“อืมม...” แกกระแอม “ถ้าคะแนนเป็นแบบนี้ก็ติดเอฟแน่นอน”
พูดจบก็มองลอดแว่นมาที่ผม ผมหน้าเสีย ถ้าติดเอฟก็เป็นปัญหาใหญ่สำหรับแพมแน่ กลายเป็นว่าผมจะทำให้อนาคตของแพมเสียหลังจากอยู่ในร่างเธอไม่กี่วันเท่านั้น ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไร แกก็พูดต่ออีก
“ติดเอฟนี่เรื่องใหญ่นะ วิชานี้เปิดแค่เทอมเดียว ต้องรออีกหนึ่งปีถึงจะลงเรียนใหม่ได้”
อาจารย์พูด แกหันมามองหน้าผม โบว์คงจะรู้ว่าเธอจะติดเอฟด้วย เธอถึงร้องห่มร้องไห้จนตาแดงแบบนั้น จริงๆ แล้วถ้าเป็นผมเองก็ไม่ได้สนใจหรอกครับ เพราะตอนเรียนก็ติดเอฟอยู่หลายตัว แต่นี่ไม่ใช่ เพราะมันคืออนาคตของแพม
“จริงเหรอคะ”
ผมพูดได้แค่นั้น อ้ำอึ้งจนไม่รู้จะทำยังไงต่อ
“ใช่...” อาจารย์พูดเสียงแข็ง แกเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป “แต่ก็ยังมีทางแก้ไขนะ...”
ผมมองหน้าอาจารย์ คราวนี้แกถอดแว่นออกแล้วจ้องหน้าผม ก่อนจะเหลือบสายตาลงต่ำมองที่หน้าอกอีกรอบแบบจงใจ ตอนนี้ผมกระจ่างแล้วว่าทางแก้ไขของแกหมายถึงอะไร อาจารย์มองหน้าผมอีกรอบเหมือนจะหยั่งเชิง ผมอึ้งไปสักพัก ไม่คิดว่าจะต้องเจออะไรแบบนี้
“อาจารย์...อาจารย์หมายถึงอะไรคะ” ผมถาม เขายิ้มแล้วพูด
“ตามใจอาจารย์สักหน่อย...ไม่มีอะไรมากหรอก”
ผมกลืนน้ำลายเอื้อก
“ตามใจอะไรเหรอคะ...”
“หนูโอเคหรือเปล่าล่ะ”
เขาเปลี่ยนจากที่เรียกว่าคุณ กลายเป็นเรียกว่าหนูหน้าตาเฉย
“ก็ไม่รู้ว่าอาจารย์จะให้ตามใจเรื่องอะไร”
ผมถามกลับ รู้สึกใจเต้นตึกตัก ภาวนาไม่ให้ความต้องการของอาจารย์เป็นอย่างที่คิดเลย อาจารย์ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ แกลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาข้างหลังผม วางมือลงบนหัวแล้วลูบเบา ๆ ถ้าเป็นผู้ใหญ่ทั่วไปก็คงคิดว่าเอ็นดูเด็ก แต่อาจารย์คงไม่ได้แค่รู้สึกแบบเด็กหรือผู้ใหญ่เท่านั้นแน่นอน เขาวางมือลงบนไหล่
“หนูนี่สวยดีนะ...ได้ยินว่าเป็นดาวคณะเหรอ..” เขาถาม ผมพยักหน้าเบา ๆ “ถ้าตามใจอาจารย์ ไม่แค่ผ่านนะ แต่อาจได้เอด้วยซ้ำ”
พอพูดจบ แกก็เดินไปนั่งเก้าอี้ แล้วเลื่อนมานั่งใกล้กับผมชนิดหัวเข่าแทบจะชนกันอยู่แล้ว ผมกลืนน้ำลาย มองหน้าแกที่ตอนนี้มีสีหน้ากระหยิ่มเหมือนผู้ที่กุมไพ่เหนือกว่า
“อาจารย์จะให้ทำอะไรเหรอคะ” ผมถามเสียงสั่น เขามองหน้าแล้วพูด
“ถอดกระดุมเสื้อออกสิ”
ผมอึ้งกับคำขอแบบโต้ง ๆ จนต้องก้มหน้า เคยได้ยินข่าวเหมือนกันว่านักศึกษาใช้ร่างกายแลกเกรด แต่ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมาเจอกับตัวแบบนี้ ผมนั่งนิ่งไม่ได้ทำตามคำขอของแก อาจารย์เอียงคอมองผมแล้วพูด
“อายเหรอ...จะให้ผมถอดให้มั้ย”
ถ้าเป็นปกติ การถอดเสื้อต่อหน้าผู้ชายมันเป็นเรื่องปกติธรรมดาอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ผมรู้สึกอายขึ้นมาเฉย ๆ เหมือนกับตอนที่เปลือยเปล่าต่อหน้าไอ้เจมัน ไม่สิ คราวนี้ผมรู้สึกอายยิ่งกว่า เพราะเพิ่งเคยเจออาจารย์ครั้งแรกก็ต้องมาถอดเสื้อต่อหน้าแบบนี้ ผมรู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา
อาจารย์ขยับมือมาที่กระดุมเสื้อ ผมชะงัก อยากจะปัดมือแกออกแต่ก็ไม่กล้าทำ ได้แต่ปล่อยให้อาจารย์ปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ดจนหมด แกดึงชายเสื้อออกจากกระโปรงแล้วเลิกสาบเสื้อนักศึกษาออก บราสีขาวที่ห่อหุ้มเต้านมอวบแทบไม่มิดปรากฏสู่สายตา อาจารย์ทำตาโตจ้องมองเขม็ง
“สวยจริงๆ ...หนูสวยมาก” อาจารย์พึมพำออกมา
ผมรู้สึกอายจนหน้าร้อนไปหมด อาจารย์ไม่รอช้า แกใช้สองมือลูบเบา ๆ บนนมนอกบรา ผมหันหน้าหนี รู้สึกอยากจะมุดแผ่นดินหนีซะตอนนี้ อยู่ดีๆ ก็ต้องมานั่งให้ใครก็ไม่รู้มาจับหน้าอก อาจารย์สอดมือเข้าไปที่สายบราแล้วรั้งลงทางแขน หน้าอกของแพมจึงเป็นอิสระจากพันธนาการ ผมยกมือขึ้นปิดโดยอัตโนมัติ
“ไม่ต้องปิดหรอก สวยแบบนี้ให้ผมดูชัด ๆ หน่อย” อาจารย์พูดแล้วแกะมือออก “จุ๊ ๆๆ หัวนมสวยมาก... สวยกว่าทุกคนเลย..น่าดูดมาก ๆ”
คำพูดอุจาดด้วยเสียงหื่นกามของอาจารย์ทำให้ผมหน้าชา สองมือหยาบกร้านของแกลูบที่หน้าอก แล้วบีบเคล้น ผมเบือนหน้าหนี แกบีบจนต้องห่อไหล่ นิ้วเขี่ยที่หัวนมสลับไปมา
“อาจารย์...ทำแบบนี้กับโบว์ด้วยเหรอคะ” ผมถามเสียงสั่น เขาหัวเราะ พลางใช้นิ้วบดบี้ที่หัวนมจนรู้สึกแปลบปลาบ
“หนูโบว์เขาไม่ยอมตามใจผมน่ะสิ... ก็ติดเอฟไปละกัน...ส่วนหนูแพมตามใจผมแบบนี้... อยากได้เกรดอะไรผมก็ให้ได้”
ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าโบว์ไม่ได้ร้องไห้เพราะแค่ติดเอฟ แต่ยังเกือบถูกอาจารย์ล่วงเกินอีกต่างหาก อาจารย์บีบเคล้นนมอย่างมันมือ
“แน่นดีจริง ๆ ...หนูแพม” เขาพึมพำ หน้าตาไม่ได้ปกปิดความหื่นอยากเลย ตาจ้องถลนที่เต้านมอวบขาวได้รูป ยังไม่หยุดแค่นั้น เขาขยับมือมาลูบไล้ที่ต้นขาอีก ทำให้ต้องขยับหนีโดยอัตโนมัติ อาจารย์ไม่ได้สนใจอาการปัดป้อง แกลูบลึกขึ้นมาเฉียดที่เนินสาวจนต้องหนีบขาไว้แน่น แกหัวเราะหึหึในลำคอ
“ผิวขาวละเอียดดีมาก”
แกพูดเบาๆ มือลูบคลึงไม่หยุด พยายามจะล้วงเข้ามา บางทีก็บีบลึกที่สะโพกอวบอิ่มของแพม จนแทบจะป้องกันไม่ได้
“พอ...พอแล้วดีกว่า...ค่ะ” ผมห้ามอาจารย์
แกยิ้มกระหยิ่ม แล้วดึงมือออกไป ผมหายใจแรงด้วยความเหนื่อยจากการปัดป้องมือปลาหมึกของแก อาจารย์อนุญาตให้ผมติดกระดุมเสื้อได้ ผมรีบติดจนครบ จัดชุดนักศึกษาให้เข้าที่ รู้สึกโล่งใจที่ไม่มีอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้
แต่อยู่ดี ๆ อาจารย์ก็ปลดเข็มขัดออก แล้วตามด้วยกางเกง ผมตกตะลึงกับการกระทำของชายวัยกลางคนตรงหน้า นั่งอึ้งขณะที่อาจารย์ควักท่อนเอ็นที่แข็งผงาดออกมา มันดำมะเมื่อมจนผมรู้สึกสะอิดสะเอียนเพียงแค่ได้เห็น
“อมให้ผมหน่อยสิ” อาจารย์พูดหน้าตาเรียบเฉยเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดา ผมแทบอยากจะวิ่งหนีออกนอกห้องเสียตอนนี้
“อะ...อะไรนะคะ”
อาจารย์ยิ้ม “อมให้ผมหน่อยสิ ทำให้ผมเสร็จในปากแล้วก็ไปได้”
คำขอสุดอุบาทว์ ทำผมรู้สึกชาไปทั้งตัว แค่มองยังไม่อยากจะมอง แต่จะให้ผมอมของผู้ชายเนี่ยนะ
“อาจารย์...อาจารย์จะให้ใช้ปากกับของอาจารย์” ผมถาม
“ก็ใช่น่ะสิ...อย่าบอกนะว่าไม่เคยอมให้ใคร สวยๆ อย่างหนูแพมน่าจะอมมาหลายแท่งแล้วมั้ง” อาจารย์พูดด้วยคำหยาบคาย ผมกลืนน้ำลาย ก้มหน้างุด เอ่ยถามอาจารย์เบา ๆ
"ที่นี่อาจจะไม่เหมาะ...ออกไปที่อื่นดีกว่ามั้ยคะ.."
อาจารย์ตาลุกวาว "ออกไปที่อื่นไม่ใช่แค่อมนะ...อาจารย์ขอเตือน.."
"อาจารย์จะทำอะไรอีกเหรอ" ผมถามอีก เขายิ้มแบบเจ้าเล่ห์แล้วพูดด้วยเสียงหื่นสุดขีด
"ผมจะเอาหนูน่ะสิ... หนูน่าเอาแบบนี้ผมไม่ปล่อยไว้หรอก"
ผมยิ้ม แล้วลุกขึ้นยืน อาจารย์ทำหน้างง ผมล้วงกระเป๋าถือแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะกดเปิดเสียงบทสนนทนาทั้งหมดระหว่างแพมกับอาจารย์ตั้งแต่ต้นให้ฟัง ทั้งขอให้ถอดเสื้อ ชมเรือนร่างของแพม กับขอให้ใช้ปากอมดูดและขอนอนด้วย ทั้งหมดเสียงดังฟังชัด ผมสังหรณ์ใจไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ จึงกดบันทึกเสียงไว้ได้ทันเวลาก่อนเข้าห้อง
อาจารย์หน้าซีดเผือดเป็นไก่ต้ม ท่อนเนื้อเหี่ยวลงทันตา แกพยายามรีบสวมกางเกงกลับ แต่ผมก็รีบถ่ายรูปติดหน้าแบบชัดๆ ไว้ได้
“ทีนี้ อาจารย์ก็รู้แล้วนะว่าควรจะทำอย่างไร..” ผมพูด ก่อนจะนั่งลงข้างแกแล้วขู่ต่อ “ไม่ใช่แค่แพมนะที่ได้เกรดเอ...แต่โบว์ก็ต้องได้ด้วย ถ้าไม่อยากหมดอนาคตการเป็นอาจารย์...หรืออาจติดคุกด้วยมั้ง”
คราวนี้กลับกลายเป็นอาจารย์ที่ตัวสั่นงันงก ผมตะคอกข่มขู่อีก
“ที่พูดนี่เข้าใจมั้ย..”
อาจารย์พยักหน้าหงึกอย่างว่าง่าย ผมใช้มือตบไหล่อาจารย์เบาๆ แล้วพูด
“ดีมาก... อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีกล่ะ” พอพูดจบผมก็ลุกเดินออกจากห้องไป
โบว์นั่งตาแดงรอผมอยู่ด้านนอกอาคาร ผมเดินยิ้มเข้าไปหาเธอ โบว์สงสัยว่าทำไมผมไม่มีอาการตกใจใดๆ เลย ผมบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่ต้องเป็นห่วง โบว์ยังซึมไม่หาย ผมชวนเธอให้ไปที่ห้องของแพมก่อน นั่งเล่นสักพักแล้วค่อยกลับบ้านก็ได้ โบว์โอเคตามนั้น
แพมในร่างของผมไลน์มาบอกว่า เธอกลับถึงห้องแล้วแต่เจชวนออกไปข้างนอกต่อ เธอจึงต้องออกไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ผมนึกขำในใจ ไม่รู้ว่าไอ้เจจะพาไปกินเหล้าที่ไหน เพื่อนผมมันแสบได้เรื่องดีจริง ๆพอถึงห้อง โบว์ก็ถามผมอย่างอ้อมแอ้มด้วยความอายว่า อาจารย์ว่าอย่างไรบ้าง ผมยิ้มแล้วเปิดเสียงบทสนทนาทั้งหมดให้ฟัง ดูโบว์ตกใจอย่างมากที่ผมกล้าทำและพูดกับอาจารย์แบบนั้น เธอเล่าให้ฟังว่าอาจารย์คนนี้มีชื่อเสียงด้านมืดมานานแล้ว ไม่คิดว่าจะได้เจอกับตัวเอง ผมบอกเธอว่ามันต้องมีใครสักคนกล้าทำแบบนี้ ไม่งั้นอาจารย์ก็จะเหิมเกริมทำกับนักศึกษาสาว ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ“ขอบคุณแพมมากนะ” โบว์บอก สาวน้อยน้ำตาซึมลงอาบแก้มผมใช้มือปาดน้ำตาออก โบว์ซบลงที่ไหล่ของผม ผมกอดเธอไว้ เรือนร่างของโบว์นุ่มดีเหลือเกิน ผมปล่อยให้เธอระบายความอัดอั้นจนพอใจเส้นผมและกลิ่นกายของโบว์หอมกรุ่น ทำเอาใจเต้นแรงขึ้นมา ผมสูดดมความหอมหวานที่ไรผมข้างแก้ม จูบเบาๆ แล้วไล้ปากมาที่พวงแก้มเนียน หอมเบาๆ มาถึงติ่งหูจนโบว์เอียงคอหนี ผมสัมผัสได้ว่าเธอขนลุกไปทั้งแขน แต่ไม่ได้ผละหนีใด ๆ ผมจูบไซ้ที่แก้มเนียนนั้นแล้วไล้ไปถึงหลังใบหู สาวน้อยตัวเกร็ง“นี่...แพม”เธอเรียกชื่อผม
“โห...กินเหล้ามาเหรอ” ผมถาม“อืออ...เจเค้าชวนไปน่ะ” เธอพูดแล้วเดินเข้ามาในห้อง “แต่แปลกอะ...แพมกินตั้งเยอะยังไม่ค่อยเมาเลย”แหงล่ะ ก็เธออยู่ในร่างผมนี่นา ผมเป็นคนกินเหล้าเยอะอยู่แล้ว ผมปิดประตูแล้วถาม“แล้วไอ้เจล่ะ”“ยังนั่งกินเหล้ากันอยู่ที่ร้านเลย” เธอบอกแล้วเดินมานั่งบนเตียง“ไปแถวไหนกันมาเนี่ย..” ผมถามแบบขำๆ ก่อนจะมานั่งบนเตียงข้างๆ เธอ“เจเค้าพาไปเลานจ์น่ะ กับพวกพี่แดง พี่พจน์” แพมในร่างของผมพูด “พวกนั้นลามกมาก..”ผมหัวเราะออกมา ว่าแล้วว่าไอ้เจต้องทำอะไรแผลง ๆ“เหรอ แล้วสนุกมั้ยล่ะ” ผมถาม แพมหันมามองหน้าผม“ก็...ก็...สนุกดี...แพมไม่เคยไป... แต่มัน”เธอพูดแล้วชะงักไว้แค่นั้น“แต่มันอะไรเหรอ” ผมถาม“มันแปลก ๆ”แพมพูดแล้วนิ่งเงียบ ผมเอียงคอมองใบหน้าของผมเอง หน้าคล้ำๆ ตอนนี้ก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ผมถามว่าแปลกยังไง เธอนิ่งไปครู่นึงแล้วเอ่ยเบา ๆ“มัน...มันแข็งอะ” เธอบอก ผมตาโตแล้วถามทันที“อะไรแข็ง” แพมอ้ำอึ้งเหมือนไม่อยากพูด ผมถามอีก “เกิดอะไรขึ้นเหรอแพม”เธอก้มลงมองเป้ากางเกงตัวเองแล้วพูดแบบเขิน ๆ“พอมีผู้หญิงมานั่งตัก หรือมากอด...มันก็แข็งเลย” เธอสารภาพ ไม่รู้ว่าผมจะหัวเราะหรือสงสารเ
เวลาผ่านไปอีกวัน เราสองคนพยายามทำความคุ้นเคยในการทำหน้าที่สลับกัน แต่ที่ผมลำบากใจก็คือ การต้องเจอกับไอ้พี่พอลด้วย แพมบอกว่าผมต้องไปงานแต่งงานเพื่อนของพี่พอลในคืนวันพรุ่งนี้ แพมอ้อนวอนให้ผมไปเพราะดูแล้วเธอเองก็คงชอบ ๆ พี่พอลอยู่เหมือนกัน จึงไม่อยากให้ผมปฏิเสธเขาแพมเตรียมชุดมาให้ผมใส่ด้วย มันเป็นชุดแส็กเดรสกระโปรงสั้นสีดำ ผมลองใส่อย่างไม่เต็มใจเอาเสียเลย ถึงแม้ร่างกายจะเป็นสาวสวยหุ่นดีเพียงใด ใส่แล้วสวยขนาดไหน แต่ผมก็ยังรู้สึกแบบผู้ชายจึงช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกลำบากใจ แต่แพมก็ขอร้องว่างานนี้พลาดไม่ได้เพราะเป็นงานแต่งเพื่อนสนิทของพี่พอล ต้องดูดีหน่อย ผมก็ต้องยอมเลยตามเลย พอลองสวมดูแล้วก็แปลกใจที่ชุดเดรสมันพอดีตัวเป๊ะ แพมบอกว่าชุดนี้ตัดมาเป็นพิเศษเลย ความรัดรูปกำลังดีทำให้อวดสัดส่วนทรวดทรงของสาวสวยอย่างชัดเจน เอวคอดกิ่วกับสะโพกกลมกลึง หน้าอกไม่ต้องพูดถึงเพราะโชว์เนินวับ ๆ แวม ๆ จนแทบจะก้มไม่ได้เลยทีเดียว ผมหมุนตัวไปมาหน้ากระจกแล้วรู้สึกดีขึ้นมาอย่างประหลาด ใส่ชุดสวย ๆ แล้วทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาได้อย่างไรก็ไม่อาจหาคำตอบได้ หรือนี่จะเป็นอีกหนึ่งอารมณ์แบบผู้หญิง ใส่ชุดสวยแล้วมั่นใจเต็มร้อยแต่
พี่พอลขบติ่งหู ทำเอาขนลุกซู่ขึ้นมาซะเฉย ๆ ชุดแส็กถูกเลิกลงไปทางไหล่ พร้อมกับบราสีดำที่ถูกปลดออกไปอย่างไม่ทันตั้งตัว ตอนนี้ท่อนบนของแพมเปลือยเปล่า มือกร้านขยับมาลูบคลึงนมเต่งทันที ปลุกเร้าความสยิววูบวาบ พยายามปัดป้องสุดฤทธิ์อย่างสิ้นหวัง แทบจะสู้กับการโลมเล้าไม่ได้เลยผมหายใจเหนื่อยอ่อน รู้สึกวูบวาบขึ้นมาเมื่อถูกคลึงเคล้นเต้านมสลับไปมา ตายแน่ ๆ เรา ความรู้สึกแบบนี้มาอีกแล้ว ผมคิดในใจ พยายามสะกดกลั้นความวาบหวามไว้เต็มที่ ปลายนิ้วของพี่พอลบดบี้ที่หัวนมจนชูชัน ผมพยายามหนีด้วยการพลิกตัวนอนคว่ำ พี่พอลก็ยังกอดผมไว้จากด้านหลังได้ มือลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของแพม ส่วนปากพรมจูบที่คอกับท้ายทอยไม่หยุดจนขนลุกแล้วลุกอีกไปทั้งตัว“ปล่อยแพมเถอะ...ขอร้อง” ผมจนใจจนต้องขอร้องกันตรงๆ“ทำไมล่ะครับ แพมบอกว่าให้พี่ทำแบบนี้ได้ไม่ใช่เหรอ” มันพูด “แต่คืนนี้พี่ขอมากกว่านี้นะ”ขออะไรวะ ผมคิดในใจด้วยความตื่นตระหนก มันล้วงมือลงมาจนถึงเนินสาวกลางลำตัว แม้จะหดเอวหนีแต่ก็ไม่อาจพ้นมือของเขาที่บดบี้ไปบนนูนเนินนอกกางเกงใน ตอนนี้ได้แต่หลับตาปี๋ ความรู้สึกวูบหวิวก่อตัวในท้องน้อย พยายามต่อสู้กับอารมณ์ที่ลุกโชนขึ้น มันเป็นอาร
“อ๋อ...ค่ะ” ผมพูดแล้วพยักหน้าหงึกๆ“มาคนเดียวเหรอครับ” จีนถาม ผมพยักหน้าอีก เขาถามต่อ “แล้วเจล่ะ”ผมบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน มันยิ้มเหมือนดีใจ ผมอยากจะเดินหนีไปให้ไกล อุตส่าห์มาเดินเล่นในคอมมิวนิตี้มอลล์เล็ก ๆ ยังเจอคนรู้จักอีก จีนเงียบไปแปปนึงแล้วพูด"กินข้าวยังครับ กินข้าวกันมั้ย อาหารญี่ปุ่นข้างบนอร่อยนะ เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง”สิ้นเสียงเดี๋ยวเลี้ยงเอง ผมสนใจขึ้นมาทันที เป็นผู้หญิงสวยก็ดีอย่างนี้ อยู่ดี ๆ ก็มีคนเลี้ยงข้าว อย่าหาว่าผมงกเลยนะครับ แต่เงินเดือนของผมก็ไม่ได้มากมายอะไร ถึงแม้ผมจะให้น้องแพมในร่างผมทำงานแทน แต่ผมก็กะว่าจะยังรับเงินเดือนเหมือนเดิม ส่วนน้องแพมในร่างของผมก็รับเงินจากทางบ้านที่ส่งมาให้ทุกอาทิตย์ เราแค่สลับกันทำหน้าที่เฉพาะหน้าเฉย ๆ ผมว่าเงินจากทางบ้านน้องแพมยังมากกว่าเงินเดือนผมอีกมั้งระหว่างกินอาหาร จีนก็ชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย ส่วนผมก็ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเอร็ดอร่อยแต่ก็สำรวมกิริยามารยาทอยู่บ้างตามที่น้องแพมบอก จีนเล่าให้ฟังว่า เขาเคยทำงานบริษัทเดียวกับเจ แต่ตอนนี้อยู่คนละบริษัท แล้วก็เล่าถึงเรื่องเจให้ผมฟังซึ่งผมก็รู้อยู่แล้ว ไอ้เจมันเป็นเพื่อนผมมาตั้งนาน ผมพยักหน้า
เราสามคนกินไปดื่มเบียร์ไปสนุกสนานเฮฮา แต่ผมแทบไม่ได้แตะแอลกอฮอล์เลยเพราะกลัวจะเมาหัวทิ่ม ปล่อยให้ไอ้เจและแพมในร่างผมกระดกกันไป ผมได้แต่กลืนน้ำลายตามด้วยความอยากกิน เราคุยกันถึงเรื่องสลับร่างกลับคืน แต่ก็หมดหนทางเพราะมันดูเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติและเกินกว่าความสามารถของเรา“ถ้าแพมกับไอ้เป้งเป็นแบบนี้ตลอดไปล่ะ...จะทำยังไง” ไอ้เจถาม“ผมนี่สิลำบาก เป็นผู้หญิงไม่ใช่ง่ายๆ นะ ไม่เหมือนแพม...ใช้งานร่างผมซะคุ้มเลย” ผมพูดแล้วหันไปมองเธอ แพมสวนกลับบอกคุ้มตรงไหน งานของเป้งน่าเบื่อจะตาย ไม่เห็นสนุกเลยผมยิ้มแล้วแซวเธอ “แต่ก็ได้สนุกกับสาว ๆ ไม่ใช่เหรอ เหมือนเมื่อคืนน่ะ”เธอยิ้มแบบเขิน ๆ แล้วบอกเพราะเจบังคับให้ไปต่างหากเราสามคนเช็คบิลหลังอิ่มหนำสำราญ ผมรับหน้าที่สารถีขับรถไอ้เจกลับอพาร์ทเมนท์เหมือนเดิม ดูเหมือนแพมในร่างผมจะเมากรึ่ม ๆ อยู่เหมือนกัน พอถึงอพาร์ทเมนท์ก็แยกย้ายเข้าห้อง แพมขอตัวอาบน้ำก่อน พอเสร็จแล้วผมก็อาบบ้าง พอออกมาแพมก็นอนนิ่งอยู่บนเตียง เธอใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นแบบผู้ชายแท้ ๆ แสงไฟในห้องมืดสลัว ผมล้มตัวลงนอนข้าง ๆ ยังไม่ทันได้หลับก็ได้ยินเสียงถอนหายใจของแพม ผมผงกหัวขึ้นมอง“นึกว่าห
แพมดันตัวผมให้นอนลง เธอนอนตะแคงอยู่ข้าง ๆ มือสากลูบเบา ๆ ที่หน้าอก ปลายถันยังแข็งชูชันจากการถูกเธอปลุกเร้าเมื่อครู่ แพมบีบเคล้นหนักขึ้นจนผมต้องห่อไหล่ด้วยความสยิว ผมไม่คิดว่าเธอจะกล้ารุกเร้าแบบนี้ และไม่แน่ใจว่าเธอรู้วิธีทำแบบนี้มาจากไหน เดาเอาว่าเธอเคยถูกพี่พอลเล้าโลมเช่นนี้เหมือนกันความรู้สึกในตัวผมปั่นป่วน เมื่อแพมก้มลงเลียเบา ๆ ที่ฐานนม ผมงอตัวด้วยความสยิวจากลิ้นสาก ๆ ของตัวผมเอง เธอลากลิ้นตวัดเลียมาถึงหัวนมจนผมกระตุกเบา ๆ หลับตาปี๋เพราะไม่อยากมองใบหน้าของผมเองที่ตอนนี้กำลังโลมเลียหัวนมสลับไปมาทั้งสองข้าง ความสยิวซ่านปั่นป่วนไปทั้งหน้าอก แพมทั้งบีบเคล้นและเลียสลับไปมา ผมเผลอจิกมือบนผ้าปูที่นอน ใจเต้นแรงระรัว ทำไมมันสยิวได้ขนาดนี้“อือออ...แพมม”ผมเผลอครางออกมาเมื่อแพมใช้ปากขบดูดเนื้อหน้าอกและปลายถัน กระตุ้นทั้งความเสียวและความรู้สึกแปลบปลาบ ความรู้สึกมันแตกต่างออกไปจากการถูกพี่พอลกระทำอย่างบอกไม่ถูก ตอนนี้มันสบายใจมากกว่า ด้วยความคุ้นเคยกับร่างกายของตนเอง ทำให้ผมไม่ต้องพะว้าพะวงและรู้สึกแสยงใจมากนักปากและลิ้นสาก ๆ ของเป้งที่อยู่ในการควบคุมของแพมพรมจูบไปทั้งหน้าอก เธอลูบมือลงไปถึ
ไม่นานนัก รถสปอร์ตคันงามก็พามาถึงบ้านหลังใหญ่โตโอ่อ่า หรือจะเรียกว่าคฤหาสน์ก็ยังได้ ผมว่าคอนโดของมันว่าหรูแล้ว แต่บ้านหลังนี้บ่งบอกฐานะของไอ้พี่พอลได้มากกว่า มีพื้นที่กว้างขวาง สนามหญ้าและต้นไม้ตัดแต่งอย่างดี พี่พอลพาเดินเข้าไปในบ้าน ผมตะลึงกับการตกแต่งภายในที่หรูหราไม่แพ้ภายนอก“คุณแม่...แพมมาแล้วครับ”พี่พอลบอกแม่ของเขาที่นั่งอยู่ที่โซฟา แม่ของพอลเป็นสไตล์ผู้หญิงไฮโซ ทรงผมตั้งกระบัง ผมยกมือไหว้สวัสดีอย่างนอบน้อม คุณแม่ยกมือไหว้รับแล้วพูด“ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยหนูแพม” ท่าทางเธอจะเอ็นดูแพมมากทีเดียว “สวยขึ้นหรือเปล่า เห็นผิวพรรณของสาวสมัยนี้แล้วแม่ล่ะอิจฉาจริง ๆ”ผมยิ้มแล้วยกมือไหว้ขอบคุณคำชมอีกรอบ แม่ของพี่พอลชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย ผมก็ชวยแกคุยบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องเป็นราวอะไรมากนัก“สวัสดีค่ะพี่แพม”ผมหันไปตามเสียงนั้น เด็กสาวหน้าใสปิ๊ง ยกมือไหว้ผม ผมรับไหว้ ใครอีกล่ะเนี่ย แต่หน้าตาน่ารักดีจริงๆ พี่พอลพูดเสียงดุ“ยัยแพรว ดูแต่งตัวเข้าสิ ไปแต่งตัวดี ๆ” ผมเดาเอาว่าแพรวนี่ต้องเป็นน้องสาวพี่พอลแน่“ไม่เห็นจะเป็นไรเลย...ใช่มั้ยพี่แพมขา”เธอกระโดดมานั่งข้างๆ ผมบนโซฟา แพรวใส่เสื้อกล้าม
ไม่นานนัก รถสปอร์ตคันงามก็พามาถึงบ้านหลังใหญ่โตโอ่อ่า หรือจะเรียกว่าคฤหาสน์ก็ยังได้ ผมว่าคอนโดของมันว่าหรูแล้ว แต่บ้านหลังนี้บ่งบอกฐานะของไอ้พี่พอลได้มากกว่า มีพื้นที่กว้างขวาง สนามหญ้าและต้นไม้ตัดแต่งอย่างดี พี่พอลพาเดินเข้าไปในบ้าน ผมตะลึงกับการตกแต่งภายในที่หรูหราไม่แพ้ภายนอก“คุณแม่...แพมมาแล้วครับ”พี่พอลบอกแม่ของเขาที่นั่งอยู่ที่โซฟา แม่ของพอลเป็นสไตล์ผู้หญิงไฮโซ ทรงผมตั้งกระบัง ผมยกมือไหว้สวัสดีอย่างนอบน้อม คุณแม่ยกมือไหว้รับแล้วพูด“ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยหนูแพม” ท่าทางเธอจะเอ็นดูแพมมากทีเดียว “สวยขึ้นหรือเปล่า เห็นผิวพรรณของสาวสมัยนี้แล้วแม่ล่ะอิจฉาจริง ๆ”ผมยิ้มแล้วยกมือไหว้ขอบคุณคำชมอีกรอบ แม่ของพี่พอลชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย ผมก็ชวยแกคุยบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องเป็นราวอะไรมากนัก“สวัสดีค่ะพี่แพม”ผมหันไปตามเสียงนั้น เด็กสาวหน้าใสปิ๊ง ยกมือไหว้ผม ผมรับไหว้ ใครอีกล่ะเนี่ย แต่หน้าตาน่ารักดีจริงๆ พี่พอลพูดเสียงดุ“ยัยแพรว ดูแต่งตัวเข้าสิ ไปแต่งตัวดี ๆ” ผมเดาเอาว่าแพรวนี่ต้องเป็นน้องสาวพี่พอลแน่“ไม่เห็นจะเป็นไรเลย...ใช่มั้ยพี่แพมขา”เธอกระโดดมานั่งข้างๆ ผมบนโซฟา แพรวใส่เสื้อกล้าม
แพมดันตัวผมให้นอนลง เธอนอนตะแคงอยู่ข้าง ๆ มือสากลูบเบา ๆ ที่หน้าอก ปลายถันยังแข็งชูชันจากการถูกเธอปลุกเร้าเมื่อครู่ แพมบีบเคล้นหนักขึ้นจนผมต้องห่อไหล่ด้วยความสยิว ผมไม่คิดว่าเธอจะกล้ารุกเร้าแบบนี้ และไม่แน่ใจว่าเธอรู้วิธีทำแบบนี้มาจากไหน เดาเอาว่าเธอเคยถูกพี่พอลเล้าโลมเช่นนี้เหมือนกันความรู้สึกในตัวผมปั่นป่วน เมื่อแพมก้มลงเลียเบา ๆ ที่ฐานนม ผมงอตัวด้วยความสยิวจากลิ้นสาก ๆ ของตัวผมเอง เธอลากลิ้นตวัดเลียมาถึงหัวนมจนผมกระตุกเบา ๆ หลับตาปี๋เพราะไม่อยากมองใบหน้าของผมเองที่ตอนนี้กำลังโลมเลียหัวนมสลับไปมาทั้งสองข้าง ความสยิวซ่านปั่นป่วนไปทั้งหน้าอก แพมทั้งบีบเคล้นและเลียสลับไปมา ผมเผลอจิกมือบนผ้าปูที่นอน ใจเต้นแรงระรัว ทำไมมันสยิวได้ขนาดนี้“อือออ...แพมม”ผมเผลอครางออกมาเมื่อแพมใช้ปากขบดูดเนื้อหน้าอกและปลายถัน กระตุ้นทั้งความเสียวและความรู้สึกแปลบปลาบ ความรู้สึกมันแตกต่างออกไปจากการถูกพี่พอลกระทำอย่างบอกไม่ถูก ตอนนี้มันสบายใจมากกว่า ด้วยความคุ้นเคยกับร่างกายของตนเอง ทำให้ผมไม่ต้องพะว้าพะวงและรู้สึกแสยงใจมากนักปากและลิ้นสาก ๆ ของเป้งที่อยู่ในการควบคุมของแพมพรมจูบไปทั้งหน้าอก เธอลูบมือลงไปถึ
เราสามคนกินไปดื่มเบียร์ไปสนุกสนานเฮฮา แต่ผมแทบไม่ได้แตะแอลกอฮอล์เลยเพราะกลัวจะเมาหัวทิ่ม ปล่อยให้ไอ้เจและแพมในร่างผมกระดกกันไป ผมได้แต่กลืนน้ำลายตามด้วยความอยากกิน เราคุยกันถึงเรื่องสลับร่างกลับคืน แต่ก็หมดหนทางเพราะมันดูเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติและเกินกว่าความสามารถของเรา“ถ้าแพมกับไอ้เป้งเป็นแบบนี้ตลอดไปล่ะ...จะทำยังไง” ไอ้เจถาม“ผมนี่สิลำบาก เป็นผู้หญิงไม่ใช่ง่ายๆ นะ ไม่เหมือนแพม...ใช้งานร่างผมซะคุ้มเลย” ผมพูดแล้วหันไปมองเธอ แพมสวนกลับบอกคุ้มตรงไหน งานของเป้งน่าเบื่อจะตาย ไม่เห็นสนุกเลยผมยิ้มแล้วแซวเธอ “แต่ก็ได้สนุกกับสาว ๆ ไม่ใช่เหรอ เหมือนเมื่อคืนน่ะ”เธอยิ้มแบบเขิน ๆ แล้วบอกเพราะเจบังคับให้ไปต่างหากเราสามคนเช็คบิลหลังอิ่มหนำสำราญ ผมรับหน้าที่สารถีขับรถไอ้เจกลับอพาร์ทเมนท์เหมือนเดิม ดูเหมือนแพมในร่างผมจะเมากรึ่ม ๆ อยู่เหมือนกัน พอถึงอพาร์ทเมนท์ก็แยกย้ายเข้าห้อง แพมขอตัวอาบน้ำก่อน พอเสร็จแล้วผมก็อาบบ้าง พอออกมาแพมก็นอนนิ่งอยู่บนเตียง เธอใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นแบบผู้ชายแท้ ๆ แสงไฟในห้องมืดสลัว ผมล้มตัวลงนอนข้าง ๆ ยังไม่ทันได้หลับก็ได้ยินเสียงถอนหายใจของแพม ผมผงกหัวขึ้นมอง“นึกว่าห
“อ๋อ...ค่ะ” ผมพูดแล้วพยักหน้าหงึกๆ“มาคนเดียวเหรอครับ” จีนถาม ผมพยักหน้าอีก เขาถามต่อ “แล้วเจล่ะ”ผมบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน มันยิ้มเหมือนดีใจ ผมอยากจะเดินหนีไปให้ไกล อุตส่าห์มาเดินเล่นในคอมมิวนิตี้มอลล์เล็ก ๆ ยังเจอคนรู้จักอีก จีนเงียบไปแปปนึงแล้วพูด"กินข้าวยังครับ กินข้าวกันมั้ย อาหารญี่ปุ่นข้างบนอร่อยนะ เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง”สิ้นเสียงเดี๋ยวเลี้ยงเอง ผมสนใจขึ้นมาทันที เป็นผู้หญิงสวยก็ดีอย่างนี้ อยู่ดี ๆ ก็มีคนเลี้ยงข้าว อย่าหาว่าผมงกเลยนะครับ แต่เงินเดือนของผมก็ไม่ได้มากมายอะไร ถึงแม้ผมจะให้น้องแพมในร่างผมทำงานแทน แต่ผมก็กะว่าจะยังรับเงินเดือนเหมือนเดิม ส่วนน้องแพมในร่างของผมก็รับเงินจากทางบ้านที่ส่งมาให้ทุกอาทิตย์ เราแค่สลับกันทำหน้าที่เฉพาะหน้าเฉย ๆ ผมว่าเงินจากทางบ้านน้องแพมยังมากกว่าเงินเดือนผมอีกมั้งระหว่างกินอาหาร จีนก็ชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย ส่วนผมก็ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเอร็ดอร่อยแต่ก็สำรวมกิริยามารยาทอยู่บ้างตามที่น้องแพมบอก จีนเล่าให้ฟังว่า เขาเคยทำงานบริษัทเดียวกับเจ แต่ตอนนี้อยู่คนละบริษัท แล้วก็เล่าถึงเรื่องเจให้ผมฟังซึ่งผมก็รู้อยู่แล้ว ไอ้เจมันเป็นเพื่อนผมมาตั้งนาน ผมพยักหน้า
พี่พอลขบติ่งหู ทำเอาขนลุกซู่ขึ้นมาซะเฉย ๆ ชุดแส็กถูกเลิกลงไปทางไหล่ พร้อมกับบราสีดำที่ถูกปลดออกไปอย่างไม่ทันตั้งตัว ตอนนี้ท่อนบนของแพมเปลือยเปล่า มือกร้านขยับมาลูบคลึงนมเต่งทันที ปลุกเร้าความสยิววูบวาบ พยายามปัดป้องสุดฤทธิ์อย่างสิ้นหวัง แทบจะสู้กับการโลมเล้าไม่ได้เลยผมหายใจเหนื่อยอ่อน รู้สึกวูบวาบขึ้นมาเมื่อถูกคลึงเคล้นเต้านมสลับไปมา ตายแน่ ๆ เรา ความรู้สึกแบบนี้มาอีกแล้ว ผมคิดในใจ พยายามสะกดกลั้นความวาบหวามไว้เต็มที่ ปลายนิ้วของพี่พอลบดบี้ที่หัวนมจนชูชัน ผมพยายามหนีด้วยการพลิกตัวนอนคว่ำ พี่พอลก็ยังกอดผมไว้จากด้านหลังได้ มือลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของแพม ส่วนปากพรมจูบที่คอกับท้ายทอยไม่หยุดจนขนลุกแล้วลุกอีกไปทั้งตัว“ปล่อยแพมเถอะ...ขอร้อง” ผมจนใจจนต้องขอร้องกันตรงๆ“ทำไมล่ะครับ แพมบอกว่าให้พี่ทำแบบนี้ได้ไม่ใช่เหรอ” มันพูด “แต่คืนนี้พี่ขอมากกว่านี้นะ”ขออะไรวะ ผมคิดในใจด้วยความตื่นตระหนก มันล้วงมือลงมาจนถึงเนินสาวกลางลำตัว แม้จะหดเอวหนีแต่ก็ไม่อาจพ้นมือของเขาที่บดบี้ไปบนนูนเนินนอกกางเกงใน ตอนนี้ได้แต่หลับตาปี๋ ความรู้สึกวูบหวิวก่อตัวในท้องน้อย พยายามต่อสู้กับอารมณ์ที่ลุกโชนขึ้น มันเป็นอาร
เวลาผ่านไปอีกวัน เราสองคนพยายามทำความคุ้นเคยในการทำหน้าที่สลับกัน แต่ที่ผมลำบากใจก็คือ การต้องเจอกับไอ้พี่พอลด้วย แพมบอกว่าผมต้องไปงานแต่งงานเพื่อนของพี่พอลในคืนวันพรุ่งนี้ แพมอ้อนวอนให้ผมไปเพราะดูแล้วเธอเองก็คงชอบ ๆ พี่พอลอยู่เหมือนกัน จึงไม่อยากให้ผมปฏิเสธเขาแพมเตรียมชุดมาให้ผมใส่ด้วย มันเป็นชุดแส็กเดรสกระโปรงสั้นสีดำ ผมลองใส่อย่างไม่เต็มใจเอาเสียเลย ถึงแม้ร่างกายจะเป็นสาวสวยหุ่นดีเพียงใด ใส่แล้วสวยขนาดไหน แต่ผมก็ยังรู้สึกแบบผู้ชายจึงช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกลำบากใจ แต่แพมก็ขอร้องว่างานนี้พลาดไม่ได้เพราะเป็นงานแต่งเพื่อนสนิทของพี่พอล ต้องดูดีหน่อย ผมก็ต้องยอมเลยตามเลย พอลองสวมดูแล้วก็แปลกใจที่ชุดเดรสมันพอดีตัวเป๊ะ แพมบอกว่าชุดนี้ตัดมาเป็นพิเศษเลย ความรัดรูปกำลังดีทำให้อวดสัดส่วนทรวดทรงของสาวสวยอย่างชัดเจน เอวคอดกิ่วกับสะโพกกลมกลึง หน้าอกไม่ต้องพูดถึงเพราะโชว์เนินวับ ๆ แวม ๆ จนแทบจะก้มไม่ได้เลยทีเดียว ผมหมุนตัวไปมาหน้ากระจกแล้วรู้สึกดีขึ้นมาอย่างประหลาด ใส่ชุดสวย ๆ แล้วทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาได้อย่างไรก็ไม่อาจหาคำตอบได้ หรือนี่จะเป็นอีกหนึ่งอารมณ์แบบผู้หญิง ใส่ชุดสวยแล้วมั่นใจเต็มร้อยแต่
“โห...กินเหล้ามาเหรอ” ผมถาม“อืออ...เจเค้าชวนไปน่ะ” เธอพูดแล้วเดินเข้ามาในห้อง “แต่แปลกอะ...แพมกินตั้งเยอะยังไม่ค่อยเมาเลย”แหงล่ะ ก็เธออยู่ในร่างผมนี่นา ผมเป็นคนกินเหล้าเยอะอยู่แล้ว ผมปิดประตูแล้วถาม“แล้วไอ้เจล่ะ”“ยังนั่งกินเหล้ากันอยู่ที่ร้านเลย” เธอบอกแล้วเดินมานั่งบนเตียง“ไปแถวไหนกันมาเนี่ย..” ผมถามแบบขำๆ ก่อนจะมานั่งบนเตียงข้างๆ เธอ“เจเค้าพาไปเลานจ์น่ะ กับพวกพี่แดง พี่พจน์” แพมในร่างของผมพูด “พวกนั้นลามกมาก..”ผมหัวเราะออกมา ว่าแล้วว่าไอ้เจต้องทำอะไรแผลง ๆ“เหรอ แล้วสนุกมั้ยล่ะ” ผมถาม แพมหันมามองหน้าผม“ก็...ก็...สนุกดี...แพมไม่เคยไป... แต่มัน”เธอพูดแล้วชะงักไว้แค่นั้น“แต่มันอะไรเหรอ” ผมถาม“มันแปลก ๆ”แพมพูดแล้วนิ่งเงียบ ผมเอียงคอมองใบหน้าของผมเอง หน้าคล้ำๆ ตอนนี้ก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ผมถามว่าแปลกยังไง เธอนิ่งไปครู่นึงแล้วเอ่ยเบา ๆ“มัน...มันแข็งอะ” เธอบอก ผมตาโตแล้วถามทันที“อะไรแข็ง” แพมอ้ำอึ้งเหมือนไม่อยากพูด ผมถามอีก “เกิดอะไรขึ้นเหรอแพม”เธอก้มลงมองเป้ากางเกงตัวเองแล้วพูดแบบเขิน ๆ“พอมีผู้หญิงมานั่งตัก หรือมากอด...มันก็แข็งเลย” เธอสารภาพ ไม่รู้ว่าผมจะหัวเราะหรือสงสารเ
แพมในร่างของผมไลน์มาบอกว่า เธอกลับถึงห้องแล้วแต่เจชวนออกไปข้างนอกต่อ เธอจึงต้องออกไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ผมนึกขำในใจ ไม่รู้ว่าไอ้เจจะพาไปกินเหล้าที่ไหน เพื่อนผมมันแสบได้เรื่องดีจริง ๆพอถึงห้อง โบว์ก็ถามผมอย่างอ้อมแอ้มด้วยความอายว่า อาจารย์ว่าอย่างไรบ้าง ผมยิ้มแล้วเปิดเสียงบทสนทนาทั้งหมดให้ฟัง ดูโบว์ตกใจอย่างมากที่ผมกล้าทำและพูดกับอาจารย์แบบนั้น เธอเล่าให้ฟังว่าอาจารย์คนนี้มีชื่อเสียงด้านมืดมานานแล้ว ไม่คิดว่าจะได้เจอกับตัวเอง ผมบอกเธอว่ามันต้องมีใครสักคนกล้าทำแบบนี้ ไม่งั้นอาจารย์ก็จะเหิมเกริมทำกับนักศึกษาสาว ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ“ขอบคุณแพมมากนะ” โบว์บอก สาวน้อยน้ำตาซึมลงอาบแก้มผมใช้มือปาดน้ำตาออก โบว์ซบลงที่ไหล่ของผม ผมกอดเธอไว้ เรือนร่างของโบว์นุ่มดีเหลือเกิน ผมปล่อยให้เธอระบายความอัดอั้นจนพอใจเส้นผมและกลิ่นกายของโบว์หอมกรุ่น ทำเอาใจเต้นแรงขึ้นมา ผมสูดดมความหอมหวานที่ไรผมข้างแก้ม จูบเบาๆ แล้วไล้ปากมาที่พวงแก้มเนียน หอมเบาๆ มาถึงติ่งหูจนโบว์เอียงคอหนี ผมสัมผัสได้ว่าเธอขนลุกไปทั้งแขน แต่ไม่ได้ผละหนีใด ๆ ผมจูบไซ้ที่แก้มเนียนนั้นแล้วไล้ไปถึงหลังใบหู สาวน้อยตัวเกร็ง“นี่...แพม”เธอเรียกชื่อผม
“อืมม...” แกกระแอม “ถ้าคะแนนเป็นแบบนี้ก็ติดเอฟแน่นอน”พูดจบก็มองลอดแว่นมาที่ผม ผมหน้าเสีย ถ้าติดเอฟก็เป็นปัญหาใหญ่สำหรับแพมแน่ กลายเป็นว่าผมจะทำให้อนาคตของแพมเสียหลังจากอยู่ในร่างเธอไม่กี่วันเท่านั้น ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไร แกก็พูดต่ออีก“ติดเอฟนี่เรื่องใหญ่นะ วิชานี้เปิดแค่เทอมเดียว ต้องรออีกหนึ่งปีถึงจะลงเรียนใหม่ได้”อาจารย์พูด แกหันมามองหน้าผม โบว์คงจะรู้ว่าเธอจะติดเอฟด้วย เธอถึงร้องห่มร้องไห้จนตาแดงแบบนั้น จริงๆ แล้วถ้าเป็นผมเองก็ไม่ได้สนใจหรอกครับ เพราะตอนเรียนก็ติดเอฟอยู่หลายตัว แต่นี่ไม่ใช่ เพราะมันคืออนาคตของแพม“จริงเหรอคะ”ผมพูดได้แค่นั้น อ้ำอึ้งจนไม่รู้จะทำยังไงต่อ“ใช่...” อาจารย์พูดเสียงแข็ง แกเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป “แต่ก็ยังมีทางแก้ไขนะ...”ผมมองหน้าอาจารย์ คราวนี้แกถอดแว่นออกแล้วจ้องหน้าผม ก่อนจะเหลือบสายตาลงต่ำมองที่หน้าอกอีกรอบแบบจงใจ ตอนนี้ผมกระจ่างแล้วว่าทางแก้ไขของแกหมายถึงอะไร อาจารย์มองหน้าผมอีกรอบเหมือนจะหยั่งเชิง ผมอึ้งไปสักพัก ไม่คิดว่าจะต้องเจออะไรแบบนี้“อาจารย์...อาจารย์หมายถึงอะไรคะ” ผมถาม เขายิ้มแล้วพูด“ตามใจอาจารย์สักหน