ผมใจเต้นโครมคราม ไอ้เจไม่ได้รู้เลยว่า แค่มือมาสัมผัสหน้าขาผมก็ใจเต้นวูบวาบแล้ว ตอนนี้มือมันล้วงคลำอยู่ที่เนินสาวถึงแม้จะมีชั้นใจขวางกั้น แต่ก็ทำเอาผมสยิวแบบแปลก ๆ มันต่างจากที่ผมลูบคลำช่วยตัวเองจนเสร็จสมไปสองครั้งเมื่อตอนบ่าย มือหยาบ ๆ ของเพศตรงข้าม กระตุ้นความรู้สึกแปลกประหลาดได้มากกว่ามือผู้หญิงอันนุ่มนิ่มของตัวเอง
...หรือนี่จะเป็นอารมณ์แบบธรรมชาติที่อยู่ในตัวผู้หญิงทุกคน
“เสียหายดิวะ...อึ้ยยย...พอแล้ว”
ผมร้องห้ามมัน แต่ไอ้เจก็ล้วงมือลึกเข้าไปใต้กางเกงในจนได้ มันวางมือไปบนเนินสาวทำเอาผมสะดุ้งหนีบขาไว้แน่น พยายามเบี่ยงตัวให้หลุดพ้นแต่สู้แรงมันไม่ได้เลย แรงน้องแพมช่างน้อยนิด ผมดันแขนมันเหมือนกำลังดันเสาคอนกรีตต้นใหญ่ยักษ์ที่ไม่ขยับใด ๆ ไอ้เจหัวเราะแล้วพูด
“มึงรู้มั้ย เมื่อตอนเย็น...แค่ได้เห็นรูปร่างน้องแพม...น้องชายกูลุกตั้งเลย...สุดยอดจริง ๆ ตอนนี้ขอกูจับหน่อยเถอะ”
ผมปฏิเสธมันเสียงแข็ง แต่มันก็แทบไม่ฟัง นิ้วของมันกลับบดบี้ลงบนกลีบสาวจนผมตัวกระตุกเฮือก พยายามดึงแขนมันออกอย่างไร้ผล ไอ้เจเกี่ยวนิ้วเบา ๆ ไปที่เม็ดสวาท ความสยิวซ่านพลุ่งพล่านขึ้นมาซะอย่างนั้น ใจเต้นโครมคราม พยายามอดกลั้นความรู้สึกนั้นไว้ มันคงทุเรศน่าดูที่ถูกไอ้เจใช้นิ้วจนรู้สึกเสียวตามมัน
“พอ...พอแล้ว ได้จับแล้วก็พอสิวะ ปล่อย” ผมห้ามเสียงสั่น
ไอ้เจยิ้ม ตามันมองถนน แต่นิ้วมันกลับบดบี้ต่อเนื่องจนผมรู้สึกเจ็บแปลบปะปนกับความสยิว
“มึงรู้สึกอะไรมั้ยเนี่ย” มันถามหน้าตาย นิ้วกรีดไปตามร่องจนผมเกร็งไปหมด “ถ้าเป็นผู้หญิงทั่วไปโดนยังงี้ก็เสียวจนอ่อนระทวยแล้ว ฮ่าๆๆ”
“ไม่...ไม่รู้สึกเว้ย”
ผมกลั้นใจบอก ทั้ง ๆ ที่ความสยิวซ่านก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วตามการเล่นนิ้วของไอ้เจ ผมรู้ว่ามันเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ การปลุกเล้าโลมผู้หญิงเป็นงานถนัดเพราะมันมีสาว ๆ อยู่ในสต็อกหลายคน
ความเจนจัดของมันทำให้ร่างกายสาวรุ่นขบเผาะของแพมไม่อาจต้านทานได้เลย นิ้วของไอ้เจบดบี้ไปบนกลีบร่องสลับกับเม็ดสวาท ผมหนีบขาแน่นแต่ก็ไม่อาจห้ามการกระทำของมันได้ ในที่สุด ร่องรักก็เปียกแฉะตามธรรมชาติของอารมณ์สาว ผมอายสุดขีดที่ถูกมันเล้าโลมจนแฉะคานิ้วแบบที่ไม่เต็มใจแม้แต่น้อย
“ฮ่าๆๆ ไหนบอกไม่รู้สึก นี่เสียวจนแฉะแล้วนี่หว่า” มันพูดแล้วหัวเราะเสียงดัง นิ้วของมันแหย่เข้าไปในร่องสวาท ปลุกความสยิวซ่าน
“โธ่...พอ...พอแล้ว”
ผมร้องได้แค่นั้นอย่างจนใจ รู้สึกเรี่ยวแรงหดหายที่จะห้ามปรามมัน แต่ก็ยังพยายามดึงแขนมันออกอย่างสิ้นหวัง ไอ้เจทำจนเสียวท้องน้อยไปหมด ผมกัดฟันแน่น อดกลั้นความรู้สึกไว้อย่างสุดความสามารถ
มันแกล้งดึงมือออกมาแล้วเอามาให้ผมดู นิ้วของมันตอนนี้เคลือบไปด้วยน้ำจากร่องเสียวของแพมจนเป็นมันละเลื่อมไปหมด
“น้ำเยิ้มเลยว่ะ...น้องแพมนี่ปลุกง่ายเหมือนกันนี่หว่า”
มันพูดด้วยเสียงหื่น ผมมองหน้ามันด้วยสีหน้าแบบบุญไม่รับ รู้สึกผิดและทุเรศตัวเองยังไงบอกไม่ถูกจากการโดนไอ้เจใช้นิ้วจนเปียกแฉะ อารมณ์พลุ่งพล่านอย่างห้ามไม่ได้ ผมจนใจที่จะเอ่ยอะไรออกมา มันเห็นผมเงียบไปก็เลยพูดต่อ
“เอาน่า ยังไงนี่ก็ไม่ใช่ตัวมึงเอง อย่าคิดมาก”
มันพูดจบก็ดึงมือผมไปวางต้นขามัน เฉียดที่เป้ากางเกง ผมตกใจจะชักมือออก แต่มันก็ฝืนไว้ ผมต้องด่ามันด้วยน้ำเสียงที่อ่อนอกอ่อนใจ
“พอเหอะ มึงนี่จะหื่นไปถึงไหนวะ”
“ฟังกูนะ...โอกาสแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ... มึงจะคิดมากอะไรวะ” มันพูด “นี่ก็ไม่ใช่ร่างกายมึง...มึงจะให้เพื่อนมีความสุขหน่อยไม่ได้เหรอไงวะ”
ผมรู้ว่าไอ้เจพอเมาแล้วมักเงี่ยนไม่เลือกที่ สูงต่ำดำขาวมันเอาได้หมด จริง ๆ แล้วผมก็เหมือนกันนั่นแหละครับ แต่ผมอาภัพตรงที่หน้าตาไม่ดี ไม่ค่อยจะมีผู้หญิงสนใจเท่าไหร่นัก ไอ้เจพูดก็ถูกส่วนหนึ่งว่านี่ไม่ร่างกายของผม แต่หากมองจากมุมของมัน มันได้เปรียบเพราะได้สัมผัสกับร่างกายนุ่มนิ่มอ้อนแอ้นของน้องแพม แต่ผมนี่สิต้องจับของผู้ชายด้วยกันนี่นะ
ไอ้เจจับมือผมกดลงบนเป้าของมันที่ตอนนี้แข็งตุง ผมเบือนหน้าหนีมัน จะดึงมือออกมันก็จับไว้แน่น ไม่หยุดแค่นั้น รถติดไฟแดง ไอ้เจรูดซิบแล้วควักท่อนเอ็นแข็งผงาดของมันออกมาอย่างไม่อาย
“โอ้ยยมึง...พอเลย” ผมชักมือกลับแล้วเบือนหน้าหนี
“เอาน่า...อยากรู้มือนุ่มๆ แบบนี้จะเสียวขนาดไหน”
มันพูดแล้วคว้าแขนผมจะให้มาจับท่อนเอ็นของมัน ผมหันหน้าหนี ไม่ไหว ผมรู้ว่าเพื่อนผมหื่นกาม แต่ไม่คาดคิดว่ามันจะเป็นได้ถึงขนาดนี้
“ชิบหายแล้ว”
ไอ้เจพูดเบาๆ ผมงงว่ามันหมายถึงอะไร เงยหน้าขึ้นก็เห็นด่านตรวจแอลกอฮอลล์อยู่ลิบ ๆ แบบที่ไม่มีทางเลี่ยงเลย ไอ้เจชะลอรถข้างทาง ตำรวจโบกไฟฉายเรียกให้มันเข้าไป
“ทำไงดีวะ...ตายห่า”
มันสบถ ผมหันรีหันขวาง จะให้กลับรถตอนนี้มีหวังโดนตำรวจขี่ตามแน่ ไอ้เจหันมามองผมแล้วพูด “มึงมาขับแทนกูละกัน...มึงแทบไม่ได้กินเบียร์เลยนี่หว่า”
ผมลังเล มองหน้ามันที่ดูอ้อนวอนเสียเหลือเกิน ต่างจากตอนที่ล้วงควักกางเกงในเมื่อครู่นี้ ผมนั่งคิดแวบนึงแล้วพูด
“เออ...กูขับก็ได้ แต่มึงต้องรับปากว่าจะไม่เล่นแผลงๆ กับน้องแพมอีก” ไอ้เจทำหน้าผิดหวัง ผมขู่ซ้ำ “อ้าวรับปากสิ...หรือจะไปนอนเล่นในสน. ตำรวจ...ตามใจนะ”
มันพยักหน้าหงึก ๆ ตอบรับแล้วรีบปีนไปเบาะหลัง ผมขยับมานั่งแทนที่คนขับอย่างรวดเร็ว ไอ้เจปีนกลับมาที่เบาะหน้า ผมเข้าเกียร์ขับเข้าไปในด่าน เจ้าหน้าที่บอกให้เปิดกระจก ผมเปิดแล้วยิ้มหวานให้ ตำรวจนายหนึ่งส่องไฟฉายเข้ามา แล้วยื่นหน้าเหมือนจะดมกลิ่นแอลกอฮอล์ ก่อนบอกให้ขับต่อไปได้
เราสองคนถอนหายใจอย่างโล่งอก ผมขับตรงดิ่งกลับอพาร์ทเมนท์ ไอ้เจนั่งหงอยมาตลอดทาง พอถึงห้อง ผมก็บอกให้ทำตามที่พูดด้วย มันคอตกแล้วบอกพรุ่งนี้เจอกัน ผมเปิดประตูห้องน้องแพมแล้วรีบปิดล็อก กลัวไอ้เจมันจะผิดคำพูด เพราะตอนมันเมา อะไรก็เกิดขึ้นได้
ผมมองร่างตัวเองที่ยังนอนหลับปุ๋ย ตื่นเถอะ ขอร้องล่ะ จะได้หาหนทางแก้ปัญหาด้วยกัน ผมจับตัวของผมเอง ตัวยังอุ่นเหมือนคนหลับตามปกติ แต่เหนียวหนึบเพราะไม่ได้อาบน้ำมาสองวัน ผมกลัวว่าตัวเองจะเป็นกลากเกลื้อนเสียก่อน จึงรีบเอาผ้ามาเช็ดตัว
เรี่ยวแรงน้องแพมที่ไม่มากนัก ทำให้การเช็ดตัวผู้ชายไทยรูปร่างมาตรฐานสักคนเป็นเรื่องเหนื่อยเอาการ ผมถอดเสื้อผ้าออกจนหมด เป็นความรู้สึกแปลกประหลาดที่ได้เห็นรูปร่างตัวเองแบบนี้ ผมเช็ดตัวให้จนสะอาด บรรจงเช็ดน้องชายอย่างทะนุถนอม ผมจับได้อย่างไม่รู้สึกเคอะเขินเพราะมันเป็นของผมเอง
แต่แล้วผมก็ต้องแปลกใจเพราะท่อนเอ็นมันค่อย ๆ พองตัวขึ้นทีละนิด ยิ่งผมจับ มันยิ่งพองตัวขึ้นจนแข็งชูชันเต็มที่ ผมนั่งอึ้งอยู่คนเดียวในห้องน้องแพม แสงไฟมืดสลัว อะไรวะเนี่ย ขนาดหลับไปเกือบสองวัน ท่อนเอ็นก็ยังตื่นขึ้นมาได้เฉยเลย มันแข็งผงาดอยู่ในมือของผมตอนนี้
ความคิดลามกแล่นปราดเข้ามาในหัวทันที ผมใช้มือรูดเบา ๆ มือเล็ก ๆ ของแพมกุมท่อนเอ็มไว้ทำให้มันดูใหญ่โตแปลกตา หัวบานใหญ่มากขึ้นเมื่อผมรูดขึ้นสุดลงสุด ถ้าผมในร่างตัวเองโดนสาวสวยแบบน้องแพมรูดแบบนี้ ผมคงเสียวแบบสุด ๆ เป็นแน่ แต่ตอนนี้ผมไม่ได้รู้สึกเสียวจากการรูดท่อนลำตรงหน้า แต่กลับตื่นเต้นที่ได้จับของตัวเองขณะอยู่ในร่างของสาวสวย
ผมใช้มือรูดแท่งเนื้อเร็วขึ้น พวงไข่หดตัวเป็นลูก ผมมองหน้าตัวเองที่ตอนนี้ยังหลับปุ๋ย คิดย้อนไปว่าตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยได้เอาสาว ๆ สวย ๆ เ ลย ไม่ต้องพูดถึงนักศึกษาระดับดาวคณะอย่างน้องแพม มันเกินเอื้อมยิ่งกว่าหมามองกระสวยอวกาศเสียอีก ผมได้แต่ซื้อกระหรี่ถูกๆ ตามแต่กำลังทรัพย์เท่านั้น ที่เหลือก็ดูหนังโป๊ช่วยตัวเองไปตามเรื่องตามราว
ท่อนเอ็นในมือร้อนผ่าว เหมือนจะพองตัวมากขึ้นไปอีก ร่างของผมมีอาการกระสับกระส่ายเล็กน้อย ผมจ้องมองใบหน้าของร่างผมที่ตอนนี้เผยอปาก ครางอือในลำคอ หวังว่าร่างผมจะฟื้นตื่นขึ้นมาเพื่อจะได้ช่วยกันแก้ปัญหาบ้าง ผมรูดมือเร็วขึ้น ชักขึ้นลงถี่ยิบ
แต่ก่อนที่จะได้ลุ้นว่าร่างผมจะตื่นหรือไม่ ผมรู้สึกว่าท่อนเอ็นพองตัวคับแน่นอยู่ในมือ ร่างของผมครางอือเสียงดัง แล้วน้ำกามขาวขุ่นก็ทะลักทะลายออกมาจนผมเกือบผงะไปด้านหลัง ท่อนเอ็นผงกหัวอีกหลายรอบ พ่นน้ำออกมาเปรอะเปื้อนท่อนขา และเปื้อนมือของผม
“เสร็จเร็วจริง ๆ เลยนะ...” ผมบ่นกับร่างตัวเอง
ท่อนเอ็นพ่นน้ำออกมาจนหมดก่อนจะสงบนิ่ง ผมต้องเช็ดทำความสะอาดให้จนหมด แล้วแต่งตัวกลับให้เรียบร้อย
อาบน้ำเสร็จผมก็มานอนก่ายหน้าผาก คิดถึงทางออกที่ยังคงมืดมน คิดยังไงก็คิดไม่ตกว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ก่อนจะผล็อยหลับไป
ผมสะดุ้งตื่นเช้ามืด เมื่อได้ยินเสียงไอแค่กๆ ดังมาจากข้างเตียง ผมชะโงกดูก็เห็นร่างของผมกระสับกระส่าย มือขยับมาวางที่หน้าอก“น้ำ...”เสียงแหบ ๆ ดังมา ผมรีบผวาไปหยิบน้ำมาค่อย ๆ กรอกใส่ปาก จนร่างของผมสงบลง ผมเขย่าตัวเบาๆ“เป็นไงบ้าง”ผมถามเบา ๆ ดวงตาของร่างตรงหน้าลืมขึ้นช้า ๆ ปรือมองผมแล้วจ้องมองแน่นิ่ง สายตานั้นเหมือนยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนจะมองไปที่เพดานและรอบข้างตัวเอง“ที่ไหน...แพมอยู่ไหน” ร่างของผมถามด้วยเสียงแผ่วเบา“แพม...ก็อยู่ในห้องแพมไง” ผมตอบเหมือนแพมในร่างผมจะยังไม่ได้สติเต็มร้อย ผมนั่งจ้องมองหน้า นานหลายนาทีก่อนที่เธอจะทำตาโตเมื่อเห็นร่างของเธออยู่ตรงหน้า เธอผวาจะลุกขึ้น แต่แล้วก็ต้องทรุดตัวลงนอนอีกรอบ“อย่าเพิ่งรีบลุก...น้องหลับไปตั้งสองวันสองคืน” ผมบอก“เกิดอะไรขึ้น ทำไม แพม...คุณ..ทำไมเป็นแบบนี้”แพมถาม เธอทำตาโต ดูเหมือนเธอจะจำไม่ได้ที่ผมบุกเข้ามาปลุกปล้ำในห้องของเธอ“เรื่องมันยาวน่ะครับ”ผมพูด แพมพยายามยันตัวเองลุกขึ้น เธอสำรวจร่างกายของตนเองซึ่งก็คือร่างของผมนั่นแหละ ก่อนจะหันไปมองรอบๆ เธอรู้ตัวแล้วว่าอยู่ในห้องของเธอเอง ก่อนจะมาจ้องมองหน้าผม แล้วมองชุดที่ผมใส
“อืมม...” แกกระแอม “ถ้าคะแนนเป็นแบบนี้ก็ติดเอฟแน่นอน”พูดจบก็มองลอดแว่นมาที่ผม ผมหน้าเสีย ถ้าติดเอฟก็เป็นปัญหาใหญ่สำหรับแพมแน่ กลายเป็นว่าผมจะทำให้อนาคตของแพมเสียหลังจากอยู่ในร่างเธอไม่กี่วันเท่านั้น ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไร แกก็พูดต่ออีก“ติดเอฟนี่เรื่องใหญ่นะ วิชานี้เปิดแค่เทอมเดียว ต้องรออีกหนึ่งปีถึงจะลงเรียนใหม่ได้”อาจารย์พูด แกหันมามองหน้าผม โบว์คงจะรู้ว่าเธอจะติดเอฟด้วย เธอถึงร้องห่มร้องไห้จนตาแดงแบบนั้น จริงๆ แล้วถ้าเป็นผมเองก็ไม่ได้สนใจหรอกครับ เพราะตอนเรียนก็ติดเอฟอยู่หลายตัว แต่นี่ไม่ใช่ เพราะมันคืออนาคตของแพม“จริงเหรอคะ”ผมพูดได้แค่นั้น อ้ำอึ้งจนไม่รู้จะทำยังไงต่อ“ใช่...” อาจารย์พูดเสียงแข็ง แกเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป “แต่ก็ยังมีทางแก้ไขนะ...”ผมมองหน้าอาจารย์ คราวนี้แกถอดแว่นออกแล้วจ้องหน้าผม ก่อนจะเหลือบสายตาลงต่ำมองที่หน้าอกอีกรอบแบบจงใจ ตอนนี้ผมกระจ่างแล้วว่าทางแก้ไขของแกหมายถึงอะไร อาจารย์มองหน้าผมอีกรอบเหมือนจะหยั่งเชิง ผมอึ้งไปสักพัก ไม่คิดว่าจะต้องเจออะไรแบบนี้“อาจารย์...อาจารย์หมายถึงอะไรคะ” ผมถาม เขายิ้มแล้วพูด“ตามใจอาจารย์สักหน
แพมในร่างของผมไลน์มาบอกว่า เธอกลับถึงห้องแล้วแต่เจชวนออกไปข้างนอกต่อ เธอจึงต้องออกไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ผมนึกขำในใจ ไม่รู้ว่าไอ้เจจะพาไปกินเหล้าที่ไหน เพื่อนผมมันแสบได้เรื่องดีจริง ๆพอถึงห้อง โบว์ก็ถามผมอย่างอ้อมแอ้มด้วยความอายว่า อาจารย์ว่าอย่างไรบ้าง ผมยิ้มแล้วเปิดเสียงบทสนทนาทั้งหมดให้ฟัง ดูโบว์ตกใจอย่างมากที่ผมกล้าทำและพูดกับอาจารย์แบบนั้น เธอเล่าให้ฟังว่าอาจารย์คนนี้มีชื่อเสียงด้านมืดมานานแล้ว ไม่คิดว่าจะได้เจอกับตัวเอง ผมบอกเธอว่ามันต้องมีใครสักคนกล้าทำแบบนี้ ไม่งั้นอาจารย์ก็จะเหิมเกริมทำกับนักศึกษาสาว ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ“ขอบคุณแพมมากนะ” โบว์บอก สาวน้อยน้ำตาซึมลงอาบแก้มผมใช้มือปาดน้ำตาออก โบว์ซบลงที่ไหล่ของผม ผมกอดเธอไว้ เรือนร่างของโบว์นุ่มดีเหลือเกิน ผมปล่อยให้เธอระบายความอัดอั้นจนพอใจเส้นผมและกลิ่นกายของโบว์หอมกรุ่น ทำเอาใจเต้นแรงขึ้นมา ผมสูดดมความหอมหวานที่ไรผมข้างแก้ม จูบเบาๆ แล้วไล้ปากมาที่พวงแก้มเนียน หอมเบาๆ มาถึงติ่งหูจนโบว์เอียงคอหนี ผมสัมผัสได้ว่าเธอขนลุกไปทั้งแขน แต่ไม่ได้ผละหนีใด ๆ ผมจูบไซ้ที่แก้มเนียนนั้นแล้วไล้ไปถึงหลังใบหู สาวน้อยตัวเกร็ง“นี่...แพม”เธอเรียกชื่อผม
“โห...กินเหล้ามาเหรอ” ผมถาม“อืออ...เจเค้าชวนไปน่ะ” เธอพูดแล้วเดินเข้ามาในห้อง “แต่แปลกอะ...แพมกินตั้งเยอะยังไม่ค่อยเมาเลย”แหงล่ะ ก็เธออยู่ในร่างผมนี่นา ผมเป็นคนกินเหล้าเยอะอยู่แล้ว ผมปิดประตูแล้วถาม“แล้วไอ้เจล่ะ”“ยังนั่งกินเหล้ากันอยู่ที่ร้านเลย” เธอบอกแล้วเดินมานั่งบนเตียง“ไปแถวไหนกันมาเนี่ย..” ผมถามแบบขำๆ ก่อนจะมานั่งบนเตียงข้างๆ เธอ“เจเค้าพาไปเลานจ์น่ะ กับพวกพี่แดง พี่พจน์” แพมในร่างของผมพูด “พวกนั้นลามกมาก..”ผมหัวเราะออกมา ว่าแล้วว่าไอ้เจต้องทำอะไรแผลง ๆ“เหรอ แล้วสนุกมั้ยล่ะ” ผมถาม แพมหันมามองหน้าผม“ก็...ก็...สนุกดี...แพมไม่เคยไป... แต่มัน”เธอพูดแล้วชะงักไว้แค่นั้น“แต่มันอะไรเหรอ” ผมถาม“มันแปลก ๆ”แพมพูดแล้วนิ่งเงียบ ผมเอียงคอมองใบหน้าของผมเอง หน้าคล้ำๆ ตอนนี้ก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ผมถามว่าแปลกยังไง เธอนิ่งไปครู่นึงแล้วเอ่ยเบา ๆ“มัน...มันแข็งอะ” เธอบอก ผมตาโตแล้วถามทันที“อะไรแข็ง” แพมอ้ำอึ้งเหมือนไม่อยากพูด ผมถามอีก “เกิดอะไรขึ้นเหรอแพม”เธอก้มลงมองเป้ากางเกงตัวเองแล้วพูดแบบเขิน ๆ“พอมีผู้หญิงมานั่งตัก หรือมากอด...มันก็แข็งเลย” เธอสารภาพ ไม่รู้ว่าผมจะหัวเราะหรือสงสารเ
เวลาผ่านไปอีกวัน เราสองคนพยายามทำความคุ้นเคยในการทำหน้าที่สลับกัน แต่ที่ผมลำบากใจก็คือ การต้องเจอกับไอ้พี่พอลด้วย แพมบอกว่าผมต้องไปงานแต่งงานเพื่อนของพี่พอลในคืนวันพรุ่งนี้ แพมอ้อนวอนให้ผมไปเพราะดูแล้วเธอเองก็คงชอบ ๆ พี่พอลอยู่เหมือนกัน จึงไม่อยากให้ผมปฏิเสธเขาแพมเตรียมชุดมาให้ผมใส่ด้วย มันเป็นชุดแส็กเดรสกระโปรงสั้นสีดำ ผมลองใส่อย่างไม่เต็มใจเอาเสียเลย ถึงแม้ร่างกายจะเป็นสาวสวยหุ่นดีเพียงใด ใส่แล้วสวยขนาดไหน แต่ผมก็ยังรู้สึกแบบผู้ชายจึงช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกลำบากใจ แต่แพมก็ขอร้องว่างานนี้พลาดไม่ได้เพราะเป็นงานแต่งเพื่อนสนิทของพี่พอล ต้องดูดีหน่อย ผมก็ต้องยอมเลยตามเลย พอลองสวมดูแล้วก็แปลกใจที่ชุดเดรสมันพอดีตัวเป๊ะ แพมบอกว่าชุดนี้ตัดมาเป็นพิเศษเลย ความรัดรูปกำลังดีทำให้อวดสัดส่วนทรวดทรงของสาวสวยอย่างชัดเจน เอวคอดกิ่วกับสะโพกกลมกลึง หน้าอกไม่ต้องพูดถึงเพราะโชว์เนินวับ ๆ แวม ๆ จนแทบจะก้มไม่ได้เลยทีเดียว ผมหมุนตัวไปมาหน้ากระจกแล้วรู้สึกดีขึ้นมาอย่างประหลาด ใส่ชุดสวย ๆ แล้วทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาได้อย่างไรก็ไม่อาจหาคำตอบได้ หรือนี่จะเป็นอีกหนึ่งอารมณ์แบบผู้หญิง ใส่ชุดสวยแล้วมั่นใจเต็มร้อยแต่
“ฝนจะตกอะไรทุกเย็นวะเนี่ย”ผมสบถโทษฟ้าฝน ก่อนวิ่งเข้าอพาร์ทเมนท์ของตนเอง ตัวเปียกมะล่อกมะแล่กหัวจรดเท้า ขณะกำลังไล่น้ำออกจากรองเท้าอยู่นั้น ก็เห็นสาวสวยนักศึกษาลงมาจากรถยนต์คันหรู...เธอชายตามองผมด้วยหางตา ผมลอบมองหุ่นระทวยตามไปจนเธอเดินขึ้นลิฟต์ไปใคร ๆ ก็เรียกผมว่า “ไอ้เป้ง” เพราะผมเป็นพนักงานออฟฟิศจน ๆ คนหนึ่งในฝ่ายเดินเอกสาร หรือเรียกง่าย ๆ ว่าแมสเซนเจอร์แต่ประจำอยู่ในออฟฟิศนั่นล่ะครับ ทำหน้าที่เดินแจกจดหมาย เอกสาร และยังทำงานอื่น ๆ จิปาถะในออฟฟิศ ตั้งแต่ซ่อมเครื่องปรินเตอร์ไปจนถึงช่วยเปลี่ยนหลอดไฟด้วยความที่ตอนเรียนหนังสือผมไม่ได้ตั้งใจสักเท่าไหร่ สอบเข้ามหาลัยดัง ๆ ก็ไม่ได้ จบออกมา 3-4 ปีแล้วก็เลยหางานทำยากหน่อย จนต้องเป็นพนักงานออฟฟิศต๊อกต๋อยไปวัน ๆผมไม่ใช่แค่เป็นพนักงานจน ๆ เท่านั้นนะครับ แต่ยอมรับว่าหน้าตาของผมก็ไม่ได้เรื่องได้ราวเสียด้วย ด้วยความเป็นเด็กต่างจังหวัด รูปร่างหน้าตาสามัญประจำบ้าน ไม่ค่อยมีผู้หญิงเหลียวมอง มีแต่ผมที่ชอบมองสาว ๆ สวย ๆ ขาว ๆ หมวย ๆ และยิ่งเป็นสาวนักศึกษาด้วยแล้ว ผมยิ่งเหลียวมองจนบางครั้งถูกมองกลับด้วยหางตาแบบเหยียดหยามกันเลยทีเดียวอพาร์ทเมนท์ที่ผ
ผมลืมตาขึ้นด้วยอาการปวดหัวตุบ ๆ รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก หายใจไม่ออก แน่นท้อง ปวดเนื้อปวดตัว เวลาผ่านไปเท่าไหร่ก็ไม่รู้ได้ พอสติกลับคืนมาเล็กน้อย ผมก็รู้ตัวแล้วว่ายังอยู่ในห้องของแพมตายแล้วกู ผมจับต้นชนปลายได้แล้ว ความเมาทำให้ผมเหิมเกริม หมายจะบุกยัดเยียดขืนใจมอบความเป็นผัวให้นักศึกษาสาว แต่กลับพลาดท่าตกเตียงจนสลบ รู้สึกหวาดกลัวที่จะถูกตำรวจจับจนตัวสั่นสะท้านพอชันตัวขึ้นได้ ผมก็จะลุกขึ้น แต่มีแขนผู้ชายวางพาดบนตัวของผม ผมดึงออกอย่างยากลำบากเพราะเรี่ยวแรงหดหาย ชายคนนั้นนอนตะแคงหันหลังให้ผม รูปร่างผอม พอผมยืนขึ้นมาได้ก็มานั่งแปะอยู่บนขอบเตียง มือกุมขมับเพราะรู้สึกปวดหัวผมมองชายที่กำลังนอนอยู่เหมือนไม่ได้สติด้วยความสงสัย แต่พอเขม้นมองอีกครั้ง ใจผมก็หายวาบนั่นมันตัวผมเองที่นอนอยู่กับพื้น!ผมตกใจแทบสิ้นสติ ก้มลงมองตัวเอง ตอนนี้ผมอยู่ในชุดนักศึกษาสาวยับยู่ยี่ กระโปรงสั้นร่นขึ้นมาถึงโคนขา ผมนิ่งอึ้งไปเกือบนาทีราวถูกสาบ ก่อนจะพยายามรวบรวมสติที่ใกล้จะแตกเป็นเสี่ยง ผมคงกำลังฝันไปเป็นแน่ นี่คงไม่ใช่เรื่องจริงหรอก ผมลุกขึ้นยืนแล้วเดินสโลสเลไปที่กระจกบนโต๊ะเครื่องแป้งภาพสะท้อนตรงหน้าไม่ใช่ผม
ผมสะดุ้งตื่นตั้งแต่เช้ามืดด้วยความหวังว่าผมจะคืนร่างกลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะผมยังอยู่ในร่างของน้องแพม ส่วนร่างของผมยังนอนหลับไม่ได้สติ หายใจเป็นจังหวะเหมือนคนหลับลึก ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะลุกไปอาบน้ำ คราวนี้ผมรู้วิธีการรวบผมไว้ไม่ให้เปียกเพราะมันแห้งยากเหลือเกิน ผมไม่อาจเข้าใจได้ว่าสาวๆ เค้าใช้ชีวิตอยู่กันได้อย่างไรในการที่ต้องทำผมให้แห้งทุกวันแบบนี้ถัดจากอาบน้ำ ผมก็ต้องมาแต่งตัวซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเช่นกัน โดยเฉพาะการใส่บราที่ทุลักทุเล หน้าอกหน้าใจอวบใหญ่ของแพมทำให้รู้สึกอึดอัดยังไงบอกไม่ถูก แต่เมื่อสวมบราเข้าที่แล้วผมก็รู้สึกดีขึ้น ก่อนที่จะต้องมาใส่ชุดนักศึกษาที่ต้องใช้เวลาทำใจและทำตัวให้คุ้นชินอยู่สักพัก เพราะเสื้อมันตัวเล็กและรัดลำตัวมาก ส่วนกระโปรงก็สั้น แถมยังผ่าด้านหลังอีกไม่ว่าจะลุกยืนหรือทรุดตัวลงนั่ง ทำอย่างไรก็ดูเหมือนจะโป๊ตลอดเวลา ต้องลองลุกและนั่งอยู่หลายครั้งถึงจะรู้วิธี และผมก็ต้องหนีบเข่าให้ชิดกันโดยอัตโนมัติเพราะกางเกงชั้นในทำท่าจะปรากฎสู่สายตาสาธารณชนอยู่เรื่อยแน่นอนว่าผมไม่รู้วิธีแต่งหน้าหรือทาแป้งทาครีมแบบที่ผู้หญิงเค้าทำกันหรอกครับ ลำพังแ