แพมในร่างของผมไลน์มาบอกว่า เธอกลับถึงห้องแล้วแต่เจชวนออกไปข้างนอกต่อ เธอจึงต้องออกไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ผมนึกขำในใจ ไม่รู้ว่าไอ้เจจะพาไปกินเหล้าที่ไหน เพื่อนผมมันแสบได้เรื่องดีจริง ๆ
พอถึงห้อง โบว์ก็ถามผมอย่างอ้อมแอ้มด้วยความอายว่า อาจารย์ว่าอย่างไรบ้าง ผมยิ้มแล้วเปิดเสียงบทสนทนาทั้งหมดให้ฟัง ดูโบว์ตกใจอย่างมากที่ผมกล้าทำและพูดกับอาจารย์แบบนั้น เธอเล่าให้ฟังว่าอาจารย์คนนี้มีชื่อเสียงด้านมืดมานานแล้ว ไม่คิดว่าจะได้เจอกับตัวเอง ผมบอกเธอว่ามันต้องมีใครสักคนกล้าทำแบบนี้ ไม่งั้นอาจารย์ก็จะเหิมเกริมทำกับนักศึกษาสาว ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ
“ขอบคุณแพมมากนะ” โบว์บอก สาวน้อยน้ำตาซึมลงอาบแก้ม
ผมใช้มือปาดน้ำตาออก โบว์ซบลงที่ไหล่ของผม ผมกอดเธอไว้ เรือนร่างของโบว์นุ่มดีเหลือเกิน ผมปล่อยให้เธอระบายความอัดอั้นจนพอใจ
เส้นผมและกลิ่นกายของโบว์หอมกรุ่น ทำเอาใจเต้นแรงขึ้นมา ผมสูดดมความหอมหวานที่ไรผมข้างแก้ม จูบเบาๆ แล้วไล้ปากมาที่พวงแก้มเนียน หอมเบาๆ มาถึงติ่งหูจนโบว์เอียงคอหนี ผมสัมผัสได้ว่าเธอขนลุกไปทั้งแขน แต่ไม่ได้ผละหนีใด ๆ ผมจูบไซ้ที่แก้มเนียนนั้นแล้วไล้ไปถึงหลังใบหู สาวน้อยตัวเกร็ง
“นี่...แพม”
เธอเรียกชื่อผมเบาๆ ผมมองหน้าเธอ ตอนนี้ไม่ใช่แค่ตาที่แดง แต่สองแก้มของโบว์ก็แดงระเรื่อด้วย
ผมมองหน้าเธอแล้วจูบปากเบาๆ เหมือนโบว์จะอึ้งไป เธอขยับหน้าหนีเล็กน้อย
“แพมอะ...”
โบว์พูดด้วยเสียงเหมือนตัดพ้อซึ่งยากจะคาดเดาว่าเธอคิดอะไร ผมไม่สนใจใด ๆ จับคางของเธอแล้วจูบอีกรอบ โบว์ตัวเกร็งอย่างเห็นได้ชัด ผมขบริมฝีปากล่างแล้วสอดลิ้นเข้าไปเบา ๆ ไม่นานนักโบว์ก็คลายอาการสั่นเกร็งลง
มือของผมลูบไล้สองแก้มของเธอ ตอนนี้นักศึกษาสาวสองคนกำลังจูบกันอยู่บนเตียง พระอาทิตย์คล้อยต่ำลงเกือบลับขอบฟ้า แสงไฟในห้องมืดสลัว
ผมถอนปากออกมา แล้วไล้ปากมาไซ้ซอกคอหอมละมุน โบว์ขนลุกไปกับการกระทำของผม มือของผมขยับมาที่หน้าอกอวบนอกเสื้อนักศึกษา แล้วบีบเบา ๆ จนโบว์ตัวงอห่อไหล่
“แพม...แพมชอบแบบนี้เหรอ” เธอกระซิบถาม
ผมไม่ได้ตอบอะไร แต่ค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อของเธอออกจนหมด ผมล้วงเข้าไปในเสื้อแล้วลูบไล้แผ่นหลังเนียนลื่น ผิวของเธอละเอียดและนุ่มมือดีเหลือเกิน ในชีวิตนี้ผมไม่เคยได้สัมผัสสาวสวยแรกรุ่นที่น่ารักอย่างนี้มาก่อน โบว์ปล่อยให้ผมรุกล้ำตามใจปรารถนา
ตะขอบราของเธอถูกปลดออกไปแล้ว ผมถอดบราออกแล้วดันให้เธอนอนลงบนเตียง ผมไซ้เนินหน้าอก แล้วลงมาที่นมคู่สวย มันใหญ่พอดีมือ ปลายถันสีน้ำตาลอ่อนชูชันรับปากและลิ้น ผมดูดดุนสลับขบเลียจนโบว์ครางอือในลำคอ เธอหายใจแรงยิ่งขึ้น ผมบีบเคล้นนมสลับไปมา พรมจูบไปทั่วสลับกับขบดูดจนโบว์แอ่นอกขึ้นรับด้วยความรัญจวน
ความรู้สึกของผมตอนนี้มันสับสนปนเปยังไงชอบกล ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้สัมผัสเนื้อสาวตึงแน่นแบบนั้น แต่อารมณ์ทางเพศกลับไม่ค่อยมีมากเท่าใดนัก ยังไม่เท่ากับที่ผมช่วยตัวเองในร่างของแพมด้วยซ้ำไป แต่ผมก็รู้สึกดีที่ได้เห็นโบว์สยิวซ่านไปกับการเล้าโลมของผม
มือของผมล้วงลงไปที่ต้นขาขาวเนียนนุ่ม กระโปรงพลีทบานสั้นของโบว์ตอนนี้รั้งขึ้นมาถึงโคนขา ผมขยับมือประกบบนเนินนูนอวบอูม ทำเอาโบว์สะดุ้งเล็กๆ แต่ก็ไม่ได้ห้ามใดๆ ผมบดนิ้วลงบนเนินสาวนั้นเบาๆ เธอครางอือในลำคอ เรือนร่างระทดระทวยปวกเปียก สองแก้มแดงระเรื่อ ผมล้วงมือเข้าไปใต้กางเกงใน สัมผัสกับเส้นขน
“อืออ...แพมอะ พอแค่นี้ดีกว่านะ”
โบว์พูดในลำคอ แต่พอผมกรีดนิ้วลงบนกลีบแคม ร่างอ้อนแอ้นก็กระตุกวาบ เธอกัดปาก หายใจยาว
“ฮือออ....แพมมม”
ผมบดนิ้วเล่นกับร่องเสียวของโบว์ไม่นานเธอก็ฉ่ำแฉะเสียแล้ว โบว์บิดเอวไปมาด้วยความเสียวจากนิ้วของผมที่เขี่ยเน้นไปที่เม็ดสวาทและกลีบเนื้อ หลังจากผมได้ช่วยตัวเองในร่างแพมตอนนั้น ผมรู้ว่าทำอย่างไรเธอถึงจะได้รับความเสียวแบบสุดๆ ผมแหย่นิ้วเข้าไปเล็กน้อยแล้วงอครูดด้านใน สลับกับบดบี้ที่เม็ดสวาท
“อือออ...แพมม...โบว์...โบว์” เธอละล่ำละลักด้วยความเสียวซ่าน
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ผมเลื่อนตัวลงมาที่เนินสาว แหวกกางเกงในของเธอออกด้านข้าง เผยให้เห็นร่องสาวที่เปียกเยิ้ม กลีบเนื้อสีแดงเผยออ้าออกเล็กน้อยหลังจากถูกนิ้วของผมเบิกร่อง โบว์จะใช้มือมาปิดด้วยความเขินอาย แต่ช้ากว่าผมที่ใช้ปากลิ้มชิมรสชาติอันหอมหวานของร่องสาวนักศึกษา
“ออออา...อึ๊ยยย”
โบว์แอ่นเอวรับปากของผมทันที ลิ้นของผมตวัดเลียเม็ดแตดแล้วดูดกลืนน้ำรักของเธอที่หลั่งไหลออกมาตามอารมณ์สาว ร่างงอนงามเกร็งแน่น ยิ่งผมตวัดเลีย เธอยิ่งเสียวจนร้องครางดังขึ้น ผมบรรจงป้อนความเสียวด้วยปากและลิ้นให้โบว์อย่างเต็มที่
“แพมม...โบว์ไม่ไหว พอ...พอแล้วนะ”
ปากของโบว์บอกให้ผมหยุด แต่กลับแอ่นเนินสาวรับปากลิ้นของผมอย่างรัญจวน เธอจิกผ้าปูที่นอนแน่น เสื้อกับกระโปรงนักศึกษายังคาอยู่บนตัว เช่นเดียวกับผมในร่างน้องแพมที่ยังอยู่ในชุดนักศึกษา ผมเกร็งลิ้นแหย่แยงเข้าไปในร่องหลืบ ใช้นิ้วช่วยเขี่ยเกี่ยวอีกทางหนึ่ง โบว์หน้าเหยเก ขมวดคิ้วจนแทบจะพันกัน
“อือออ...อ๊อออา..อ๊อออา”
โบว์แทบจะดิ้นพราดอยู่บนเตียง เรียวขาอ้าออก แต่เดี๋ยวก็หุบเข้า เธอยกเนินสาวขึ้น เอวร่อนไปมาเบาๆ บ่งบอกความกระสันซ่านที่กำลังพุ่งทะยานถึงขีดสุด
ครู่เดียว ร่างงอนงามของสาวนักศึกษาก็กระตุกพรืด ร่องหลืบตอดรัดนิ้วตุบ ๆ โบว์เสร็จสมคาปากของผมเรียบร้อย นี่คือครั้งแรกที่ผมในร่างผู้หญิงได้เลียร่องสาวจนเสร็จสมแบบนี้ มันเป็นความรู้สึกที่แปลกพิลึก แต่ก็เพลินดีที่ได้เห็นสาวน้อยนักศึกษาเสียวแบบสุด ๆ เช่นนี้
โบว์ครางกระเส่า เกร็งเร่ากระตุกอีกหลายครั้ง เมื่อผมยังจู่โจมต่อไป
“อือออ...”
เธอดันหัวของผมออกเบา ๆ ให้หยุดการกระทำ ผมถอนปากออกมา จ้องมองสาวน้อย ผมเผ้าของเธอยุ่งเหยิง หน้าแดงก่ำ โบว์รีบดึงชายกระโปรงลง ผมเดาว่าเธอคงอับอายไม่น้อยที่อยู่ดี ๆ ก็มาถูกเพื่อนสาวด้วยกันโลมเลียจนเสร็จสมอย่างรวดเร็ว
“แพม...โบว์ไม่ใช่เลสเบี้ยนนะ” โบว์พูดเสียงแผ่ว
“เราก็ไม่ได้เป็น” ผมพูดแล้วยิ้ม โบว์ทำหน้าแบบไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น “แค่อยากลองดูเฉยๆ น่ะ ... โบว์ไม่โกรธแพมนะ”
สาวน้อยมองหน้าผมแล้วส่ายหน้า เธอยังหายใจแรง สองแก้มแดงระเรื่อ
“แพมอย่าบอกแฟนเรานะ” โบว์พูด
ผมพยักหน้าตอบรับแล้วยิ้มให้เธอ ผมไม่รู้จักแฟนเธอหรอกครับ แล้วจะให้ไปบอกได้ยังไงกัน
หลังจากเพลิงสวาทดับมอดลง โบว์ขอตัวกลับบ้าน ผมอาบน้ำ ก่อนจะมานอนเล่นพลางคิดเรื่อยเปื่อยด้วยความสงสัยว่าทำไมผมถึงไม่ค่อยมีอารมณ์เพศเท่าใดนักถึงแม้จะได้กอดจูบสาวโบว์ที่หน้าตาก็พอดูได้ หุ่นก็โอเคเลยทีเดียว หากเป็นในร่างเดิม ผมคงหื่นอยากจนสมองแทบระเบิดไปแล้ว
ฉับพลันทันใด ผมก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเพราะคิดสะระตะไปว่า หรือผมกำลังถูกอารมณ์สาวกลืนสติสัมปชัญญะไปด้วย ผมต้องมีอารมณ์กับผู้ชายเท่านั้นหรือ คิดไปคิดมาแล้วกังวลอยู่เหมือนกัน
ขณะกำลังจะเข้านอน ราวห้าทุ่ม แพมในร่างผมก็กลับมา เธอมาเคาะประตูห้อง
พอผมเปิดประตูก็ได้กลิ่นเหล้าหึ่งมาเลย
“โห...กินเหล้ามาเหรอ” ผมถาม“อืออ...เจเค้าชวนไปน่ะ” เธอพูดแล้วเดินเข้ามาในห้อง “แต่แปลกอะ...แพมกินตั้งเยอะยังไม่ค่อยเมาเลย”แหงล่ะ ก็เธออยู่ในร่างผมนี่นา ผมเป็นคนกินเหล้าเยอะอยู่แล้ว ผมปิดประตูแล้วถาม“แล้วไอ้เจล่ะ”“ยังนั่งกินเหล้ากันอยู่ที่ร้านเลย” เธอบอกแล้วเดินมานั่งบนเตียง“ไปแถวไหนกันมาเนี่ย..” ผมถามแบบขำๆ ก่อนจะมานั่งบนเตียงข้างๆ เธอ“เจเค้าพาไปเลานจ์น่ะ กับพวกพี่แดง พี่พจน์” แพมในร่างของผมพูด “พวกนั้นลามกมาก..”ผมหัวเราะออกมา ว่าแล้วว่าไอ้เจต้องทำอะไรแผลง ๆ“เหรอ แล้วสนุกมั้ยล่ะ” ผมถาม แพมหันมามองหน้าผม“ก็...ก็...สนุกดี...แพมไม่เคยไป... แต่มัน”เธอพูดแล้วชะงักไว้แค่นั้น“แต่มันอะไรเหรอ” ผมถาม“มันแปลก ๆ”แพมพูดแล้วนิ่งเงียบ ผมเอียงคอมองใบหน้าของผมเอง หน้าคล้ำๆ ตอนนี้ก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ผมถามว่าแปลกยังไง เธอนิ่งไปครู่นึงแล้วเอ่ยเบา ๆ“มัน...มันแข็งอะ” เธอบอก ผมตาโตแล้วถามทันที“อะไรแข็ง” แพมอ้ำอึ้งเหมือนไม่อยากพูด ผมถามอีก “เกิดอะไรขึ้นเหรอแพม”เธอก้มลงมองเป้ากางเกงตัวเองแล้วพูดแบบเขิน ๆ“พอมีผู้หญิงมานั่งตัก หรือมากอด...มันก็แข็งเลย” เธอสารภาพ ไม่รู้ว่าผมจะหัวเราะหรือสงสารเ
เวลาผ่านไปอีกวัน เราสองคนพยายามทำความคุ้นเคยในการทำหน้าที่สลับกัน แต่ที่ผมลำบากใจก็คือ การต้องเจอกับไอ้พี่พอลด้วย แพมบอกว่าผมต้องไปงานแต่งงานเพื่อนของพี่พอลในคืนวันพรุ่งนี้ แพมอ้อนวอนให้ผมไปเพราะดูแล้วเธอเองก็คงชอบ ๆ พี่พอลอยู่เหมือนกัน จึงไม่อยากให้ผมปฏิเสธเขาแพมเตรียมชุดมาให้ผมใส่ด้วย มันเป็นชุดแส็กเดรสกระโปรงสั้นสีดำ ผมลองใส่อย่างไม่เต็มใจเอาเสียเลย ถึงแม้ร่างกายจะเป็นสาวสวยหุ่นดีเพียงใด ใส่แล้วสวยขนาดไหน แต่ผมก็ยังรู้สึกแบบผู้ชายจึงช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกลำบากใจ แต่แพมก็ขอร้องว่างานนี้พลาดไม่ได้เพราะเป็นงานแต่งเพื่อนสนิทของพี่พอล ต้องดูดีหน่อย ผมก็ต้องยอมเลยตามเลย พอลองสวมดูแล้วก็แปลกใจที่ชุดเดรสมันพอดีตัวเป๊ะ แพมบอกว่าชุดนี้ตัดมาเป็นพิเศษเลย ความรัดรูปกำลังดีทำให้อวดสัดส่วนทรวดทรงของสาวสวยอย่างชัดเจน เอวคอดกิ่วกับสะโพกกลมกลึง หน้าอกไม่ต้องพูดถึงเพราะโชว์เนินวับ ๆ แวม ๆ จนแทบจะก้มไม่ได้เลยทีเดียว ผมหมุนตัวไปมาหน้ากระจกแล้วรู้สึกดีขึ้นมาอย่างประหลาด ใส่ชุดสวย ๆ แล้วทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาได้อย่างไรก็ไม่อาจหาคำตอบได้ หรือนี่จะเป็นอีกหนึ่งอารมณ์แบบผู้หญิง ใส่ชุดสวยแล้วมั่นใจเต็มร้อยแต่
พี่พอลขบติ่งหู ทำเอาขนลุกซู่ขึ้นมาซะเฉย ๆ ชุดแส็กถูกเลิกลงไปทางไหล่ พร้อมกับบราสีดำที่ถูกปลดออกไปอย่างไม่ทันตั้งตัว ตอนนี้ท่อนบนของแพมเปลือยเปล่า มือกร้านขยับมาลูบคลึงนมเต่งทันที ปลุกเร้าความสยิววูบวาบ พยายามปัดป้องสุดฤทธิ์อย่างสิ้นหวัง แทบจะสู้กับการโลมเล้าไม่ได้เลยผมหายใจเหนื่อยอ่อน รู้สึกวูบวาบขึ้นมาเมื่อถูกคลึงเคล้นเต้านมสลับไปมา ตายแน่ ๆ เรา ความรู้สึกแบบนี้มาอีกแล้ว ผมคิดในใจ พยายามสะกดกลั้นความวาบหวามไว้เต็มที่ ปลายนิ้วของพี่พอลบดบี้ที่หัวนมจนชูชัน ผมพยายามหนีด้วยการพลิกตัวนอนคว่ำ พี่พอลก็ยังกอดผมไว้จากด้านหลังได้ มือลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของแพม ส่วนปากพรมจูบที่คอกับท้ายทอยไม่หยุดจนขนลุกแล้วลุกอีกไปทั้งตัว“ปล่อยแพมเถอะ...ขอร้อง” ผมจนใจจนต้องขอร้องกันตรงๆ“ทำไมล่ะครับ แพมบอกว่าให้พี่ทำแบบนี้ได้ไม่ใช่เหรอ” มันพูด “แต่คืนนี้พี่ขอมากกว่านี้นะ”ขออะไรวะ ผมคิดในใจด้วยความตื่นตระหนก มันล้วงมือลงมาจนถึงเนินสาวกลางลำตัว แม้จะหดเอวหนีแต่ก็ไม่อาจพ้นมือของเขาที่บดบี้ไปบนนูนเนินนอกกางเกงใน ตอนนี้ได้แต่หลับตาปี๋ ความรู้สึกวูบหวิวก่อตัวในท้องน้อย พยายามต่อสู้กับอารมณ์ที่ลุกโชนขึ้น มันเป็นอาร
“อ๋อ...ค่ะ” ผมพูดแล้วพยักหน้าหงึกๆ“มาคนเดียวเหรอครับ” จีนถาม ผมพยักหน้าอีก เขาถามต่อ “แล้วเจล่ะ”ผมบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน มันยิ้มเหมือนดีใจ ผมอยากจะเดินหนีไปให้ไกล อุตส่าห์มาเดินเล่นในคอมมิวนิตี้มอลล์เล็ก ๆ ยังเจอคนรู้จักอีก จีนเงียบไปแปปนึงแล้วพูด"กินข้าวยังครับ กินข้าวกันมั้ย อาหารญี่ปุ่นข้างบนอร่อยนะ เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง”สิ้นเสียงเดี๋ยวเลี้ยงเอง ผมสนใจขึ้นมาทันที เป็นผู้หญิงสวยก็ดีอย่างนี้ อยู่ดี ๆ ก็มีคนเลี้ยงข้าว อย่าหาว่าผมงกเลยนะครับ แต่เงินเดือนของผมก็ไม่ได้มากมายอะไร ถึงแม้ผมจะให้น้องแพมในร่างผมทำงานแทน แต่ผมก็กะว่าจะยังรับเงินเดือนเหมือนเดิม ส่วนน้องแพมในร่างของผมก็รับเงินจากทางบ้านที่ส่งมาให้ทุกอาทิตย์ เราแค่สลับกันทำหน้าที่เฉพาะหน้าเฉย ๆ ผมว่าเงินจากทางบ้านน้องแพมยังมากกว่าเงินเดือนผมอีกมั้งระหว่างกินอาหาร จีนก็ชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย ส่วนผมก็ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเอร็ดอร่อยแต่ก็สำรวมกิริยามารยาทอยู่บ้างตามที่น้องแพมบอก จีนเล่าให้ฟังว่า เขาเคยทำงานบริษัทเดียวกับเจ แต่ตอนนี้อยู่คนละบริษัท แล้วก็เล่าถึงเรื่องเจให้ผมฟังซึ่งผมก็รู้อยู่แล้ว ไอ้เจมันเป็นเพื่อนผมมาตั้งนาน ผมพยักหน้า
เราสามคนกินไปดื่มเบียร์ไปสนุกสนานเฮฮา แต่ผมแทบไม่ได้แตะแอลกอฮอล์เลยเพราะกลัวจะเมาหัวทิ่ม ปล่อยให้ไอ้เจและแพมในร่างผมกระดกกันไป ผมได้แต่กลืนน้ำลายตามด้วยความอยากกิน เราคุยกันถึงเรื่องสลับร่างกลับคืน แต่ก็หมดหนทางเพราะมันดูเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติและเกินกว่าความสามารถของเรา“ถ้าแพมกับไอ้เป้งเป็นแบบนี้ตลอดไปล่ะ...จะทำยังไง” ไอ้เจถาม“ผมนี่สิลำบาก เป็นผู้หญิงไม่ใช่ง่ายๆ นะ ไม่เหมือนแพม...ใช้งานร่างผมซะคุ้มเลย” ผมพูดแล้วหันไปมองเธอ แพมสวนกลับบอกคุ้มตรงไหน งานของเป้งน่าเบื่อจะตาย ไม่เห็นสนุกเลยผมยิ้มแล้วแซวเธอ “แต่ก็ได้สนุกกับสาว ๆ ไม่ใช่เหรอ เหมือนเมื่อคืนน่ะ”เธอยิ้มแบบเขิน ๆ แล้วบอกเพราะเจบังคับให้ไปต่างหากเราสามคนเช็คบิลหลังอิ่มหนำสำราญ ผมรับหน้าที่สารถีขับรถไอ้เจกลับอพาร์ทเมนท์เหมือนเดิม ดูเหมือนแพมในร่างผมจะเมากรึ่ม ๆ อยู่เหมือนกัน พอถึงอพาร์ทเมนท์ก็แยกย้ายเข้าห้อง แพมขอตัวอาบน้ำก่อน พอเสร็จแล้วผมก็อาบบ้าง พอออกมาแพมก็นอนนิ่งอยู่บนเตียง เธอใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นแบบผู้ชายแท้ ๆ แสงไฟในห้องมืดสลัว ผมล้มตัวลงนอนข้าง ๆ ยังไม่ทันได้หลับก็ได้ยินเสียงถอนหายใจของแพม ผมผงกหัวขึ้นมอง“นึกว่าห
แพมดันตัวผมให้นอนลง เธอนอนตะแคงอยู่ข้าง ๆ มือสากลูบเบา ๆ ที่หน้าอก ปลายถันยังแข็งชูชันจากการถูกเธอปลุกเร้าเมื่อครู่ แพมบีบเคล้นหนักขึ้นจนผมต้องห่อไหล่ด้วยความสยิว ผมไม่คิดว่าเธอจะกล้ารุกเร้าแบบนี้ และไม่แน่ใจว่าเธอรู้วิธีทำแบบนี้มาจากไหน เดาเอาว่าเธอเคยถูกพี่พอลเล้าโลมเช่นนี้เหมือนกันความรู้สึกในตัวผมปั่นป่วน เมื่อแพมก้มลงเลียเบา ๆ ที่ฐานนม ผมงอตัวด้วยความสยิวจากลิ้นสาก ๆ ของตัวผมเอง เธอลากลิ้นตวัดเลียมาถึงหัวนมจนผมกระตุกเบา ๆ หลับตาปี๋เพราะไม่อยากมองใบหน้าของผมเองที่ตอนนี้กำลังโลมเลียหัวนมสลับไปมาทั้งสองข้าง ความสยิวซ่านปั่นป่วนไปทั้งหน้าอก แพมทั้งบีบเคล้นและเลียสลับไปมา ผมเผลอจิกมือบนผ้าปูที่นอน ใจเต้นแรงระรัว ทำไมมันสยิวได้ขนาดนี้“อือออ...แพมม”ผมเผลอครางออกมาเมื่อแพมใช้ปากขบดูดเนื้อหน้าอกและปลายถัน กระตุ้นทั้งความเสียวและความรู้สึกแปลบปลาบ ความรู้สึกมันแตกต่างออกไปจากการถูกพี่พอลกระทำอย่างบอกไม่ถูก ตอนนี้มันสบายใจมากกว่า ด้วยความคุ้นเคยกับร่างกายของตนเอง ทำให้ผมไม่ต้องพะว้าพะวงและรู้สึกแสยงใจมากนักปากและลิ้นสาก ๆ ของเป้งที่อยู่ในการควบคุมของแพมพรมจูบไปทั้งหน้าอก เธอลูบมือลงไปถึ
ไม่นานนัก รถสปอร์ตคันงามก็พามาถึงบ้านหลังใหญ่โตโอ่อ่า หรือจะเรียกว่าคฤหาสน์ก็ยังได้ ผมว่าคอนโดของมันว่าหรูแล้ว แต่บ้านหลังนี้บ่งบอกฐานะของไอ้พี่พอลได้มากกว่า มีพื้นที่กว้างขวาง สนามหญ้าและต้นไม้ตัดแต่งอย่างดี พี่พอลพาเดินเข้าไปในบ้าน ผมตะลึงกับการตกแต่งภายในที่หรูหราไม่แพ้ภายนอก“คุณแม่...แพมมาแล้วครับ”พี่พอลบอกแม่ของเขาที่นั่งอยู่ที่โซฟา แม่ของพอลเป็นสไตล์ผู้หญิงไฮโซ ทรงผมตั้งกระบัง ผมยกมือไหว้สวัสดีอย่างนอบน้อม คุณแม่ยกมือไหว้รับแล้วพูด“ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยหนูแพม” ท่าทางเธอจะเอ็นดูแพมมากทีเดียว “สวยขึ้นหรือเปล่า เห็นผิวพรรณของสาวสมัยนี้แล้วแม่ล่ะอิจฉาจริง ๆ”ผมยิ้มแล้วยกมือไหว้ขอบคุณคำชมอีกรอบ แม่ของพี่พอลชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย ผมก็ชวยแกคุยบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องเป็นราวอะไรมากนัก“สวัสดีค่ะพี่แพม”ผมหันไปตามเสียงนั้น เด็กสาวหน้าใสปิ๊ง ยกมือไหว้ผม ผมรับไหว้ ใครอีกล่ะเนี่ย แต่หน้าตาน่ารักดีจริงๆ พี่พอลพูดเสียงดุ“ยัยแพรว ดูแต่งตัวเข้าสิ ไปแต่งตัวดี ๆ” ผมเดาเอาว่าแพรวนี่ต้องเป็นน้องสาวพี่พอลแน่“ไม่เห็นจะเป็นไรเลย...ใช่มั้ยพี่แพมขา”เธอกระโดดมานั่งข้างๆ ผมบนโซฟา แพรวใส่เสื้อกล้าม
“ฝนจะตกอะไรทุกเย็นวะเนี่ย”ผมสบถโทษฟ้าฝน ก่อนวิ่งเข้าอพาร์ทเมนท์ของตนเอง ตัวเปียกมะล่อกมะแล่กหัวจรดเท้า ขณะกำลังไล่น้ำออกจากรองเท้าอยู่นั้น ก็เห็นสาวสวยนักศึกษาลงมาจากรถยนต์คันหรู...เธอชายตามองผมด้วยหางตา ผมลอบมองหุ่นระทวยตามไปจนเธอเดินขึ้นลิฟต์ไปใคร ๆ ก็เรียกผมว่า “ไอ้เป้ง” เพราะผมเป็นพนักงานออฟฟิศจน ๆ คนหนึ่งในฝ่ายเดินเอกสาร หรือเรียกง่าย ๆ ว่าแมสเซนเจอร์แต่ประจำอยู่ในออฟฟิศนั่นล่ะครับ ทำหน้าที่เดินแจกจดหมาย เอกสาร และยังทำงานอื่น ๆ จิปาถะในออฟฟิศ ตั้งแต่ซ่อมเครื่องปรินเตอร์ไปจนถึงช่วยเปลี่ยนหลอดไฟด้วยความที่ตอนเรียนหนังสือผมไม่ได้ตั้งใจสักเท่าไหร่ สอบเข้ามหาลัยดัง ๆ ก็ไม่ได้ จบออกมา 3-4 ปีแล้วก็เลยหางานทำยากหน่อย จนต้องเป็นพนักงานออฟฟิศต๊อกต๋อยไปวัน ๆผมไม่ใช่แค่เป็นพนักงานจน ๆ เท่านั้นนะครับ แต่ยอมรับว่าหน้าตาของผมก็ไม่ได้เรื่องได้ราวเสียด้วย ด้วยความเป็นเด็กต่างจังหวัด รูปร่างหน้าตาสามัญประจำบ้าน ไม่ค่อยมีผู้หญิงเหลียวมอง มีแต่ผมที่ชอบมองสาว ๆ สวย ๆ ขาว ๆ หมวย ๆ และยิ่งเป็นสาวนักศึกษาด้วยแล้ว ผมยิ่งเหลียวมองจนบางครั้งถูกมองกลับด้วยหางตาแบบเหยียดหยามกันเลยทีเดียวอพาร์ทเมนท์ที่ผ
ไม่นานนัก รถสปอร์ตคันงามก็พามาถึงบ้านหลังใหญ่โตโอ่อ่า หรือจะเรียกว่าคฤหาสน์ก็ยังได้ ผมว่าคอนโดของมันว่าหรูแล้ว แต่บ้านหลังนี้บ่งบอกฐานะของไอ้พี่พอลได้มากกว่า มีพื้นที่กว้างขวาง สนามหญ้าและต้นไม้ตัดแต่งอย่างดี พี่พอลพาเดินเข้าไปในบ้าน ผมตะลึงกับการตกแต่งภายในที่หรูหราไม่แพ้ภายนอก“คุณแม่...แพมมาแล้วครับ”พี่พอลบอกแม่ของเขาที่นั่งอยู่ที่โซฟา แม่ของพอลเป็นสไตล์ผู้หญิงไฮโซ ทรงผมตั้งกระบัง ผมยกมือไหว้สวัสดีอย่างนอบน้อม คุณแม่ยกมือไหว้รับแล้วพูด“ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยหนูแพม” ท่าทางเธอจะเอ็นดูแพมมากทีเดียว “สวยขึ้นหรือเปล่า เห็นผิวพรรณของสาวสมัยนี้แล้วแม่ล่ะอิจฉาจริง ๆ”ผมยิ้มแล้วยกมือไหว้ขอบคุณคำชมอีกรอบ แม่ของพี่พอลชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย ผมก็ชวยแกคุยบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องเป็นราวอะไรมากนัก“สวัสดีค่ะพี่แพม”ผมหันไปตามเสียงนั้น เด็กสาวหน้าใสปิ๊ง ยกมือไหว้ผม ผมรับไหว้ ใครอีกล่ะเนี่ย แต่หน้าตาน่ารักดีจริงๆ พี่พอลพูดเสียงดุ“ยัยแพรว ดูแต่งตัวเข้าสิ ไปแต่งตัวดี ๆ” ผมเดาเอาว่าแพรวนี่ต้องเป็นน้องสาวพี่พอลแน่“ไม่เห็นจะเป็นไรเลย...ใช่มั้ยพี่แพมขา”เธอกระโดดมานั่งข้างๆ ผมบนโซฟา แพรวใส่เสื้อกล้าม
แพมดันตัวผมให้นอนลง เธอนอนตะแคงอยู่ข้าง ๆ มือสากลูบเบา ๆ ที่หน้าอก ปลายถันยังแข็งชูชันจากการถูกเธอปลุกเร้าเมื่อครู่ แพมบีบเคล้นหนักขึ้นจนผมต้องห่อไหล่ด้วยความสยิว ผมไม่คิดว่าเธอจะกล้ารุกเร้าแบบนี้ และไม่แน่ใจว่าเธอรู้วิธีทำแบบนี้มาจากไหน เดาเอาว่าเธอเคยถูกพี่พอลเล้าโลมเช่นนี้เหมือนกันความรู้สึกในตัวผมปั่นป่วน เมื่อแพมก้มลงเลียเบา ๆ ที่ฐานนม ผมงอตัวด้วยความสยิวจากลิ้นสาก ๆ ของตัวผมเอง เธอลากลิ้นตวัดเลียมาถึงหัวนมจนผมกระตุกเบา ๆ หลับตาปี๋เพราะไม่อยากมองใบหน้าของผมเองที่ตอนนี้กำลังโลมเลียหัวนมสลับไปมาทั้งสองข้าง ความสยิวซ่านปั่นป่วนไปทั้งหน้าอก แพมทั้งบีบเคล้นและเลียสลับไปมา ผมเผลอจิกมือบนผ้าปูที่นอน ใจเต้นแรงระรัว ทำไมมันสยิวได้ขนาดนี้“อือออ...แพมม”ผมเผลอครางออกมาเมื่อแพมใช้ปากขบดูดเนื้อหน้าอกและปลายถัน กระตุ้นทั้งความเสียวและความรู้สึกแปลบปลาบ ความรู้สึกมันแตกต่างออกไปจากการถูกพี่พอลกระทำอย่างบอกไม่ถูก ตอนนี้มันสบายใจมากกว่า ด้วยความคุ้นเคยกับร่างกายของตนเอง ทำให้ผมไม่ต้องพะว้าพะวงและรู้สึกแสยงใจมากนักปากและลิ้นสาก ๆ ของเป้งที่อยู่ในการควบคุมของแพมพรมจูบไปทั้งหน้าอก เธอลูบมือลงไปถึ
เราสามคนกินไปดื่มเบียร์ไปสนุกสนานเฮฮา แต่ผมแทบไม่ได้แตะแอลกอฮอล์เลยเพราะกลัวจะเมาหัวทิ่ม ปล่อยให้ไอ้เจและแพมในร่างผมกระดกกันไป ผมได้แต่กลืนน้ำลายตามด้วยความอยากกิน เราคุยกันถึงเรื่องสลับร่างกลับคืน แต่ก็หมดหนทางเพราะมันดูเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติและเกินกว่าความสามารถของเรา“ถ้าแพมกับไอ้เป้งเป็นแบบนี้ตลอดไปล่ะ...จะทำยังไง” ไอ้เจถาม“ผมนี่สิลำบาก เป็นผู้หญิงไม่ใช่ง่ายๆ นะ ไม่เหมือนแพม...ใช้งานร่างผมซะคุ้มเลย” ผมพูดแล้วหันไปมองเธอ แพมสวนกลับบอกคุ้มตรงไหน งานของเป้งน่าเบื่อจะตาย ไม่เห็นสนุกเลยผมยิ้มแล้วแซวเธอ “แต่ก็ได้สนุกกับสาว ๆ ไม่ใช่เหรอ เหมือนเมื่อคืนน่ะ”เธอยิ้มแบบเขิน ๆ แล้วบอกเพราะเจบังคับให้ไปต่างหากเราสามคนเช็คบิลหลังอิ่มหนำสำราญ ผมรับหน้าที่สารถีขับรถไอ้เจกลับอพาร์ทเมนท์เหมือนเดิม ดูเหมือนแพมในร่างผมจะเมากรึ่ม ๆ อยู่เหมือนกัน พอถึงอพาร์ทเมนท์ก็แยกย้ายเข้าห้อง แพมขอตัวอาบน้ำก่อน พอเสร็จแล้วผมก็อาบบ้าง พอออกมาแพมก็นอนนิ่งอยู่บนเตียง เธอใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นแบบผู้ชายแท้ ๆ แสงไฟในห้องมืดสลัว ผมล้มตัวลงนอนข้าง ๆ ยังไม่ทันได้หลับก็ได้ยินเสียงถอนหายใจของแพม ผมผงกหัวขึ้นมอง“นึกว่าห
“อ๋อ...ค่ะ” ผมพูดแล้วพยักหน้าหงึกๆ“มาคนเดียวเหรอครับ” จีนถาม ผมพยักหน้าอีก เขาถามต่อ “แล้วเจล่ะ”ผมบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน มันยิ้มเหมือนดีใจ ผมอยากจะเดินหนีไปให้ไกล อุตส่าห์มาเดินเล่นในคอมมิวนิตี้มอลล์เล็ก ๆ ยังเจอคนรู้จักอีก จีนเงียบไปแปปนึงแล้วพูด"กินข้าวยังครับ กินข้าวกันมั้ย อาหารญี่ปุ่นข้างบนอร่อยนะ เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง”สิ้นเสียงเดี๋ยวเลี้ยงเอง ผมสนใจขึ้นมาทันที เป็นผู้หญิงสวยก็ดีอย่างนี้ อยู่ดี ๆ ก็มีคนเลี้ยงข้าว อย่าหาว่าผมงกเลยนะครับ แต่เงินเดือนของผมก็ไม่ได้มากมายอะไร ถึงแม้ผมจะให้น้องแพมในร่างผมทำงานแทน แต่ผมก็กะว่าจะยังรับเงินเดือนเหมือนเดิม ส่วนน้องแพมในร่างของผมก็รับเงินจากทางบ้านที่ส่งมาให้ทุกอาทิตย์ เราแค่สลับกันทำหน้าที่เฉพาะหน้าเฉย ๆ ผมว่าเงินจากทางบ้านน้องแพมยังมากกว่าเงินเดือนผมอีกมั้งระหว่างกินอาหาร จีนก็ชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย ส่วนผมก็ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเอร็ดอร่อยแต่ก็สำรวมกิริยามารยาทอยู่บ้างตามที่น้องแพมบอก จีนเล่าให้ฟังว่า เขาเคยทำงานบริษัทเดียวกับเจ แต่ตอนนี้อยู่คนละบริษัท แล้วก็เล่าถึงเรื่องเจให้ผมฟังซึ่งผมก็รู้อยู่แล้ว ไอ้เจมันเป็นเพื่อนผมมาตั้งนาน ผมพยักหน้า
พี่พอลขบติ่งหู ทำเอาขนลุกซู่ขึ้นมาซะเฉย ๆ ชุดแส็กถูกเลิกลงไปทางไหล่ พร้อมกับบราสีดำที่ถูกปลดออกไปอย่างไม่ทันตั้งตัว ตอนนี้ท่อนบนของแพมเปลือยเปล่า มือกร้านขยับมาลูบคลึงนมเต่งทันที ปลุกเร้าความสยิววูบวาบ พยายามปัดป้องสุดฤทธิ์อย่างสิ้นหวัง แทบจะสู้กับการโลมเล้าไม่ได้เลยผมหายใจเหนื่อยอ่อน รู้สึกวูบวาบขึ้นมาเมื่อถูกคลึงเคล้นเต้านมสลับไปมา ตายแน่ ๆ เรา ความรู้สึกแบบนี้มาอีกแล้ว ผมคิดในใจ พยายามสะกดกลั้นความวาบหวามไว้เต็มที่ ปลายนิ้วของพี่พอลบดบี้ที่หัวนมจนชูชัน ผมพยายามหนีด้วยการพลิกตัวนอนคว่ำ พี่พอลก็ยังกอดผมไว้จากด้านหลังได้ มือลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของแพม ส่วนปากพรมจูบที่คอกับท้ายทอยไม่หยุดจนขนลุกแล้วลุกอีกไปทั้งตัว“ปล่อยแพมเถอะ...ขอร้อง” ผมจนใจจนต้องขอร้องกันตรงๆ“ทำไมล่ะครับ แพมบอกว่าให้พี่ทำแบบนี้ได้ไม่ใช่เหรอ” มันพูด “แต่คืนนี้พี่ขอมากกว่านี้นะ”ขออะไรวะ ผมคิดในใจด้วยความตื่นตระหนก มันล้วงมือลงมาจนถึงเนินสาวกลางลำตัว แม้จะหดเอวหนีแต่ก็ไม่อาจพ้นมือของเขาที่บดบี้ไปบนนูนเนินนอกกางเกงใน ตอนนี้ได้แต่หลับตาปี๋ ความรู้สึกวูบหวิวก่อตัวในท้องน้อย พยายามต่อสู้กับอารมณ์ที่ลุกโชนขึ้น มันเป็นอาร
เวลาผ่านไปอีกวัน เราสองคนพยายามทำความคุ้นเคยในการทำหน้าที่สลับกัน แต่ที่ผมลำบากใจก็คือ การต้องเจอกับไอ้พี่พอลด้วย แพมบอกว่าผมต้องไปงานแต่งงานเพื่อนของพี่พอลในคืนวันพรุ่งนี้ แพมอ้อนวอนให้ผมไปเพราะดูแล้วเธอเองก็คงชอบ ๆ พี่พอลอยู่เหมือนกัน จึงไม่อยากให้ผมปฏิเสธเขาแพมเตรียมชุดมาให้ผมใส่ด้วย มันเป็นชุดแส็กเดรสกระโปรงสั้นสีดำ ผมลองใส่อย่างไม่เต็มใจเอาเสียเลย ถึงแม้ร่างกายจะเป็นสาวสวยหุ่นดีเพียงใด ใส่แล้วสวยขนาดไหน แต่ผมก็ยังรู้สึกแบบผู้ชายจึงช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกลำบากใจ แต่แพมก็ขอร้องว่างานนี้พลาดไม่ได้เพราะเป็นงานแต่งเพื่อนสนิทของพี่พอล ต้องดูดีหน่อย ผมก็ต้องยอมเลยตามเลย พอลองสวมดูแล้วก็แปลกใจที่ชุดเดรสมันพอดีตัวเป๊ะ แพมบอกว่าชุดนี้ตัดมาเป็นพิเศษเลย ความรัดรูปกำลังดีทำให้อวดสัดส่วนทรวดทรงของสาวสวยอย่างชัดเจน เอวคอดกิ่วกับสะโพกกลมกลึง หน้าอกไม่ต้องพูดถึงเพราะโชว์เนินวับ ๆ แวม ๆ จนแทบจะก้มไม่ได้เลยทีเดียว ผมหมุนตัวไปมาหน้ากระจกแล้วรู้สึกดีขึ้นมาอย่างประหลาด ใส่ชุดสวย ๆ แล้วทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาได้อย่างไรก็ไม่อาจหาคำตอบได้ หรือนี่จะเป็นอีกหนึ่งอารมณ์แบบผู้หญิง ใส่ชุดสวยแล้วมั่นใจเต็มร้อยแต่
“โห...กินเหล้ามาเหรอ” ผมถาม“อืออ...เจเค้าชวนไปน่ะ” เธอพูดแล้วเดินเข้ามาในห้อง “แต่แปลกอะ...แพมกินตั้งเยอะยังไม่ค่อยเมาเลย”แหงล่ะ ก็เธออยู่ในร่างผมนี่นา ผมเป็นคนกินเหล้าเยอะอยู่แล้ว ผมปิดประตูแล้วถาม“แล้วไอ้เจล่ะ”“ยังนั่งกินเหล้ากันอยู่ที่ร้านเลย” เธอบอกแล้วเดินมานั่งบนเตียง“ไปแถวไหนกันมาเนี่ย..” ผมถามแบบขำๆ ก่อนจะมานั่งบนเตียงข้างๆ เธอ“เจเค้าพาไปเลานจ์น่ะ กับพวกพี่แดง พี่พจน์” แพมในร่างของผมพูด “พวกนั้นลามกมาก..”ผมหัวเราะออกมา ว่าแล้วว่าไอ้เจต้องทำอะไรแผลง ๆ“เหรอ แล้วสนุกมั้ยล่ะ” ผมถาม แพมหันมามองหน้าผม“ก็...ก็...สนุกดี...แพมไม่เคยไป... แต่มัน”เธอพูดแล้วชะงักไว้แค่นั้น“แต่มันอะไรเหรอ” ผมถาม“มันแปลก ๆ”แพมพูดแล้วนิ่งเงียบ ผมเอียงคอมองใบหน้าของผมเอง หน้าคล้ำๆ ตอนนี้ก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ผมถามว่าแปลกยังไง เธอนิ่งไปครู่นึงแล้วเอ่ยเบา ๆ“มัน...มันแข็งอะ” เธอบอก ผมตาโตแล้วถามทันที“อะไรแข็ง” แพมอ้ำอึ้งเหมือนไม่อยากพูด ผมถามอีก “เกิดอะไรขึ้นเหรอแพม”เธอก้มลงมองเป้ากางเกงตัวเองแล้วพูดแบบเขิน ๆ“พอมีผู้หญิงมานั่งตัก หรือมากอด...มันก็แข็งเลย” เธอสารภาพ ไม่รู้ว่าผมจะหัวเราะหรือสงสารเ
แพมในร่างของผมไลน์มาบอกว่า เธอกลับถึงห้องแล้วแต่เจชวนออกไปข้างนอกต่อ เธอจึงต้องออกไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ผมนึกขำในใจ ไม่รู้ว่าไอ้เจจะพาไปกินเหล้าที่ไหน เพื่อนผมมันแสบได้เรื่องดีจริง ๆพอถึงห้อง โบว์ก็ถามผมอย่างอ้อมแอ้มด้วยความอายว่า อาจารย์ว่าอย่างไรบ้าง ผมยิ้มแล้วเปิดเสียงบทสนทนาทั้งหมดให้ฟัง ดูโบว์ตกใจอย่างมากที่ผมกล้าทำและพูดกับอาจารย์แบบนั้น เธอเล่าให้ฟังว่าอาจารย์คนนี้มีชื่อเสียงด้านมืดมานานแล้ว ไม่คิดว่าจะได้เจอกับตัวเอง ผมบอกเธอว่ามันต้องมีใครสักคนกล้าทำแบบนี้ ไม่งั้นอาจารย์ก็จะเหิมเกริมทำกับนักศึกษาสาว ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ“ขอบคุณแพมมากนะ” โบว์บอก สาวน้อยน้ำตาซึมลงอาบแก้มผมใช้มือปาดน้ำตาออก โบว์ซบลงที่ไหล่ของผม ผมกอดเธอไว้ เรือนร่างของโบว์นุ่มดีเหลือเกิน ผมปล่อยให้เธอระบายความอัดอั้นจนพอใจเส้นผมและกลิ่นกายของโบว์หอมกรุ่น ทำเอาใจเต้นแรงขึ้นมา ผมสูดดมความหอมหวานที่ไรผมข้างแก้ม จูบเบาๆ แล้วไล้ปากมาที่พวงแก้มเนียน หอมเบาๆ มาถึงติ่งหูจนโบว์เอียงคอหนี ผมสัมผัสได้ว่าเธอขนลุกไปทั้งแขน แต่ไม่ได้ผละหนีใด ๆ ผมจูบไซ้ที่แก้มเนียนนั้นแล้วไล้ไปถึงหลังใบหู สาวน้อยตัวเกร็ง“นี่...แพม”เธอเรียกชื่อผม
“อืมม...” แกกระแอม “ถ้าคะแนนเป็นแบบนี้ก็ติดเอฟแน่นอน”พูดจบก็มองลอดแว่นมาที่ผม ผมหน้าเสีย ถ้าติดเอฟก็เป็นปัญหาใหญ่สำหรับแพมแน่ กลายเป็นว่าผมจะทำให้อนาคตของแพมเสียหลังจากอยู่ในร่างเธอไม่กี่วันเท่านั้น ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไร แกก็พูดต่ออีก“ติดเอฟนี่เรื่องใหญ่นะ วิชานี้เปิดแค่เทอมเดียว ต้องรออีกหนึ่งปีถึงจะลงเรียนใหม่ได้”อาจารย์พูด แกหันมามองหน้าผม โบว์คงจะรู้ว่าเธอจะติดเอฟด้วย เธอถึงร้องห่มร้องไห้จนตาแดงแบบนั้น จริงๆ แล้วถ้าเป็นผมเองก็ไม่ได้สนใจหรอกครับ เพราะตอนเรียนก็ติดเอฟอยู่หลายตัว แต่นี่ไม่ใช่ เพราะมันคืออนาคตของแพม“จริงเหรอคะ”ผมพูดได้แค่นั้น อ้ำอึ้งจนไม่รู้จะทำยังไงต่อ“ใช่...” อาจารย์พูดเสียงแข็ง แกเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป “แต่ก็ยังมีทางแก้ไขนะ...”ผมมองหน้าอาจารย์ คราวนี้แกถอดแว่นออกแล้วจ้องหน้าผม ก่อนจะเหลือบสายตาลงต่ำมองที่หน้าอกอีกรอบแบบจงใจ ตอนนี้ผมกระจ่างแล้วว่าทางแก้ไขของแกหมายถึงอะไร อาจารย์มองหน้าผมอีกรอบเหมือนจะหยั่งเชิง ผมอึ้งไปสักพัก ไม่คิดว่าจะต้องเจออะไรแบบนี้“อาจารย์...อาจารย์หมายถึงอะไรคะ” ผมถาม เขายิ้มแล้วพูด“ตามใจอาจารย์สักหน