ระหว่างสวีทหวานเสียงตื่นตระหนกพลันดังอยู่นอกประตู เป็นเสียงของโมริน
“ยัยภัทร แม่แกมา!”
ประโยคนั้นทำณภัทรชะงักนิ่งก่อนตกตะลึง จำต้องแกะอ้อมแขนอบอุ่นของนิรัชออกทันทีราวกับกำลังแตะต้องของร้อน เธอผลักอกเขาเบาๆ รีบเร่งออกจากห้องแต่งตัวทันใด
สาวน้อยยังไม่ลืมหันมาสั่ง “พี่รัชปิดประตูล็อคห้องให้แน่นด้วยนะ หากใครเข้ามาเห็นเข้าเรื่องใหญ่แน่นอน”
เธอว่าพลางกวาดตามองหลักฐานทั่วห้องที่ฟ้องชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่ว่าจะเป็นผ้าปูเตียงที่ยับย่นจากกิจกรรมเร่าร้อน คราบเลอะเทอะต่างๆ หยดน้ำเจิ่งนองเป็นทางที่เกิดจากการนัวเนียหลายท่าทางหลากลีลาจากห้องน้ำจนถึงโต๊ะติดบุผนังกระทั่งโซฟา
ไม่ว่าท่าซ้อนหลังคลานเข่าเอาซะทิ้งร่อยรอยกลาดเกลื่อน คงต้องปลีกตัวมาจัดการทุกซอกทุกมุมด้วยตนเองเท่านั้น
ณภัทรครุ่นคิดรอบคอบก่อนหายตัวออกนอกห้องอย่างไว
เมื่อเห็นอ้อมแขนอบอุ่นที่ว่างเปล่า ชายหนุ่มลอบสบถในใจ เขาอยากให้เรื่องแดงเต็มทีจะได้รับผิดชอบเปิดตัวเป็นแฟนไปเลย จะหมั้นก่อนหรือแต่งงานเลยก็ยังได้
ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆ บึ้งตึง ไม่สบอารมณ์อย่างมาก
ห้องนอนนี้อยู่ชั้นลอยที่ระเบียงเป็นกระจกใส เมื่อนิรัชเดินมาเปิดประตูห้องเพื่อมองลงไปข้างล่างก็เห็นลินดากับพี่แววเดินเข้าประตูใหญ่มาแล้ว โดยมีณภัทรกับโมรินเดินนำสองคนนั้นเดินไปตามทางซิกแซกล้ำสมัยของเพ้นท์เฮ้าส์แล้วพากันเข้าไปทางห้องครัว
ชายหนุ่มจึงเดินออกมานอกห้องยังไม่ลืมปิดประตูล็อคห้องอย่างแน่นหนาตามคำสั่งของณภัทร
แม้จะขัดใจตนแต่เขาไม่เลือกขัดใจอีกคนแน่นอน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ แต่เขาตามใจณภัทรทุกเรื่องเกินไปจริงๆ
นิรัชเดินลงบันไดก่อนเดินไปทางโซฟาฝั่งหนึ่งที่มีศรุตนั่งอยู่ เขาหย่อนกายนั่งลงข้างๆ เพื่อนสนิทอย่างหงุดหงิด
ศรุตที่กำลังทำหน้าตื่นเต้นยิ่งกว่าแม่ตัวเองมามองหน้านิรัช “คุณอาลินดามาทำไมเนี่ย? ตกใจหมด”
“ตกใจอะไรของแก?” นิรัชถามเสียงเย็น
ศรุตเขยิบเข้ามากระซิบถาม “แกไม่ตกใจเหรอ?”
นิรัชเงียบไม่ตอบ
ศรุตมองจากสีหน้าเพื่อนแล้วก็ร้องอ้อในใจ “อยากเปิดตัวขนาดนั้น?”
ยังคงไร้คำตอบ แต่สีหน้าบ่งบอกมากๆ ว่า ‘ใช่’
ศรุตจึงตบไหล่เพื่อนกระซิบอีก “ใจเย็นก่อนเถอะเพื่อน น้องภัทรยังเด็ก แม่ก็ดูจะเจ้าระเบียบขนาดนั้น ดีไม่ดีอาจมีปัญหาครอบครัวลามปามใหญ่โตไปถึงขั้นที่พ่อแกยังต้องปวดหัวแก้ไม่ตก อีกอย่าง ท่าทางพ่อแกรักภรรยาคนนี้มากด้วย หากคุณอาลินดาโกรธเรื่องแกกับภัทรขึ้นมา บ้านแตกแน่นอน”
บางครั้งเพลบอยที่เอาแต่เจ้าชู้เกเรเสเพลไปวันๆ กลับมีความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่กับเขาบ้าง
“เชื่อฉันนะ แกใจเย็นก่อน รอน้องเรียนจบค่อยรวบรัดแต่งงานโดยไม่ต้องหมั้นไปเลยทีเดียว”
นิรัชขมวดคิ้ว ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งเครียด “อีกสี่ปี!”
หากรวมกับที่เขาแอบชอบเธอตั้งแต่มัธยมต้น มัธยมปลาย จนถึงวันนี้กระทั่งรอเธอเรียนจบมหาลัย ทั้งหมดก็เกือบสิบปี!
วัยรุ่นมักใจร้อน ศรุตจึงเข้าใจเพื่อน “แต่สี่ปีไม่ใช่สี่เดือน เออว่ะ! นานจริงแหละ สมัยนี้คนที่แต่งงานแล้วเรียนมหาลัยไปด้วยเยอะแยะเนอะ ยังไม่นับที่อยู่เป็นคู่ผัวเมียเฉยๆ ยังจะพวกคุณหนูทั้งหลายที่มีคู่หมั้นเป็นตัวเป็นตนพร้อมแต่งทุกเวลาอีกเป็นพรวน กฎมหาลัยก็ไม่ได้ห้ามเป็นจริงเป็นจังในเรื่องนี้”
ยิ่งปลอบยิ่งไปกันใหญ่ นอกจากเพื่อนจะไม่ใจเย็นลงแล้ว นิรัชยังรู้สึกใจร้อนมากกว่าเดิมซะอีก ศรุตเริ่มไปไม่เป็น พูดไม่ถูก
ขณะศรุตกำลังใบ้กิน จังหวะนั้นณภัทรกลับรีบเดินมานั่งที่โซฟาอีกตัว ตามด้วยโมริน ท่าทางทั้งสองตื่นเต้นอย่างกับเจอผีศรุตหันไปถาม “มีอะไรกัน?”โมรินจัดระเบียบเส้นผมให้ณภัทรโดยการทำให้มันแผ่สยายคลี่คลุมใบหูตลอดลำคอจนมิดชิด เผยให้เห็นแค่ใบหน้าจิ้มลิ้มตั้งแต่หน้าผากจรดปลายคาง พลางกระซิบตอบเสียงเบา“ก็พี่รัชน่ะสิ ฝากรอยอะไรให้ยัยภัทรเนี่ย เกือบไปแล้ว”“...”ได้ฟังประโยคนี้เท่านั้นแหละนิรัชถึงได้ใจเย็นลงณภัทรเห็นสีหน้าได้ใจของนิรัชก็แทบจะกระโดดไปกัดคอขาวๆ ของอีกฝ่ายอย่างเข่นเขี้ยว แต่ติดนิดเดียวตรงที่เวลานี้ไม่ได้อยู่แค่สองคน เธอจึงเอ่ยเสียงลอดไรฟัน“พี่รัชแกล้งภัทร!”นิรัชมองณภัทรยิ้มๆโมรินไม่เข้าใจนิรัชแต่ย่อมเข้าใจเพื่อนสนิทของตน คนยังไม่พร้อมเข้าใจไหม ผู้หญิงเขายังไม่พร้อม…เธอกำลังรู้สึกเหมือนเป็นผู้จัดการดาราซุปเปอร์สตาร์ เพื่ออนาคตอันสดใสยาวไกลรุ่งโรจน์ จึงไม่ควรอย่างยิ่งที่จะให้สาธารณะชนรู้ว่ามีแฟนหนุ่มซ่อนไว้ตอนนี้หญิงสาวนึกขึ้นได้ “จริงด้วย เราต้องกลับไปเอาของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นหลายอย่างเลยที่บ้านน่ะ ภัทรไปส่งหน่อย”กล่าวพลางจับมือณภัทรให้ลุกขึ้นแล้วพากันเดินไปทางประตูห้องนั่งเล่น
ลินดาเว้นจังหวะก่อนค่อยๆ เล่าต่อด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย“ในขณะที่เรื่องงานยังไม่คืบหน้าแต่ความสัมพันธ์ของเขากับเธอกลับล้ำหน้าไปไกล ไม่นานพวกเขาก็เริ่มต้นจีบกัน มองตา จับมือกัน จูบกัน และลงเอยด้วยเซ็กส์สุดเร่าร้อนบนโต๊ะทำงานในบ้านฝ่ายชาย บนโซฟา โต๊ะกินข้าว และอีกหลายรอบบนเตียงนอนที่เคยเป็นของภรรยา เขาได้ค้นพบรสสัมผัสแปลกใหม่ ในขณะที่ภรรยาของเขาทั้งห่างเหิน ไม่มีเวลาให้ เรื่องเซ็กส์ยิ่งจืดชืดลงทุกวัน เขาจึงพาเพื่อนร่วมงานสาวสวยคนนี้มามีสัมพันธ์ลับสุดสวาทที่บ้านของเขานับครั้งไม่ถ้วน เดิมทีเขาคิดว่าแอบมีอะไรกันแบบนี้ก็ดีทั้งตื่นเต้นเร้าใจ สามีเธอไม่รู้ ภรรยาเขาก็ไม่รู้ ทั้งสองคนแอบเล่นชู้ระเริงรักกันโดยไม่สนศีลธรรม และแล้วปัญหาก็เกิดขึ้น เมื่อต่อมาภรรยาของเขาเกิดระแคะระคายและสืบรู้จนได้ เขาขอโทษเธอและขอโอกาสแก้ตัว ภรรยาก็ใจดีไม่ถือสา แต่ว่ามันไม่จบแค่เท่านั้น เมื่อผู้หญิงยังตามอ่อยทุกครั้งที่มีโอกาส โดยการเอาเรื่องงานมาอ้าง เซ็กส์ที่ถูกขัดขวาง ต้องหลบๆ ซ่อนๆ จะยังไงก็เร้าใจเกินจินตนาการ ทำให้คนเร่าร้อนตกอยู่ในเพลิงราคะยากหักห้ามกิเลสตัณหา แน่นอนว่าสุดท้ายพวกเขาแอบมีเซ็กส์กันอีกหลายครั้ง
เธอถาม “แล้วเขากลับไปหาภรรยาของเขาหรือเปล่าคะ”ลินดาพยักหน้า “เขาพยายามตามง้อภรรยาคนเก่าอยู่นะ”“แล้วสำเร็จมั้ยคะ”“ยังนะ ภรรยาของเขาใจแข็งพอตัว อีกอย่างเธอมีคนมาจีบเยอะด้วย ระดับคุณหมอโสดสนิทก็มี เธอคงกำลังตัดสินใจเลือกแฟนใหม่เพื่อตัดใจจากสามีแบบเด็ดขาด ช่วงนี้ยังได้ข่าวว่าสามีเก่าเอาแต่ตามหึงจนหน้าดำหน้าแดงทุกวัน”ภานีจึงหลุดหัวเราะได้ในที่สุด “ตอนนี้ไม่รู้จะสงสารใครดี นี่เป็นเรื่องของใครคะคุณดา”“เป็นเรื่องของเพื่อนชายคนหนึ่งของดาเอง เกิดขึ้นหลายปีแล้วค่ะ สมัยที่ดายังทำงานบริษัทอยู่ก็สนิทกันจนรู้ทุกเรื่องแหละ แต่แค่รู้นะ ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้จริงๆ ยังสมน้ำหน้าฝ่ายชายจนทุกวันนี้”ความสบายใจเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ภานีถอนหายใจถามยิ้มๆ “หากภาตัดสินใจเลิกกับสามี เขาจะมาตามง้อหรือเปล่าน้อ”“ตอนที่สามีขอเลิกกับภรรยาเพื่อไปกับผู้หญิงอีกคน เขาก็ไม่เคยคิดว่าต้องกลับมาง้อภรรยาเก่า ในขณะที่ภรรยาเก่าก็เฝ้ารอให้เขามาง้อ กระทั่งเลิกรอไปแล้วนั่นแหละ ฝ่ายสามีถึงได้มาง้อ”ภานีขมวดคิ้ว “แต่ถ้าผู้หญิงใหม่ทำตัวดี สามีคงไม่มาง้อ”“ประเด็นไม่ใช่เรื่องง้อหรือไม่ง้อและไม่ใช่แค่การตัดใจได้ของภรรยาเก่า
รถคันหรูของนิรัช เจ้าตัวให้ศรุตเป็นคนขับ โดยมีโมรินนั่งอยู่ด้านข้างคนขับส่วนนิรัชถูกณภัทรดึงมานั่งด้วยกันที่เบาะข้างหลังเพื่อฟังเธอบ่นไปหลายคำ เรื่องที่ทำอะไรไม่ระวัง ทิ้งหลักฐานไว้ที่คอเธอณภัทรบ่นไปบ่นมากลับถูกนิรัชจับจูบเพื่อปิดปากศรุตกับโมรินไม่มีใครเห็นเหตุการณ์เร่าร้อนที่เบาะข้างหลังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเสียงพร่ำบ่นของฝ่ายหญิงหายไปเมื่อไหร่ทำไมถึงหายไป กระจกหลังพวกเขายังไม่สนใจมองเนื่องจากศรุตสนใจแต่โมรินกับทางข้างหน้า ส่วนโมรินก็สนใจแต่ช่วยศรุตมองทางอย่ามัวมาชวนเธอคุยกว่าจะมาถึงบ้านของโมริน ณภัทรก็ปากแดงก่ำช้ำไปหมดทุกคนลงจากรถหลังจากเข้ามาจอดเทียบที่ลานหน้าบ้าน โมรินกับณภัทรเข้าบ้านส่วนนิรัชกับศรุตรออยู่ข้างนอกตามมารยาทที่ลานจอดรถพวกเขาเห็นมีรถซีดานคันหนึ่งจอดอยู่ ซึ่งหมายความว่าเจ้าของบ้านกลับมาแล้ว ศรุตกับนิรัชมองหน้ากัน เห็นสมควรว่าต้องเข้าไปทักทายผู้ใหญ่ จึงพากันเดินเข้าบ้านไปทว่าเพิ่งเดินเข้ามาถึงโถงรับแขกก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันดังแว่วมา เป็นเสียงของโมรินกับเสียงของผู้ชายวัยกลางคน ซึ่งแน่นอนว่าย่อมเป็นน้าชายของเธอนิรัชกับศรุตยืนชะงักอยู่กับที่ตรงประตูไม่
พลวัตรตะคอกเสียงดังลั่น “น้าเป็นน้าแท้ๆ ของแกนะโม แกทำกับน้าแบบนี้ได้ยังไง แกเป็นแค่หลานมีสิทธิ์อะไรมาพรากลูกพรากเมียของน้าไป น้องพอสต้องมีพ่อนะโม เด็กอยู่ไม่ได้หรอกนะถ้าไม่มีพ่อ น้าเป็นผู้ชายจะมีเรื่องอย่างว่ากับคนอื่นก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร ผู้ชายมันก็ต้องมีความใคร่ต้องการปลดปล่อยทั้งนั้น ต่อให้น้าเลวยังไง มันก็เรื่องของน้า ไม่ว่าน้าจะมีผู้หญิงอื่นกี่คนหรือไปนอนกับใครมายังไง น้าก็ดูแลครอบครัวของตัวเองได้ดี ไม่เคยขาดตกบกพร่องอะไร ภากับลูกก็ไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ แกเองมันเกเรเสียคนเกินไปแล้วโม แกกล้าชักนำน้าสะใภ้เสียคนตอนแก่ได้ไง?”ปกติโมก็ปากเก่งอยู่หรอก แต่ตอนนี้โมได้แต่อึ้ง เถียงอะไรไม่ออกสักคำแม้ว่าหลานสาวจะเงียบไปแล้วแต่พลวัตรก็ยังไม่หยุดต่อว่า “แกควรเคารพและให้เกียรติน้านะโม อย่าดื้อด้านให้มันมากนัก ไม่อย่างนั้นน้าจะไม่ให้แกเรียนแล้ว จะให้กลับบ้านนอกไปซะ”“น้าพล!”โมรินตกใจ จากที่ไม่เคยร้องไห้กลับเริ่มมีน้ำตาปริ่มออกมาอย่างไม่อายแล้วเรื่องนี้ทำไมถึงกลายเป็นเธอผิดจนไม่ได้เรียนล่ะ? เห็นชัดๆ ว่าคนผิดคือน้าพล พวกผู้ชายนี่มันยังไง?โมรินได้แต่ยืนเบื้อใบ้เม้มปากกลั้นน้ำตาภัทรเห็นเพื่อน
ณภัทรพูดจบก็ยิ้มก่อนยกมือไหว้เพื่อขออภัยที่เสียมารยาทกับพลวัตร ทว่าท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเคารพนะแต่ไม่นับถือ จากนั้นก็พาโมรินเดินเข้าไปในบ้านเพื่อเก็บของส่วนตัวอย่างเงียบงันศรุตหันมากระซิบกับนิรัช “แกเจอผู้หญิงเบอร์หนึ่งแล้วว่ะ ทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องอย่างนี้คือแบบ...”เขาไม่รู้จะพูดยังไงจึงเริ่มเกาหัวจนผมยุ่ง “ว่าแต่โมรินที่เห็นร้ายๆ ที่แท้ก็แข็งนอกอ่อนในแบบนี้นี่เอง ส่วนน้องภัทรผู้น่ารักกลับน่ากลัวกว่าที่คิดไว้เยอะเลย แกระวังตัวไว้เถอะไอ้รัช”คนถูกเตือนเอ่ยเสียงเย็น “ฉันไม่ใช่ผู้ชายแบบน้าพล”ศรุตย่นคิ้ว “แล้วแกเป็นผู้ชายแบบไหน?”นิรัชหันมองเพื่อน “ก็ไม่ใช่แบบแกแล้วกัน”ศรุตจึงหมดคำจะพูดระหว่างคุยกันก็เห็นพลวัตรนั่งลงบนโซฟาอย่างหงุดหงิด ท่าทางแข็งกร้าวเมื่อครู่ยิ่งแข็งกระด้างมากกว่าเดิม สีหน้าหล่อเข้มยังเผยความรู้สึกผิดผสมปนเปกับความรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมออกมาอย่างชัดเจนซักพักก็มีเสียงรอสายดังขึ้นจากโทรศัพท์มือถือของพลวัตร เขากดรับสาย กรอกเสียงทุ้มต่ำลงไป“ว่าไงครับหวาน...”ย่อมเป็นกิ๊กสาวหรือเมียน้อยหน้าใสที่ชื่อน้ำหวาน ผู้ซึ่งคอยยุแยงภานีจนครอบครัวแตกแยกอยู่ขณะนี้นิรัชกับศรุ
เรื่องนี้จริงอย่างที่ศรุตว่า นิรัชเองก็สังเกตเห็นเช่นกัน ช่วยไม่ได้ ในเมื่อภาพมันฟ้องชัดเจนขนาดนั้น มีเพียงพลวัตรที่มัวแต่มองโมรินอย่างตกใจ จึงไม่ทันได้สังเกตเห็นอะไรๆ ได้ชัดเจนศรุตพูดอีก “ฉันเคยคลุกวงในกับกลุ่มลับเฉพาะมาบ้าง สาวๆ กลุ่มน้ำหวานนี่ถ้าจำไม่ผิดก็อยู่ในขบวนไซด์ไลน์ รับงานเที่ยว งานอีเอ็นบวกวีไอพีอัพซั่ม รับผูกปิ่นโต เด็กเสี่ย เมียน้อย นางบำเรอ ข้าวของแบรนด์หรูที่ประโคมทั่วตัวก็ได้จากงานพวกนี้แหละ ถ้าฉันลงมือกับน้ำหวานนะ รับรองหล่อนไม่หันกลับมามองน้าพลแน่”“ตามใจแก” นิรัชไม่สนใจเรื่องนี้อีกระหว่างคุยกันนั้นณภัทรก็แบกเป้เดินออกมาจากในบ้าน โดยมีโมรินหอบของใช้จำพวกหนังสือเครื่องเขียนสมุดสเก็ตภาพกระดานวาดรูปเดินเยื้องด้านหลังท่าทางเหมือนพวกหนีตามกันอย่างไรอย่างนั้นโมรินพูดกับณภัทร “แก...ฉันเห็นใจน้าพลจังเลยอ่ะ”อีกฝ่ายหันมองเพื่อน “คนที่น่าเห็นใจที่สุดตอนนี้คือน้าภากับน้องพอสต่างหาก” ณภัทรหยุดยืนเพื่อพูดกับโมรินอย่างจริงจัง “แต่ถ้าแกอยากช่วยน้าพล หลักฐานที่น้าภาเก็บไว้สามารถใช้ฟ้องชู้โดยไม่ฟ้องหย่าได้นะ ขอแค่น้าพลรู้สึกผิดและคิดได้เท่านั้น”โมรินส่ายหน้าอย่างลั
หลายวันต่อมา ในที่สุดพลวัตรก็ตามสืบที่อยู่ของภานีได้ เขาแอบตามโมรินมาจากมหาวิทยาลัยอยู่หลายวันถึงได้รู้สักทีแต่เนื่องจากยามรักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านหน้าไม่ให้คนนอกขึ้นไปก่อนได้รับอนุญาต ต่อให้คนนั้นแจ้งว่าเป็นสามีก็ตาม เขาจึงไปดักรอภรรยาที่ประตูทางเข้าลอบบี้ด้านล่าง รอจนกระทั่งวันหนึ่งภานีเดินลงมา เขาจึงเดินตามไปดักข้างหน้าแล้วลากตัวไปตรงมุมลับตาผู้คน“พล!”“ภา! กลับบ้านเดี๋ยวนี้”การยื้อยุดเกิดขึ้นครู่หนึ่ง เมื่อเห็นภานีทำท่าแข็งขึงดึงดันอย่างที่ไม่เคยเป็น พลวัตรจึงเริ่มอ่อนลง“ภา! กลับบ้านเถอะ ให้โอกาส ให้เวลาพลเคลียร์ตัวเองนะ ให้เรากลับมาเป็นครอบครัวเหมือนเดิม”“ให้เวลาเคลียร์?” ภานีสะบัดมือเขาออก “เคลียร์ยังไง?”พลวัตรยังตอบไม่ได้ว่าเคลียร์ยังไง ได้แต่บอกเสียงค่อย “ภาแค่รอพลนะ กลับไปอยู่บ้าน รอพล...”“รอ?” ภานีเลิกคิ้วแค่นเสียงเหยียด “รอพลอิ่มตัว? รอพลคั่วกับยัยนั่นจนหนำใจ? ซ้ำกันเรื่อยๆ ใช่มั้ย? ภาก็เคยรอแล้วไง เกือบปีแล้วละมั้ง ยังต้องรออีกเหรอ? จะเอากันอีกนานแค่ไหน?”พลวัตรเงียบกริบภานีพูดอีก “แล้วระหว่างรอพลมีคนอื่น ภามีใคร? คิดว่าผู้ชายเปลี่ยวเป็นฝ่ายเดียวหรือไง? เวลาพลไป
แม้ปากจะบอกแบบนั้น แต่ทุกวันที่ผันผ่านก็ยังคงเลวร้ายในความรู้สึกอยู่มากโชคดีที่ณภัทรเป็นคนที่จัดการกับความรู้สึกตนเองได้เป็นอย่างดี หญิงสาวยิ่งรู้สึกว่าโชคดีเหลือเกินที่เธอเลือกเร้นรัก กักเก็บความสัมพันธ์ฉันแฟนกับนิรัชโดยไม่คิดเปิดเผยออกมาเผื่อที่ว่าถึงวันหนึ่งเรื่องของเธอกับเขามันเป็นไปไม่ได้ อะไรๆ จะได้ไม่เลวร้ายมากไปกว่านี้ผู้ชายน่ะ เวลาเปลี่ยนใจไปมีคนใหม่ พวกเขาจะสามารถมองหน้าผู้หญิงคนเก่าได้อย่างสบาย ทำทีเป็นไม่เคยมีอะไรต่อกันก็ยังได้ เพราะฉะนั้น เพื่อรักษาระดับความสัมพันธ์ฉันพี่น้องให้ครอบครัวไร้ปัญหา เธอก็จะต้องทำได้เช่นกันแต่ว่า...นั่นเฉพาะต่อหน้าคนอื่นเท่านั้นนะเวลาอยู่คนเดียว ณภัทรจะแอบร้องไห้บ้างอะไรบ้าง ตามประสาคนอกหักรักคุด รักผิดชีวิตสะดุด หยุดอยู่กับที่ไม่กล้าเดินหน้าคบใครต่อไปหลังจากเรียนจบปีสุดท้าย โมรินกับศรุตก็จับมือบินลัดฟ้า พี่เอมี่ก็ไปเป็นนางแบบอินเตอร์โดยมีคุณเควินคอยซับพอร์ตณภัทรจึงเหลือตัวคนเดียวโดยสมบูรณ์โคตรเหงา...เนื่องจากเรียนจบแล้ว ระหว่างรอรับปริญญา หญิงสาวจึงเข้าออฟฟิศทำงานเต็มตัว เต็มที่กับโครงการร่วมทุนสร้างกับคู่ค้า ตอนนี้เธอยัง
“น้าพลยอมโดยไม่กล้าขัดขืนเลยแหละ แต่เงื่อนไขคือต้องไปกับพี่รุต คุณแม่ของเขาถึงขนาดไปคุยกับน้าพลที่บ้าน ใช้อำนาจเจ้าของบริษัทเลยเชียว น้าพลก็เลยต้องยอม ส่วนค่าใช้จ่ายคุณแม่บอกว่าจะออกให้ทั้งหมด ถือเป็นสินสอดทองหมั้น”ณภัทรเลิกคิ้ว หญิงสาวรู้มาว่าศรุตตามจีบโมรินไม่เว้นวัน กระทั่งพาไปแนะนำตัวกับมารดาว่าเป็นแฟนแบบแนบเนียน หลังจากนั้นก็คอยไปรับไปส่งระหว่างบ้านกับมหาวิทยาลัยตลอด สองคนนี้ตกลงเป็นแฟนกันแล้ว หลังจากเรียนจบศรุตเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทของครอบครัว ไม่ได้ทำตัวล่องลอยไปวันๆ เหมือนแต่ก่อน เขาไม่ใช่ทายาทเพียงคนเดียวของครอบครัว ยังมีพี่ชายคนสำคัญรอสืบทอดกิจการอยู่แล้วทั้งคน จึงไม่จำเป็นต้องรีบไปเรียนต่อพร้อมนิรัช อีกทั้งชายหนุ่มยังต้องการรอโมรินเรียนจบแล้วไปต่างประเทศพร้อมกันณภัทรยิ้มขื่น เธอเองก็ควรให้นิรัชรอเหมือนกันใช่ไหม? แต่คิดไปคิดมา หากย้อนเวลากลับไปเธอจะทำอย่างนั้นได้จริงเหรอเสี่ยวิชัยมีนิรัชเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนแค่เพียงคนเดียว ตัวของเสี่ยวิชัยเองก็ไม่มีพี่น้อง บิดามารดาก็ไม่อยู่แล้ว หลังจากภรรยาคนเก่าเสียชีวิตเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เขาก็อยู่กับนิรัชแค่สองคนจนกระท
หญิงสาวก้มหน้าทำงาน พยายามไม่คิดมากอีกทว่าท้ายที่สุด เธอก็พ่ายแพ้ให้แก่หัวใจไม่รักดีของตัวเองเรียวนิ้วเปิดโปรแกรมเฟสไทม์ ทำใจดีสู้เสือโทรออกไป นานครู่ใหญ่จนเกือบจะถอดใจ ในที่สุดปลายสายก็กดรับภาพของคนคุ้นเคยสุดแสนจะคิดถึงก็ปรากฏ “ว่าไงภัทร?”หญิงสาวกะพริบตา มือบีบโทรศัพท์แน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอพยายามข่มใจไม่คิดมากกับคำถามชวนคิดมากแบบนี้“ก็ไม่ว่าไง พี่รัชทำอะไรอยู่เหรอ?”“ช่วงนี้พี่กำลังยุ่งมากเลยภัทร ไม่ว่างโทรหาเลย”คนฟังมุ่นคิ้ว เธอก็ยุ่งเหมือนกันนี่นา...หญิงสาวกำลังจะเอ่ยปากบอกไปตามตรงว่าเธอเองก็ยุ่งเหมือนกันไง ทำไมยังโทรหาเขาได้ เสียงหวานหนึ่งพลันเอ่ยแทรก“รัช...ไปกันเถอะ”เสียงของผู้หญิงไม่ผิดแน่ ณภัทรยังเห็นภาพเธอจากในโทรศัพท์ด้วย ผู้หญิงคนนั้นคือชัญญ่า...อดีตพี่รหัสของณภัทรนั่นเอง“อ้าว! น้องภัทรเหรอ? สวัสดีจ๊ะ” แค่นั้น ชัญญ่าทักทายเพียงแค่นั้น ก่อนหันไปทางนิรัช “รัช...เราไปกันเถอะ”“อืม...แค่นี้ก่อนนะภัทร”ปลายสายตัดไป ณภัทรได้แต่อึ้ง เธอเห็นภาพที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ที่นั่นคือห้องสี่เหลี่ยมห้องหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ห้องเรียนแน่นอน...ธุรกิจเบเกอรี่ที่ณภัทรร่วมหุ้นกับภานียังคงไ
ระยะเวลาที่ห่างกัน จากหนึ่งวันเป็นหนึ่งเดือน จากนั้นก็เลื่อนเป็นหนึ่งปีสองปีตามลำดับ ณภัทรยังคงคิดถึงนิรัชเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเริ่มเคยชินรถซุปเปอร์คาร์สีเหลืองสดแซ่บจี๊ดวนเข้ามาจอดด้านหน้าของภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง ประตูเปิดออกโดยบริกรที่มาคอยให้บริการ สาวสวยดูดีในมาดนักธุรกิจรุ่นใหม่ค่อยๆ ก้าวเท้าลงมา เธอสวมสูทสไตล์แฟชั่นล้ำสมัย ซึ่งเป็นการรังสรรค์เสื้อผ้าอันโดดเด่นที่มีส่วนช่วยให้เกิดความประทับใจต่อผู้ติดต่อทางธุรกิจ และยังสะท้อนทัศนคติไร้ขีดจำกัดให้กับผู้หญิงยุคนี้ที่บทบาททางสังคมเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจนแตกต่างจากในอดีตเธอคือณภัทร ผู้สลัดลุคนักศึกษาสาววัยใสกลายเป็นสาวสวยมั่นใจเต็มวัย แต่งหน้าทาปากเข้มขึ้นจนมองอายุจริงไม่ออก เสื้อผ้าหน้าผมล้วนได้โมรินช่วยดีไซน์และจัดการให้วันนี้เธอต้องมาเจรจาธุรกิจแทนวิชัยสาเหตุเป็นเพราะอีกฝ่ายออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อนเพลินเกินไปหน่อย กระทั่งเอวเคล็ดกระดูกเคลื่อนเล็กน้อยจนต้องแอดมิทโรงพยาบาล ในขณะที่ลินดาป่วยเข้าโรงพยาบาลไปแล้วก่อนหน้าณภัทรรู้ดีว่ามารดาของตนสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เนื่องจากต้องตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ตอนอายุน้อยอีกทั้งยังตรากตร
หญิงสาวเต้นพองาม คลอกับเพลงที่เปิดอยู่ โดยที่ไม่รู้ว่ากำลังทำให้คนอีกฝั่งแทบคลั่งนิรัชขบกราม กอบกุมแก่นกายแน่น “ดี...แบบนี้ล่ะภัทร”เธอถามเสียงกระเส่า “พี่รัชไม่ต้องไปเรียนหรือไง?”“เดี๋ยวค่อยไป มโนว่าเอากับภัทรก่อน”หญิงสาวขำพรืด “บ้า”“พี่จะกล่อมภัทรให้นอนหลับสบายไง”ณภัทรยิ่งหน้าแดง และแน่นอนเธอยินยอม“ภัทร...”“หืม...”“นิ่งพิงหัวเตียง ถอดผ้า อ้าขา”“อืม...”ณภัทรถอดชุดนอนออกเผยหน้าอกอวบสวยเด้งดึ๋งโดดเด่น นิ้วเล็กเริ่มแตะแต้มน่องขาด้านใน แหวกขอบผ้าตัวบางจิ๋วออกช้าๆ“ภัทรเริ่มแล้วนะ”จบคำมือหนึ่งก็ค่อยๆ ขยำทรวงอกอิ่ม อีกมือเลื่อนลงต่ำ กรีดเรียวนิ้วกับเนินเนื้ออุ่นชื้น ค่อยๆ สอดใส่เข้าไป“คิดถึงพี่ ภัทร...” นิรัชสั่งเสียงทุ้มลึกณภัทรรับคำเสียงหวาน “อา...พี่รัช”ภาพของคนในจอคล้ายหลุดออกมาขยี้ขยำลูบคลำเธอ อุ้งปากร้อนๆ กำลังครอบครองยอดถัน ณภัทรสูดหายใจเข้าลึกยาว เมื่อความรู้สึกร้อนผ่าวจากส่วนสงวนชื้นแฉะกลางกายแล่นไปทั่วตัวตามปลายนิ้วที่เริ่มระรัว เธอรู้สึกเสียวนิรัชก็เช่นกัน เขารูดแก่นกายขึ้นลง สูดปากเบาๆ“อ้าขาอีกสิครับ”“อืม...พี่รัชอ่ะ”เธอแยกขากว้างขึ้นเพื่อเขา“พี่กำลั
ปลายฝนต้นหนาว สายฝนนอกหน้าต่างยังคงสาดซัด สร้างความหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจในห้องนอนส่วนตัว ณภัทรยังคงสะอึกสะอื้นนั่งขดตัวอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำการบ้านโดยมีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คอยู่เป็นเพื่อนเอกสารงานแปลไม่ได้มากมายอะไรเธอทำเสร็จแล้วทั้งหมดแค่รอส่งเท่านั้น ทุกอย่างจึงถูกจัดเก็บเรียบร้อยเมื่อร้องไห้คิดถึงนิรัชจนเหนื่อยล้าก็รีบปาดน้ำตาก่อนฝืนใจกินข้าวสองสามคำ จากนั้นก็นำลงไปเก็บที่ครัว แล้วหมุนตัวขึ้นห้องนอนอย่างรวดเร็วเธออยากอยู่คนเดียวหญิงสาวอาบน้ำ สวมชุดนอนกระโปรงตัวเก่ง มุดเข้าผ้าห่ม พยายามข่มตาหลับให้ลงเหมือนเช่นเคยทว่าก็ไม่เคยหลับลงสักทีเข็มนาฬิกาเดินทางมาค่อนข้างดึกมากแล้ว ณภัทรยังคงพลิกตัวไปมาอยู่ใต้ผ้าห่มที่ไม่เคยอุ่นอีกเลยตั้งแต่ใครบางคนจากไปจังหวะนั้นใครบางคนก็เฟสไทม์มา เธอรีบกดรับอย่างเร็ว ทว่าพูดอะไรไม่ออกสักคำ“ภัทร...”เสียงทุ้มนุ่มดังมาจากปลายสาย ส่งผลให้น้ำใสที่แห้งไปแล้วเริ่มเอ่อคลอตรงขอบตากลมอีกครา“พี่...”เสียงเธอเจือสะอื้นเล็กน้อย ทั้งๆ ที่เพียรสะกดกลั้นเอาไว้ แต่มันยากเกินไป “พี่รัช...”น้ำเสียงแบบนี้ของณภัทร ทำเอาความเงียบพลันปกคลุมรอบด้านอยู่อึดใจใหญ่ ส่งผ
ทุกวัน ณภัทรมักจะเห็นทุกสิ่งเป็นร่องรอยของคนคุ้นเคยอยู่ตลอดเวลาทุกกิจกรรม ทุกการกระทำ ทุกซอกทุกมุมที่กวาดตามอง ยิ่งนานยิ่งติดตรึงในความทรงจำที่โซฟาห้องนั่งเล่น ร่างสูงโดดเด่นมักจะพักผ่อนอยู่ตรงนั้น เขามองมาทางเธอด้วยสองตาดำจัดคมดุที่คนอื่นมองไม่ออกว่ามีความนัยอะไรในสระว่ายน้ำสีคราม สัดส่วนสมบูรณ์แบบที่เปิดเปลือยเผยมัดกล้ามตึงแน่นล่อตาลวงใจที่เขาชอบทำที่โต๊ะอาหาร เขามักกินข้าวแค่เงียบๆ น้อยครั้งถึงจะพูดจา ทว่าก็มักจะคอยมองเธอว่ากินอิ่มหรือยัง จะได้ไปเรียนพร้อมกันยังมีมุมโต๊ะทำงาน หน้าจอคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น... คนตัวโตมักจะมีสีหน้าเรียบเฉย นั่งฟังเธออ่านบทความอย่างเย็นชาเพื่อรอพิมพ์เอกสาร ยามที่เธอกำลังอ่านบทความ สายตาของเขาคล้ายไม่ใส่ใจอะไรรอบกายเลย ทว่าสมาธิทั้งหมดกลับตกอยู่ที่เธอ ตั้งใจฟังแค่เพียงน้ำเสียงของเธอณภัทรเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเรื่องสมัครงานพิเศษวันนั้นเป็นเพราะนิรัชหวังจะได้อยู่กับเธอสองต่อสอง มีเวลาทำอะไรๆ ร่วมกัน โดยไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตต่อพ่อกับแม่ให้เธอต้องลำบากใจยังมีเรื่องที่พาไปเที่ยวทะเล เขาต้องหาสารพัดวิธีเพื่อที่จะพาเธอไปได้อย่างถูกต้องแต่กว่าจะไ
แต่ไม่ว่าจะมีใครมาบอกเธอยังไง คนที่ทำให้เธอหวั่นไหวและเชื่อใจได้กลับมีเพียง...นิรัช...พี่ชายตามกฎหมายคนนี้คนเดียวณภัทรรักนิรัชแค่คนเดียวเท่านั้น ทว่าความรักสำหรับเธอไม่ใช่การยึดติดปิดกั้นหรือครอบครองเอาไว้ข้างกายตลอดเวลา แต่เป็นการมองคนรักด้วยความหวังดีตลอดไปต่างหากหญิงสาวค่อยๆ กล่อม “พี่รัชฟังภัทรนะ คนเรายังต้องเผชิญอีกหลายเหตุการณ์ระหว่างเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มันไม่ใช่ปัญหาแค่มือที่สามมือที่สี่ที่จะเข้ามาแทรกกลางระหว่างเรา แต่มันอาจมีปัญหามากมายรุมเร้า ซึ่งนั่นก็มากพอที่จะทำให้ชีวิตคู่พบทางตัน กระทั่งต้องหันหลังคุยกัน เกราะป้องกันที่ดีคือต้องฝึกฝนแก้ปัญหาเอาไว้แต่เนิ่นๆ ไม่ต้องรอจนความรักเดินทางมาไกลเกินแก้ไข”นิรัชอึ้งงัน ได้ยินเสียงใสกังวานอ่อนหวานแต่หนักแน่นว่า “ภัทรขอสัญญาจะรอพี่รัชอยู่ตรงนี้ เป็นความมั่นคงของพี่ตลอดไป ไม่ว่าพี่ต้องเจอกับปัญหาอะไร หันมาก็จะเจอภัทรเสมอ ตกลงไหม”ณภัทรเป็นคนที่ไม่เคยเชื่อเรื่องคำสัญญา เธอนำพาชีวิตให้อยู่กับปัจจุบัน ตั้งมั่นบนโลกความจริงในแต่ละวันตามหลักการและเหตุผลอันสมควร ไม่ใช้อารมณ์ฝันเฟื่องอย่างเรื่องลมปากที่พ่นออกมาพร้อมกับคำว่า ‘สัญญ
ผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง...คนสองคนที่ทะเลาะกันแทบตาย สุดท้ายก็นอนกอดกันอย่างหมดเรี่ยวแรง เหลือเพียงรสสัมผัสหวามไหวติดค้างชายหนุ่มครางเบาๆ ขยับลึกอีกครั้งก่อนค่อยๆ ถอดถอนตัวตนแผ่วช้า เหงื่อซึมทั่วร่างหนา หยาดไหลร่วมกับร่างบางอ่อนนุ่มหลังจากลมหายใจร้อนๆ กลับมาเป็นปกติ นิรัชถึงได้จูบซับหยดเหงื่อระเรื่อยไปตามข้างขมับให้ณภัทรสาวน้อยปรือตาฉ่ำเยิ้มมองคนขี้งอน “หายโกรธหรือยัง?”“ยัง!”เสียงทุ้มพร่าติดจะแหบห้วนอยู่มาก นิรัชกระชับอ้อมแขนกอดคนตัวนุ่มแน่นขึ้นไม่คิดปล่อยความหวงแหนก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรงในทุกวัน ความรู้สึกเป็นเจ้าของก็เช่นกัน ณภัทรทำนิรัชแทบคลั่งได้ทุกครั้งแค่ก้มมองแล้วถ้าเธอไม่ได้อยู่ในสายตา ถ้าไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้กอด...คำถามแสนง่ายแต่กลับยากมากที่จะหาคำอธิบายมาบรรยายความรู้สึกแค่นึกภาพว่าสิ่งสำคัญที่สุดได้ขาดหายไปในชีวิตประจำวัน แค่นั้นความอึดอัดทรมานที่ยากจะเอ่ยก็กดทับจนหายใจไม่ออกชายหนุ่มกำลังคิดว่า หากเขาต้องอยู่ห่างเธอคนละฟากฟ้าก็โปรดกรุณาเอามีดมาเฉือนหัวใจเขาแทนเถอะ!ณภัทรย่อมเข้าใจนิรัชเป็นอย่างดี ได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้จะไม่เข้าใจได้ยังไง ทว่าเธอก็ยังต้องปล่อยเขาไปเรียนต