แชร์

พี่พอล

ผมสะดุ้งตื่นตั้งแต่เช้ามืดด้วยความหวังว่าผมจะคืนร่างกลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะผมยังอยู่ในร่างของน้องแพม ส่วนร่างของผมยังนอนหลับไม่ได้สติ หายใจเป็นจังหวะเหมือนคนหลับลึก ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะลุกไปอาบน้ำ คราวนี้ผมรู้วิธีการรวบผมไว้ไม่ให้เปียกเพราะมันแห้งยากเหลือเกิน ผมไม่อาจเข้าใจได้ว่าสาวๆ เค้าใช้ชีวิตอยู่กันได้อย่างไรในการที่ต้องทำผมให้แห้งทุกวันแบบนี้

ถัดจากอาบน้ำ ผมก็ต้องมาแต่งตัวซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเช่นกัน โดยเฉพาะการใส่บราที่ทุลักทุเล หน้าอกหน้าใจอวบใหญ่ของแพมทำให้รู้สึกอึดอัดยังไงบอกไม่ถูก แต่เมื่อสวมบราเข้าที่แล้วผมก็รู้สึกดีขึ้น ก่อนที่จะต้องมาใส่ชุดนักศึกษาที่ต้องใช้เวลาทำใจและทำตัวให้คุ้นชินอยู่สักพัก เพราะเสื้อมันตัวเล็กและรัดลำตัวมาก ส่วนกระโปรงก็สั้น แถมยังผ่าด้านหลังอีก

ไม่ว่าจะลุกยืนหรือทรุดตัวลงนั่ง ทำอย่างไรก็ดูเหมือนจะโป๊ตลอดเวลา ต้องลองลุกและนั่งอยู่หลายครั้งถึงจะรู้วิธี และผมก็ต้องหนีบเข่าให้ชิดกันโดยอัตโนมัติเพราะกางเกงชั้นในทำท่าจะปรากฎสู่สายตาสาธารณชนอยู่เรื่อย

แน่นอนว่าผมไม่รู้วิธีแต่งหน้าหรือทาแป้งทาครีมแบบที่ผู้หญิงเค้าทำกันหรอกครับ ลำพังแค่หวีผมไม่ให้ยุ่งเหยิงก็ยากพอสมควรอยู่แล้ว ผมจึงออกจากห้องไปแบบที่ไม่ได้แต่งหน้าใด ๆ หรือที่เรียกกันว่า “หน้าสด” กันเลยทีเดียว ผมไม่ลืมหยิบกระเป๋าของแพมที่มีทั้งกระเป๋าตังค์ บัตรนักศึกษา และอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการสอบไปด้วย

ตอนแรกผมเดินแบบตุปัดตุเป๋ด้วยความที่ไม่ชินและเพราะกระโปรงนักศึกษามันรัดสะโพกแบบแปลก ๆ ผมสังเกตได้ว่ามีสายตาผู้ชายทั้งนักศึกษาและคนทำงานเหลือบมองมาบ่อยครั้ง บางคนจับจ้องอย่างน่าเกลียดจนผมรู้สึกรำคาญแทบอยากจะด่าให้

แต่แล้วก็นึกไปถึงตอนที่ผมลอบมองน้องแพมด้วยสายตาหื่นกามอยู่หลายครั้งหลายครา ผมชักเริ่มเข้าใจว่า เธออาจรู้สึกเหมือนที่ผมรู้สึกตอนนี้ ผมรีบเดินด้วยความพยายามทำตัวให้ปกติที่สุด จนไปขึ้นแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปมหาลัย

ผมเดินหาอาคารสอบอยู่นาน เด็กนักศึกษาชายหลายคนมองมาที่ผมอีกเช่นเคย ผมพยายามทำตัวให้คุ้นชินกับสายตาที่จ้องมองตรงมาที่ตัวเอง ผมไปนั่งรออย่างสงบเสงี่ยมอยู่ที่หน้าอาคารสอบตามที่นัดกับโบว์ เพื่อนของแพมไว้ พยายามไม่สบตากับผู้คน

“มานานยัง แพม...”

ไม่นานนัก โบว์ก็มานั่งข้าง ๆ ผมพยักหน้าหงึก ผมเพิ่งเคยเห็นโบว์เป็นครั้งแรก เธอมองหน้าผมแล้วทำตาโตก่อนจะพูด

“นี่ยัยแพม ...คิดยังไงถึงหน้าสดมาสอบเนี่ย..หรือว่าอ่านหนังสือหนักจนตื่นสาย”

“ปะ...เปล่านี่ เออ ก็ทำนองนั้นแหละ”

ผมตอบตะกุกตะกัก เธอหัวเราะเสียงใส

“อย่างแพมนี่หน้าสดก็สวยเนอะ...ผิวใสปิ๊งเลยอะ” โบว์พูด “แต่หน้าซีดไปหน่อยนะ...มานี่...เดี๋ยวเราทาแป้งให้”

ว่าแล้วโบว์ก็หยิบตลับแป้งออกมาแล้วโปะหน้าให้ผมเบา ๆ ผมจ้องมองหน้าโบว์ สาวตรงหน้าก็หน้าใสปิ๊งเหมือนกัน แถมยังน่ารักแฝงความเปรี้ยวไว้ด้วย ผมแอบมองจ้องมองหน้าอกอวบใต้เสื้อนักศึกษา เธอใส่กระโปรงสั้นเช่นกัน ชายกระโปรงเลิกขึ้นไปจนมองเห็นขาขาวเนียน มีขนอ่อนรำไรจนผมแอบกลืนน้ำลาย

น่าแปลกที่โบว์ไม่ได้ว่าอะไรผมเลยที่จ้องมองแบบนั้น แต่ผมก็รู้ตัวว่าก็ตอนนี้ผมอยู่ในร่างแพมนี่นา สาว ๆ อาจจะมองกันแบบนี้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว โบว์หยิบแปรงมาปัดแก้มอีกเล็กน้อยจนเสร็จ เธอหยิบกระจกมาให้ผมส่ง ตอนนี้สองแก้มสีแดงระเรื่อ

“นี่สวยแล้ว...สมกับเป็นดาวคณะหน่อย”

ดาวคณะ? น้องแพมเป็นดาวคณะหรือนี่ ทีนี้ผมก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหนุ่ม ๆ เกือบทั้งมหาลัยถึงเหลียวมองตามขนาดนั้น หลายคนคงมองแพมเป็นเหมือนนางฟ้าคล้ายกับที่ผมเองก็แอบมองเธออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

ก่อนเข้าห้องสอบ ผมไม่ลืมโทรไปที่ทำงานของผมแล้วบอกว่าเป็นพี่สาวของเป้ง ตอนนี้เป้งไม่สบาย อาจจะลางานสัก 2-3 วัน ฝ่ายบุคคลทำเสียงเหมือนไม่ยินดียินร้ายแล้วบอกว่าเมื่อกลับมาทำงานแล้วให้ไปขอใบรับรองแพทย์มาด้วย ผมตอบรับก่อนวางสาย

ผมเข้าสอบแบบที่ทำไม่ค่อยจะได้สักเท่าไหร่ คนหัวทึบอย่างผม ลำพังอ่านหนังสือมายังทำไม่ได้ แต่นี่ไม่ได้อ่านเลยยิ่งไม่ต้องพูดถึง ผมรู้สึกผิดจนต้องขอโทษแพมอยู่ในใจ ไม่รู้ว่าผลคะแนนจะออกมาเป็นอย่างไรแต่ผมก็ทำเต็มที่แล้ว

หลังจากสอบเสร็จครู่เดียว พอออกมาจากห้องสอบ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ผมกดรับ ไอ้หนุ่มที่ไหนก็ไม่รู้ส่งเสียงมาจากปลายสาย

“พี่จอดรถรออยู่หน้ามหาลัยแล้วครับ...น้องแพมเดินออกมาเลยนะ”

ผมงุนงงว่าผมไปนัดกับมันตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่แพมก็อาจนัดไว้ก่อนหน้านี้แล้วก็ได้ ผมบอกลาโบว์แล้วเดินออกไปหน้ามหาลัย

“พี่พอลมารับแล้วเหรอ..” โบว์ถามแล้วโบกมือให้ ผมทำหน้างง พอลไหนวะ

พอเดินมาถึงหน้าประตู รถบีเอ็มดับเบิลยูสปอร์ตคูเป้สีดำสนิทก็แล่นมาจอดทันที ผมเหลียวซ้ายมองขวาด้วยความงง กระจกรถเปิดลง

“ขึ้นมาสิครับ น้องแพม..”

เสียงชายหนุ่มดังมาจากในรถ ผมลังเลครู่นึง ยามเป่านกหวีดไล่หลัง จนต้องยอมเปิดประตูรถขึ้นไปนั่ง รถเคลื่อนที่ออกไปอย่างรวดเร็ว

“เป็นไงทำข้อสอบได้มั้ย..”

ผมหันไปมองหน้ามัน นี่เหรอพี่พอลที่ว่า ดูแล้วคงจะไม่ใช่นักศึกษา แต่น่าจะเป็นหนุ่มออฟฟิศวัยราว 27-28 ซึ่งไล่เลี่ยกับผม ผมพยักหน้าหงึก ๆ ตอบรับอย่างงงงวย

“หิวข้าวมั้ย.. ไปกินข้าวกันเนอะ..”

พี่พอลเอ่ย ผมอึ้งไปเล็กน้อย ไม่ได้ตอบอะไร ชักรู้สึกผิดที่ขึ้นรถมากับไอ้หนุ่มหน้าคม คิดสงสัยในใจว่าแพมคบกับมันอยู่หรือนี่

รถค่อนข้างติด ผมนั่งเงียบ เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อมันวางมือบนหน้าผากของผม

“ไม่สบายหรือเปล่าครับ ...ทำไมเงียบ ๆ”

มันถาม ผมส่ายหัวดิกแล้วเบี่ยงหัวออกจากมือของมัน

“เปล่าๆ ...”

ผมตอบสั้นๆ มันยิ้มแล้ววางมือลงบนหัวเข่าของผมหน้าตาเฉย ทำเอาผมสะดุ้ง รีบขยับขาหนี แต่มันไม่สนใจยังวางแปะลงบนขาผมอีก แล้วบีบเบา ๆ คราวนี้ผมรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก หน้าร้อนวูบวาบปะปนกับความหงุดหงิด

“เออ...ผม...เอ้อ..แพมปวดหัวอะ...พาไปส่งที่ห้องเถอะ..” ผมบอก

ไอ้พี่พอลทำหน้าแปลกใจ ถามอีกหลายครั้งว่าไม่สบายหรือเปล่า ผมยืนกรานบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร แค่อยากนอนพักผ่อน มันถึงยอมขับรถไปส่งผมที่ห้องได้ ก่อนลงจากรถ มันยังจับมือของผมไว้แล้วบอกพักผ่อนเยอะ ๆ ผมยิ้มแหย ๆ ให้ก่อนจะลงจากรถ แล้วรีบเดินขึ้นไปบนห้องทันที

ผมนั่งตั้งสติอยู่บนเตียงสติสักพัก ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องรู้สึกแปลก ๆ ไปกับมือหยาบ ๆ ของไอ้พอลนั่นด้วย หัวใจผมเต้นแรงอย่างประหลาด หันไปมองร่างของตัวเองที่ยังนอนนิ่ง ก่อนจะล้มตัวลงนอนหงายบนเตียง ดึงชายเสื้อของตัวเองออกแล้วปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาที่รัดจนอึดอัด สาบเสื้อแยกออกจากกัน ผมก้มลงมองหน้าอกตัวเองที่เบียดกันอยู่ใต้บรา

...นี่ถ้าผมยังอยู่ในร่างตัวเองก็คงจะตื่นเต้นจนตาโตที่ได้เห็นความเซ็กซี่แบบนี้ แต่ตอนนี้ผมอยู่ในร่างของน้องแพม รูปร่างอันเย้ายวนของเธอกลับไม่ดึงดูดใจผมเท่าใดนัก แทบไม่แตกต่างจากผมมองตัวเองในร่างเดิมเลย

ทำยังไงดีหนอ เราต้องอยู่แบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ ผมคิดในใจ มือลูบคลำหน้าอกตัวเองเล่น แล้วลองบีบเบา ๆ มันแข็งสู้มือดีเหลือเกิน ลูบ ๆ บีบเพลิน ๆ จนใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ถ้าผมไม่ได้กลับไปในร่างของตัวเองอีกแล้วล่ะจะทำยังไง ผมต้องกลายเป็นผู้หญิงตลอดไปอย่างนั้นหรือ พระเจ้ากำลังเล่นตลกอะไรกับผมกันเนี่ย ยิ่งคิดยิ่งฟุ้งซ่าน ผมต้องทำยังไงต่อไป เรียนจบแล้วหางานทำ ใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติอย่างนั้นหรือ แล้วร่างผมที่นอนอยู่จะทำยังไงล่ะ

ผมบีบหน้าอกตัวเองแรงขึ้น ยิ่งทำยิ่งรู้สึกดีและวูบวาบไปทั่วหน้าอก ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน มันให้ความเพลิดเพลินซาบซ่านเหมือนมีไฟช็อตอ่อน ๆ อยู่ในอก ตอนนี้ผมนอนอยู่บนเตียง ยังอยู่ในชุดนักศึกษาที่เสื้อหลุดลุ่ย สาบเสื้อแยกออก กระโปรงสั้นร่นขึ้นมาถึงโคนขา ผมแหวกบราออกแล้วเขี่ยทีหัวนม

“ฮืออ...”

ผมถอนหายใจแรงๆ ออกมา

นิ้วเขี่ยที่ปลายถันจนชูชันขึ้นมาทั้งสองข้าง ผมนอนหลับตา บีบเคล้นเต้านมและหัวนมอย่างลืมตัวเพราะความสยิวซ่านที่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว หัวใจผมเต้นแรงราวกับได้ช่วยตัวเองเป็นครั้งแรก อารมณ์พลุ่งพล่านยิ่งขึ้น

ผมลูบไล้หน้าอกตัวเองแล้วเลื่อนลงมาถึงหน้าท้อง ความสยิวแล่นพล่านไปทั่วตัว ผมขยับมือมาถึงเนินสาว รั้งรวบกระโปรงนักศึกษาขึ้นมาไว้ที่เอวแล้วบดนิ้วลงไปบนเนินนูนนอกกางเกงใน เรียวขาแยกออกโดยอัตโนมัติ ผมบดนิ้วหมุนวน ยิ่งทำยิ่งสยิวซ่าน

“อืมมม...”

ผมครางเบาๆ ในลำคอ

ความรู้สึกมันช่างแตกต่างจากตอนที่ผมช่วยตัวเอง เพราะตอนนี้มันรู้สึกวาบหวิว ปลุกเร้าให้ใจสั่นสะท้าน เรี่ยวแรงหดหาย ตัวอ่อนระทวย แต่หิวกระหายอย่างบอกไม่ถูก

ผมกลืนน้ำลายแล้วค่อย ๆ ล้วงมือเข้าไปใต้กางเกงใน สัมผัสกับกลีบเนื้อจนสะดุ้งโหยง ผมนอนหลับตา ค่อย ๆ ใช้นิ้วเขี่ยเบาๆ เปิดกลีบสาวออกแล้วเล่นนิ้วที่ปากแคม มันสยิวจนผมอดใจที่จะบดนิ้วลงไปไม่ได้ พอผมเขี่ยไปโดนเม็ดสวาทก็สะดุ้งโหยง คราวนี้ความเสียวพุ่งทะยานขึ้นมาทันใด

“อึ้ยยยย...อืออ...เสียวดีจริง ๆ”

ผมบดนิ้วเน้น ๆ ลงบนเม็ดสวาท อีกมือขยำเต้านมของตัวเองไว้ ครู่เดียวผมก็รู้สึกถึงความเปียกแฉะที่ปากร่อง มันอาบชะโลมนิ้วจนชุ่ม หัวใจผมเต้นแรงระรัว มันช่างน่าตื่นเต้นอะไรเช่นนี้ ยิ่งมีน้ำหล่อลื่นผมยิ่งใช้นิ้วได้อย่างเพลิดเพลินยิ่งขึ้น ทั้งเขี่ยที่ปากร่องและบดบี้ไปบนเม็ดแตด ผมเสียวจนเผลอแอ่นเอวยกสะโพกขึ้นพร้อมกับแหย่แยงนิ้วเล่นกับร่องของตัวเอง

ความเสียวทำให้ผมบดนิ้วไปบนเม็ดสวาท สลับกับแหย่นิ้วเข้าไปในร่อง งอนิ้วเกี่ยวเข้าออกเบา ๆ ผมนอนหลับตาปี๋ ความเสียวอาบท่วมท้นไปทั้งร่าง

“อืออ...ซีดดส..”

ผมสูดปากคราง เร่งนิ้วเร็วขึ้นจนอีกไม่นานนัก ความเสียวก็พุ่งถึงขีดสุดในแบบที่ผมไม่ทันตั้งตัว

“อื๊อออ...”

ผมร้องครางออกมาแล้วตัวกระตุกเกร็ง สัมผัสความเสร็จสมเสียวสุดยอดในร่างของแพมเป็นครั้งแรก ขนลุกชันไปทั้งตัว นิ้วบดบี้ที่เม็ดสวาทปลุกปั่นความเสียวกระสันแบบสุด ๆ หัวใจเต้นแรงจนเกือบหลุดออกมา ผมนอนหลับตาปี๋ เผยอปากอ้าค้าง หายใจหอบราวกับเพิ่งวิ่งสปีดร้อยเมตร

แต่น่าแปลกที่ความเสียวยังปั่นป่วนไปทั่วตัวเหมือนไม่ยอมร้างรากันง่าย ๆ

นิ้วของผมยังบดเบา ๆ ที่เม็ดสวาท ครู่เดียวความสยิวซ่านก็ทะยานขึ้นมาอีกครั้ง ผมแปลกใจที่ทำไมมันยังรู้สึกวาบหวิวได้อย่างต่อเนื่อง ถ้าเป็นในร่างของผมเอง พอช่วยตัวเองจนน้ำแตกก็หมดอารมณ์ไปอีกพักใหญ่ แต่ตอนนี้ ผมกลับยังรู้สึกเสียวสยิวอยู่อีกทั้ง ๆ ที่เพิ่งเสร็จสมไปเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน

ผมกัดปากตัวเอง ใช้นิ้วบดบี้ที่เม็ดสวาทต่อเนื่อง มือบีบเคล้นเต้านมหนักเน้น ปลุกปั่นความเสียวให้ลุกโชนราวกับเทน้ำมันเข้าในกองเพลิง

“โอยย..เสียว..ซีดสส..”

อดไมได้ที่ผมจะพึมพำออกมาด้วยความเสียวซ่านที่โหมกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง ผมแหย่นิ้วกลางเข้าไปในร่องสวาทลึกขึ้น แล้วงอนิ้วเบา ๆ มันเสียวคับแน่นอย่างไม่รู้จะอธิบายยังไง เป็นความรู้สึกที่ผมคงไม่มีวันได้รับรู้ในร่างผู้ชาย เพียงแค่ผมขยับนิ้วเล็กน้อย ความเสียวก็พุ่งขึ้นอีก

ผมพลิกตัวนอนตะแคง มือยังแหย่แยงที่ร่องสวาทที่ตอนนี้เปียกชุ่มไปหมด บีบเรียวขาแน่น อารมณ์เสียวทำให้ผมรู้สึกกระเจิดกระเจิง ผมนอนตัวเกร็งแหย่นิ้วเข้าออก สลับกับบีบเคล้นนมตัวเองอย่างลืมตัว ขมวดคิ้วมุ่น ด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมความเสียวในร่างผู้หญิงถึงต่อเนื่องรุนแรงแบบนี้

“อ๊ออา...ซีดดส...โอยยย”

ไม่นานนัก ผมก็ใช้นิ้วพาตัวเองเสร็จสมเป็นครั้งที่สองติดต่อกันอย่างรวดเร็ว ผมกัดปากตัวเองไว้แน่นเพื่อไม่ให้เผลอหลุดร้องครางออกไป ฟุบหน้าลงกับหมอนแล้วตัวกระตุกเกร็งหลายครั้ง ก่อนจะผ่อนลมหายใจพรู ความเสียวคลายตัวลงไปบ้าง แต่ก็ยังมีเชื้อวนเวียนรอเวลาปะทุอยู่ ผมต้องตัดใจถอนมือออกมาก่อน

“ฮืออ...”

ผมถอยหายใจออกมาพรูใหญ่ ขืนไม่หยุดตอนนี้ ผมต้องทำต่อไปอีกเรื่อย ๆ แน่ ผมพลิกนอนตะแคง หายใจแรงอยู่บนเตียง ชุดนักศึกษายับยู่ยี่ยังคาอยู่บนตัว

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status