เวลาล่วงเลยผ่านไปจนถึงวันที่ฉันเรียนจบปี 1 พี่คริสทำตามที่เขาเคยพูดไว้ แต่รวบรัดไปหน่อย ไม่รู้ว่ารีบอะไรทั้งที่บอกว่ารอให้ฉันเรียนจบ แต่นี่ฉันเพิ่งจะจบปี1 เอง เขาพาพ่อกับแม่มาสู่ขอฉันกับยาย ซึ่งแน่นอนว่ายายไม่ขัดอะไร พี่เค้กก็ยินดีกับฉันด้วย และบอกกับฉันว่าวันที่ฉันแต่งงานพี่เค้กจะมา เพราะงานยุ่ง แต่ฉันว่ามันแปลกๆ พี่คลาสอยู่ไทย พี่เค้กอยู่ฮ่องกง เหมือนเขาสองคนกำลังทะเลาะกันอยู่ แต่ฉันก็ไม่อยากวุ่นวายอะไรมาก ตอนนี้สถานที่จัดงานแต่งถูกจัดเตรียมและตกแต่งไว้เรียบร้อย เพราะในอีกสองวันข้างหน้าฉันกับพี่คริสก็จะจูงมืิกันเข้าสู่งานวิวาห์สุดอลังการงานสร้าง ฉันก็ไม่เข้าใจว่าจะจัดงานให้มันใหญ่โตอะไรหนักหนา พี่คริสบอกว่าแต่งงานครั้งเดียวในชีวิต ต้องจัดให้มันยิ่งใหญ่ไปเลย1วันก่อนจะถึงวันแต่งงาน...ปาร์ตี้สะละโสด วันนี้ฉันและพ้องเพื่อนมารวมตัวกันที่บ้าน บ้านหลังนี้พ่อกับแม่ของพี่คริสซื้อให้เป็นเรือนหอ ซึ่งตอนแรกฉันจะไปจัดปาร์ตี้สละโสดที่อื่น พี่คริสไม่ยอมค่า บังคับว่าต้องให้ฉันจัดที่บ้านเท่านั้น อีคะนิ้งก็ขัดผัวไม่ได้ ขืนขัดคงได้ตายก่อนแต่งแน่ๆ 6 โมงเย็น....เพื่อนฉันมาครบกันพร้อมหน้าพร้อมตาท
ตอนพิเศษ(Talk Chis)( พี่คริส อึก อ้วก~) ยังไม่ทันจะพูดอะไรผมก็ได้ยินเสียงอ้วกของคะนิ้งผ่านปลายสาย( ให้เข้าไปหาในห้องไหม ) ผมถามด้วยความเป็นห่วง( อึก มะ ไม่ต้อง เอาน้ำเปล่าข้าวแล้วก็ขนมมาวางไว้หน้าห้องให้หน่อยแล้วก็ออกไปให้พ้นๆ เลยนะ ห้ามให้หนูเห็นหน้าเด็ดขาด )( แม่ง!! เออๆ จะเอาไปวางให้เดี๋ยวนี้ )พูดจบผมก็กดวางสายอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ที่วาดฝันไว้ว่าถ้าหากคะนิ้งมีลูก ผมคงจะนอนหนุนตักเธอแล้วคุยกับลูกทุกคืน แต่!!! ความเป็นจริงมันช่างต่างจากความคิดสิ้นเชิงตั้งแต่คะนิ้งท้องเธอก็มีอาการเหม็นขี้หน้าผม ไล่ตะเพิดให้ผมออกห่างไม่ยอมให้เข้าใกล้แถมยังต้องแยกห้องนอน นี่ผมไม่ได้พูดเล่นนะ ผมกับคะนิ้งแยกห้องนอนกันจริงๆ จะคุยกันทั้งทีก็ต้องโทรคุย วิดีโอคอลก็ไม่ได้ แค่เห็นใบหูผมเธอก็อ้วกพุ่งแล้วพูดถึงแล้วก็น่าหงุดหงิดฉิบ ผมอยากกอด อยากหอมแก้ม อยากคุยกับลูกแต่ทำไม่ได้เลย หมอบอกว่าอาการเหม็นขี้หน้าผัวจะเกิดในช่วงแพ้ท้องเป็นอาการแพ้ท้องอย่างหนึ่ง บ้าฉิบ!! เพิ่งรู้ว่ามีเรื่องพรรค์นี้ด้วย กว่าคะนิ้งจะหายจากอาการนี้ก็คงอีกหลายเดือน#บ่อนคาสิโนวันนี้ผมต้องเข้ามาเช็กงานนิดหน่อยเสร็จแล้วจะกลับบ้าน ส
สายถูกตัดไป ฉันจึงลุกขึ้นไปเปิดประตูห้องไว้แล้วก็เดินกลับมานอนบนเตียงเหมือนเดิม ไม่สิ!! ฉันจะนอนทำไมต้องนั่งสิ อ่า!! คะนิ้งเธอท้องอยู่นะ คิดจะทำเรื่องแบบนั้นหรือไงกันฉันส่ายหน้าไปมาเพื่อไล่ความคิดลามกออกไปจากหัวก่อนจะหลับตาลง เสียงฝีเท้าเดินย่ำเข้ามาในห้องตามด้วยเสียงประตูห้องที่ถูกปิดและล็อกเอาไว้จากนั้นเสียงฝีเท้าของพี่คริสก็ย่ำมาใกล้ตรงที่ฉันนั่งอยู่เรื่อยๆ“อื้อ พี่คริสเอาผ้ามาปิดตาหนูทำไม” ฉันท้วงขึ้นอย่างตกใจจู่ๆ ก็ถูกผ้าปิดตา“เดี๋ยวเธอแอบลืมตาขึ้นมามองจะทำยังไง”อื้อ! ก็จริง ปิดตาไว้แบบนี้ก็ดีเหมือนกันพอปิดตาฉันเสร็จแล้วร่างของฉันก็ถูกพี่คริสดึงเข้าไปกอดเป็นกอดที่โหยหาและอบอุ่น ซึ่งฉันก็กอดตอบพี่คริสเหมือนกันเพราะความคิดถึง รู้สึกว่ามันนานมากที่เราไม่ได้กอดกันแบบนี้“อื้อ หนูเริ่มหายใจไม่ออกแล้ว อร๊าย!! พะ พี่คริส” ฉีนต้องร้องอุทานออกมาเสียงหลง เพราะพี่คริสนะสิกดตัวฉันให้รอนราบไปกับเตียง“อยากนอนกอด” พี่คริสกระซิบบอกข้างหู“แป๊บเดียวนะ”“ปิดตาอยู่กลัวอะไร”พี่คริสยกขาของตัวเองพาดขึ้นมาบนขาของฉัน แต่นั่นมันคงจะธรรมดาเกินไป ถ้าเกิดพาดขาเอาไว้เฉยๆ คงไม่ใช่พี่คริสแน่ๆพี่คริสใช
เวลาผ่านไป ตอนนี้ฉันท้องได้ 6 เดือน อาการแพ้ท้องของฉันหายไปแล้ว ไม่เหม็นขี้หน้าพี่คริสแล้ว ท้องก็เริ่มป่องนูนขึ้นมาแล้วด้วยแถมตอนนี้ฉันยังติดพี่คริสเอามากๆ อีกต่างหาก ทั้งคุณพ่อคุณแม่ของพี่คริสและยายต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอาการของฉันมันแปลกพิลึกฮ่าๆ ฉันก็ว่าตัวเองแปลกมากเหมือนกันและตอนนี้ฉันก็กำลังคิดถึงพี่คริสอยู่ ไปทำงานตั้งแต่เช้าแถมขอไปด้วยก็ไม่ให้ไปอีกต่างหาก ในตอนนี้ฉันกำลังอาบน้ำแต่ก็นึกอะไรสนุกๆ ออก จึงกดโทรวิดีโอคอลไปหาพี่คริส รอไม่นานพี่คริสก็กดรับสายฉันเอาโทรศัพท์จ่อที่หน้าของตัวเองเอาไว้( จะเอาอะไร ? ) พอรับสายพี่คริสก็เป็นฝ่ายถามขึ้นก่อน เพราะฉันชอบให้เขาซื้อของติดมือกลับมาที่บ้านด้วยแทบจะทุกวัน( เอาพี่ได้ไหมคะ )( คะนิ้ง ฉันสั่งงานลูกน้องอยู่ ) พูดจบพี่คริสก็เปิดกล้องหลังให้ดู เห็นว่าตอนนี้ลูกน้องกำลังยืนเรียงกันอยู่หลายคน จากนั้นพี่คริสก็กดกล้องหน้าเหมือนเดิม( หนูคิดถึงพี่คริสนี่นา )ไม่พูดเปล่า ฉันเอาโทรศัพท์วางไว้ตรงอ่างล้างหน้าแล้วขยับตัวออกมาอีกนิด เผยให้เห็นเรือนร่างของฉันที่กำลังเปลือยเปล่าอยู่( คะนิ้ง !!)พี่คริสถลึงตาใส่ฉันที่กำลังยั่วยวนอยู่ สังเ
[ Talk...Chris ] จุดเริ่มต้น... ผม : ไอ้คลาส เด็กที่มึงหาให้กูเมื่อไหร่จะมาวะไอ้คลาส : ใจเย็นดิสัส รอหน่อยไม่ได้รึไงผม : กูรอมาสองชั่วโมง มึงยังจะให้กูใจเย็นอีกรึไงไอ้คลาส : เออ เดี๋ยวกูโทรไปเร่งให้ ใจร้อนจริงมึงเนี่ยวางสาย...ตอนนี้ผมกำลังหัวเสียกับเด็กที่ไอ้คลาสน้องชายผมมันหามาให้ จะไม่ให้หัวเสียได้ไง รอสองชั่วโมงแล้วยังไม่มีวี่แววว่าจะโผล่มาเลย นี่ถ้าไอ้คลาสมันไม่บอกว่าผู้หญิงคนนี้เด็ดนะ ผมไม่มีทางมานั่งรอแบบนี้แน่ คงไม่ต้องถามนะว่าทำไมไอ้คลาสมันรู้ ผมสองคนมีรสนิยมแปลกอยู่อย่างหนึ่ง คือชอบมีเซ็กซ์กับผู้หญิงคนเดียวกันก๊อกๆ (เสียงเคาะห้อง)“มาสักที!” ผมบ่นพึมพำอย่าหัวเสีย ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูภาพที่เห็นคือผู้หญิงใส่ชุดนักศึกษากำลังยืนอยู่หน้าประตู เธอมองผมตาไม่กระพริบ อายุแค่นี้คิดขายตัวแล้วหรอวะ เด็กสมัยนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ“มองอะไรหนักหนาเข้ามาสิ จะยืนอยู่อีกนานไหม ?” ผมบอกผู้หญิงตรงหน้าที่เอาแต่ทำตัวแข็งทื่ออย่างหงุดหงิด“...พี่คะ” เธอเดินเข้าห้องมาตามคำสั่งของผมยังไม่ทันที่เธอจะพูดอะไรผมก็จู่โจมทันที ผมจูบเธออย่างเร้าร้อน แต่!! ทำไมเหมือนเธอจะจูบไม่เป็นว่ะ หรือว่า
[ Talk...Chris ] ผมปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นนอนอยู่บนเตียงหลังจากที่จัดการกับเธอเสร็จ ส่วนผมก็ลุกขึ้นเดินมาเข้าห้องน้ำ อาบน้ำสักหน่อย เหนื่อยชะมัด ในขณะอาบน้ำอยู่ผมก็คิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ที่ผมมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้น เธอไม่ได้ทำอะไรนอกจากนอนนิ่งๆ ให้ผมทำ แต่แปลกที่ผมกลับคิดถึงแต่ร่างกายขาวเนียนหน้าอกอวบอิ่มคู่นั้นของเธอ มันดึงดูดสายตาผมมากจริงๆ ตั้งแต่ผมมีเซ็กส์กับผู้หญิงมา ผมยังไม่เคยเจอใครหน้าหลงไหลขนาดนี้มาก่อน ร่างกายของเธอ ความบริสุทธิ์ของเธอ อ่า!! หลังจากที่อาบน้ำเสร็จผมออกมาจากห้องน้ำ ก็ไม่เห็นผู้หญิงคนนั้นแล้ว“ไปไหนวะ...!!” ผมเดินดูจนทั่วห้องก็ไม่เจอ เธอไปแล้วงั้นสินะไปไม่บอกสักคำ อีกอย่าง เธอยังไม่ได้รับเงิน 10 ล้านจากผมเลยด้วยซ้ำผมมองไปที่เตียงนอน คราบเลือดติดผ้าปูที่นอนเต็มไปหมด เมื่อกี้ผมรุนแรงกับเธอมากไปหน่อย ผมลืมไปว่าผมคือคนแรกของเธอ แต่ชั่งเถอะดูเธอคงจะไม่ใส่ใจอะไรกับครั้งแรกของเธอเท่าไหร่ หึ!!ผมกำลังจะเดินไปใส่เสื้อผ้า สายตาดันไปสะดุดกับอะไรสักอย่างเข้าจึงก้มลงไปเก็บขึ้นมา มันคือบัตรนักศึกษาของผู้หญิงคนคนนั้น“หึ!! แล้วเราจะได้พบกันอีกแน่สาวน้อย”สวัสดีดีครับ ผม
[ Talk...khanink ] หลังจากเหตุการณ์เมื่อวาน ที่ฉันโดนผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ข่มขืน ฉันหนีออกมาเพราะไม่อยากเจอหน้าคนเลวคนนั้นอีก ฉันเลือกที่จะไม่เอาเงินจากเขา ไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเลย เพราะมันคือเรื่องที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตฉันฉันไม่คิดเลยว่าแค่จะขึ้นไปเอาผ้าลงมาซักตามที่ผู้จัดการสั่ง มันจะทำให้ฉันโดนเจอเหตุการณ์ที่เลวร้ายขนาดนั้น หมดกันความบริสุทธิ์ที่ฉันเก็บไว้มอบให้คู่ชีวิต ผู้ชายคนนั้นแวบแรกเขาเปิดประตูห้องออกมา ฉันถึงกับตะลึงในความหล่อของเขา เขาเป็นผู้ชายที่หล่อมาก ดูดีทุกอย่าง ฉันไม่เคยเห็นใครหล่อขนาดนี้มาก่อน แต่พอเขาพูดกับฉันเท่านั้นแหละ มันทำให้ฉันอึ่งกว่าเดิมอีก หล่อแต่ปากเสีย แถมยังคิดว่าฉันขายตัว ข่มขืนฉัน ไม่ฟังอะไรสักคำแต่แค้นไปก็เท่านั้นจะทำอะไรได้ ในเมื่อเสียความบริสุทธิ์ให้เขาไปแล้วหนิ ต่อไปชาตินี้ฉันกับไอ้หน้าหล่อแต่นิสัยหมาๆ คนนั้นขออย่าให้ได้เจอกันอีกเลยฉันตัดสินใจลาออกจากงาน ช่วงนี้ปิดเทอมฉันเลยมารับจ๊อบพิเศษ ทำได้ยังไม่ถึงเดือนเลยด้วยซ้ำสวัสดีค่ะ ฉันชื่อคะนิ้ง อายุ20 ปี มีพี่สาวชื่อ คัพเค้ก พี่สาวฉันอายุ 23 ปี พี่ฉันได้ทุนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เ
วันต่อมา...ฉันตื่นแต่เช้า ทำกับข้าวให้ยายกิน หลังจากกินข้าวเสร็จ ฉันก็ไปรับจ๊อบล้างจานที่ร้านอาหารตามสั่งแถวๆ ในซอยนี่แหละ ล้างจานตั้งแต่เช้ายันเย็น ได้200บาท ฉันพยายามหางานอื่นทำ ตอนนี้มีงานอะไรให้ทำก็ทำไปก่อน ไม่เลือกงานไม่ยากจน ฉันท่องคำนี้ทุกวันหลังจากทำงานเสร็จ ตกเย็นฉันก็ไปเดินตลาดหาซื้อผักกับไข่มาไว้ทำกับข้าวมื้อเย็นนี้ชีวิตฉันไม่ได้พิเศษอะไรหรอก ทุกๆ วันก็วนอยู่แค่นี้แหละจนถึงวันเปิดเทอม มันก็ไม่ได้แย่อะไรนะ ออกจะสนุกด้วยซ้ำ อย่างน้อยมันก็ดีกว่านอนอยู่บ้านเฉยๆผ่านมาหลายเดือน วันเปิดภาคเรียนของมหาวิทยาลัย เรื่องที่ฉันโดนไอ้หน้าหล่อนั่นทำลายความบริสุทธิ์ ตอนนี้ก็ไม่เก็บมาใส่ใจแล้วแหละ ก็แบบที่ฉันเคยบอก ฉันเป็นคนลืมง่ายและเรื่องที่ฉันอยากลืมที่สุดก็คือเรื่องบ้านี่“ยาย..หนูไปเรียนก่อนนะคะ” “เอ่อๆ”ฉันรีบวิ่งออกจากบ้านไปยืนรอรถเมล์ ยืนรอไม่นานรถเมล์ก็มาจอดจากนั้นฉันขึ้นรถเมล์ไปลงที่หน้ามหาวิทยาลัยณ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมคนจนๆ แบบฉันถึงได้มาเรียนที่มหาวิทยาลัยดีๆ คือตอนจะขึ้น ม.6 มันมีประกาศรับนักเรียนทุนของมหาวิทยาลัยชื่อดัง ฉันกับเพื่อนอีกสองคนก็