[ Talk...Khanink]เช้าวันใหม่....วันนี้เป็นวันเสาร์ฉันไม่ต้องไปเรียนวันนี้ฉันดูรนๆ ระแวงหน้าระแวงหลังมากกว่าทุกวัน เพราะเมื่อวานพี่คริสบอกว่าวันนี้จะมาหาฉัน ยิ่งอยู่บ้านคนเดียวอยู่ด้วยบรื่น~ เสียงรถมาจอดหน้าบ้านสัมผัสได้ทันทีว่าต้องเป็นรถของพี่คริสแน่ๆ ฉันที่กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่รีบทิ้งสายฉีดน้ำแล้ววิ่งไปปิดก๊อกน้ำ พุ่งไปที่หน้าประตูบ้านเตรียมจะก้าวเท้าเข้าบ้าน...แต่...ไม่ทันคะ พี่คริสเร็วกว่าที่ฉันคิด ตอนนี้พี่คริสกำลังรั้งตัวฉันไว้ไม่ให้เข้าไปในบ้านฉันหันไปมองหน้าพี่คริส หน้าเขาเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ เหมือนไปมีเรื่องชกต่อยกับใครมา แต่ฉันจะไปสนใจทำไมกัน ใจแข็ง ฉันต้องใจแข็ง “ปล่อยหนู เมื่อวานหนูบอกพี่ไปแล้วไม่ใช่รึไง ว่าอย่ามายุ่งกับหนู...!!!” ฉันพยายามสะบัดแขนออกจากมือพี่คริส แต่พี่คริสไม่ยอมปล่อย“ไปเก็บเสื้อผ้า เธอต้องไปอยู่คอนโดกับฉัน ยายเธอกลับมาเมื่อไหร่ฉันจะมาส่งเธอที่บ้านเอง”“หนูไม่ไป!!” ฉันพูดเสียงแข็ง“เธอต้องไปคะนิ้ง...!!”“ก็บอกว่าไม่ไปไง ฟังไม่รู้เรื่องหรือไง!!”“เธอจะไปเก็บของเองหรือให้ฉันไปเก็บให้...!!”“เลิกบังคับหนูสักที!! เมื่อไหร่จะปล่อยให้หนูเป็นอิสระ หนูเบื่อ ได้
เช้าวันอาทิตย์....ก๊อกๆ ก๊อกๆ....(เสียงเคาะห้องดังขึ้นถี่ๆ)“คะนิ้งตื่นหรือยัง ออกมากินข้าวได้แล้วมันสายแล้วนะ”จริงๆ ฉันตื่นแล้วแหละ แต่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่ในห้องก๊อกๆ ก๊อกๆ...ฉันลุกขึ้นไปเปิดประตูห้องด้วยความรำคาญแล้วก็ทำหน้าหงุดหงิดใส่คนที่กำลังเคาะห้องอยู่ ไม่รู้จะเคาะทำไมหนักหนา พอพี่คริสเห็นฉันเปิดประตูออก พี่คริสยิ้มหน้าบานทันที“ไปกินข้าวกัน” พี่คริสจูงมือฉันไปนั่งที่โต๊ะอาหาร แล้วก็จัดการตักข้าวใส่จานฉันแล้วก็ตักใส่จานตัวเอง แล้วก็นั่งลงตรงข้ามกับฉัน“วันนี้ไปสนามแข่งรถกับฉันนะ”ฉันทำท่าคิดสักพัก ก็ดีเหมือนกันถ้าไป บางทีฉันอาจจะหาทางหนีได้ ขืนให้อยู่แต่ในห้องแบบนี้คงหนีไปไหนไม่ได้หรอก เพราะหน้าห้องก็มีลูกน้องพี่คริสคอยเฝ้าอยู่ “ค่ะ ไปก็ไป”หลังจากกินข้าวเสร็จฉันก็เข้าห้องนอนไปอาบน้ำแต่งตัว เสร็จแล้วก็ออกมาจากห้องพี่คริสนั่งรออยู่ตรงโซฟา พอพี่คริสเห็นชุดที่ฉันใส่ก็ทำหน้าแบบไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่“ทำไมแต่งตัวแบบนี้ !!” พี่คริสมองชุดที่ฉันใส่แบบไม่สบอารมณ์“ทำไม อย่ามายุ่งหนูจะแต่งตัวยังไงมันก็เรื่องของหนู”พี่คริสถอนหายใจออกมา ยาวๆ สีหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด“อื้ม...ก็ได้ๆ ไ
ภายในรถ...“พี่ไม่สบายหรอ ?” ฉันหันหน้าไปถามพี่สิงห์ เพราะตอนนี้พี่สิงห์ปิดแมทที่หน้าอยู่พี่สิงห์พยักหน้าตอบแล้วก็ขับรถ“อื้อ พี่มาทำไมแถวนี้อะ ?” ฉันถามอย่างแปลกใจพี่สิงห์หันมามองฉันแต่ไม่ตอบอะไรแล้วก็หันหน้ากลับไปมองถนนต่อ อะไรของเขากัน ถามก็ไม่ตอบ นั่งไปสักพักมันรู้สึกง่วงขึ้นมาซะงั้นจากนั้นฉันก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย.....ฉันรู้สึกตัวอีกทีเหมือนได้ยินเสียงคนคุยกัน...ร่างกายฉันขยับไปไหนไม่ได้เลย หรือว่า หรือว่า ฉะ ฉันจะโดนผีอำฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้น ตอนนี้ตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ ตัวถูกมัด ที่นี่มันที่ไหน นี่ไม่ใช่บ้านของฉันมีผู้ชายใส่ชุดดำกำลังยืนทำอะไรไม่รู้ เขาไม่ได้หันมามองฉัน ฉันจำได้ครั้งล่าสุดคือฉันนั่งรถมากับพี่สิงห์จากนั้นฉันก็ไม่รู้อะไรอีกเลยแกร็ก~เสียงประตูถูกเปิดเข้ามาในห้อง ผู้ชายชุดดำสองคนที่อยู่ในห้องก่อนแล้ว โค้งตัวให้คนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาเล็กน้อย คนที่เดินเข้ามาเขาคือ...พี่สิงห์“ตื่นแล้วหรอครับคนสวย...”รอยยิ้มที่พี่สิงยิ้มให้ฉันมันทำเอาฉันขนลุกไปทั้งตัว มันไม่เหมือนกับพี่สิงห์ที่ฉันเคยรู้จักเลย แต่ช่างเถอะตอนนี้ต้องบอกให้พี่สิงห์แก้มัดให้ก่อน“พี่สิ
วันต่อมา....เมื่อวานพี่สิงห์ฉีดยานั่นให้ฉันไม่รู้กี่รอบ ตอนนี้ฉันรู้สึกต้องการ ต้องการยาบ้าฉันที่พี่สิงห์ฉีดให้ ตอนนี้ฉันอยู่ในห้องคนเดียวอาการฉันเริ่มอยู่ไม่นิ่ง ใจฉันสั่นรัว มือไม้ปัดป่ายไปทั่ว พยายามลื้อของหายาที่พี่สิงห์เอาฉีดฉัน“ยะ..ยา ยาอยู่ไหน..!!” ฉันมองไปรอบๆ ห้องหายใจเข้าออกถี่ๆแรงๆ ราวกับคนเป็นโรคหอบแกร๊ก! เสียงประตูห้องเปิดเข้ามา...ฉันรีบหันขวับไปทางประตูห้องทันที พอเห็นว่าคนที่เข้ามาคือพี่สิงห์ฉันก็รีบวิ่งไปหาพี่สิงห์ทันที“พะ..พี่ พี่สิงห์ ขะ..ขอ..”“ว่าไงขออะไรหื้ม”“ขะ..ขอยา..หนู..ขะ..ขอยาหน่อย” ฉันแบมือตรงหน้าพี่สิงห์ไม่ไหวแล้วตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนคนที่กำลังใจจะขาดถ้าฉันไม่ได้ยาฉันต้องบ้าตายแน่ๆ“ฮ่าๆๆ ได้สิ สำหรับเธอฉันให้ได้อยู่แล้วคะนิ้ง”ฉันคลี่ยิ้มออกมาอย่างดีใจ พี่สิงห์หันไปสั่งลูกน้องพี่เฝ้าอยู่หน้าประตูห้องให้ไปเอายามาให้ฉัน จากนั้นไม่นานลูกน้องพี่สิงห์ก็เอายามาให้พี่สิงห์ พี่สิงห์จัดการฉีดเข้าไปในร่างกายฉัน จากที่ฉันร้อนรนกระวนกระวาย ตอนนี้สงบลงแล้วตอนนี้ฉันกำลังนอนอยู่บนเตียงสายตาจ้องไปที่เพดาห้อง สายตาเหม่อลอย แต่กลับรู้สึกมีความสุขแบบบอกไม่ถูก“ไง มี
[Talk... Chris] พอมาถึงฮ่องกง ที่แรกที่ผมไปก็คือบ้านของไอ้สิงห์ ปัง! ผมยิงปืนที่อยู่ในมือสาดกระสุนใส่ลูกน้องของไอ้สิงห์ที่มาขวางทางผม “ไปตามลูกพี่มึงมา” ลูกน้องไอ้สิงห์รีบวิ่งไปทันที “ถ้าไม่เจอคะนิ้งละวะ!!” ไอ้คลาสถามไม่นานไอ้สิงห์ก็เดินมาหาพวกผม ใบหน้ามันยิ้มมาแต่ไกล ไอ้นี่มันโรคจิต ผมเล็งปืนจ่อไปที่กลางกบาลของมัน“เมียกูอยู่ไหน !!”“หึ!.ฮ่าๆ” มันหัวเราะออกมาเสียงดัง “มันจะหัวเราะทำเหี้ยอะไรวะ”“ไอ้นี่สงสัยหลอนยาว่ะ” ไอ้คลาสพูดเบาๆ ปั่ง! ผมยิงผ่านเส้นผมของไอ้สิงห์ไปถ้ามันยังกวนผมอีกครั้งนี้ผมยิงเจาะกระโหลกมันแน่“กูถามว่าเมียก็อยู่ไหน”“เมียมึงหาย? แล้วมึงมาตามหากับกูทำไมวะ”“มึงอย่ามาเล่นลิ้นกับกูไอ้สิงห์”“ถ้ามึงไม่เชื่อ มึงก็เข้าไปค้นดูเอาเองสิ!!”“หึ! เข้าไปค้นให้ทั่วทุกซอกทุกมุม !!” ผมสั่งลูกน้องผมให้เข้าไปค้นบ้านไอ้สิงห์“ครับนาย !!”“ถ้าเมียกูอยู่กับมึง มึงไม่ตายดีแน่ไอ้สิงห์ คนอย่างมึงมันเกินจะเยียวยาแล้วจริงๆ”“หึ!”สักพักลูกน้องผมวิ่งออกมาจากในบ้านของไอ่สิงห์ “นายครับ ไม่เจอเลยครับ!!”“มึงว่าไงนะ”“ไม่เจอคุณคะนิ้งเลยครับ พวกผมหาหมดทุกซอกทุกมุมแล้วครับนาย”“กูบอกแล้
สามวันเต็มๆ ที่ผมอยู่ในห้องกับคะนิ้ง ผมสั่งห้ามไม่ให้ใครเข้ามาในห้อง จะเข้ามาได้ก็ตอนที่เอาอาหารมาให้ สามวันที่เราร่วมรักกันจนแทบไม่มีเวลาพักเลย ผมดูหื่นไปใช่ไหม ใช่ครับผมหื่น ทุกครั้งที่คะนิ้งร้องหายา ผมก็จะทำเรื่องอย่างว่ากับเธอทุกรอบ คิดเอาแล้วกันครับว่าบ่อยแค่ไหน วันนี้คะนิ้งเธอตื่นสายมากกว่าทุกวัน อาการเธอเริ่มดีขึ้นมาก ถึงแม้ว่าสามวันที่ผ่านมาเธอไม่คุยอะไรกับผมเลย แต่วันนี้เธอลุกขึ้นมานั่งเม่อมองอะไรไม่รู้ตรงหน้าต่าง ผมแปลกใจนิดหน่อย แต่เห็นแบบนี้ผมค่อยสบายใจขึ้นมาบ้างผมเดินเข้าไปใกล้ๆ คะนิ้งแล้วก็นั่งลงข้างๆ เธอ “มองอะไรอยู่หื้ม” คะนิ้งเงียบไม่ตอบอะไรผม “เป็นไงบ้าง ดีขึ้นไหมวันนี้ฉันจะฉีดสารให้เธอนะ จะได้ไม่รู้สึกต้องการยานั่นอีก”คะนิ้งพยักหน้าตอบ เหมือนเธอเบลอๆ มองอะไรก็ไม่รู้ เห้อ ถึงจะดีใจที่วันนี้เธอลุกขึ้นมานั่งได้ไม่นอนดิ้นทุรนทุราย แต่เธอก็ยังเงียบอยู่ดี คงจะต้องจับกดสินะถึงจะได้ยินเสียง“เกลียด!”“หื้ม ว่าไงนะ!!” ผมขยับหน้าเข้าไปใกล้ๆ เพราะเมื่อกี้มันฟังไม่ค่อยถนัด “เกลียด กะ เกลียดสิงห์ ครั้งนี้ผมได้ยินชัดเจนว่าคะนิ้งเธอพูดว่าอะไร คะนิ้งพูดออกมาเบาๆ สายตายังคงเหม
“คะนิ้ง เรามาคืนดีกันเถอะนะ” พูดจบพี่คริสก็คลี่ยิ้มหวานให้ฉัน “ไม่ค่ะ ไม่มีวัน!!!” ฉันตอบเสียงแข็ง “ได้ไงคะนิ้ง สามวันที่ผ่านมาเธอกับฉันเอากันแทบไม่ได้พักเลยนะ”ฉันเบิกตากว้างทันทีที่พี่คริสพูดเรื่องหน้าอายนี้ขึ้น ภาพเหตุการณ์เรื่องอย่างว่าที่ฉันกับพี่คริสมีอะไรกันมันผุดเข้ามาในหัว กรี๊ด!!! ฉันกรี๊ดในใจดังๆ ฉันทำไมถึงยอมเขาได้ “ละ แล้วไง สมัยนี้คนนิยมมีอะไรกันแต่ไม่ใช่แฟนกันเยอะแยะไป”“คะนิ้ง!!” พี่คริสเรียกชื่อฉันเสียงแข็ง แล้วก็มองฉันด้วยสายตาดุดัน“ทำไม หรือมันไม่จริง พี่ก็ทำบ่อยไม่ใช่หรือไง หึ!!”“นั่นมันฉันเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ฉันรักเมียคนเดียว”“งั้นพี่ก็ไปหาเมียพี่ อย่ามายุ่งกับหนู” ฉันดันตัวพี่คริสออก พอดันพี่คริสออกจนหลุดฉันก็เปิดประออกจากห้อง แล้วเดินลงชั้นล่าง คิดหรอว่าคนอย่างพี่คริสจะไม่ตามฉันมา ไม่มีทาง ตอนนี้พี่คริสเดินตามฉันมาติดๆ“คะนิ้ง เมียที่ฉันพูดถึงก็เธอไง !!”“หุบปากได้ไหม รำคาญ!!” ฉันหยุดเดินแล้วหันไปทำตาดุใส่พี่คริส “....อ้าวเฮีย ลงมาจากห้องได้แล้วหรอ”จู่ๆ ก็มีเสียงผู้ชายทักขึ้น ฉันหันไปมองทางต้นเสียง ถึงกับตาค้างเลยจริงๆ เพราะความหล่อของคนที่ทักพี่คริส ทำ
พี่คริสดูจะไม่สะทกสะท้านอะไรเลยจริงๆ พรึบ! ฉันลุกขึ้นจากที่นอนเตรียมจะเดินออกจากห้อง แต่พี่คริสนี่สิ รีบลุกพรวดขึ้นมาดักหน้าฉันสะก่อน “จะไปไหน ?”“มันเรื่องของหนู หลีกไป !!” ฉันบอกเสียงแข็ง พร้อมกับจ้องหน้าพี่คริสตาเขม็ง“เฮ้อ มันดึกแล้วคะนิ้ง นอนเถอะ !!” พี่คริสถอนหายใจออกมายาวๆ “พี่ก็ออกไปนอนที่อื่นสิ หนูจะนอนคนเดียว !!”“จะอะไรหนักหนาวะคะนิ้ง ฉันเป็นผัวเธอ นอนด้วยกันมันจะเป็นอะไร !!”“เลิกยุ่งกับหนูสักที” ฉันพูดสีหน้าจริงจัง ยิ่งพี่คริสทำแบบนี้มันยิ่งทำเหมือนตัวฉันไม่มีค่าอะไรเลย คิดอยากจะทำอะไรกับฉันก็ได้ แบบนี้หรอ เดี๋ยวพอฉันใจอ่อนก็ทิ้งฉันเหมือนหมูเหมือนหมาพรึ่บ! พี่คริสดึงฉันเข้าไปกอดแน่น“พี่คริส! ปล่อยนะ” ฉันพยายามดิ้นๆ ไม่ยอมยืนนิ่งให้เขากอด ถึงจะดิ้นไม่หลุดก็เถอะ มันก็ยังดีกว่ายืนอยู่เฉยๆ “ไม่!!”“หน้าด้าน!!” ฉันพูดออกไปอย่างเหลืออด“เธอเพิ่งรู้หรือไงว่าฉันหน้าด้าน”ฉันเงียบไม่ตอบอะไร แล้วก็เลิกดิ้น ดิ้นไปก็เหนื่อยเปล่า ฉันละอยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆ จริงๆ เลย “ขอได้ไหม คืนนี้” พี่คริสมองหน้าฉันแววตาเป็นประกาย “นะ คะนิ้ง ฉันไม่ได้เอาเธอใจฉันจะขาดอยู่แล้วเนี้ย !!”ฉันชั่