ตอนนี้เป็นเวลาเกือบห้าทุ่มแล้ว ฉันอาบน้ำและแต่งตัวเตรียมเข้านอนหวังว่าเฮียเต้จะกลับเข้ามาแต่ก็ไม่มีวี่แววเลย หรือเป็นเพราะฉันเข้ามาอยู่ในห้องของเขาทำให้ไม่อยากกลับมากันนะ เขาเกลียดฉันขนาดนั้นเลยเหรอ
ครืด~ ครืด~
ฉันเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมากดรับสายของแม่เกือบลืมไปแล้วเพราะมัวแต่จัดระเบียบห้อง
"คะแม่"
(เป็นยังไงบ้างชา อยู่ได้ใช่ไหมลูก) เสียงของแม่ทำเอาฉันแทบน้ำตานอง ไม่บ่อยนักหรอกที่ต้องห่างกันแบบนี้ ยิ่งได้ยินคำถามจากน้ำเสียงที่คอยเป็นห่วงแบบนั้นแล้วยิ่งอยากร้องไห้
"อยู่ได้ค่ะ ชามีเฮียแล้วนี่" มีซะที่ไหนกันตอนนี้หนีไปเที่ยวทิ้งฉันอยู่ในห้องคนเดียวแล้ว
(งั้นแม่ก็สบายใจแล้วล่ะ ไว้อาทิตย์หน้าแม่จะไปหานะขอโทษที่ไม่ได้ไปส่งนะลูก)
"ไม่เป็นไรค่ะ แล้วพ่อล่ะคะ" ตั้งแต่วันนั้นพ่อก็พูดกับฉันน้อยลงเหมือนจะยังโกรธๆ อยู่ที่ฉันทำตัวเหลวไหล
อันที่จริงมันก็รู้สึกผิดกับความคิดตื้นๆ ของตัวเองอยู่หรอกแต่จะทำยังไงได้มันผ่านมาถึงจุดนี้แล้ว
(พ่ออยู่ข้างๆ นี่แหละจะ ลูกรีบพักผ่อนเถอะนะดึกแล้ว)
"ค่ะ พ่อแม่ฝันดีนะคะ"
(ฝันดีลูก พ่อแม่รักลูกนะ)
"หนูก็รักพ่อกับแม่ค่ะ"
พอวางสายจากแม่ฉันก็กดโทรออกหาเบอร์เฮียเต้ที่ตอนนี้ถูกบันทึกชื่อของเขาเอาไว้ว่า'คุณสามีที่รัก' โทรไปอยู่สองสามครั้งปลายสายก็ไม่มีทีท่าว่าจะรับสายเลย แล้วฉันก็ไม่มีเบอร์เพื่อนของเขาด้วยสิจะไปตามหาได้ที่ไหนกัน
พอรู้ตัวว่าเขาคงไม่มีทางรับสายจึงเปิดแอพพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งมีข้อความของเราที่เคยคุยกันในอดีตแต่มันนานหลายเดือนแล้ว เพราะเค้าไม่ค่อยตอบข้อความของฉันเท่าไหร่ จึงไม่ได้ทักไปอีกแต่แอบไปหาเขาที่บ้านแทนเพราะยังไงเขาก็หนีฉันไม่พ้นอยู่แล้ว มันอาจจะดูน่ารำคาญสักหน่อย หรือมากเลยทีเดียวสำหรับเฮียแต่จะทำยังไงได้ล่ะในเมื่อฉันชอบเขานี่นา และหวังว่าสักวันเขาคงจะหันกลับมามองฉันบ้าง
Bai-cha : เฮียกลับมาเลยนะ อย่าทิ้งชาไว้คนเดียวสิ
ส่งข้อความนั้นไปแล้วฉันจึงวางโทรศัพท์มือถือของตัวเองทิ้งไว้บนเตียงเดินไปเปิดโทรทัศน์ ดูรายการทีวีเรื่อยเปื่อยเพื่อรอให้เฮียเต้กลับมา
อีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอมแล้วยังพอมีเวลาได้เที่ยวเล่นอีกสักหน่อย ส่วนพรุ่งนี้มีนัดเข้าไปคณะตอนบ่ายเพราะรุ่นพี่จะชี้แจงเรื่องรับน้องและแนะนำเรื่องการลงทะเบียนเรียน วันนี้ฉันจึงนอนดึกได้ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ฉันจะรอจนเฮียเต้กลับมา...
แกร๊ก!
"อื้อ~"
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่ฉันเผลอหลับบนโซฟาหน้าโทรทัศน์จอยักษ์จนกระทั่งได้ยินเสียงเปิดประตูดังขึ้น
"..." สีหน้าของเฮียดูเรียบนิ่งไม่แสดงอาการเมามายเลยแม้แต่นิดเดียว แถมยังเมินฉันอีกด้วยการเดินผ่านไปเหมือนฉันไม่มีตัวตนอยู่ในห้องนี้
"เฮียไปไหนมา โทรไปก็ไม่รับ"
"ยุ่ง"
"ทำไมจะยุ่งไม่ได้" รู้ตัวนะว่าฉันมันน่ารำคาญแต่เมื่อแต่งกันแล้วเฮียก็ต้องใส่ใจฉันบ้างสิ
"..." แล้วเฮียก็ไม่ตอบเดินดุ่ม ๆ เข้าไปอาบน้ำ ฉันที่ง่วงอยู่แล้วก็ไม่หาเรื่องต่อเดินเข้าห้องไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงซะเลย
พอเฮียเต้อาบน้ำเสร็จก็ออกมาทั้งผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวอย่างหมิ่นเหม่ จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใส่สบายแล้วหยิบหมอนดึงผ้าห่มที่ฉันใช้อยู่ออกไปจากห้อง
"อะไรของเฮียวะ ก็มานอนบนเตียงดิแล้วทำแบบนี้ชาจะเอาอะไรห่ม"
"ฉันไม่อยากนอนกับเธอ"
หลังจากที่เฮียเต้ตอบมาแบบนั้นฉันก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรให้รำคาญอีก หยิบเสื้อแขนยาวกันหนาวมาใส่นอนแค่นั้นก็จบเรื่อง จะไม่ให้ห่มก็ไม่เป็นไร จะไปนอนที่ไหนก็เรื่องของเฮียเถอะ ง่วงจะตายแล้ว
พรุ่งนี้ค่อยคิดแผนที่จะทำให้เฮียรักแล้วกันวันนี้ช่างหัวเฮียเถอะ
เช้าวันต่อมา
ตื่นเช้ามาฉันก็เห็นเขานอนอยู่ตรงโซฟาตัวใหญ่ ห่มผ้าเปิดเครื่องปรับอากาศอย่างสบายๆ เพราะพื้นที่โซฟาค่อนข้างกว้างพอสมควร
ฉันจัดการทำอาหารเช้าเก็บเสื้อผ้าของเฮียไปซักให้เรียบร้อย หยิบเสื้อผ้านักศึกษาของเขาและของตัวเองออกมารีดให้จนกระทั่งสายๆคนที่หลับยาวก็ตื่นขึ้นมา
"เฮียไม่เคยใส่ช็อปให้ชาเห็นเลย อยากเห็นจัง" ฉันยิ้มแล้วรีดเสื้อช็อปให้เขาคิดภาพแล้วคงเท่น่าดู
"อย่าทำรอยแล้วกัน"
"เกียร์ล่ะอยู่ไหน" ฉันจัดการเก็บเสื้อที่รีดเสร็จใส่ไม่แขวนแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเคยได้ยินเรื่องเล่าจากเพื่อนเกี่ยวกับเกียร์ของคณะวิศวะ
ส่วนใหญ่เขาจะเอาให้คนที่ตัวเองรักเพื่อเป็นสิ่งแทนใจนี่นาแล้วเฮียเอาให้ใครไปหรือยังนะ
"ถามทำไม" คนหน้ายุ่งถามแล้วปรายตามองอย่างหาเรื่อง "อย่าคิดว่าจะเอาไป ถ้ารู้ว่าเธอแอบเอาไปตายแน่"
"แอบทำไม ก็มันต้องเป็นของชาอยู่แล้วปะ" ถ้าเฮียพูดแบบนั้นแปลว่ายังไม่ได้ให้ใครไปแน่นอน
"ทำไมต้องเป็นของเธอ"
"เกียร์ก็ต้องให้แฟนไง นี่เมียเลยนะจะไม่ให้ได้ยังไง"
"ฉันจะให้คนที่ฉันรักเท่านั้น และคนคนนั้นคงไม่ใช่เธอ" พูดไม่ถนอมน้ำใจกันเลย ฉันก็คนนะเว้ยถึงจะรู้ตัวว่าชอบกวนประสาท แต่เฮียมีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้วนะจะไปรักใครอีก
"เดี๋ยววันหนึ่งเฮียก็ต้องเอามาให้ชาอยู่ดี"
"ไม่มีวันนั้นหรอก ฉันมั่นใจ" เฮียจะบอกว่าไม่มีทางรักฉันเหรอ คนเรามันก็ต้องหวั่นไหวให้กันสักวันน่า น้ำหยดลงหินทุกวันหินยังกร่อนเลยนับประสาอะไรกับหัวใจที่เป็นแค่ก้อนเนื้อนุ่มนิ่ม
"ไม่คุยด้วยดีกว่า แล้วอย่ามาร้องไห้เพราะรักใบชาหัวปักหัวปำแล้วกัน"
"สิ่งที่เธอพูดมามันมีความเป็นไปได้ไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์เลยด้วยซ้ำ ยัยงั่ง"
ว่าแล้วก็เดินหนีไปทางอื่นแบบไม่สนใจฉันอีกเลย เก่งจังเลยนะเรื่องทำร้ายจิตใจคนอื่นน่ะ แต่คนอย่างใบชาแค่นี้ไม่สะทกสะท้านหรอก เฮียเคยปฏิเสธมาเป็นร้อย ๆ ครั้งแล้วยังรอดมาได้ถึงตอนนี้เลย
EP.6หลายวันต่อมาในที่สุดก็ถึงวันเปิดเรียนวันแรก ฉันขอร้องอ้อนวอนสุดชีวิตเพื่อให้เฮียฮ่องเต้มาส่งที่คณะเพราะไม่อย่างนั้นคงได้เดินให้เหนื่อยเพราะฉันไม่มีรถขับพ่อกับแม่ฝากฝังชีวิตฉันไว้กับเฮียเลยนะ คอนโดนี้ก็ไม่ได้อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเลยสักนิดเดียว "ตอนเย็นเฮียว่างมารับไหม"ฉันหยิบกระเป๋าขึ้นมาแนบอกแล้วถามคนขับแต่กลับไม่ได้ยินเสียงตอบรับจึงต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง สายตาของเฮียกำลังมองออกไปยังกระจกหน้ารถที่มีผู้หญิงคนหนึ่งแต่งชุดนักศึกษาแบบเดียวกันกับฉันยืนอยู่กับเพื่อนของเธอ แววตาที่เขามองนั้นทำให้หัวใจของฉันมันบีบตัวแน่นจนจุกแปลกๆ"เฮีย!" "หะ...หา! อะไรจะเสียงดังทำไมวะ!" พอโดนเรียกจนตกใจเขาก็ทำท่าทางหงุดหงิดใส่ฉัน แบบนี้บ่งบอกถึงความผิดปกติอย่างแน่นอน ต้องไปสืบสักหน่อยแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไรกับเฮีย"ก็ชาถามแล้วเฮียไม่ตอบอะ" "มีอะไร" น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาลงสายตายังคงมองไปตรงที่ผู้หญิงคนนั้นเป็นระยะ ฉันจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ก่อนแล้วกันเดี๋ยวไก่ตื่น"เย็นนี้มารับชาด้วยนะ เลิกห้าโมงเพราะรุ่นพี่นัดรวมรับน้องต่อ""หัดหาเพื่อนคบแล้วไปกับเพื่อน เฮียไม่ใช่เบ๊ที่จะมารับใช้เธอได้ทุกเวลา" "ก็ถ้
EP.7หลังจากเลิกเรียนวิชาสุดท้ายตอนบ่ายสามพวกเราปีหนึ่งบางส่วนก็นั่งรออยู่ใต้ตึกเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมรับน้อง บางส่วนก็กลับหอพักกันแต่ฉันผู้ที่คอนโดอยู่ไกลนั้นต้องนั่งรออยู่ที่นี่โชคดีที่ปาล์มมี่อยู่เป็นเพื่อนพร้อมกับเพื่อนสาวสองอีกคนที่ชื่อทิวลิป เมื่อก่อนก็ชื่อไอ้ทิวเฉยๆแต่ให้เรียกทิวลิปเพื่ออรรถรสเหมือนกับปาล์มมี่ที่จริงแล้วมันชื่อไอ้ปาล์ม นี่เป็นเรื่องเล่าจากปากเพื่อสาวทั้งสองของฉันเอง"แม่นางสตอเบอรี่" ปาล์มมี่ที่หันไปเจอเข้ากับเพลงที่เดินผ่านมาพอดีก็พูดขึ้นมาแต่ยัยนั่นไม่ได้ยินหรอกเพราะอยู่ไกลกันพอสมควร"อือ แกก็คิดเหมือนฉันเหรอบีหนึ่ง" ทิวลิปหันไปมองเพลงอีกคนแล้วเบะปากคว่ำ "วันก่อนฉันไปร้านเครื่องสำอาง เจอนางเข้าพอดีนางพูดลอย ๆเหมือนดูถูกว่าฉันไม่มีปัญญาซื้อ นังนี่มันคิดว่าตัวเองเป็นใคร""แต่แปลกนะผู้ชายชอบคนแบบนี้ เพราะรุ่นพี่พากันแซวมัน แหม เพื่อนฉันสวยกว่าอีกอย่าให้ดัน" ปาล์มมี่หันมาอวยยศฉันที่นั่งพิจารณาเรื่องของเพลงอยู่ พี่ฮ่องเต้คงจะชอบยัยเพลงนี่แบบไม่ต้องสงสัยหรืออาจจะมีอะไรมากกว่านั้นที่ฉันยังไม่รู้ "เรามาปั้นยัยใบชาเถอะ เอาให้แม่นั่นตกรอบไปเลยค่ะ""จัดไปค่ะกระเทย"แปะ
EP.8วันต่อมาหลังจากเลิกเรียนช่วงเช้าแล้วเพื่อนสาวทั้งสองของฉันก็พามาร้านเสริมสวยที่ฉันแทบจะไม่เข้าเลยในรอบสิบเก้าปี จำได้ว่าครั้งสุดท้ายก็ตอนมัธยมต้นเพราะอยากลองตัดผมสั้นสักครั้งในตอนนั้น"พี่ป่านคนสวยคะ แปลงโฉมให้นางหน่อย เปลี่ยนสีผมด้วย แล้วก็ตัดสั้นขึ้นจากเอวมาอยู่กลางหลังค่ะ" ปาล์มมีเอ่ยปากทักทายช่างอย่างสนิมสนมแล้วสั่งทรงผมให้เสร็จสรรพ ส่วนฉันก็สนใจรูปโปสเตอร์ทรงผมสวยๆภายในร้านที่ดูน่าสนใจไปหมด"อืม อยากได้สีอะไรคุณน้อง""เอาสีของคนอกหักค่ะ" ทิวลิปตอบแทนฉันจนต้องหันขวับไปมองมัน"ฉันไม่ได้อกหักนะ""มันต่างกันตรงไหนชะนี ก็คนที่แกชอบเขาไปชอบแม่นั่นไม่ใช่" ตอกย้ำทำไมกันเนี่ย เรื่องนี้ยังสรุปไม่ได้เลยด้วยซ้ำอีกอย่างไม่ใช่คนที่ฉันชอบ นั่นน่ะสามีฉันเลยต่างหากโถใบชาถ้าพูดให้ใครฟังคงได้กลายเป็นคนที่น่าสงสารมากแน่ๆ แล้วสองคนนี้ก็จะเกลียดเพลงมากขึ้นด้วย"เอาสีไหนก็ได้ค่ะที่เหมาะกับหน้าหนู" ฉันบอกช่างพี่ป่านแล้วเดินไปนั่งบนเก้าอี้หนัง"น้องผิวขาวแบบนี้สีไหนก็สวย งั้นเราทำพวกสีสว่างๆดีกว่าเด่นแน่นอน""บลอนด์ทองไปเลยค่ะ" ปาล์มมี่เสนอความคิดเห็น"มะ...ไม่เอา" นั่นมันสว่างเกินไปแล้ว เหมือนเปิ
EP.9หลังจากดูหนังเสร็จเพื่อนสาวทั้งสองก็พากันมาส่งที่คอนโดเพราะตอนนี้เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้วพอมาถึงห้องก็พบว่าเฮียเต้ปักหลักอยู่ที่เดิมแต่ยังอยู่ในชุดเสื้อช็อปวิศวะที่ฉันอยากเห็น เพราะตอนเช้าออกห้องก่อนเลยเพิ่งรู้ว่าเขาใส่ชุดนี้ไปเรียน"..." ฉันแอบย่องผ่านทางด้านหลังเพื่อไม่ให้เขาหันมาสนใจ เพราะทั้งสีผมทั้งหน้าที่แต่งมาแบบนี้ถ้าเฮียเห็นคงตกใจแล้วคิดว่าฉันเป็นบ้าอยู่แน่"ไปไหนมา"เฮือก! เสียงของเฮียดังขึ้นมาจากด้านหลัง ทุกวันก็ไม่เคยจะสนใจทำไมวันนี้ถึงต้องมาถามด้วยล่ะ "ดูหนังกับเพื่อน" พอตอบคำถามนั้นแล้วฉันก็รีบจ้ำอ้าวไปทางประตูห้องนอน แต่เฮียกลับเรียกไว้อีกรอบ"เดี๋ยว" ผีเข้าเฮียหรือไงวะ จะมาสนใจอะไรกันวันนี้! "ไปทำอะไรมา เปิดเทอมได้สองวันทำตัวซ่าแล้วเหรอ""ซ่าอะไรชาไม่ได้ทำสักหน่อย ก็แค่ทำสีผมเอง""หันหน้ามา" "..." ฉันหันหน้าไปหาเฮียช้าๆพร้อมกับรอยยิ้มจนตาหยี "มีไรเหรอเฮีย""..." ใบหน้าคมคายมองมานิ่งๆ แล้วก็หันหน้ากลับไปมองจอโทรทัศน์แบบเดิม "แม่เธอโทรมาหาเฮียบอกโทรไปแล้วไม่รับ""ออ ชาปิดเสียงน่ะ เดี๋ยวโทรกลับเอง" ว่าแล้วฉันก็กระโดดโลดเต้นเข้ามาในห้องแล้วกระโดดลงเตียงกดโทรหาแม่ทั
EP.10พอกลับขึ้นมาบนห้องได้ฉันก็กระโดดขึ้นโซฟาที่เฮียใช้เป็นที่หลับที่นอนมาตลอดตั้งแต่ฉันมาอยู่ด้วย รีบเปิดอ่านหนังสือการ์ตูนเล่มโปรดทันทีด้วยความตั้งใจครืด~ ครืด~จนกระทั่งผ่านไปครู่ใหญ่เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นเมื่อมีสายเข้าจากเพื่อนสาวอย่างปาล์มมี่ "ว่าไงแม่" สรรพนามใหม่ที่ใช้เรียกเพื่อนผู้กำหนดชีวิตฉัน (แกวันนี้ฉันจะพาไปเปิดหูเปิดตา แต่งตัวสวยๆแล้วลงมารออยู่ล่างคอนโด ให้เวลาหนึ่งชั่วโมงสองทุ่มไปรับ) มันสั่งฉันยิ่งกว่าแม่อีกนะ"ไปที่แบบไหนจะได้แต่งตัวถูก"(ร้านเหล้า) โอเคตรงตัวดี แต่เดี๋ยว! อายุเรายังไม่ถึงเกณฑ์เข้าได้เลยนะ"จะเข้ายังไง"(ฉันมีวิธีแกไม่ต้องเป็นห่วง แต่งตัวสวยๆให้เหมือนแม่เสือสาววัยยี่สิบกว่าก็พอ) สิ่งที่ยัยปาล์มมี่บอกมาฉันเข้าใจแค่นิดเดียวเท่านั้นแต่จะพยายามเข้าใจแล้วกัน"จะไม่โดนจับแน่นะ"(ชะนีอย่าพูดมาก เตรียมตัวให้พร้อมเดี๋ยวไปรับ)"โอเค"หลังจากตอบรับคำเชิญของเพื่อนฉันก็เก็บหนังสือการ์ตูนเรื่องโปรดมาไว้ในห้อง อาบน้ำแต่งตัวและแต่งหน้าโดยการเสิร์จหาตัวอย่างจากพวก Youtuber มือใหม่หัดแต่งก็แบบนี้แหละน่า'แต่งหน้าไปเที่ยวกลางคืน'ใช้เวลาเกือบครึ่งช
EP.11"พี่จะพาหนูไปไหน" ตอนนี้รุ่นพี่อุ้มฉันมาจนถึงลานจอดรถข้างร้านเหล้าร้านหนึ่ง ใครหลายคนหันมามองเรากันหมดเพราะสภาพฉันตอนนี้คงเหมือนคนเมามายจนเดินไม่ไหวไอ้เมาก็เมาอยู่หรอกแต่พอกระโดดลงกำแพงมาเจ็บตัวมันก็หายเมาไปเกือบหมด"ไปหาหมอไง" เขาวางฉันลงกับเบาะแล้วตอบคำถามเสียงเรียบ "ทำไม""เออ พอดีมากับเพื่อนเดี๋ยวให้เพื่อนไปส่งก็ได้ค่ะ" ว่าแล้วฉันก็ล้วงมือถือในกระเป๋ากางเกงออกมาเพื่อที่จะต่อสายหาเพื่อนสาวสองคนนั้น"เพื่อนเธอขับรถอะไรมา""มอเตอร์ไซค์ค่ะ""โทรบอกเพื่อนว่าไปเจอกันโรงพยาบาลเลย" "...ค่ะ"เขาจะไปส่งฉันเองเลยเหรอ ทำไมเป็นคนดีจังทั้งที่เราเพิ่งจะรู้จักกันแท้ๆ ถ้าเฮียดีได้ครึ่งหนึ่งของพี่นอร์ธก็คงจะดี"กัญชา!" ฉันรีบหันขวับไปมองเสียงของคนที่ตะโกนเรียกขึ้นมาก่อนเห็นใบหน้าบูดบึ้งของเฮียเต้ที่ยืนอยู่ไกลๆ"โอ๊ะ! พี่ชายหนูมารับแล้วค่ะ" ฉันรีบเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกงไว้อย่างเดิม ที่บอกว่าพี่ชายเพราะเฮียกำชับไว้ว่าห้ามให้ใครรู้เรื่องแต่งงานเด็ดขาด"นั่นพี่เธอเหรอ" รุ่นพี่ถามอย่างสงสัยแล้วหันไปมองเฮียเต้ที่ยังยืนมองอย่างหาเรื่อง "ค่ะ เฮีย! ช่วยหน่อยดิ ชาเจ็บเท้าอะ" "..." เฮียเต้ขมวดคิ
EP.12"โอ๊ะๆ นังนั่นมันรู้จักพี่แกด้วยเหรอ" คำพูดของปาล์มมี่ทำฉันต้องรีบหันไปมองและเป็นอย่างที่คิดไว้ คนที่เข้าไปคุยกับเฮียคือยัยเพลง"..." ฉันไม่ได้ตอบคำถามเพื่อนแค่ยืนมองเฮียที่คุยอยู่กับแม่นั่น เขาหันมามองฉันแวบหนึ่งแล้วก็หันกลับไปคุยกับเพลงต่อถึงเฮียจะทำหน้ากระอักกระอ่วนใจแต่ก็เหมือนคนที่เคยคุยและรู้จักกันในระดับหนึ่งอยู่ดี"ดูสายตายัยนั่นที่มองพี่แกสิ แล้วยิ้มแบบนั้นคือคิดว่าตัวเองเป็นนางเองละครเวทีเหรอ""ฉันไปสั่งน้ำนะ"พอเดินไปถึงหน้าเคาน์เตอร์ฉันก็ยืนแทรกกลางระหว่างสองคนนั้นแบบรู้ตัวว่าเสียมารยาทแต่คนมันไม่ชอบใจใครจะทำไม"พี่คะ เอาชามะนาวแก้วนึง""ขอโทษนะใบชา เราคุยกับพี่เขาอยู่" ยัยเพลงหันมาพูดกับฉัน ถ้าให้เดาก็คงไม่รู้ว่าเราทั้งคู่อยู่ในสถานะไหนแล้วเฮียก็คงไม่อยากให้ฉันพูด"เรามาสั่งน้ำ ทำไมไม่ไปคุยที่อื่น" ฉันตอบเสียงเรียบแล้วหันไปมองยับนั่นที่ยืนยิ้มอยู่"พี่ฮ่องเต้ งั้นเราไปนั่งตรงนั้นด้วยกันไหมโต๊ะนั้นว่างพอดี" ยัยเพลงหันไปบอกเฮียแล้วยิ้มให้ฉันหันไปมองเฮียบ้าง เขาไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ออกมา เฮียมองตอบแล้วก็เลื่อนสายตาไปมองยัยเพลง "พี่รีบไปเรียนครับ"โอโฮ ร้อยวันพันปีไม่เค
EP.13"เอามาอีก วันนี้ฉันต้องเมา!" "ชะนี แกใจเย็นๆนะ มีอะไรไหนเล่ามาก่อนจะได้ปลอบใจถูก"หลังจากที่ถูกเฮียย่ำยีจิตใจจนป่นปี้และทิ้งให้อยู่คนเดียวในห้อง ฉันก็โทรหาเพื่อนให้ออกมารับเพื่อดื่มให้ลืมเฮีย ฉันจะเลิกรักเขาตั้งแต่วันนี้ เวลานี้ และนับตั้งแต่วินาทีนี้ให้ได้!"แกดื่มไปเยอะแล้วนะชะนี""พวกแกก็พาฉันกลับไง ไม่ได้เหรอ..." เคยไหมที่แสดงออกเป็นคนเข้มแข็งอยู่ตลอด จนไม่กล้าร้องไห้ให้ใครเห็น แม้กระทั่งตอนนี้ที่อยากร้องไห้แทบตายแต่ฉันก็ร้องไม่ได้"ส่งได้แต่แกควรกลับแบบไม่ลำบาก""แค่วันเดียวเองฉันขอเมา รู้ไหมว่าวันนี้ฉันเจออะไรมาบ้าง" ตอนนี้ขอบตาฉันร้อนผ่าวแต่ก็ต้องสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อนห้ามตัวเองไม่ให้น้ำตามันไหลออกมา"ใครทำอะไรแกเนี่ยชะนี แล้ววันนี้ถ้าตำรวจลงแกจะรอดไหม ฉันไม่ได้ห้ามแกหรอกถ้าอยากเมาแต่แกต้องคิดถึงตัวเองด้วย" ปาล์มมี่พูดเหมือนอยากตำหนิแต่ก็แฝงไปด้วยความเป็นห่วง "เจ้าของแหวนวงนั้นเหรอที่ทำแกเจ็บ" ทิวลิปปรายตาลงไปมองแหวนสีเงินที่มีเพชรเม็ดเล็กๆฝังอยู่ เจ้าของเหรอ...เขาไม่ใช่เจ้าของมันสักหน่อยและคงไม่อยากเป็นด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะความตั้งใจของฉันทั้งหมดแต่สำห
EP.47พอกลับมาถึงห้องเฮียก็ได้รับสายจากแม่ของยัยแตมทันที คงเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อชั่วโมงถึงหูแล้วอย่างแน่นอน เฮียเต้วางโทรศัพท์มือถือเครื่องราคาแพงลงกับโต๊ะกินข้าวเลื่อนนิ้วเรียวไปเปิดลำโพงให้ดังจนฉันได้ยินด้วยอีกคน การกระทำของเฮียทำให้ฉันรู้สึกดีอยู่ไม่น้อย เพราะเหมือนเขาตั้งใจจะเปิดเผยทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขาให้ฉันได้รับรู้ด้วยทุกอย่าง ไม่ใช่แค่คำพูดหวานๆเพียงอย่างเดียว"ครับ"(ฮ่องเต้ สะดวกคุยไหมเอ่ย) เสียงของผู้หญิงที่ดูมีอายุพูดขึ้น น้ำเสียงเรียบนิ่งเหมือนคนที่กำลังสงวนท่าทีตัวเองอยู่"มีอะไรหรือเปล่าครับ" เฮียเงยหน้าสบตากับฉันที่เงียบฟังแล้วพิงหลังกับเก้าอี้กอดอกรอฟังยัยป้าคนนั้นพูด(ป้าได้ยินมาว่าน้องโดนทำร้ายร่างกาย แล้วก็โดนเพื่อนต่อว่า)"..." ฉันได้ยินเฮียถอนหายใจออกมาอย่างนึกรำคาญ จากนั้นก็พูดแบบไม่มีช่องว่างให้ป้าคนนั้นได้แทรกเลย "ใช่ครับแตมโดนตบเพราะแตมไปทำร้ายแฟนผมก่อน แฟนผมโดนแตมขังไว้ในห้องน้ำ ถ้าไม่มีใครรู้คงได้อยู่แบบนั้นถึงเช้าแน่ เรื่องนี้ผมเอาไปแจ้งความได้เลยนะครับจะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้เพราะภาพจากกล้องคงเห็นทุกอย่าง"(ออ งั้นก็ขอโทษแทนยัยแตมด้วยนะ แล้วเรื่
EP.46หลายสัปดาห์ต่อมาเพราะตอนนี้เป็นช่วงเปิดเทอมภาคเรียนที่สองแล้วทำให้กิจกรรมรับน้องไม่ได้มีเยอะเหมือนในเทอมแรก จะมีแค่บางคณะที่ยังรับน้องยาวมาถึงช่วงต้นเทอมสองอย่างคณะวิศวกรรมศาสตร์คณะของเฮีย"พี่ใบชา!" เสียงของญานินรุ่นน้องต่างคณะที่เป็นแฟนสาวของพี่ทศกัณฐ์ เฮ้ดว้ากของคณะนี้โบกมือเรียกฉันทันทีที่เห็น ตอนนี้ฉันเข้ามาในคณะของเฮียเต้เพราะต้องมารอเฮียจัดกิจกรรมรับน้อง วันนี้มีกิจกรรมสำคัญของคณะเฮียบอกว่าจะเลิกดึกจึงให้ฉันมารอที่นี่กับน้องญานินแทน"พวกเฮียไปรับน้องแล้วเหรอ""ใช่ค่ะ เพิ่งออกไปเมื่อกี้นี้เอง พี่กินผลไม้ไหม นินซื้อมาเผื่อเยอะเลย" สาวรุ่นน้องยื่นผลไม้มาวางตรงหน้า ฉันจึงยิ้มขอบคุณแล้วนั่งคุยเล่นกับเธอ ตั้งแต่วันที่ไปเที่ยวด้วยกันสองวันเราก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นรอจนถึงสามทุ่มพวกเฮียก็ยังไม่เลิก แต่ได้ยินเสียงเอะอะจากกิจกรรมรับน้องตรงลานกิจกรรมหรือที่ทุกคนในมหาวิทยาลัยจะเรียกมันว่าลานเกียร์ของคณะนี้ "ทำไมเลิกช้าขนาดนี้ล่ะ ทีแรกพวกรุ่นพี่บอกว่าสองทุ่มครึ่งไม่ใช่เหรอ" "พี่ทศกัณฐ์บอกว่ามีรุ่นน้องสาขาอุตส่าห์การคนหนึ่งทำตัวมีปัญหาค่ะเลยต้องเพิ่มบททดสอบ"ฉันพยักหน้าเข้าใจแล้วเดิ
EP.45พอมาถึงที่ป่าสนซึ่งเป็นสถานที่ตั้งแคมป์ของพวกเรา ทุกคนก็พากันกางเต็นท์ของตัวเอง จะมีก็แต่คู่เราเนี่ยแหละที่งอนกันอยู่ เฮียมันก็แกล้งเงียบใส่ฉันอยู่ได้ถ้าทำแบบนี้ใครมันจะไปอยากอยู่ด้วยอึดอัดใจจะตายไป"สาวๆ พี่ขอนอนด้วยได้ไหม" ฉันเดินดุ่มๆไปหาสองสาวรุ่นน้องที่กำลังช่วยกันกางเต็นท์อยู่โดยไม่สนใจเฮียที่ทำหน้าขรึมกางเต็นท์อยู่คนเดียว"ได้สิคะพี่ใบชา" น้องใบเฟิร์นตอบแล้วส่งยิ้มให้กันอย่างเป็นมิตร"เป็นอะไรอีกเนี่ย มาคุยกันดีๆ" พอฉันเดินกลับที่กระเป๋าเพื่อที่จะหยิบมันมาที่เต็นท์ของเด็กๆเฮียเต้ก็พูดขึ้นจากด้านหลัง แล้วเข้ามาดึงแขนฉันให้เดินตามไปแต่ฉันก็สะบัดแขนตัวเองออกแล้วจ้องหน้าเฮียกลับด้วยความหงุดหงิด"ชาอยากนอนกับน้อง ๆค่ะ เป็นผู้หญิงเหมือนกัน""..." เฮียถอนหายใจออกมาแล้วเท้าเอวมองฉันนิ่งเหมือนคนกำลังพยายามใจเย็นแล้วน้ำเสียงก็อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด "ใบชา""..." ฉันเบือนหน้าหนีก่อนจะหยิบกระเป๋าของตัวเองและเอื้อมมือไปหยิบแต่ไม่ทันคนที่มือไวกว่าคว้ากระเป๋าฉันไปถือไว้สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกใดๆออกมาเลยแม้แต่น้อย "อะไรของเฮียเนี่ย""จะเอาไปเก็บให้" ว่าแล้วเขาก็เดินไปที่เต็นท์แล้วโย
EP.44พอโดนเฮียดุยัยนั่นก็หน้าซีดยอมไปกับเพื่อนเลย ทีฉันน่ะขนาดใช้กำลังแล้วยังไม่กลัว "ทำแบบนี้จะไม่ไปฟ้องแม่เหรอ""จะฟ้องก็ฟ้องเถอะ เฮียบอกแม่ไปแล้วด้วยว่าเด็กมันก้าวก่ายเกินไป แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรแปลว่าเข้าใจ" เฮียทำหน้าขรึมเหมือนกำลังหงุดหงิดอยู่จริงๆ "ช่วงแรก ๆก็พอรับได้นะ เฮียคิดว่าเป็นเด็กปีหนึ่งเลยต้องช่วยเหลือ แต่หลังๆมามันไม่ใช่แล้วไง เพื่อนก็มีแต่ยังมารบกวนเราอีก""ก็เด็กมันชอบไง" ฉันพูดแล้วยิ้มกวนๆส่งให้เฮียเต้ ที่หันมามองกันอย่างไม่ชอบใจ "ไม่หึงหน่อยเหรอ" "หึงทำไม ก็เฮียทำให้ชาไว้ใจแล้วนี่" พูดไปอย่างนั้นแหละทั้งที่แทบจะลงไปตบกับยัยแตมที่หน้าห้องน้ำร้านกาแฟแล้ว ต่อให้ไว้ใจแค่ไหนถ้าผู้หญิงมันให้ท่าก็ต้องจัดการ "แต่เห็นว่าชาไว้ใจเฮียก็อย่าทำให้ผิดหวัง ไม่อย่างนั้นชาจะเอาอีโต้มาฟันของเฮียแล้วสับให้เละ!""โหดจัง เปลี่ยนจากอีโต้เป็นอย่างอื่นแทนได้ไหม""ไม่คุยด้วยดีกว่า หิวข้าวจะแย่แล้วนะ" ฉันรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้เข้าทางเฮีย เอะอะหยอดเข้าหาเรื่องบนเตียงตลอด หลังจากเราไปทานข้าวกันเสร็จเฮียก็พากลับคอนโด เพราะต้องอ่านทบทวนเพื่อสอบวันพรุ่งนี้ต่อ ช่วงนี้ฉันเลยถูกหิ้วไปมาอย่า
EP.43หลายวันต่อมาเพราะช่วงนี้เป็นช่วงสอบ ฉันที่เพิ่งกลับมาจึงต้องอยู่ห้องรอเฮียกลับทุกวัน จะมีบางวันที่เพื่อนมันไม่มีสอบก็จะพาฉันมานั่งเล่นร้านกาแฟที่พวกมันไปนั่งอ่านหนังสือด้วย อย่างเช่นวันนี้"แก! นังเด็กนั่นไงที่ไปกับผัวแก" ปาล์มมี่กระซิบตอนที่ฉันกำลังนั่งเล่นมือถืออยู่เงียบๆ มันบุ้ยปากไปทางผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันเคยเห็นผ่านรูปถ่าย เป็นคนที่เฮียบอกว่าแม่ของนางฝากดูแลแต่เฮียก็รู้สึกอึดอัดไม่น้อยที่เด็กคนนี้ชอบก้าวก่ายชีวิตหลายอย่างและเอาแต่ใจเหมือนลูกคุณหนู"เป็นอะไรยัยแตม" ฉันและเพื่อนต่างเงียบฟังบทสนทนาของโต๊ะนั้นอย่างเสียมารยาท เพราะอยากรู้นิสัยใจคอของยัยนี่ว่าที่จริงแล้วเป็นคนยังไงกันแน่"ผู้ชายไม่รับโทรศัพท์""พี่ฮ่องเต้เหรอ กูได้ข่าวว่าเขามีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ" "แล้วไง" ยัยแตมนั่นพูดแล้วแสยะยิ้มนิดหน่อยอย่างหน้าหมั่นไส้ "อยู่ไกลกันขนาดนั้น ไม่เห็นรอดสักคู่"ฉันอยากจะทึ้งหัวยัยนั่นตอนนี้เหลือเกินแต่การอยู่เงียบๆรอเชือดนิ่มๆน่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า"พี่เขาไปเรียนปีเดียวไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวก็กลับมาหรือเปล่า""อืม แต่ฉันว่าตอนนี้พี่ฮ่องเต้ก็คงเริ่มเบื่อๆแล้วหรือเปล่าวะ ผู้ชายยังไงก็คื
EP.42"มาถึงก็จะกินเลยเหรอ" ฉันเม้มริมฝีปากเข้าหากันอย่างเขินเมื่อพูดคำนั้นออกไป "อืม โทษฐานที่ทำให้ต้องนอนคนเดียวมาหนึ่งปีเต็ม แล้วยังจะมาแกล้งกันวันนี้อีก" เสียงเข้มเอ่ยอย่างแผ่วเบา ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของฉันนิ่ง แต่ฉันแอบเห็นความปรารถนาในแววตาคู่นั้นจนทำให้หัวใจของฉันวูบไหว"งั้นก็..." คำพูดของฉันถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อถูกริมฝีปากหยักปิดปากบางของฉันแบบไม่รีรอ ก่อนจะบดขยี้รุนแรงเอาแต่ใจ ราวกับจะลงโทษที่ฉันหลอกให้เฮียกังวลมาทั้งคืนเรียวลิ้นที่ช่ำชองไล่กวาดเอาความหวานภายในโพรงปากจนฉันแทบหายใจไม่ทัน เมื่อพยายามจะปิดริมฝีปากหนีเพื่อหยุดการกระทำนั้นและเรียกหาอากาศหายใจ กลับถูกฟันคมขบเม้มลงมาที่ริมฝีปากล่างอย่างจงใจ"อื้อ!""คิดถึงมากเลยรู้ไหม" เฮียเต้ยอมขยับริมฝีปากออก ฉันรีบสูดหายใจเข้าเต็มปอดแล้วมองค้อนแต่ก็ต้องเม้มปากเข้าหากันอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงกระซิบแหบพร่าและนัยน์ตาสีเข้มที่ส่งความปรารถนาร้อนแรงอย่างกับเปลวไฟที่ลุกโชน"ชาก็คิดถึงเฮียค่ะ" ฉันตอบเสียงนุ่มแผ่วเบา ตวัดแขนโอบรอบลำคอแกร่งและส่งสายตาหวานๆให้เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่เฝ้าคิดถึงมานานแรมปีได้ยินเสียงหัวเราะใ
EP.41หกเดือนต่อมา"แม่อยู่ไหนแล้วคะ มาถึงหรือยัง"(อยู่รอใกล้ๆ ทางออกประตูสองลูก)"อ๊ะ เห็นแล้วค่ะ"ฉันยิ้มกว้างกับตัวเอง ไพล่มือไปด้านหลังเพื่อยัดโทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงแล้วจึงลากกระเป๋าเดินทางเดินลงมายังชั้นล่างที่พ่อกับแม่ยืนรออยู่เรื่องที่กลับมาไทยวันนี้มีแค่แม่กับพ่อที่รู้เพราะฉันบอกกับคนอื่นว่าจะกลับในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากอยากมาดูอะไรให้เห็นกับตาตัวเองสักหน่อย"พ่อแม่! ชาคิดถึงที่สุดเลย " ฉันรีบโผกอดพ่อกับแม่ด้วยความคิดถึงหลังจากที่พวกเราไม่ได้เจอกับเกือบครึ่งปี เพราะก่อนหน้านี้พวกท่านเคยเดินทางไปเที่ยวหากันที่เยอรมันมาครั้งหนึ่งครั้งนั้นเฮียก็เกือบจะไปด้วยเหมือนกันแต่ดันติดงานใหญ่ของคณะซะก่อนเพราะเป็นช่วงที่กำลังขึ้นปีสามและมีกิจกรรมรับน้องอีกจนแทบไม่มีเวลา"ทำไมถึงแอบมาแบบนี้ล่ะลูก จะไม่ให้ฮ่องเต้รู้หน่อยเหรอ" แม่ถามอย่างไม่เข้าใจตอนที่เรากลับมาถึงบ้าน"มาเซอร์ไพรส์ค่ะ แม่อย่าเพิ่งบอกใครนะ"เป็นเซอร์ไพรส์แบบต้องมีคนตายไปข้าง เพราะก่อนหน้านี้ไอ้เพื่อนรักสองคนของฉันมันส่งรูปที่เฮียพาเด็กปีหนึ่งหน้าตาน่ารักขึ้นรถแล้วยังมีตอนที่พาไปกินข้าวอีกเฉพาะตอนที่เพื่
EP.40หกเดือนต่อมา "แม่อยู่ไหนแล้วคะ มาถึงหรือยัง" (อยู่รอใกล้ๆทางออกประตูสองลูก) "อ๊ะ เห็นแล้วค่ะ" ฉันยิ้มกว้างกับตัวเอง ไพล่มือไปด้านหลังเพื่อยัดโทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงแล้วจึงลากกระเป๋าเดินทางเดินลงมายังชั้นล่างที่พ่อกับแม่ยืนรออยู่ เรื่องที่กลับมาไทยวันนี้มีแค่แม่กับพ่อที่รู้เพราะฉันบอกกับคนอื่นว่าจะกลับในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากอยากมาดูอะไรให้เห็นกับตาตัวเองสักหน่อย"พ่อแม่! ชาคิดถึงที่สุดเลย " ฉันรีบโผกอดพ่อกับแม่ด้วยความคิดถึงหลังจากที่พวกเราไม่ได้เจอกับเกือบครึ่งปี เพราะก่อนหน้านี้พวกท่านเคยเดินทางไปเที่ยวหากันที่เยอรมันมาครั้งหนึ่งครั้งนั้นเฮียก็เกือบจะไปด้วยเหมือนกันแต่ดันติดงานใหญ่ของคณะซะก่อนเพราะเป็นช่วงที่กำลังขึ้นปีสามและมีกิจกรรมรับน้องอีกจนแทบไม่มีเวลา"ทำไมถึงแอบมาแบบนี้ล่ะลูก จะไม่ให้ฮ่องเต้รู้หน่อยเหรอ" แม่ถามอย่างไม่เข้าใจตอนที่เรากลับมาถึงบ้าน "มาเซอร์ไพรส์ค่ะ แม่อย่าเพิ่งบอกใครนะ" เป็นเซอร์ไพรส์แบบต้องมีคนตายไปข้าง เพราะก่อนหน้านี้ไอ้เพื่อนรักสองคนของฉันมันส่งรูปที่เฮียพาเด็กปีหนึ่งหน้าตาน่ารักขึ้นรถแล้วยังมีตอนที่พาไปกินข้าวอีก เฉพาะตอ
EP.39ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าตัวเองได้ทำอะไรพลาดไป ตอนที่ผมรอฟังคำอวยพรจากใบชาถึงได้รู้ว่าเธอเองก็คงจะรอฟังคำบอกรักจากผมเช่นกัน หวังว่าตอนนี้ชายังอยากจะได้ยินคำนั้นจากเฮียอยู่นะ ผมตั้งท่าจะโทรไปหาเธอทันที ถึงค่าโทรจะแสนแพงแต่เฮียก็ยอมเสียถ้าได้คุยกับชา นาทีเป็นหมื่นก็ยอมคิดแล้วก็เขินเลย...'ไม่ต้องโทรมานะ ชามาเรียนภาษาเลิกสองทุ่ม'แล้วความสุขที่ส่องสว่างของผมก็ถูกหรี่ไฟลงเมื่อเธอส่งข้อความมาอีกรอบ "โอ้โห่ อารมณ์มึงขึ้นลงยิ่งกว่าหุ้นอีกนะ" รอยยิ้มที่เกิดขึ้นมาบนใบหน้าแบบไม่ได้ตั้งใจของผมต้องหุบลงเมื่อเสียงของไอ้คิวดังขึ้นพร้อมกับข้อความของใบชาHongtae: งั้นอีกสองชั่วโมงเฮียโทรหานะไม่เป็นไร รอได้อยู่แล้ว นี่ก็รอมาตั้งร้อยแปดสิบห้าวันแค่อีกสองชั่วโมงเองที่จะได้ฟังเสียงในรอบสิบวันจะเป็นอะไรไป"กูกลับนะ มึงเคลียบิลจ่ายเลยแล้วบอกกูในไลน์" ว่าแล้วผมก็ยัดโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋ากางเกงหยิบของขวัญจากเมียขึ้นมาถือไว้อย่างหวงแหน เฮียจะใส่มันทุกวันเลย ถ้ากางเกงบ็อกเซอร์มันมีช่องให้ใส่เข็มขัดเฮียก็จะใส่ตอนนอนด้วย เสียดายที่มันไม่มี"เดี๋ยว" เสียงของไอ้นธีร้องท้วงทำให้ผมต้องหันหลังกลับไปมองอีกครั้งแ