วันต่อมา...
ฉันตื่นแต่เช้า ทำกับข้าวให้ยายกิน หลังจากกินข้าวเสร็จ ฉันก็ไปรับจ๊อบล้างจานที่ร้านอาหารตามสั่งแถวๆ ในซอยนี่แหละ ล้างจานตั้งแต่เช้ายันเย็น ได้200บาท ฉันพยายามหางานอื่นทำ ตอนนี้มีงานอะไรให้ทำก็ทำไปก่อน ไม่เลือกงานไม่ยากจน ฉันท่องคำนี้ทุกวัน หลังจากทำงานเสร็จ ตกเย็นฉันก็ไปเดินตลาดหาซื้อผักกับไข่มาไว้ทำกับข้าวมื้อเย็นนี้ ชีวิตฉันไม่ได้พิเศษอะไรหรอก ทุกๆ วันก็วนอยู่แค่นี้แหละจนถึงวันเปิดเทอม มันก็ไม่ได้แย่อะไรนะ ออกจะสนุกด้วยซ้ำ อย่างน้อยมันก็ดีกว่านอนอยู่บ้านเฉยๆผ่านมาหลายเดือน วันเปิดภาคเรียนของมหาวิทยาลัย เรื่องที่ฉันโดนไอ้หน้าหล่อนั่นทำลายความบริสุทธิ์ ตอนนี้ก็ไม่เก็บมาใส่ใจแล้วแหละ ก็แบบที่ฉันเคยบอก ฉันเป็นคนลืมง่ายและเรื่องที่ฉันอยากลืมที่สุดก็คือเรื่องบ้านี่
“ยาย..หนูไปเรียนก่อนนะคะ” “เอ่อๆ” ฉันรีบวิ่งออกจากบ้านไปยืนรอรถเมล์ ยืนรอไม่นานรถเมล์ก็มาจอดจากนั้นฉันขึ้นรถเมล์ไปลงที่หน้ามหาวิทยาลัย ณ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมคนจนๆ แบบฉันถึงได้มาเรียนที่มหาวิทยาลัยดีๆ คือตอนจะขึ้น ม.6 มันมีประกาศรับนักเรียนทุนของมหาวิทยาลัยชื่อดัง ฉันกับเพื่อนอีกสองคนก็เลยลองสอบดู ด้วยความที่เราสามคนฉลาดกันเป็นทุนเดิมกันอยู่แล้ว ทำให้เราสอบติดกันทั้งสามคนเลย แต่ใครจะไปคิดว่าพอเข้ามาเรียนแล้วมันจะไม่ได้สวยหรูแบบที่คิด เชื่อไหมว่าเพื่อนที่คณะพวกคนรวยเนี่ยน้อยมากที่จะอ้าปากคุยกับพวกฉัน พวกเขาทำเหมือนพวกฉันไม่มีตัวตนเลยด้วยซ้ำ แต่ฉันกับเพื่อนก็ไม่คิดอะไรมาก คิดแค่เรียนให้มันจบๆ ไป เพราะถ้าเรียนจบจากมหาวิทยาลัยนี้ไป ไม่ว่าจะอยากทำงานที่ไหนเขาก็รับทั้งนั้น นี่แหละเหตุผลที่ฉันทนอยู่อ้อ ลืมแนะนำตัวเพื่อน
1 จิน [ สวย แรดมาก ปากร้าย ตบคือตบไม่เคยยอมใคร บ้าผู้ชายที่สุด ] 2 มิน [ พูดน้อยแต่ต่อยหนัก นิสัยห่าวๆ รักเพื่อนมาก ใครทำเพื่อนกูมันต้องตาย ] 3 มะปราง [ลูกคุณหนู บ้านรวยที่สุดในกลุ่ม หน้าตาสวย แต่โครตแรด คบผู้ชายไม่ซ้ำหน้า เปิดซิงตั้งแต่ ม1 ] ปล. มะปรางเพิ่งมารู้จักตอนย้ายมาเรียนโรงเรียนชื่อดังที่นี้ มันคือคนเดียวที่เข้ามาคุยกับพวกฉัน เป็นไงกันบ้างเพื่อนฉันแต่ละคน “อีคะนิ้ง....” จินร้องเรียกชื่อฉันเสียงดังมาแต่ไกลเลย “ว่าไงคะเพื่อนจิน....” ฉันพูด “โอ้ย ไม่เจอแกตั้งหลายเดือนมากอดหน่อย” จินมันทำท่าจะกอดฉัน “อย่าค่ะ ขนลุก !!” ฉันรีบดันตัวมันออก “แค่เพื่อนกอดก็ไม่ได้ สมแล้วที่แกยังซิงอยู่” ฉันสะอึกไปเลยพอได้ยินคำว่าซิงจากปากของจิน “อะ..เออสิ” “อีคะนิ้ง ทำไมแกทำหน้าแบบนี้ หรือว่าช่วงที่ปิดเทอมไปแก แก...” “อะไร...!!” “แกแอบไปมีผัวใช่ไหม ฮ่าๆ” “บะ..บ้า..ผัวบ้าบออะไรละ แล้วนี่ มะปรางกับมินล่ะ มันมาถึงโรงเรียนหรือยัง ?” “มาถึงแล้วอยู่ห้องน้ำ ไปหามันเถอะ”พักเที่ยง....
“พวกแกบัตรนักศึกษาฉันหายอ่ะ” ฉันก้มหน้าค้นหาในกระเป๋าเท่าไหร่ก็ไม่เจอ “ไปลืมไว้บ้านรึป่าว ?” มินถาม “นั่นสิยิ่งขี้ลืมอยู่ด้วย” จินพูด ฉันคิดๆ ยังไงก็คิดไม่ออกว่าไปลืมไว้ที่ไหน “อื้อ สงสัยลืมไว้บ้านนั่นแหละ” ฉันตอบปัดไป เพราะคงจะลืมไว้มี่บ้านจริงๆ พวกเราสี่คนกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ในโรงอาหาร “พวกแกรู้จักพี่แชมป์ ปี3 คณะวิศวะไหม?” มะปรางถาม พวกฉันพยักหน้า จะไม่รู้จัดได้ไงเขาฮ๊อตที่สุดในคณะเลยก็ว่าได้ “ก็ต้องรู้จักสิ ฮ๊อตขนาดนั้น” ฉันพูด มะปรางยื่นหน้ามาใกล้ๆ พวกฉันแล้วกระซิบ “ฉันได้กับพี่เขาแล้วค่ะ อาทิตย์ที่แล้ว เด็ดมาก” มะปรางบอก แล้วมันก็ยิ้มดีใจเหมือนถูกรางวัลที่หนึ่ง จู่ๆ จินก็หัวเราะออกมา “แกเป็นอะไรจิน ?” มินมองไปทางจินอย่างงุนงง “นั่นสิ แกจะหัวเราะทำไม” มะปรางถาม “ฉันกินก่อนแกอีกอีมะปราง” จินบอกอย่างผู้ชนะ ฉันกับมินหัวเราะออกมาพร้อมกัน สองคนนี้มันสุดจริงๆ เรื่องผู้ชาย “คาราวะสิทธิ์พี่” มะปรางยกมือขึ้นทำท่าคาราวะ “พวกแกสองคนไม่อยากลองบ้างหรอ พี่แชมป์เด็ดจริงๆ นะแก” ฉัน-มิน: โนค่ะ !! “เอ่อ นี่พวกแก วันเสาร์นี้ มีแข่งรถที่สนามkkไปดูกัน” มะปรางเอ่ยปากชวน “ได้ข่าวว่าพี่คริสลงแข่งด้วยใช่ไหม” จินถามมะปราง “ใช่แล้วแก สุดหล่อของฉัน” มะปรางทำหน้าเพ้อฝัน “พวกแกนี่บ้าผู้ชายกันจริงๆ” ฉันส่ายหน้าไม่มาเมื่อเห็นว่าเพื่อนเอาแต่พูดถึงเรื่องผู้ชายไม่ยอมหยุด “พี่คริสเขาหล่อมากจริงๆ นะแก ถ้าแกเห็นแกก็ต้องชอบ” “แต่ค่าเข้าไปดูมันแพง ฉันไม่มีเงินหรอก !!” จินบอก “ฉันไม่ไปนะต้องทำงาน” ฉันเอางานมาอ้าง เพราะไม่มีเงินเข้าไปดู “ฉันไม่ไปเหมือนกันช่วงนี้เก็บเงิน” มินพูด “โอ้ย พวกแกนี่ใคร ลืมไปแล้วรึไง ฉันเปย์เองค่าเข้าพวกแกเองสรุปจะไปไม่ไป ?” มะปรางยื่นข้อเสนออีกครั้ง “ไป !!” ฉันกับเพื่อนตอบพร้อมกันอย่างไม่ลังเล เมื่อรู้ว่าจะได้เข้าไปดูการแข่งรถฟรีวันนี้มีเรียนทั้งวัน หลัวจากที่เลิกเรียนก็ต้องมารอรถที่หน้ามหาวิทยาลัย
“ไปคลับกันไหม ฉลองเปิดเทอม” มะปรางถาม พวกฉันกำลังจะอ้าปากตอบ แต่มะปรางพูดต่อสะก่อน “ฉันเลี้ยง” ฉันสามคนตอบพร้อมกัน “ไป” “สี่ทุ่มเดี๋ยวฉันไปรับพวกแก โอเครไหม” มะปรางนัดเวลาเสร็จสรรพ #บ้าน “ยายจ๋า วันนี้หนูขอไปเที่ยวนะ” จะไปไหนฉันต้องขอยายก่อน “เอ่อๆ ดูแลตัวเองดีๆก็แล้วกัน” พอขอย้ายไปได้แล้วฉันก็เดินเข้าห้องนอนตัวเอง แล้วก็ค้นหาบัตรนักศึกษา แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ “ตาย ตายแน่ ไปลืมไว้ไหนวะเนี่ย!!”ฉันพยายามหาแต่ยังไงก็ไม่เจอ จนถอดใจ เดี๋ยวก็คงเจอเองแหละฉันชอบลืมแบบนี้ประจำ ถึงเวลาที่มะปรางมารับไปคลับ คือมะปรางมันไปรับ มินกับจินแล้วมารับฉันคนสุดท้าย ฉันก็ไม่ได้เเต่งตัวเซ็กซี่อะไรมากหรอก แต่งตัวสไตล์ฉันนี่แหละ ส่วนจินกับมะปรางสองคนนี้มันแต่งตัวกันแบบกินกันแทบไม่ลง ฉันกันมินนี่ชิดซ้ายเลย@คลับ...พอมาถึงสั่งเหล้าอะไรแล้วเรียบร้อย“วันนี้วงในบอกมาว่าพี่คลาสจะมาผับนี้” มะปรางพูดอย่างตื่นเต้น“คลาส ที่เป็นฝาแฝดพี่คริสไหม นักแข่งรถไง” จินพูดเสริม“เยส !!” มะปรางพยักหน้ารับ“เสียดาย ฉันชอบพี่คริส” จินพูด“ฉันก็ชอบพี่คริส แต่พี่เขาสองคนหน้าตาเหมือนกัน ได้ใครก็ดีทั้งนั้น” มะปรางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ฉันกับมินมองหน้ากันแล้วส่ายหัวเบาๆ ให้กับความแรดของเพื่อนทั้งสองคนนี้“มาๆ ชนแก้ว ชนให้กับความร่านของแกสองคน” ฉันยื่นแก้วไปตรงหน้า“แรงค่ะ แต่ฉันชอบคำนี้”“ชนๆๆ”เคร้ง (เสียงแก้วกระทบกัน)กินไปได้สักพักเริ่มเมาได้ที่แล้ว จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงในคลับกรี๊ดๆ กัน“แหกปากทำไมเนี่ย ทำเหมือนมีคนตายงั้นแหละ” มินพูดอย่างหงุดหงิด“อร้ายยย..กรี๊ด!!” จู่ๆ มะปรางที่มองๆ ดูอะไรสักอย่างก็กรี๊ดออกมาเสียงดัง“น
ฉันผลักผู้ชายหน้าหล่อออกแล้วฉันก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที...“..อีคานิ้งง” เสียงอีมินเรียกฉัน“ฉันอยู่เน้....!!” ฉันเปิดประตูห้องน้ำออกไปหามิน“หื้ม..สภาพแกตอนเหมือนศพมาก”“ฉันไม่ไหวแล้ว....”ภาพตัดเช้า...ฉันตื่นขึ้นมาด้วยอาการที่เวียนหัวสุดๆ เมาค้าง เมื่อคืนไม่รู้ไปทำอะไรทุเลสๆ ไว้หรือป่าว จำอะไรไม่ได้เลย มาถึงบ้านได้ไงยังไม่รู้เลย ดีนะยายเล่นโทรศัพท์ไม่เป็น นี่ถ้ายายเล่นเป็นแล้วโทรไปบอกพี่เค้กนะมีหวังพี่เค้กบ่นฉันยาวแน่สรุปแก๊งฉันสี่คนไม่มีใครได้ไปเรียนเลย เมากันทุกคนตัดมาวันเสาร์ ฉันสี่คนนัดเจอกันที่สนามแข่งรถkkณ สนามแข่งรถ kk“ไปพวกแกฉันซื้อบัตรเรียบร้อยแล้ว” มะปรางชูบัตรขึ้นโชว์เราสี่คนเดินเข้าไปด้านในสนาม ขอบอกว่าคนเยอะมาก และส่วนมากจะเป็นผู้หญิง“ฉันไม่ชอบแบบนี้เลย คนเยอะ” ฉันเดินไปบ่นๆ ไป“ชะนีพวกนี้คงจะมาเชียร์พี่คริสแน่” จินพูด“ฉันก็ว่างั้น เราต้องไปยืนดูด้านหน้าพี่คริสจะได้เห็นฉัน” จากนั้นมะปรางกับจินมันก็ลากฉันกับมินมายืนติดขอบสนามเลย แดดก็ร้อนๆ คนก็โคตรเยอะ โอ้ยจะเป็นลม ไม่น่าเห็นแก่บัตรฟรีเลยกรี๊ด กรี๊ด....!!!! จู่ๆ ก็มีเสียงกรี้ดดังขึ้น รวมทั้งมะปรางกับจินด้วย“
ผู้ชายร่างใหญ่สองคนที่จับตัวฉันมา ยัดฉันเข้าไปในห้องๆ หนึ่ง แล้วไอ้หน้าหล่อก็เดินตามเข้ามาพร้อมกับปิดประตูล็อกกลอน เสร็จแล้วเขาก็เดินตรงมาทางฉัน“จะ..จะ...จะ...ทำอะไร” ฉันพูดไม่ได้สรรพ พร้อมๆ กับขยับตัวถอยหนี“เธอจำฉันไม่ได้...?” เขาจ้องหน้าฉันแล้วขมวดคิ้วเป็นปมถาม“นะ..หนู...หนู เคยเจอพี่หรอคะ”เอาจริงๆ ฉันว่าเขาหน้าคุ้นมากจริงๆ นะ เหมือนเคยเจอ แต่พยายามคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก“หึ!!” เขาหัวเราะในลำคอเขาๆ “จำผัวตัวเองไม่ได้หรอหื้ม ลืมง่ายจัง” ฉันสะตั้นกับคำคำนี้ไปเลย ผะ ผัว ผัวงั้นหรอ เหตุการณ์เมื่อหลายเดือนก่อนมันผุดเข้ามาในหัวฉันอีกครั้ง วันที่ฉันโดนข่มขืน ฉันลืมไปแล้วว่าผู้ชายคนนั้นหน้าตายังไง แต่พอไอ้หน้าหล่อพูดแบบนี้มันทำให้ฉันคิดได้ทันที 10 ล้าน ฉันจะทวงเขาดีไหมนะ มันจะหน้าเกลียดไหม เอะ! ไม่สิเรื่องเงินเอาไว้ทีหลัง ตอนนี้ฉันต้องตกใจก่อน อุตส่าห์หนีมาได้ พอจะเจอทำไมถึงง่ายดายขนาดนี้กัน“ต้องให้ฉันทบทวนความจำให้ไหม..” เขาเดินมาใกล้ๆ ฉัน ผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาแต่กบับดูอันตรายเอามากๆ“อะ...ไอ้โรคจิต” ฉันชี้หน้าเขาเขาเงียบเอาแต่มองหน้าฉัน ไม่ใช่มองแค่หน้านะมองทั้งตัว โดยเฉพาะตร
“ขะ..ขอตัวก่อนนะคะ” ฉันพูดจบก็รีบวิ่งผ่านผู้ชายหล่อสองคนนั้นไปทันที ขืนยืนอยู่คงทำอะไรไม่ถูกแน่ๆ พรึบ~ จู่ๆ ผู้ชายที่ชื่อคลาสคว้ามือมารั้งแขนฉันไว้ก่อน “เดี๋ยว ทำไมน้องมาอยู่นี่ล่ะ...?”เขามองหน้าฉันกับแฝดของตัวเองสลับกัน แล้วเบิกตากว้าง “ไอ้เชี้ยคริส..มึง.!!!”ฉันสะบัดแขนออกอย่างแรง แล้วหลบสายตาของผู้ชายฝาแฝดทั้งสองคนที่เอาแต่จ้องมองมาที่ฉัน “ขอตัวก่อนนะคะ !!” ฉันรีบวิ่งออกมาจากตรงนั้นทันที พอวิ่งมาถึงชั้นล่างของตึกฉันก็พักยืนหอบเพราะความเหนื่อย วิ่งลงบันไดมาตั้งหลายชั้น เพิ่งคิดได้ว่ามีลิฟต์ บ้าเอ้ย!! เหนื่อยชิบ เมื่อกี้วิ่งแบบไม่คิดชีวิตเลย“อีคะนิ้ง แกไปไหนมา พวกฉันตามหาแทบตายโทรไปก็ไม่รับ” มะปราง มิน จิน เดินมาทางฉัน ตายแล้ว!!จะบอกมันว่าไปไหนมาดี ขืนบอกว่าฉันเมื่อกี้ฉันกับคนชื่อคริสเพิ่งมีอะไรกันมา มะปรางกับจินได้แหกอกฉันตรงนี้แน่“ฉันหลงทาง” ฉันรีบพูดแก้ตัว“ทำไมหน้าแกซีดๆ” มินถามอย่างสงสัย ทำไมขี้สงสัยแบบนี้นะเพื่อนฉันเนี่ย “ดะ แดดคงจะร้อนมั้ง” ฉันยิ้มแห้งๆ ให้พวกเพื่อน“เอาเถอะไปดูเขาแข่งรถต่อดีกว่า”“ฉันขอกลับบ้านก่อนได้ไหม...?” ฉันถามเพื่อน ตอนนี้เดินแทบจะไม่ไหวแล้วขาส
[Talk... Chris]หลังจากผมกับไอ้คลาสจัดการผู้หญิงคนเมื่อนั้น เสร็จ ผมให้เงินเธอไปห้าหมื่น เธอดูจะตื่นเต้นมากที่ได้รับเงินก้อนโต ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น (ปล.ผมกับไอ้คลาสป้องกันตลอดไม่ว่ากับผู้หญิงคนไหน)ณ คฤหาสน์หลังใหญ่...ผมกับไอ้คลาสเดินเข้าบ้านพร้อมกัน ขามันต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าม๊ากำลังยืนกอดอกรออยู่“เอ้าม๊า ยังไม่นอนอีกหรอ..ดึกแล้วนะ” ไอ้คลาสถามม๊าที่ยืนจ้องผมกับมันตาเขียวปั๊ดอยู่“ใช่ดึกแล้ว ทำไมเจ้าตัวแสบทั้งสองของม๊าเพิ่งกลับมาถึงบ้านคะ” ม๊ายิ้มให้ผมสองคน แต่รอยยิ้มแบบนี้ของม๊ามันหน้ากลัวชะมัด ผมกับไอ้คลาสเงียบไม่ตอบ“ลูกคริสครับ” มาเรียกชื่อผมเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยความน่ากลัว“ครับม๊า...” ผมก้มหน้าตอบ“ลูกคลาสครับ” “ค่าบม๊า” ไอ้คลาสก็ก้มหน้าตอบไม่ต่างจากผม“ตอบม๊ามาเดี๋ยวนี้ว่าทำไมเพิ่งกลับบ้าน นี่มันเที่ยงคืนแล้วนะ” ม๊าเป็นแบบนี้ตลอด ไม่ว่าพวกผมจะโตขนาดไหนม๊าก็ชอบทำเหมือนผมสองคนเป็นเด็กอยู่เรื่อย“ก็ ปะ ไปแข่งรถไงม๊า” ไอ้คลาสยกเรื่องแข่งรถมาอ้าง“แข่งรถมันเสร็จตั้งแต่1ทุ่ม อย่ามาโกหกม๊านะ”“พอดีเจอผู้หญิงระหว่างทาง ก็เลยไปส่งเขาครับ” ผมตอบ“อื้อ..ใช่ๆ ครับ” ไอ้คลาสร
#ถึงที่หมายปลายทาง..“ลงมา จะนั่งอยู่ทำซากอะไร” เอะอะอะไรก็ดุๆ เป็นอะไรนักหนา“เอะอะก็ด่าๆ ผู้ชายอะไรปากจัดชะมัด (คิดในใจ)”ฉันลงจากรถอย่างว่าง่าย ถึงในใจจะกร่นด่าเขาสารพัดก็ตาม ขืนไม่มำตามที่สั่งแล้วถูกเขาชักปืนขึ้นมายิงจะทำไง คิดผิดมากที่ยอมขึ้นรถมากับเขาด้วย “ที่นี่คือที่ไหน ?” ฉันถามเขา “บ่อนคาสิโน”พูดจบไอ้หน้าหล่อก็จับมือฉันแล้วพาเดินเข้าไปด้านใน ฉันมองไปที่มือที่จับกับไอ้หน้าหล่อนี้อยู่ ตึก ตึก ใจเต้นรัวนี่อย่าบอกนะว่าฉันชอบเขา ม๊ายย ไม่ได้นะ จะชอบผู้ชายแบบนี้ไม่ได้นะคะนิ้ง!!เขาพาฉันขึ้นลิฟท์มาที่ห้องๆ หนึ่ง เหมือนจะเป็นห้องทำงาน แล้วเขาก็ยืนกดรหัสอะไรไม่รู้ สักพักผนังห้องก็เลื่อนออก จากนั้นเขาก็ดึงฉันเข้าไปด้านใน ก่อนที่ประตูจะถูกปิดลงอัตโนมัติตุบ~ เขาผลักฉันลงไปที่เตียงอย่างแรง แล้วก็ขึ้นมาคร่อมร่างฉัน ริมฝีปากหนากดจูบลงมาอย่างเร่าร้อน จนฉันเคลิ้มตาม ผ่านไปไม่นานเสื้อผ้ก็หลุดออกจากร่างกายากระจัดกระจายเต็มห้องไปหมด เรียวขาของฉันถูกจับแยกออกจากกัน เขาหยิบถุงยางอนามัยมาสวมใส่ หัวใจดวงน้อยเต้นรัวเมื่อสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่แตะลงมาถูตรงติ่งเกสรของฉัน “อึก จะ เจ็บๆ” ฉั
ฉันตัดสินใจเดินเข้าไปในลิฟต์ที่ใกล้ที่สุด แล้วกดลิฟต์ลงไปที่ชั้น1 ติ่ง~ ไม่นานลิฟท์ก็ถูกเปิดออก...แต่!! นี่มันไม่ใช่ชั้น1หนิ ฉันอยู่ที่ไหนเนี้ย ภาพที่ฉันเห็นคือผู้คนมากมายเต็มห้องไปหมด มีควันบุหรี่สีขาวขุ่นลอยคลุ้งปกคลุมจางๆ ไปทั่วห้อง แถมกลิ่นในห้องนี้เหม็นอับมาก คนที่ฉันเห็นพวกเขากำลังเล่นการพนันกันอยู่ ฉันกำชายกระโปงแน่น ในใจตอนนี้มันกลัวมาก ยืนนิ่งไม่กล้าขยับ ขาสั่นไปหมด “...จะไปในจ๊ะน้องสาว” มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาทักทายฉัน ทำให้ฉันหลุดออกจากภวังค์ “นะ..หนูจะกลับบ้านค่ะ ขะ..ขอตัวนะคะ” พูดจบฉันก็หันหลังกำลังจะเดินกลับเข้าไปในลิฟต์ แต่!! ไอ้ผู้ชายเมื่อกี้มันดึงฉันไว้ก่อน “...ให้พี่ไปส่งดีกว่าไหม..หื้ม.”“ปล่อยนะ อย่ามายุ่งกับหนูนะ” ฉันโวยวายเสียงดัง แต่ไม่มีใครสนใจเลยสักคน ผู้ชายคนนั้นพยายามดึงฉันให้เดินตามเขาไป“ชะ ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่ะ !!” ฉันพูดออกไปเสียงดังมาก แต่ก็ไม่มีใครสนใจฉันเหมือนเดิม หูหนวกกันหรือไงวะเนี้ย ฉันเอามือทุบๆ ไอ้ผู้ชายที่ลากฉัน“....จะไปดีๆ หรือจะให้ใช้กำลังวะ ห๊ะ” ผู้ชายคนนี้ทำท่าจะตบฉัน ทำให้ฉันรีบเอามือบังหน้าแล้วหลับตาพรึ่บ~ ตุบ ตุบ ~ จู่ๆ มือของไอ
ฌ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง มาถึงก็มานั่งเหงาอยู่คนเดียวเห้อ ฉันนั่งเขี่ยโทรศัพท์เล่นไปจนถึง เวลา 09: 50 น. พวกเพื่อนๆ มาพอดี “หื้ม ทำไมเมื่อวานไม่มาเรียนคะคุณคะนิ้ง แชตไปก็ไม่ตอบ” มะปรางถาม“นั่นสิ เมื่อวานแกหายหัวไปไหนมา” จินถามอีกคน ขี้สงสัยเป็นที่หนึ่งเลยแหละเพื่อนฉันน่ะ “ฉัน ฉันปวดท้องประจำเดือนน่ะ” ฉันตอบแก้ตัว“อ๋อ..แล้วก็ไม่ยอมบอก แล้วนี่หายดีหรือยัง ?”“อื้อ ก็ดีขึ้นแล้ว ^_^”“อะนี่ชีทรายงานเมื่อวาน ต้องส่งพรุ่งนี้” มินยื่นชีทเอกสารมาให้ฉัน“พวกแกวันนี้มีเด็กใหม่มาสองคน จะมาอยู่ห้องเดียวกับเรา”“แล้วไง ?”“ย้ายมากลางเทอมแบบนี้น่ะเนี่ย ?” ฉันถามอย่างสงสัย “ก็ใช่นะสิ” “ได้ด้วยหรอ ?” “เอาเป็นว่าเราต้องเอาเค้ามาอยู่กลุ่มเดียวกับเราให้ได้ !!” มะปรางพูดอย่างเชื่อมั่น“ทำไม ใครเค้าจะอยากมาอยู่กับพวกฉัน คงมีแต่แกเท่านั้นแหละ” จินบอกแบบตัดพ้อ แต่ก็จริงของมันนั่นแหละ“แกฟังฉันนะ สองคนที่ฉันพูดถึง คือลูกของเจ้าของมหาวิทยาลัยนี้เชียวนะ”“เอ้า!! เป็นลูกเจ้าของมหาวิทยาลัยแล้วไปเรียนที่ไหนมาทำไมถึงเพิ่งจะย้าย” ยิ่งฟังมะปรางพูดมันก็ยิ่งทำให้แปลกใจไปกันใหญ่“แล้วไง ลูกเจ้าของมหาวิทยาล