Chapter 1
‘พระเอกมาไวไปหรือเปล่า?’
.
.
‘ยินดีต้อนรับสู่โลกเสมือนจริงอินฟินี่ ระบบที่จะทำให้คุณสามารถท่องไปในโลกแห่งจินตนาการด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถสรรค์สร้างโลกจากความคิดของคุณออกมาได้อย่างไร้ที่ติ’
“พร้อมไหมคะคุณหลัน”
“พร้อมค่ะ”
หลันผิงลั่ว หญิงสาววัย 22 ปีตอบผ่านหน้าจอมอนิเตอร์ภายในแคปซูลแก้ว เธอเป็นหนึ่งในคนที่ตัดสินใจเข้าร่วมทดลองระบบโลกเสมือนจริงอินฟินี่ เป็นระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์ที่เบื่อหน่ายโลกใบนี้ได้เข้าไปอยู่ในโลกเสมือนจริงแทน
เธอไม่มีพ่อแม่หรือญาติพี่น้องเพราะเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่จำความได้ ซ้ำโชคชะตาดันอาภัพสุดขีดเพราะเป็นโรคหัวใจจะตายตอนไหนก็ยังไม่รู้ รู้แค่ว่าคงอยู่ได้ไม่นาน อาการก็หนักขึ้นทุกวัน เลยตัดสินใจเข้าโครงการนี้เพื่อหวังจะไปใช้ชีวิตในโลกเสมือนจริงดีกว่าอย่างน้อยก็ทำให้เธอมีความสุขในระยะเวลาหนึ่งก่อนจะต้องตายในโลกจริง
“ทำจิตใจให้ผ่อนคลายค่ะ ไม่มีอะไรน่ากลัว” เสียงจากจอมอนิเตอร์ที่ติดบนฝาแคปซูลแก้วกล่าวขึ้นอีกครั้งหลันผิงลั่วก็พยักหน้ารับ
'สวัสดีค่ะ ดิฉันอีฟระบบปัญญาประดิษฐ์ผู้ช่วยของคุณ หลังจากนี้คุณจะได้ยินแค่เสียงของฉันเท่านั้น’
เสียงใสหวานของระบบปัญญาประดิษฐ์ผู้ช่วยดังขึ้น เป็นเสียงที่ต่างไปจากคนแรกที่พูดก่อนหน้านี้แบบรู้เลยว่าเป็นระบบคอมพิวเตอร์
‘คุณหลันกรุณาหลับตา’
หลันผิงลั่วได้ฟังก็ทำตามทุกอย่างยอมหลับตาลงแล้วพยายามทำจิตใจให้ผ่อนคลายที่สุด จมูกเหมือนได้กลิ่นอะไรบางอย่างคล้ายยาลอยอบอวลแต่พยายามจะลืมตามองก็ลืมไม่ไหวอยู่ดี ๆ ตามันก็หนักอึ้งขึ้นมา สติเริ่มพร่ามัวความคิดที่ยุ่งเหยิงเริ่มว่างเปล่าขาวโพลนก่อนที่ความมืดจะเข้าปกคลุมอย่างรวดเร็วจากฤทธิ์ของยานอนหลับและกล่อมประสาท
‘นับถอยหลังเข้าสู่ระบบโลกเสมือนจริงอินฟินี่’
‘จีนยุคโบราณ เทพเซียน วรยุทธ์’
‘เริ่มนับถอยหลังใน
5
4
3
2
1
‘เชื่อมต่อสำเร็จ'
..........
.
“โอ๊ย!”
เสียงใสหวานร้องอุทานออกมาด้วยความเจ็บปวดที่แล่นแปล๊บไปทั่วนิ้วเท้าที่เตะเข้ากับขอบประตูเต็มแรงจนล้มหน้าทิ่มพื้นอีกรอบหนึ่ง แต่พอจะพยายามลุกขึ้นนั่งกลับรู้สึกมึนหัวเหมือนโลกกำลังหมุนได้ไม่มีผิด
หลันผิงลั่วที่เข้าสู่ระบบโลกเสมือนจริงอินฟินี่เต็มตัวกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ด้วยความมึนงง มือข้างหนึ่งจับหัวส่วนอีกข้างก็พยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นจากพื้น ทำไมรู้สึกว่าสิ่งของรอบตัวมันหมุนได้ สรุปว่าเธอเข้ามาในโลกจีนโบราณจริง ๆ หรือเปล่าความรู้สึกเหมือนหลุดมาอยู่ในเครื่องเล่นอะไรสักอย่างที่มันหมุนไปหมุนมาจนจะอาเจียนอยู่แล้ว พะอืดพะอมจนลมตีขึ้นหน้ามือพยายามควานหาขาเก้าอี้แล้วพยุงตัวเองขึ้นมานั่งจนได้แม้นจะยากลำบากถึงขั้นสุดก็ตามเพราะแขนขามันแทบไม่มีเรี่ยวแรง
ดวงตาคู่สวยก้มลงมองเสื้อผ้าของตนเองก็พบว่าอยู่ในชุดฮั่นฝูเหมือนซีรี่ส์จีนพีเรียดที่เคยดู แต่คุณภาพของชุดดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย มันควรจะเป็นผ้าไหมชั้นดีประดับประดาด้วยไข่มุกและดิ้นทองคำไม่ใช่หรือไง นี่เป็นผ้าโปร่งโล่งสีขาวสะอาด เรียกว่าขาวตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยดีกว่ามีส่วนที่ไม่ขาวก็คงจะเป็นผมสีดำขลับอย่างกับเอาถ่านมาย้อมเนี่ยแหละ ลายปักบนเสื้อผ้าก็ไม่มีสักลาย อะไรมันจะโล่งและเชยขนาดนี้ ไม่แฟชั่นเอาซะเลย
“เข้ามาในโลกเสมือนจริงแล้วสินะ”
“ปวดหัวชะมัดเลย” เธอบ่นโอดครวญออกมาเพราะตอนนี้เหมือนหัวมันกำลังจะระเบิดออกมาเสียให้ได้
“ระบบ”
“อีฟ”
เสียงหวานร้องเรียกหาระบบที่ควรจะมีตั้งแต่เธอลืมตาตื่นขึ้นมาในโลกนี้ แต่ทำไมมันกลับเงียบเชียบขนาดนี้ เรียกเท่าไหร่ระบบปัญญาประดิษฐ์สุดแสนไฮเทคก็ไม่โผล่หัวออกมาสักที หลันผิงลั่วพยายามตั้งสติของตัวเองก่อนจะลุกขึ้นยืนหวังจะเดินไปที่ประตูเพื่อออกไปสำรวจด้านนอกเหมือนเวลาเราเล่นเกม ตื่นมาในห้องห้องหนึ่งก็ต้องออกไปข้างนอกพูดคุยกับ NPC เพื่อรับเควสต์และทำให้สำเร็จ
แต่ก้าวไปเพียงไม่กี่ก้าวร่างเล็กก็ทรุดตัวลงกับพื้นด้วยความรู้สึกร้อนวูบวาบภายในร่างกาย รู้สึกมวนท้องน้อยจนเนื้อตัวสั่นเทาขึ้นมาเล็กน้อย เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มผุดออกมาจากใบหน้าหวานริมฝีปากแห้งผากจนต้องแลบลิ้นเลียบ่อยครั้ง ความรู้สึกนี้มันเหมือนตอนเวลาดูหนังโป๊แล้วมีอารมณ์เลยร่างกายมันกำลังพลุ่งพล่านอย่างอธิบายไม่ถูก
แต่ทำไมถึงมามีอารมณ์ตอนนี้ล่ะ!
อยู่ดี ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกพร้อมใครคนหนึ่งที่ก้าวเข้ามาด้านใน หลันผิงลั่วช้อนสายตามองจากพื้นขึ้นไปจนถึงใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายที่ชี้ชัดว่าเป็นบุรุษถึงจะผมยาวสลวยสวยเก๋เหมือนนายแบบโฆษณายาสระผมก็เถอะ ให้ตายสิหล่อเกินไปแล้ว! หน้าหวานผุดผ่องอย่างกับมีใครเอาน้ำผึ้งทั้งโลกมาทาลงบนหน้าของเขา แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาสนใจเรื่องความหล่อไหมล่ะหลันผิงลั่ว ตอนนี้กำลังมีผู้ชายแปลกหน้าอยู่ในห้องกับตัวเองสองต่อสองในสถานการณ์แบบนี้มันไม่ปลอดภัยแน่
“นะ...นาย อื้อ!” ยังไม่ทันจะได้ถามไถ่อะไรบุรุษผู้นั้นก็พุ่งตัวเข้ามาหาเธอด้วยความรวดเร็วจนแทบมองไม่ทันแล้วใช้ฝ่ามือหนาปิดปากเอาไว้จนเสียงกลืนหายกลับลงไปในลำคอเหลือเพียงเสียงอื้ออึงเท่านั้น
“เงียบ!” เสียงเข้มกล่าวคล้ายจะข่มกัน
ไอ้บ้าเอ๊ย! มาปิดปากคนอื่นแบบนี้ยังจะมีหน้ามาสั่งอีก เผด็จการเกินไปแล้ว!
“อือ!” เธอร้องประท้วงออกไปพร้อมทั้งพยายามใช้เล็บจิกข่วนลงบนฝ่ามือใหญ่
ผู้ชายอะไรเนี่ยไว้เล็บยาวแหลมเชียว
“บอกให้เงียบ!” เสียงเข้มกล่าวขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้อีกฝ่ายกลับล็อกคอของเธอเอาไว้ด้วยจนแทบจะหายใจไม่ออก
เป็นพวกซาดิสม์สินะ
“หาให้ทั่วอย่าให้มันหนีรอดไปได้!”
“ค้นให้ทั่วทุกห้อง!”
เสียงตะโกนดังขึ้นด้านนอกมันทำให้บุรุษหนุ่มตกใจรีบกระชากตัวของหลันผิงลั่วไปยังเตียงนอนแล้วผลักเธอจนล้มลงไปนอนอยู่ใต้ร่างของเขาที่คร่อมทับเธอเอาไว้ ผ้าห่มถูกดึงขึ้นมาคลุมโปงปกปิดพวกเขาทั้งสองคนเอาไว้ภายใน บดเบียดกันอยู่ในพื้นที่แคบ ๆ
“ใครอยู่ด้านใน เปิดประตู!” เสียงทุบประตูดังขึ้นท่าทางคนข้างนอกจะดูหงุดหงิดมากทีเดียว
หลันผิงลั่วมองประตูที่กำลังสั่นไหวจากแรงเคาะก่อนจะหันกลับมามองใบหน้าของบุรุษซาดิสม์ก็เห็นว่าเขาดูตื่นตระหนก แม้นจะไม่แสดงออกทางสีหน้ามากแต่แววตามันก็โกหกยากจึงปะติดปะต่อเรื่องได้ว่าเขาคงหนีพวกคนด้านนอกอยู่ถึงพยายามแอบซ่อน แต่แอบแบบนี้มันจะต่างอะไรกับการไม่แอบเพราะถ้าพวกคนข้างนอกเข้ามาก็ต้องเจอเขาอยู่ดี หน้าต่างก็มีทำไมไม่กระโดดออกไปแบบซีรี่ส์จีนเวลาที่หนีผู้ร้ายตัวเอกก็มักจะกระโดดออกทางหน้าต่างแล้วตีลังกาแลนดิ้งลงพื้นด้วยท่าสุดเท่ไม่ใช่หรือไง
หนีขึ้นเตียงแบบนี้กะจะซ้อมนอนในโลงก่อนตายหรือ!
ตอนนี้ระบบเฮงซวยก็ยังไม่โผล่ออกมาก็คงต้องแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้าเองก่อน ถ้าใช้สมองอันชาญฉลาดของเธอประมวลผลดูแล้วคนตรงหน้าต้องเป็นพระเอกแน่นอน เพราะตามที่เคยอ่านนิยายหรือดูซีรี่ส์จีนพีเรียดมาเยอะมาก พระเอกมักจะต้องหลบหนีจากพวกตัวร้ายจนมาเจอนางเอกทุกที แล้วตอนนี้เธอก็เป็นนางเอกในโลกใบนี้ไง เพราะฉะนั้นการที่เจอคนคนนี้มันก็หมายความได้อย่างเดียวว่าเขาเป็นพระเอกแน่นอน
และเธอก็มีหน้าที่ต้องช่วยเขาเพื่อสร้างความประทับใจแรกและกลายเป็นหนี้บุญคุณที่ต้องตามชดใช้กันไปตลอดชีวิตด้วยแรงกายอันล่ำบึกกล้ามแน่น ๆ ของเขา ขนาดใส่เสื้ออยู่ยังรู้เลยว่าใต้เสื้อมันต้องซ่อนของดีอลังการไว้แน่นอน ไม่คิดเลยว่าจะเจอพระเอกเร็วขนาดนี้แต่ก็ดีแล้วจะได้มีอะไรสนุก ๆ ทำ ระหว่างรอระบบ AI เฮงซวยที่ไม่โผล่มาอธิบายสักที
“ฉันจะช่วยนายเอง”
คำพูดของหญิงสาวทำให้เขามองหน้าเธออย่างไม่เข้าใจ หลันผิงลั่วจึงยกมือขึ้นตีปากตัวเองเบา ๆ เพราะตอนนี้อยู่ในยุคจีนโบราณสรรพนามที่ใช้เรียกแบบปัจจุบันคงทำให้สมองของพ่อพระเอกไม่ประมวลผล
“ข้า ตัวข้า” นางชี้นิ้วเข้าหาตนเองด้วยสีหน้าจริงจัง “ตัวข้าจะช่วยเจ้าเอง เจ้าอยู่เฉย ๆ แล้วไว้ใจข้า”
ฟังรู้เรื่องไหมเนี่ย หน้าดูซื่อบื้อเหมือนหมาเมาผงซักฟอก
“พังเข้าไปเลย!” เสียงตะโกนด้านนอกดังขึ้น
“ไม่ทันการแล้ว อยู่นิ่ง ๆ นะ”
หลันผิงลั่วคว้าหมับเข้าที่ตัวของเขาก่อนจะจับอีกฝ่ายพลิกลงไปนอนแทนส่วนตัวเธอหมุนตัวลุกขึ้นนั่งห้อยขาที่ข้างเตียงด้วยท่าทางสง่าผ่าเผย เสื้อตัวนอกถูกถอดออกแล้วโยนไปด้านในเตียงอย่างรวดเร็วจนเหลือเพียงเสื้อตัวในที่มันบางเฉียบจนเห็นถึงซับในที่เป็นปราการด่านสุดท้ายปกป้องทรวดทรงอรชรของเธอเอาไว้ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ประตูห้องถูกพังพอดิบพอดี
“กรี๊ดดดดด!”
เสียงกรี๊ดของสตรีดังสนั่นโรงเตี๊ยมจนชั้นล่างยังได้ยินชัดเจน ส่วนในห้องไม่ต้องพูดถึงพวกตัวร้ายถึงกลับต้องยกมือขึ้นปิดหูเอาไว้ หลันผิงลั่วแสร้งตกใจสุดขีดก่อนจะร้องโวยวายออกมาเพื่อกลบเกลื่อน
“ไอ้พวกลามก!”
“พวกเจ้าล่วงเกินข้าเกินไปแล้ว ข้าจะไปฟ้องศาล ข้าจะฟ้อง จะฟ้องพวกเจ้าให้หมด!”
“ช่วยด้วยคนพวกนี้จะล่วงเกินข้า!”
“แม่นางสงบใจลงก่อน พวกข้าไม่ใช่คนเลวร้ายเพียงแค่มาตามหาคนเท่านั้น” หนึ่งในคนพวกนั้นกล่าวขึ้นอย่างสุภาพ
“ข้าไม่สน ที่นี่ไม่มีใครทั้งนั้นนอกจากข้าที่กำลังแก้ผ้าแล้วพวกเจ้าก็เข้ามา พวกเจ้ามันคิดไม่ซื่อต่อข้า พวกเจ้ามันคิดจะฉวยโอกาสรังแกข้า!”
“แม่นางสงบใจลงก่อน พะ... พวกข้า”
“ออกไป ถ้าพวกเจ้าไม่ออกข้าจะถือว่าพวกเจ้าคิดไม่ซื่อกับข้า!”
เธอชี้หน้าโวยวายใส่คนพวกนั้นด้วยท่าทางเอาเรื่องและไม่ยอมโดยง่าย จนสุดท้ายพวกคนร้ายก็ต้องยอมล่าถอยออกไปชนิดที่ว่าวงแตกกระเจิง อันว่ารบกับบุรุษนับร้อยนับพันยังไม่เท่ารบกับอารมณ์สตรีเพียงหนึ่งเดียว เพราะเวลาผู้หญิงโมโหโวยวายไม่มีผู้ชายคนไหนจะทนฟังไหวหรอก เลยเอาข้อนี้มาใช้ประโยชน์ไหน ๆ ก็เป็นคนมีเสียงที่ดีเยี่ยมอยู่แล้วก็แหกปากโวยวายให้ดังลั่นไปเลย จะบุรุษร้อยคนพันคนก็ไม่มีใครสู้หรอกเจอเสียงสามล้านเดซิเบลกระแทกหูไปขนาดนี้
“เจ้าปลอด อ๊ะ!”
หลันผิงลั่วหันไปพูดกับพระเอกของเรื่องแต่เขากลับกระชากแขนเธอเข้าไปหาจนร่างอรชรล้มทิ่มลงไปบนเตียงยังไม่ทันจะได้ถามไถ่อะไรก็ถูกจับพลิกจนกลับลงมานอนข้างล่างเหมือนเดิมกลายเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำถูกฝ่ามือใหญ่กดแขนทั้งสองข้างเอาไว้ข้างหัวจนหัวใจเต้นแรงแทบจับจังหวะไม่ถูกมันเหมือนจะทะลุออกมาจากอกให้ได้
“กะ... กลิ่น” เขากัดฟันพูดอย่างยากลำบาก
“กลิ่นอะไร กลิ่นกำยานหรือ?” นางมองไปทางกำยานที่ถูกจุดเอาไว้ก่อนจะหันกลับมามองหน้าเขาตาใส “ก็หอมดีนะ แต่ข้าไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ กลิ่นไม้จันทน์เชยสะบัดเลย”
“ไม่ใช่”
“อ๊ะ!”
“จะทำอะไร!” ร่างเล็กดิ้นพล่านเมื่ออีกฝ่ายโน้มใบหน้าลงมาซุกไซ้ดอมดมแถว ๆ ซอกคอของเธอ
“กลิ่นตัวเจ้า”
“ทำไม กลิ่นตัวข้ามันทำไม?”
“มันมีพิษ”
“ฮะ?” นางพยายามใช้จมูกดมกลิ่นฟุดฟิดแต่ก็ไม่เห็นจะได้กลิ่นอะไรเลย
“กลิ่นของเจ้ามันปลุกเร้าข้า”
ปลุกเร้า?
ดวงตาคู่สวยมองต่ำลงไปยังเป้าของเขาก็ไม่ได้อยากมองหรอกนะ แต่จิตใจตอนนี้มันต่ำทรามมากมองสูงไปกว่านี้ไม่ได้เลย ลมหายใจลึกถูกสูดเข้าจนสุดปอดแล้วพ่นลมหายใจออกมาหนัก ๆ เพื่อพยายามตั้งสติของตนเอง ตอนนี้เข้าใจคำว่าปลุกเร้าชัดเจนแล้วมันนูนรั้งเนื้อผ้าขึ้นมาเสียขนาดนั้นมันคงอยากจะออกมารับลมข้างนอกเสียเต็มประดาแล้ว
เพิ่งมาถึงก็จะได้สามีเลยเรอะ!
Chapter 2'พลาดท่าให้ตัวร้าย'..จะว่าไปตัวนางเองก็รู้สึกวูบวาบอยู่เหมือนกัน ความร้อนผ่าวในร่างกายนี้มันเกิดจากอะไรหรือว่านางจะโดนพิษจริง ๆ เหมือนที่เคยอ่านนิยายหรือดูซีรี่ส์อาจจะเป็นพิษจำพวกมีฤทธิ์เพิ่มกำหนัดก็เป็นได้ ตอนนี้เหมือนร่างกายคล้ายจะควบคุมตัวเองไม่ได้“อ๊ะ!” ร่างเล็กถูกจับกดให้นอนลงไปบนเตียงมันทำให้หลันผิงลั่วตกใจไม่น้อย มือเล็กยกขึ้นดันอกกว้างเอาไว้“จะ… เจ้า เจ้าจะทำอะไร”“ข้าไม่ไหว”“มะ… ไม่ไหวอะไร”ริมฝีปากก้มจูบลงมาแทนคำตอบทำเอาหลันผิงลั่วตกใจหน้าเหวอ ริมฝีปากถูกครอบครองและลุกล้ำอย่างเอาแต่ใจจนนางตั้งตัวไม่ทัน มือไม้อ่อนแรงไร้การขัดขืนคล้ายกับถูกมนต์สะกดชวนให้ลุ่มหลงอาจจะเป็นเพราะพิษกำหนัดในกายที่ทำให้รู้สึกต้องการความวาบหวามมากขนาดนี้“จะ… เจ้า นามของเจ้า” เสียงแหบพร่าเอ่ยถามชายหนุ่มที่กำลังร่วมรักกับนาง“เหอมู่เซียง”“เป็นชื่อที่ไพเราะ”นางส่งยิ้มหวานล้ำให้เขา เหอมู่เซียง ชื่อพระเอกของเรื่องนี้สินะ เป็นชื่อที่เพราะสำหรับนางและรู้สึกชอบมาก ๆ พระเอกของนางช่างดีเลิศทั้งรูปร่างหน้าตาและชื่อแซ่ร่างเล็กบิดเร้าด้วยความเสียวซ่านยามร่างกายถูกปรนเปรอจากสัมผัสร้อนผ่าวของเขา
Chapter 3‘ชีวิตใหม่ของหลันผิงลั่ว’..เหอมู่เซียงในยามนี้กำลังนั่งมองเสื้อคลุมสตรีตัวนอกที่ถูกทิ้งเอาไว้ภายในห้องคล้ายจะให้เขาดูต่างหน้า หลังจากที่เมื่อคืนร่วมดื่มด่ำวสันต์ด้วยกันเสียจนหมดเรี่ยวแรงหลับไปยามไหนไม่รู้ด้วยซ้ำ แต่ภาพกามาเริงสวาทยังชัดเจนในห้วงความทรงจำทุกอย่างแต่สิ่งที่น่าเจ็บใจคือนางดันขโมยของมีค่าเขาไปเสียหมดตัว แม้แต่รองเท้าของเขานางยังเอาไปจนหมดยามนี้เลยเหลือเพียงชุดตัวในบาง ๆ เท่านั้น รองเท้าก็ไม่มีใส่ออกไปไหนไม่ได้เลยเพราะชาวบ้านได้แตกตื่นถ้าเห็นตนในสภาพนี้เขายกเสื้อคลุมของนางขึ้นสูดดมกลิ่นเสียจนเต็มปอดก่อนที่หูของหมาป่าจะโผล่ออกมาจากใต้ผมของเขาพร้อมพวงหางที่เต็มไปด้วยขนหนานุ่มพวงใหญ่สีดำสนิท กลิ่นของกายสาวมันช่างหอมหวานน่ากินเสียจริงจนเขาอยากจะลิ้มลองกัดกินเนื้อนุ่มดูสักครั้งว่ามันจะอร่อยสักแค่ไหน“นายท่านข้าหาอาภรณ์มาให้ท่านแล้วขอรับ”ชายหนุ่มวัยประมาณ 15-16 วิ่งพรวดพราดเข้ามาภายในห้องจนไม่ทันมองสะดุดเข้ากับธรณีประตูจนหน้าคว่ำเสียงดังโครมไถลมาหยุดตรงแทบเท้าของเหอมู่เซียงเข้าพอดิบพอดีจนจอมปีศาจกลอกตามองบนอย่างเหนื่อยหน่ายใจ“นะ… นายท่าน อาภรณ์ใหม่ขอรับ” อี้ซวน
Chapter 4‘รับผิดชอบ’..ร่างบางขยับตัวเล็กน้อยก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะขยับเปิดขึ้นเมื่อเริ่มมีสติ ภาพเบื้องหน้าเริ่มชัดเจนขึ้นสิ่งแรกที่เห็นเลยคือหลังคาบ้านจึงขยับดวงตามองไปทางด้านข้างพลันดวงตาคู่สวยก็เบิกกว้างด้วยความตกใจสุดขีดเพราะกำลังมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งส่งยิ้มแฉ่งให้นางอยู่“กรี๊... อุ๊บ!”หลันผิงลั่วที่กำลังจะกรี๊ดออกมาอีกรอบหนึ่งเสียงกลับต้องกลืนหายเข้าไปในลำคอเมื่อมือใหญ่เลื่อนมาปิดปากของนางเอาไว้จนแน่น ชนิดที่ว่ากะไม่ให้เสียงสักเสียงมันรอดออกมาเลยมั้ง“ชู่ ๆ” นิ้วเรียวยาวที่มีเล็บแหลมจนน่ากลัวยกขึ้นแนบริมฝีปากพร้อมทำเสียงคล้ายจะบอกให้นางเงียบ“ได้เสียข้าแล้ว ทอดทิ้งกันเช่นนี้มันไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือ?”ข้าได้เสียผิดคนต่างหาก!“ข้าไม่เคยนอนกับสตรีคนไหนมาก่อนเลย เจ้าพรากเอาความบริสุทธิ์ของข้าไปแล้วจะไม่รับผิดชอบความไร้เดียงสาของข้าหน่อยหรือ?”ไร้เดียงสาด้วย! น้ำหน้าเหมือนผ่านประสบการณ์มาโชกโชน“ไม่รู้แหละเจ้าต้องรับผิดชอบข้า”“อือ!” นางร้องประท้วงออกไปในลำคอเมื่อโดนเขาปิดปากเอาไว้เสียจนตอบโต้อะไรไม่ได้ เล่นพูดเองเออเองหมดแบบนี้นางก็ขาดทุนแย่น่ะสิ“อยากให้ปล่อยหรือ?” เขาโน้มใบหน้าเข้
Chapter 5‘เสน่หามิอาจต้านทาน’..ร่างบางขยับโยกไปตามแรงกระแทกกระทั้นที่ส่งผ่านมาจากคนตัวใหญ่ที่กำลังขยับโยกอยู่บนตัวของนางอย่างเร่าร้อน เสียงเตียงไม้ที่ไม่ได้มีคุณภาพดีนักเสียดสีเอี๊ยดอ๊าดสอดคล้องไปกับจังหวะประสานกันเสียงครางหวานดังออกมาสองมือข่วนลงบนแขนใหญ่ที่กำลังเท้าอยู่ด้านข้างลำตัว กักตัวนางเอาไว้ในอ้อมแขนไม่ให้หลีกหนีไปไหน จิตใจคล้ายดั่งล่องลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเหมือนถูกมนต์สะกดให้ลุ่มหลงไปในรสชาติกามราคะที่เขากำลังมอบให้เหอมู่เซียงจับตัวของหลันผิงลั่วให้พลิกขึ้นมาคร่อมทับเขาแทน กลายเป็นนางขึ้นมาอยู่ด้านบนในท่าควบขี่เขาจนใบหน้าแดงซ่าน แรงอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านตอนนี้มันทำให้นางเริ่มขยับโยกในท่วงท่านารีขย่มตอใหญ่ยกสะโพกขึ้นลงเพื่อไม่ให้จังหวะรักมันติดขัด มือเล็กเท้าลงบนหน้าท้องที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อแน่น ๆ จนซิกแพคขึ้นเป็นลูกจับตรงไหนมันก็แน่นไปหมดไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้น มันคล้ายนางถูกมนต์สะกดให้ลุ่มหลงจริง ๆ มันคล้ายคนโดนของที่โดนเขาสัมผัสเพียงนิดร่างกายก็อ่อนระทวยไม่สามารถต่อต้านได้อีก ภายในมันร่ำร้องเรียกหาสัมผัสของเขามากขึ้นมากเสียจนไม่สามารถยับยั้งชั่งใจ
Chapter 7'ไม่รัก'..ไม่ว่าจะผ่านเรื่องอะไรมาสุดท้ายคนอย่างหลันผิงลั่วก็ทำใจได้ นางตัดสินใจเริ่มต้นใหม่ด้วยความมั่นใจถึงแม้จะทำเรื่องน่าอายลงไปแล้ว ความประทับใจแรกมันไม่โอเคงั้นลองความประทับใจสองก็ได้ จิตใจคนเรามันอ่อนไหวอยู่ตลอดเวลาถ้านางใช้มารยาให้มากเสียหน่อยน่าจะเอาชนะใจพ่อพระเอกสุดหล่อได้แต่ตอนนี้ก็ทำใจลำบากเพราะตัวร้ายก็หล่อพระเอกก็หล่อ หล่อไปหมดทุกคน แต่หล่อคนละแบบ พ่อตัวร้ายหล่อแบบเข้ม ๆ อเมริกาโน่เพิ่มช็อตเลย ส่วนพ่อพระเอกก็หล่อแบบนุ่มนวลลาเต้ใส่นมเลย มันก็ดีทั้งคู่แต่ภารกิจคือต้องทำให้พระเอกตกหลุมรักไงนางหอบหิ้วผักสดที่ซื้อจากตลาดมาเต็มอ้อมแขนก่อนจะเดินดูอย่างอื่นเพื่อหาของเข้าบ้านเสียหน่อย จนสายตามองไปเห็นพ่อพระเอกกำลังเดินมาทางนี้พอดี หัวสมองอันชาญฉลาดก็คิดแผนการออกทันทีหลันผิงลั่วแกล้งเดินมาใกล้ ๆ หลี่ซงจวินที่กำลังมองร้านรวงข้างทางอยู่ก่อนจะแกล้งทำเป็นลื่นล้ม ปากก็ร้องกรี๊ดเพื่อให้พ่อพระเอกรู้ตัว ผงผักในอ้อมแขนกระจัดกระจายลอยขึ้นฟ้า ดวงตาคู่สวยหลับตาปี๋เพื่อเตรียมทิ้งตัวลงไปอยู่ในอ้อมแขนของหลี่ซงจวินแบบเต็มที่วงแขนใหญ่โอบกอดร่างบอบบางของนางเอาไว้แล้วดึงเข้าหาจนสัมผ
Chapter 6‘ความประทับใจแรก’..หลันผิงลั่วเดินฮัมเพลงมาอย่างอารมณ์ดีในมือถือถุงขนมปิ้งมาด้วย ส่วนอีกมือก็หยิบขนมปิ้งชิ้นหนึ่งขึ้นมาเคี้ยวตุ้ย ๆ จนแก้มป่อง นางหันมองซ้ายมองขวาเพื่อหาร้านยาจนสายตามองไปเห็นร้านร้านหนึ่งที่ด้านหน้ามีสมุนไพรตากเอาไว้มากมาย ทรงแบบนี้ต้องเป็นร้านยาแน่นอนหญิงสาวก้าวเท้าเข้ามาภายในโรงหมอ สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือกลิ่นสมุนไพรจนตลบอบอวลแทบจะมึนหัว มีผู้คนมากมายกำลังเดินเข้าเดินออกแลดูวุ่นวายดีเหมือนกันสงสัยที่นี่จะรักษาดี นางเดินดูของจนมาถึงส่วนตรวจรักษาที่มีบุรุษหนุ่มในชุดสีขาวสะอาดสะอ้าน ผมยาวสีดำขลับถูกรวบเอาไว้ครึ่งหัว ไม่มีเครื่องประดับอะไรมากนอกจากปิ่นไม้เท่านั้น ช่างดูเรียบง่ายแต่ความเรียบง่ายไม่ได้ทำให้ความรูปงามของเขาน้อยลงเลยเข้าใจแล้วว่าทำไมที่นี่คนเยอะ ก็หมอหล่อขนาดนี้นางรีบมาต่อแถวเข้าคิวรักษาทันที แต่เพราะมองหน้าท่านหมอไม่ถนัดนักจึงพยายามจะชะเง้อคอมองแต่ก็โดนคนด้านหน้าบังไม่พอยังหันมามองแรงใส่นางอีก เลยเลิกมองแล้วต่อแถวนิ่ง ๆ จนถึงคิวของตนเองจึงรีบก้าวเดินมานั่งลงที่เก้าอี้ผ้าสีขาวสะอาดสะอ้านปิดบังใบหน้ารูปงามของเขาไว้ครึ่งหนึ่ง เอาตามตรงเห็นแค่ต
Chapter 6‘ความประทับใจแรก’..หลันผิงลั่วเดินฮัมเพลงมาอย่างอารมณ์ดีในมือถือถุงขนมปิ้งมาด้วย ส่วนอีกมือก็หยิบขนมปิ้งชิ้นหนึ่งขึ้นมาเคี้ยวตุ้ย ๆ จนแก้มป่อง นางหันมองซ้ายมองขวาเพื่อหาร้านยาจนสายตามองไปเห็นร้านร้านหนึ่งที่ด้านหน้ามีสมุนไพรตากเอาไว้มากมาย ทรงแบบนี้ต้องเป็นร้านยาแน่นอนหญิงสาวก้าวเท้าเข้ามาภายในโรงหมอ สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือกลิ่นสมุนไพรจนตลบอบอวลแทบจะมึนหัว มีผู้คนมากมายกำลังเดินเข้าเดินออกแลดูวุ่นวายดีเหมือนกันสงสัยที่นี่จะรักษาดี นางเดินดูของจนมาถึงส่วนตรวจรักษาที่มีบุรุษหนุ่มในชุดสีขาวสะอาดสะอ้าน ผมยาวสีดำขลับถูกรวบเอาไว้ครึ่งหัว ไม่มีเครื่องประดับอะไรมากนอกจากปิ่นไม้เท่านั้น ช่างดูเรียบง่ายแต่ความเรียบง่ายไม่ได้ทำให้ความรูปงามของเขาน้อยลงเลยเข้าใจแล้วว่าทำไมที่นี่คนเยอะ ก็หมอหล่อขนาดนี้นางรีบมาต่อแถวเข้าคิวรักษาทันที แต่เพราะมองหน้าท่านหมอไม่ถนัดนักจึงพยายามจะชะเง้อคอมองแต่ก็โดนคนด้านหน้าบังไม่พอยังหันมามองแรงใส่นางอีก เลยเลิกมองแล้วต่อแถวนิ่ง ๆ จนถึงคิวของตนเองจึงรีบก้าวเดินมานั่งลงที่เก้าอี้ผ้าสีขาวสะอาดสะอ้านปิดบังใบหน้ารูปงามของเขาไว้ครึ่งหนึ่ง เอาตามตรงเห็นแค่ต
Chapter 7'ไม่รัก'..ไม่ว่าจะผ่านเรื่องอะไรมาสุดท้ายคนอย่างหลันผิงลั่วก็ทำใจได้ นางตัดสินใจเริ่มต้นใหม่ด้วยความมั่นใจถึงแม้จะทำเรื่องน่าอายลงไปแล้ว ความประทับใจแรกมันไม่โอเคงั้นลองความประทับใจสองก็ได้ จิตใจคนเรามันอ่อนไหวอยู่ตลอดเวลาถ้านางใช้มารยาให้มากเสียหน่อยน่าจะเอาชนะใจพ่อพระเอกสุดหล่อได้แต่ตอนนี้ก็ทำใจลำบากเพราะตัวร้ายก็หล่อพระเอกก็หล่อ หล่อไปหมดทุกคน แต่หล่อคนละแบบ พ่อตัวร้ายหล่อแบบเข้ม ๆ อเมริกาโน่เพิ่มช็อตเลย ส่วนพ่อพระเอกก็หล่อแบบนุ่มนวลลาเต้ใส่นมเลย มันก็ดีทั้งคู่แต่ภารกิจคือต้องทำให้พระเอกตกหลุมรักไงนางหอบหิ้วผักสดที่ซื้อจากตลาดมาเต็มอ้อมแขนก่อนจะเดินดูอย่างอื่นเพื่อหาของเข้าบ้านเสียหน่อย จนสายตามองไปเห็นพ่อพระเอกกำลังเดินมาทางนี้พอดี หัวสมองอันชาญฉลาดก็คิดแผนการออกทันทีหลันผิงลั่วแกล้งเดินมาใกล้ ๆ หลี่ซงจวินที่กำลังมองร้านรวงข้างทางอยู่ก่อนจะแกล้งทำเป็นลื่นล้ม ปากก็ร้องกรี๊ดเพื่อให้พ่อพระเอกรู้ตัว ผงผักในอ้อมแขนกระจัดกระจายลอยขึ้นฟ้า ดวงตาคู่สวยหลับตาปี๋เพื่อเตรียมทิ้งตัวลงไปอยู่ในอ้อมแขนของหลี่ซงจวินแบบเต็มที่วงแขนใหญ่โอบกอดร่างบอบบางของนางเอาไว้แล้วดึงเข้าหาจนสัมผ
Chapter 5‘เสน่หามิอาจต้านทาน’..ร่างบางขยับโยกไปตามแรงกระแทกกระทั้นที่ส่งผ่านมาจากคนตัวใหญ่ที่กำลังขยับโยกอยู่บนตัวของนางอย่างเร่าร้อน เสียงเตียงไม้ที่ไม่ได้มีคุณภาพดีนักเสียดสีเอี๊ยดอ๊าดสอดคล้องไปกับจังหวะประสานกันเสียงครางหวานดังออกมาสองมือข่วนลงบนแขนใหญ่ที่กำลังเท้าอยู่ด้านข้างลำตัว กักตัวนางเอาไว้ในอ้อมแขนไม่ให้หลีกหนีไปไหน จิตใจคล้ายดั่งล่องลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเหมือนถูกมนต์สะกดให้ลุ่มหลงไปในรสชาติกามราคะที่เขากำลังมอบให้เหอมู่เซียงจับตัวของหลันผิงลั่วให้พลิกขึ้นมาคร่อมทับเขาแทน กลายเป็นนางขึ้นมาอยู่ด้านบนในท่าควบขี่เขาจนใบหน้าแดงซ่าน แรงอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านตอนนี้มันทำให้นางเริ่มขยับโยกในท่วงท่านารีขย่มตอใหญ่ยกสะโพกขึ้นลงเพื่อไม่ให้จังหวะรักมันติดขัด มือเล็กเท้าลงบนหน้าท้องที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อแน่น ๆ จนซิกแพคขึ้นเป็นลูกจับตรงไหนมันก็แน่นไปหมดไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้น มันคล้ายนางถูกมนต์สะกดให้ลุ่มหลงจริง ๆ มันคล้ายคนโดนของที่โดนเขาสัมผัสเพียงนิดร่างกายก็อ่อนระทวยไม่สามารถต่อต้านได้อีก ภายในมันร่ำร้องเรียกหาสัมผัสของเขามากขึ้นมากเสียจนไม่สามารถยับยั้งชั่งใจ
Chapter 4‘รับผิดชอบ’..ร่างบางขยับตัวเล็กน้อยก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะขยับเปิดขึ้นเมื่อเริ่มมีสติ ภาพเบื้องหน้าเริ่มชัดเจนขึ้นสิ่งแรกที่เห็นเลยคือหลังคาบ้านจึงขยับดวงตามองไปทางด้านข้างพลันดวงตาคู่สวยก็เบิกกว้างด้วยความตกใจสุดขีดเพราะกำลังมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งส่งยิ้มแฉ่งให้นางอยู่“กรี๊... อุ๊บ!”หลันผิงลั่วที่กำลังจะกรี๊ดออกมาอีกรอบหนึ่งเสียงกลับต้องกลืนหายเข้าไปในลำคอเมื่อมือใหญ่เลื่อนมาปิดปากของนางเอาไว้จนแน่น ชนิดที่ว่ากะไม่ให้เสียงสักเสียงมันรอดออกมาเลยมั้ง“ชู่ ๆ” นิ้วเรียวยาวที่มีเล็บแหลมจนน่ากลัวยกขึ้นแนบริมฝีปากพร้อมทำเสียงคล้ายจะบอกให้นางเงียบ“ได้เสียข้าแล้ว ทอดทิ้งกันเช่นนี้มันไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือ?”ข้าได้เสียผิดคนต่างหาก!“ข้าไม่เคยนอนกับสตรีคนไหนมาก่อนเลย เจ้าพรากเอาความบริสุทธิ์ของข้าไปแล้วจะไม่รับผิดชอบความไร้เดียงสาของข้าหน่อยหรือ?”ไร้เดียงสาด้วย! น้ำหน้าเหมือนผ่านประสบการณ์มาโชกโชน“ไม่รู้แหละเจ้าต้องรับผิดชอบข้า”“อือ!” นางร้องประท้วงออกไปในลำคอเมื่อโดนเขาปิดปากเอาไว้เสียจนตอบโต้อะไรไม่ได้ เล่นพูดเองเออเองหมดแบบนี้นางก็ขาดทุนแย่น่ะสิ“อยากให้ปล่อยหรือ?” เขาโน้มใบหน้าเข้
Chapter 3‘ชีวิตใหม่ของหลันผิงลั่ว’..เหอมู่เซียงในยามนี้กำลังนั่งมองเสื้อคลุมสตรีตัวนอกที่ถูกทิ้งเอาไว้ภายในห้องคล้ายจะให้เขาดูต่างหน้า หลังจากที่เมื่อคืนร่วมดื่มด่ำวสันต์ด้วยกันเสียจนหมดเรี่ยวแรงหลับไปยามไหนไม่รู้ด้วยซ้ำ แต่ภาพกามาเริงสวาทยังชัดเจนในห้วงความทรงจำทุกอย่างแต่สิ่งที่น่าเจ็บใจคือนางดันขโมยของมีค่าเขาไปเสียหมดตัว แม้แต่รองเท้าของเขานางยังเอาไปจนหมดยามนี้เลยเหลือเพียงชุดตัวในบาง ๆ เท่านั้น รองเท้าก็ไม่มีใส่ออกไปไหนไม่ได้เลยเพราะชาวบ้านได้แตกตื่นถ้าเห็นตนในสภาพนี้เขายกเสื้อคลุมของนางขึ้นสูดดมกลิ่นเสียจนเต็มปอดก่อนที่หูของหมาป่าจะโผล่ออกมาจากใต้ผมของเขาพร้อมพวงหางที่เต็มไปด้วยขนหนานุ่มพวงใหญ่สีดำสนิท กลิ่นของกายสาวมันช่างหอมหวานน่ากินเสียจริงจนเขาอยากจะลิ้มลองกัดกินเนื้อนุ่มดูสักครั้งว่ามันจะอร่อยสักแค่ไหน“นายท่านข้าหาอาภรณ์มาให้ท่านแล้วขอรับ”ชายหนุ่มวัยประมาณ 15-16 วิ่งพรวดพราดเข้ามาภายในห้องจนไม่ทันมองสะดุดเข้ากับธรณีประตูจนหน้าคว่ำเสียงดังโครมไถลมาหยุดตรงแทบเท้าของเหอมู่เซียงเข้าพอดิบพอดีจนจอมปีศาจกลอกตามองบนอย่างเหนื่อยหน่ายใจ“นะ… นายท่าน อาภรณ์ใหม่ขอรับ” อี้ซวน
Chapter 2'พลาดท่าให้ตัวร้าย'..จะว่าไปตัวนางเองก็รู้สึกวูบวาบอยู่เหมือนกัน ความร้อนผ่าวในร่างกายนี้มันเกิดจากอะไรหรือว่านางจะโดนพิษจริง ๆ เหมือนที่เคยอ่านนิยายหรือดูซีรี่ส์อาจจะเป็นพิษจำพวกมีฤทธิ์เพิ่มกำหนัดก็เป็นได้ ตอนนี้เหมือนร่างกายคล้ายจะควบคุมตัวเองไม่ได้“อ๊ะ!” ร่างเล็กถูกจับกดให้นอนลงไปบนเตียงมันทำให้หลันผิงลั่วตกใจไม่น้อย มือเล็กยกขึ้นดันอกกว้างเอาไว้“จะ… เจ้า เจ้าจะทำอะไร”“ข้าไม่ไหว”“มะ… ไม่ไหวอะไร”ริมฝีปากก้มจูบลงมาแทนคำตอบทำเอาหลันผิงลั่วตกใจหน้าเหวอ ริมฝีปากถูกครอบครองและลุกล้ำอย่างเอาแต่ใจจนนางตั้งตัวไม่ทัน มือไม้อ่อนแรงไร้การขัดขืนคล้ายกับถูกมนต์สะกดชวนให้ลุ่มหลงอาจจะเป็นเพราะพิษกำหนัดในกายที่ทำให้รู้สึกต้องการความวาบหวามมากขนาดนี้“จะ… เจ้า นามของเจ้า” เสียงแหบพร่าเอ่ยถามชายหนุ่มที่กำลังร่วมรักกับนาง“เหอมู่เซียง”“เป็นชื่อที่ไพเราะ”นางส่งยิ้มหวานล้ำให้เขา เหอมู่เซียง ชื่อพระเอกของเรื่องนี้สินะ เป็นชื่อที่เพราะสำหรับนางและรู้สึกชอบมาก ๆ พระเอกของนางช่างดีเลิศทั้งรูปร่างหน้าตาและชื่อแซ่ร่างเล็กบิดเร้าด้วยความเสียวซ่านยามร่างกายถูกปรนเปรอจากสัมผัสร้อนผ่าวของเขา
Chapter 1‘พระเอกมาไวไปหรือเปล่า?’..‘ยินดีต้อนรับสู่โลกเสมือนจริงอินฟินี่ ระบบที่จะทำให้คุณสามารถท่องไปในโลกแห่งจินตนาการด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถสรรค์สร้างโลกจากความคิดของคุณออกมาได้อย่างไร้ที่ติ’“พร้อมไหมคะคุณหลัน”“พร้อมค่ะ”หลันผิงลั่ว หญิงสาววัย 22 ปีตอบผ่านหน้าจอมอนิเตอร์ภายในแคปซูลแก้ว เธอเป็นหนึ่งในคนที่ตัดสินใจเข้าร่วมทดลองระบบโลกเสมือนจริงอินฟินี่ เป็นระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์ที่เบื่อหน่ายโลกใบนี้ได้เข้าไปอยู่ในโลกเสมือนจริงแทนเธอไม่มีพ่อแม่หรือญาติพี่น้องเพราะเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่จำความได้ ซ้ำโชคชะตาดันอาภัพสุดขีดเพราะเป็นโรคหัวใจจะตายตอนไหนก็ยังไม่รู้ รู้แค่ว่าคงอยู่ได้ไม่นาน อาการก็หนักขึ้นทุกวัน เลยตัดสินใจเข้าโครงการนี้เพื่อหวังจะไปใช้ชีวิตในโลกเสมือนจริงดีกว่าอย่างน้อยก็ทำให้เธอมีความสุขในระยะเวลาหนึ่งก่อนจะต้องตายในโลกจริง“ทำจิตใจให้ผ่อนคลายค่ะ ไม่มีอะไรน่ากลัว” เสียงจากจอมอนิเตอร์ที่ติดบนฝาแคปซูลแก้วกล่าวขึ้นอีกครั้งหลันผิงลั่วก็พยักหน้ารับ'สวัสดีค่ะ ดิฉันอีฟระบบปัญญาประดิษฐ์ผู้ช่วยของคุณ หลังจากนี้คุณจะได้ยินแค่เสียงของฉันเท่านั้น’