“พี่คลาส...” พอฉันเห็นว่าเป็นพี่คลาสฉันรีบก้มหลบหน้าทันทีเมื่อก่อนฉันมองว่าพี่คลาสกับพี่คริสต่างกันนะถึงจะเป็นแฝด แต่ตอนนี้ฉันว่าเขาทั้งสองคนเหมือนกันมาก เห็นพี่คลาสแล้วมันเหมือนเห็นพี่คริสเลย ความรู้สึกเสียใจเมื่อกี้เริ่มปะทุเข้ามาในใจอีกครั้ง ทำไมต้องโผล่มาให้ฉันเห็นตอนนี้ด้วยนะ “เฮ้ย...เป็นไร !!” พี่คลาสถามอย่างตกใจ “ปะ เปล่าค่ะ” ฉันก้มหน้าตอบจู่ๆ พี่คลาสนั่งลงแล้วเอาหลังชนกับหลังฉัน ฉันก็ไม่รู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร คนอื่นมาเห็นมันคงดูไม่ดี“พี่เข้าใจ ถ้าเลือกได้พี่ก็ไม่อยากเกิดมาหน้าเหมือนมันหรอกแต่ทำไงได้ล่ะว่าไหม”ฉันรู้ว่า "มัน" ที่พี่คลาสพูดถึงคือใคร แต่ฉันไม่เข้าใจเลยว่าพี่คลาสจะพูดแบบนี้ทำไมกัน ฉันได้แต่นั่งเงียบไม่ตอบอะไร“อากาศเย็นดีเนอะ”ฉันเงียบ...กริ่ง..โทรศัพท์พี่คลาสเข้า พี่คลาสลุกขึ้นเดินไปรับโทรศัพท์แต่ก่อนจะเดินไป พี่คลาสหันหน้ามายิ้มให้ฉันด้วย“เวลาเรายิ้มน่ะ สวยมากเลยนะตัวเล็ก” พูดจบพี่คลาสก็เดินไปรับโทรศัพท์เฮ้อ...ใครว่าฉันไม่อยากยิ้ม ถ้าเลือกได้ฉันก็ไม่อยากมานั่งอมทุกข์อยู่แบบนี้หรอกฉันนั่งต่อสักพัก จนได้ยินเสียงอาจารย์ประกาศให้ไปรวมตัวกัน ฉันก็ลุกขึ้นเตร
“อย่ายุ่งกับหนูอีกเลยค่ะ อย่าทำแบบนี้อีกเลยหนูขอร้องนะ” ฉันมองพี่คริสด้วยสายตาที่อ้อนวอน “...ไอ้คริส..กูพาสาวมาโคตรเด็ด....!!” เสียงตะโกนมาจากด้านนอกห้อง“ขอตัวก่อนนะคะ”พูดจบฉันก็เปิดประตูห้องออกไป ด้านหน้าห้องไม่เจอผู้หญิงคนนั้นแล้ว มีแต่พี่คลาสที่ยืนอึ้งอยู่เหมือนพี่คลาสกำลังจะถามอะไรฉันสักอย่างแต่ไม่ทันได้ถามเพราะฉันเดินหนีเข้าไปในห้องตัวเองสะก่อนภายในห้องวีไอพี1 ตอนนี้มีแค่ฉันคนเดียว พวกเพื่อนฉันยังไม่กลับเข้ามาในห้องฉันนั่งลงตรงโซฟาแล้วเอามือกุมหัวใจตัวเอง เมื่อไหร่ฉันจะตัดเขาออกจากใจฉันได้สักที ฉันเกรียดตัวเองจังอ่อนแอตลอดเลย ถึงปากฉันจะปฎิเสธพี่คริส แต่ใจฉันมันกลับต้องการเขา แกร็ก~เพื่อนฉันเปิดประตูเข้ามาในห้อง...ฉันพยายามทำตัวให้ปกติ“คะนิ้ง ตื่นแล้วหรอแก” มะปรางถาม “หลับอยู่มั้ง”“เห็นมินบอกว่าแกเฮิร์ทฉันอุตส่าห์เป็นห่วง ปากดีแบบนี้คงไม่เป็นไรแล้วมั้ง”“ฉันโอเคร”“ไปๆ เปลี่ยนชุดเล่นน้ำกัน”อลินเดินมานั่งข้างๆ ฉัน “คะนิ้ง คือโซนที่เราต้องจัดปาร์ตี้คืนนี้มันอยู่โซนเดียวกับพวกเฮียคริส คะนิ้งโอเครใช่ไหม ถ้าไม่โอเครเราไปปาร์ตี้รวมกับเพื่อนๆ ก็ได้นะ”อลินดูท่าทางจะเป็นห่ววควา
ฉันเงียบไม่ตอบ “แล้วดูเธอแต่งตัว ชุดดีๆ กว่านี้มันไม่มีรึไงวะ จะโชว์ทำเชี้ยไร!!” พี่คริสมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วก็ขบกรามแน่น สีหน้าบงบอกชัดเจนว่ากำลังโจมโห“ทำไม ชุดนี้ก็สวยดีออก” ฉันยิ้มให้พี่คริส“แรด!!” พี่คริสพูดคำๆนี้ออกมาใส่หน้าฉันได้ยินแบบนี้ฉันปรี๊ดเลย ฉันยิ่งเมาๆ อยู่ด้วยอารมณ์ยิ่งเดือดไปกันใหญ่“เออ แรดแล้วไงมันไปหนักส่วนไหนของพี่ห๊ะ!! เลิกกันไปแล้วก็อย่ามายุ่งสิ” ฉันตะคอกใส่หน้าพี่คริสเสียงดัง“ปล่อยหนูเถอะ อย่าทำแบบนี้เลยจบกันด้วยดีเถอะอย่าให้หนูต้องเกลียดพี่เลย!!” ฉันแข็งใจพูดออกไปพี่คริสเงียบเอาแต่ยืนจ้องฉันตาเขม็ง ฉันแกะมือที่พี่คริสจับแขนฉันออก แล้วลุกขึ้นจะออกจากห้องพรึ่บ~เดินไปได้ไม่กี่ก้าวร่างฉันก็ถูกพี่คริสกระชากกลับมาที่เดิม“ใครให้เธอออกไป !!”“ทำไมหนูจะออกไปแล้วจะทำไม พี่จะต้องให้หนูพูดอีกกี่ครั้งว่าเลิกยุ่งกับหนูสักที ห๊ะ!”“พี่ต้องการอะไรจากหนูอีก!!” ฉันพูดเสียงดัง ใครมันก็ไม่โอเคทั้งนั้นแหละ ยิ่งใจฉันตอนนี้มันไม่ไหวจริงๆ“ต้องการตัวเธอไง ให้ฉันได้ไหม หึ...!!”พอได้ยินพี่คริสพูดทำเอาฉันโหโมมากขึ้นไปอีก บวกกับกินเหล้าไปด้วยมันยิ่งทำให้ฉันอารมณ์ร้อนง่าย
ขอตัดมาวันกลับจากเที่ยวเลยนะ ไปเที่ยวครั้งนี้สำหรับฉันมันไม่สนุกเอาซะเลย...เพราะพี่คริสคอยจ้องการกระทำของฉันอยู่ตลอดเวลา วันก่อนก็ลากฉันไปมีอะไรด้วย ฉันคงเป็นเหมือนสิ่งของสำหรับเขาสินะ เหนื่อยฉันเหนื่อยความรู้สึกมันชินชาไปเเล้วตอนนี้ ถามว่ารักไหม..มันก็รัก (น้อยลง) มันเจ็บมากกว่า เจ็บที่เลิกกันไปแล้วพี่คริสไม่ยอมปล่อยฉันไปสักทีณ บ้านของฉัน วันนี้เป็นวันอาทิตย์“ยาย ป้านาไปไหนไม่เจอหลายวันแล้ว !!”“มันก็คงจะไปเล่นการพนันที่บ่อนตามปะสามันนั้นแหละคะนิ้งเอ้ย”“เดี๋ยวเงินหมดมาขอจะไม่ให้สักบาทเลยคอยดู”“เอ่อ เอ็งไปซื้อหมากกับพลูให้ยายหน่อย”“จ๊ะ ยาย”ฉันออกจากบ้านปั่นจักรยานไปตลาด หลังจากกลับจากตลาดมีความรู้สึกเหมือนมีคนตาม อีกแล้ว หรือว่าฉันจะระแวงไปเอง ตั้งแต่โดนรถชนตอนนั้นเวลาออกมาตลาดทีไรฉันก็ระแวงทุกทีฉันเร่งฝีเท้าปั่นจักรยานเร็วขึ้นเป็นเท่าตัวแล้วก็หันไปมองด้านหลังตลอด พอหันหน้ากลับมาอีกที“กรี๊ด!!!” (ปัก)“....โอ้ย เชี้ย ! ไม่มีตารึไงวะ”ฉันปั่นจักรยานไปชนใครก็ไม่รู้ไม่ทันมองห่วงแต่มองด้านหลังเลยไม่รู้ว่าข้างหน้ากำลังมีคนเดินอยู่ โชคดีที่ฉันไม่ล้ม แต่คนที่ปั่นจักรยานชนเขานี่สิ ล
พี่คริสเดินมาหาฉันแล้วก็เอามือมากระชากแขนฉันจนฉันเซแล้วก็ออกแรงบีบแขนฉันแรงๆ“โอ้ย หนูเจ็บนะ!!!”“เธอ ไป ไหน มา คะนิ้ง” พี่คริสตวาดถามเน้นคำฉันเงียบ...“ตอบดิวะ!!” พอฉันไม่ตอบพี่คริสก็เสียงดัง “แล้วเมื่อกี้ใครมาส่ง!!”“พูดเบาๆ ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวยายได้ยิน”“ใครมาส่งเธอคะนิ้ง !!”พี่คริสออกแรงบีบแขนฉันแรงกว่าเดิมฉันหายใจเข้าลึกๆ แล้วจ้องหน้าพี่คริส“ใครจะมาส่งมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่ พี่อย่าลืมสิว่าเราเลิกกันแล้ว !!”พี่คริสเงียบไปสักพักเอาแต่มองหน้าฉันอย่างเดียว “ฉัน...!! ฉันไม่เลิก”ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ฉันคงรู้สึกดีกับคำๆ นี้ของพี่คริสนะ แต่ตอนนี้ถึงฉันจะยังรู้สึกดีกับพี่คริสอยู่...แต่ไม่รู้สิ ฉันไม่อยากกลับไปเจ็บอีกแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาถึงจะเป็นเวลาสั่นๆ แต่ฉันก็เจ็บเพราะเขามาเยอะมากจริงๆ “มาพูดตอนนี้ทำไม..พูดให้มันได้อะไรขึ้นมา!!” ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดต่อ “พี่ต้องการอะไร ที่ผ่านมาที่พี่ทำกับหนูมันยังไม่สาแก่ใจพี่อีกหรอพี่คริส พี่จะเอาอะไรกับหนูอีก !!”พี่คริสค่อยๆ คลายมือที่จับแขนฉันออก แขนฉันเป็นรอยแดงช้ำเลย“ฉัน...ขอโทษ” พี่คริสดึงแขนฉันไปดู แต่ฉันชักแขนออก“แค่นี้ไม่ตายหรอกค
[ Talk...Khanink]เช้าวันใหม่....วันนี้เป็นวันเสาร์ฉันไม่ต้องไปเรียนวันนี้ฉันดูรนๆ ระแวงหน้าระแวงหลังมากกว่าทุกวัน เพราะเมื่อวานพี่คริสบอกว่าวันนี้จะมาหาฉัน ยิ่งอยู่บ้านคนเดียวอยู่ด้วยบรื่น~ เสียงรถมาจอดหน้าบ้านสัมผัสได้ทันทีว่าต้องเป็นรถของพี่คริสแน่ๆ ฉันที่กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่รีบทิ้งสายฉีดน้ำแล้ววิ่งไปปิดก๊อกน้ำ พุ่งไปที่หน้าประตูบ้านเตรียมจะก้าวเท้าเข้าบ้าน...แต่...ไม่ทันคะ พี่คริสเร็วกว่าที่ฉันคิด ตอนนี้พี่คริสกำลังรั้งตัวฉันไว้ไม่ให้เข้าไปในบ้านฉันหันไปมองหน้าพี่คริส หน้าเขาเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ เหมือนไปมีเรื่องชกต่อยกับใครมา แต่ฉันจะไปสนใจทำไมกัน ใจแข็ง ฉันต้องใจแข็ง “ปล่อยหนู เมื่อวานหนูบอกพี่ไปแล้วไม่ใช่รึไง ว่าอย่ามายุ่งกับหนู...!!!” ฉันพยายามสะบัดแขนออกจากมือพี่คริส แต่พี่คริสไม่ยอมปล่อย“ไปเก็บเสื้อผ้า เธอต้องไปอยู่คอนโดกับฉัน ยายเธอกลับมาเมื่อไหร่ฉันจะมาส่งเธอที่บ้านเอง”“หนูไม่ไป!!” ฉันพูดเสียงแข็ง“เธอต้องไปคะนิ้ง...!!”“ก็บอกว่าไม่ไปไง ฟังไม่รู้เรื่องหรือไง!!”“เธอจะไปเก็บของเองหรือให้ฉันไปเก็บให้...!!”“เลิกบังคับหนูสักที!! เมื่อไหร่จะปล่อยให้หนูเป็นอิสระ หนูเบื่อ ได้
เช้าวันอาทิตย์....ก๊อกๆ ก๊อกๆ....(เสียงเคาะห้องดังขึ้นถี่ๆ)“คะนิ้งตื่นหรือยัง ออกมากินข้าวได้แล้วมันสายแล้วนะ”จริงๆ ฉันตื่นแล้วแหละ แต่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่ในห้องก๊อกๆ ก๊อกๆ...ฉันลุกขึ้นไปเปิดประตูห้องด้วยความรำคาญแล้วก็ทำหน้าหงุดหงิดใส่คนที่กำลังเคาะห้องอยู่ ไม่รู้จะเคาะทำไมหนักหนา พอพี่คริสเห็นฉันเปิดประตูออก พี่คริสยิ้มหน้าบานทันที“ไปกินข้าวกัน” พี่คริสจูงมือฉันไปนั่งที่โต๊ะอาหาร แล้วก็จัดการตักข้าวใส่จานฉันแล้วก็ตักใส่จานตัวเอง แล้วก็นั่งลงตรงข้ามกับฉัน“วันนี้ไปสนามแข่งรถกับฉันนะ”ฉันทำท่าคิดสักพัก ก็ดีเหมือนกันถ้าไป บางทีฉันอาจจะหาทางหนีได้ ขืนให้อยู่แต่ในห้องแบบนี้คงหนีไปไหนไม่ได้หรอก เพราะหน้าห้องก็มีลูกน้องพี่คริสคอยเฝ้าอยู่ “ค่ะ ไปก็ไป”หลังจากกินข้าวเสร็จฉันก็เข้าห้องนอนไปอาบน้ำแต่งตัว เสร็จแล้วก็ออกมาจากห้องพี่คริสนั่งรออยู่ตรงโซฟา พอพี่คริสเห็นชุดที่ฉันใส่ก็ทำหน้าแบบไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่“ทำไมแต่งตัวแบบนี้ !!” พี่คริสมองชุดที่ฉันใส่แบบไม่สบอารมณ์“ทำไม อย่ามายุ่งหนูจะแต่งตัวยังไงมันก็เรื่องของหนู”พี่คริสถอนหายใจออกมา ยาวๆ สีหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด“อื้ม...ก็ได้ๆ ไ
ภายในรถ...“พี่ไม่สบายหรอ ?” ฉันหันหน้าไปถามพี่สิงห์ เพราะตอนนี้พี่สิงห์ปิดแมทที่หน้าอยู่พี่สิงห์พยักหน้าตอบแล้วก็ขับรถ“อื้อ พี่มาทำไมแถวนี้อะ ?” ฉันถามอย่างแปลกใจพี่สิงห์หันมามองฉันแต่ไม่ตอบอะไรแล้วก็หันหน้ากลับไปมองถนนต่อ อะไรของเขากัน ถามก็ไม่ตอบ นั่งไปสักพักมันรู้สึกง่วงขึ้นมาซะงั้นจากนั้นฉันก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย.....ฉันรู้สึกตัวอีกทีเหมือนได้ยินเสียงคนคุยกัน...ร่างกายฉันขยับไปไหนไม่ได้เลย หรือว่า หรือว่า ฉะ ฉันจะโดนผีอำฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้น ตอนนี้ตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ ตัวถูกมัด ที่นี่มันที่ไหน นี่ไม่ใช่บ้านของฉันมีผู้ชายใส่ชุดดำกำลังยืนทำอะไรไม่รู้ เขาไม่ได้หันมามองฉัน ฉันจำได้ครั้งล่าสุดคือฉันนั่งรถมากับพี่สิงห์จากนั้นฉันก็ไม่รู้อะไรอีกเลยแกร็ก~เสียงประตูถูกเปิดเข้ามาในห้อง ผู้ชายชุดดำสองคนที่อยู่ในห้องก่อนแล้ว โค้งตัวให้คนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาเล็กน้อย คนที่เดินเข้ามาเขาคือ...พี่สิงห์“ตื่นแล้วหรอครับคนสวย...”รอยยิ้มที่พี่สิงยิ้มให้ฉันมันทำเอาฉันขนลุกไปทั้งตัว มันไม่เหมือนกับพี่สิงห์ที่ฉันเคยรู้จักเลย แต่ช่างเถอะตอนนี้ต้องบอกให้พี่สิงห์แก้มัดให้ก่อน“พี่สิ