ย้อนกลับไปเมื่อสองปีที่แล้ว ก่อนนิรัชเดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกา เขาคุยกับวิชัยตามตรงที่สนามบินโดยไม่ปิดบัง
‘ผมกับภัทรรักกันเกินพี่น้อง เราสองคนจะแต่งงานทันทีเมื่อเรียนจบ’
นั่นจึงทำให้วิชัยถึงขั้นไม่พูดไม่จา ยามเดินกลับมาสมทบกับลินดาและณภัทรที่ร้านอาหาร สีหน้าเขาเย็นชา ท่าทางเคร่งขรึม ครู่ใหญ่จึงยอมปริปาก
“ตารัชไปแล้ว...ใจหายเหมือนกันนะ”
ลินดารีบจับมือสามีมากุมเอาไว้ “เด็กๆ ต้องโตขึ้นค่ะ ตารัชจะเติบใหญ่โดยสมบูรณ์แล้วกลับมาดูแลปัญจรักษ์อย่างดีนะคะ”
ชายวัยกลางคนพยักหน้า ตบเบาๆ ที่หลังมือภรรยา “อืม...ลูกๆ ของเรา พวกเขาโตแล้วจริงๆ”
พวกเขาไม่ใช่แค่เด็กชายเด็กหญิงไร้เดียงสาอีกแล้ว...
หลังจากนั้น วิชัยจึงค่อยๆ มอบหมายงานถึงขั้นมอบกิจการให้ณภัทรดูแลแบบเต็มตัว เพื่อฝึกเป็นสะใภ้หนึ่งเดียวแห่งปัญจรักษ์
เพราะนั่นคือสินสอดทองหมั้น คือของขวัญรอวันแต่งงานของลูกชายกับลูกสาว
ณภัทรได้ฟังความจริงจากปากของนิรัชก็ได้แต่อึ้ง
ส่วนปัญหาเรื่องผู้หญิงที่ชื่อชัญญ่า และห้องหนึ่งซึ่งพวกเขาอยู่ด้วยกัน ล้วนเป็นการเข้าใจผิด
ในห้องนั้นคือโซนวีไอพีให้กลุ่มที่นัดทำโปรเจกต์ร่วมกัน เจ้าของห้องคือแฟนต่างชาติของชัญญ่า
ณภัทรได้ฟังก็อ้าปากเบิกตา ได้ยินนิรัชเอ่ยปากอีกว่า “หากสงสัยก็ให้ถาม หรือไม่ก็แสดงออกมาเลยว่าโกรธว่าไม่ชอบใจ จะแง่งอนยังไงก็ได้ พี่จะได้ง้อ แต่ขออย่างเดียวห้ามคิดเองเออเอง แล้วขอเลิกเด็ดขาดแบบที่ทำกับพี่”
หลังจากนั้นชายหนุ่มก็บ่นแล้วก็บ่นจนหญิงสาวหูชาไปหมด
นิรัชพาณภัทรกลับบ้านทันที เข้าพบวิชัยกับลินดาเพื่อคุยเรื่องหมั้นอย่างเร็ว
“เดี๋ยว! พี่รัช! ใจเย็น”
“ไม่ต้องพูดแล้ว”
นิรัชกับณภัทรเถียงกันไปมา
คนหนึ่งยังรู้สึกตกใจและคิดว่ายังไม่พร้อม แต่อีกคนไม่ยอม เขาไม่คิดปล่อยผ่านให้เนิ่นนานกว่านี้
ท่ามกลางสายตาของผู้ใหญ่ พวกเขากำลังนั่งพับเพียบเรียบร้อยที่พื้นห้อง พร้อมคลานเข่าขอขมา
ภายในห้องนั่งเล่นประจำบ้าน วิชัยกับลินดานั่งบนโซฟามองลูกชายกับลูกสาวของตนนิ่งๆ ไม่ว่าอะไร เพราะกำลังทำใจอยู่
สาเหตุที่วิชัยไม่ได้บอกอะไรกับณภัทรก่อนหน้านี้เพราะคิดว่านิรัชบอกกับเธอแล้ว ส่วนนิรัชที่ไม่บอกอะไรก็เพราะคิดว่าพ่อบอกเธอแล้วเช่นกัน
ผลพวงของการไม่ได้บอกกล่าวทำเอาณภัทรคิดเองไปไกล นิรัชจึงกลายร่างเป็นหนุ่มเลือดร้อนอย่างที่เห็น
เขายอมเธอมามากพอแล้ว
“คิดดีกันแล้วใช่ไหม?” ลินดาหรี่ตา ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบแกมจับผิด “ไม่ใช่ว่ามีอะไรเกินเลยต่อกันจนตั้งครรภ์แล้ว? ถึงได้รีบร้อนขนาดนี้”
ณภัทรเบิกตา “ไม่ใช่ค่ะแม่ ไม่ใช่!” เธออึกอัก “เราสองคนยังไม่เคยมีอะไรกันนะคะ แค่...แค่แอบคบกันเป็นแฟน”
หญิงสาวจำต้องโกหกคำโต เพราะเธอสัญญากับแม่เป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะไม่ชิงสุกก่อนห่ามกับใคร ประวัติจะต้องไม่ซ้ำรอย
นิรัชก็รู้ดีในเรื่องนี้ เขาจึงช่วยย้ำอีกเสียง “พวกเราไม่เคยทำอะไรเกินเลยครับแม่ แค่แอบคบกันเฉยๆ”
น้ำเสียงของทั้งสองจริงจัง พยายามเก็บซ่อนความละอายเอาไว้สุดใจ ทำยังไงได้ ตอนนี้พวกเขาไม่อยากมีปัญหาอะไรอีกแล้ว
“พ่อกับแม่ให้พวกเราแต่งงานกันเถอะครับ”
วิชัยถอนหายใจ เขาผิดเองที่ตามใจลูกชายทุกอย่าง
งานหมั้นถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายหรูหราที่บ้านปัญจรักษ์ในหนึ่งเดือนต่อมา มีเพียงญาติสนิทและมิตรสหายเท่านั้นที่ได้รับสิทธิ์ร่วมงานสำคัญครั้งนี้ ส่วนงานฉลองมงคลสมรสจะถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่โรงแรมในเครืออีกหนึ่งเดือนข้างหน้าทว่าระหว่างนั้นณภัทรกลับเริ่มมีความผิดปกติของร่างกาย เธอรู้สึกผะอืดผะอมขมคอปั่นป่วนมวนท้องในตอนลืมตาตื่นตอนเช้า หญิงสาวคลื่นไส้อาเจียนและไวต่อกลิ่นกับอาหารการกินทุกอย่างเธอนึกขึ้นได้ว่าหยุดกินยาคุมกำเนิดตอนที่ห่างกับนิรัช แต่แล้วพลันถูกเขาจู่โจมอย่างร้อนแรงในเพ้นท์เฮ้าส์วันนั้น ถุงยางอนามัยก็ไม่ได้ใส่ กว่าจะรู้ตัวว่าลืมป้องกันก็ไม่ทันแล้วสุดท้ายความจริงจึงกระจ่าง เนื่องจากผลการตรวจครรภ์ของณภัทรขึ้นสองขีดเต็มๆทั้งนิรัชและณภัทรถูกลินดาเรียกไปต่อว่าเสียยกใหญ่เรียกได้ว่าบ้านแทบแตกพวกเขาได้แต่ก้มหน้าก้มตายอมรับผิดอย่างจำนนคนเป็นแม่โกรธจัดไม่ใช่เพราะอยากทำเหมือนที่บ้านเดิมหรืออะไร แค่รู้สึกผิดหวังที่ลูกสาวไม่ยอมบอกความจริงเท่านั้น“ภัทรไม่ควรโกหกแม่นะ ลูกคิดว่าแม่จะตัดหางปล่อยวัดเหมือนบ้านคุณตาคุณยายหรืออย่างไร? แม่ไม่สิ้นคิดทำร้ายลูกสาวสุดที่รักของแม่ขนา
บนเวทีมงคล พิธีกรชายกำลังส่งคำถามแก่คู่บ่าวสาวด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่ม“ตามธรรมเนียม ทั้งสองต้องบอกมาตามตรงว่าพบรักกันได้ยังไง เล่ามาเลยครับ”ข้างล่างต่างรอฟังอย่างตื่นเต้นกันใหญ่ มีบางคนแอบสงสัยว่าพวกเขาคงแพ้ความใกล้ชิดแหละ ประมาณน้ำมันกับไฟเจอกันใครจะคิดอย่างไรไม่ใช่ว่านิรัชกับณภัทรจะรับรู้ไม่ได้ ทว่าต่อให้เป็นเพราะเหตุนั้นแล้วยังไงล่ะเจ้าบ่าวรับไมค์ไปกรอกเสียงตอบก่อน “ผมแอบชอบภัทรตั้งแต่ตอนเธออยู่มัธยมต้น เธอเป็นรักแรกพบของผม ตั้งแต่วันนั้น เจ้าสาวของผมคือเธอคนเดียวครับ”และคำตอบตรงไปตรงมาของคนพูดน้อยเรียกเสียงกรีดร้องจากสาวๆ ทั้งงานเลยทีเดียว หลายคนนับนิ้วกันใหญ่ หลายปีเชียว ผู้ชายในงานยังยกนิ้วโป้งส่งให้ นายแน่มาก...ตอนนี้ณภัทรหน้าแดงก่ำไปหมด เขินจนตอบไม่ถูกแล้วค่ะพิธีกรให้เวลาเธอได้สะเทิ้นอายพอประมาณแล้วเริ่มถาม “แล้วเจ้าสาวล่ะครับ เริ่มรักเจ้าบ่าวตอนไหนเอ่ย?”หญิงสาวค่อยๆ ตอบเสียงสั่น “รู้ตัวว่ารักหมดใจเมื่อไม่นานมานี่ล่ะค่ะ ก่อนหน้านั้นแค่มึนๆ ไม่ค่อยเข้าใจ”เสียงหัวเราะดังครืน คำตอบของเจ้าสาวยียวนใช้ได้เจ้าบ่าวแซวเธอ “เพราะแบบนี้ไงถึงต้องรีบแต่งงานเร็วๆ กลัวเจ้
สายลมพัดโชยพร้อมกลิ่นพิเศษของโรงแรมหรูริมทะเลในเวลากลางคืนให้รู้สึกถึงความโรแมนติกอะไรอย่างนี้เด็กสาวจึงปล่อยให้ผู้ใหญ่สองคนได้มีช่วงเวลาดีๆ ที่เรียกว่าสวีทหวานเติมน้ำตาลสู่ชีวิตคู่ที่เคยแห้งแล้งแก่กันและกันโดยไม่อยู่เป็นก้างขวางคอ“เดินดีๆ นะยัยภัทร”“ค่า...แม่...”เธอตอบรับเสียงลากยาวโบกมือเบาๆ อันบ่งบอกได้ว่าค็อกเทลสีชมพูแสนอร่อยลิ้นที่กินไปเมื่อครู่เริ่มออกฤทธิ์แล้ว ไหนๆ ก็ฉลองเรียนจบภายในครอบครัวและอายุก็เต็มสิบแปดปีแล้ว เธอจึงดื่มแบบไม่ยั้ง ผลที่ได้ก็คือเมาหนักมากเด็กสาวเดินตัวอ่อนจนถึงลิฟต์ พาร่างกระปลกกระเปลี้ยของตนเดินเข้าไปยังลิฟต์ที่เปิดประตูหลังจากถูกนิ้วเล็กๆ กดย้ำๆ เพราะความเมาภายในลิฟต์มีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังคลอเคลียอย่างไม่ลืมหูลืมตา ท่วงท่าร้อนฉ่าไปทุกอณู ลักษณะลืมตัวกันไปแล้วว่ากำลังอยู่ในลิฟต์ และมีอีกคนก้าวเท้าเข้ามายืนมองตาปรือประตูลิฟต์ปิดลงติ๊งและเคลื่อนตัวขึ้นไปพร้อมๆ กับเสียงบดจูบและเสียงครางในลำคอดังอือๆ อาๆ ฟังดูซาบซ่านสะท้านไปทั้งตัวคนมองอย่างเธอจึงได้แต่กะพริบตาปรือ รู้สึกร้อนวูบวาบร่วมไปกับพวกเขาอย่างช่วยไม่ได้กระทั่งถึงชั้นที่สามสิบเก้าซึ่งเป็นโซนที
พรุ่งนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกของปีการศึกษาภาควิชาปกติของคณะอักษรศาสตร์คืนนี้ก่อนเข้านอน ณภัทร จึงถูกลินดาผู้เป็นมารดาบังคับให้ใส่ชุดนักศึกษามาอวดโฉม หรือเรียกง่ายๆ อีกอย่างหนึ่งว่าบังคับแต่งกายมาให้แม่ตรวจระเบียบดูก่อนอย่างเข้มงวดชุดต้องไม่รัดรูปจนเกินไป กระโปรงสอบก็ห้ามสั้น กระโปรงพลีทจีบรอบก็ต้องไม่บางเกินไป กระดุมเสื้อต้องแน่นหนา ซิปห้ามปริ ผ่าหลังห้ามสูง ไม่ให้ใส่ผ่าข้างเห็นโคนขาสรุปก็คือลินดาเป็นคุณมารดาเจ้าระเบียบระดับห้าดาว เป็นคุณแม่ที่เจ้ายศเจ้าอย่างตามแบบฉบับครอบครัวที่เติบโตมา ชอบความมีระเบียบชอบจัดการชอบบริหารเมื่อก่อนตั้งแต่เด็กอนุบาล ชั้นประถม มัธยมคอซอง จนกระทั่งเติบโตเข้าเรียนชั้นมัธยมปลายถึงปีที่ห้า ณภัทรถูกลินดาคุมเข้มทุกอย่างตั้งแต่เรื่องกินเรื่องแต่งตัวแค่คนเดียวแต่ต่อมาตั้งแต่มัธยมปลายปีที่หกจนถึงเวลานี้เธอถูกคุณพ่อซึ่งเป็นสามีใหม่ของแม่ช่วยคุมเข้มด้วยอีกคนดังนั้นสาวสวยวัยใสจึงต้องแต่งชุดนักศึกษาถูกระเบียบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้ามาให้ทั้งสองท่านตรวจการแต่งกายที่ห้องพักผ่อนดูทีวีของครอบครัวเธอยิ้มเต็มหน้าจนเกิดลักยิ้มน่ารักที่ข้างแก้มขาว เรือนผมดำขลับเรียบลื
สิ้นคำถาม ณภัทรละสายตากลับมามองพ่อกับแม่คุยกันจำต้องเหลือบตามองพี่ชายสุดหล่ออีกครั้งทันทีเธอยังมีความผิดติดตัวเรื่องที่เมื่อวันก่อนตอนที่พ่อสั่งให้พี่ชายไปส่งเธอซื้อของแล้วบังเอิญเจอกลุ่มเพื่อนเพื่อนๆ แย่งกันขอเบอร์โทรพี่ชายคนนี้แล้วเธอก็ให้ไป พวกนั้นโทรหาพี่ชายไม่เว้นวันจนปลายสายแทบไหม้ กระทั่งพี่ชายต้องเปลี่ยนเบอร์โทรใหม่เพื่อตัดรำคาญสุดท้ายเบอร์ใหม่ก็ยังเล็ดลอดออกไปอยู่ดี เห็นอยู่เมื่อกี้นี้ไง ยัยแนทตี้นั่นก็คือหนึ่งในเพื่อนของเธอ ซึ่งก็ไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่ ขนาดแยกย้ายกันไปเรียนต่อคนละที่แล้วเชียว ยังโทรมาหาแบบนี้การให้เขาไปส่งเธอในสถานที่ที่อาจจะเจอเพื่อนของเธออีกคงไม่ปลอดภัยแน่ ๆหญิงสาวรีบกล่าวปฏิเสธอย่างลนลาน “ไม่ต้องหรอกค่ะ ภัทรไปเองได้สบายอยู่แล้ว เกรงใจพี่รัชนะคะ”สิ้นเสียงปฏิเสธแบบไม่ต้องเสียเวลาคิดของหญิงสาว แก้วน้ำที่อีกฝ่ายถืออยู่ก็ถูกวางลงบนโต๊ะกลางห้องนั่งเล่นจนเกิดเสียงดังแกร็กเข็ดฟัน แต่คนหล่อไม่พูดอะไร เอาแต่เงียบทำหน้านิ่งเหมือนฉาบปูนซีเมนต์เอาไว้ตลอดเวลาหญิงสาวเหลือบมองจึงเห็นเพียงสีหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึก และท่าทางเย่อหยิ่งเกินอัตราชายไทยส่วนใหญ่สายตานิ่ง
ณภัทรคุยเล่นกับลินดาและวิชัยอีกครู่หนึ่งจึงเดินขึ้นมาชั้นสองเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวเข้านอนแต่ยังไม่ทันถึงห้องตัวเอง ข้อมือเล็กก็ถูกมือใหญ่จับเอาไว้แล้วกระชากเข้าไปทางห้องอีกฝั่ง ประตูถูกปิดตามหลังอย่างรวดเร็ว บทจูบจู่โจมอันร้อนแรงเกิดขึ้นวินาทีนั้นสัมผัสเร่าร้อนไม่ทันตั้งตัวนี้ เสมือนเขาเห็นเธอคล้ายเป็นเหยื่อที่น่าโดนขย้ำ ลิ้นร้อนตวัดรุกล้ำเข้าขั้นอันตรายแรกเริ่มณภัทรตกใจแทบช็อคตาย แต่พอมีสติกลับมาเธอเบี่ยงหน้าหลบ ทว่าก็ทำไม่ถนัด ได้แต่ครางอย่างอัดอั้นอยู่ในลำคอ“อื้อ...”กลีบปากร้อนชื้นที่เหมือนกันทุกประการยามฝันเปียกกำลังบดคลึงกดจูบรุนแรงหนักขึ้นทุกที สมองน้อยๆ ของณภัทรเริ่มสับสนมึนงงจนทั้งร่างอ่อนระทวย รับรู้ได้ถึงกระแสไฟอบอุ่นเร่งเร้า เทียบชั้นสเต็ปปลุกปล้ำเล้าโลมสุดเร่าร้อนรุนแรงแทบถอนตัวไม่ขึ้น จนเธอตั้งรับแทบไม่ทัน สั่นสะท้านกันเลยทีเดียวสาวน้อยถึงขั้นเผยอปากจูบตอบ อีกฝ่ายก็ไม่รอช้า ตวัดลิ้นสอดแทรกเข้ามา เกี่ยวพันกับลิ้นเล็กๆ ของเธออย่างรุกล้ำไม่มีเวลารวบรวมสติที่เริ่มเตลิด แผงอกของเขาเบียดชิดเข้าหาตัวเธอ ความอุ่นร้อนจากร่างเขาโอบล้อมรอบตัวเธอความรู้สึกที่อธิบายไม่ไ
ผู้หญิงเรียบร้อยรักเรียนแต่มักจะแอบแซ่บบ่อยๆ เวลาที่อยู่คนเดียวอย่างณภัทร ไม่แปลกหากเรื่องไม่คาดคิดจะเกิดขึ้นเพราะความเมาของพวกเราในคืนนั้นณภัทรเมามายจนเดินเข้าผิดห้อง ขณะทำเรื่องน่าอายอย่างการช่วยตัวเองยังคิดว่าตนแค่ฝันหวานตามอารมณ์กำดัดสาวน้อยส่วนนิรัชเองก็ดื่มเบียร์อยู่คนเดียวในห้องจนเมามากเช่นกัน เขาทำเรื่องอย่างนั้นกับเธอด้วยอารมณ์เคลิ้มๆ ครึ่งหลับครึ่งตื่นคล้ายคนละเมอคิดว่าตนเองแค่ฝันเปียกสมจริงเกินไปเมื่อรู้ตัวอีกทีก็เสร็จสมด้วยกันทั้งสองฝ่ายถึงสองรอบใหญ่หลังจากนั้น กลับเป็นฝ่ายชายที่ถามหาความรับผิดชอบ ส่วนฝ่ายหญิงผู้แสนจะเรียบร้อยไม่เคยทำตัวออกนอกลู่นอกทางก็ทำได้เพียงหลบหลีกไม่ยอมรับผิดชอบ และไม่พูดถึงอีกฟันแล้วทิ้ง! เธอถูกพี่ชายตามกฎหมายตราหน้านับแต่นั้นก็จะให้ทำอะไรได้มากกว่านั้น พ่อเลี้ยงกับแม่ของณภัทรเพิ่งแต่งงานและจดทะเบียนสมรสเป็นครอบครัวเดียวกัน และเธอก็อายุแค่เพียงเท่านี้ กำลังเริ่มต้นชีวิตที่สดใสในรั้วมหาวิทยาลัย อนาคตยังอีกยาวไกล เรื่องอะไรจะต้องให้การพลั้งพลาดเสียตัวเพราะเมาเหล้ามาฉุดรั้งชีวิตในวัยสาวสะพรั่งกันล่ะไม่แฟร์หรอกนะ!บางทีผู้หญิงเรียบร้อยที่เคยรัก
เช้าวันใหม่สดใสเสมอณภัทรโยนเรื่องกลัดกลุ้มทิ้งไปอย่างคนไม่ต้องการเก็บทะเลทุกข์ไว้ในใจ เพราะชีวิตต้องเดินต่อไป หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล อาจมีสิ่งดีๆ รออยู่นับไม่ถ้วน หนึ่งในนั้นคืออนาคตอันสดใส เธอไม่อยากย่ำอยู่กับที่ให้จิตตกไปมากกว่านี้หญิงสาวลุกขึ้นมาแต่งตัวตั้งแต่ไก่ยังไม่ขันและนาฬิกาก็ยังไม่ทันปลุก ซ่อนหุ่นแซ่บสะท้านเทียบเท่าพริกยกสวนเอาไว้ภายใต้ชุดนักศึกษาที่แสนเรียบร้อย ไม่เผยความยั่วยวนออกมาเลยสักนิดหลังจากหมุนรอบกระจกสามรอบจนพอใจก็ลงแป้งบางๆ ทาลิปกลอสสีวาวใส เธอไม่ชอบแต่งหน้าจัดจ้าน เพราะหากมีสิวขึ้นก็จะเป็นการสิ้นเปลืองเงินเนื่องจากต้องไปหาซื้อยารักษาสิวยังต้องไปหาหมอเสริมความงามแล้วรักษาอย่างต่อเนื่อง เธอจึงเน้นการรักษาผิวพรรณให้เนียนละเอียดกระจ่างใสไร้ริ้วรอยอยู่ตลอดเวลา จะได้ไม่เปลืองเครื่องสำอางแต่งหน้าอะไรประหยัดได้ก็ต้องประหยัด เธอเป็นอย่างนี้เสมอมาณภัทรตรวจดูความเรียบร้อยของตนเองอีกหนจนพอใจก่อนจะกวาดสิ่งของจำเป็นลงกระเป๋าสะพายนอกจากของใช้ส่วนตัวจำพวกลิปกลอส แป้งฝุ่น แป้งตลับ ผ้าอนามัย ทิชชู โทรศัพท์ ของจุกจิกที่ชอบพกพาเป็นประจำแล้ว เวลานี้เธอยังพกถุงยางอนามัยและย
บนเวทีมงคล พิธีกรชายกำลังส่งคำถามแก่คู่บ่าวสาวด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่ม“ตามธรรมเนียม ทั้งสองต้องบอกมาตามตรงว่าพบรักกันได้ยังไง เล่ามาเลยครับ”ข้างล่างต่างรอฟังอย่างตื่นเต้นกันใหญ่ มีบางคนแอบสงสัยว่าพวกเขาคงแพ้ความใกล้ชิดแหละ ประมาณน้ำมันกับไฟเจอกันใครจะคิดอย่างไรไม่ใช่ว่านิรัชกับณภัทรจะรับรู้ไม่ได้ ทว่าต่อให้เป็นเพราะเหตุนั้นแล้วยังไงล่ะเจ้าบ่าวรับไมค์ไปกรอกเสียงตอบก่อน “ผมแอบชอบภัทรตั้งแต่ตอนเธออยู่มัธยมต้น เธอเป็นรักแรกพบของผม ตั้งแต่วันนั้น เจ้าสาวของผมคือเธอคนเดียวครับ”และคำตอบตรงไปตรงมาของคนพูดน้อยเรียกเสียงกรีดร้องจากสาวๆ ทั้งงานเลยทีเดียว หลายคนนับนิ้วกันใหญ่ หลายปีเชียว ผู้ชายในงานยังยกนิ้วโป้งส่งให้ นายแน่มาก...ตอนนี้ณภัทรหน้าแดงก่ำไปหมด เขินจนตอบไม่ถูกแล้วค่ะพิธีกรให้เวลาเธอได้สะเทิ้นอายพอประมาณแล้วเริ่มถาม “แล้วเจ้าสาวล่ะครับ เริ่มรักเจ้าบ่าวตอนไหนเอ่ย?”หญิงสาวค่อยๆ ตอบเสียงสั่น “รู้ตัวว่ารักหมดใจเมื่อไม่นานมานี่ล่ะค่ะ ก่อนหน้านั้นแค่มึนๆ ไม่ค่อยเข้าใจ”เสียงหัวเราะดังครืน คำตอบของเจ้าสาวยียวนใช้ได้เจ้าบ่าวแซวเธอ “เพราะแบบนี้ไงถึงต้องรีบแต่งงานเร็วๆ กลัวเจ้
งานหมั้นถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายหรูหราที่บ้านปัญจรักษ์ในหนึ่งเดือนต่อมา มีเพียงญาติสนิทและมิตรสหายเท่านั้นที่ได้รับสิทธิ์ร่วมงานสำคัญครั้งนี้ ส่วนงานฉลองมงคลสมรสจะถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่โรงแรมในเครืออีกหนึ่งเดือนข้างหน้าทว่าระหว่างนั้นณภัทรกลับเริ่มมีความผิดปกติของร่างกาย เธอรู้สึกผะอืดผะอมขมคอปั่นป่วนมวนท้องในตอนลืมตาตื่นตอนเช้า หญิงสาวคลื่นไส้อาเจียนและไวต่อกลิ่นกับอาหารการกินทุกอย่างเธอนึกขึ้นได้ว่าหยุดกินยาคุมกำเนิดตอนที่ห่างกับนิรัช แต่แล้วพลันถูกเขาจู่โจมอย่างร้อนแรงในเพ้นท์เฮ้าส์วันนั้น ถุงยางอนามัยก็ไม่ได้ใส่ กว่าจะรู้ตัวว่าลืมป้องกันก็ไม่ทันแล้วสุดท้ายความจริงจึงกระจ่าง เนื่องจากผลการตรวจครรภ์ของณภัทรขึ้นสองขีดเต็มๆทั้งนิรัชและณภัทรถูกลินดาเรียกไปต่อว่าเสียยกใหญ่เรียกได้ว่าบ้านแทบแตกพวกเขาได้แต่ก้มหน้าก้มตายอมรับผิดอย่างจำนนคนเป็นแม่โกรธจัดไม่ใช่เพราะอยากทำเหมือนที่บ้านเดิมหรืออะไร แค่รู้สึกผิดหวังที่ลูกสาวไม่ยอมบอกความจริงเท่านั้น“ภัทรไม่ควรโกหกแม่นะ ลูกคิดว่าแม่จะตัดหางปล่อยวัดเหมือนบ้านคุณตาคุณยายหรืออย่างไร? แม่ไม่สิ้นคิดทำร้ายลูกสาวสุดที่รักของแม่ขนา
ย้อนกลับไปเมื่อสองปีที่แล้ว ก่อนนิรัชเดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกา เขาคุยกับวิชัยตามตรงที่สนามบินโดยไม่ปิดบัง‘ผมกับภัทรรักกันเกินพี่น้อง เราสองคนจะแต่งงานทันทีเมื่อเรียนจบ’นั่นจึงทำให้วิชัยถึงขั้นไม่พูดไม่จา ยามเดินกลับมาสมทบกับลินดาและณภัทรที่ร้านอาหาร สีหน้าเขาเย็นชา ท่าทางเคร่งขรึม ครู่ใหญ่จึงยอมปริปาก“ตารัชไปแล้ว...ใจหายเหมือนกันนะ”ลินดารีบจับมือสามีมากุมเอาไว้ “เด็กๆ ต้องโตขึ้นค่ะ ตารัชจะเติบใหญ่โดยสมบูรณ์แล้วกลับมาดูแลปัญจรักษ์อย่างดีนะคะ”ชายวัยกลางคนพยักหน้า ตบเบาๆ ที่หลังมือภรรยา “อืม...ลูกๆ ของเรา พวกเขาโตแล้วจริงๆ”พวกเขาไม่ใช่แค่เด็กชายเด็กหญิงไร้เดียงสาอีกแล้ว... หลังจากนั้น วิชัยจึงค่อยๆ มอบหมายงานถึงขั้นมอบกิจการให้ณภัทรดูแลแบบเต็มตัว เพื่อฝึกเป็นสะใภ้หนึ่งเดียวแห่งปัญจรักษ์เพราะนั่นคือสินสอดทองหมั้น คือของขวัญรอวันแต่งงานของลูกชายกับลูกสาวณภัทรได้ฟังความจริงจากปากของนิรัชก็ได้แต่อึ้งส่วนปัญหาเรื่องผู้หญิงที่ชื่อชัญญ่า และห้องหนึ่งซึ่งพวกเขาอยู่ด้วยกัน ล้วนเป็นการเข้าใจผิดในห้องนั้นคือโซนวีไอพีให้กลุ่มที่นัดทำโปรเจกต์ร่วมกัน เจ้าของห้องคือแฟนต่างชาติของชัญญ่าณภ
ในขณะที่ณภัทรเปล่าเปลือยทั้งตัว นิรัชยังเหลือเสื้อด้านบน เขาหยัดกายขึ้นถอดมันออกไม่ไยดี เผยกล้ามตึงแน่นเรียงตัวงดงามเขาก้มหน้าลง บดจูบเธออีกครั้งและอีกครั้ง ลงลิ้นชิมรสหวานฉ่ำอย่างโหยหามาแรมปี ท่าทางร้อนรนและเก็บกดเต็มที่ เนินอกอวบนิ่มบดเบียดกล้ามลอนแข็งแกร่งแนบแน่นการขยับเสียดสีก่อเกิดความวาบหวิวสยิวซ่านในอีกครา ความพลุ่งพล่านเกิดขึ้นอีกคำรบ พวกเขายังคงไร้ซึ่งคำพูดใดต่อกันกระนั้นร่างกายกลับรู้ดีไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ นิรัชอุ้มณภัทรไปวางลงบนโซฟา เปลี่ยนสถานที่ร่วมกระสัน ปรับเปลี่ยนท่วงท่า เพิ่มความตื่นเต้นในลีลาแห่งรักใคร่คราวนี้เป็นสาวน้อยบ้างขึ้นคร่อมข้างบน อีกคนนั่งเอนกายพิงแผ่นหลังกับพนัก ปล่อยเธอย่ำยีคุมเกมส์ตามอัธยาศัยเสียงหอบกระเส่าของเขาดังอยู่ริมหู อกแกร่งสะท้านขึ้นลงใต้ร่างเธอณภัทรก้มหน้ากัดสันกรามอย่างแรง ทั้งประชดและหมั่นไส้ นิรัชเงยหน้าขึ้น หอมแก้มแดงฟอดใหญ่แววตาคมดุเต็มเปี่ยมไปด้วยความนัย ทำเอาคนถูกจ้องต้องสะเทิ้นอาย ขัดเขินโดยที่เขาไม่ต้องเอ่ยอะไรสักคำสะโพกกลมงามโยกเบาๆ แต่หน่วงหนึบตอดรัด เรียกเสียงสูดปากจากชายใต้ร่างได้ไม่ยาก เขาซุกซบใบหน้าลงบนเนินอกสล้าง ดูดกลื
นิรัชลงมือลงทัณฑ์รวดเร็ว ไม่ให้นักโทษสาวได้ตั้งตัวห้องครัวกลายเป็นสนามรักอันบ้าคลั่ง โต๊ะตัวยาวที่เดิมทีใช้กินอาหารยังกลายเป็นสถานที่เริงรักอันร้อนแรงตอนนี้ ณภัทรใจเต้นเร่าเหมือนจะตายให้ได้ ดวงตาหลับปี๋แน่นอนเธอตกใจ แต่ที่มากกว่านั้นคือกล้ามเนื้อในตัวเธอกำลังเต้นอย่างรุ่มร้อน ปวดตุบๆ ด้วยความถวิลหาผู้ชายตรงหน้าคือนิรัชไม่ผิดแน่ภายในกายเธอบีบรัด ทั้งเปียกทั้งพร้อมในเวลาอันรวดเร็ววูบแรกเธอรู้สึกน้อยใจจนเกือบจะท้อถอยถอดใจ ทว่าวูบต่อมาเธอกลับเอียงหน้าแนบเข้าหาสัมผัสของเขาตามสัญชาตญาณคนเราจะรู้สึกคิดถึงถวิลหาและรักใคร่หมดใจจนความผิดอะไรก็ลืมไปได้จนสิ้นในพริบตา แบบนี้เลยเหรอ?ท่ามกลางความรู้สึกสับสนมึนงงปนเป ณภัทรถูกนิรัชสั่นคลอนจิตใจโดยสมบูรณ์ ชายหนุ่มหญิงสาวคล้ายไฟเจอน้ำมัน เผาไหม้กลืนกินไม่ยั้ง ราวพายุหมุนพัดพาทุกสรรพสิ่งอย่างบ้าคลั่งนิรัชปลดเปลื้องกางเกงของตนอย่างรวดเร็ว หอบทุกความปรารถนาบรรจุลงบนความต้องการของร่างกายที่แข็งขึงตึงผงาดความเป็นชายสั่นระริกเพราะแข็งจัดเบียดเสียดแนบสนิทกับส่วนอ่อนไหวที่บัดนี้ฉ่ำเยิ้มพร้อมพรั่งกระทั่งสองร่างสอดผสานแนบแน่นถึงได้รู้ว่าพวกเขาตัวสั่น อ
แม้ปากจะบอกแบบนั้น แต่ทุกวันที่ผันผ่านก็ยังคงเลวร้ายในความรู้สึกอยู่มากโชคดีที่ณภัทรเป็นคนที่จัดการกับความรู้สึกตนเองได้เป็นอย่างดี หญิงสาวยิ่งรู้สึกว่าโชคดีเหลือเกินที่เธอเลือกเร้นรัก กักเก็บความสัมพันธ์ฉันแฟนกับนิรัชโดยไม่คิดเปิดเผยออกมาเผื่อที่ว่าถึงวันหนึ่งเรื่องของเธอกับเขามันเป็นไปไม่ได้ อะไรๆ จะได้ไม่เลวร้ายมากไปกว่านี้ผู้ชายน่ะ เวลาเปลี่ยนใจไปมีคนใหม่ พวกเขาจะสามารถมองหน้าผู้หญิงคนเก่าได้อย่างสบาย ทำทีเป็นไม่เคยมีอะไรต่อกันก็ยังได้ เพราะฉะนั้น เพื่อรักษาระดับความสัมพันธ์ฉันพี่น้องให้ครอบครัวไร้ปัญหา เธอก็จะต้องทำได้เช่นกันแต่ว่า...นั่นเฉพาะต่อหน้าคนอื่นเท่านั้นนะเวลาอยู่คนเดียว ณภัทรจะแอบร้องไห้บ้างอะไรบ้าง ตามประสาคนอกหักรักคุด รักผิดชีวิตสะดุด หยุดอยู่กับที่ไม่กล้าเดินหน้าคบใครต่อไปหลังจากเรียนจบปีสุดท้าย โมรินกับศรุตก็จับมือบินลัดฟ้า พี่เอมี่ก็ไปเป็นนางแบบอินเตอร์โดยมีคุณเควินคอยซับพอร์ตณภัทรจึงเหลือตัวคนเดียวโดยสมบูรณ์โคตรเหงา...เนื่องจากเรียนจบแล้ว ระหว่างรอรับปริญญา หญิงสาวจึงเข้าออฟฟิศทำงานเต็มตัว เต็มที่กับโครงการร่วมทุนสร้างกับคู่ค้า ตอนนี้เธอยัง
“น้าพลยอมโดยไม่กล้าขัดขืนเลยแหละ แต่เงื่อนไขคือต้องไปกับพี่รุต คุณแม่ของเขาถึงขนาดไปคุยกับน้าพลที่บ้าน ใช้อำนาจเจ้าของบริษัทเลยเชียว น้าพลก็เลยต้องยอม ส่วนค่าใช้จ่ายคุณแม่บอกว่าจะออกให้ทั้งหมด ถือเป็นสินสอดทองหมั้น”ณภัทรเลิกคิ้ว หญิงสาวรู้มาว่าศรุตตามจีบโมรินไม่เว้นวัน กระทั่งพาไปแนะนำตัวกับมารดาว่าเป็นแฟนแบบแนบเนียน หลังจากนั้นก็คอยไปรับไปส่งระหว่างบ้านกับมหาวิทยาลัยตลอด สองคนนี้ตกลงเป็นแฟนกันแล้ว หลังจากเรียนจบศรุตเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทของครอบครัว ไม่ได้ทำตัวล่องลอยไปวันๆ เหมือนแต่ก่อน เขาไม่ใช่ทายาทเพียงคนเดียวของครอบครัว ยังมีพี่ชายคนสำคัญรอสืบทอดกิจการอยู่แล้วทั้งคน จึงไม่จำเป็นต้องรีบไปเรียนต่อพร้อมนิรัช อีกทั้งชายหนุ่มยังต้องการรอโมรินเรียนจบแล้วไปต่างประเทศพร้อมกันณภัทรยิ้มขื่น เธอเองก็ควรให้นิรัชรอเหมือนกันใช่ไหม? แต่คิดไปคิดมา หากย้อนเวลากลับไปเธอจะทำอย่างนั้นได้จริงเหรอเสี่ยวิชัยมีนิรัชเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนแค่เพียงคนเดียว ตัวของเสี่ยวิชัยเองก็ไม่มีพี่น้อง บิดามารดาก็ไม่อยู่แล้ว หลังจากภรรยาคนเก่าเสียชีวิตเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เขาก็อยู่กับนิรัชแค่สองคนจนกระท
หญิงสาวก้มหน้าทำงาน พยายามไม่คิดมากอีกทว่าท้ายที่สุด เธอก็พ่ายแพ้ให้แก่หัวใจไม่รักดีของตัวเองเรียวนิ้วเปิดโปรแกรมเฟสไทม์ ทำใจดีสู้เสือโทรออกไป นานครู่ใหญ่จนเกือบจะถอดใจ ในที่สุดปลายสายก็กดรับภาพของคนคุ้นเคยสุดแสนจะคิดถึงก็ปรากฏ “ว่าไงภัทร?”หญิงสาวกะพริบตา มือบีบโทรศัพท์แน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอพยายามข่มใจไม่คิดมากกับคำถามชวนคิดมากแบบนี้“ก็ไม่ว่าไง พี่รัชทำอะไรอยู่เหรอ?”“ช่วงนี้พี่กำลังยุ่งมากเลยภัทร ไม่ว่างโทรหาเลย”คนฟังมุ่นคิ้ว เธอก็ยุ่งเหมือนกันนี่นา...หญิงสาวกำลังจะเอ่ยปากบอกไปตามตรงว่าเธอเองก็ยุ่งเหมือนกันไง ทำไมยังโทรหาเขาได้ เสียงหวานหนึ่งพลันเอ่ยแทรก“รัช...ไปกันเถอะ”เสียงของผู้หญิงไม่ผิดแน่ ณภัทรยังเห็นภาพเธอจากในโทรศัพท์ด้วย ผู้หญิงคนนั้นคือชัญญ่า...อดีตพี่รหัสของณภัทรนั่นเอง“อ้าว! น้องภัทรเหรอ? สวัสดีจ๊ะ” แค่นั้น ชัญญ่าทักทายเพียงแค่นั้น ก่อนหันไปทางนิรัช “รัช...เราไปกันเถอะ”“อืม...แค่นี้ก่อนนะภัทร”ปลายสายตัดไป ณภัทรได้แต่อึ้ง เธอเห็นภาพที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ที่นั่นคือห้องสี่เหลี่ยมห้องหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ห้องเรียนแน่นอน...ธุรกิจเบเกอรี่ที่ณภัทรร่วมหุ้นกับภานียังคงไ
ระยะเวลาที่ห่างกัน จากหนึ่งวันเป็นหนึ่งเดือน จากนั้นก็เลื่อนเป็นหนึ่งปีสองปีตามลำดับ ณภัทรยังคงคิดถึงนิรัชเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเริ่มเคยชินรถซุปเปอร์คาร์สีเหลืองสดแซ่บจี๊ดวนเข้ามาจอดด้านหน้าของภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง ประตูเปิดออกโดยบริกรที่มาคอยให้บริการ สาวสวยดูดีในมาดนักธุรกิจรุ่นใหม่ค่อยๆ ก้าวเท้าลงมา เธอสวมสูทสไตล์แฟชั่นล้ำสมัย ซึ่งเป็นการรังสรรค์เสื้อผ้าอันโดดเด่นที่มีส่วนช่วยให้เกิดความประทับใจต่อผู้ติดต่อทางธุรกิจ และยังสะท้อนทัศนคติไร้ขีดจำกัดให้กับผู้หญิงยุคนี้ที่บทบาททางสังคมเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจนแตกต่างจากในอดีตเธอคือณภัทร ผู้สลัดลุคนักศึกษาสาววัยใสกลายเป็นสาวสวยมั่นใจเต็มวัย แต่งหน้าทาปากเข้มขึ้นจนมองอายุจริงไม่ออก เสื้อผ้าหน้าผมล้วนได้โมรินช่วยดีไซน์และจัดการให้วันนี้เธอต้องมาเจรจาธุรกิจแทนวิชัยสาเหตุเป็นเพราะอีกฝ่ายออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อนเพลินเกินไปหน่อย กระทั่งเอวเคล็ดกระดูกเคลื่อนเล็กน้อยจนต้องแอดมิทโรงพยาบาล ในขณะที่ลินดาป่วยเข้าโรงพยาบาลไปแล้วก่อนหน้าณภัทรรู้ดีว่ามารดาของตนสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เนื่องจากต้องตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ตอนอายุน้อยอีกทั้งยังตรากตร