ปัจจุบัน
ฉันเข้ามาอยู่ในคอนโดของเฮียฮ่องเต้หลังจากที่สามารถสอบเข้ามหาลัยเดียวกันได้แต่อยู่คนละคณะเพราะเฮียเต้อยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ส่วนฉันสอบเข้าคณะบริหารได้สำเร็จ ผู้ใหญ่จึงให้ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันเพราะยังไงเราก็แต่งงานกันถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
ดูจากสีหน้าเจ้าของห้องคงไม่ได้เต็มใจเท่าไหร่หรอก แต่จะทำยังไงได้ล่ะในเมื่อฉันอยู่ในสถานะเมียอย่างเต็มตัวแล้ว เฮียจะอยากหรือไม่อยากให้ฉันเข้ามาอยู่สุดท้ายก็ต้องยอมเพื่อไม่ให้มีปัญหาอยู่ดี
“เฮียเต้ ชาขอเอาเสื้อผ้าไว้ในตู้ด้วยดิ”
“อย่ามายุ่งกับของของฉันเด็ดขาด” เจ้าของใบหน้าคมพูดเสียงเรียบ ปรายตามามองฉันเพียงนิด แล้วก็หันไปสนใจโทรศัพท์ต่อ
เขาวางนิ้วลงบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือเครื่องราคาแพงก่อนจะกดอะไรยุกยิกเหมือนคุยกับใครสักคนหนึ่ง ฉันไม่ได้สนใจคำห้ามของเฮียเต้เดินไปจัดการตู้เสื้อผ้า ขยับเสื้อผ้าพวกนั้นไปอีกฝั่งแล้วเอาเสื้อผ้าของตัวเองที่ใส่ไม้แขวนรอแล้ว แขวนไว้ในตู้เดียวกันราวกับว่าห้องนี้มีฉันเป็นเจ้าของอีกคน
"ไม่ยุ่งได้ยังไงล่ะ ใบชาเป็นเมียเฮียนะ"
"ห้ามพูดแบบนี้ให้ใครได้ยินด้วย ไม่อย่างนั้นฉันจะจับเธอฟาดกับพื้น" เขาทำเสียงดุไม่พอยังตวัดสายตามาข่มขู่ฉันอีก "อย่าเอาเสื้อผ้าเธอไปใส่ในตู้ฉันนะโว้ย!!"
"จะให้เอาไปไว้ไหน" กลัวตายล่ะในเมื่อเป็นเมียของเฮียแล้ว ฉันก็ต้องเป็นเจ้าของห้องนี้ด้วย เฮียไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธฉันเด็ดขาด!!
"น่ารำคาญ"
“เย็นนี้เฮียอยากทานอะไรบอกมา เดี๋ยวชาจะเป็นคนทำอาหารเย็นให้ทานเอง" ฉันทำกับข้าวเก่งมากเลยนะขนาดแม่เฮียยังเคยชมเลย
"ไม่ วันนี้ฉันจะออกไปข้างนอกกับเพื่อน” ว่าแล้วเขาก็หยัดตัวลุกขึ้นจากเตียง เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว และเสื้อผ้า แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
นานหลายนาทีก่อนจะกลับออกมาพร้อมชุดใหม่ ที่เหมือนกับคนกำลังจะออกไปเที่ยวไหนสักแห่ง
"เฮียจะไปไหน ชาไปด้วยดิ"
"อย่ามายุ่ง" น้ำเสียงเข้มพูดอย่างรำคาญ "แล้วก็จำเอาไว้ ว่าที่เราแต่งงานกัน ฉันไม่ได้รักเธอสักนิดเดียว เพราะฉะนั้นอย่ามาทำตัวเป็นเจ้าของฉันเด็ดขาด"
"ทำไมจะเป็นเจ้าของไม่ได้ในเมื่อเราแต่งงานกันแล้ว เฮียอย่ามาพูดหมาๆแบบนี้นะเว้ย!" คิดเหรอว่าคนอย่างฉันจะยอมอยู่แบบโง่ๆ
"เธอต้องจำไว้ให้ขึ้นใจ เรื่องข้อตกลงของเรา" เขาพูดเสียงเรียบไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งที่ฉันต่อว่า "ห้ามยุ่งเรื่องส่วนตัวของฉันเด็ดขาด ไม่อย่างงั้นฉันจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้เรา หย่ากันให้ได้"
พอได้ยินสิ่งที่เฮียเต้พูดจบฉันก็นิ่งไปสีหน้าของเขาจริงจัง และสื่อออกมาว่าเกลียดขี้หน้าฉันจริงๆ มันมากกว่าก่อนหน้านี้อีก แต่คนอย่างใบชาน่ะเหรอ จะมานั่งร้องห่มร้องไห้ ไม่มีทางหรอกอยากจะดื้อกับใบชานักใช่ไหม เฮียได้โดนดีแน่!
ฉันไม่พูดอะไรต่อจากนั้นปล่อยให้เขาออกจากห้องไป ตัวเองก็กลับมาจัดของในห้องต่อ ของที่ฉันเก็บมาไม่มีอะไรมากมายนัก แค่เสื้อผ้า หนังสือและของใช้ส่วนตัวเล็กๆ น้อยๆ ที่จำเป็นเท่านั้น เพราะเฮียเต้พูดดักไว้แล้วว่าห้ามเอาของมารกห้องของเขาเด็ดขาดเลยจำใจเอามาแค่นี้
Hongtae talks.
ผมนัดกับเพื่อนที่สนิทกันอย่างไอ้คิวมาที่ร้านประจำเพราะไม่อยากอยู่ห้อง เอาจริงๆตอนนี้ก็ยังทำใจไม่ได้เลยที่ต้องมาแต่งงานกับไอ้กัญชาผู้หญิงที่ผมเห็นมันเป็นตัวปัญหามาตั้งแต่เด็ก
"อะไรมึง เครียดเรื่องเมีย" พอได้ยินคำว่าเมียทีไรมันก็รู้สึกสยองทุกทีเหมือนจะเห็นหน้าใบชาอยู่ทุกที่ โคตรหลอน
ที่จริงใบชามันก็น่ารักอยู่หรอก น่ารักมากด้วยแต่ผมไม่เคยมองมันในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งเลย เพราะยัยนั่นมันแสบมากชอบกวนประสาทคนอื่น ไหนจะชอบทำตัวห้าวหาญไม่เคยแต่งตัวแต่งหน้าไม่รักสวยรักงามบ้างเลย
ผู้ชายที่ไหนมันจะชอบวะ
"อย่าพูดคำนั้นให้กูได้ยิน" ว่าแล้วผมก็ยกแก้วเครื่องดื่มทรงเตี้ยขึ้นมาจิบ ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่กล้าเมาอีกเลยเพราะกลัวว่าจะไปทำอะไรพลาดแล้วเดือดร้อนอีก
"มึงไม่รักเขาแล้วมึงจะยอมแต่งทำไม สมัยนี้มันก็มีถมไปป่าววะเรื่องแบบนี้ นอนด้วยกันคืนเดียวต้องถึงขั้นแต่งงานเลยเหรอ"
"มึงไม่เข้าใจหรอกไอ้คิว บ้านกูกับเขาสนิทกันพ่อยัยนั่นรักลูกสาวมากด้วย ถ้ากูไม่รับผิดชอบมันกูดูแย่หรือเปล่า" เอาจริงๆคือผมไม่อยากมีปัญหานั่นแหละ เพราะสองบ้านนี้สนิทกันมากพ่อแม่ผมก็รักยัยนั่นมากด้วย
"งั้นมึงจะทำยังไงต่อไปล่ะอยู่ไปแบบนี้มึงจะมีความสุขเหรอ แล้วน้องอีกคนที่มึงคุยล่ะเขาเป็นไง" เรื่องนี้ไอ้คิวก็รู้ดี เรื่องน้องเพลงที่ตอนนี้ก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันกับผมได้ แต่ดันสอบได้คณะและสาขาเดียวกับใบชาซะนี่สิ
"น้องเขาก็ยังทักมาคุยแต่กูก็ไม่อยากตอบแล้ว กูรู้สึกผิดว่ะ"
"รู้สึกผิดกับน้องเขาหรือรู้สึกผิดกับเมียมึงล่ะ" คนถามหัวเราะชอบใจและมันดันถามคำถามที่ผมเองก็ไม่รู้คำตอบด้วยสิว่าที่จริงแล้วผมกำลังรู้สึกผิดกับอะไรอยู่
ก็คงจะเป็นสถานะแต่งงานแล้วนี่ล่ะมั้งที่ทำให้รู้สึกผิดทั้งกับน้องเพลงและกับใบชา
ครืด~
Pleng : ทำไมหายไปแบบนี้
แค่คิดถึงข้อความของน้องเพลงก็แสดงขึ้นมาบนหน้าจอทันที อันที่จริงใช่ว่าผมจะไม่ตอบเธอเลยแต่มันก็ค่อยๆห่างไม่เหมือนก่อนหน้านี้ อย่างหนึ่งคือไม่อยากให้ใบชารู้ เพราะยัยนั่นน่ะแสบมากและผมไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไรที่เกินคาดหรือเปล่า
ผมไม่อยากให้น้องเพลงเดือดร้อนเพราะตัวเอง
Hongtae : พี่ยุ่งๆกับงานคณะ
Pleng : ยุ่งขนาดที่ว่าไม่ตอบแชททั้งวันเลยเหรอ
แค่เห็นข้อความนั้นผมก็ใจอ่อนยวบแล้ว อยากจะขับรถไปหาตอนนี้เลย ยิ่งได้รู้ว่าเธอเพิ่งจะย้ายมาอยู่หอพักใกล้ๆมหาวิทยาลัยอีก กลัวจะห้ามใจไม่ได้เหลือเกิน
Hongtae : พี่ขอโทษ
Pleng : มาเจอกันหน่อยได้ไหมคะ
ครืด~ ครืด~
'Bai-cha'
ไม่ทันที่จะได้ตอบกลับข้อความของน้องเพลงสายของใบชาก็โทรเข้ามาขัดจังหวะ ผมพ่นลมหายใจแรงๆก่อนจะวางมือถือคว่ำหน้าจอลงบนโต๊ะอย่างรำคาญ
มารชัดๆไอ้กัญชา
"ฮึ" ไอ้คิวหัวเราะในลำคอก่อนจะพูดออกมา "บอกตามตรง กูโคตรสงสารเมียมึง"
End talks.
EP.5หลายชั่วโมงต่อมาตอนนี้เป็นเวลาเกือบห้าทุ่มแล้ว ฉันอาบน้ำและแต่งตัวเตรียมเข้านอนหวังว่าเฮียเต้จะกลับเข้ามาแต่ก็ไม่มีวี่แววเลย หรือเป็นเพราะฉันเข้ามาอยู่ในห้องของเขาทำให้ไม่อยากกลับมากันนะ เขาเกลียดฉันขนาดนั้นเลยเหรอครืด~ ครืด~ฉันเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมากดรับสายของแม่เกือบลืมไปแล้วเพราะมัวแต่จัดระเบียบห้อง"คะแม่"(เป็นยังไงบ้างชา อยู่ได้ใช่ไหมลูก) เสียงของแม่ทำเอาฉันแทบน้ำตานอง ไม่บ่อยนักหรอกที่ต้องห่างกันแบบนี้ ยิ่งได้ยินคำถามจากน้ำเสียงที่คอยเป็นห่วงแบบนั้นแล้วยิ่งอยากร้องไห้"อยู่ได้ค่ะ ชามีเฮียแล้วนี่" มีซะที่ไหนกันตอนนี้หนีไปเที่ยวทิ้งฉันอยู่ในห้องคนเดียวแล้ว(งั้นแม่ก็สบายใจแล้วล่ะ ไว้อาทิตย์หน้าแม่จะไปหานะขอโทษที่ไม่ได้ไปส่งนะลูก)"ไม่เป็นไรค่ะ แล้วพ่อล่ะคะ" ตั้งแต่วันนั้นพ่อก็พูดกับฉันน้อยลงเหมือนจะยังโกรธๆ อยู่ที่ฉันทำตัวเหลวไหลอันที่จริงมันก็รู้สึกผิดกับความคิดตื้นๆ ของตัวเองอยู่หรอกแต่จะทำยังไงได้มันผ่านมาถึงจุดนี้แล้ว(พ่ออยู่ข้างๆ นี่แหละจะ ลูกรีบพักผ่อนเถอะนะดึกแล้ว)"ค่ะ พ่อแม่ฝันดีนะคะ"(ฝันดีลูก พ่อแม่รักลูกนะ)"หนูก็รักพ่อกับแม่ค่ะ"พอวางส
EP.6หลายวันต่อมาในที่สุดก็ถึงวันเปิดเรียนวันแรก ฉันขอร้องอ้อนวอนสุดชีวิตเพื่อให้เฮียฮ่องเต้มาส่งที่คณะเพราะไม่อย่างนั้นคงได้เดินให้เหนื่อยเพราะฉันไม่มีรถขับพ่อกับแม่ฝากฝังชีวิตฉันไว้กับเฮียเลยนะ คอนโดนี้ก็ไม่ได้อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเลยสักนิดเดียว "ตอนเย็นเฮียว่างมารับไหม"ฉันหยิบกระเป๋าขึ้นมาแนบอกแล้วถามคนขับแต่กลับไม่ได้ยินเสียงตอบรับจึงต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง สายตาของเฮียกำลังมองออกไปยังกระจกหน้ารถที่มีผู้หญิงคนหนึ่งแต่งชุดนักศึกษาแบบเดียวกันกับฉันยืนอยู่กับเพื่อนของเธอ แววตาที่เขามองนั้นทำให้หัวใจของฉันมันบีบตัวแน่นจนจุกแปลกๆ"เฮีย!" "หะ...หา! อะไรจะเสียงดังทำไมวะ!" พอโดนเรียกจนตกใจเขาก็ทำท่าทางหงุดหงิดใส่ฉัน แบบนี้บ่งบอกถึงความผิดปกติอย่างแน่นอน ต้องไปสืบสักหน่อยแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไรกับเฮีย"ก็ชาถามแล้วเฮียไม่ตอบอะ" "มีอะไร" น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาลงสายตายังคงมองไปตรงที่ผู้หญิงคนนั้นเป็นระยะ ฉันจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ก่อนแล้วกันเดี๋ยวไก่ตื่น"เย็นนี้มารับชาด้วยนะ เลิกห้าโมงเพราะรุ่นพี่นัดรวมรับน้องต่อ""หัดหาเพื่อนคบแล้วไปกับเพื่อน เฮียไม่ใช่เบ๊ที่จะมารับใช้เธอได้ทุกเวลา" "ก็ถ้
EP.7หลังจากเลิกเรียนวิชาสุดท้ายตอนบ่ายสามพวกเราปีหนึ่งบางส่วนก็นั่งรออยู่ใต้ตึกเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมรับน้อง บางส่วนก็กลับหอพักกันแต่ฉันผู้ที่คอนโดอยู่ไกลนั้นต้องนั่งรออยู่ที่นี่โชคดีที่ปาล์มมี่อยู่เป็นเพื่อนพร้อมกับเพื่อนสาวสองอีกคนที่ชื่อทิวลิป เมื่อก่อนก็ชื่อไอ้ทิวเฉยๆแต่ให้เรียกทิวลิปเพื่ออรรถรสเหมือนกับปาล์มมี่ที่จริงแล้วมันชื่อไอ้ปาล์ม นี่เป็นเรื่องเล่าจากปากเพื่อสาวทั้งสองของฉันเอง"แม่นางสตอเบอรี่" ปาล์มมี่ที่หันไปเจอเข้ากับเพลงที่เดินผ่านมาพอดีก็พูดขึ้นมาแต่ยัยนั่นไม่ได้ยินหรอกเพราะอยู่ไกลกันพอสมควร"อือ แกก็คิดเหมือนฉันเหรอบีหนึ่ง" ทิวลิปหันไปมองเพลงอีกคนแล้วเบะปากคว่ำ "วันก่อนฉันไปร้านเครื่องสำอาง เจอนางเข้าพอดีนางพูดลอย ๆเหมือนดูถูกว่าฉันไม่มีปัญญาซื้อ นังนี่มันคิดว่าตัวเองเป็นใคร""แต่แปลกนะผู้ชายชอบคนแบบนี้ เพราะรุ่นพี่พากันแซวมัน แหม เพื่อนฉันสวยกว่าอีกอย่าให้ดัน" ปาล์มมี่หันมาอวยยศฉันที่นั่งพิจารณาเรื่องของเพลงอยู่ พี่ฮ่องเต้คงจะชอบยัยเพลงนี่แบบไม่ต้องสงสัยหรืออาจจะมีอะไรมากกว่านั้นที่ฉันยังไม่รู้ "เรามาปั้นยัยใบชาเถอะ เอาให้แม่นั่นตกรอบไปเลยค่ะ""จัดไปค่ะกระเทย"แปะ
EP.8วันต่อมาหลังจากเลิกเรียนช่วงเช้าแล้วเพื่อนสาวทั้งสองของฉันก็พามาร้านเสริมสวยที่ฉันแทบจะไม่เข้าเลยในรอบสิบเก้าปี จำได้ว่าครั้งสุดท้ายก็ตอนมัธยมต้นเพราะอยากลองตัดผมสั้นสักครั้งในตอนนั้น"พี่ป่านคนสวยคะ แปลงโฉมให้นางหน่อย เปลี่ยนสีผมด้วย แล้วก็ตัดสั้นขึ้นจากเอวมาอยู่กลางหลังค่ะ" ปาล์มมีเอ่ยปากทักทายช่างอย่างสนิมสนมแล้วสั่งทรงผมให้เสร็จสรรพ ส่วนฉันก็สนใจรูปโปสเตอร์ทรงผมสวยๆภายในร้านที่ดูน่าสนใจไปหมด"อืม อยากได้สีอะไรคุณน้อง""เอาสีของคนอกหักค่ะ" ทิวลิปตอบแทนฉันจนต้องหันขวับไปมองมัน"ฉันไม่ได้อกหักนะ""มันต่างกันตรงไหนชะนี ก็คนที่แกชอบเขาไปชอบแม่นั่นไม่ใช่" ตอกย้ำทำไมกันเนี่ย เรื่องนี้ยังสรุปไม่ได้เลยด้วยซ้ำอีกอย่างไม่ใช่คนที่ฉันชอบ นั่นน่ะสามีฉันเลยต่างหากโถใบชาถ้าพูดให้ใครฟังคงได้กลายเป็นคนที่น่าสงสารมากแน่ๆ แล้วสองคนนี้ก็จะเกลียดเพลงมากขึ้นด้วย"เอาสีไหนก็ได้ค่ะที่เหมาะกับหน้าหนู" ฉันบอกช่างพี่ป่านแล้วเดินไปนั่งบนเก้าอี้หนัง"น้องผิวขาวแบบนี้สีไหนก็สวย งั้นเราทำพวกสีสว่างๆดีกว่าเด่นแน่นอน""บลอนด์ทองไปเลยค่ะ" ปาล์มมี่เสนอความคิดเห็น"มะ...ไม่เอา" นั่นมันสว่างเกินไปแล้ว เหมือนเปิ
EP.9หลังจากดูหนังเสร็จเพื่อนสาวทั้งสองก็พากันมาส่งที่คอนโดเพราะตอนนี้เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้วพอมาถึงห้องก็พบว่าเฮียเต้ปักหลักอยู่ที่เดิมแต่ยังอยู่ในชุดเสื้อช็อปวิศวะที่ฉันอยากเห็น เพราะตอนเช้าออกห้องก่อนเลยเพิ่งรู้ว่าเขาใส่ชุดนี้ไปเรียน"..." ฉันแอบย่องผ่านทางด้านหลังเพื่อไม่ให้เขาหันมาสนใจ เพราะทั้งสีผมทั้งหน้าที่แต่งมาแบบนี้ถ้าเฮียเห็นคงตกใจแล้วคิดว่าฉันเป็นบ้าอยู่แน่"ไปไหนมา"เฮือก! เสียงของเฮียดังขึ้นมาจากด้านหลัง ทุกวันก็ไม่เคยจะสนใจทำไมวันนี้ถึงต้องมาถามด้วยล่ะ "ดูหนังกับเพื่อน" พอตอบคำถามนั้นแล้วฉันก็รีบจ้ำอ้าวไปทางประตูห้องนอน แต่เฮียกลับเรียกไว้อีกรอบ"เดี๋ยว" ผีเข้าเฮียหรือไงวะ จะมาสนใจอะไรกันวันนี้! "ไปทำอะไรมา เปิดเทอมได้สองวันทำตัวซ่าแล้วเหรอ""ซ่าอะไรชาไม่ได้ทำสักหน่อย ก็แค่ทำสีผมเอง""หันหน้ามา" "..." ฉันหันหน้าไปหาเฮียช้าๆพร้อมกับรอยยิ้มจนตาหยี "มีไรเหรอเฮีย""..." ใบหน้าคมคายมองมานิ่งๆ แล้วก็หันหน้ากลับไปมองจอโทรทัศน์แบบเดิม "แม่เธอโทรมาหาเฮียบอกโทรไปแล้วไม่รับ""ออ ชาปิดเสียงน่ะ เดี๋ยวโทรกลับเอง" ว่าแล้วฉันก็กระโดดโลดเต้นเข้ามาในห้องแล้วกระโดดลงเตียงกดโทรหาแม่ทั
EP.10พอกลับขึ้นมาบนห้องได้ฉันก็กระโดดขึ้นโซฟาที่เฮียใช้เป็นที่หลับที่นอนมาตลอดตั้งแต่ฉันมาอยู่ด้วย รีบเปิดอ่านหนังสือการ์ตูนเล่มโปรดทันทีด้วยความตั้งใจครืด~ ครืด~จนกระทั่งผ่านไปครู่ใหญ่เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นเมื่อมีสายเข้าจากเพื่อนสาวอย่างปาล์มมี่ "ว่าไงแม่" สรรพนามใหม่ที่ใช้เรียกเพื่อนผู้กำหนดชีวิตฉัน (แกวันนี้ฉันจะพาไปเปิดหูเปิดตา แต่งตัวสวยๆแล้วลงมารออยู่ล่างคอนโด ให้เวลาหนึ่งชั่วโมงสองทุ่มไปรับ) มันสั่งฉันยิ่งกว่าแม่อีกนะ"ไปที่แบบไหนจะได้แต่งตัวถูก"(ร้านเหล้า) โอเคตรงตัวดี แต่เดี๋ยว! อายุเรายังไม่ถึงเกณฑ์เข้าได้เลยนะ"จะเข้ายังไง"(ฉันมีวิธีแกไม่ต้องเป็นห่วง แต่งตัวสวยๆให้เหมือนแม่เสือสาววัยยี่สิบกว่าก็พอ) สิ่งที่ยัยปาล์มมี่บอกมาฉันเข้าใจแค่นิดเดียวเท่านั้นแต่จะพยายามเข้าใจแล้วกัน"จะไม่โดนจับแน่นะ"(ชะนีอย่าพูดมาก เตรียมตัวให้พร้อมเดี๋ยวไปรับ)"โอเค"หลังจากตอบรับคำเชิญของเพื่อนฉันก็เก็บหนังสือการ์ตูนเรื่องโปรดมาไว้ในห้อง อาบน้ำแต่งตัวและแต่งหน้าโดยการเสิร์จหาตัวอย่างจากพวก Youtuber มือใหม่หัดแต่งก็แบบนี้แหละน่า'แต่งหน้าไปเที่ยวกลางคืน'ใช้เวลาเกือบครึ่งช
EP.11"พี่จะพาหนูไปไหน" ตอนนี้รุ่นพี่อุ้มฉันมาจนถึงลานจอดรถข้างร้านเหล้าร้านหนึ่ง ใครหลายคนหันมามองเรากันหมดเพราะสภาพฉันตอนนี้คงเหมือนคนเมามายจนเดินไม่ไหวไอ้เมาก็เมาอยู่หรอกแต่พอกระโดดลงกำแพงมาเจ็บตัวมันก็หายเมาไปเกือบหมด"ไปหาหมอไง" เขาวางฉันลงกับเบาะแล้วตอบคำถามเสียงเรียบ "ทำไม""เออ พอดีมากับเพื่อนเดี๋ยวให้เพื่อนไปส่งก็ได้ค่ะ" ว่าแล้วฉันก็ล้วงมือถือในกระเป๋ากางเกงออกมาเพื่อที่จะต่อสายหาเพื่อนสาวสองคนนั้น"เพื่อนเธอขับรถอะไรมา""มอเตอร์ไซค์ค่ะ""โทรบอกเพื่อนว่าไปเจอกันโรงพยาบาลเลย" "...ค่ะ"เขาจะไปส่งฉันเองเลยเหรอ ทำไมเป็นคนดีจังทั้งที่เราเพิ่งจะรู้จักกันแท้ๆ ถ้าเฮียดีได้ครึ่งหนึ่งของพี่นอร์ธก็คงจะดี"กัญชา!" ฉันรีบหันขวับไปมองเสียงของคนที่ตะโกนเรียกขึ้นมาก่อนเห็นใบหน้าบูดบึ้งของเฮียเต้ที่ยืนอยู่ไกลๆ"โอ๊ะ! พี่ชายหนูมารับแล้วค่ะ" ฉันรีบเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกงไว้อย่างเดิม ที่บอกว่าพี่ชายเพราะเฮียกำชับไว้ว่าห้ามให้ใครรู้เรื่องแต่งงานเด็ดขาด"นั่นพี่เธอเหรอ" รุ่นพี่ถามอย่างสงสัยแล้วหันไปมองเฮียเต้ที่ยังยืนมองอย่างหาเรื่อง "ค่ะ เฮีย! ช่วยหน่อยดิ ชาเจ็บเท้าอะ" "..." เฮียเต้ขมวดคิ
EP.12"โอ๊ะๆ นังนั่นมันรู้จักพี่แกด้วยเหรอ" คำพูดของปาล์มมี่ทำฉันต้องรีบหันไปมองและเป็นอย่างที่คิดไว้ คนที่เข้าไปคุยกับเฮียคือยัยเพลง"..." ฉันไม่ได้ตอบคำถามเพื่อนแค่ยืนมองเฮียที่คุยอยู่กับแม่นั่น เขาหันมามองฉันแวบหนึ่งแล้วก็หันกลับไปคุยกับเพลงต่อถึงเฮียจะทำหน้ากระอักกระอ่วนใจแต่ก็เหมือนคนที่เคยคุยและรู้จักกันในระดับหนึ่งอยู่ดี"ดูสายตายัยนั่นที่มองพี่แกสิ แล้วยิ้มแบบนั้นคือคิดว่าตัวเองเป็นนางเองละครเวทีเหรอ""ฉันไปสั่งน้ำนะ"พอเดินไปถึงหน้าเคาน์เตอร์ฉันก็ยืนแทรกกลางระหว่างสองคนนั้นแบบรู้ตัวว่าเสียมารยาทแต่คนมันไม่ชอบใจใครจะทำไม"พี่คะ เอาชามะนาวแก้วนึง""ขอโทษนะใบชา เราคุยกับพี่เขาอยู่" ยัยเพลงหันมาพูดกับฉัน ถ้าให้เดาก็คงไม่รู้ว่าเราทั้งคู่อยู่ในสถานะไหนแล้วเฮียก็คงไม่อยากให้ฉันพูด"เรามาสั่งน้ำ ทำไมไม่ไปคุยที่อื่น" ฉันตอบเสียงเรียบแล้วหันไปมองยับนั่นที่ยืนยิ้มอยู่"พี่ฮ่องเต้ งั้นเราไปนั่งตรงนั้นด้วยกันไหมโต๊ะนั้นว่างพอดี" ยัยเพลงหันไปบอกเฮียแล้วยิ้มให้ฉันหันไปมองเฮียบ้าง เขาไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ออกมา เฮียมองตอบแล้วก็เลื่อนสายตาไปมองยัยเพลง "พี่รีบไปเรียนครับ"โอโฮ ร้อยวันพันปีไม่เค
EP.47พอกลับมาถึงห้องเฮียก็ได้รับสายจากแม่ของยัยแตมทันที คงเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อชั่วโมงถึงหูแล้วอย่างแน่นอน เฮียเต้วางโทรศัพท์มือถือเครื่องราคาแพงลงกับโต๊ะกินข้าวเลื่อนนิ้วเรียวไปเปิดลำโพงให้ดังจนฉันได้ยินด้วยอีกคน การกระทำของเฮียทำให้ฉันรู้สึกดีอยู่ไม่น้อย เพราะเหมือนเขาตั้งใจจะเปิดเผยทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขาให้ฉันได้รับรู้ด้วยทุกอย่าง ไม่ใช่แค่คำพูดหวานๆเพียงอย่างเดียว"ครับ"(ฮ่องเต้ สะดวกคุยไหมเอ่ย) เสียงของผู้หญิงที่ดูมีอายุพูดขึ้น น้ำเสียงเรียบนิ่งเหมือนคนที่กำลังสงวนท่าทีตัวเองอยู่"มีอะไรหรือเปล่าครับ" เฮียเงยหน้าสบตากับฉันที่เงียบฟังแล้วพิงหลังกับเก้าอี้กอดอกรอฟังยัยป้าคนนั้นพูด(ป้าได้ยินมาว่าน้องโดนทำร้ายร่างกาย แล้วก็โดนเพื่อนต่อว่า)"..." ฉันได้ยินเฮียถอนหายใจออกมาอย่างนึกรำคาญ จากนั้นก็พูดแบบไม่มีช่องว่างให้ป้าคนนั้นได้แทรกเลย "ใช่ครับแตมโดนตบเพราะแตมไปทำร้ายแฟนผมก่อน แฟนผมโดนแตมขังไว้ในห้องน้ำ ถ้าไม่มีใครรู้คงได้อยู่แบบนั้นถึงเช้าแน่ เรื่องนี้ผมเอาไปแจ้งความได้เลยนะครับจะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้เพราะภาพจากกล้องคงเห็นทุกอย่าง"(ออ งั้นก็ขอโทษแทนยัยแตมด้วยนะ แล้วเรื่
EP.46หลายสัปดาห์ต่อมาเพราะตอนนี้เป็นช่วงเปิดเทอมภาคเรียนที่สองแล้วทำให้กิจกรรมรับน้องไม่ได้มีเยอะเหมือนในเทอมแรก จะมีแค่บางคณะที่ยังรับน้องยาวมาถึงช่วงต้นเทอมสองอย่างคณะวิศวกรรมศาสตร์คณะของเฮีย"พี่ใบชา!" เสียงของญานินรุ่นน้องต่างคณะที่เป็นแฟนสาวของพี่ทศกัณฐ์ เฮ้ดว้ากของคณะนี้โบกมือเรียกฉันทันทีที่เห็น ตอนนี้ฉันเข้ามาในคณะของเฮียเต้เพราะต้องมารอเฮียจัดกิจกรรมรับน้อง วันนี้มีกิจกรรมสำคัญของคณะเฮียบอกว่าจะเลิกดึกจึงให้ฉันมารอที่นี่กับน้องญานินแทน"พวกเฮียไปรับน้องแล้วเหรอ""ใช่ค่ะ เพิ่งออกไปเมื่อกี้นี้เอง พี่กินผลไม้ไหม นินซื้อมาเผื่อเยอะเลย" สาวรุ่นน้องยื่นผลไม้มาวางตรงหน้า ฉันจึงยิ้มขอบคุณแล้วนั่งคุยเล่นกับเธอ ตั้งแต่วันที่ไปเที่ยวด้วยกันสองวันเราก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นรอจนถึงสามทุ่มพวกเฮียก็ยังไม่เลิก แต่ได้ยินเสียงเอะอะจากกิจกรรมรับน้องตรงลานกิจกรรมหรือที่ทุกคนในมหาวิทยาลัยจะเรียกมันว่าลานเกียร์ของคณะนี้ "ทำไมเลิกช้าขนาดนี้ล่ะ ทีแรกพวกรุ่นพี่บอกว่าสองทุ่มครึ่งไม่ใช่เหรอ" "พี่ทศกัณฐ์บอกว่ามีรุ่นน้องสาขาอุตส่าห์การคนหนึ่งทำตัวมีปัญหาค่ะเลยต้องเพิ่มบททดสอบ"ฉันพยักหน้าเข้าใจแล้วเดิ
EP.45พอมาถึงที่ป่าสนซึ่งเป็นสถานที่ตั้งแคมป์ของพวกเรา ทุกคนก็พากันกางเต็นท์ของตัวเอง จะมีก็แต่คู่เราเนี่ยแหละที่งอนกันอยู่ เฮียมันก็แกล้งเงียบใส่ฉันอยู่ได้ถ้าทำแบบนี้ใครมันจะไปอยากอยู่ด้วยอึดอัดใจจะตายไป"สาวๆ พี่ขอนอนด้วยได้ไหม" ฉันเดินดุ่มๆไปหาสองสาวรุ่นน้องที่กำลังช่วยกันกางเต็นท์อยู่โดยไม่สนใจเฮียที่ทำหน้าขรึมกางเต็นท์อยู่คนเดียว"ได้สิคะพี่ใบชา" น้องใบเฟิร์นตอบแล้วส่งยิ้มให้กันอย่างเป็นมิตร"เป็นอะไรอีกเนี่ย มาคุยกันดีๆ" พอฉันเดินกลับที่กระเป๋าเพื่อที่จะหยิบมันมาที่เต็นท์ของเด็กๆเฮียเต้ก็พูดขึ้นจากด้านหลัง แล้วเข้ามาดึงแขนฉันให้เดินตามไปแต่ฉันก็สะบัดแขนตัวเองออกแล้วจ้องหน้าเฮียกลับด้วยความหงุดหงิด"ชาอยากนอนกับน้อง ๆค่ะ เป็นผู้หญิงเหมือนกัน""..." เฮียถอนหายใจออกมาแล้วเท้าเอวมองฉันนิ่งเหมือนคนกำลังพยายามใจเย็นแล้วน้ำเสียงก็อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด "ใบชา""..." ฉันเบือนหน้าหนีก่อนจะหยิบกระเป๋าของตัวเองและเอื้อมมือไปหยิบแต่ไม่ทันคนที่มือไวกว่าคว้ากระเป๋าฉันไปถือไว้สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกใดๆออกมาเลยแม้แต่น้อย "อะไรของเฮียเนี่ย""จะเอาไปเก็บให้" ว่าแล้วเขาก็เดินไปที่เต็นท์แล้วโย
EP.44พอโดนเฮียดุยัยนั่นก็หน้าซีดยอมไปกับเพื่อนเลย ทีฉันน่ะขนาดใช้กำลังแล้วยังไม่กลัว "ทำแบบนี้จะไม่ไปฟ้องแม่เหรอ""จะฟ้องก็ฟ้องเถอะ เฮียบอกแม่ไปแล้วด้วยว่าเด็กมันก้าวก่ายเกินไป แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรแปลว่าเข้าใจ" เฮียทำหน้าขรึมเหมือนกำลังหงุดหงิดอยู่จริงๆ "ช่วงแรก ๆก็พอรับได้นะ เฮียคิดว่าเป็นเด็กปีหนึ่งเลยต้องช่วยเหลือ แต่หลังๆมามันไม่ใช่แล้วไง เพื่อนก็มีแต่ยังมารบกวนเราอีก""ก็เด็กมันชอบไง" ฉันพูดแล้วยิ้มกวนๆส่งให้เฮียเต้ ที่หันมามองกันอย่างไม่ชอบใจ "ไม่หึงหน่อยเหรอ" "หึงทำไม ก็เฮียทำให้ชาไว้ใจแล้วนี่" พูดไปอย่างนั้นแหละทั้งที่แทบจะลงไปตบกับยัยแตมที่หน้าห้องน้ำร้านกาแฟแล้ว ต่อให้ไว้ใจแค่ไหนถ้าผู้หญิงมันให้ท่าก็ต้องจัดการ "แต่เห็นว่าชาไว้ใจเฮียก็อย่าทำให้ผิดหวัง ไม่อย่างนั้นชาจะเอาอีโต้มาฟันของเฮียแล้วสับให้เละ!""โหดจัง เปลี่ยนจากอีโต้เป็นอย่างอื่นแทนได้ไหม""ไม่คุยด้วยดีกว่า หิวข้าวจะแย่แล้วนะ" ฉันรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้เข้าทางเฮีย เอะอะหยอดเข้าหาเรื่องบนเตียงตลอด หลังจากเราไปทานข้าวกันเสร็จเฮียก็พากลับคอนโด เพราะต้องอ่านทบทวนเพื่อสอบวันพรุ่งนี้ต่อ ช่วงนี้ฉันเลยถูกหิ้วไปมาอย่า
EP.43หลายวันต่อมาเพราะช่วงนี้เป็นช่วงสอบ ฉันที่เพิ่งกลับมาจึงต้องอยู่ห้องรอเฮียกลับทุกวัน จะมีบางวันที่เพื่อนมันไม่มีสอบก็จะพาฉันมานั่งเล่นร้านกาแฟที่พวกมันไปนั่งอ่านหนังสือด้วย อย่างเช่นวันนี้"แก! นังเด็กนั่นไงที่ไปกับผัวแก" ปาล์มมี่กระซิบตอนที่ฉันกำลังนั่งเล่นมือถืออยู่เงียบๆ มันบุ้ยปากไปทางผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันเคยเห็นผ่านรูปถ่าย เป็นคนที่เฮียบอกว่าแม่ของนางฝากดูแลแต่เฮียก็รู้สึกอึดอัดไม่น้อยที่เด็กคนนี้ชอบก้าวก่ายชีวิตหลายอย่างและเอาแต่ใจเหมือนลูกคุณหนู"เป็นอะไรยัยแตม" ฉันและเพื่อนต่างเงียบฟังบทสนทนาของโต๊ะนั้นอย่างเสียมารยาท เพราะอยากรู้นิสัยใจคอของยัยนี่ว่าที่จริงแล้วเป็นคนยังไงกันแน่"ผู้ชายไม่รับโทรศัพท์""พี่ฮ่องเต้เหรอ กูได้ข่าวว่าเขามีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ" "แล้วไง" ยัยแตมนั่นพูดแล้วแสยะยิ้มนิดหน่อยอย่างหน้าหมั่นไส้ "อยู่ไกลกันขนาดนั้น ไม่เห็นรอดสักคู่"ฉันอยากจะทึ้งหัวยัยนั่นตอนนี้เหลือเกินแต่การอยู่เงียบๆรอเชือดนิ่มๆน่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า"พี่เขาไปเรียนปีเดียวไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวก็กลับมาหรือเปล่า""อืม แต่ฉันว่าตอนนี้พี่ฮ่องเต้ก็คงเริ่มเบื่อๆแล้วหรือเปล่าวะ ผู้ชายยังไงก็คื
EP.42"มาถึงก็จะกินเลยเหรอ" ฉันเม้มริมฝีปากเข้าหากันอย่างเขินเมื่อพูดคำนั้นออกไป "อืม โทษฐานที่ทำให้ต้องนอนคนเดียวมาหนึ่งปีเต็ม แล้วยังจะมาแกล้งกันวันนี้อีก" เสียงเข้มเอ่ยอย่างแผ่วเบา ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของฉันนิ่ง แต่ฉันแอบเห็นความปรารถนาในแววตาคู่นั้นจนทำให้หัวใจของฉันวูบไหว"งั้นก็..." คำพูดของฉันถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อถูกริมฝีปากหยักปิดปากบางของฉันแบบไม่รีรอ ก่อนจะบดขยี้รุนแรงเอาแต่ใจ ราวกับจะลงโทษที่ฉันหลอกให้เฮียกังวลมาทั้งคืนเรียวลิ้นที่ช่ำชองไล่กวาดเอาความหวานภายในโพรงปากจนฉันแทบหายใจไม่ทัน เมื่อพยายามจะปิดริมฝีปากหนีเพื่อหยุดการกระทำนั้นและเรียกหาอากาศหายใจ กลับถูกฟันคมขบเม้มลงมาที่ริมฝีปากล่างอย่างจงใจ"อื้อ!""คิดถึงมากเลยรู้ไหม" เฮียเต้ยอมขยับริมฝีปากออก ฉันรีบสูดหายใจเข้าเต็มปอดแล้วมองค้อนแต่ก็ต้องเม้มปากเข้าหากันอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงกระซิบแหบพร่าและนัยน์ตาสีเข้มที่ส่งความปรารถนาร้อนแรงอย่างกับเปลวไฟที่ลุกโชน"ชาก็คิดถึงเฮียค่ะ" ฉันตอบเสียงนุ่มแผ่วเบา ตวัดแขนโอบรอบลำคอแกร่งและส่งสายตาหวานๆให้เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่เฝ้าคิดถึงมานานแรมปีได้ยินเสียงหัวเราะใ
EP.41หกเดือนต่อมา"แม่อยู่ไหนแล้วคะ มาถึงหรือยัง"(อยู่รอใกล้ๆ ทางออกประตูสองลูก)"อ๊ะ เห็นแล้วค่ะ"ฉันยิ้มกว้างกับตัวเอง ไพล่มือไปด้านหลังเพื่อยัดโทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงแล้วจึงลากกระเป๋าเดินทางเดินลงมายังชั้นล่างที่พ่อกับแม่ยืนรออยู่เรื่องที่กลับมาไทยวันนี้มีแค่แม่กับพ่อที่รู้เพราะฉันบอกกับคนอื่นว่าจะกลับในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากอยากมาดูอะไรให้เห็นกับตาตัวเองสักหน่อย"พ่อแม่! ชาคิดถึงที่สุดเลย " ฉันรีบโผกอดพ่อกับแม่ด้วยความคิดถึงหลังจากที่พวกเราไม่ได้เจอกับเกือบครึ่งปี เพราะก่อนหน้านี้พวกท่านเคยเดินทางไปเที่ยวหากันที่เยอรมันมาครั้งหนึ่งครั้งนั้นเฮียก็เกือบจะไปด้วยเหมือนกันแต่ดันติดงานใหญ่ของคณะซะก่อนเพราะเป็นช่วงที่กำลังขึ้นปีสามและมีกิจกรรมรับน้องอีกจนแทบไม่มีเวลา"ทำไมถึงแอบมาแบบนี้ล่ะลูก จะไม่ให้ฮ่องเต้รู้หน่อยเหรอ" แม่ถามอย่างไม่เข้าใจตอนที่เรากลับมาถึงบ้าน"มาเซอร์ไพรส์ค่ะ แม่อย่าเพิ่งบอกใครนะ"เป็นเซอร์ไพรส์แบบต้องมีคนตายไปข้าง เพราะก่อนหน้านี้ไอ้เพื่อนรักสองคนของฉันมันส่งรูปที่เฮียพาเด็กปีหนึ่งหน้าตาน่ารักขึ้นรถแล้วยังมีตอนที่พาไปกินข้าวอีกเฉพาะตอนที่เพื่
EP.40หกเดือนต่อมา "แม่อยู่ไหนแล้วคะ มาถึงหรือยัง" (อยู่รอใกล้ๆทางออกประตูสองลูก) "อ๊ะ เห็นแล้วค่ะ" ฉันยิ้มกว้างกับตัวเอง ไพล่มือไปด้านหลังเพื่อยัดโทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงแล้วจึงลากกระเป๋าเดินทางเดินลงมายังชั้นล่างที่พ่อกับแม่ยืนรออยู่ เรื่องที่กลับมาไทยวันนี้มีแค่แม่กับพ่อที่รู้เพราะฉันบอกกับคนอื่นว่าจะกลับในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากอยากมาดูอะไรให้เห็นกับตาตัวเองสักหน่อย"พ่อแม่! ชาคิดถึงที่สุดเลย " ฉันรีบโผกอดพ่อกับแม่ด้วยความคิดถึงหลังจากที่พวกเราไม่ได้เจอกับเกือบครึ่งปี เพราะก่อนหน้านี้พวกท่านเคยเดินทางไปเที่ยวหากันที่เยอรมันมาครั้งหนึ่งครั้งนั้นเฮียก็เกือบจะไปด้วยเหมือนกันแต่ดันติดงานใหญ่ของคณะซะก่อนเพราะเป็นช่วงที่กำลังขึ้นปีสามและมีกิจกรรมรับน้องอีกจนแทบไม่มีเวลา"ทำไมถึงแอบมาแบบนี้ล่ะลูก จะไม่ให้ฮ่องเต้รู้หน่อยเหรอ" แม่ถามอย่างไม่เข้าใจตอนที่เรากลับมาถึงบ้าน "มาเซอร์ไพรส์ค่ะ แม่อย่าเพิ่งบอกใครนะ" เป็นเซอร์ไพรส์แบบต้องมีคนตายไปข้าง เพราะก่อนหน้านี้ไอ้เพื่อนรักสองคนของฉันมันส่งรูปที่เฮียพาเด็กปีหนึ่งหน้าตาน่ารักขึ้นรถแล้วยังมีตอนที่พาไปกินข้าวอีก เฉพาะตอ
EP.39ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าตัวเองได้ทำอะไรพลาดไป ตอนที่ผมรอฟังคำอวยพรจากใบชาถึงได้รู้ว่าเธอเองก็คงจะรอฟังคำบอกรักจากผมเช่นกัน หวังว่าตอนนี้ชายังอยากจะได้ยินคำนั้นจากเฮียอยู่นะ ผมตั้งท่าจะโทรไปหาเธอทันที ถึงค่าโทรจะแสนแพงแต่เฮียก็ยอมเสียถ้าได้คุยกับชา นาทีเป็นหมื่นก็ยอมคิดแล้วก็เขินเลย...'ไม่ต้องโทรมานะ ชามาเรียนภาษาเลิกสองทุ่ม'แล้วความสุขที่ส่องสว่างของผมก็ถูกหรี่ไฟลงเมื่อเธอส่งข้อความมาอีกรอบ "โอ้โห่ อารมณ์มึงขึ้นลงยิ่งกว่าหุ้นอีกนะ" รอยยิ้มที่เกิดขึ้นมาบนใบหน้าแบบไม่ได้ตั้งใจของผมต้องหุบลงเมื่อเสียงของไอ้คิวดังขึ้นพร้อมกับข้อความของใบชาHongtae: งั้นอีกสองชั่วโมงเฮียโทรหานะไม่เป็นไร รอได้อยู่แล้ว นี่ก็รอมาตั้งร้อยแปดสิบห้าวันแค่อีกสองชั่วโมงเองที่จะได้ฟังเสียงในรอบสิบวันจะเป็นอะไรไป"กูกลับนะ มึงเคลียบิลจ่ายเลยแล้วบอกกูในไลน์" ว่าแล้วผมก็ยัดโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋ากางเกงหยิบของขวัญจากเมียขึ้นมาถือไว้อย่างหวงแหน เฮียจะใส่มันทุกวันเลย ถ้ากางเกงบ็อกเซอร์มันมีช่องให้ใส่เข็มขัดเฮียก็จะใส่ตอนนอนด้วย เสียดายที่มันไม่มี"เดี๋ยว" เสียงของไอ้นธีร้องท้วงทำให้ผมต้องหันหลังกลับไปมองอีกครั้งแ