายคนอื่นได้นี่นา เธอจึงเริ่มเถียง “เอ่อ...แต่น้องพอสยังไม่ได้ทำอะไรคุณเลยนะคะ แค่เกือบจับชายกระโปรงเอง” เข้าใจคำว่าแค่ ‘เกือบ’ ไหม?พิมพ์วดีถอนหายใจอีกครั้งอย่างเอือมระอา แม้ท่าทางยังคงราบเรียบส
นอกหน้าต่าง มวลเมฆดำทะมึน กลุ่มฝนตั้งเค้า ไม่นานเม็ดฝนก็ร่วงหล่นตกมาเกรียวกราวพร้อมฟ้าแลบแปลบปลาบจนเกิดเสียงดังสะเทือนไปทั่วน่านฟ้าในห้องนั่งเล่นที่เดือดระอุ นิรัชใช้ความเงียบแทนคำตอบ ดวงตาดำจัดเรียวยาวคล้ายบรรจุมีดคมกริบนับพันเล่มความดุดันยิ่งฉายชัดคล้ายระเบิดเวลา สีหน้าราบเรียบเริ่มบึ้งตึงเผยความดื้อดึงตามแบบฉบับคุณชายประจำคฤหาสน์ออกมา“พ่อพูดอะไร?”วิชัยขมวดคิ้วกล่าวเสียงเครียด “พ่อตัดสินใจแล้ว แกจะได้มีเพื่อนคอยดูแลกันยามอยู่ต่างถิ่นแดนไกล”นิรัชรีบเอ่ยปากปฏิเสธ “ถ้าพ่อคิดอย่างนั้น ผมจะไม่ไปเรียนต่อเด็ดขาด”“อะไรกัน?” วิชัยตบโต๊ะอย่างโมโห “เราคุยกันมามากพอแล้วนะ ตารัช!”“ผมก็ฟังมามากพอแล้วเหมือนกัน” จบคำก็ลุกพรวดขึ้นแล้วเดินหนีไปเลยวิชัยโวยวายตามหลัง “ตารัช! ไอ้ลูกชายคนนี้! กลับมาคุยให้รู้เรื่องนะ”เสียงโต้แย้งเริ่มตะเบ็งดังลั่นและบานปลายมากกว่าเดิม กลับเป็นณภัทรที่เดินมานั่งลงตรงโซฟา วางจานผลไม้ขัดบทสนทนา ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลน่าฟังเหมือนดังเช่นทุกวัน“พ่อใจเย็นๆ ค่ะ”เสียงนั้นมิใช่เพียงทำวิชัยใจเย็นลง แต่ยังทำนิรัชที่เดินเลี้ยวหลบไปทางมุมหนึ่งต้องหยุดยืน อิงแผ่นหลังกว
แม้ปากจะบอกแบบนั้น แต่ทุกวันที่ผันผ่านก็ยังคงเลวร้ายในความรู้สึกอยู่มากโชคดีที่ณภัทรเป็นคนที่จัดการกับความรู้สึกตนเองได้เป็นอย่างดี หญิงสาวยิ่งรู้สึกว่าโชคดีเหลือเกินที่เธอเลือกเร้นรัก กักเก็บความสัมพันธ์ฉันแฟนกับนิรัชโดยไม่คิดเปิดเผยออกมาเผื่อที่ว่าถึงวันหนึ่งเรื่องของเธอกับเขามันเป็นไปไม่ได้ อะไรๆ จะได้ไม่เลวร้ายมากไปกว่านี้ผู้ชายน่ะ เวลาเปลี่ยนใจไปมีคนใหม่ พวกเขาจะสามารถมองหน้าผู้หญิงคนเก่าได้อย่างสบาย ทำทีเป็นไม่เคยมีอะไรต่อกันก็ยังได้ เพราะฉะนั้น เพื่อรักษาระดับความสัมพันธ์ฉันพี่น้องให้ครอบครัวไร้ปัญหา เธอก็จะต้องทำได้เช่นกันแต่ว่า...นั่นเฉพาะต่อหน้าคนอื่นเท่านั้นนะเวลาอยู่คนเดียว ณภัทรจะแอบร้องไห้บ้างอะไรบ้าง ตามประสาคนอกหักรักคุด รักผิดชีวิตสะดุด หยุดอยู่กับที่ไม่กล้าเดินหน้าคบใครต่อไปหลังจากเรียนจบปีสุดท้าย โมรินกับศรุตก็จับมือบินลัดฟ้า พี่เอมี่ก็ไปเป็นนางแบบอินเตอร์โดยมีคุณเควินคอยซับพอร์ตณภัทรจึงเหลือตัวคนเดียวโดยสมบูรณ์โคตรเหงา...เนื่องจากเรียนจบแล้ว ระหว่างรอรับปริญญา หญิงสาวจึงเข้าออฟฟิศทำงานเต็มตัว เต็มที่กับโครงการร่วมทุนสร้างกับคู่ค้า ตอนนี้เธอยัง
“น้าพลยอมโดยไม่กล้าขัดขืนเลยแหละ แต่เงื่อนไขคือต้องไปกับพี่รุต คุณแม่ของเขาถึงขนาดไปคุยกับน้าพลที่บ้าน ใช้อำนาจเจ้าของบริษัทเลยเชียว น้าพลก็เลยต้องยอม ส่วนค่าใช้จ่ายคุณแม่บอกว่าจะออกให้ทั้งหมด ถือเป็นสินสอดทองหมั้น”ณภัทรเลิกคิ้ว หญิงสาวรู้มาว่าศรุตตามจีบโมรินไม่เว้นวัน กระทั่งพาไปแนะนำตัวกับมารดาว่าเป็นแฟนแบบแนบเนียน หลังจากนั้นก็คอยไปรับไปส่งระหว่างบ้านกับมหาวิทยาลัยตลอด สองคนนี้ตกลงเป็นแฟนกันแล้ว หลังจากเรียนจบศรุตเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทของครอบครัว ไม่ได้ทำตัวล่องลอยไปวันๆ เหมือนแต่ก่อน เขาไม่ใช่ทายาทเพียงคนเดียวของครอบครัว ยังมีพี่ชายคนสำคัญรอสืบทอดกิจการอยู่แล้วทั้งคน จึงไม่จำเป็นต้องรีบไปเรียนต่อพร้อมนิรัช อีกทั้งชายหนุ่มยังต้องการรอโมรินเรียนจบแล้วไปต่างประเทศพร้อมกันณภัทรยิ้มขื่น เธอเองก็ควรให้นิรัชรอเหมือนกันใช่ไหม? แต่คิดไปคิดมา หากย้อนเวลากลับไปเธอจะทำอย่างนั้นได้จริงเหรอเสี่ยวิชัยมีนิรัชเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนแค่เพียงคนเดียว ตัวของเสี่ยวิชัยเองก็ไม่มีพี่น้อง บิดามารดาก็ไม่อยู่แล้ว หลังจากภรรยาคนเก่าเสียชีวิตเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เขาก็อยู่กับนิรัชแค่สองคนจนกระท
หญิงสาวก้มหน้าทำงาน พยายามไม่คิดมากอีกทว่าท้ายที่สุด เธอก็พ่ายแพ้ให้แก่หัวใจไม่รักดีของตัวเองเรียวนิ้วเปิดโปรแกรมเฟสไทม์ ทำใจดีสู้เสือโทรออกไป นานครู่ใหญ่จนเกือบจะถอดใจ ในที่สุดปลายสายก็กดรับภาพของคนคุ้นเคยสุดแสนจะคิดถึงก็ปรากฏ “ว่าไงภัทร?”หญิงสาวกะพริบตา มือบีบโทรศัพท์แน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอพยายามข่มใจไม่คิดมากกับคำถามชวนคิดมากแบบนี้“ก็ไม่ว่าไง พี่รัชทำอะไรอยู่เหรอ?”“ช่วงนี้พี่กำลังยุ่งมากเลยภัทร ไม่ว่างโทรหาเลย”คนฟังมุ่นคิ้ว เธอก็ยุ่งเหมือนกันนี่นา...หญิงสาวกำลังจะเอ่ยปากบอกไปตามตรงว่าเธอเองก็ยุ่งเหมือนกันไง ทำไมยังโทรหาเขาได้ เสียงหวานหนึ่งพลันเอ่ยแทรก“รัช...ไปกันเถอะ”เสียงของผู้หญิงไม่ผิดแน่ ณภัทรยังเห็นภาพเธอจากในโทรศัพท์ด้วย ผู้หญิงคนนั้นคือชัญญ่า...อดีตพี่รหัสของณภัทรนั่นเอง“อ้าว! น้องภัทรเหรอ? สวัสดีจ๊ะ” แค่นั้น ชัญญ่าทักทายเพียงแค่นั้น ก่อนหันไปทางนิรัช “รัช...เราไปกันเถอะ”“อืม...แค่นี้ก่อนนะภัทร”ปลายสายตัดไป ณภัทรได้แต่อึ้ง เธอเห็นภาพที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ที่นั่นคือห้องสี่เหลี่ยมห้องหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ห้องเรียนแน่นอน...ธุรกิจเบเกอรี่ที่ณภัทรร่วมหุ้นกับภานียังคงไ
ระยะเวลาที่ห่างกัน จากหนึ่งวันเป็นหนึ่งเดือน จากนั้นก็เลื่อนเป็นหนึ่งปีสองปีตามลำดับ ณภัทรยังคงคิดถึงนิรัชเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเริ่มเคยชินรถซุปเปอร์คาร์สีเหลืองสดแซ่บจี๊ดวนเข้ามาจอดด้านหน้าของภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง ประตูเปิดออกโดยบริกรที่มาคอยให้บริการ สาวสวยดูดีในมาดนักธุรกิจรุ่นใหม่ค่อยๆ ก้าวเท้าลงมา เธอสวมสูทสไตล์แฟชั่นล้ำสมัย ซึ่งเป็นการรังสรรค์เสื้อผ้าอันโดดเด่นที่มีส่วนช่วยให้เกิดความประทับใจต่อผู้ติดต่อทางธุรกิจ และยังสะท้อนทัศนคติไร้ขีดจำกัดให้กับผู้หญิงยุคนี้ที่บทบาททางสังคมเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจนแตกต่างจากในอดีตเธอคือณภัทร ผู้สลัดลุคนักศึกษาสาววัยใสกลายเป็นสาวสวยมั่นใจเต็มวัย แต่งหน้าทาปากเข้มขึ้นจนมองอายุจริงไม่ออก เสื้อผ้าหน้าผมล้วนได้โมรินช่วยดีไซน์และจัดการให้วันนี้เธอต้องมาเจรจาธุรกิจแทนวิชัยสาเหตุเป็นเพราะอีกฝ่ายออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อนเพลินเกินไปหน่อย กระทั่งเอวเคล็ดกระดูกเคลื่อนเล็กน้อยจนต้องแอดมิทโรงพยาบาล ในขณะที่ลินดาป่วยเข้าโรงพยาบาลไปแล้วก่อนหน้าณภัทรรู้ดีว่ามารดาของตนสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เนื่องจากต้องตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ตอนอายุน้อยอีกทั้งยังตรากตร
หญิงสาวเต้นพองาม คลอกับเพลงที่เปิดอยู่ โดยที่ไม่รู้ว่ากำลังทำให้คนอีกฝั่งแทบคลั่งนิรัชขบกราม กอบกุมแก่นกายแน่น “ดี...แบบนี้ล่ะภัทร”เธอถามเสียงกระเส่า “พี่รัชไม่ต้องไปเรียนหรือไง?”“เดี๋ยวค่อยไป มโนว่าเอากับภัทรก่อน”หญิงสาวขำพรืด “บ้า”“พี่จะกล่อมภัทรให้นอนหลับสบายไง”ณภัทรยิ่งหน้าแดง และแน่นอนเธอยินยอม“ภัทร...”“หืม...”“นิ่งพิงหัวเตียง ถอดผ้า อ้าขา”“อืม...”ณภัทรถอดชุดนอนออกเผยหน้าอกอวบสวยเด้งดึ๋งโดดเด่น นิ้วเล็กเริ่มแตะแต้มน่องขาด้านใน แหวกขอบผ้าตัวบางจิ๋วออกช้าๆ“ภัทรเริ่มแล้วนะ”จบคำมือหนึ่งก็ค่อยๆ ขยำทรวงอกอิ่ม อีกมือเลื่อนลงต่ำ กรีดเรียวนิ้วกับเนินเนื้ออุ่นชื้น ค่อยๆ สอดใส่เข้าไป“คิดถึงพี่ ภัทร...” นิรัชสั่งเสียงทุ้มลึกณภัทรรับคำเสียงหวาน “อา...พี่รัช”ภาพของคนในจอคล้ายหลุดออกมาขยี้ขยำลูบคลำเธอ อุ้งปากร้อนๆ กำลังครอบครองยอดถัน ณภัทรสูดหายใจเข้าลึกยาว เมื่อความรู้สึกร้อนผ่าวจากส่วนสงวนชื้นแฉะกลางกายแล่นไปทั่วตัวตามปลายนิ้วที่เริ่มระรัว เธอรู้สึกเสียวนิรัชก็เช่นกัน เขารูดแก่นกายขึ้นลง สูดปากเบาๆ“อ้าขาอีกสิครับ”“อืม...พี่รัชอ่ะ”เธอแยกขากว้างขึ้นเพื่อเขา“พี่กำลั
ปลายฝนต้นหนาว สายฝนนอกหน้าต่างยังคงสาดซัด สร้างความหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจในห้องนอนส่วนตัว ณภัทรยังคงสะอึกสะอื้นนั่งขดตัวอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำการบ้านโดยมีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คอยู่เป็นเพื่อนเอกสารงานแปลไม่ได้มากมายอะไรเธอทำเสร็จแล้วทั้งหมดแค่รอส่งเท่านั้น ทุกอย่างจึงถูกจัดเก็บเรียบร้อยเมื่อร้องไห้คิดถึงนิรัชจนเหนื่อยล้าก็รีบปาดน้ำตาก่อนฝืนใจกินข้าวสองสามคำ จากนั้นก็นำลงไปเก็บที่ครัว แล้วหมุนตัวขึ้นห้องนอนอย่างรวดเร็วเธออยากอยู่คนเดียวหญิงสาวอาบน้ำ สวมชุดนอนกระโปรงตัวเก่ง มุดเข้าผ้าห่ม พยายามข่มตาหลับให้ลงเหมือนเช่นเคยทว่าก็ไม่เคยหลับลงสักทีเข็มนาฬิกาเดินทางมาค่อนข้างดึกมากแล้ว ณภัทรยังคงพลิกตัวไปมาอยู่ใต้ผ้าห่มที่ไม่เคยอุ่นอีกเลยตั้งแต่ใครบางคนจากไปจังหวะนั้นใครบางคนก็เฟสไทม์มา เธอรีบกดรับอย่างเร็ว ทว่าพูดอะไรไม่ออกสักคำ“ภัทร...”เสียงทุ้มนุ่มดังมาจากปลายสาย ส่งผลให้น้ำใสที่แห้งไปแล้วเริ่มเอ่อคลอตรงขอบตากลมอีกครา“พี่...”เสียงเธอเจือสะอื้นเล็กน้อย ทั้งๆ ที่เพียรสะกดกลั้นเอาไว้ แต่มันยากเกินไป “พี่รัช...”น้ำเสียงแบบนี้ของณภัทร ทำเอาความเงียบพลันปกคลุมรอบด้านอยู่อึดใจใหญ่ ส่งผ
ทุกวัน ณภัทรมักจะเห็นทุกสิ่งเป็นร่องรอยของคนคุ้นเคยอยู่ตลอดเวลาทุกกิจกรรม ทุกการกระทำ ทุกซอกทุกมุมที่กวาดตามอง ยิ่งนานยิ่งติดตรึงในความทรงจำที่โซฟาห้องนั่งเล่น ร่างสูงโดดเด่นมักจะพักผ่อนอยู่ตรงนั้น เขามองมาทางเธอด้วยสองตาดำจัดคมดุที่คนอื่นมองไม่ออกว่ามีความนัยอะไรในสระว่ายน้ำสีคราม สัดส่วนสมบูรณ์แบบที่เปิดเปลือยเผยมัดกล้ามตึงแน่นล่อตาลวงใจที่เขาชอบทำที่โต๊ะอาหาร เขามักกินข้าวแค่เงียบๆ น้อยครั้งถึงจะพูดจา ทว่าก็มักจะคอยมองเธอว่ากินอิ่มหรือยัง จะได้ไปเรียนพร้อมกันยังมีมุมโต๊ะทำงาน หน้าจอคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น... คนตัวโตมักจะมีสีหน้าเรียบเฉย นั่งฟังเธออ่านบทความอย่างเย็นชาเพื่อรอพิมพ์เอกสาร ยามที่เธอกำลังอ่านบทความ สายตาของเขาคล้ายไม่ใส่ใจอะไรรอบกายเลย ทว่าสมาธิทั้งหมดกลับตกอยู่ที่เธอ ตั้งใจฟังแค่เพียงน้ำเสียงของเธอณภัทรเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเรื่องสมัครงานพิเศษวันนั้นเป็นเพราะนิรัชหวังจะได้อยู่กับเธอสองต่อสอง มีเวลาทำอะไรๆ ร่วมกัน โดยไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตต่อพ่อกับแม่ให้เธอต้องลำบากใจยังมีเรื่องที่พาไปเที่ยวทะเล เขาต้องหาสารพัดวิธีเพื่อที่จะพาเธอไปได้อย่างถูกต้องแต่กว่าจะไ
แต่ไม่ว่าจะมีใครมาบอกเธอยังไง คนที่ทำให้เธอหวั่นไหวและเชื่อใจได้กลับมีเพียง...นิรัช...พี่ชายตามกฎหมายคนนี้คนเดียวณภัทรรักนิรัชแค่คนเดียวเท่านั้น ทว่าความรักสำหรับเธอไม่ใช่การยึดติดปิดกั้นหรือครอบครองเอาไว้ข้างกายตลอดเวลา แต่เป็นการมองคนรักด้วยความหวังดีตลอดไปต่างหากหญิงสาวค่อยๆ กล่อม “พี่รัชฟังภัทรนะ คนเรายังต้องเผชิญอีกหลายเหตุการณ์ระหว่างเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มันไม่ใช่ปัญหาแค่มือที่สามมือที่สี่ที่จะเข้ามาแทรกกลางระหว่างเรา แต่มันอาจมีปัญหามากมายรุมเร้า ซึ่งนั่นก็มากพอที่จะทำให้ชีวิตคู่พบทางตัน กระทั่งต้องหันหลังคุยกัน เกราะป้องกันที่ดีคือต้องฝึกฝนแก้ปัญหาเอาไว้แต่เนิ่นๆ ไม่ต้องรอจนความรักเดินทางมาไกลเกินแก้ไข”นิรัชอึ้งงัน ได้ยินเสียงใสกังวานอ่อนหวานแต่หนักแน่นว่า “ภัทรขอสัญญาจะรอพี่รัชอยู่ตรงนี้ เป็นความมั่นคงของพี่ตลอดไป ไม่ว่าพี่ต้องเจอกับปัญหาอะไร หันมาก็จะเจอภัทรเสมอ ตกลงไหม”ณภัทรเป็นคนที่ไม่เคยเชื่อเรื่องคำสัญญา เธอนำพาชีวิตให้อยู่กับปัจจุบัน ตั้งมั่นบนโลกความจริงในแต่ละวันตามหลักการและเหตุผลอันสมควร ไม่ใช้อารมณ์ฝันเฟื่องอย่างเรื่องลมปากที่พ่นออกมาพร้อมกับคำว่า ‘สัญญ
ผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง...คนสองคนที่ทะเลาะกันแทบตาย สุดท้ายก็นอนกอดกันอย่างหมดเรี่ยวแรง เหลือเพียงรสสัมผัสหวามไหวติดค้างชายหนุ่มครางเบาๆ ขยับลึกอีกครั้งก่อนค่อยๆ ถอดถอนตัวตนแผ่วช้า เหงื่อซึมทั่วร่างหนา หยาดไหลร่วมกับร่างบางอ่อนนุ่มหลังจากลมหายใจร้อนๆ กลับมาเป็นปกติ นิรัชถึงได้จูบซับหยดเหงื่อระเรื่อยไปตามข้างขมับให้ณภัทรสาวน้อยปรือตาฉ่ำเยิ้มมองคนขี้งอน “หายโกรธหรือยัง?”“ยัง!”เสียงทุ้มพร่าติดจะแหบห้วนอยู่มาก นิรัชกระชับอ้อมแขนกอดคนตัวนุ่มแน่นขึ้นไม่คิดปล่อยความหวงแหนก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรงในทุกวัน ความรู้สึกเป็นเจ้าของก็เช่นกัน ณภัทรทำนิรัชแทบคลั่งได้ทุกครั้งแค่ก้มมองแล้วถ้าเธอไม่ได้อยู่ในสายตา ถ้าไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้กอด...คำถามแสนง่ายแต่กลับยากมากที่จะหาคำอธิบายมาบรรยายความรู้สึกแค่นึกภาพว่าสิ่งสำคัญที่สุดได้ขาดหายไปในชีวิตประจำวัน แค่นั้นความอึดอัดทรมานที่ยากจะเอ่ยก็กดทับจนหายใจไม่ออกชายหนุ่มกำลังคิดว่า หากเขาต้องอยู่ห่างเธอคนละฟากฟ้าก็โปรดกรุณาเอามีดมาเฉือนหัวใจเขาแทนเถอะ!ณภัทรย่อมเข้าใจนิรัชเป็นอย่างดี ได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้จะไม่เข้าใจได้ยังไง ทว่าเธอก็ยังต้องปล่อยเขาไปเรียนต