“เฮียใหญ่เป็นอะไร?” เขานึกถึง ‘อลังการ’ หรือ ‘คุณใหญ่’ ญาติห่างๆ แต่สนิทสนมกันมาก ในช่วงวัยรุ่น ราชันมีอลังการคอยชี้แนะเรื่องการใช้ชีวิต“ก็ชอบทำตัวให้คนแก่เป็นห่วง” ปกรณ์ยักไหล่ “แต่ไม่เป็นอะไรแล้ว มีเมียแล้วสบายใจได้”“หา! เฮียใหญ่มีเมียแล้วเหรอ”“เออ เมียเด็กด้วย แต่คนนี้ใช้ได้ อาชอบ” ปกรณ์ยิ้มๆ แล้วอดมองทางลลินไม่ได้“คุณอามีอะไรก็พูดมาเถอะ ระหว่างผมกับลลิน เราไม่มีความลับต่อกัน” ราชันบีบมือลลินไว้ไม่ยอมให้ลุกหนีไปไหน“อาไม่ได้มาตามเพราะเรื่องไอ้ใหญ่หรอกนะ” ปกรณ์แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นอาการของราชัน ผู้ชายบ้านนี้ รักแรง หวงแรง จริงๆ“แล้วมีเรื่องอะไรล่ะครับ”“คุณตาท่านต้องผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ ท่านไม่ยอมรับการผ่าตัดถ้าไอ้ เอ่อ คุณยักษ์ไม่แต่งงานกับคุณเดหลี”“เดหลี? เดหลีไหน? เดหลีที่เป็นผู้ช่วยพยาบาลดูแลคุณยายนะเหรอ”“ใช่”“คนนั้นก็ไม่เลวนะ ท่าทางจะจัดการเจ้ายักษ์ได้อยู่มือ”“เรื่องนั้นช่างเถอะ ถ้าคุณยักษ์ไม่แต่งงานกับคุณเดหลี คุณท่านจะไม่ยอมผ่าตัด” ปกรณ์เอ่ยย้ำ “และคุณราชันควรกลับบ้านไปดูแลคุณท่านได้แล้ว มีเรื่องอะไรคาราคาซังก็กลับไปจัดการให้มันจบๆ”ราชันพยักหน้ารับ เขามีคุณตาที่เ
ลลินขมวดคิ้ว เมื่อก่อนเธอชอบคำพูดคะ-ขาของปุณณภพ เขาเป็นผู้ชายพูดจาไพเราะหวานหู เคยทะเลาะขึ้นเสียงกันบ้างแต่ไม่เคยทำร้ายร่างกาย นั้นนับว่าเป็นเรื่องดีของเขา “พี่ภพจะทำแบบนี้ทำไมคะ เรื่องของเรามันจบไปแล้ว เราต่างก็มีทางเดินของตัวเอง” ลลินถอนหายใจหนักๆ “แต่พี่ยังรักน้องลินอยู่นะคะ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมเถอะค่ะ พี่พร้อมปรับปรุงตัวเอง ขอให้น้องลินยังอยู่เคียงข้างพี่ ให้โอกาสพี่อีกครั้ง” “แต่ลินรักพี่ภพอีกไม่ได้แล้วค่ะ” เธอจ้องตาเขาด้วยความแน่วแน่ “เมื่อก่อนลินเคยรักพี่ภพมาก มากจนเคยคิดว่าไม่อาจรักใครได้มากไปกว่านี้อีก แต่เมื่อพี่ภพทำร้ายหัวใจและความรักของลิน ลินก็รู้แล้วว่า ลิน กลับไปรักพี่ภพ หรือใช้ชีวิตอย่างที่เคยเป็นมาไม่ได้อีกแล้ว” “น้องลิน” เสียงสัญญาณลิฟต์ดังขึ้นช่วยชีวิตหญิงสาว ลลินดันปุณณภพออกแล้วเบี่ยงตัวเดินออกมาจากลิฟต์ ปุณณภพรีบก้าวเท้าเดินตามออกมา แต่ต้องชะงักเท้า เมื่อเห็นผู้ชายคนหนึ่งลุกขึ้นจากเก้าอี้รับแขกของโถงกลางหน้าจุดประชาสัมพันธ์ของบริษัท เพียงเจ้าของร่างสูงใหญ่กำยำในชุดเสื้อเชิ้ตสีเข้มถอดแว่นกันแดดออก
“จะไปไหนก็ไป อย่ามายืนเกะกะลูกตา” พนักงานเสิร์ฟโชคร้ายได้แต่ก้มหน้าก้มตาเดินออกมา เอ็มเจย์ปรายตามองลูกขาสาวที่ติดหนี้เขาอยู่ก็กวาดตามองเรือนร่างของผู้หญิงตรงหน้าแล้วเอ่ย “อยากกินขนมไหม ออกไปด้วยกันสิ” “ได้” แพรวาโปรยยิ้มหวานเดินเข้าไปคล้องแขนเอ็มเจย์ด้วยท่าทีสนิทสนม ทั้งสองเดินออกไปที่ลานจอดรถ เขาเปิดประตูรถเก๋งคันหรูให้แพรวาขึ้นไปนั่งแล้วเดินอ้อมมาฝั่งคนขับ “เธอยังติดเงินฉันอยู่นะ” “รู้น่า” แพรวายื่นมือไปลูบเป้ากางเกงของอีกฝ่าย “เงินไม่กี่หมื่นเอง อย่าซีเรียสสิ” “เห็นฉันใจดีหรือไง” เอ็มเจย์หลุบตามองมือเรียวปลดเข็มขัดแล้วรูดซิปกางเกงเขาลง “ได้ยินว่าเป็นหนี้บาคาร่าหลักแสนแล้วไม่ใช่เหรอ” “ไม่ถึงมั้ง” แพรวาส่งยิ้มยั่วยวน “ใช้งานฉันบ่อยๆ หน่อยสิ จะได้มีเงินใช้หนี้” เอ็มเจย์ยื่นมือไปจับท้ายทอยของแพรวาที่กำลังใช้มือกำรูดแท่งเอ็นของเขาจนมันตั้งเป็นเสาหิน แต่เขาก็ยังไม่ลืมเรื่องหนี้สินที่แพรวาติดค้างเขาไว้ “เมื้อกี้เธอถามฉันเรื่องผู้ชายคนนั้น อยากได้มันมากนักเหรอ”
“ผมบอกแล้วไง ผมมั่นใจว่าผมทำให้คุณรักผมได้” เขาใช้นิ้วเรียวเร่งเร้าจนร่างบางอ่อนระทวย “ผมอยากให้คุณรู้จักผม อยากให้คุณเจอคนในครอบครัวของผม เราคบกันแบบนี้ก็เหมือนอยู่ก่อนแต่ง คุณได้ศึกษาดูนิสัยใจคอผม ผมได้รู้จักคุณมากขึ้น กิจการทั้งหมดของผม คุณช่วยดูแล หรือคุณอยากลองทำอะไร ผมก็จะสนับสนุนสุดแรง” “อ๊า!” ลลินหลุดเสียงหวีดร้องออกมาเมื่อถูกนิ้วร้ายกายนำพาไปถึงจุดสุดยอด เขาถอนนิ้วออกจากร่องรัก แล้วส่งนิ้วที่เปื้อนคราบน้ำหวานวาววับเข้าปากดูดกลืนน้ำหวานจากกายสาวของเธอ “ครอบครัวผมเป็นครอบครัวใหญ่ แต่เราไม่ถือสาเรื่องพวกนี้ คุณตาคุณยายมีลูกชายสองคน แต่มีลูกสาวคนเดียวคือแม่ของผมที่จากไปแล้ว ตอนเป็นวัยรุ่นผมค่อนข้างเกเร มีเฮียใหญ่กับอาปกรณ์ไม่ใช่ญาติแต่ก็เหมือนญาติ เป็นครอบครัวที่สนิทสนมกับครอบครัวเรา เฮียใหญ่กับอาปกรณ์คอยจิกหัวให้กลับมาเข้าร่องเข้ารอยไม่เสียคนไม่เสียก่อน ส่วนไอ้ยักษ์มันเป็นลูกของคุณลุงของผม-พี่ชายแม่ แต่มันอายุน้อยกว่าผม น่าจะเท่าคุณนี่แหละ ไอ้นี้มันก็ร้ายไม่เบา คงทำอะไรไว้จนคุณตาต้องบังคับให้แต่งงาน” “แล้ว...คุณคิดว่า คุณตาท่านจะยอมรับลินได้
“หลานสบายดีครับ” เขาแนบหน้ากับฝ่ามือของคุณยาย “คิดถึงคุณยายจังเลย คุณยายครับ ผมมีคนจะให้คุณยายรู้จัก” “ใครเหรอ” “คนนี้ครับ ชื่อลลิน เป็นคนรักของผม เป็นคนที่ผมจะแต่งงานด้วย เป็นแม่ของลูกผม” ถ้อยคำของราชันทำให้ลลินอึกอัก แต่แววตาอ่อนโยนของคุณยายที่มองมาทางเธอทำให้หญิงสาวใจอ่อนยวบ เธอยกมือขึ้นกราบบนตัก คุณยายก็ประคองใบหน้าของลลินขึ้น “น่ารักน่าเอ็นดู” คุณยายยิ้ม “ฝากดูแลเจ้าราชันด้วย “เห็นแบบนี้ เขาขี้แยอยู่นะ ขี้ใจน้อย ปั่นจักรยานล้ม หัวเข่าถลอก ร้องไห้จนคนอื่นตกใจนึกว่าขาหัก” “คุณยาย” ราชันทำหน้าแหย แต่ลลินกลับหัวเราะออกมา “ไข่เจียวต้องกรอบๆ ราดซอสมะเขือเทศผสมซอสพริก ชอบกินปลาแต่ไม่ชอบแกะก้างปลาเอง ชอบเอาผ้าห่มไปตากแดด ชอบกลิ่นแดดใช่ไหมหลาน” “พอแล้วครับคุณยาย ผมอายเมีย” ราชันทำหน้าบูดเหมือนเด็กทั้งที่ตัวโตเป็นยักษ์ “คุณยายต้องแข็งแรงนะครับ จะได้มีแรงอุ้มหลาน” “เหลนเว้ย” ตาพูดแทรกแต่กลับยิ้มให้ลลิน “มีเหลนให้ตากับยายเร็วๆนะ” “ใช่ๆ มีเหลน ยายอยากอุ้มเหลน ยายจะเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เอ
“ใช่” เขาทำหน้าจริงจัง “แบบนี้คุณต้องเลี้ยงผมแล้วล่ะ” ลลินหัวเราะเสียงใส เดินไปคล้องแขนเขาอย่างเอาใจ “ใครนะที่บอกว่าจะสนับสนุนลินทำทุกอย่าง” “นั้นสิใครกัน” ราชันยื่นหน้าไปจูบริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีชมพูมันวาว “คุณเข้าไปรอที่ห้องทำงานก่อน ผมของคุยกับผู้จัดการร้านสักประเดี๋ยวจะตามเข้าไป” “รับทราบค่ะ” ลลินใช้นิ้วโป้งเช็ดคราบลิปสติกที่เปื้อนริมฝีปากเขา “ห้ามเถลไถลนะคะ” “รับทราบครับ” ราชันมองร่างของคนรักเดินตรงไปที่ชั้นบนของผับ ใบหน้าระบายยิ้มเมื่อครู่กลายเป็นเงียบขรึม เด็กเสิร์ฟไม่กล้าเข้าใกล้ คนในร้านต่างชอบที่ลลินเข้ามาพร้อมกับราชันเพราะทุกคนกลัวราชันมาก แต่เมื่อมีลลินอยู่ ราชันจะเก็บรังสีอำมหิตของตัวเองไว้มิดชิด และตอนนี้ทุกคนรู้ว่าราชันต้องการพบผู้จัดการร้านก็คือ ‘เอ็มเจย์’ “เอ็มเจย์เข้ามาหรือยัง” “ยังไม่เห็นเลยครับ” เด็กเสิร์ฟตอบเสียงสั่น “เปิดเบียร์มาหน่อย” “ครับ” เด็กเสิร์ฟกุลีกุจอนำเบียร์ขวดเล็กมาเสิร์ฟ ราชันหยิบขวดขึ้นกระดกแล้วกวาดสายตามองทั่วร้าน ขณะที่กำลังคิดว่าจะขึ้น
“นี่ถึงขนาดต้องใช้ผู้หญิงมาเล่นงานกันเลยเหรอ” ราชันหัวเราะเยาะปรายตามองหญิงสาวที่กระถดตัวบนพื้นลานจอดรถ เอ็มเจย์เงยหน้าขึ้น ใบหน้าที่เคยระบายยิ้มให้เพื่อนกลับเปลี่ยนเป็นเคียดแค้น “ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ไม่ดีใจเลยหรือไง” ราชันยังคงท่าทีกวนประสาท “หรือเสียใจที่เห็นว่าเป็นตัวเป็นๆ แบบนี้” “ว่าจะถามอยู่ว่าหายไปไหนมา” เอ็มเจย์กระตุกยิ้มที่มุมปาก “แต่ก็นั้นแหละ ร่ำรวยมีเงินมีทองแล้ว อยากทำอะไรก็ได้ จะทิ้งเพื่อนฝูงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนี่ ใช่ไหม?” “ทิ้งเพื่อน?” ราชันเลิกคิ้ว “ใครทิ้งใครกันแน่” “แล้วไอ้คนที่มันได้ดีแล้วทิ้งคนอื่นนี่เรียกว่าอะไร!” เอ็มเจย์ตวาดอย่างหัวเสีย “กูเลิกชกมวยมันก็เรื่องของกู มึงเป็นเพื่อนกู ทำไมไม่เข้าใจกู” “เพราะมึงไม่เสียเหมือนกูไง!” “มึงเสียอะไร! สิ่งที่มึงได้จากกูไปตั้งกี่ล้าน! มึงเองก็รู้ดี! สักวันกูต้องเลิกชกมวย!” “แต่ไม่ใช่ตอนนี้!” “ทำไม? หรือเพราะกูทำให้มึงขายยาระยำนั้นไม่ได้” คราวนี้เอ็มเจย์หน้าซีดไปแล้วพูดเสียงเบาเหมือนละเมอ “มึงรู
ลลินกลับเข้ามาที่คอนโด ในห้องเงียบสนิทจนรู้สึกใจคอไม่ดี แต่เธอมั่นใจว่าเขาอยู่ที่นี่ ไม่ได้หลบหน้าเธอไปที่อื่น ลลินกวาดตามองในห้องเห็นแก้วเหล้าวางไว้ มือเรียวหยิบขึ้นมาดูและมองเลยไปชั้นวางเครื่องดื่ม ราชันชอบคราฟท์เบียร์ (Craft Beer) แต่ในครัวมีบรั่นดีชั้นดีอยู่ติดบ้าน หญิงสามกัดริมฝีปากครุ่นคิด ล้างแก้วเหล้าแล้วจึงเดินไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าสวมชุดนอนแล้วเดินไปห้องนอน ลมหายใจระบายออกมาอย่างพอใจที่เจ้าของห้องไม่ได้ล็อกไว้ เธอเปิดประตูห้องเบาๆ เกรงจะรบกวนคนที่นอนตะแคงหันหลังอยู่บนเตียงหนานุ่ม ร่างบางขยับตัวขึ้นเตียง ยื่นหน้ามองเสี้ยวหน้าที่ปิดเปลือกตาอยู่ เธอยื่นมือแตะหน้าผากของเขา “หลับเร็วจัง ไม่สบายหรือเปล่าคะ” อุณหภูมิร่างกายของเขาปกติ ลลินสบายใจไปเปราะหนึ่ง เขาไม่ขานรับและทำเป็นไม่ได้ยินแต่ดวงตาหลังเปลือกตานั้นมีการเคลื่อนไหว หญิงสาวเผลอยิ้มออกมาแล้วมองแผ่นหลังของเขา เวลานอนราชันจะสวมเพียงกางเกงบ๊อกเซอร์ตัวเดียว ทำไมเธอถึงคุ้นชินกับผู้ชายคนหนึ่งได้เร็วถึงเพียงนี้นะ หรือเพราะเขามาเปิดหัวใจที่ปิดตายของเธอ มาทำลายกำแพง