ผมเดินมาที่รถเพื่อจะขับไปบ่อนคาสิโน จะไปตรวจความเรียบร้อยสักหน่อยเพราะไม่ได้ไปหลายวัน ช่วงนี้งานที่บริษัทค่อนข้างยุ่งเลยไม่ค่อยมีเวลาไปตรวจดูงานที่อื่นเท่าไหร่
“ก็แค่วันไนต์สแตนด์จะสนใจทำไมวะ!!” ผมบ่นพึมพำเบาๆ ยอมรับว่าความบริสุทธิ์ของเธอมันทำให้ผมติดใจ ในขณะที่กำลังขับรถอยู่สมองของผมมันเอาแต่คิดวกวนอยู่กับเรื่องเมื่อคืน น้ำเสียงหวานๆ กับร่างกายของผู้หญิงคนนั้นยังวนเวียนอยู่ในหัวของผม มันทำให้รู้สึกหงุดหงิดฉิบ!! Talk อลิช ฉันนั่งคิดกระวนกระวายใจอยู่นานสองนาน และได้ข้อสรุปว่าพรุ่งนี้จะลาออก ฉันไม่สามารถทำงานต่อไปได้จริงๆ เรื่องลาออกฉันคงยังไม่บอกพ่อ เอาไว้กลับไปบอกที่บ้านจะดีกว่า โชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุด หากฉันต้องไปทำงานวันนี้ต้องไม่มีกระจิตกระใจทำงานแน่ๆ วันนี้ทั้งวันฉันพยายามหาอะไรทำเพื่อให้ตัวเองลืมความคิดบ้าๆ ถึงแม้ว่ามันจะยังรู้สึกเจ็บที่ตรงนั้นแต่ฉันก็ไม่สามารถอยู่นิ่งเฉยได้ ก๊อกๆ เสียงเคาะห้องดังขึ้นมา ฉันที่กำลังกวาดเก็บห้องอยู่จึงรีบมาเปิดประตู “อลันมาทำไม” อลันคือน้องชายของฉัน ตอนนี้เขากำลังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ปีหนึ่ง ส่วนฉันน่ะเพิ่งเรียนจบได้งานทำก็ต้องลาออกแล้วสิ เฮ้อ ห้องของอลันอยู่ตรงข้ามกับห้องฉัน จริงๆ พ่อจะให้มาอยู่กับฉันแต่อลันเป็นคนที่โลกส่วนตัวสูงเลยขออยู่อีกห้อง “หิว ทำอะไรให้กินหน่อยดิ” “ทำไมไม่รู้จักหากินเองบ้าง จะรอให้พี่ทำให้กินตลอดเลยหรือไงอลัน” “เร็วๆ นะ หิว” อลันเดินไปนั่งลงบนโซฟาเพื่อรอฉัน ทำให้ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วส่ายหน้าไปมาให้กับน้องชายตัวเอง ไม่รู้จักโตเลยจริงๆวันต่อมา….
ฉันใส่แมสปิดหน้าเข้ามาที่บริษัทเพื่อจะมายื่นใบลาออก สาเหตุที่ต้องปิดแมสก็เพราะว่ากลัวเจอกับคุณคานส์แล้วเขาจำฉันได้ อย่างที่บอกว่าฉันไม่อยากถูกมองว่าง่าย ถึงแม้จะเสียความบริสุทธิ์ให้เขาไปแล้วแต่ฉันก็ไม่ได้จะเรียกร้องให้มารับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เขาเป็นถึงเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่จะมาสนใจผู้หญิงบ้านนอกอย่างฉันทำไมล่ะจริงไหม… พรึบ!! ในขณะที่กำลังเดินๆ อยู่ ฉันซุ่มซ่ามไปชนกับใครก็ไม่รู้เข้า เพราะเอาแต่ก้มหน้าก้มตาจึงมองไม่เห็นทาง แถมกระเป๋าก็หล่นลงพื้นทำให้ของตกกระจายไปหมด “ไม่มีตาหรือไง!!” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามฉันอย่างไม่สบอารมณ์ “ขะ ขอโทษค่ะ” ฉันรีบขอโทษก่อนจะมองผู้ชายที่ตัวเองชน หัวใจดวงน้อยมันแทบจะหยุดเต้นเมื่อเห็นผู้ชายตรงหน้าเขาคือ ‘คุณคานส์’ นี่มันบังเอิญเกินไปแล้วนะ ตั้งแต่เข้ามาทำงานที่บริษัทฉันไม่เคยเจอเขาแบบประจันหน้าแต่ทำไมวันนี้ถึงเจอ ฉันนั่งลงที่พื้นแล้วรีบเก็บของที่หล่นพื้นอย่างรนราน โดยที่คุณคานส์ก็ยังยืนอยู่ไม่ยอมเดินไปไหน ขะ เขาจำฉันไม่ได้ใช่ไหม ตอนนี้มือไม้มันสั่นจนทำอะไรแทบไม่ถูกแล้ว เมื่อเก็บของเสร็จฉันก็ลุกขึ้นยืนแล้วเหลือบตามองคุณคานส์ ตอนนี้เขายังมองฉันอยู่แถมยังขมวดคิ้วเป็นปมเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่สักอย่าง “จะ ขอตัวก่อนนะคะ” ฉันรีบเดินผ่านหน้าคุณคานส์ทันที “เดี๋ยว!!” เสียงทุ้มเข้มของคุณคานส์ดังขึ้น ขาของฉันมันหยุดชะงักไปเองเมื่อได้ยินเสียงของเขา บ้าจริง! ฉันจะหยุดเดินทำไม เสียงฝีเท้าย้ำหนักๆ มาใกล้ๆ กับฉันที่ยืนหันหลังอยู่ คุณคานส์เดินมาหยุดตรงหน้าฉัน จากนั้นเขาก็โน้มใบหน้าลงมาใกล้ๆ มันแทบจะกลั้นหายใจเลยก็ว่าได้ตอนนี้ “ทำไมกลิ่นเธอถึงได้เหมือนกับ….” เขาหยุดพูดแล้วคิดอะไรอยู่สักอย่าง ตอนนี้หัวใจของฉันมันเต้นแรงเอามากๆฉันภาวนาขอให้มีคนมาช่วยดึงคุณคานส์ออกไป ใครก็ได้ ตอนนี้ฉันเกร็งไปทั้งตัวจนฉี่จะลาดอยู่แล้ว “เธอชื่ออะไร” “……” ทะ ทำไงดี ฉันจะตอบคุณคานส์ว่าชื่ออะไรดี ไม่รู้ว่าเมื่อคืนนั้นฉันได้แทนตัวเองกับเขาว่าอลิชหรือเปล่าด้วยสิ “ฉันถามทำไมถึงไม่ตอบ” ครั้งนี้เขาทำเสียงดุใส่ฉัน“ชะ ชื่อ ชื่อ….” “นายครับคุณธนามารอแล้วครับ” ในขณะที่ฉันกำลังเกร็งจนฉี่จะลาดอยู่นั้น เสียงของใครสักคนก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ เขารีบวิ่งมาหาคุณคานส์ราวกับมีธุระด่วน พระเจ้าช่วยฉันแล้ว!! “ขอตัวก่อนนะคะ” ฉันรีบสับขาเดินฉับๆ ไม่สนใจเลยว่าจะถูกสายตาของคุณคานส์มองแบบไหน ตอนนี้ขอเพียงแค่ได้เดินออกมาไกลจากเขาเมื่อเดินเข้ามาในลิฟต์ได้แล้วฉันก็ถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก เหตุการณ์เมื่อครู่มันยิ่งตอกย้ำว่าฉันควรจะลาออก เมื่อเดินมาถึงที่โต๊ะทำงานฉันวางของไว้แล้วรีบไปเขียนใบลาออกไปยื่น เสร็จแล้วก็กลับมาเก็บของที่โต๊ะ “อลิชเก็บของทำไม” โมเมเธอคืิเพื่อนในบริษัทที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ กับฉัน เธอเอ่ยถามอย่างแปลกใจเมื่อเห็นว่าฉันเอาแต่เก็บของ “ฉันลาออกแล้วน่ะ” ฉันตอบก่อนจะยิ้มแห้งแล้วก้มหน้าเก็บของต่อ “ห๊ะ! เธอลาออกทำไม มีปัญห
ฉันมาหาแพรเพื่อนสนิทที่ร้านคอฟฟี่ ซึ่งเป็นร้านของเธอเอง แพรเป็นเพื่อนฉันตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยและเราสนิทกันมากจนถึงตอนนี้ แพรเธอเป็นลูกเศรษฐีนะแต่ชอบใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายมากกว่า “ลมอะไรหอบแกมาถึงที่นี่ ไม่ทำงานหรือไง” แพรเดินมาหาฉันที่นั่งรออยู่พร้อมกับเอาเค้กช็อกโกแลตที่ฉันชอบมาให้ “ฉันลาออกแล้ว” “ห๊ะ! แกลาออก ทำไมเป็นงั้นล่ะออกทำไม ไหนแกบอกว่างานดีเงินดี” แพรตกใจมากที่ได้ยินฉันบอกแบบนั้น“ฉันอยากกลับไปทำงานใกล้บ้านมากกว่าน่ะ” “แกไม่ได้มีปัญหาอะไรกับคนในบริษัทใช่ไหมอลิช”“จะบ้าหรือไง! อย่างฉันจะไปกล้ามีปัญหากับใครได้” “วันก่อนแกโทรมาถามฉันเรื่องที่เปิดบริสุทธิ์จะรู้สึกยังไง นี่อย่าบอกนะว่าแก….” แพรยกมือขึ้นมาปิดปากแล้วมองหน้าฉันตาค้าง “บะ บ้าหรือไง หยุดความคิดบ้าๆ ของแกเดี๋ยวนี้เลยนะ”พอฉันบอกแบบนั้นแพรก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ แล้วมองฉันด้วยสายตาจับผิด “ดูเหมือนกับว่าแกกำลังมีอะไรที่ปิดบังฉันอยู่นะอลิช” เฮือก!! ว่าแล้วไงถ้าอยู่ต่อหน้าฉันต้องพลาดท่าทำตัวมีพิรุธให้แพรจับได้แน่ๆ “แกเถอะทำไมถึงรู้ว่าเปิดบริสุทธิ์เป็นยังไง แกเคยแล้วใช่ไหม” ฉันถามกลับเพราะกลัวจะถูกจับพิรุธได้ และมันก็
ฉันไม่ได้กินก๋วยเตี๋ยว หลังจากอ้วกเสร็จก็ขอพี่เอ็มกลับมาที่บริษัทเลย เมื่อมาถึงโต๊ะทำงานฉันก็ฟุบหน้าหลับที่โต๊ะเพราะรู้สึกเพลียเอามากๆ นอนหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ฉันต้องสะดุ้งตื่นเพราะมีคนมาสะกิด ฉันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเห็นว่าเป็นพี่เอ็ม และในตอนนี้พนักงานคนอื่นๆ ก็มานั่งประจำที่ที่โต๊ะทำงานกันหมดแล้ว “อะ อลิชขอโทษค่ะ” ฉันรีบก้มหน้าขอโทษพี่เอ็มเพราะรู้สึกผิดที่ตัวเองนอนหลับ ไม่ได้ตั้งใจทำงาน “พี่ไม่ได้ว่าอะไร ลางานครึ่งวันไหมตอนนี้หน้าอลิชซีดมากเลยนะ”“ไม่เป็นไรค่ะอลิชไหว” “ตอนเที่ยงอ้วกขนาดนั้นจะไหวได้ยังไง กลับบ้านก่อนพี่อนุญาตให้ลาหยุดพรุ่งนี้ด้วย”“แต่อลิช…”“อย่าฝืนร่างกายตัวเองสิอลิช พี่เป็นห่วง” สายตาของพี่เอ็มที่มองอยู่มันทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นเอามากๆ “ขอบคุณค่ะ ถ้าอลิชหายดีแล้วจะรีบกลับมาทำงานนะคะ ^_^” “รีบๆ หายล่ะ ไม่เจอหน้าอลิชพี่คงเหงาแย่”“พี่เอ็มก็ชอบพูดเล่นอยู่เรื่อยเลยนะคะ” “พี่พูดจริงๆ นะครับ” ฉันนิ่งไปเมื่อได้เห็นสีหน้าที่จริงจังของพี่เอ็ม จู่ๆ มันก็รู้สึกมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก “งะ งั้นอลิชกลับบ้านก่อนนะคะ”“เดี๋ยวพี่เดินไปส่งที่รถ”“มะ ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันหยิบก
เมื่อรู้ผลว่าตัวเองท้อง ตอนนี้เหมือนกับว่าทุกสั่งรอบๆ ตัวของฉันมันหยุดนิ่ง เหมือนโลกหยุดหมุน ฉันสะตั้นไปนานพอสมควรพร้อมกับหยดน้ำตาที่มันไหลลงมาอาบแก้ม เมื่อตั้งสติได้แล้วฉันก็กลัวไปหมด กลัวว่าพ่อจะรู้ กลัวว่าพ่อจะด่า เรื่องแบบนี้พ่อต้องไม่ยินดีแน่ๆ “ทำไมฉันถึงพลาดท่าแบบนี้ได้” ฉันก้มหน้าลงเช็ดน้ำตาออกจากแก้ม แต่ยิ่งเช็ดน้ำตามันก็ยิ่งไหลลงมาอาบแก้ม ฉันท้องนั่นหมายความว่าท้องไม่มีพ่อ ถึงจะรู้อยู่เต็มอกว่าใครคือพ่อของเด็กในท้อง แต่ฉันก็ไม่สามารถไปเรียกร้องไห้เขามารับผิดชอบอะไรได้ ฉันกำที่ตรวจครรภ์ในมือแน่น มันมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวว่าฉันควรจะ ‘ทำแท้ง’ “อึก~ ฉันจะกล้าทำแบบนั้นได้ยังไง มันบาปนะ” ตอนนี้ฉันกำลังเถียงกับความคิดของตัวเอง แน่นอนว่าฉันไม่กล้าทำแท้ง ฉะ ฉันควรจะทำยังไงดี นี่มันเป็นความผิดพลาดที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ไม่เคยคิดเลยจริงๆ ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยมือที่สั่นเทา ตอนนี้ฉันยังไม่กล้าบอกพ่อแน่ๆ แต่มีหนึ่งคนที่ฉันอยากจะปรึกษานั่นคือแพร ( ฮาย! ว่าไงแกฉันเพิ่งปิดร้านเสร็จนี่เอง ) ( แพร อึก ) พอได้ยินเสียงเพื่อนฉันก็เริ่มสะอื้นหนักขึ้น ทำให้แพรถามอย
ฉันพยายามเรียกสติของตัวเองกลับมา เพราะกลัวว่าจะถูกพ่อสงสัยหากร้องไห้จนตาบวม หลังจากที่ล้างหน้าล้างตาอะไรเรียบร้อยแล้วฉันก็ออกมาข้างนอกเพื่อสูดอากาศ สมองจะได้โล่งๆ ฉันเครียดมาจะครึ่งวันแล้ว จะปล่อยให้ตัวเองเป็นแบบนี้ไม่ได้ “พ่อ กะ กลับมาแล้วหรอคะ” เดินออกมาไม่ทันไม่ต้องจัว พอเห็นพ่อขึ้นบ้านมาฉันจึบทำตัวไม่ถูก “เอ้อๆ วันนี้งานเสร็จเร็ว” พ่อเดินมานั่งที่โซฟา ฉันจึงรีบไปเอาน้ำมาให้ “แล้วนี่อลันมันจะกลับมาบ้านเมื่อไหร่ ไอ้ลูกคนนี้พ่อโทรไปก็ไม่ยอมรับสาย” “คงปิดเทอมนั่นแหละพ่อ”“ให้มันได้แบบนี้สิ ไม่คิดถึงพ่อกับพี่สาวบ้างเลยหรือไง” ฉันเอาแก้วน้ำวางไว้ให้พ่อ จากนั้นก็นั่งลง ใจมันเต้นรัวๆ เมื่อคิดว่าจะถามเรื่องท้อง แค่เห็นหน้าพ่อปากฉันมันก็ไม่กล้าขยับแล้ว “แล้วนี่หายป่วยหรือยัง พ่อบอกจะพาไปโรงพยาบาลก็ไม่ยอมไป” “หะ หายแล้วค่ะ” “หายแล้วรึ แต่หน้าลูกยังซีดอยู่เลยนะ” พ่อมองหน้าฉันอย่างเป็นห่วง “เดี๋ยวพ่อโทรให้หมอมาตรวจที่บ้านดีไหมถ้าลูกไม่อยากนั่งรถไป” “พ่อคะ หนูโอเคแล้วค่ะสบายมาก ^_^” “ได้ยินแบบนี้พ่อก็ค่อยหายหวงขึ้นมาหน่อย” “พะ พ่อคะ คือว่า อลิชอยากจะถามอะไรพ่อสักอย่าง”“ว่ามาสิ ถามอ
พ่อโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ทำให้ฉันที่กำลังกอดขาพ่อไว้อยู่รู้สึกกลัวจนตัวสั่น “พ่อถามทำไมถึงไม่ยอมตอบ!!” พ่อผลักฉันออก ดีที่แพรมาประคองไว้ “ลูกไม่มีแฟน ทำไมถึงท้องได้หรือมีแฟนแล้วไม่ยอมบอกพ่อ” “อึก อลิช อึก~ ไม่มีแฟนค่ะ” “ไม่มีแฟนแล้วลูกจะท้องได้ยังไง !!” พ่อตวาดถามเสียงดัง “อย่าบอกนะว่าท้องไม่มีพ่อ” “อลิชขอโทษ อึก~” “อลิชทำไมแกไม่พูดความจริง แกยอมรับแบบนี้ได้ยังไง” แพรถามเพราะฉันไม่ค้านอะไรทั้งนั้นเรื่องที่พ่อถามว่าฉันท้องไม่มีพ่อ “เห็นแต่ลูกคนอื่นไม่เคยคิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้กับลูกตัวเอง ทำแบบนี้แล้วพ่อจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” “อึก~” ฉันก้มหน้าสะอื้นออกมาจนสุดเสียง เกร็งไปหมดทั้งตัว “บอกพ่อมาว่าได้ผู้ชายคนนั้นมันเป็นใคร พ่อจะไปลากตัวมันมารับผิดชอบ พ่อไม่ยอมให้ลูกท้องไม่มีพ่อแบบนี้แน่ๆ!!”“…….” ฉันไม่ยอมบอกว่าผู้ชายที่เป็นพ่อของเด็กในท้องคือ ‘คุณคานส์’“อลิช!! บอกพ่อมาลูกจะปกป้องมันทำไม อยากอายชาวบ้านเขาหรือไง”“พะ พ่อคะ เด็กคนนี้อลิชจะเลี้ยงเขาเอง อึก~” “ไม่มีทาง! ใครที่มันทำกับลูกสาวกำนันเพิ่มแบบนี้ มันจะต้องรับผิดชอบ” พ่อประกาศกร้าว ท่าทางไม่ยอมลดละง่ายๆ แน่ “พ่อ อึก~” “อยากท
“ฉันขอโทษนะอลิชที่พูดไปแบบนั้น ถ้าฉันไม่พูดพ่อแกก็จะยิ่งโมโหมากกว่านี้แน่ๆ”“อึก ~ แกไม่ควรบอกแบบนั้นแพร ไม่ควรพูด” ฉันตำหนิเพื่อน ถึงจะรู้ว่าแพรทำไปเพราะเป็นห่วง แต่ฉันก็ไม่อยากให้พ่อรู้อยู่ดีกว่าคุณคานส์คือพ่อของเด็กในท้อง “เขาทำ เขาก็ต้องรับผิดชอบนะอลิช”“อึก~” “ฉันพูดไปแล้ว พ่อแกรู้แล้ว นี่คือความจริง ฉันอาจจะยุ่งวุ่นวายมากไป แต่ที่ฉันทำก็เพราะกลัวว่าพ่อแกจะทำอะไรแกไปมากกว่านี้นะ” “แต่ฉันไม่ได้อยากให้เขามารับผิดชอบ อึก~” “แกเป็นห่วงตัวเองบ้างไหมอลิช เฮ้อ” แพรตอบฉันนานหลายชั่วโมง ที่ฉันร้องไห้เพราะมันเสียใจ เสียใจที่ทำให้พ่อผิดหวัง รู้สึกเกลียดตัวเองที่ทำผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ ไม่มีใครเข้าใจฉันเลยว่าฉันไม่ต้องการให้คุณคานส์มารับผิดชอบ เรื่องแบบนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นเลยจริงๆ ทุกอย่างมันมืดมนไปหมด ฉันไม่อยากให้พ่อรู้ที่อยู่ของคุณคานส์ ไม่อยากให้พ่อไปที่นั่น ฉันควรจะทำยังไงดี เช้าวันต่อมา… เสียงเคาะห้องดังสนั่นขึ้นตามด้วยเสียงพ่อที่ตะโกนเรียกฉัน ฉันที่เพิ่งลุกขึ้นมาอ้วกในห้องน้ำเสร็จก็ต้องรีบมาเปิดประตูให้พ่อ “พะ พ่อมีอะไรหรือเปล่าคะ” “ไปแต่งตัว”“ปะ ไปไหนคะ”“ไม่ต้องถามมาก พ่อบอ
สิ้นสุดคำพูดของพ่อคุณคานส์ก็มองหน้าฉัน คิ้วของเขาขมวดชนกันยุ่งเหยิง จากสายตาที่เขามองอยู่เหมือนไม่จำเรื่องคืนนั้นไม่ได้เลยด้วยซ้ำ คุณคานส์สั่งให้ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างกายตัวเองขึ้นไปบนห้อง แน่นอนว่าทั้งคู่ต้องมีปัญหากันแน่ๆ เพราะพ่อประกาศลั่นไปแบบนั้น แต่ที่น่าแปลกใจคือเธอไม่โวยวายอะไร แถมยังยอมขึ้นห้องตามคำสั่งของคุณคานส์อย่างว่าง่ายหลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นก็เดินขึ้นบันไดไปแล้ว คุณคานส์ก็บอกให้ฉันกับพ่อตามเขามาที่ห้องรับแขก “หยุดร้องซะ!!” พ่อหันมาตวาดฉันด้วยน้ำเสียงดุดัน ฉันจึงพยายามฮึบเสียงสะอื้นไว้แล้วยกมือปาดน้ำตาแบบลวกๆ อีกทั้งยังเดินกอดแขนพ่อไปตลอดทาง เพราะกลัวว่าพ่อจะยิงคุณคานส์เข้า #ภายในห้องรับแขก “เชิญนั่งครับ” คุณคานส์ผายมือให้ฉันกับพ่อนั่งลงตรงข้ามกับเขา พ่อกับฉันยอมนั่งลงแต่โดยดี “จะเอายังไงว่ามา!!” เมื่อนั่งลงแล้วพ่อก็ถามกับคุณคานส์เสียงเข้มทันที “ผมไม่เคยพลาดทำผู้หญิงคนไหนท้อง” นี่คือคำตอบของคุณคานส์ น้ำเสียงและสายตาของเขาที่กำลังมองมา มันทำให้หัวใจดวงน้อยๆ ของฉันเต้นรัวไม่เป็นท่า“พูดแบบนี้แกจะไม่รับผิดชอบลูกสาวฉันใช่ไหม!!” พ่อยกปืนขึ้นมาชี้ไปยังคุณคานส์ ทำให้ลู