Share

Chapter 6. เป็นเมียฉันนะ กล้าๆ หน่อยสิ

แปลก แปลกจริงๆ ไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน

            หรืออาจจะเคยเป็น แต่ก็นานมากแล้ว

          อลังการประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เขาไมได้เสียดายเงินสามหมื่นที่โอนให้ยัยเด็กบัวชมพู  แต่เพราะตัวเองกลับรู้สึกแปลกๆ กับเด็กคนนี้เสียเอง 

แรกที่เดียวแค่ต้องการตัดปัญหาเรื่องอาปกรณ์และไม่อยากมีเมียเป็นแม่ชี เลยคว้าเอาผู้หญิงที่อยู่ใกล้มือมาเป็นเมียชั่วคราวไว้ก่อน แต่หลังจากนั้นเขาลองสอบถามกับคนสนิท พอจะรู้ได้ว่าร้านที่บัวชมพูพูดถึงคือร้านผัดไทเล็กๆ ที่แต่เดิมเปิดโต้รุ่ง แต่เพราะทางการมีคำสั่งเรื่องเคอร์ฟิวทำให้ต้องเปลี่ยนมาขายรอบบ่ายไปถึงเย็นแทน  เขาแอบขับรถไปจอดซุ่มดู เห็นยัยเด็กหน้าใสเป็นลูกมือช่วยผู้หญิงอีกคน ถ้าจำไม่ผิกคือรุ่งรวี คนรักของสารภี แม่ของบัวชมพูนั้นแหละ

            นั่งมองอยู่บนรถดีๆ ทำไมมองไปมองมาถึงรู้สึกว่ายัยเด็กนั้นน่ามองนักนะ  มีหน้ากากผ้าปิดครึ่งใบหน้าแต่รู้สึกเหมือนเธอยิ้มตลอดเวลา ร้านขายไม่ดีเท่าไหร่ แน่นอนว่าที่ไหนๆ ก็เป็นอย่างนี้ แต่เห็นบัวชมพูถือกล่องผัดไทไปแจกนักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับไม่ได้ บางคนเงินหมด บางคนต้องเซฟเงิน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น  ผู้หญิงคนนั้นก็คงลำบากไม่น้อย ได้ยินว่าพ่อทิ้ง แม่หอบลูกหนีมาตายเอาดาบหน้า เธอทำงานส่งตัวเองเรียนหนังสือ

            จู่ๆ เขาสนใจเธอขึ้นมา สนใจมากขนาดว่าแทบทั้งวันไม่ได้งานได้การอะไร คุยกับอาปกรณ์ก็ไม่รู้เรื่อง ห่วงยัยเด็กปากดีหน้าใสจะเชิดเงินสามหมื่นไม่มาพบเขาแล้ว            เขายืนมองจากห้องของตัวเองบนชั้นสองของบ้าน ดวงตาคมวาวมองเห็นร่างเล็กปั่นจักรยานค่อยๆเข้ามาใกล้บ้าน ทั้งโล่งอกและดีใจพร้อมกัน เขารีบเดินลงไปที่ชั้นล่างทันที  เพียงเสียงออดหน้าบ้านดัง เขาก็เปิดประตูออก

            นิ้วมือยังค้างอยู่ที่ออดหน้าประตูบ้าน บัวชมพูไม่คิดว่าเขาจะเปิดประตูเร็วขนาดนี้ หญิงสาวยกมือไหว้เขาตามมารยาท เล่นเอาอลังการชะงักไปแล้วรีบยกมือรับไหว้ จำได้ว่าเจอกันครั้งแรกเธอก็ไม่ได้ไหว้เขาแบบนี้นี่

            “หนูมาช้าไปหรือคะ”  บัวชมพูหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลา “หนูมาก่อนเวลาแล้วนะ”

            “รู้แล้ว เข้ามาเถอะ”

            อลังการเบี่ยงตัวให้หญิงสาวเข้ามาในบ้าน วันนี้เธอสวมชุดกระโปรงยาวคลุ่มเขาแบบเรียบๆ ดูเรียบร้อย  ผมยาวยังคงรวบเป็นหางม้าเผยต้นคอขาวผ่องที่ชวนให้กลืนน้ำลายลำบาก เธอหันมายิ้มให้เขาแล้วพูดขึ้น

            “เราต้องตกลงกันก่อน มีอะไรที่หนูควรรู้และต้องทำบ้างคะ”

            “ก็อย่างที่เห็น ทำตัวเป็นเมียฉันก็พอ”

            “ต้องขึ้นเตียงด้วยไหมคะ พูดก็พูดเถอะ หนูขึ้นเตียงคุณตั้งไม่รู้กี่ทีแล้ว”

            “เฮ้ย!”  คราวนี้อลังการสะดุ้งโหย่ง แต่เจ้าเด็กแสบกลับแลบลิ้นใส่

            “ก็ขึ้นไปเปลี่ยนผู้ปูที่นอนไงคะ” บัวชมพูหัวเราะคิกคักที่หลอกคนตัวโตได้ ใครจะไปรู้ว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้เล่า “เอาล่ะค่ะ หนูรู้ว่าคุณมีความจำเป็นต้องหาเมียชั่วคราวมาบังหน้า เรื่องเล่นละครก็พอไหว หนูเคยเล่นละครงานโรงเรียนมาบ้าง แต่หนูขอบอกก่อนว่าหนูจะไม่ทำนอกเหนือที่เราตกลงกัน หนูไม่ขายตัว ไม่ทำเรื่องผิดกฎหมาย แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างเราสองคน ถ้าหนูไม่อนุญาต คุณก็ห้ามพูดเรื่องนี้กับคนอื่น”

            “อืม”

            “แล้วคุณอยากให้หนูทำอะไรเป็นพิเศษไหมคะ”

            “จริงๆ เธอก็พูดมาหมดแล้ว หลักๆ แค่หลอกอาของฉัน และให้คนที่บ้านสบายใจก็เท่านั้นเอง”

            “ไม่น่ายาก” เธอยักไหล่ มองไปเห็นแก้วกาแฟที่ยังไม่ได้ล้างวางอยู่ก็คิดจะหยิบไปล้าง แต่ไม่คิดว่าพอเดินผ่านหน้าอลังการ มือใหญ่ก็เอื้อมมาดึงที่รัดผมของเธอออก เส้นผมสีดำดุจแพรไหมคลี่สยายลงเคลียไหล่

            ปลายนิ้วของอลังการสัมผัสเส้นผมนุ่มลื่น อยากพันเกี่ยวเส้นผมของเธอมาสูดดม แต่หญิงสาวกลับถอยหนีทันที

            “คุณใหญ่จะทำอะไร!”

            “เอ่อ...แค่ไม่ชอบผมหางม้าของเธอ” เขาจิ้มนิ้วกับศีรษะของหญิงสาวเบาๆ “ปล่อยผมแล้วดูเป็นผู้ใหญ่หน่อย”

            บัวชมพูยักไหล่ไม่สนใจกับท่าทางของเขาทั้งที่ในใจนั้น หัวใจเต้นโครมคราม เธอหันหลังให้แล้วล้างแก้วกาแฟพลางนึกกระบวนท่าอ่อยผู้ชายแบบที่เคยดูในละครหรือซีรีย์ แค่คิดเธอก็ได้แต่ถอนหายใจ เสื้อผ้าเซ็กส์ซี่ไม่มีใส่ แน่นอนว่าเธอไม่ชอบ รวมทั้งไม่ชอบปล่อยผมยาวสยายเพราะดูแลยาก ไม่ชอบแต่งหน้าจัดเพรากลัวว่าหน้าจะเป็นสิว ลำบากต้องซื้อยามารักษาอีก อะไรสิ้นเปลืองก็ตัดออกไปให้หมด  

การมีรายรับจำกัดทำให้เธอกลายเป็นคนคิดมาก แค่น้ำเปล่าขวดหนึ่งเธอซื้อแล้วยังต้องเก็บเอาขวดกลับบ้านเลย ถ้าออกไปข้างนอกต้องมีกระบอกน้ำติดตัวไปเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย  ไม่ว่ากับใคร เธอก็รู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนสวยเด่นสะดุดตา แต่เรื่องนั้นเธอไม่สนใจ เพราะเธอเชื่อเรื่องความดีภายในมากกว่า แล้วถ้ามีแฟนแล้วกลายเป็นภาระชีวิต ต้องปวดหัวกังวลใจ สู้อยู่เป็นโสดแล้วสะสมเงินไว้ใช้เองดีกว่า

            “นี่ๆ เธอจะไม่ถามอะไรฉันหน่อยเหรอ”

            “หนูต้องถามอะไรคุณใหญ่ละคะ”  เธอย้อนถามกลับ แล้วหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้าเขา

            “เอ่อ...” ทำไมอยู่ๆ เขารู้สึกเหมือนถูกต้อนให้จนมุม ปกติมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้าหา พอเจอแบบ...เอ่อ...นิ่งๆ เข้าใส่เลยเกิดอาการไปไม่เป็น

“เธอมีแฟนหรือยัง”

            “ไม่มีค่ะ”

            “ตอบเร็วไปหรือเปล่า ให้เวลาคิดนะ”

            บัวชมพูขมวดคิ้ว “ก็ไม่มีแล้วทำไมต้องคิดใหม่ให้เสียเวลา คุณใหญ่ไม่ต้องกลัวว่าจะมีคนเข้าใจผิดมาดักตีหัวคุณหรอกค่ะ หนูต่างหากที่ต้องกลัวว่าผู้หญิงของคุณจะมาแหกอกเอา”

            “บ้าน่า! ไม่มีเรื่องแบบนั้น”

            “หนูไม่ได้ทำประกันชีวิตไว้ ถ้าเกิดเรื่องขึ้นคุณใหญ่ต้องรับผิดชอบด้วย”

            คราวนี้เป็นอลังการที่ยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา “ไม่มีฝีมือขนาดนั้นเชียว เป็นเมียฉันนะ กล้าๆ หน่อยสิ”

            บัวชมพูสบตากับดวงตาคู่คมนั้นแล้วก็ยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มท่าทางยียวน

“เอาไว้เป็นได้เป็นเมียจริงๆ ก่อนแล้วรับรองว่าคุณใหญ่จะเหลือตาไว้มองผู้หญิงอื่นเลยค่ะ”

            คราวนี้เป็นเป็นอลังการที่โต้กลับไม่ออก มองเธอหัวเราะคิกคักแล้วเดินมาหยิบผ้าเช็ดมือ

            “วันนี้เราต้องไปที่ไหนคะ แล้วอย่าลืมพากลับมาส่งบ้านก่อนก่อนเคอร์ฟิวนะคะ หนูต้องปั่นจักรยานกลับบ้านด้วย”

            “ไปกินข้าว”  เขาระบายลมหายใจเบาๆ ถ้าให้เล่นจ้องตากันอีก มีหวัง เขากระโดดเข้าปล้ำแน่!

            “ทราบแล้วค่ะว่ากินข้าว แต่คำถามคือกินทีไหน รบกวนขอชื่อสถานที่ด้วย หนูจะได้เตรียมตัวถูก”

            “กินข้าวที่โรงแรมนั้นแหละ”  เขาเดินไปหยิบกุญแจรถ หันมาอีกทีเจอมือเล็กยื่นหน้ากากผ้าให้

“อะไร”

            “ออกจากบ้านต้องมีนะคะ คุณใหญ่มีไหม? หรือมีอยู่แล้ว แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ นี่ใหม่เอี่ยม ซักแล้วยังไม่ผ่านการใช้งาน”

            “เอามา! “  เขายื่นมือไปคว้ามาแล้วใส่ในกระเป๋าเสื้อ  เดินนำหน้าออกไปก่อน บัวชมพูได้แต่กลั้นหัวเราะแล้วเดินตามไปที่รถ เขาเดินไปนั่งที่ฝั่งคนขับ แต่หญิงสาวยังยืนรออยู่ด้านนอก เขาขมวดคิ้วแล้วตะโกนถาม

            “ทำไมไม่ขึ้นรถ”

            “ไม่มีคนเปิดประตูให้ค่ะ”

            “อะไรนะ!”  อลังการอ้าปากค้างแล้วเดินลงมา “เปิดประตูรถไม่เป็นหรือไง”

            “เป็นค่ะ” เธอพยักหน้าทั้งรอยยิ้ม “แต่อยากให้สามีเปิดให้มากกว่า”

            “โห! กล้าพูดนะ!”  เขาหัวเราะออกมาแล้วเดินไปเปิดประตูรถให้ “เชิญครับคุณภรรยา!”

“ขอบคุณค่ะ”  บัวชมพูยิ้มทะเล้นแล้วเข้าไปนั่ง แต่คราวนี้เธอเป็นฝ่ายเบิกตาโตเมื่อคนตัวใหญ่โน้มตัวมาใกล้จนปลายจมูกปัดผ่านเนียนแก้ม  เธอทำตัวแข็งไม่กล้าขยับสักนิดรอจนเสียง “กริ๊ก!” ดังขึ้นจึงไดสติแล้วสบตากับดวงตาเป็นประกายของเขา

            “คาดเข็มขัดนิรภัยให้เฉยๆ คิดไปถึงไหน!” 

            อลังการหัวเราะลั่นแล้วเดินผิวปากกลับมานั่งฝั่งคนขับ ทำเป็นมองไม่เห็นสีหน้าเดือดดาลของคนตัวเล็ก เออนะ! ได้ทะเลาะกับเด็กมันก็สนุกดีเหมือนกัน

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status