“โห...กินเหล้ามาเหรอ” ผมถาม
“อืออ...เจเค้าชวนไปน่ะ” เธอพูดแล้วเดินเข้ามาในห้อง “แต่แปลกอะ...แพมกินตั้งเยอะยังไม่ค่อยเมาเลย”
แหงล่ะ ก็เธออยู่ในร่างผมนี่นา ผมเป็นคนกินเหล้าเยอะอยู่แล้ว ผมปิดประตูแล้วถาม
“แล้วไอ้เจล่ะ”
“ยังนั่งกินเหล้ากันอยู่ที่ร้านเลย” เธอบอกแล้วเดินมานั่งบนเตียง
“ไปแถวไหนกันมาเนี่ย..” ผมถามแบบขำๆ ก่อนจะมานั่งบนเตียงข้างๆ เธอ
“เจเค้าพาไปเลานจ์น่ะ กับพวกพี่แดง พี่พจน์” แพมในร่างของผมพูด “พวกนั้นลามกมาก..”
ผมหัวเราะออกมา ว่าแล้วว่าไอ้เจต้องทำอะไรแผลง ๆ
“เหรอ แล้วสนุกมั้ยล่ะ” ผมถาม แพมหันมามองหน้าผม
“ก็...ก็...สนุกดี...แพมไม่เคยไป... แต่มัน”
เธอพูดแล้วชะงักไว้แค่นั้น
“แต่มันอะไรเหรอ” ผมถาม
“มันแปลก ๆ”
แพมพูดแล้วนิ่งเงียบ ผมเอียงคอมองใบหน้าของผมเอง หน้าคล้ำๆ ตอนนี้ก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ผมถามว่าแปลกยังไง เธอนิ่งไปครู่นึงแล้วเอ่ยเบา ๆ
“มัน...มันแข็งอะ” เธอบอก ผมตาโตแล้วถามทันที
“อะไรแข็ง” แพมอ้ำอึ้งเหมือนไม่อยากพูด ผมถามอีก “เกิดอะไรขึ้นเหรอแพม”
เธอก้มลงมองเป้ากางเกงตัวเองแล้วพูดแบบเขิน ๆ
“พอมีผู้หญิงมานั่งตัก หรือมากอด...มันก็แข็งเลย” เธอสารภาพ ไม่รู้ว่าผมจะหัวเราะหรือสงสารเธอดี
“เหรอ” ผมตอบได้แค่นั้นเพราะพยายามกลั้นขำเอาไว้อย่างเต็มที่ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปมาครุ่นคิด ผมเดาเอาว่า แพมในร่างของผมก็คงมีสัญชาตญาณของผู้ชายอยู่ด้วยเช่นกันจึงเกิดอารมณ์กับผู้หญิง เหมือนที่ผมเองก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกของผู้หญิงในร่างแพม...นั่นหมายความว่าผมจะเกิดอารมณ์กับผู้ชายด้วยจริง ๆ หรือนี่
“ทำไมมันเป็นแบบนี้อะ...แพมไม่ได้ชอบผู้หญิงนะ” เธอพูดแล้วทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ผมนั่งลงข้างเธอ
“แพม...ผมอยากบอกว่า ผมก็รู้สึกคล้ายกันนี้เหมือนกัน”
แพมหันมามองหน้า ผมจึงเล่าให้ฟังว่า ตอนที่ไอ้พี่พอลมาลูบขา ก็รู้สึกวูบวาบแบบแปลก ๆ ทั้ง ๆ ที่ผมก็ไม่ได้ชอบผู้ชาย แต่ผมไม่ได้เล่าหรอกนะครับว่าถูกไอ้เจทำกับร่างน้องแพมยังไงบ้าง
“มันจะเป็นไรมั้ยอะ” แพมถามด้วยเสียงที่อยากรู้ปะปนความหวาดกลัว
“ไม่เป็นอะไรหรอก” ผมบอก แพมยังทำหน้ากังวลไม่หาย ผมยิ้มแล้วแกล้งพูด “ยังงี้ต้องลองพิสูจน์นะ”
เธอหันขวับมาถาม “พิสูจน์ยังไง? ..”
ผมขยับมือมาวางที่ขาของร่างผม แล้วเลื่อนมาที่เป้ากางเกง ก่อนจะบีบเบา ๆ แพมในร่างผมทำตาโตด้วยความตกใจ ทำท่าจะขยับหนีแต่ผมบอกว่าไม่ต้องหนี ลองดูจะได้รู้ไง เธอลังเลแต่ก็ปล่อยให้ผมทำแต่โดยดี ผมใช้มือขาว ๆ ของแพมบีบคลึงไปที่เป้ากางเกง
“ตอนนี้รู้สึกยังไง” ผมถาม
“ก็...แปลก ๆ อะ” เธอบอก
ผมยิ้มแล้วปลดเข็มขัดออก รูดซิบลง ก่อนจะล้วงมือเข้าไปบีบคลึงท่อนเอ็นบนกางเกงใน แพมในร่างผมทำหน้าเหย ครู่เดียวมันก็พองตัวขึ้นทีละน้อยจนคับตุงกางเกงใน ผมรู้ว่าแพมกำลังรู้สึกเสียวและมีอารมณ์ทางเพศแบบผู้ชายขึ้นมาแล้ว ผมเกี่ยวขอบกางเกงในลงแล้วควักท่อนเนื้อออกมา ไฟสว่างจ้าตอนนี้ทำให้เห็นมือขาว ๆ ตัดกับสีคล้ำของท่อนเนื้อ แพมทำหน้าอี๋
“น่าเกลียดจังเลยอะ” เธอพูด
“น่าเกลียดตรงไหน เรื่องธรรมชาติ” ผมบอกแล้วหัวเราะ ใช้มือรูดขึ้นลงเบาๆ สังเกตเห็นได้ว่าร่างของผมเกร็ง คงเพราะความเสียวสยิวที่ได้รับจากมือนุ่ม ๆ ที่ผมกำลังทำอยู่นี้ ไม่นานนักปลายหัวบานก็มีน้ำเยิ้มออกมา บ่งบอกอารมณ์เพศของเจ้าของ
“ดีมั้ย” ผมถาม
แพมไม่ตอบ แต่สีหน้าตอนนี้ผมรู้ได้ทันทีว่ากำลังเสียว มันคงเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่เธอเพิ่งเคยได้สัมผัส ผมรูดมือเร็วขึ้น แพมในร่างผมตัวเกร็งอย่างเห็นได้ชัด
“เคยทำแบบนี้ให้ใครเปล่า” ผมถามเธออีก ผมหมายถึงว่าแพมเคยทำแบบนี้ให้หนุ่ม ๆ หรือเปล่า เธอมองหน้าผม
“ถามทำไม...ไม่บอก”
เธอตอบแบบงอน ๆ ผมไม่ได้คะยั้นคะยอจะเอาคำตอบจากเธอ ท่าทางภายนอกดูสวยเปรี้ยวเฉี่ยวขนาดนี้ก็ต้องมีผู้ชายมาติดพันและต้องมีอะไรแบบนี้บ้างล่ะ เธอถามผมกลับว่าแล้วผมเคยถูกผู้หญิงทำแบบนี้มั้ย ผมบอกว่าก็มีบ้าง อายุป่านนี้แล้ว แต่ไม่ได้บอกเธอว่าส่วนใหญ่ก็เป็นผู้หญิงหากินซะมากกว่า ไม่เคยมีนักศึกษาสวย ๆ แบบแพมมารูดลำเอ็นให้ผมหรอก
“มัน...มันเสียว ๆ อะ”
แพมพูดขณะผมรูดท่อนเอ็นขึ้นสุดลงสุด ผมจับมือเธอให้มาจับหน้าอกอวบบนร่างของเธอเอง เธอจับอย่างกล้ าๆ กลัว ๆ ผมไม่ได้ใส่บราเพราะอยู่ในชุดนอน มือของเธอจับนมนอกเสื้อยืด สัมผัสความตึงแน่นแบบเต็ม ๆ เธอหายใจแรงขึ้น ผมรู้ได้เลยว่ามันกระตุ้นอารมณ์ผู้ชายได้ดี ถึงแม้แพมจะเป็นผู้หญิง แต่พอได้จับแบบนี้ อารมณ์เบื้องลึกในตัวผู้ชายก็กำลังครอบงำเธอไว้ ถึงแม้จะเคยเป็นเรือนร่างของเธอเองก็เถอะ
แพมบีบหน้าอกแรงขึ้น เมื่อผมรูดท่อนเนื้อจนมันพองตัวคับเต็มมือ ผมกระถอกขึ้นลงถี่ยิบ รู้ดีว่ามุมไหนมันให้ความเสียวได้มากที่สุด หัวบานใหญ่มีน้ำเยิ้มจนเปื้อนมือของผม ส่งเสียงดังแจ๊ะ ๆๆ หน้าของผมตอนนี้กัดฟันกรามจนนูนออกมา แพมคงกำลังเสียวได้ที่เลย
“อือออ...โอยยยยย” แพมในร่างผมตัวเกร็ง แอ่นเอวรับมือของผม “มันนนนเสียวว...โอยยย เสียวววจัง”
สิ้นเสียง มือของเธอบีบเคล้นหน้าอกอย่างแรงจนผมรู้สึกเจ็บแปลบ น้ำเงี่ยนกระฉูดออกมาจากปลายหัวบานจนเปรอะเปื้อนมือของผม แพมกระตุกเกร็งท่อนล่าง ใบหน้าบิดเบี้ยว กัดฟันด้วยความเสียว ผมกระถอกท่อนเอ็นรูดต่อเนื่อง รีดพิษขาวข้นออกมาจนไหลยืดหยดลงพื้น แพมจับข้อมือของผมไว้เพราะความเสียวติดพัน
“เสียวว...เสียววอะ”
เธอบอกด้วยเสียงกระเส่า แต่เมื่อเป็นเสียงครางของผมที่ฟังดูแปลก ๆ อยู่เหมือนกัน
ผมเช็ดทำความสะอาดจนเกลี้ยงเกลา แพมยังทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าเพิ่งเกิดเหตุการณ์อันน่าประหลาดขึ้น เธอในร่างผู้ชาย ทำไมถึงมีอารมณ์ไปกับการใช้มือจากผู้หญิงจนน้ำกระฉูดแตกได้
“ทีนี้ก็ไม่ต้องพิสูจน์อะไรกันแล้วล่ะ...แพมในร่างผมรับรู้ความรู้สึกแบบผู้ชายได้” ผมพูดกับเธอ “ส่วนผมก็รับรู้ความรู้สึกแบบผู้หญิงได้เหมือนกัน”
ผมไม่รู้ว่าไอ้การได้รับรู้ความรู้สึกแบบนี้จะดีหรือไม่ แต่เราก็ต้องยอมรับแบบนี้ไปก่อนเพราะไมมีทางเลือก และไม่มีสัญญาณเลยว่าเราสองคนจะกลับคืนร่างกันเมื่อไหร่ แพมทำหน้าแบบบุญไม่รับ
“เมื่อไหร่เราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมนะ” แพมถามเสียงเศร้า
...เป็นคำถามที่ผมเองก็ไม่รู้คำตอบ
เวลาผ่านไปอีกวัน เราสองคนพยายามทำความคุ้นเคยในการทำหน้าที่สลับกัน แต่ที่ผมลำบากใจก็คือ การต้องเจอกับไอ้พี่พอลด้วย แพมบอกว่าผมต้องไปงานแต่งงานเพื่อนของพี่พอลในคืนวันพรุ่งนี้ แพมอ้อนวอนให้ผมไปเพราะดูแล้วเธอเองก็คงชอบ ๆ พี่พอลอยู่เหมือนกัน จึงไม่อยากให้ผมปฏิเสธเขาแพมเตรียมชุดมาให้ผมใส่ด้วย มันเป็นชุดแส็กเดรสกระโปรงสั้นสีดำ ผมลองใส่อย่างไม่เต็มใจเอาเสียเลย ถึงแม้ร่างกายจะเป็นสาวสวยหุ่นดีเพียงใด ใส่แล้วสวยขนาดไหน แต่ผมก็ยังรู้สึกแบบผู้ชายจึงช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกลำบากใจ แต่แพมก็ขอร้องว่างานนี้พลาดไม่ได้เพราะเป็นงานแต่งเพื่อนสนิทของพี่พอล ต้องดูดีหน่อย ผมก็ต้องยอมเลยตามเลย พอลองสวมดูแล้วก็แปลกใจที่ชุดเดรสมันพอดีตัวเป๊ะ แพมบอกว่าชุดนี้ตัดมาเป็นพิเศษเลย ความรัดรูปกำลังดีทำให้อวดสัดส่วนทรวดทรงของสาวสวยอย่างชัดเจน เอวคอดกิ่วกับสะโพกกลมกลึง หน้าอกไม่ต้องพูดถึงเพราะโชว์เนินวับ ๆ แวม ๆ จนแทบจะก้มไม่ได้เลยทีเดียว ผมหมุนตัวไปมาหน้ากระจกแล้วรู้สึกดีขึ้นมาอย่างประหลาด ใส่ชุดสวย ๆ แล้วทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาได้อย่างไรก็ไม่อาจหาคำตอบได้ หรือนี่จะเป็นอีกหนึ่งอารมณ์แบบผู้หญิง ใส่ชุดสวยแล้วมั่นใจเต็มร้อยแต่
“ฝนจะตกอะไรทุกเย็นวะเนี่ย”ผมสบถโทษฟ้าฝน ก่อนวิ่งเข้าอพาร์ทเมนท์ของตนเอง ตัวเปียกมะล่อกมะแล่กหัวจรดเท้า ขณะกำลังไล่น้ำออกจากรองเท้าอยู่นั้น ก็เห็นสาวสวยนักศึกษาลงมาจากรถยนต์คันหรู...เธอชายตามองผมด้วยหางตา ผมลอบมองหุ่นระทวยตามไปจนเธอเดินขึ้นลิฟต์ไปใคร ๆ ก็เรียกผมว่า “ไอ้เป้ง” เพราะผมเป็นพนักงานออฟฟิศจน ๆ คนหนึ่งในฝ่ายเดินเอกสาร หรือเรียกง่าย ๆ ว่าแมสเซนเจอร์แต่ประจำอยู่ในออฟฟิศนั่นล่ะครับ ทำหน้าที่เดินแจกจดหมาย เอกสาร และยังทำงานอื่น ๆ จิปาถะในออฟฟิศ ตั้งแต่ซ่อมเครื่องปรินเตอร์ไปจนถึงช่วยเปลี่ยนหลอดไฟด้วยความที่ตอนเรียนหนังสือผมไม่ได้ตั้งใจสักเท่าไหร่ สอบเข้ามหาลัยดัง ๆ ก็ไม่ได้ จบออกมา 3-4 ปีแล้วก็เลยหางานทำยากหน่อย จนต้องเป็นพนักงานออฟฟิศต๊อกต๋อยไปวัน ๆผมไม่ใช่แค่เป็นพนักงานจน ๆ เท่านั้นนะครับ แต่ยอมรับว่าหน้าตาของผมก็ไม่ได้เรื่องได้ราวเสียด้วย ด้วยความเป็นเด็กต่างจังหวัด รูปร่างหน้าตาสามัญประจำบ้าน ไม่ค่อยมีผู้หญิงเหลียวมอง มีแต่ผมที่ชอบมองสาว ๆ สวย ๆ ขาว ๆ หมวย ๆ และยิ่งเป็นสาวนักศึกษาด้วยแล้ว ผมยิ่งเหลียวมองจนบางครั้งถูกมองกลับด้วยหางตาแบบเหยียดหยามกันเลยทีเดียวอพาร์ทเมนท์ที่ผ
ผมลืมตาขึ้นด้วยอาการปวดหัวตุบ ๆ รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก หายใจไม่ออก แน่นท้อง ปวดเนื้อปวดตัว เวลาผ่านไปเท่าไหร่ก็ไม่รู้ได้ พอสติกลับคืนมาเล็กน้อย ผมก็รู้ตัวแล้วว่ายังอยู่ในห้องของแพมตายแล้วกู ผมจับต้นชนปลายได้แล้ว ความเมาทำให้ผมเหิมเกริม หมายจะบุกยัดเยียดขืนใจมอบความเป็นผัวให้นักศึกษาสาว แต่กลับพลาดท่าตกเตียงจนสลบ รู้สึกหวาดกลัวที่จะถูกตำรวจจับจนตัวสั่นสะท้านพอชันตัวขึ้นได้ ผมก็จะลุกขึ้น แต่มีแขนผู้ชายวางพาดบนตัวของผม ผมดึงออกอย่างยากลำบากเพราะเรี่ยวแรงหดหาย ชายคนนั้นนอนตะแคงหันหลังให้ผม รูปร่างผอม พอผมยืนขึ้นมาได้ก็มานั่งแปะอยู่บนขอบเตียง มือกุมขมับเพราะรู้สึกปวดหัวผมมองชายที่กำลังนอนอยู่เหมือนไม่ได้สติด้วยความสงสัย แต่พอเขม้นมองอีกครั้ง ใจผมก็หายวาบนั่นมันตัวผมเองที่นอนอยู่กับพื้น!ผมตกใจแทบสิ้นสติ ก้มลงมองตัวเอง ตอนนี้ผมอยู่ในชุดนักศึกษาสาวยับยู่ยี่ กระโปรงสั้นร่นขึ้นมาถึงโคนขา ผมนิ่งอึ้งไปเกือบนาทีราวถูกสาบ ก่อนจะพยายามรวบรวมสติที่ใกล้จะแตกเป็นเสี่ยง ผมคงกำลังฝันไปเป็นแน่ นี่คงไม่ใช่เรื่องจริงหรอก ผมลุกขึ้นยืนแล้วเดินสโลสเลไปที่กระจกบนโต๊ะเครื่องแป้งภาพสะท้อนตรงหน้าไม่ใช่ผม
ผมสะดุ้งตื่นตั้งแต่เช้ามืดด้วยความหวังว่าผมจะคืนร่างกลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะผมยังอยู่ในร่างของน้องแพม ส่วนร่างของผมยังนอนหลับไม่ได้สติ หายใจเป็นจังหวะเหมือนคนหลับลึก ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะลุกไปอาบน้ำ คราวนี้ผมรู้วิธีการรวบผมไว้ไม่ให้เปียกเพราะมันแห้งยากเหลือเกิน ผมไม่อาจเข้าใจได้ว่าสาวๆ เค้าใช้ชีวิตอยู่กันได้อย่างไรในการที่ต้องทำผมให้แห้งทุกวันแบบนี้ถัดจากอาบน้ำ ผมก็ต้องมาแต่งตัวซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเช่นกัน โดยเฉพาะการใส่บราที่ทุลักทุเล หน้าอกหน้าใจอวบใหญ่ของแพมทำให้รู้สึกอึดอัดยังไงบอกไม่ถูก แต่เมื่อสวมบราเข้าที่แล้วผมก็รู้สึกดีขึ้น ก่อนที่จะต้องมาใส่ชุดนักศึกษาที่ต้องใช้เวลาทำใจและทำตัวให้คุ้นชินอยู่สักพัก เพราะเสื้อมันตัวเล็กและรัดลำตัวมาก ส่วนกระโปรงก็สั้น แถมยังผ่าด้านหลังอีกไม่ว่าจะลุกยืนหรือทรุดตัวลงนั่ง ทำอย่างไรก็ดูเหมือนจะโป๊ตลอดเวลา ต้องลองลุกและนั่งอยู่หลายครั้งถึงจะรู้วิธี และผมก็ต้องหนีบเข่าให้ชิดกันโดยอัตโนมัติเพราะกางเกงชั้นในทำท่าจะปรากฎสู่สายตาสาธารณชนอยู่เรื่อยแน่นอนว่าผมไม่รู้วิธีแต่งหน้าหรือทาแป้งทาครีมแบบที่ผู้หญิงเค้าทำกันหรอกครับ ลำพังแ
ผมเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลียหลังจากช่วยตัวเองเสร็จสมสองครั้งติด ๆ กัน พอตื่นขึ้นก็เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็นแล้ว ผมกลัดกระดุมนักศึกษาเข้าที่เดิม จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ผมเผ้ายุ่งเหยิงจนต้องมานั่งหวีอยู่หน้ากระจกจ้องมองน้องแพมในเงาสะท้อน เธอช่างมีเค้าโครงหน้าที่เพอร์เฟคและสวยอะไรเช่นนี้ มองตากลมโตที่มีแววขี้เล่น คิ้วโก่งอย่างเหมาะเจาะ จมูกมีสันโด่งรับลงมาถึงเรียวปากกระจับ สองแก้มมีเลือดฝาดจาง ๆก่อนที่จะค่ำมืด ผมแอบเข้าไปในห้องของตัวเองตอนที่ไอ้เจยังไม่กลับ หวังจะเข้าไปเอาแล็ปท็อปของตัวเองมาใช้ในห้องของแพม แต่ก่อนที่ผมหันหลังกำลังจะเดินออกมาจากห้อง ไอ้เจยืนอยู่หน้าประตูห้อง มองหน้าผมด้วยความงุนงงเต็มประดาผมในร่างน้องแพมก็ยืนนิ่งอึ้งเช่นกัน ในมือถือกระเป๋าคอมพิวเตอร์อยู่ ใครก็ตามมาเห็นตอนนี้ก็ต้องคิดว่าผมในร่างนักศึกษาสาวสวยคงกำลังขโมยคอมพิวเตอร์อยู่เป็นแน่“ทำอะไรน่ะ...?”ไอ้เจถามเสียงเข้ม ผมอึกอัก“ปะ...เปล่า..” ผมหันรีหันขวาง ไม่รู้จะทำอย่างไร“จะเอาคอมนั่นไปไหน...เอ.. น้องนี่ที่อยู่ในห้องตรงนู่นนี่...”ไอ้เจพูด มันกับผมรู้ว่าแพมอยู่ห้องไหน ผมเงียบ มันพูดต่อ“ขโมยของเหรอ” ไอ้เจถามโต้
ตอนแรกผมลังเลที่จะออกไปข้างนอกตามคำชวนของมันเพราะไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไร แต่ไอ้เจก็บอกว่า ผมต้องออกไปเปิดหูเปิดตาและทำตัวให้คุ้นชินกับการอยู่ในร่างของน้องแพมบ้างไอ้เจชวนผมออกไปกินข้าวกับเพื่อนที่ทำงานของมัน มันถือวิสาสะเปิดตู้เสื้อผ้าของแพมแล้วเลือกชุดใหม่ให้ผมอีกต่างหากเพราะเกรงว่าชุดนักศึกษาจะเข้าร้านอาหารกึ่งผับไม่ได้ ผมต้องสวมกางเกงขาสั้นกุดที่ชายกางเกงค่อนข้างบานของน้องแพม เปลี่ยนเสื้อนักศึกษาเป็นเสื้อยืดรัดรูปตามที่มันเลือกให้ ไอ้เจเห็นแล้วจุ๊ปาก มันบอกคนสวยใส่อะไรก็สวยแฮะ ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับมันเท่าไหร่ที่จะแต่งตัวแบบนี้ เพราะอยากใส่กางเกงขายาวมากกว่า“ใส่แบบนี้แหละ...หุ่นดี ขาสวยแบบนี้ก็ต้องโชว์หน่อย ปกติมึงก็ไม่มีหมามองอยู่แล้วนี่หว่า คราวนี้ผู้ชายได้มองกันทั้งร้าน” ไอ้เจพูด แล้วหัวเราะร่ามันขับรถไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากอพาร์ทเมนท์มากนัก พอไปถึง เพื่อนของไอ้เจนั่งกินกันอยู่ก่อนแล้ว มีแต่ผู้ชายทั้งนั้น เห็นแล้วผมอยากจะกลับบ้านเลยเพราะแทบจะไม่มีสาว ๆ เป็นอาหารตา จะมีก็แต่พริตตี้เชียร์เบียร์ที่เดินกันขวักไขว่ มิน่าล่ะ ร้านนี้ผู้ชายถึงเยอะก็เพราะพริตตี้เยอะนี่เองเพื่อ
ผมใจเต้นโครมคราม ไอ้เจไม่ได้รู้เลยว่า แค่มือมาสัมผัสหน้าขาผมก็ใจเต้นวูบวาบแล้ว ตอนนี้มือมันล้วงคลำอยู่ที่เนินสาวถึงแม้จะมีชั้นใจขวางกั้น แต่ก็ทำเอาผมสยิวแบบแปลก ๆ มันต่างจากที่ผมลูบคลำช่วยตัวเองจนเสร็จสมไปสองครั้งเมื่อตอนบ่าย มือหยาบ ๆ ของเพศตรงข้าม กระตุ้นความรู้สึกแปลกประหลาดได้มากกว่ามือผู้หญิงอันนุ่มนิ่มของตัวเอง...หรือนี่จะเป็นอารมณ์แบบธรรมชาติที่อยู่ในตัวผู้หญิงทุกคน“เสียหายดิวะ...อึ้ยยย...พอแล้ว”ผมร้องห้ามมัน แต่ไอ้เจก็ล้วงมือลึกเข้าไปใต้กางเกงในจนได้ มันวางมือไปบนเนินสาวทำเอาผมสะดุ้งหนีบขาไว้แน่น พยายามเบี่ยงตัวให้หลุดพ้นแต่สู้แรงมันไม่ได้เลย แรงน้องแพมช่างน้อยนิด ผมดันแขนมันเหมือนกำลังดันเสาคอนกรีตต้นใหญ่ยักษ์ที่ไม่ขยับใด ๆ ไอ้เจหัวเราะแล้วพูด“มึงรู้มั้ย เมื่อตอนเย็น...แค่ได้เห็นรูปร่างน้องแพม...น้องชายกูลุกตั้งเลย...สุดยอดจริง ๆ ตอนนี้ขอกูจับหน่อยเถอะ”ผมปฏิเสธมันเสียงแข็ง แต่มันก็แทบไม่ฟัง นิ้วของมันกลับบดบี้ลงบนกลีบสาวจนผมตัวกระตุกเฮือก พยายามดึงแขนมันออกอย่างไร้ผล ไอ้เจเกี่ยวนิ้วเบา ๆ ไปที่เม็ดสวาท ความสยิวซ่านพลุ่งพล่านขึ้นมาซะอย่างนั้น ใจเต้นโครมคราม พยายามอดกลั้นคว
ผมสะดุ้งตื่นเช้ามืด เมื่อได้ยินเสียงไอแค่กๆ ดังมาจากข้างเตียง ผมชะโงกดูก็เห็นร่างของผมกระสับกระส่าย มือขยับมาวางที่หน้าอก“น้ำ...”เสียงแหบ ๆ ดังมา ผมรีบผวาไปหยิบน้ำมาค่อย ๆ กรอกใส่ปาก จนร่างของผมสงบลง ผมเขย่าตัวเบาๆ“เป็นไงบ้าง”ผมถามเบา ๆ ดวงตาของร่างตรงหน้าลืมขึ้นช้า ๆ ปรือมองผมแล้วจ้องมองแน่นิ่ง สายตานั้นเหมือนยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนจะมองไปที่เพดานและรอบข้างตัวเอง“ที่ไหน...แพมอยู่ไหน” ร่างของผมถามด้วยเสียงแผ่วเบา“แพม...ก็อยู่ในห้องแพมไง” ผมตอบเหมือนแพมในร่างผมจะยังไม่ได้สติเต็มร้อย ผมนั่งจ้องมองหน้า นานหลายนาทีก่อนที่เธอจะทำตาโตเมื่อเห็นร่างของเธออยู่ตรงหน้า เธอผวาจะลุกขึ้น แต่แล้วก็ต้องทรุดตัวลงนอนอีกรอบ“อย่าเพิ่งรีบลุก...น้องหลับไปตั้งสองวันสองคืน” ผมบอก“เกิดอะไรขึ้น ทำไม แพม...คุณ..ทำไมเป็นแบบนี้”แพมถาม เธอทำตาโต ดูเหมือนเธอจะจำไม่ได้ที่ผมบุกเข้ามาปลุกปล้ำในห้องของเธอ“เรื่องมันยาวน่ะครับ”ผมพูด แพมพยายามยันตัวเองลุกขึ้น เธอสำรวจร่างกายของตนเองซึ่งก็คือร่างของผมนั่นแหละ ก่อนจะหันไปมองรอบๆ เธอรู้ตัวแล้วว่าอยู่ในห้องของเธอเอง ก่อนจะมาจ้องมองหน้าผม แล้วมองชุดที่ผมใส