ผมสะดุ้งตื่นตั้งแต่เช้ามืดด้วยความหวังว่าผมจะคืนร่างกลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะผมยังอยู่ในร่างของน้องแพม ส่วนร่างของผมยังนอนหลับไม่ได้สติ หายใจเป็นจังหวะเหมือนคนหลับลึก ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะลุกไปอาบน้ำ คราวนี้ผมรู้วิธีการรวบผมไว้ไม่ให้เปียกเพราะมันแห้งยากเหลือเกิน ผมไม่อาจเข้าใจได้ว่าสาวๆ เค้าใช้ชีวิตอยู่กันได้อย่างไรในการที่ต้องทำผมให้แห้งทุกวันแบบนี้
ถัดจากอาบน้ำ ผมก็ต้องมาแต่งตัวซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเช่นกัน โดยเฉพาะการใส่บราที่ทุลักทุเล หน้าอกหน้าใจอวบใหญ่ของแพมทำให้รู้สึกอึดอัดยังไงบอกไม่ถูก แต่เมื่อสวมบราเข้าที่แล้วผมก็รู้สึกดีขึ้น ก่อนที่จะต้องมาใส่ชุดนักศึกษาที่ต้องใช้เวลาทำใจและทำตัวให้คุ้นชินอยู่สักพัก เพราะเสื้อมันตัวเล็กและรัดลำตัวมาก ส่วนกระโปรงก็สั้น แถมยังผ่าด้านหลังอีก
ไม่ว่าจะลุกยืนหรือทรุดตัวลงนั่ง ทำอย่างไรก็ดูเหมือนจะโป๊ตลอดเวลา ต้องลองลุกและนั่งอยู่หลายครั้งถึงจะรู้วิธี และผมก็ต้องหนีบเข่าให้ชิดกันโดยอัตโนมัติเพราะกางเกงชั้นในทำท่าจะปรากฎสู่สายตาสาธารณชนอยู่เรื่อย
แน่นอนว่าผมไม่รู้วิธีแต่งหน้าหรือทาแป้งทาครีมแบบที่ผู้หญิงเค้าทำกันหรอกครับ ลำพังแค่หวีผมไม่ให้ยุ่งเหยิงก็ยากพอสมควรอยู่แล้ว ผมจึงออกจากห้องไปแบบที่ไม่ได้แต่งหน้าใด ๆ หรือที่เรียกกันว่า “หน้าสด” กันเลยทีเดียว ผมไม่ลืมหยิบกระเป๋าของแพมที่มีทั้งกระเป๋าตังค์ บัตรนักศึกษา และอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการสอบไปด้วย
ตอนแรกผมเดินแบบตุปัดตุเป๋ด้วยความที่ไม่ชินและเพราะกระโปรงนักศึกษามันรัดสะโพกแบบแปลก ๆ ผมสังเกตได้ว่ามีสายตาผู้ชายทั้งนักศึกษาและคนทำงานเหลือบมองมาบ่อยครั้ง บางคนจับจ้องอย่างน่าเกลียดจนผมรู้สึกรำคาญแทบอยากจะด่าให้
แต่แล้วก็นึกไปถึงตอนที่ผมลอบมองน้องแพมด้วยสายตาหื่นกามอยู่หลายครั้งหลายครา ผมชักเริ่มเข้าใจว่า เธออาจรู้สึกเหมือนที่ผมรู้สึกตอนนี้ ผมรีบเดินด้วยความพยายามทำตัวให้ปกติที่สุด จนไปขึ้นแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปมหาลัย
ผมเดินหาอาคารสอบอยู่นาน เด็กนักศึกษาชายหลายคนมองมาที่ผมอีกเช่นเคย ผมพยายามทำตัวให้คุ้นชินกับสายตาที่จ้องมองตรงมาที่ตัวเอง ผมไปนั่งรออย่างสงบเสงี่ยมอยู่ที่หน้าอาคารสอบตามที่นัดกับโบว์ เพื่อนของแพมไว้ พยายามไม่สบตากับผู้คน
“มานานยัง แพม...”
ไม่นานนัก โบว์ก็มานั่งข้าง ๆ ผมพยักหน้าหงึก ผมเพิ่งเคยเห็นโบว์เป็นครั้งแรก เธอมองหน้าผมแล้วทำตาโตก่อนจะพูด
“นี่ยัยแพม ...คิดยังไงถึงหน้าสดมาสอบเนี่ย..หรือว่าอ่านหนังสือหนักจนตื่นสาย”
“ปะ...เปล่านี่ เออ ก็ทำนองนั้นแหละ”
ผมตอบตะกุกตะกัก เธอหัวเราะเสียงใส
“อย่างแพมนี่หน้าสดก็สวยเนอะ...ผิวใสปิ๊งเลยอะ” โบว์พูด “แต่หน้าซีดไปหน่อยนะ...มานี่...เดี๋ยวเราทาแป้งให้”
ว่าแล้วโบว์ก็หยิบตลับแป้งออกมาแล้วโปะหน้าให้ผมเบา ๆ ผมจ้องมองหน้าโบว์ สาวตรงหน้าก็หน้าใสปิ๊งเหมือนกัน แถมยังน่ารักแฝงความเปรี้ยวไว้ด้วย ผมแอบมองจ้องมองหน้าอกอวบใต้เสื้อนักศึกษา เธอใส่กระโปรงสั้นเช่นกัน ชายกระโปรงเลิกขึ้นไปจนมองเห็นขาขาวเนียน มีขนอ่อนรำไรจนผมแอบกลืนน้ำลาย
น่าแปลกที่โบว์ไม่ได้ว่าอะไรผมเลยที่จ้องมองแบบนั้น แต่ผมก็รู้ตัวว่าก็ตอนนี้ผมอยู่ในร่างแพมนี่นา สาว ๆ อาจจะมองกันแบบนี้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว โบว์หยิบแปรงมาปัดแก้มอีกเล็กน้อยจนเสร็จ เธอหยิบกระจกมาให้ผมส่ง ตอนนี้สองแก้มสีแดงระเรื่อ
“นี่สวยแล้ว...สมกับเป็นดาวคณะหน่อย”
ดาวคณะ? น้องแพมเป็นดาวคณะหรือนี่ ทีนี้ผมก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหนุ่ม ๆ เกือบทั้งมหาลัยถึงเหลียวมองตามขนาดนั้น หลายคนคงมองแพมเป็นเหมือนนางฟ้าคล้ายกับที่ผมเองก็แอบมองเธออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ก่อนเข้าห้องสอบ ผมไม่ลืมโทรไปที่ทำงานของผมแล้วบอกว่าเป็นพี่สาวของเป้ง ตอนนี้เป้งไม่สบาย อาจจะลางานสัก 2-3 วัน ฝ่ายบุคคลทำเสียงเหมือนไม่ยินดียินร้ายแล้วบอกว่าเมื่อกลับมาทำงานแล้วให้ไปขอใบรับรองแพทย์มาด้วย ผมตอบรับก่อนวางสาย
ผมเข้าสอบแบบที่ทำไม่ค่อยจะได้สักเท่าไหร่ คนหัวทึบอย่างผม ลำพังอ่านหนังสือมายังทำไม่ได้ แต่นี่ไม่ได้อ่านเลยยิ่งไม่ต้องพูดถึง ผมรู้สึกผิดจนต้องขอโทษแพมอยู่ในใจ ไม่รู้ว่าผลคะแนนจะออกมาเป็นอย่างไรแต่ผมก็ทำเต็มที่แล้ว
หลังจากสอบเสร็จครู่เดียว พอออกมาจากห้องสอบ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ผมกดรับ ไอ้หนุ่มที่ไหนก็ไม่รู้ส่งเสียงมาจากปลายสาย
“พี่จอดรถรออยู่หน้ามหาลัยแล้วครับ...น้องแพมเดินออกมาเลยนะ”
ผมงุนงงว่าผมไปนัดกับมันตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่แพมก็อาจนัดไว้ก่อนหน้านี้แล้วก็ได้ ผมบอกลาโบว์แล้วเดินออกไปหน้ามหาลัย
“พี่พอลมารับแล้วเหรอ..” โบว์ถามแล้วโบกมือให้ ผมทำหน้างง พอลไหนวะ
พอเดินมาถึงหน้าประตู รถบีเอ็มดับเบิลยูสปอร์ตคูเป้สีดำสนิทก็แล่นมาจอดทันที ผมเหลียวซ้ายมองขวาด้วยความงง กระจกรถเปิดลง
“ขึ้นมาสิครับ น้องแพม..”
เสียงชายหนุ่มดังมาจากในรถ ผมลังเลครู่นึง ยามเป่านกหวีดไล่หลัง จนต้องยอมเปิดประตูรถขึ้นไปนั่ง รถเคลื่อนที่ออกไปอย่างรวดเร็ว
“เป็นไงทำข้อสอบได้มั้ย..”
ผมหันไปมองหน้ามัน นี่เหรอพี่พอลที่ว่า ดูแล้วคงจะไม่ใช่นักศึกษา แต่น่าจะเป็นหนุ่มออฟฟิศวัยราว 27-28 ซึ่งไล่เลี่ยกับผม ผมพยักหน้าหงึก ๆ ตอบรับอย่างงงงวย
“หิวข้าวมั้ย.. ไปกินข้าวกันเนอะ..”
พี่พอลเอ่ย ผมอึ้งไปเล็กน้อย ไม่ได้ตอบอะไร ชักรู้สึกผิดที่ขึ้นรถมากับไอ้หนุ่มหน้าคม คิดสงสัยในใจว่าแพมคบกับมันอยู่หรือนี่
รถค่อนข้างติด ผมนั่งเงียบ เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อมันวางมือบนหน้าผากของผม
“ไม่สบายหรือเปล่าครับ ...ทำไมเงียบ ๆ”
มันถาม ผมส่ายหัวดิกแล้วเบี่ยงหัวออกจากมือของมัน
“เปล่าๆ ...”
ผมตอบสั้นๆ มันยิ้มแล้ววางมือลงบนหัวเข่าของผมหน้าตาเฉย ทำเอาผมสะดุ้ง รีบขยับขาหนี แต่มันไม่สนใจยังวางแปะลงบนขาผมอีก แล้วบีบเบา ๆ คราวนี้ผมรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก หน้าร้อนวูบวาบปะปนกับความหงุดหงิด
“เออ...ผม...เอ้อ..แพมปวดหัวอะ...พาไปส่งที่ห้องเถอะ..” ผมบอก
ไอ้พี่พอลทำหน้าแปลกใจ ถามอีกหลายครั้งว่าไม่สบายหรือเปล่า ผมยืนกรานบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร แค่อยากนอนพักผ่อน มันถึงยอมขับรถไปส่งผมที่ห้องได้ ก่อนลงจากรถ มันยังจับมือของผมไว้แล้วบอกพักผ่อนเยอะ ๆ ผมยิ้มแหย ๆ ให้ก่อนจะลงจากรถ แล้วรีบเดินขึ้นไปบนห้องทันที
ผมนั่งตั้งสติอยู่บนเตียงสติสักพัก ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องรู้สึกแปลก ๆ ไปกับมือหยาบ ๆ ของไอ้พอลนั่นด้วย หัวใจผมเต้นแรงอย่างประหลาด หันไปมองร่างของตัวเองที่ยังนอนนิ่ง ก่อนจะล้มตัวลงนอนหงายบนเตียง ดึงชายเสื้อของตัวเองออกแล้วปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาที่รัดจนอึดอัด สาบเสื้อแยกออกจากกัน ผมก้มลงมองหน้าอกตัวเองที่เบียดกันอยู่ใต้บรา
...นี่ถ้าผมยังอยู่ในร่างตัวเองก็คงจะตื่นเต้นจนตาโตที่ได้เห็นความเซ็กซี่แบบนี้ แต่ตอนนี้ผมอยู่ในร่างของน้องแพม รูปร่างอันเย้ายวนของเธอกลับไม่ดึงดูดใจผมเท่าใดนัก แทบไม่แตกต่างจากผมมองตัวเองในร่างเดิมเลย
ทำยังไงดีหนอ เราต้องอยู่แบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ ผมคิดในใจ มือลูบคลำหน้าอกตัวเองเล่น แล้วลองบีบเบา ๆ มันแข็งสู้มือดีเหลือเกิน ลูบ ๆ บีบเพลิน ๆ จนใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ถ้าผมไม่ได้กลับไปในร่างของตัวเองอีกแล้วล่ะจะทำยังไง ผมต้องกลายเป็นผู้หญิงตลอดไปอย่างนั้นหรือ พระเจ้ากำลังเล่นตลกอะไรกับผมกันเนี่ย ยิ่งคิดยิ่งฟุ้งซ่าน ผมต้องทำยังไงต่อไป เรียนจบแล้วหางานทำ ใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติอย่างนั้นหรือ แล้วร่างผมที่นอนอยู่จะทำยังไงล่ะ
ผมบีบหน้าอกตัวเองแรงขึ้น ยิ่งทำยิ่งรู้สึกดีและวูบวาบไปทั่วหน้าอก ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน มันให้ความเพลิดเพลินซาบซ่านเหมือนมีไฟช็อตอ่อน ๆ อยู่ในอก ตอนนี้ผมนอนอยู่บนเตียง ยังอยู่ในชุดนักศึกษาที่เสื้อหลุดลุ่ย สาบเสื้อแยกออก กระโปรงสั้นร่นขึ้นมาถึงโคนขา ผมแหวกบราออกแล้วเขี่ยทีหัวนม
“ฮืออ...”
ผมถอนหายใจแรงๆ ออกมา
นิ้วเขี่ยที่ปลายถันจนชูชันขึ้นมาทั้งสองข้าง ผมนอนหลับตา บีบเคล้นเต้านมและหัวนมอย่างลืมตัวเพราะความสยิวซ่านที่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว หัวใจผมเต้นแรงราวกับได้ช่วยตัวเองเป็นครั้งแรก อารมณ์พลุ่งพล่านยิ่งขึ้น
ผมลูบไล้หน้าอกตัวเองแล้วเลื่อนลงมาถึงหน้าท้อง ความสยิวแล่นพล่านไปทั่วตัว ผมขยับมือมาถึงเนินสาว รั้งรวบกระโปรงนักศึกษาขึ้นมาไว้ที่เอวแล้วบดนิ้วลงไปบนเนินนูนนอกกางเกงใน เรียวขาแยกออกโดยอัตโนมัติ ผมบดนิ้วหมุนวน ยิ่งทำยิ่งสยิวซ่าน
“อืมมม...”
ผมครางเบาๆ ในลำคอ
ความรู้สึกมันช่างแตกต่างจากตอนที่ผมช่วยตัวเอง เพราะตอนนี้มันรู้สึกวาบหวิว ปลุกเร้าให้ใจสั่นสะท้าน เรี่ยวแรงหดหาย ตัวอ่อนระทวย แต่หิวกระหายอย่างบอกไม่ถูก
ผมกลืนน้ำลายแล้วค่อย ๆ ล้วงมือเข้าไปใต้กางเกงใน สัมผัสกับกลีบเนื้อจนสะดุ้งโหยง ผมนอนหลับตา ค่อย ๆ ใช้นิ้วเขี่ยเบาๆ เปิดกลีบสาวออกแล้วเล่นนิ้วที่ปากแคม มันสยิวจนผมอดใจที่จะบดนิ้วลงไปไม่ได้ พอผมเขี่ยไปโดนเม็ดสวาทก็สะดุ้งโหยง คราวนี้ความเสียวพุ่งทะยานขึ้นมาทันใด
“อึ้ยยยย...อืออ...เสียวดีจริง ๆ”
ผมบดนิ้วเน้น ๆ ลงบนเม็ดสวาท อีกมือขยำเต้านมของตัวเองไว้ ครู่เดียวผมก็รู้สึกถึงความเปียกแฉะที่ปากร่อง มันอาบชะโลมนิ้วจนชุ่ม หัวใจผมเต้นแรงระรัว มันช่างน่าตื่นเต้นอะไรเช่นนี้ ยิ่งมีน้ำหล่อลื่นผมยิ่งใช้นิ้วได้อย่างเพลิดเพลินยิ่งขึ้น ทั้งเขี่ยที่ปากร่องและบดบี้ไปบนเม็ดแตด ผมเสียวจนเผลอแอ่นเอวยกสะโพกขึ้นพร้อมกับแหย่แยงนิ้วเล่นกับร่องของตัวเอง
ความเสียวทำให้ผมบดนิ้วไปบนเม็ดสวาท สลับกับแหย่นิ้วเข้าไปในร่อง งอนิ้วเกี่ยวเข้าออกเบา ๆ ผมนอนหลับตาปี๋ ความเสียวอาบท่วมท้นไปทั้งร่าง
“อืออ...ซีดดส..”
ผมสูดปากคราง เร่งนิ้วเร็วขึ้นจนอีกไม่นานนัก ความเสียวก็พุ่งถึงขีดสุดในแบบที่ผมไม่ทันตั้งตัว
“อื๊อออ...”
ผมร้องครางออกมาแล้วตัวกระตุกเกร็ง สัมผัสความเสร็จสมเสียวสุดยอดในร่างของแพมเป็นครั้งแรก ขนลุกชันไปทั้งตัว นิ้วบดบี้ที่เม็ดสวาทปลุกปั่นความเสียวกระสันแบบสุด ๆ หัวใจเต้นแรงจนเกือบหลุดออกมา ผมนอนหลับตาปี๋ เผยอปากอ้าค้าง หายใจหอบราวกับเพิ่งวิ่งสปีดร้อยเมตร
แต่น่าแปลกที่ความเสียวยังปั่นป่วนไปทั่วตัวเหมือนไม่ยอมร้างรากันง่าย ๆ
นิ้วของผมยังบดเบา ๆ ที่เม็ดสวาท ครู่เดียวความสยิวซ่านก็ทะยานขึ้นมาอีกครั้ง ผมแปลกใจที่ทำไมมันยังรู้สึกวาบหวิวได้อย่างต่อเนื่อง ถ้าเป็นในร่างของผมเอง พอช่วยตัวเองจนน้ำแตกก็หมดอารมณ์ไปอีกพักใหญ่ แต่ตอนนี้ ผมกลับยังรู้สึกเสียวสยิวอยู่อีกทั้ง ๆ ที่เพิ่งเสร็จสมไปเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน
ผมกัดปากตัวเอง ใช้นิ้วบดบี้ที่เม็ดสวาทต่อเนื่อง มือบีบเคล้นเต้านมหนักเน้น ปลุกปั่นความเสียวให้ลุกโชนราวกับเทน้ำมันเข้าในกองเพลิง
“โอยย..เสียว..ซีดสส..”
อดไมได้ที่ผมจะพึมพำออกมาด้วยความเสียวซ่านที่โหมกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง ผมแหย่นิ้วกลางเข้าไปในร่องสวาทลึกขึ้น แล้วงอนิ้วเบา ๆ มันเสียวคับแน่นอย่างไม่รู้จะอธิบายยังไง เป็นความรู้สึกที่ผมคงไม่มีวันได้รับรู้ในร่างผู้ชาย เพียงแค่ผมขยับนิ้วเล็กน้อย ความเสียวก็พุ่งขึ้นอีก
ผมพลิกตัวนอนตะแคง มือยังแหย่แยงที่ร่องสวาทที่ตอนนี้เปียกชุ่มไปหมด บีบเรียวขาแน่น อารมณ์เสียวทำให้ผมรู้สึกกระเจิดกระเจิง ผมนอนตัวเกร็งแหย่นิ้วเข้าออก สลับกับบีบเคล้นนมตัวเองอย่างลืมตัว ขมวดคิ้วมุ่น ด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมความเสียวในร่างผู้หญิงถึงต่อเนื่องรุนแรงแบบนี้
“อ๊ออา...ซีดดส...โอยยย”
ไม่นานนัก ผมก็ใช้นิ้วพาตัวเองเสร็จสมเป็นครั้งที่สองติดต่อกันอย่างรวดเร็ว ผมกัดปากตัวเองไว้แน่นเพื่อไม่ให้เผลอหลุดร้องครางออกไป ฟุบหน้าลงกับหมอนแล้วตัวกระตุกเกร็งหลายครั้ง ก่อนจะผ่อนลมหายใจพรู ความเสียวคลายตัวลงไปบ้าง แต่ก็ยังมีเชื้อวนเวียนรอเวลาปะทุอยู่ ผมต้องตัดใจถอนมือออกมาก่อน
“ฮืออ...”
ผมถอยหายใจออกมาพรูใหญ่ ขืนไม่หยุดตอนนี้ ผมต้องทำต่อไปอีกเรื่อย ๆ แน่ ผมพลิกนอนตะแคง หายใจแรงอยู่บนเตียง ชุดนักศึกษายับยู่ยี่ยังคาอยู่บนตัว
ผมเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลียหลังจากช่วยตัวเองเสร็จสมสองครั้งติด ๆ กัน พอตื่นขึ้นก็เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็นแล้ว ผมกลัดกระดุมนักศึกษาเข้าที่เดิม จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ผมเผ้ายุ่งเหยิงจนต้องมานั่งหวีอยู่หน้ากระจกจ้องมองน้องแพมในเงาสะท้อน เธอช่างมีเค้าโครงหน้าที่เพอร์เฟคและสวยอะไรเช่นนี้ มองตากลมโตที่มีแววขี้เล่น คิ้วโก่งอย่างเหมาะเจาะ จมูกมีสันโด่งรับลงมาถึงเรียวปากกระจับ สองแก้มมีเลือดฝาดจาง ๆก่อนที่จะค่ำมืด ผมแอบเข้าไปในห้องของตัวเองตอนที่ไอ้เจยังไม่กลับ หวังจะเข้าไปเอาแล็ปท็อปของตัวเองมาใช้ในห้องของแพม แต่ก่อนที่ผมหันหลังกำลังจะเดินออกมาจากห้อง ไอ้เจยืนอยู่หน้าประตูห้อง มองหน้าผมด้วยความงุนงงเต็มประดาผมในร่างน้องแพมก็ยืนนิ่งอึ้งเช่นกัน ในมือถือกระเป๋าคอมพิวเตอร์อยู่ ใครก็ตามมาเห็นตอนนี้ก็ต้องคิดว่าผมในร่างนักศึกษาสาวสวยคงกำลังขโมยคอมพิวเตอร์อยู่เป็นแน่“ทำอะไรน่ะ...?”ไอ้เจถามเสียงเข้ม ผมอึกอัก“ปะ...เปล่า..” ผมหันรีหันขวาง ไม่รู้จะทำอย่างไร“จะเอาคอมนั่นไปไหน...เอ.. น้องนี่ที่อยู่ในห้องตรงนู่นนี่...”ไอ้เจพูด มันกับผมรู้ว่าแพมอยู่ห้องไหน ผมเงียบ มันพูดต่อ“ขโมยของเหรอ” ไอ้เจถามโต้
ตอนแรกผมลังเลที่จะออกไปข้างนอกตามคำชวนของมันเพราะไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไร แต่ไอ้เจก็บอกว่า ผมต้องออกไปเปิดหูเปิดตาและทำตัวให้คุ้นชินกับการอยู่ในร่างของน้องแพมบ้างไอ้เจชวนผมออกไปกินข้าวกับเพื่อนที่ทำงานของมัน มันถือวิสาสะเปิดตู้เสื้อผ้าของแพมแล้วเลือกชุดใหม่ให้ผมอีกต่างหากเพราะเกรงว่าชุดนักศึกษาจะเข้าร้านอาหารกึ่งผับไม่ได้ ผมต้องสวมกางเกงขาสั้นกุดที่ชายกางเกงค่อนข้างบานของน้องแพม เปลี่ยนเสื้อนักศึกษาเป็นเสื้อยืดรัดรูปตามที่มันเลือกให้ ไอ้เจเห็นแล้วจุ๊ปาก มันบอกคนสวยใส่อะไรก็สวยแฮะ ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับมันเท่าไหร่ที่จะแต่งตัวแบบนี้ เพราะอยากใส่กางเกงขายาวมากกว่า“ใส่แบบนี้แหละ...หุ่นดี ขาสวยแบบนี้ก็ต้องโชว์หน่อย ปกติมึงก็ไม่มีหมามองอยู่แล้วนี่หว่า คราวนี้ผู้ชายได้มองกันทั้งร้าน” ไอ้เจพูด แล้วหัวเราะร่ามันขับรถไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากอพาร์ทเมนท์มากนัก พอไปถึง เพื่อนของไอ้เจนั่งกินกันอยู่ก่อนแล้ว มีแต่ผู้ชายทั้งนั้น เห็นแล้วผมอยากจะกลับบ้านเลยเพราะแทบจะไม่มีสาว ๆ เป็นอาหารตา จะมีก็แต่พริตตี้เชียร์เบียร์ที่เดินกันขวักไขว่ มิน่าล่ะ ร้านนี้ผู้ชายถึงเยอะก็เพราะพริตตี้เยอะนี่เองเพื่อ
ผมใจเต้นโครมคราม ไอ้เจไม่ได้รู้เลยว่า แค่มือมาสัมผัสหน้าขาผมก็ใจเต้นวูบวาบแล้ว ตอนนี้มือมันล้วงคลำอยู่ที่เนินสาวถึงแม้จะมีชั้นใจขวางกั้น แต่ก็ทำเอาผมสยิวแบบแปลก ๆ มันต่างจากที่ผมลูบคลำช่วยตัวเองจนเสร็จสมไปสองครั้งเมื่อตอนบ่าย มือหยาบ ๆ ของเพศตรงข้าม กระตุ้นความรู้สึกแปลกประหลาดได้มากกว่ามือผู้หญิงอันนุ่มนิ่มของตัวเอง...หรือนี่จะเป็นอารมณ์แบบธรรมชาติที่อยู่ในตัวผู้หญิงทุกคน“เสียหายดิวะ...อึ้ยยย...พอแล้ว”ผมร้องห้ามมัน แต่ไอ้เจก็ล้วงมือลึกเข้าไปใต้กางเกงในจนได้ มันวางมือไปบนเนินสาวทำเอาผมสะดุ้งหนีบขาไว้แน่น พยายามเบี่ยงตัวให้หลุดพ้นแต่สู้แรงมันไม่ได้เลย แรงน้องแพมช่างน้อยนิด ผมดันแขนมันเหมือนกำลังดันเสาคอนกรีตต้นใหญ่ยักษ์ที่ไม่ขยับใด ๆ ไอ้เจหัวเราะแล้วพูด“มึงรู้มั้ย เมื่อตอนเย็น...แค่ได้เห็นรูปร่างน้องแพม...น้องชายกูลุกตั้งเลย...สุดยอดจริง ๆ ตอนนี้ขอกูจับหน่อยเถอะ”ผมปฏิเสธมันเสียงแข็ง แต่มันก็แทบไม่ฟัง นิ้วของมันกลับบดบี้ลงบนกลีบสาวจนผมตัวกระตุกเฮือก พยายามดึงแขนมันออกอย่างไร้ผล ไอ้เจเกี่ยวนิ้วเบา ๆ ไปที่เม็ดสวาท ความสยิวซ่านพลุ่งพล่านขึ้นมาซะอย่างนั้น ใจเต้นโครมคราม พยายามอดกลั้นคว
ผมสะดุ้งตื่นเช้ามืด เมื่อได้ยินเสียงไอแค่กๆ ดังมาจากข้างเตียง ผมชะโงกดูก็เห็นร่างของผมกระสับกระส่าย มือขยับมาวางที่หน้าอก“น้ำ...”เสียงแหบ ๆ ดังมา ผมรีบผวาไปหยิบน้ำมาค่อย ๆ กรอกใส่ปาก จนร่างของผมสงบลง ผมเขย่าตัวเบาๆ“เป็นไงบ้าง”ผมถามเบา ๆ ดวงตาของร่างตรงหน้าลืมขึ้นช้า ๆ ปรือมองผมแล้วจ้องมองแน่นิ่ง สายตานั้นเหมือนยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนจะมองไปที่เพดานและรอบข้างตัวเอง“ที่ไหน...แพมอยู่ไหน” ร่างของผมถามด้วยเสียงแผ่วเบา“แพม...ก็อยู่ในห้องแพมไง” ผมตอบเหมือนแพมในร่างผมจะยังไม่ได้สติเต็มร้อย ผมนั่งจ้องมองหน้า นานหลายนาทีก่อนที่เธอจะทำตาโตเมื่อเห็นร่างของเธออยู่ตรงหน้า เธอผวาจะลุกขึ้น แต่แล้วก็ต้องทรุดตัวลงนอนอีกรอบ“อย่าเพิ่งรีบลุก...น้องหลับไปตั้งสองวันสองคืน” ผมบอก“เกิดอะไรขึ้น ทำไม แพม...คุณ..ทำไมเป็นแบบนี้”แพมถาม เธอทำตาโต ดูเหมือนเธอจะจำไม่ได้ที่ผมบุกเข้ามาปลุกปล้ำในห้องของเธอ“เรื่องมันยาวน่ะครับ”ผมพูด แพมพยายามยันตัวเองลุกขึ้น เธอสำรวจร่างกายของตนเองซึ่งก็คือร่างของผมนั่นแหละ ก่อนจะหันไปมองรอบๆ เธอรู้ตัวแล้วว่าอยู่ในห้องของเธอเอง ก่อนจะมาจ้องมองหน้าผม แล้วมองชุดที่ผมใส
“อืมม...” แกกระแอม “ถ้าคะแนนเป็นแบบนี้ก็ติดเอฟแน่นอน”พูดจบก็มองลอดแว่นมาที่ผม ผมหน้าเสีย ถ้าติดเอฟก็เป็นปัญหาใหญ่สำหรับแพมแน่ กลายเป็นว่าผมจะทำให้อนาคตของแพมเสียหลังจากอยู่ในร่างเธอไม่กี่วันเท่านั้น ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไร แกก็พูดต่ออีก“ติดเอฟนี่เรื่องใหญ่นะ วิชานี้เปิดแค่เทอมเดียว ต้องรออีกหนึ่งปีถึงจะลงเรียนใหม่ได้”อาจารย์พูด แกหันมามองหน้าผม โบว์คงจะรู้ว่าเธอจะติดเอฟด้วย เธอถึงร้องห่มร้องไห้จนตาแดงแบบนั้น จริงๆ แล้วถ้าเป็นผมเองก็ไม่ได้สนใจหรอกครับ เพราะตอนเรียนก็ติดเอฟอยู่หลายตัว แต่นี่ไม่ใช่ เพราะมันคืออนาคตของแพม“จริงเหรอคะ”ผมพูดได้แค่นั้น อ้ำอึ้งจนไม่รู้จะทำยังไงต่อ“ใช่...” อาจารย์พูดเสียงแข็ง แกเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป “แต่ก็ยังมีทางแก้ไขนะ...”ผมมองหน้าอาจารย์ คราวนี้แกถอดแว่นออกแล้วจ้องหน้าผม ก่อนจะเหลือบสายตาลงต่ำมองที่หน้าอกอีกรอบแบบจงใจ ตอนนี้ผมกระจ่างแล้วว่าทางแก้ไขของแกหมายถึงอะไร อาจารย์มองหน้าผมอีกรอบเหมือนจะหยั่งเชิง ผมอึ้งไปสักพัก ไม่คิดว่าจะต้องเจออะไรแบบนี้“อาจารย์...อาจารย์หมายถึงอะไรคะ” ผมถาม เขายิ้มแล้วพูด“ตามใจอาจารย์สักหน
แพมในร่างของผมไลน์มาบอกว่า เธอกลับถึงห้องแล้วแต่เจชวนออกไปข้างนอกต่อ เธอจึงต้องออกไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ผมนึกขำในใจ ไม่รู้ว่าไอ้เจจะพาไปกินเหล้าที่ไหน เพื่อนผมมันแสบได้เรื่องดีจริง ๆพอถึงห้อง โบว์ก็ถามผมอย่างอ้อมแอ้มด้วยความอายว่า อาจารย์ว่าอย่างไรบ้าง ผมยิ้มแล้วเปิดเสียงบทสนทนาทั้งหมดให้ฟัง ดูโบว์ตกใจอย่างมากที่ผมกล้าทำและพูดกับอาจารย์แบบนั้น เธอเล่าให้ฟังว่าอาจารย์คนนี้มีชื่อเสียงด้านมืดมานานแล้ว ไม่คิดว่าจะได้เจอกับตัวเอง ผมบอกเธอว่ามันต้องมีใครสักคนกล้าทำแบบนี้ ไม่งั้นอาจารย์ก็จะเหิมเกริมทำกับนักศึกษาสาว ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ“ขอบคุณแพมมากนะ” โบว์บอก สาวน้อยน้ำตาซึมลงอาบแก้มผมใช้มือปาดน้ำตาออก โบว์ซบลงที่ไหล่ของผม ผมกอดเธอไว้ เรือนร่างของโบว์นุ่มดีเหลือเกิน ผมปล่อยให้เธอระบายความอัดอั้นจนพอใจเส้นผมและกลิ่นกายของโบว์หอมกรุ่น ทำเอาใจเต้นแรงขึ้นมา ผมสูดดมความหอมหวานที่ไรผมข้างแก้ม จูบเบาๆ แล้วไล้ปากมาที่พวงแก้มเนียน หอมเบาๆ มาถึงติ่งหูจนโบว์เอียงคอหนี ผมสัมผัสได้ว่าเธอขนลุกไปทั้งแขน แต่ไม่ได้ผละหนีใด ๆ ผมจูบไซ้ที่แก้มเนียนนั้นแล้วไล้ไปถึงหลังใบหู สาวน้อยตัวเกร็ง“นี่...แพม”เธอเรียกชื่อผม
“โห...กินเหล้ามาเหรอ” ผมถาม“อืออ...เจเค้าชวนไปน่ะ” เธอพูดแล้วเดินเข้ามาในห้อง “แต่แปลกอะ...แพมกินตั้งเยอะยังไม่ค่อยเมาเลย”แหงล่ะ ก็เธออยู่ในร่างผมนี่นา ผมเป็นคนกินเหล้าเยอะอยู่แล้ว ผมปิดประตูแล้วถาม“แล้วไอ้เจล่ะ”“ยังนั่งกินเหล้ากันอยู่ที่ร้านเลย” เธอบอกแล้วเดินมานั่งบนเตียง“ไปแถวไหนกันมาเนี่ย..” ผมถามแบบขำๆ ก่อนจะมานั่งบนเตียงข้างๆ เธอ“เจเค้าพาไปเลานจ์น่ะ กับพวกพี่แดง พี่พจน์” แพมในร่างของผมพูด “พวกนั้นลามกมาก..”ผมหัวเราะออกมา ว่าแล้วว่าไอ้เจต้องทำอะไรแผลง ๆ“เหรอ แล้วสนุกมั้ยล่ะ” ผมถาม แพมหันมามองหน้าผม“ก็...ก็...สนุกดี...แพมไม่เคยไป... แต่มัน”เธอพูดแล้วชะงักไว้แค่นั้น“แต่มันอะไรเหรอ” ผมถาม“มันแปลก ๆ”แพมพูดแล้วนิ่งเงียบ ผมเอียงคอมองใบหน้าของผมเอง หน้าคล้ำๆ ตอนนี้ก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ผมถามว่าแปลกยังไง เธอนิ่งไปครู่นึงแล้วเอ่ยเบา ๆ“มัน...มันแข็งอะ” เธอบอก ผมตาโตแล้วถามทันที“อะไรแข็ง” แพมอ้ำอึ้งเหมือนไม่อยากพูด ผมถามอีก “เกิดอะไรขึ้นเหรอแพม”เธอก้มลงมองเป้ากางเกงตัวเองแล้วพูดแบบเขิน ๆ“พอมีผู้หญิงมานั่งตัก หรือมากอด...มันก็แข็งเลย” เธอสารภาพ ไม่รู้ว่าผมจะหัวเราะหรือสงสารเ
เวลาผ่านไปอีกวัน เราสองคนพยายามทำความคุ้นเคยในการทำหน้าที่สลับกัน แต่ที่ผมลำบากใจก็คือ การต้องเจอกับไอ้พี่พอลด้วย แพมบอกว่าผมต้องไปงานแต่งงานเพื่อนของพี่พอลในคืนวันพรุ่งนี้ แพมอ้อนวอนให้ผมไปเพราะดูแล้วเธอเองก็คงชอบ ๆ พี่พอลอยู่เหมือนกัน จึงไม่อยากให้ผมปฏิเสธเขาแพมเตรียมชุดมาให้ผมใส่ด้วย มันเป็นชุดแส็กเดรสกระโปรงสั้นสีดำ ผมลองใส่อย่างไม่เต็มใจเอาเสียเลย ถึงแม้ร่างกายจะเป็นสาวสวยหุ่นดีเพียงใด ใส่แล้วสวยขนาดไหน แต่ผมก็ยังรู้สึกแบบผู้ชายจึงช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกลำบากใจ แต่แพมก็ขอร้องว่างานนี้พลาดไม่ได้เพราะเป็นงานแต่งเพื่อนสนิทของพี่พอล ต้องดูดีหน่อย ผมก็ต้องยอมเลยตามเลย พอลองสวมดูแล้วก็แปลกใจที่ชุดเดรสมันพอดีตัวเป๊ะ แพมบอกว่าชุดนี้ตัดมาเป็นพิเศษเลย ความรัดรูปกำลังดีทำให้อวดสัดส่วนทรวดทรงของสาวสวยอย่างชัดเจน เอวคอดกิ่วกับสะโพกกลมกลึง หน้าอกไม่ต้องพูดถึงเพราะโชว์เนินวับ ๆ แวม ๆ จนแทบจะก้มไม่ได้เลยทีเดียว ผมหมุนตัวไปมาหน้ากระจกแล้วรู้สึกดีขึ้นมาอย่างประหลาด ใส่ชุดสวย ๆ แล้วทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาได้อย่างไรก็ไม่อาจหาคำตอบได้ หรือนี่จะเป็นอีกหนึ่งอารมณ์แบบผู้หญิง ใส่ชุดสวยแล้วมั่นใจเต็มร้อยแต่