หน้าหลัก / แฟนตาซี / เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ / บทที่ 4 เด็กหญิงประหลาดกับหมายักษ์

แชร์

บทที่ 4 เด็กหญิงประหลาดกับหมายักษ์

ผู้เขียน: สุขนิรันดร์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-19 09:57:43

ณ หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ที่อยู่ห่างไกลกับเมืองใหญ่พอสมควร เป็นเพียงแค่หมู่บ้านชายป่าที่มีประชากรรวมกันเพียงแค่ไม่ถึงร้อยครัวเรือน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วผู้คนนั้นจะอาศัยขึ้นไปหาของป่าที่ทิวเขาไกลออกไปหลายสิบลี้ เพราะว่าดินแดนแถบนี้ไปนั้นค่อนข้างแห้งแล้งและมีดินที่ไม่อุดมสมบูรณ์เท่าไรนัก ทำให้ไม่ค่อยเหมาะแก่การเพาะปลูกหัวเผือกหัวมันเท่าไรนัก ความเป็นอยู่ของผู้คนจึงลำบากมากพอตัวเลยทีเดียว

ถึงทิวเขาไกลออกไปหรือถ้าออกจากที่ดินผืนนี้ไปจะสามารถที่จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ แต่ด้วยสำหรับพวกเขาทั้งหมดที่ดินผืนนี้เป็นที่ที่พวกเขาทุกคนอาศัยอยู่กันมาหลายชั่วอายุคน แม้ว่าจะไม่มีอะไรโดดเด่นมากมาย แต่พวกเขาก็สามารถมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัยมาอย่างยาวนาน 

หากไม่ใช่เพราะเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเขาก็คงไม่ต้องลำบากเช่นนี้

ยังไม่รวมถึงเหล่าชายฉกรรจ์อีกหลายคนที่ต้องไปทิ้งชีวิตเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวแล้วด้วย สิริรวมแล้วสถานการณ์ของหมู่บ้านที่สุขสงบเช่นนี้ก็เริ่มจะไม่คอยดีมากนัก

จนกระทั่ง...

เมื่อราวๆ หนึ่งเดือนก่อนหรือนานกว่านั้น เริ่มมีผู้คนที่เดินขึ้นไปตามลำธารที่แห้งขอด ก็เริ่มพบเจอกับเด็กผู้หญิงมอมแมมตัวเล็กๆ ที่มาพร้อมกับหมาตัวเขื่องพันธุ์ไหนสักพันธุ์ที่พวกเขาไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน กำลังวุ่นอยู่กับการทำบางสิ่งบางอย่าง

ในคราแรกทั้งคู่นั้นต่างก็เป็นที่หวาดกลัวของคนในหมู่บ้าน แต่ยิ่งนานวันก็ความกลัวที่มีต่อเด็กน้อยก็ค่อยๆ จางหายไป จะเหลือก็แค่ความยำเกรงที่มีให้แก่เจ้าหมาขนฟูจนปิดบังแม้แต่ดวงตา จนไม่สามารถบ่งบอกถึงอารมณ์ของมันได้เลย จะมีก็แต่ตอนที่มันแยกเขี้ยวเท่านั้นที่พวกเขารู้ว่าอีกฝ่ายเริ่มไม่เป็นมิตรแล้ว

ส่วนสิ่งที่ทำให้เด็กหญิงค่อยๆ สนิทชิดเชื้อกับผู้คนในหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว ก็เป็นเพราะในทุกๆ ครั้งที่นางพบเจอผู้คน นางก็จะมาพยายามมาพูดคุยไว้วานให้ทำบางสิ่งบางอย่างให้แก่นาง โดยแลกกับอาหาร

อาหาร...

ใช่แล้ว!

มันคือสิ่งที่ผู้คนในหมู่บ้านนี้ขาดแคลนมากที่สุด ทำให้แม้จะหวาดกลัวหรือหวั่นเกรงเพียงใด แต่เพียงแค่ไม่นานแทบจะทุกครัวเรือนในหมู่บ้านจะวนเวียนมายังที่ที่เด็กหญิงกับหมาตัวเขื่องอาศัยอยู่

เคยมีอันธพาลในหมู่บ้านพยายามที่จะเข้าไปปล้นเอาอาหารจากเด็กหญิง เพราะคิดว่านางต้องมีสมบัติบางอย่างที่สามารถเก็บอาหารได้มากมาย

แต่สุดท้ายก็ต้องจบลงด้วยการที่พวกมันทุกคนต้องเอาชีวิตมาทิ้งภายใต้คมเขี้ยวของเจ้าหมายักษ์ที่สูงเกือบสองเมตร

แน่นอนว่าเมื่อมีคนตายย่อมมีคนกล่าวโทษต่อเด็กหญิงเป็นธรรมดา แต่นางก็พูดไปตามตรงว่าถ้าหากคนพวกนั้นไม่พยายามปล้นทำร้ายนาง เรื่องราวมันก็คงไม่จบลงแบบนี้ 

จบลงตรงที่ผู้คนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อนางไม่สามารถรับสิ่งใดๆ จากนางได้เลย แตกต่างจากเด็กๆ ในหมู่บ้านที่มักจะแวะเวียนมาเที่ยวเล่นที่นี่เป็นประจำ แล้วได้กินทั้งขนมทั้งน้ำหวานทั้งของแปลกๆ มากมายที่พวกเขาไม่เคยได้พบได้เห็นมันมาก่อนทั้งชีวิต

และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของตำนานของเด็กหญิงผู้ใจดีกับหมายักษ์ของหมู่บ้านแห่งนี้ จนถึงขั้นมีบางคนสรรเสริญนางว่าเปรียบได้ดั่งเทพเซียน หรือแม้แต่ของขวัญที่สวรรค์ประทานมาให้กับพวกเขาที่อดทนไม่ทอดทิ้งบ้านเกิด

และแน่นอนว่าเย่หัวไม่เคยรับรู้และต่อให้รู้นางก็ไม่คิดที่จะสนใจมันเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากเช้าวันนี้นางตื่นแต่เช้าล้างหน้าบ้วนปากแล้วออกจากเรือนมามองทุกสิ่งทุกอย่างของนาง ที่ถูกสร้างขึ้นในตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา

“เดือนเดียว...” เสียงหวานใสรำพึงเบาๆ ออกมาในขณะที่มองทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัว “ยังไงก็เถอะเหลือจะเชื่อว่าทุกอย่างเกิดขึ้นในระยะเวลาแค่เดือนกว่าๆ ความแตกต่างของเวลามันยากจริงๆ ให้ตาย ไม่ชินสักที”

เพียงแค่ระยะเวลาแค่เดือนเดียวจากไม่มีอะไรเลยสักอย่างเดียว เย่หัวก็สามารถใช้อาหารที่มีอยู่อย่างไม่จำกัดนี้เอง สร้างบ้านขึ้นมาได้หลังหนึ่ง ด้วยเรี่ยวแรงของผู้คนมากหน้าหลายตา ที่แลกมาด้วยอาหารมากมายหลายร้อยจานชามที่เอาออกมาจากตู้เย็นของเจ้าเพื่อนเก่าเจ้าปัญหา

จนสามารถสร้างบ้านหลังไม่ใหญ่ไม่เล็กที่สร้างด้วยหินดินไม้ผสมเข้าด้วยกันแล้วมุงด้วยหญ้า พร้อมๆกับพื้นที่รอบๆ บ้านที่นางให้คนช่วยยกร่องที่ดินเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน

“ตอนนี้มีบ้านแล้ว มีอาหารไม่จำกัด แล้วหลังจากนี้นอกจากทำสวนทำไร่แล้วจะทำอะไรต่อไปดี...” พูดแล้วก็หันไปหาเจ้าเพื่อนเก่าในร่างใหม่ “ว่าไงสังเอาไงต่อดี”

“...” หมาตัวเขื่องเพียงแค่หันมามองเด็กหญิงร่างเล็กแค่ชั่วครู่ก่อนที่จะหมอบลงนอนตามเดิม

หะหะ

“สงสัยใกล้บ้าเต็มทีแล้วถึงได้คุยกับหมา” เด็กหญิงหัวเราะกับตัวเองเบาๆ นึกย้อนกลับไปในตอนแรกที่ตื่นมาเห็นหมาทิเบตันตัวใหญ่ยักษ์เมื่อเทียบกับร่างของเด็กแบบขวบอย่างนาง ในตอนแรกก็ตกใจไม่คิดว่ามันจะตัวโตขนาดนั้นในตอนที่อ่านจดหมาย แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่ทำร้ายนางแถมยังเชื่อเสียยิ่งกว่าเชื่อเท่านั้นนางก็พอจะโล่งใจได้เปราะหนึ่ง

และเจ้า “สัง” ที่ตั้งตามชื่อเดิมของของเพื่อนเก่าสมัยนางยังสาวนี่เองก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้นางสามารถปรับตัวเข้ากับโลกนี้ได้เร็วขึ้น

ที่สำคัญที่สุดก็คือมันคอยช่วยปกป้องนางเสมอ หรือแม้แต่เล่นกับเด็กๆ ที่มาอยู่เป็นเพื่อนนางอย่างไม่เกี่ยงงอน 

“เอาเถอะ อย่างน้อยจากที่ไม่มีอะไรเลยก็ค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างบ้างแล้ว เดี๋ยวค่อยกว่ากันอีกทีก็แล้วกัน”

......................

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 5 เป้าหมายใหญ่กับเด็กตัวเล็ก (1)

    “คุณหนู วันนี้คุณหนูจะให้พวกเราทำอะไรกันอย่างนั้นหรือ” เสียงร้องตะโกนมาแต่ไกลจากเด็กหญิงวัยสิบสองปีที่วิ่งนำลิ่วมาแต่ไกล ตามมาด้วยเด็กๆ อายุตั้งแต่หกถึงสิบห้าปีอีกสิบสองสิบสามคนที่ต่างก็พากันวิ่งมารวมตัวกันตามที่ได้นัดหมายกันเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานย้อนความกลับไปเมื่อหลายวันที่แล้ว ด้วยชุดที่เย่หัวสวมใส่อยู่อาจจะเป็นเสื้อผ้าที่ค่อนข้างพิเศษหรือเพราะอะไรก็ตามแต่ แต่ตลอดหลายวันที่ผ่านมานางสวมใส่เสื้อผ้าเนื้อดีเพียงแค่ชุดเดียว แต่ก็เหมือนกับว่าเสื้อผ้าชุดนี้สามารถทำความสะอาดตัวเองได้อย่างไรอย่างนั้น ถึงแม้เนื้อตัวของนางจะมอมแมมไปบ้างในหลายๆ ครั้งหลายๆ หน แต่นางก็ยังคงมีผิวพรรณที่ขาวสะอาดกับเสื้อผ้าหรูหราเกินกว่าเด็กๆในหมู่บ้านเพราะแบบนั้นเองที่ทำให้ใครสักคนเรียกนางว่า “คุณหนู” แล้วหลังจากนั้นเป็นต้นมาเด็กๆ ทุกคนในหมู่บ้านต่างก็เรียกนางว่าคุณหนูตามๆ กันมา ทั้งด้วยความแข็งแกร่งและใจดีของผู้คุ้มกันสี่ขา กับความเอื้อเฟื้ออาหารการกินสุดหรูหราให้กับเด็กๆ และผู้คนในหมู่บ้าน ถึงจะเป็นเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ เพียงแค่เดือนเดียว แต่คนในหมู่บ้านส่วนใหญ่ต่างก็รู้สึกรักและเอ็นดู “คุณหนู” เพียงหนึ่งเดีย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-19
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 6 เป้าหมายใหญ่กับเด็กตัวเล็ก (2)

    “คุณหนูจะให้พวกเราทำอะไรหรือเจ้าคะ?” จางหลัวเด็กหญิงวัยสิบสองปีที่เหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่มเด็กในหมู่บ้านเป็นผู้เอ่ยถามขึ้นก่อนใคร ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะนางแข็งแกร่งหรือมีอายุมากกว่าคนอื่น แต่นางเป็นเพียงแค่หนึ่งในไม่กี่คนที่ได้รับการยอมรับจากพี่เบิ้มอย่าง ‘เจ้าสัง’ และเป็นคนริเริ่มเรียกเย่หัวว่า ‘คุณหนู’ “เห็นคุณหนูพูดแบบนี้มาสองสามวันแล้วเจ้าค่ะ”“นั่นสิขอรับ” จางซิวผู้มีอายุมากที่สุดกล่าวเห็นด้วย ส่วนเด็กคนอื่นๆ ต่างก็ลดจังหวะความเร็วในการเคี้ยวลง แล้วเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ“ก่อนอื่นข้าอยากฟังเรื่องของพวกเจ้าก่อน ก่อนที่เราจะเริ่มพูดคุยสิ่งที่จะทำต่อไป เพราะข้าเองก็ไม่มั่นใจว่าสิ่งที่ข้าอยากจะทำมันจะสำเร็จไหม”“อะไรหรือเจ้าคะ”“ก่อนหน้านี้เหมือนข้าจะได้ยินเรื่องที่ว่าก่อนหน้านี้หมู่บ้านไม่ได้มีปัญหาเรื่องอาหารการกินอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้” เย่หัวพยายามทบทวนความคิดของตัวเองหลังจากที่ได้รวบรวมข้อมูลมาระยะหนึ่งแล้ว “พวกเจ้าพอจะเล่าให้ข้าฟังได้ไหม ทั้งรายละเอียดเรื่องอาหารการกินและภัยแล้งอะไรนั่นที่พวกผู้ใหญ่คุยกัน”“พี่ใหญ่เป็นคนเล่าให้ฟังดีกว่า พี่ใหญ่น่าจะเป็นคนที่รู้เรื่องนี้ดีก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-20
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 7 เป้าหมายใหญ่กับเด็กตัวเล็ก (3)

    “...?”“...”“...”“ช่วย...ยังไงหรือขอรับ”“ช่วยอย่างไรหรือเจ้าคะ” เด็กๆ ที่ได้ยินต่างก็สงสัยกับคำกล่าวของเย่หัว “ทุกวันนี้คุณหนูก็ได้ช่วยเหลือพวกเราเอาไว้มากแล้วนะเจ้าคะ”“ใช่แล้วขอรับ ถึงจะไม่มีใครมากล่าวต่อคุณหนูโดยตรง แต่สำหรับพวกเราในหมู่บ้านตระกูลจางต่างก็รู้สึกขอบคุณคุณหนูจากใจ เพราะสำหรับพวกเราแล้วอาหารที่คุณหนูมอบให้มันมากเกินกว่าค่าแรงสำหรับคนจนๆอย่างพวกเราสามารถหาได้ไปไกลโขแล้วขอรับ”“...” เย่หัวมองเด็กๆ ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย“พี่ใหญ่กับหัวหน้าไม่ได้กล่าวผิดไปแม้แต่นิดเดียวขอรับ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเนื้อสัตว์ที่คุณหนูมักจะมอบให้กับผู้คนที่แวะเวียนมาช่วยงาน หรือหัวมันแปลกๆ ที่พวกเราไม่เคยพบเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-20
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 8 เป้าหมายใหญ่กับเด็กตัวเล็ก(4)

    “พวกเจ้าเข้ามาช่วยข้ายกนี่หน่อย” หลังจากที่เด็กๆ กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้วเย่หัวก็จะเอาห่อผ้าห่อหนึ่งออกมาให้ทุกคนได้ดู แต่ก็ลืมไปว่าห่อผ้ามันหนักเกินกว่าร่างกายเล็กๆ ของนางจะสามารถยกได้ “ขอคนแข็งแรงสักสี่คนมาช่วยกัน”“ขอรับ”“เจ้าค่ะ”ว่าแล้วจางซิวกับคนอื่นๆ อีกสามคนก็เดินข้ามาในห้องหนึ่ง ที่มีผ้าผืนใหม่ผืนหนึ่งปูเอาไว้ โดยมีบางสิ่งบางอย่างที่น่าจะหนักพอควรวางอยู่แล้วมีผ้าอีกผืนคลุมอยู่ “เอ้าๆ ช่วยกันยกออกไปข้างนอกหน่อย”“นี่มันอะไรหรือเจ้าคะ?...เราจะมาต้มมันกันหรือเจ้าคะ” จางหลัวผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มเป็นผู้กล่าวขึ้นด้วยตาลุกวาว เมื่อเห็นกองมันสองสีกองใหญ่“เปล่า” เย่หัวที่มองเห็นตาที่งอกออกมาอย่างสมบูรณ์ผิดคาดก็กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น “แต่เราจะมาลองปลูกมันพวกนี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-20
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 9 เงามืดในหมู่บ้านอันสงบสุข

    บทที่ 9 เงามืดในหมู่บ้านอันสงบสุข“อิ่มกันหรือยัง” หลังจากที่กินมื้อเย็นไปจนอาหารเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่น้ำต้มก้นหม้อ เย่หัวก็ถามทุกๆ คนที่กำลังนั่งล้อมโต๊ะหินด้วยกันอยู่“อิ่มแล้วขอรับ”“อิ่มแล้วเจ้าค่ะ”“วันนี้อิ่มแปล้เลยคุณหนู”“...”“...”ทุกคนต่างก็ตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน ที่สำคัญที่สุดก็คือรอยยิ้มกว้างที่ประดับอยู่บนใบหน้าของทุกคน“ถ้าอิ่มแล้วก็เหมือนเดิมนะ ช่วยกันเก็บล้างให้เรียบร้อย เดี๋ยวข้าไปเอาของหวานมาให้”“ไม่เป็นไรหรอกขอรับ แค่ลำพังอาหารดีๆ ที่พวกเรากินไปก็มากพอดูแล้ว” จางซิวเอ่ยออกมาด้วยความเกรงใจ“ใช่แล้วข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-20
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 10 ค่ำคืนอันยาวนาน

    บทที่ 10 ค่ำคืนอันยาวนาน“เฮ้อ...มืดอีกแล้ว”หลังจากที่เด็กๆ กลับไปจนหมด กว่าที่ฟ้าจะมืดก็ยาวนานนับสิบชั่วโมงเห็นจะได้ ซึ่งพอดวงตะวันลับขอบฟ้าลงไป ก็เหมือนกับในทุกๆ วันที่ผ่านมา ที่นางออกมานั่งถอนหายใจมองท้องฟ้าข้างๆ กองไฟเหมือนทุกวันเดือนกว่าๆ...เหมือนกับว่ามันอาจจะเป็นเหมือนเวลาเพียงแค่สั้นๆ ไม่กี่วัน แต่ในละวันที่เนิ่นนานกว่าโลกเดิมถึงสิบเท่า แล้วแต่ละเดือนยังมีเวลาที่มากถึงร้อยวัน!ในตอนแรกนางก็ยังคงพยายามนับวันเวลาอยู่บ้าง แต่สุดท้ายแล้วเมื่อเดินทางมาถึงตรงนี้ นางเริ่มเข้าใจที่ผู้คนเริ่มไม่นับวันเวลากันไปแล้ว ถ้าเช้าก็แค่ตื่นนอน ใช้ชีวิตในยามที่มีแสงตะวันเหมือนปกติทั่วไป หิวเมื่อไหร่ก็กินเพราะถึงยังไงนางก็มีของกินมากพอที่จะให้กินไปชั่วชีวิตอยู่แล้ว ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรก็มีแต่ในช่วงเวลากลางคืนที่แสนจะยาวนานนี่แหละที่นางไม่คุ้นช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-20
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   พูดคุยกันนิดนึงก่อนไปต่อ เรื่องราวค่อนข้างน้ำเน่าถ้าอยากอ่านแค่นิยายสนุกๆ ข้ามไปเลยจ้า

    ตามชื่อตอนนะครับ ไหนๆ ก็เดินทางมาถึงสิบตอนแรกแล้วและน่าจะปั่นเรื่องนี้ไปยาวๆ เลยอยากพูดคุยกันนิดนึงครับอย่างแรกเลยถ้าหากนักอ่านที่ตามมาจากเรื่องเก่าๆ ของไรท์น่าจะพอรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่มาใหม่ไรท์ขอแนะนำตัวคร่าวๆ นะครับไรท์ชื่อชาครับ นายปรีชาทองแก้ว ปีนี้อายุ35ปี(ในอีกไม่กี่เดือน)ตอนนี้ผมต้องดูแลพ่อที่ป่วยติดเตียงมาจะหกปีแล้ว (ครบหกปีวันที่4เมษา) และต้องดูแลด้วยตัวเองเพียงแค่คนเดียวมาแปดเดือนกว่าแล้ว เพราะพี่ๆ ต่างก็แยกย้ายไปทำสิ่งที่พวกเขาเลือก ทำให้ผมต้องรับภาระในการดูแลพ่อคนเดียวทั้งหมดเนื่องจากอาการของพ่อผมเป็นเส้นเลือดในสมองแตกส่งผลให้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย บวกกับโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ที่มีรวมๆ ก็ หัวใจโต เก๊าต์ พาคิดสัน ปอด ต่อมลูกหมาก ไม่ร่วมโรคคนแก่อื่นๆ ซ้ำในตอนนี้(ตั้งแต่ช่วงนี้ของปีที่แล้ว) พ่อเป็นมะเร็งลำไส้ระยะสามทำให้ต้องเข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-20
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 11 พิเศษ

    บทที่ 11 พิเศษเพียงแค่ไม่กี่วันให้หลังผู้คนในหมู่บ้านต่างกรูกันไปให้เด็กหญิงใช้งานด้วยความเต็มใจ แล้วก็มีผู้คนมากเกินไปจนสุดท้ายแล้ว “พี่ชาย” ของเขาที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้านจึงจัดส่งคนไปเป็นกลุ่มๆ เพื่อไม่ให้มีคนมากจนเกินไป จนไปสร้างความรำคาญให้กับเด็กหญิงตัวน้อยที่มาพร้อมกับผู้คุ้มกันสี่ขา จนนางเปลี่ยนใจไม่ช่วยเหลือมันก็อาจจะทำให้ผู้คนกลับไปลำบากเหมือนแต่ก่อน พี่ชายของเขาจึงพยายามให้นางมีความสุขที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป...แม้แต่ในตอนที่เขาส่งลูกสมุนของเขาไปเพื่อแกล้งเป็นโจรปล้นอาหาร หมายจะเข่นฆ่าเด็กหญิงที่ทำให้แผนการของเขาเสียหายเสีย แต่มันก็ไม่ได้เป็นไปตามที่เขาคิด‘มนุษย์มาร’ ที่ควรจะสามารถจัดการได้แม้แต่สัตว์อสูรระดับสองดาว ที่สามารถฆ่าคนทั้งหมู่บ้านได้อย่างไม่ยากเย็นด้วยตัวคนเดียว แต่กลับเป็นว่ามนุษย์มารทั้งหมดที่เขาสร้างขึ้นกลับถูกกำจัดจนสิ้นในค่ำคืนเดียวด้วยคมเขี้ยวของเจ้าหมายักษ์นั่น!

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-20

บทล่าสุด

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 84 แปดเซียนสองเทวะหนึ่งอรหันต์(1)

    บทที่ 84 แปดเซียนสองเทวะหนึ่งอรหันต์(1)จากแสงของดวงตะวันที่เริ่มอ่อนแรงลงในยามโพล้เพล้ เปลี่ยนเป็นแสงสว่างที่สาดกระทบลงมาทั่วหุบเขาในเสี้ยวพริบตา ทำให้ชาวบ้านทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น จนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไปโดยเฉพาะความรู้สึกเคารพ นอบน้อม และหวั่นเกรงต่อแสงสว่างเหล่านั้น แม้ว่าพวกเขาทุกคนจะไม่สามารถมองเห็นต้นเหตุของแสงสว่างเหล่านั้นได้ แต่ว่าความรู้สึกของพวกเขาทุกคน แทบจะไม่แตกต่างกันเลยและในเวลาเดียวกัน สายตาของทุกคนก็หันมองไปทางนางเซียนน้อยของพวกเขา ผู้ซึ่งนำพาแสงสว่างอันศักดิ์สิทธิ์สงบร่มเย็นมายังหุบเขาแห่งนี้ ที่ตอนนี้แม้แต่ตัวนางเองก็ยังมองไปยังฟากฟ้าไม่แตกต่างจากทุกคน...ส่วนที่แตกต่างกันนั้นก็คงจะเป็นภาพ ที่ปรากฏอยู่ในดวงตาของเยว่หัวนั้น มันเป็นกลุ่มก้อนรูปร่างคล้ายคลึงกับมนุษย์โปร่งใส แต่มีขนาดและสีสันต์ที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่ตัวเล็กๆ กว่าปลายเข็ม ไปจนกระทั่งตัวโตจนสูงกว่ายอดเขาที่สูงที่สุดด้วยซ้ำ...“ไม่อยากจะเชื่อ ตกลงว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่...”เยว่หัวมองไปยังภาพที่ปรากฏตรงหน้าของนาง ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้คิดไปไกลเกินกว่านั้น

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทนำเล่มสาม ดินแดนแห่งชีวิต...หุบเขาธิดาสวรรค์

    บทนำเล่มสาม ดินแดนแห่งชีวิต...หุบเขาธิดาสวรรค์อีกไม่นานหลังจากนี้...ดินแดนแห่งนี้จะเป็นที่กล่าวถึงของผู้คนมากมายดินแดนแห่งนี้ที่เคยเป็นดินแดนแห่งความตายดินแดนแห่งนี้ที่ผู้คนเคยหลีกหนีดินแดนแห่งนี้ที่เคยถูกทอดทิ้งโดยผู้คนมากมายดินแดนแห่งนี้ ที่แทบจะไม่เหลือใครในอีกไม่กี่ปีต่อมา ถ้าหากไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆดินแดนแห่งนี้ ที่ผู้คนภายนอกส่วนใหญ่ต่างมองว่า มันคือดินแดนที่ตายไปแล้วดินแดนแห่งนี้คือหุบเขาที่มีเพียงแค่ความแห้งแล้ง ที่มีเพียงแค่ซากแห่งชีวิต ที่ค่อยๆ แห้งเหือดลงไปในทุกทุกขณะมันคือดินแดนแห่งความสิ้นหวัง ที่ไม่มีใครอยากจะไปเข้าใกล้มัน เพราะไม่ว่าจะเป็นพื้นดินที่แห้งแล้ง ไม่ว่าจะเป็นหุบเขาที่เต็มไปด้วยสัตว์อสูร แล้วยังมีความลับต่างๆมากมาย ที่เคยพรากชีวิตผู้คนไปนับไม่ถ้วนในตลอดระยะเวลา 10 ปี จนทำให้ภูเขาแห่งนี้ เป็นที่ที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกไปโดยสมบูรณ์ เพราะว่าแม้แต่คนภายในเองก็ยังพยายามที่จะหลีกหนี พวกเขาพยายามที่จะกระเสือกกระสนเอาชีวิตรอดออกมาจากดินแทนแห่งนั้น…แต่อยู่มาวันหนึ่ง...ดินแดนที่เคยไร้ซึ่งชีวิตและความหวัง ก็ได้เกิดปรากฏการณ์สะเทือนฟ้าสะเทือนดิน จนผู้คนที่พบ

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 82 บทพิเศษ “เราไม่ลงนะรกแล้วผู้ใดจักลงนรก” (2)

    บทที่ 82 บทพิเศษ “เราไม่ลงนะรกแล้วผู้ใดจักลงนรก” (2)“…!!”ในทันทีที่ชาได้สติขึ้นมา มองไปยังใบหน้าของพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์นั้น ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างออก ปากอ้าหุบอ้าหุบพะงาบพะงาบราวกับต้องการจะพูดบางสิ่งบางอย่างออกไป แต่เขารู้ดีว่าความหวังของเขามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ต่อให้ใบหน้านั้นจักคุ้นเคยและคล้ายคลึงกับคนที่เขาเฝ้าตามหามาช่วยชีวิตสักแค่ไหน แต่มันก็เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาดที่ใครสักคนหนึ่งจะมีใบหน้าเหมือนอีกคน ขนาดนี้จะเป็นคนคนเดียวกัน...‘บางทีอาจเป็นข้าเองที่จำผิด...’เขาพยายามปลอบใจตัวเอง แล้วดึงสติกลับมาในเหตุการณ์ปัจจุบันอีกครั้ง สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น และเขาจะช้าไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว…“พระคุณเจ้าขอรับ...”“เรารู้ว่าเจ้ามหาเราทำไม พูดออกมาเถิดเพราะว่าเจ้าคงจะรู้ดีอยู่แล้วว่าเรานั้นสามารถทำอะไรได้หรือไม่ได้”สิ่งที่พระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์นั้นกล่าวออกมานั้นไม่ผิดเลย สำหรับคนที่เคยเข้าเฝ้าพระปัจเจกพุทธเจ้าและพระพุทธเจ้ามาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน สำหรับเขาที่มีชีวิตอยู่มานานมากขนาดนั้น มีหรือที่เขาจะไม่รู้ในข้อนี้เพราะว่าสำหรับพระที่บรรลุอรหันต์แล้ว

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 81 บทพิเศษ “เราไม่ลงนะรกแล้วผู้ใดจักลงนรก” (1)

    บทที่ 81 บทพิเศษ “เราไม่ลงนะรกแล้วผู้ใดจักลงนรก” (1)#บทนี้เป็น บท ย่อยแยกอีกบทหนึ่งนะครับ#ย้อนกลับไปในตอนก่อนที่เขาจะมอบระฆังธรรมให้กับเพื่อน ในขณะนั้นชาได้สังเกตเห็น ถึงความตั้งใจที่จะสั่งสอนธรรมะของเพื่อน แต่ด้วยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การที่นางไม่สามารถจดจำข้อธรรมใดๆ ได้มากนักก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรเนื่องจากว่าการที่เขาได้ทำการล้วงเอาจิตของนางขึ้นมาจากนรกนั้น มันเป็นเรื่องที่ทำการฝืนชะตากรรมของคนคนหนึ่ง และการที่เขา เรียกดวงจิตเดิมของนางที่ควรจะแตกดับไปนานแล้ว ตลอดไปจนถึง สัญญาสังขารและวิญญาณแต่เดิมของนาง ในภพแรกที่พวกเขาทั้ง 2 คนได้เจอกันโดยวิธีการเปิดพระธรรมคำสั่งสอนจากระฆังธรรม ให้ดวงจิตที่แตกสลายของนางได้ฟังซ้ำไปซ้ำมาครั้งแล้วครั้งเล่า ยาวนานนับหมื่นปีกว่าที่ดวงจิตของนางจะสามารถเรียกสติกลับคืนมาได้อีกครั้ง ซึ่งมันก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เหล่าสัตว์นรกบางส่วนที่พอมีฤทธิ์สามารถแทรกออกมายังบนโลกอีกครั้ง...และนั่นก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมจู่ๆ นางถึงเหมือนกับว่า สามารถอธิบายข้อธรรมคำสั่งสอนทั้งหลาย ออกมาได้ราวกับเคยศึกษามันมาอย่างถ่องแท้ ทั้งๆ ที่ตัวนางแทบจะไม่เคยศึกษาเรื่องราวในแน

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   คุยกันแบบจริงจังก่อนขึ้นเล่มสาม(เนื้อเรื่องที่แท้จริง)

    ก่อนอื่นเลยที่สำคัญที่สุดต้องขอบคุณมากๆ เลยนะครับ ที่ติดตามกันมาจนถึงตอนนี้(น่าจะเหลือไม่ถึง1/10ของคนที่หลงเข้ามาที่จะเดินมาจนถึงจุดนี้) ดีใจที่เดินทางมาด้วยกันจนถึงจุถดเริ่มต้นที่แท้จริงของนิยายเรื่องนี้ครับใช่แล้วครับ…ตั้งแต่บทนำมาจนถึงตอนนี้เพิ่งจะเป็นส่วนที่ปูจุดเริ่มต้นของ เย่หัว-เยว่หัว ให้ทุกคนได้รู้จักตัวตนและสภาพแวดล้อมของนาง โลกที่นางอยู่ ผู้คน สังคม รายละเอียดที่จะทำให้เข้าใจเนื้อหาหลัก และเหตุผลของการกระทำต่างๆ ที่นางจะทำต่อจากนี้ไป จนบางครั้งอาจจะเป็นการกระทำที่ “โหดเหี้ยม” แบบไร้เหตุผลเลยก็มี เล่ม1-2จะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในส่วนของ “บทนำ” แต่หลังจากเล่ม 3 เป็นต้นไปก็จะเข้าสู่ปฐมบทที่แท้จริง ตามชื่อบทของบทนี้ครับ เราจะคุยกันแบบจริงจังกับเนื้อเรื่องที่แท้จริงกันครับ อย่างแรกเลยก็คือหลังจากนี้จะต้อนรับเข้าสู่โลกแห่งความแฟนตาซีที่แท้จริง ของแม่ครัวตัวจิ๋วที่รักในการทำอาหารให้ผู้คนได้ลิ้มรส เป็นหนึ่งในความสุขของนาง และเป็นสิ่งสำคัญที่จะคอยยึดเหนี่ยวตัวนางเอาไว้ ส่วนยึดนางจากอะไรนั้นต้องไปติดตามในเนื้อเรื่องครับอย่างที่สองก็คือเรื่องของความแฟนตาซีและโลกในจินตนาการที

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 80 เลี้ยงส่ง(จบ)

    บทที่ 80 เลี้ยงส่ง(จบ)หลังจากที่เยว่หัวสามารถเรียกสติของผู้คนกลับมาได้อีกครั้ง ตลอดช่วงเช้าไปจนถึงเที่ยง นางก็ทำการจัดแจงแบ่งกลุ่มคนออกเป็นกลุ่มๆ โดยที่ไม่ลืมนำวัตถุดิบจำนวนมากออกมา แล้วจัดแจ้งเตรียมการฝึกซ้อมทั้งหมด กว่าที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางก็ปาเข้าไปจนถึงช่วงเที่ยงแล้วซึ่งในระหว่างที่ทำการฝึกซ้อมปรุงอาหารชนิดต่างๆ นั่นเอง เหล่าแม่บ้านและเด็กๆทุกคนต่างก็ได้ลองชิมอาหารกันอย่างเต็มอิ่ม และเมื่อเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว ทุกคนเลยหยุดพักกันในตอนเที่ยงพอดิบพอดี และถือเป็นการพักท้องอีกครั้ง เนื่องจากในตอนนี้ทุกคนแทบจะท้องแตกเสียแล้วส่วนฝั่งของจางหลงที่เป็นฝ่ายจัดเตรียมสถานที่ ซึ่งพวกเขาทุกคนก็ทำเต็มที่ในหน้าที่ของตนเอง แต่ด้วยข้อจำกัดของหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง โดยเฉพาะเวลาที่มีอยู่เพียงแค่ไม่กี่ชั่วยามเท่านั้น พวกเขาจึงตกลงกันใหม่ว่า จะจัดเป็นโต๊ะไม้ยาวๆ ขนาด 6 ถึง 8ที่ แทนที่แผนการจะทำโต๊ะชุดวงกลม และโต๊ะทั้งหมดจะหันหน้าเข้าหาเวที ด้านเดียว ส่วนตัวเวทีเองก็จะสร้างขึ้นมา โดยการขุดดินมาถมเป็นเนินสูงขึ้นประมาณหัวเข่า ใช้ดินเหนียวในการป้ายโดยรอบเพื่อไม่ให้หน้าดินพัง

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 79 เลี้ยงส่ง(3)

    บทที่ 79 เลี้ยงส่ง(3)“ตอนแรกข้าขอยอมรับสารภาพเลยว่า ตัวข้าเองก็ไม่ได้จินตนาการเลยว่าทุกคนจะให้ความร่วมมือมากขนาดนี้”เยว่หัวมองไปยังทั้งผู้หญิงและเด็ก แทบทั้งหมดในหมู่บ้านที่มารวมตัวกัน ซึ่งในมือทุกคนต่างก็มีหม้อกระทะถ้วยชามรามไห รวมไปถึงตะเกียบและแก้ว น้ำที่ทำจากไม้บ้างหินบ้างดินเผาบ้างเหล็กบ้าง ซึ่งเรียกได้ว่าทุกคนเต็มที่กับสิ่งที่นางบอก จนนางที่เพียงแค่อยากจะทดลองการปรุงอาหาร เพื่อที่จะนำไปเป็นเมนูในร้านที่กำลังจะเปิด ก็ต้องเปลี่ยนความคิดอีกครั้ง“...”“...”“...”ทุกคนไม่ได้กล่าวอะไรออกมา เพียงแค่ยิ้มมองไปทางเด็กหญิงเท่านั้น และกำลังรอฟังคำสั่งด้วยความตั้งใจ แม้กระทั่งเด็กๆ ทุกคนที่ปกติเมื่อเจอกับนางเซียนน้อยของพวกเขา ก็มักจะแสดงออกอย่างดีอกดีใจ กระโดดโลดเต้นกันต่างๆนานา ยิ่งในตอนที่ไม่ได้พบได้เจอกันหลายวันแบบนี้แล้ว ปกติพวกเขาจะยิ่งกุลีกุจอมาหานาง แต่ในตอนนี้เด็กๆทุกคนเพียงแค่รออยู่กับผู้ปกครองของตนเองด้วยความตั้งใจ ไม่มีใครแตกแถวเลยแม้แต่คนเดียว“ในเมื่อทุกคนจริงจังกันขนาดนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นข้าเองก็ขอจริงจังด้วยอีกคนก็แล้วกัน...” เด็กหญิงยิ้มและใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว เนื่องจาก

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 78 เลี้ยงส่ง(2)

    บทที่ 78 เลี้ยงส่ง(2)“ก็ตามที่ได้บอกไปก็แล้วกัน เดี๋ยวทุกคนก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง ข้าจะเป็นคนนำฝ่ายผู้ชายไปจัดเตรียมสถานที่ตามที่คุณหนูได้สั่งเอาไว้ ส่วนพวกผู้หญิงก็เดินทางไปหาคุณหนูได้เลย เห็นนางบอกว่า วันนี้นางจะจัดเตรียมวัตถุดิบทั้งหมดด้วยตัวเอง พวกเจ้าไม่ต้องนำสิ่งใดไปด้วย ถ้าจะเอาไปก็คงจะเป็นพวกอุปกรณ์ จานชาม และสิ่งที่จำเป็นต่อการประกอบอาหารก็แล้วกัน พวกเจ้ามีอะไรก็เอาไปเท่าที่มี เพราะว่าการที่จะจัดเลี้ยงผู้คนทั้งหมู่บ้านก็คงจะต้องเตรียม หลายอย่างเลยทีเดียว”“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพวกข้าขอแบ่งออกไปตัดไม้แล้วกันนะหัวหน้า จะพาคนไปด้วยร้อยคนจะได้ช่วยกันหาไม้มาให้ได้มากที่สุด”“ส่วนพวกข้าก็จะไปเตรียมลานกว้างเลยแล้วกันนะ ขอรับ ถ้าจะขยายพื้นที่เพื่อวางโต๊ะ ตามรูปแบบที่นางเซียนน้อยได้กล่าว คงจะต้องเตรียมพื้นที่ให้มากขึ้นอีกหน่อย จะได้เดินเหินสะดวกในงานเลี้ยงขอรับ”“ถ้าอย่างนั้นข้ากับพวกผู้หญิงคนอื่นๆ ก็ขอแยกย้ายกลับบ้านก่อนแล้วกันนะเจ้าคะ จะได้ไปบอกเด็กๆให้ไปเล่นที่บ้านของนางเซียนน้อยด้วย หลายวันมานี้ทุกคนตั้งใจเรียนมากเลย ผ่อนคลายสักวันก็คงจะไม่เป็นไรเจ้าค่ะ”“ก็ดีนะเจ้าคะ เดี๋ยว

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 77 เลี้ยงส่ง(1)

    บทที่ 77 เลี้ยงส่ง(1)“วันนี้คุณหนูเป็นอะไรหรือเปล่าขอรับ” จางหลงที่รับรู้ได้ถึงความรู้สึกขุ่นมัวในใจของนางเซียนน้อย ก็ได้เอ่ยถามขึ้นหลังจากที่ออกมาจากเรือน ซึ่งเป็นที่พักของผู้มาใหม่ทั้ง 2 คน “ทำไมวันนี้คุณหนูถึงได้ดูอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยขอรับ”“ไม่ได้มีอะไรมากหรอกเจ้าค่ะ เพราะว่าวันนี้ข้าตั้งใจจะทำตามความต้องการของตัวเองตั้งแต่แรก คือก็คือการปรุงอาหารให้ทุกคนได้ลองกินดู ไหนๆก็จะเปิดโรงเตี๊ยมอยู่แล้ว แต่ข้ายังไม่เคยได้ทำอาหารจริงๆจังๆเลยสักครั้ง การที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ตั้งแต่เช้า มันก็คงจะทำให้ข้าหงุดหงิดไปบ้าง อย่างไรต้องขออภัยด้วยนะเจ้าคะ” เยว่หัวพยายามเปลี่ยนเรื่อง เพราะว่าไม่ได้อยากจะให้ใครรู้เรื่องราวของความฝันมากนัก เพราะว่าการที่มีใครรับรู้มันไปมากกว่านี้ จะเกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นอีกไหม และอีกอย่างหนึ่ง สิ่งที่นางพูดไปก็ไม่ใช่เรื่องโกหกไปเสียทั้งหมด เพราะว่ากันแล้ววันนี้นางต้องการที่จะลงมือควบคุมการปรุงอาหาร ในการเลี้ยงผู้คนทั้งหมู่บ้านทั้งหมดจริงๆ ไหนๆก็ไหนๆแล้วนางอยากจะลองทำอย่างจริงจังดูสักครั้ง“จริงหรือขอรับ ทุกคนคงดีใจมากแน่ๆ”“ขนาดนั้นเลยหรือเจ้าคะ?”“คุณหน

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status