จุดเริ่มต้นของเรื่องราว….
Talk คานส์ @ที่คลับ “ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับนาย” ไอ้โจ้ลูกน้องคนสนิทของผมเดินมาบอกหลังจากที่เดินตรวจรอบ ๆ คลับแล้วไม่เจอสิ่งปกติอะไร สิ่งปกติที่ผมหมายถึงคือพวกที่มันชอบพกปืนเข้ามาแล้วก่อความวุ่นวายในคลับ ถ้าเจอคนพวกนี้ผมจะจัดการมันทิ้งซะ “อื้ม กูจะขึ้นไปตรวจเอกสารข้างบนสักหน่อย” “ครับนาย” “ให้แอลขึ้นไปด้วยไหมคะ ^_^” ผู้หญิงที่นั่งข้างกายของผมเสนอขึ้นมา “ฉันจะขึ้นไปคนเดียว” ผมบอกชัดเจนก่อนจะแกะมือของเธอที่กอดแขนอยู่ออกอย่างรำคาญ “…แต่คานส์คะ” “อย่าให้ต้องพูดย้ำบ่อยๆ ว่าไม่ได้เธอสำคัญกับฉันขนาดนั้น” ผมลุกขึ้นก่อนจะเดินผ่านผู้คนในคลับเพื่อจะขึ้นไปยังชั้นสอง ระหว่างทางมักจะมีสายตาของผู้หญิงมองมาที่ผมอย่างยั่วยวน แต่พวกเธอเหล่านั้นไม่ได้ถูกใจผมเลยสักนิดพรึบ!! จู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งพุ่งเข้ามาหาผม โดยไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับพูดอย่างรนราน
“ชะ ช่วยด้วย ช่วยอลิชด้วย” ใบหน้าหวานยื่นมาใกล้ ผมจึงรีบเอนหน้าหนีก่อนที่ริมฝีปากของเธอจะมาชนเข้ากับริมฝีปากของผม “ช่วยอะไร ?” ผมถาม ก่อนจะมองทางด้านหลังของเธอแล้วเห็นว่ามีผู้ชายเดินตามมาติดๆ “อะ อลิชกลัว” “ผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนกู” ไอ้ผู้ชายคนนั้นพูดก่อนที่มันจะเอื้อมมือมาจับแขนผู้หญิงตรงหน้าผม แต่เธอพยายามจะสะบัดแขนหนีมัน แล้วพูด “อลิชไม่รู้จักเขา อึก ระ ร้อน” ผมปัดมือผู้ชายคนนั้นออกเมื่อได้ยินคำพูดของผู้หญิงตรงหน้า “เธอบอกว่าไม่รู้จักมึง” “เรื่องของผัวเมีย มึงอย่ามาเสือกได้ไหมวะ” “มึงกล้าพูดคำว่าเสือกกับกู ?” ผมขมวดคิ้วมองผู้ชายตรงหน้า “มีอะไรหรือเปล่าครับนาย” ไอ้โจ้วิ่งมาหาผมได้ทันการ มันรีบถามเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ “จัดการมันซะ” ผมบอกสั่นๆ ไอ้โจ้มันรู้งานดีอยู่แล้วไม่ต้องให้พูดอะไรมากความหลังจากออกคำสั่งเสร็จผมก็พาผู้หญิงคนนี้เดินขึ้นมาบนชั้นสอง ในขณะที่เดินอยู่เธอเริ่มอยู่ไม่นิ่ง อาการของเธอแปลกไปจากเมื่อครู่ แถมเธอยังเอามือของผมมาจับที่หน้าอกของตัวเอง ทำให้ผมขมวดคิ้วเป็นปมทันที “ช่วยทำ ช่วยด้วย อะ อลิชร้อน”
ผมกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะเอามือออกจากหน้าอกของเธอ แล้วเบือนหน้าหนีพร้อมกับพูด “เพื่อนเธออยู่ไหน ฉันจะไปส่งที่โต๊ะ” “มะ ไม่รู้ อลิชร้อน ช่วยทำให้หายร้อนได้ไหมคะ” “อยากให้ฉันช่วยอะไร ?” “ทำให้อลิชหายร้อนได้ไหมคะ อลิชไม่ไหวแล้ว” เธอใช้มือลูบไล้ไปตามเนื้อตัวอย่างยั่วยวนผม “เธออยากจะมีเซ็กส์กับผู้ชายแปลกหน้า ?” “ไม่ มะ ไม่ใช่” เธอส่ายหน้ารัวๆ แต่จู่ๆ ก็เอามือมาลูบคลำบนแผงอกของผม “อื้อ อะ อลิชต้องการ” อาการของผู้หญิงตรงหน้าทำให้ผมดูออกได้ไม่ยากว่าเธอต้องโดนยามา ผมคิดสักพักก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก ในเมื่อเธอต้องการ ก็ได้ผมก็จะช่วย “ตามฉันมานี่สิ” ผมพาเธอเดินมาที่ห้อง ผมเรียกห้องนี้ว่าห้องเชือด เมื่อเข้ามาด้านในแล้วผมก็ผลักร่างของเธอในนอนราบลงไปกับเตียง ก่อนจะขึ้นค่อม “ถ้าอยากมากฉันก็จะสนองให้ แต่จำไว้ว่าระหว่างเธอกับฉันมันแค่วันไนต์สแตนด์” “….วันไนต์สแตนด์คืออะไรคะ” ผู้หญิงใต้ร่างของผมเธอขมวดคิ้วทำเหมือนไม่เข้าใจความหมายที่ผมบอก พร้อมกับใช้มือบีบเค้นหน้าอกตัวเองเพราะฤทธิ์ของยา ผมกระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะก้มหน้าลงมากระซิบข้างๆ กับหูของเธอ “พรุ่งนี้ฉันจะลืมว่าเคยมีอะไรกับเธอ เธอเองก็ต้องลืมเหมือนกัน เข้าใจไหมหื้ม” “….อลิชต้องการคุณ” อาการของเธอในตอนนี้เริ่มมีความต้องการรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ผมยกยิ้มมุมปากอีกครั้งก่อนจะก้มลงจูบลงบนริมฝีปากบาง ความนุ่มของริมฝีปากเธอนั้นทำให้ผมอดที่จะใช้เขี้ยวฟันกัดงับไม่ได้ แต่ผู้หญิงใต้ร่างเธอกลับทำเหมือนจูบไม่เป็น “อื้อ~” เสียงเล็กๆ เปล่งออกมาในลำคอ เธอใช้มือผลักผมออกจากตัว แล้วลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าพร้อมกับเอาแต่พูดว่าร้อน เห็นแบบนั้นผมจึงถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกเหมือนกัน เมื่อผมและเธอต่างก็เปลือยกายทั้งคู่ ผมกดร่างของเธอให้นอนราบลงไปอีกครั้งแล้วใช้สายตาสำรวจมองเรือนร่างของเธอ ร่างกายของเธอกำลังสะกดสายตาผม ผมก้มหน้าซุกไซร้ซอกคอโดยไม่ต้องมีคำพูดอะไร เพราะจุดประสงค์ของผมกับเธอคือเซ็กส์ “มั่นใจว่าพรุ่งนี้เช้าเธอจะไม่เสียใจกับสิ่งที่ทำในคืนนี้ ?” “รีบๆ ทำได้ไหมคะ อลิชไม่ไหวแล้ว” เธอแอ่นสะโพกขึ้นลง ทำให้ตรงนั้นเกิดการเสียดสี และแก่นกายของผมมันก็ผงาดขึ้นมาเตรียมพร้อม ผมจับเรียวขาเล็กให้อ้าออกจากกัน ก่อนจะก้มหน้ามองตรงกลางหว่างขาของเธอ พร้อมกับใช้มือกำรูดแก่นกายของตัวเองสามสี่ครั้งแล้วหยิบถุงยางอนามัยมาสวมใส่ จากนั้นก็ค่อยๆ กดส่วนหัวเข้าไปในร่องแคบ แต่!! ก็ต้องชะงักแล้วมองหน้าผู้หญิงที่นอนอยู่ใต้ร่างของตัวเอง “อื้อ จะ เจ็บ อะ เอาออกไปก่อนได้ไหมคะ” “เธอบริสุทธิ์ ?” เธอยกสะโพกขึ้นลงช้าๆ แล้วพูดกระเส่า “ทะ ทำเบาๆ นะคะ อลิชเจ็บ” ถึงปากเธอจะบอกว่าเจ็บแต่ด้วยความที่โดนยา ทำให้เธอมีความต้องการมากกว่าที่จะหยุดทุกอย่างไว้แค่นี้ “อยากให้ทำต่อ ?” ผมค่อยๆ ดันแก่นกายเข้าร่องแคบช้าๆ ในขณะที่ถาม “อื้อ เร็วๆ สิคะ อลิชไม่ไหวแล้ว อ๊ะ จะ เจ็บ” ผมตัดสินใจอัดกระแทกแก่นกายใหญ่ของตัวเองให้เข้าไปในร่องแคบจนมิดลำ ทำให้เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด จากนั้นก็กดแช่แก่นกายไว้ยังไม่ขยับ ก่อนจะก้มหน้าลงตะโบมดูดดุนหน้าอกทั้งสองเต้าเพื่อให้เธอผ่อนคลาย “ขยับสิคะ อ๊า” เมื่อได้ยินเสียงหวานบอกแบบนั้นผมจึงหยัดตัวขึ้น จากนั้นก็เริ่มอัดกระแทกเอวสอบ ร่างบางที่นอนบิดเร้าดิ้นพล่าน เธอเหมือนจะมีความสุข แต่บางครั้งเธอก็ผลักผมออก เหมือนกับว่าความรู้สึกของเธอกำลังตีกันอยู่ในหัว แต่ถึงเธออยากจะให้หยุดตอนนี้ ผมคงทำให้ไม่ได้… ปัก ปัก ปัก! ผมเอื้อมมือบีบเคล้นหน้าอกที่มีขนาดใหญ่เต็มมือ พร้อมกับอัดกระแทกแก่นกายเข้าออกด้วยความเสียวซ่าน ความบริสุทธิ์ของเธอมันกำลังทำให้ผมแทบจะคลั่ง ด้านในตัวเธอมันคับแน่นจนผมแทบอยากจะระเบิดอารมณ์ออกมา ผมไม่สามารถทะนุถนอมเธอได้ถึงแม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกของเธอก็ตาม ทุกครั้งที่ขยับแก่นกายเข้าออกร่องแคบมันคับแน่นจนผมอยากจะปลดปล่อย“อ๊า~” ผมเชิดหน้าขึ้นเมื่อปลดปล่อยน้ำแรกออกมา ส่วนผู้หญิงที่นอนอยู่ใต้ร่างดูเหมือนว่าเธอจะยังมีความต้องการอยู่
“ทะ ทำอีกสิคะ อลิชชอบ อ๊า~” เธอบอกพร้อมกับล่อนสะโพกช้าๆ ผมกระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะดึงแก่นกายออกมาเพื่อจะเปลี่ยนใส่ถุงยางชิ้นใหม่ แต่กลับพบว่าถุงยางที่สวมใส่อยู่มันฉีกขาดตรงส่วนหัว คงเป็นเพราะความคับแน่นของเธอถึงทำให้ถุงยางขาดแบบนี้ “เวรเอ้ย!” ผมสบถออกมาเบาๆ แล้วบอกกับเธอ “พรุ่งนี้เธออย่าลืมซื้อยาคุมกินด้วยล่ะ เข้าใจที่ฉันบอกใช่ไหม ?” “อื้อ ขะ เข้าใจค่ะ ทำต่อได้แล้ว เร็วๆ สิคะ” ยาที่เธอโดนมาคงจะแรงใช่เล่น ถึงทำให้มีความต้องการมากขนาดนี้ ถึงขั้นลืมว่านี่คือครั้งแรก ลืมความเจ็บปวด ผมค่อยๆ ก้มหน้าลงกระซิบบอกเธอ “ฉันทำต่อแน่เด็กน้อย….” ในเมื่อเธอต้องการให้ช่วย ผมก็จะช่วยจนกว่าเธอจะหายอยากTalk อลิช ฉันตื่นขึ้นมาด้วยอาการที่หนักอึ้งไปทั้งหัว เพราะไม่เคยดื่มมาก่อนแต่ถูกแพรเพื่อนสนิทบังคับให้ดื่ม แถมยังบังคับให้ฉันแต่งตัวด้วยชุดที่วาบหวิว นี่ถ้าไม่ใช่วันเกิดของเธอฉันคงไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ๆ เมื่อคืนฉันจำได้ว่าดื่มเหล้าจากแก้วของผู้ชายโต๊ะข้างๆ แล้วก็เมาชนิดที่ว่าจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าตัวเองกลับห้องมาได้ยังไง พอกันทีนี่จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ฉันจะดื่มฉันพยุงตัวเองลุกขึ้นมันรู้สึกหนาวๆ โล่งๆ เหมือนไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า จึงค่อยๆ ก้มลงมองตัวเอง ก่อนที่สายตาของฉันจะเบิกกว้างเมื่อพบว่าท่อนบนของตัวเองไม่มีเสื้อผ้าสวมใส่อยู่เลยสักชิ้น “ยะ อย่าบอกนะว่า….” มือของฉันจับที่ผ้าห่มก่อนจะค่อยๆ เปิดออกดูท้อนล่างของตัวเอง ซึ่งมันก็เปลือยเปล่าไม่ต่างอะไรกับท่อนบน “ฉันเมาหนักถึงขนาดแก้ผ้านอนเลยหรอเนี่ย” อลิชเอ้ย ถ้าพ่อรู้ว่ากินเหล้าจนเมาไม่ได้สติแบบนี้ต้องโดนก้านมะยมตีก้นลายแน่ๆ จู่ๆ ฉันก็รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงใครสักคนหายใจ ซึ่งมันไม่ได้เสียงหายใจของฉันแน่ๆ จึงค่อยๆ หันมองข้างๆ กับตัวเอง และนั่น!! ทำให้ฉันกำลังจะกรี๊ดออกมาแต่ก็ต้องยกมือมาปิดปากตัวเองไว้ เมื่อหันมองข้างๆ ตัวเอง
Talk คานส์ผมลืมตาตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอผู้หญิงคนเมื่อคืนอยู่ในห้อง ไม่รู้ว่าเธอไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แถมยังทิ้งคาบเลือดบริสุทธิ์เอาไว้บนผ้าปูที่นอน ผมค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วสวมใส่เสื้อผ้าอย่างไม่ได้สนใจอะไรมากนัก อย่างที่บอกไว้เมื่อคืนว่าระหว่างเธอกับผมมันเป็นแค่วันไนต์สแตนด์ ผมไม่จำเป็นต้องตามหาเธอ หวังแค่ว่าเธอจะไม่ลืมกินยาคุมตามที่บอกไปเมื่อคืน “นายครับ แม่บ้านบอกว่าเมื่อเช้าเห็นผู้หญิงอยู่ในคลับ….”“อื้ม” ผมพยักหน้ารับรู้ คงจะเป็นเธอคนนั้นที่นอนกับผมเมื่อคืน “ให้แม่บ้านเอาผ้าปูที่นอนมาเปลี่ยนด้วยแล้วกัน”“เอ่อ ได้ครับนาย” ผมเดินมาที่รถเพื่อจะขับไปบ่อนคาสิโน จะไปตรวจความเรียบร้อยสักหน่อยเพราะไม่ได้ไปหลายวัน ช่วงนี้งานที่บริษัทค่อนข้างยุ่งเลยไม่ค่อยมีเวลาไปตรวจดูงานที่อื่นเท่าไหร่ “ก็แค่วันไนต์สแตนด์จะสนใจทำไมวะ!!” ผมบ่นพึมพำเบาๆ ยอมรับว่าความบริสุทธิ์ของเธอมันทำให้ผมติดใจ ในขณะที่กำลังขับรถอยู่สมองของผมมันเอาแต่คิดวกวนอยู่กับเรื่องเมื่อคืน น้ำเสียงหวานๆ กับร่างกายของผู้หญิงคนนั้นยังวนเวียนอยู่ในหัวของผม มันทำให้รู้สึกหงุดหงิดฉิบ!! Talk อลิชฉันนั่งคิดกระวนกระวายใจอยู่นานสองนาน และได้ข้อ
ฉันภาวนาขอให้มีคนมาช่วยดึงคุณคานส์ออกไป ใครก็ได้ ตอนนี้ฉันเกร็งไปทั้งตัวจนฉี่จะลาดอยู่แล้ว “เธอชื่ออะไร” “……” ทะ ทำไงดี ฉันจะตอบคุณคานส์ว่าชื่ออะไรดี ไม่รู้ว่าเมื่อคืนนั้นฉันได้แทนตัวเองกับเขาว่าอลิชหรือเปล่าด้วยสิ “ฉันถามทำไมถึงไม่ตอบ” ครั้งนี้เขาทำเสียงดุใส่ฉัน“ชะ ชื่อ ชื่อ….” “นายครับคุณธนามารอแล้วครับ” ในขณะที่ฉันกำลังเกร็งจนฉี่จะลาดอยู่นั้น เสียงของใครสักคนก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ เขารีบวิ่งมาหาคุณคานส์ราวกับมีธุระด่วน พระเจ้าช่วยฉันแล้ว!! “ขอตัวก่อนนะคะ” ฉันรีบสับขาเดินฉับๆ ไม่สนใจเลยว่าจะถูกสายตาของคุณคานส์มองแบบไหน ตอนนี้ขอเพียงแค่ได้เดินออกมาไกลจากเขาเมื่อเดินเข้ามาในลิฟต์ได้แล้วฉันก็ถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก เหตุการณ์เมื่อครู่มันยิ่งตอกย้ำว่าฉันควรจะลาออก เมื่อเดินมาถึงที่โต๊ะทำงานฉันวางของไว้แล้วรีบไปเขียนใบลาออกไปยื่น เสร็จแล้วก็กลับมาเก็บของที่โต๊ะ “อลิชเก็บของทำไม” โมเมเธอคืิเพื่อนในบริษัทที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ กับฉัน เธอเอ่ยถามอย่างแปลกใจเมื่อเห็นว่าฉันเอาแต่เก็บของ “ฉันลาออกแล้วน่ะ” ฉันตอบก่อนจะยิ้มแห้งแล้วก้มหน้าเก็บของต่อ “ห๊ะ! เธอลาออกทำไม มีปัญห
ฉันมาหาแพรเพื่อนสนิทที่ร้านคอฟฟี่ ซึ่งเป็นร้านของเธอเอง แพรเป็นเพื่อนฉันตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยและเราสนิทกันมากจนถึงตอนนี้ แพรเธอเป็นลูกเศรษฐีนะแต่ชอบใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายมากกว่า “ลมอะไรหอบแกมาถึงที่นี่ ไม่ทำงานหรือไง” แพรเดินมาหาฉันที่นั่งรออยู่พร้อมกับเอาเค้กช็อกโกแลตที่ฉันชอบมาให้ “ฉันลาออกแล้ว” “ห๊ะ! แกลาออก ทำไมเป็นงั้นล่ะออกทำไม ไหนแกบอกว่างานดีเงินดี” แพรตกใจมากที่ได้ยินฉันบอกแบบนั้น“ฉันอยากกลับไปทำงานใกล้บ้านมากกว่าน่ะ” “แกไม่ได้มีปัญหาอะไรกับคนในบริษัทใช่ไหมอลิช”“จะบ้าหรือไง! อย่างฉันจะไปกล้ามีปัญหากับใครได้” “วันก่อนแกโทรมาถามฉันเรื่องที่เปิดบริสุทธิ์จะรู้สึกยังไง นี่อย่าบอกนะว่าแก….” แพรยกมือขึ้นมาปิดปากแล้วมองหน้าฉันตาค้าง “บะ บ้าหรือไง หยุดความคิดบ้าๆ ของแกเดี๋ยวนี้เลยนะ”พอฉันบอกแบบนั้นแพรก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ แล้วมองฉันด้วยสายตาจับผิด “ดูเหมือนกับว่าแกกำลังมีอะไรที่ปิดบังฉันอยู่นะอลิช” เฮือก!! ว่าแล้วไงถ้าอยู่ต่อหน้าฉันต้องพลาดท่าทำตัวมีพิรุธให้แพรจับได้แน่ๆ “แกเถอะทำไมถึงรู้ว่าเปิดบริสุทธิ์เป็นยังไง แกเคยแล้วใช่ไหม” ฉันถามกลับเพราะกลัวจะถูกจับพิรุธได้ และมันก็
ฉันไม่ได้กินก๋วยเตี๋ยว หลังจากอ้วกเสร็จก็ขอพี่เอ็มกลับมาที่บริษัทเลย เมื่อมาถึงโต๊ะทำงานฉันก็ฟุบหน้าหลับที่โต๊ะเพราะรู้สึกเพลียเอามากๆ นอนหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ฉันต้องสะดุ้งตื่นเพราะมีคนมาสะกิด ฉันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเห็นว่าเป็นพี่เอ็ม และในตอนนี้พนักงานคนอื่นๆ ก็มานั่งประจำที่ที่โต๊ะทำงานกันหมดแล้ว “อะ อลิชขอโทษค่ะ” ฉันรีบก้มหน้าขอโทษพี่เอ็มเพราะรู้สึกผิดที่ตัวเองนอนหลับ ไม่ได้ตั้งใจทำงาน “พี่ไม่ได้ว่าอะไร ลางานครึ่งวันไหมตอนนี้หน้าอลิชซีดมากเลยนะ”“ไม่เป็นไรค่ะอลิชไหว” “ตอนเที่ยงอ้วกขนาดนั้นจะไหวได้ยังไง กลับบ้านก่อนพี่อนุญาตให้ลาหยุดพรุ่งนี้ด้วย”“แต่อลิช…”“อย่าฝืนร่างกายตัวเองสิอลิช พี่เป็นห่วง” สายตาของพี่เอ็มที่มองอยู่มันทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นเอามากๆ “ขอบคุณค่ะ ถ้าอลิชหายดีแล้วจะรีบกลับมาทำงานนะคะ ^_^” “รีบๆ หายล่ะ ไม่เจอหน้าอลิชพี่คงเหงาแย่”“พี่เอ็มก็ชอบพูดเล่นอยู่เรื่อยเลยนะคะ” “พี่พูดจริงๆ นะครับ” ฉันนิ่งไปเมื่อได้เห็นสีหน้าที่จริงจังของพี่เอ็ม จู่ๆ มันก็รู้สึกมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก “งะ งั้นอลิชกลับบ้านก่อนนะคะ”“เดี๋ยวพี่เดินไปส่งที่รถ”“มะ ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันหยิบก
เมื่อรู้ผลว่าตัวเองท้อง ตอนนี้เหมือนกับว่าทุกสั่งรอบๆ ตัวของฉันมันหยุดนิ่ง เหมือนโลกหยุดหมุน ฉันสะตั้นไปนานพอสมควรพร้อมกับหยดน้ำตาที่มันไหลลงมาอาบแก้ม เมื่อตั้งสติได้แล้วฉันก็กลัวไปหมด กลัวว่าพ่อจะรู้ กลัวว่าพ่อจะด่า เรื่องแบบนี้พ่อต้องไม่ยินดีแน่ๆ “ทำไมฉันถึงพลาดท่าแบบนี้ได้” ฉันก้มหน้าลงเช็ดน้ำตาออกจากแก้ม แต่ยิ่งเช็ดน้ำตามันก็ยิ่งไหลลงมาอาบแก้ม ฉันท้องนั่นหมายความว่าท้องไม่มีพ่อ ถึงจะรู้อยู่เต็มอกว่าใครคือพ่อของเด็กในท้อง แต่ฉันก็ไม่สามารถไปเรียกร้องไห้เขามารับผิดชอบอะไรได้ ฉันกำที่ตรวจครรภ์ในมือแน่น มันมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวว่าฉันควรจะ ‘ทำแท้ง’ “อึก~ ฉันจะกล้าทำแบบนั้นได้ยังไง มันบาปนะ” ตอนนี้ฉันกำลังเถียงกับความคิดของตัวเอง แน่นอนว่าฉันไม่กล้าทำแท้ง ฉะ ฉันควรจะทำยังไงดี นี่มันเป็นความผิดพลาดที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ไม่เคยคิดเลยจริงๆ ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยมือที่สั่นเทา ตอนนี้ฉันยังไม่กล้าบอกพ่อแน่ๆ แต่มีหนึ่งคนที่ฉันอยากจะปรึกษานั่นคือแพร ( ฮาย! ว่าไงแกฉันเพิ่งปิดร้านเสร็จนี่เอง ) ( แพร อึก ) พอได้ยินเสียงเพื่อนฉันก็เริ่มสะอื้นหนักขึ้น ทำให้แพรถามอย
ฉันพยายามเรียกสติของตัวเองกลับมา เพราะกลัวว่าจะถูกพ่อสงสัยหากร้องไห้จนตาบวม หลังจากที่ล้างหน้าล้างตาอะไรเรียบร้อยแล้วฉันก็ออกมาข้างนอกเพื่อสูดอากาศ สมองจะได้โล่งๆ ฉันเครียดมาจะครึ่งวันแล้ว จะปล่อยให้ตัวเองเป็นแบบนี้ไม่ได้ “พ่อ กะ กลับมาแล้วหรอคะ” เดินออกมาไม่ทันไม่ต้องจัว พอเห็นพ่อขึ้นบ้านมาฉันจึบทำตัวไม่ถูก “เอ้อๆ วันนี้งานเสร็จเร็ว” พ่อเดินมานั่งที่โซฟา ฉันจึงรีบไปเอาน้ำมาให้ “แล้วนี่อลันมันจะกลับมาบ้านเมื่อไหร่ ไอ้ลูกคนนี้พ่อโทรไปก็ไม่ยอมรับสาย” “คงปิดเทอมนั่นแหละพ่อ”“ให้มันได้แบบนี้สิ ไม่คิดถึงพ่อกับพี่สาวบ้างเลยหรือไง” ฉันเอาแก้วน้ำวางไว้ให้พ่อ จากนั้นก็นั่งลง ใจมันเต้นรัวๆ เมื่อคิดว่าจะถามเรื่องท้อง แค่เห็นหน้าพ่อปากฉันมันก็ไม่กล้าขยับแล้ว “แล้วนี่หายป่วยหรือยัง พ่อบอกจะพาไปโรงพยาบาลก็ไม่ยอมไป” “หะ หายแล้วค่ะ” “หายแล้วรึ แต่หน้าลูกยังซีดอยู่เลยนะ” พ่อมองหน้าฉันอย่างเป็นห่วง “เดี๋ยวพ่อโทรให้หมอมาตรวจที่บ้านดีไหมถ้าลูกไม่อยากนั่งรถไป” “พ่อคะ หนูโอเคแล้วค่ะสบายมาก ^_^” “ได้ยินแบบนี้พ่อก็ค่อยหายหวงขึ้นมาหน่อย” “พะ พ่อคะ คือว่า อลิชอยากจะถามอะไรพ่อสักอย่าง”“ว่ามาสิ ถามอ
พ่อโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ทำให้ฉันที่กำลังกอดขาพ่อไว้อยู่รู้สึกกลัวจนตัวสั่น “พ่อถามทำไมถึงไม่ยอมตอบ!!” พ่อผลักฉันออก ดีที่แพรมาประคองไว้ “ลูกไม่มีแฟน ทำไมถึงท้องได้หรือมีแฟนแล้วไม่ยอมบอกพ่อ” “อึก อลิช อึก~ ไม่มีแฟนค่ะ” “ไม่มีแฟนแล้วลูกจะท้องได้ยังไง !!” พ่อตวาดถามเสียงดัง “อย่าบอกนะว่าท้องไม่มีพ่อ” “อลิชขอโทษ อึก~” “อลิชทำไมแกไม่พูดความจริง แกยอมรับแบบนี้ได้ยังไง” แพรถามเพราะฉันไม่ค้านอะไรทั้งนั้นเรื่องที่พ่อถามว่าฉันท้องไม่มีพ่อ “เห็นแต่ลูกคนอื่นไม่เคยคิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้กับลูกตัวเอง ทำแบบนี้แล้วพ่อจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” “อึก~” ฉันก้มหน้าสะอื้นออกมาจนสุดเสียง เกร็งไปหมดทั้งตัว “บอกพ่อมาว่าได้ผู้ชายคนนั้นมันเป็นใคร พ่อจะไปลากตัวมันมารับผิดชอบ พ่อไม่ยอมให้ลูกท้องไม่มีพ่อแบบนี้แน่ๆ!!”“…….” ฉันไม่ยอมบอกว่าผู้ชายที่เป็นพ่อของเด็กในท้องคือ ‘คุณคานส์’“อลิช!! บอกพ่อมาลูกจะปกป้องมันทำไม อยากอายชาวบ้านเขาหรือไง”“พะ พ่อคะ เด็กคนนี้อลิชจะเลี้ยงเขาเอง อึก~” “ไม่มีทาง! ใครที่มันทำกับลูกสาวกำนันเพิ่มแบบนี้ มันจะต้องรับผิดชอบ” พ่อประกาศกร้าว ท่าทางไม่ยอมลดละง่ายๆ แน่ “พ่อ อึก~” “อยากท