ก๊อก ก๊อก
"ว่าไงคะคุณหมอ" สุพัตราเคาะประตูห้องทั้งที่ประตูไม่ได้ปิดไว้เลย แต่แค่ส่งสัญญาณให้คนที่นั่งอยู่โต๊ะทำงานมองดูว่ามีคนเข้ามา
"ว่างหรือไงครับ ถึงได้สละเวลามาหาผมได้เนี่ย"
"คุณหมอก็พูดไป จำไม่ได้เหรอคะถึงเวลานัดของเราแล้ว"
ชายหนุ่มรีบมองไปดูประตูห้อง มันยังคงเปิดอยู่ เขาก็เลยลุกเดินไปที่ประตู แต่ก่อนจะปิดมันไว้ เซอร์เวย์ได้สั่งพยาบาลที่อยู่หน้าห้องไม่ให้ใครเข้ามากวน
"ผมยังไม่มีเวลาเลย ช่วงนี้งานรัดตัวไปหมด"
"งานรัดตัวหรือว่าอะไรรัดตัวกันแน่คะ ก่อนที่จะมาหาคุณฉันขึ้นไปบนห้องมาแล้ว"
"ไม่มีอะไรหรอก"
"หมายความว่ายังไงคะ"
"มันเป็นเหตุสุดวิสัยนิดหน่อย"
"แต่เธอก็สวยดีนะ คุณไม่มีอะไรเลยเหรอ"
"ไม่มี"
"ชุดที่เธอใส่ไม่ยั่วสายตาคุณเลยเหรอ" เรามารู้จักสุพัตรากันบ้าง แพทย์หญิงสุพัตราเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลที่นี่ และสุพัตราก็เป็นแพทย์เกี่ยวกับด้านจิตเวช
ชายหนุ่มตอบไปโดยการส่ายหน้า เขามีนัดคุยกับสุพัตราทุกเดือน และเวลาคุยกันสุพัตราจะมาหาเซอร์เวย์ที่ห้องทำงานชั้นบน เพราะสิ่งที่ทั้งสองคุยกันมันเป็นความลับขั้นสูงสุดของนายแพทย์เซอร์เวย์ เขาจะให้ใครล่วงรู้เรื่องนี้ไม่ได้ ถ้าไม่งั้นต้องมีผลกับงานที่เขากำลังทำอยู่แน่อาจจะถูกยกเลิกใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ ซึ่งสำคัญมากในการประกอบอาชีพแพทย์
"คุณต้องลองเปิดใจ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณให้ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาอยู่ในห้องทำไม และทำไมเธออยู่ในสภาพนั้น แต่ฉันคิดว่าถ้าคุณลองเปิดใจ อาจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมก็ได้"
"ให้ผมเปิดใจกับผู้หญิงคนนั้นน่ะนะ" เซอร์เวย์ส่ายหน้าเล็กน้อย ขนาดเธอนอนแก้ผ้าอยู่ข้างๆ เขายังไม่มีอารมณ์เลย
"ฉันก็บอกให้คุณเปิดใจอยู่นี่ไง คุณต้องสะกดจิตตัวเองว่าเธอเป็นแฟนที่รักกันมาก"
"เราอย่าเพิ่งพูดเรื่องนั้นกันเลย"
"คุณหมอเซอร์เวย์คะ อาการที่คุณเป็นอยู่ในทุกวันนี้ ถ้าเรารีบเร่งรักษามันหายขาดได้แน่ แค่คุณเปิดใจรับผู้หญิงสักคนเข้ามา ฉันดูแล้วเธอคนนั้นคงจะพร้อมเรื่องอย่างว่า"
"แต่ผมไม่พร้อม"
"ฉันจะพูดยังไงกับคุณดีล่ะ คุณอย่าลืมสิว่าคุณเป็นหมอผ่าตัดอันดับหนึ่งของโรงพยาบาล ไม่สิ อาจจะเป็นระดับประเทศก็ได้ คุณติดอยู่แค่เรื่องเดียว ถ้าคนภายนอกรู้ว่าคุณมีอาการ.... เราจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีก ถ้าคุณอยากให้ฉันช่วยรักษา คุณต้องทำตามสิ่งที่ฉันกำลังรักษาคุณอยู่สิคะ" ไม่ใช่สุพัตราไม่เคยลองกับตัวเอง ยั่วเขาก็ยั่วแล้ว แต่สิ่งที่ได้คืนมากลับถูกผลักให้ออกห่าง
และสุพัตราเคยรักษาเซอร์เวย์โดยการให้มองผู้ชาย ในเมื่อเขาไม่สนใจผู้หญิง เขาอาจจะเป็นประเภทรักร่วมเพศก็ได้ แต่พอเซอร์เวย์ถูกสะกดจิตให้อยู่กับผู้ชาย มันก็ไม่ได้ผลอีกอยู่ดี
ในสมัยก่อนไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยสนใจผู้หญิง เขาเคยมีแฟนมาแล้วด้วย ..ตั้งแต่เห็นสรีระผู้หญิงในหลายๆ คน ไม่ได้เห็นแค่ภายนอกเห็นเข้าไปถึงตับไตไส้พุง หรือทุกสัดส่วนของผู้หญิง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นายแพทย์เซอร์เวย์ก็ไม่มีอารมณ์กับผู้หญิงอีกเลย จนต้องได้ทำการรักษา
เซอร์เวย์เงียบไปครู่หนึ่ง เพราะถูกสุพัตราสะกดจิตในขณะที่พูด ชายหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อคิดว่ามือเรียวของผู้หญิงคนนั้นกำลังสัมผัสเรือนร่างตัวเอง ในจินตนาการเขากำลังพาเธอไปที่เตียง แล้ววางร่างของเธอที่ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าเหมือนตอนที่เขาอุ้มออกมาจากห้องน้ำลงไปที่เตียงเบาๆ
ชายหนุ่มโน้มตัวลงไปใกล้ กำลังจะพรมจูบ แต่ภาพในห้องผ่าตัดก็แทรกซ้อนเข้ามาจนเขาต้องออกจากภวังค์การสะกดจิต
"ทำไมคุณไม่ต่อล่ะคะ"
"มันไม่ได้จริงๆ"
"เอาเป็นว่า ถ้าในจินตนาการไม่ได้ คุณก็เล่นจริงไปเลย พรุ่งนี้ฉันจะมาตรวจดูอาการคุณอีกทีหนึ่ง"
"เดี๋ยวก่อนนะสุ" เซอร์เวย์รีบเดินตามสุพัตรามาที่ประตู
"ไม่รู้ล่ะ ยังไงพรุ่งนี้คุณต้อง เอาคำตอบมาให้ฉันให้ได้ ถ้าไม่งั้นฉันจะส่งคุณไปให้อาจารย์หมอรักษาเองแล้วนะ" ว่าแล้วสุพัตราก็เปิดประตูเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้เซอร์เวย์ได้แต่มองตาม
"คืนนี้เหรอ กับเธอคนนั้นเนี่ยนะ"
เย็นวันเดียวกันนั้น..เซอร์เวย์แทบจะทำงานไม่รู้เรื่อง วันนี้เขาก็เลยไม่รับเคสผ่าตัดด่วน ปล่อยให้หมอคนอื่นรับผิดชอบไป ทำอะไรก็ไม่เป็นอันจะทำชายหนุ่มก็เลยกลับขึ้นมาที่ชั้นบนแกร็ก.."คุณทำอะไร""ฉันไม่รู้ว่าคุณหมอจะขึ้นมาเร็วขนาดนี้ ขอโทษค่ะ" หญิงสาวที่อยู่ในผ้าเช็ดตัวเพราะเธอเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ รีบเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าสายตาคมมองตามไป..ร่างกายของเขาเริ่มร้อนวูบวาบ เมื่อคิดว่าจะลองทำอะไรกับเรือนร่างของเธอดูเท้าแกร่งเดินตรงเข้าไปหาหญิงสาวที่กำลังเอื้อมมือขึ้นไปปลดเสื้อออกจากไม้แขวน"อุ๊ยคุณหมอ" หญิงสาวตกใจ อยู่ดีๆ มือของเขาก็ยื่นมาแกะผ้าเช็ดตัวออก แต่เธอคว้ามันไว้ได้ทันใบหน้าคมโน้มลงไปซอกคออีกฝ่ายจากทางด้านหลัง แล้วสูดดม"คุณหมอ คุณจะทำอะไร""อยู่นิ่งๆ"หญิงสาวที่ไม่เคยถูกชายใดสัมผัสร่างกายแบบใกล้ชิดขนาดนี้มาก่อน ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยืนอยู่นิ่งๆ ตามคำสั่งของเขาริมฝีปากหนาพรมจูบลงมาจนถึงแผ่นหลัง มือของเขาแนบไว้ที่หน้าอก ในใจหญิงสาวคิดไว้แล้วว่าวันนี้ต้องตกเป็นของเขาแน่ เรื่องนี้มันก็อยู่ในลายลักษณ์อักษรที่เธอได้เซ็นลงไป ที่จริงเขาเขียนขึ้นมาโดยที่ไม่คิดว่าจะแตะต้องตัวเธอหรอก แต่อะไรมันก็ไ
"ใครให้แกพาผู้หญิงคนนี้เข้าบ้าน""คุณคะ" ผู้เป็นภรรยาจ้องสามีตาเขม็ง"คุณจะไม่ให้ผมพูดได้ยังไง ก็ผมไม่ได้ต้องการผู้หญิงคนนี้มาเป็นสมาชิกในบ้าน" เพราะพ่อนิสัยแบบนี้นอร์เวย์ถึงได้ไม่กลับบ้านตอนที่เขาขัดใจพ่อ ยังมาซ้ำรอยเซอร์เวย์อีกคน ส่วนรันเวย์น่ะเหรอ ที่ไม่เข้าบ้านเพราะเหตุผลเดียวกันเป๊ะ"ปุ" ปลาบปลื้มตกใจกับคำพูดของปู่ คิดว่าคนเป็นปู่ว่าให้ตัวเอง"ปู่ไม่ได้ว่าให้ปลื้มสักหน่อยลูก มีแต่ปลื้มนี่แหละที่เห็นใจปู่"ไอยวริญทำใจไว้แล้วว่าจะเจออะไรที่บ้านของเขาบ้าง แต่ที่เธอไม่ได้ทำใจก็เพราะเรื่องเด็กคนนี้ ตกลงเขาเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือว่ามีภรรยาอยู่แล้ว อย่างหลังคงไม่ใช่ถ้ามีภรรยาเขาจะพาเธอเข้าบ้านทำไม"แม่ว่าพาน้องขึ้นไปข้างบนก่อน" อมรรัตน์มองไปเห็นรอยจ้ำที่ริมฝีปากและซอกคอของแฟนลูกชาย กลัวว่าสามีจะเห็นแล้วนำมาพูดให้ผู้หญิงเขาอาย"ครับ" เซอร์เวย์ส่งปลาบปลื้มให้กับคุณย่าแล้วก็พาเธอขึ้นบ้าน"ป้อ" ปลาบปลื้มร้องตามคุณลุงไป ใบหน้าของเซอร์เวย์และนอร์เวย์ไม่ได้ต่างกันมาก แต่ปลาบปลื้มก็รู้แหละว่าทั้งสองไม่ใช่คนคนเดียวกัน เวลาเรียกลุงทีไรเขาจะชอบเรียกพ่อ"วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่หนูไม่ได้มาครับ หนู
ทีแรกเซอร์เวย์คิดว่าจะขึ้นมาคุยกับเธอให้รู้เรื่อง แต่มีโทรศัพท์ตามลงไปรับเคสด่วนก่อนเขาก็เลยทิ้งให้เธอขึ้นไปที่ห้องคนเดียวเราทำแบบนี้มันถูกแล้วเหรอ ขอร้องให้เขาช่วยชีวิตแม่ ยังมาทำให้เขาหนักใจเพราะคิดจะผูกมัดเขาอีก ถือว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณ ถ้าไม่มีเขาแม่เธอคงไม่อยู่จนถึงวันนี้หญิงสาวรอจนถึงค่ำเพื่อจะคุยเรื่องนี้กับเขา แต่ตอนนี้ก็ค่ำมืดมากแล้วเขายังไม่กลับขึ้นมาเลยเช้าวันต่อมา..ไอยวริญรออยู่ทั้งคืนจนหลับไปตื่นมาอีกทีก็สว่างแล้ว ..เมื่อคืนนี้คุณหมอไม่ได้กลับขึ้นมาบนห้องเหรอ หรือว่าเขาจะโกรธเราระหว่างวันเขาคงไม่ขึ้นมาแน่ เธอต้องรอให้ถึงตอนเย็นอีกแล้วเหรอขณะที่กำลังคิดอะไรอยู่นั้นก็ได้มีคนมาเคาะประตูห้อง"คุณหมอแน่เลย" หญิงสาวรีบเดินมาเปิดพร้อมรอยยิ้ม "สวัสดีค่ะคุณแม่""คุณแม่.." แจนที่ยืนอยู่ด้านหลังของแพทย์หญิงอมรรัตน์ได้ยินคำที่เธอคนนั้นเรียกรู้สึกขัดหูมาก"แม่มารับเราไปดูเครื่องประดับ""ค่ะ" ไอยวริญก็เลยขอตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ดูเรียบร้อยหน่อย"อยู่แต่บนห้องคงอึดอัดแย่เลยนะ""ก็ไม่เท่าไรค่ะ""ตาหมอคงห่วงเรามากสิ""คะ?" อยากจะขำเขาจะมาห่วงเราทำไมทั้งสองลงลิฟต์มาจนถึงชั้นล่าง ก็เห
พอถูกเขาแตะเนื้อตัวเข้าจริงๆ หญิงสาวก็เริ่มประหม่า ขาเรียวแนบชิดเข้าหากันแบบอัตโนมัติ แต่เซอร์เวย์ก็ไม่ได้ปล่อยมือออก เขายังคงขยับลูบคลำเนินนั้นเบาๆจนสัมผัสได้ว่าร่างกายของเธอสั่น เพราะประสาทสัมผัสของเขาไว ถ้าไม่งั้นคงเป็นหมอผ่าตัดอันดับต้นๆ ของประเทศไม่ได้"?" หญิงสาวแปลกใจทำไมเขาถึงไม่ทำต่อ เพราะอยู่ดีๆ เขาก็ถอนจูบออก แล้วหันไปใส่เสื้อผ้าไอยวริญคิดว่าตัวเองทำอะไรผิดหรือเปล่า ถ้าเขาต้องการร่างกายของเธอ เธอพร้อมที่จะให้เขาอยู่แล้ว"อดทนอยู่บนนี้อีกสักระยะ ไม่นานหรอก" ชายหนุ่มพูดในขณะที่กำลังสวมรองเท้าจะออกไปข้างนอก"คุณหมอจะให้ฉันไปจากที่นี่แล้วเหรอคะ" ถ้าเป็นแต่ก่อนเธอคงจะดีใจ แต่พอมาวันนี้ทำไมรู้สึกใจหายสายตาคมหันกลับมามองเธอเล็กน้อยก่อนที่จะเดินออกไป เขาไม่ได้ให้คำตอบอะไรกับเธอเพราะเขาก็ยังไม่มีคำตอบให้ตัวเองเหมือนกันพอประตูปิดลงไอยวริญก็ค่อยๆ ก้าวเดินไปทิ้งตัวนั่งลงที่เตียงไม่สิเธอต้องออกมาจากโลกแห่งความฝันได้แล้ว ถึงแม้ความจริงมันจะน่ากลัวและโหดร้าย แต่นั่นมันก็คือความจริง ไอยวริญเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองเผลอมีใจให้กับเขา ก็ตอนที่ได้ยินเขาบอกจะปล่อยเธอออกไปจากห้องนี้"ทานข้าวได้แ
ถ้าเธอสังเกตก็จะเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา เพราะเขาจับชีพจรของเธอได้ มือหนาค่อยๆ เลื่อนมาวางลงที่หน้าอก เพราะอยากจะฟังการเต้นของหัวใจด้วยอือ หญิงสาวไม่กล้าขยับหนี กลัวเขาคิดว่าเธอเล่นตัว แต่เธอน่าจะเล่นตัวสักหน่อยดีไหม.."อื้อคุณหมอ""ทำไม"ถามแบบนี้จะให้เราตอบยังไง ..หญิงสาวก็เลยนิ่งเงียบหลับตาลงช้าๆ ถ้าเขาจะทำมากกว่านี้ก็ปล่อยให้เขาทำไปเลยแล้วกัน แต่ทำไมหัวใจมันเต้นแรงขนาดนี้ล่ะมือหนาเอื้อมไปโอบกอดร่างของเธอเข้ามาแน่นกว่าเดิม จนเจ้าของร่างกายนั้นหายใจไม่ค่อยสะดวก แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว แถมตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะหลับไปแล้วด้วย ..อะไรของเขาวะ หลอกให้อยากแล้วจากไปนี่หว่าน้อยใจได้ไหมเนี่ย เดี๋ยวก็หาว่าเราใจง่ายอีกหรอก จะหลับก็หลับไปเลย ไอยวริญทำได้แค่คุยกับตัวเองแล้วก็เคลิ้มหลับตามเขาไปแกร็ก.."อุ๊ย" พอถึงเวลาอาหารเย็น นักโภชนาการก็เตรียมอาหารมาให้ปกติเหมือนทุกมื้อ แต่ภาพที่เห็นอยู่บนเตียง มันแทบจะทำให้คนที่เข้ามาอยากจะถอยออกไปก่อน แต่หน้าที่ก็คือหน้าที่ นักโภชนาการก็เลยเตรียมอาหารไว้ที่โต๊ะ แล้วก็รีบออกไป"คุณหมอคะ""หือ""เมื่อสักครู่ฉันได้ยินเสียงปิดประตู""เขาอาหา
นี่แหละนะเอาอะไรแน่นอนกับผู้หญิงไม่ได้ สงสัยเราจะตื่นเต้นมากเกินไปหรือเปล่าประจำเดือนมาผิดวันเลยพอเธอจัดการกับตัวเองเสร็จ กำลังจะกลับขึ้นไปชั้นบน ก็นึกได้ว่ากระเป๋าเงินของเขายังอยู่ที่เธอ เผื่อว่าเขาจะซื้ออะไรเดี๋ยวก็ลำบากอีกหรอกไอยวริญก็เลยกลับมาที่ห้องทำงานของเขาอีกครั้ง"คุณหมอติดคนไข้อยู่ค่ะ" พยาบาลคนเดิมรีบเดินเข้ามาขวางไว้ก่อนที่เธอจะเดินพรวดพราดเข้าไป"เหรอคะ ถ้างั้นฉันฝากกระเป๋าเงินคืนคุณหมอด้วยค่ะ""กระเป๋าเงินของคุณหมอไปอยู่ที่คุณได้ยังไง?" พยาบาลจำได้แม่นว่านั่นคือกระเป๋าของคุณหมอจริง"อยู่ที่ฉันได้ยังไงน่ะเหรอคะ เออคือว่า.." หญิงสาวต้องได้เงียบปากเงียบคำไว้ ถ้าพูดไปกลัวเขาจะโกรธ"ฉันถามว่ากระเป๋าของคุณหมอไปอยู่ที่คุณได้ยังไง" พยาบาลสงสัยตอนที่เธอเข้าไป..หรือว่าเธอจะแอบหยิบเอากระเป๋าตังค์ของคุณหมอออกมาด้วยไอยวริญรีบวางมันไว้บนโต๊ะของพยาบาลแล้วก็รีบออกไป ถ้าลูกน้องของเขาเอาไปคืนเดี๋ยวเขาก็บอกกันเองแหละมั้งพยาบาลหน้าห้องเห็นว่าคนไข้ออกมาแล้วก็เลยเอากระเป๋าเดินเข้าไป"คุณหมอคะ เธอคนนั้นแอบหยิบกระเป๋าของคุณหมอไปหรือเปล่าคะ""เปล่า" ชายหนุ่มที่กำลังจดรายละเอียดของคนไข้อยู่ไม
"ไปซื้ออะไรมา" ดวงตาคมมองสิ่งที่อยู่ในมือของอีกฝ่าย"ไม่มีอะไรสำคัญหรอกค่ะ""แล้ว?""แล้ว??" เพิ่งนึกขึ้นได้เธอเป็นบ้าอะไรถึงไปหึงไปหวงเขา "เออคือว่า ฉันเอากระเป๋าเงินมาคืนให้คุณหมอค่ะ คุณลืมเอากระเป๋าลงมาด้วย""ผมไม่ได้ลืม""แล้วคุณหมอไม่ได้ซื้ออะไรเหรอคะ""ไม่ได้ซื้อ""ถ้างั้นก็ขอโทษด้วยค่ะที่ฉันทำเกินหน้าที่""นั่งรอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวออกไปทานข้าวด้วยกัน""ออกไปทานข้าวเหรอคะ?""ทำไม หรืออยากขึ้นไปรอกินข้าวข้างบน""ก็แล้วแต่ความกรุณาของคุณหมอสิคะ" นี่เราเป็นบ้าอะไรไปพูดประชดเขาทำไม "อยากไปทานข้าวกับคุณหมอค่ะ" หญิงสาวต้องได้รีบเปลี่ยนอารมณ์ตัวเองใหม่เซอร์เวย์ปล่อยให้เธอนั่งรออยู่ในห้องตรวจ แล้วก็ออกมาดูคนไข้ที่ผ่าตัดไปแล้ว"คุณหมอคะ""ครับ""มาดูคนไข้เหมือนกันเหรอคะ""คุณเริ่มทำงานเลยเหรอ ขยันไปไหมครับ""อยากจะรีบทำงานค่ะ" รุ่งฤดีแพทย์หญิงที่เข้ามาใหม่ "เที่ยงนี้ คุณหมอมีนัดหรือยังคะ""ทำไมหรือครับ""รุ่งยังไม่มีเพื่อนไปทานข้าวเลยค่ะ""ถ้างั้นก็ไปทานด้วยกัน ผมขอเช็คคนไข้ก่อนครับ""ได้เลยค่ะคุณหมอ เที่ยงนี้เจอกันนะคะ" ผู้ช่วยและพยาบาลที่อยู่แถวนั้นต่างก็มอง ใครก็ดูออกว่าคุณหมอรุ่งฤดีกำ
มือหนายื่นเข้าไปเพื่อหยุดประตูลิฟต์ที่กำลังจะปิดลงไว้พอหยุดประตูลิฟต์ได้ชายหนุ่มร่างสูงก็ได้ก้าวเข้าไป"ไปไหนมา" ไม่รู้ว่าจะชวนคุยอะไรดีก็เลยมองดูของที่อยู่ในมืออีกฝ่าย"คุณแม่ชวนออกไปซื้อของ""คุณแม่เข้ามาเหรอ""ค่ะ""ไม่เห็นท่านโทรมาบอกเลย"ไอยวริญไม่ได้ตอบและไม่มองหน้าเขาด้วย จนประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นบน"คุณหมอคะ"เซอร์เวย์ที่กำลังจะเดินตามเธอเข้าห้อง หันกลับมามองเมื่อได้ยินแจนเรียก"คืนนี้มีงานเลี้ยงต้อนรับคุณหมอคนใหม่แบบเป็นทางการค่ะ""งานเลี้ยงอะไรอีก วันนั้นก็เลี้ยงไปแล้วไม่ใช่เหรอ""เออ.. มีกำหนดการมาแบบนี้จริงๆ ค่ะ""ส่งรายละเอียดงานเข้ามาในอีเมลผมแล้วกัน" เขาไม่ได้ตามเธอเข้าไปในห้อง เพราะต้องรีบลงไปรับคนไข้ช่วงบ่ายไอยวริญก็รออยู่ว่าเมื่อไรเขาจะเข้ามาสักที จนเธอแง้มประตูออกมาดู ..เขาไปแล้วเหรอ จะไม่ง้อเราอีกสักนิดเลยเหรอเย็นวันเดียวกันนั้น..หญิงสาวที่ยืนอยู่ริมหน้าต่าง หันมามองเขาซึ่งกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่"วันนี้อาจจะกลับดึกหน่อย ล็อกห้องเลยเดี๋ยวผมเอากุญแจออกไปด้วย"ที่เธอไม่ถามเพราะรู้ว่าเขาจะไปไหน แต่เขาน่าจะแกล้งชวนเธอสักนิดพอเขาออกไปแล้วห้องนี้มันดูเงียบมากเง
"เข้าข้างในกัน" เกษมราษฎร์เอื้อมมือมาให้อีกฝ่ายจับมือท่านไว้ เพื่อจะได้ก้าวเดินเข้าไปด้านในพร้อมกัน"ท่านทำอะไรคะ" นางยอมเดินตามแรงที่อีกฝ่ายจูง แต่ก็อดที่จะถามไม่ได้"บอกแล้วไงว่าไม่อยากปล่อยเวลาให้เสียไปเปล่าๆ แต่งงานกันนะ""อู๊วววว" เสียงโห่แสดงความยินดีดังขึ้นเมื่อเกษมราษฎร์คุกเข่าลงต่อหน้าผู้หญิงที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวในคืนนี้ ท่านเคยพูดไว้แล้วถึงแม้ว่าจะพูดแค่กับตัวเอง ถ้ามีโอกาสได้ทำเพื่อเธอ..จะทำให้ผู้หญิงทุกคนบนโลกนี้ต้องอิจฉาเธอ"ลุกขึ้นเถอะค่ะท่าน""คุณตอบตกลงมาก่อนสิ""ท่านเพิ่งขอหมั้นไปวันก่อนเองนะคะ""ถ้าคุณไม่ตกลงผมก็จะอยู่แบบนี้""ตกลงก็ได้ค่ะ" จากเสียงโห่ร้องกลายเป็นเสียงกรี๊ดลั่นจนโรงแรมแทบจะแตก เมื่อฝ่ายหญิงตอบตกลงแต่งงานด้วยเกษมราษฎร์ลุกขึ้นโดยที่ไม่ต้องให้ใครมาช่วยพยุง ถึงแม้จะอายุและเยอะแล้วแต่ร่างกายของท่านก็ยังแข็งแรง เพราะการเป็นทหารต้องได้ฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา"ดีใจด้วยนะครับ" รามสูรเข้ามาแสดงความยินดี เขาดีใจมากที่จะเห็นแม่มีความสุขสักที ตั้งแต่จำความได้เลยมั้งที่เห็นแม่ต้องเฝ้ารอพ่อกลับบ้านทุกวันและลูกๆ คนที่เหลือก็เข้ามาแสดงความยินดี รวมทั้งแขกในงาน วันนี้ท่าน
เย็นวันเดียวกันนั้น.. พุดตาลเรียกลูกชายและลูกสะใภ้มาทานข้าวเย็นร่วมกัน"สวัสดีครับท่าน" รามสูรมาพร้อมกับภรรยา และลูกชาย พอมาถึงก็เห็นว่าท่านพลเอกเกษมราษฎร์ ก็นั่งอยู่ในห้องรับแขกด้วย"มาครบกันแล้วใช่ไหม นั่งก่อนสิลูก"พอลูกชายนั่งลงเกษมราษฎร์ก็ขอเป็นคนพูดเอง ท่านบอกทุกคนว่าขอเข้ามาอยู่ร่วมครอบครัวด้วย ทีแรกเกษมราษฎร์ก็ช่างใจอยู่ กลัวลูกๆ ของพุดตาลจะไม่ชอบใจ เพราะถึงยังไงพ่อของพวกเขาก็มีทีท่าว่าจะกลับมา"ยินดีต้อนรับครับ ผมเองต่างหากที่ต้องฝากคุณแม่ไว้กับท่าน" พี่ชายคนโตเป็นคนเอ่ยพูดก่อน"ขอบใจมากนะลูก" ใจจริงพุดตาลก็อยากจะอยู่กับลูกและหลานแบบนี้ไปจนแก่เฒ่า แต่มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว เมื่อสามีหย่าขาดจากผู้หญิงคนนั้น ยังไงท่านก็ต้องกลับมาวนเวียนจนทำให้ชีวิตอยู่ไม่เป็นสุขแน่ นางก็เลยตัดสินใจตัดกรรมกันไปแต่เพียงแค่นี้"ผมจะประกาศให้สังคมรับรู้เรื่องของเราในเร็ววันนี้""เรื่องนี้แล้วแต่ท่านค่ะ" นางคิดว่าให้คนรับรู้ไว้ก็ดี เรื่องถูกนินทาหนีไม่พ้นอยู่แล้ว ใครจะนินทาก็ช่าง ขอให้ตัวเองอยู่แบบสบายใจก็พอร่วมทานข้าวเย็นกันเสร็จ ลูกชายทั้งสองก็ขอตัวกลับเพราะมันดึกแล้ว ส่วนเพลิงไม่อยากจะกลับก็ต้องได
"ใจเย็นก่อนสิคะมาเหนื่อยๆ น้ำก็ยังไม่อาบ""ขอชื่นใจก่อน" ริมฝีปากหนากระซิบพูดในขณะที่จมูกยังสูดดมคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอด"คิดถึงคุณเหมือนกันค่ะ" รักครั้งแรกของเธอมันช่างสวยงามนัก แต่เมขลาหวังว่าจะหยุดผู้ชายคนนี้ไว้ได้แค่เธอ เพราะถ้าเขามีตำแหน่งที่สูงขึ้น เขาจะเป็นเหมือนคนที่ให้กำเนิดเธอไหม"เป็นอะไร" เพลิงสัมผัสได้ว่าอารมณ์ของเธอไม่เหมือนตอนที่เรียกเขาขึ้นมาข้างบนเลย"อนาคตข้างหน้าอะไรมันก็ไม่แน่นอนค่ะ เผื่อคุณก้าวไปในตำแหน่งที่สูงกว่านี้..""อย่าคิดอะไรที่มันจะไม่เกิดขึ้น" แค่นี้เขาก็รู้แล้วว่าเธอคงกลัวว่าเขาจะทำตัวเหมือนพ่อ"คุณรู้เหรอคะว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่""ผมรักคุณ คำนี้ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้ฟังมันจากปากผม และผมก็จะพูดให้คุณฟังเพียงคนเดียว""ขอบคุณนะคะ" ขอบคุณเขาทั้งน้ำตา แต่ก่อนตอนที่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ ยังมีความสุขมากกว่านี้เลย แต่พอรู้ว่าพ่อมีนิสัยยังไง เมขลาก็เริ่มกลัวผู้ชายรอบข้าง[โรงแรมหรู]ที่พลเอกเกษมราษฎร์พาพุดตาลมาทานข้าวที่โรงแรม เพราะรู้แล้วว่านางคงไม่กลับไปหาอะไรเดิมๆอีก ท่านต้องทำให้นางเห็นว่าท่านสามารถที่จะพานางก้าวไปในทุกๆที่ได้"ทำไมคุณรู้ว่าฉันชอบกิน เออ..
"ทำอะไรกัน"คนที่กำลังโอบกอดกันถึงกับตกใจปล่อยมือออก"ท่าน?""นายคงไม่อยากจะอยู่ในกรมแล้วใช่ไหม""อย่าทำอะไรผู้กองนะคะ" ถึงแม้เธอจะตัวเล็กกว่ามาก แต่หญิงสาวก็ใจกล้าก้าวออกมายืนบังชายคนรักไว้"เรารู้ไหมว่ามันไม่สมควร""จะสมควรหรือไม่ มันอยู่ที่เราสองคนค่ะ""อย่าลืมสิว่าเราเป็นลูกของใคร""หึ.. แล้วฉันเป็นลูกของใครล่ะคะ""มันสมควรแล้วเหรอที่จะมาพูดต่อล้อต่อเถียงกับพ่อ""พ่อ?" เมขลาอยากจะพูดอะไรอีกตั้งมากมาย แต่มันจุกในอกเสียก่อน"มีอะไรกัน" แม่บ้านรีบเข้าไปตามคุณผู้หญิงออกมาดู กลัวว่าจะมีเรื่อง"คุณมาก็ดีแล้ว ผมจะเร่งเรื่องให้ลูกไปเรียนต่อต่างประเทศ""เรียนต่อต่างประเทศ?" เพลิงพูดพร้อมกับมองหน้าเมขลา แล้วมองไปที่ท่านพลเอกเรวทัต"ฉันไม่ไปค่ะ""ลูกไม่อยากเรียน" พุดตาลคิดว่านางคงต้องได้ออกหน้าเองแล้วล่ะ"อายุแค่นี้ยังเรียนได้อีกตั้งเยอะ ทำไมถึงคิดสั้น""อะไรคือการคิดสั้นคะ""ก็ที่เห็นอยู่นี่ไง""คนนี้ผู้กองเพลิงท่านก็คงจะรู้จักแล้ว เขาเป็นคนรักของฉัน ไม่สิ.." ถ้าพูดแค่คนรักมันคงไม่จบตรงนี้แน่ เมขลาก็เลยให้สถานะใหม่กับเพลิง "เขาเป็นพ่อของลูกในท้องฉันเองค่ะ""???" ไม่ใช่แค่พลเอกเรวทัตและพุดตา
เห็นว่าทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า เรวทัตก็เลยยังไม่พูดอะไรอีก เพราะคดีเก่ายังไม่เคลียร์"อยู่พร้อมหน้ากันก็ดีแล้ว พ่อจะย้ายกลับมาอยู่บ้านหลังนี้แล้วนะ"เรวทัตพูดจบ ลูกๆ ต่างก็มองดูหน้าคนเป็นแม่มันคงเป็นเวรกรรมของนางที่เคยสร้างไว้กับผู้ชายคนนี้ตั้งแต่ชาติปางก่อน ชาตินี้ก็เลยต้องได้ตามมาชดใช้กรรม หนีไปไหนก็คงจะหนีไม่พ้นแล้ว"บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณ คุณจะมาอยู่ใครจะว่าอะไรได้ล่ะคะ"เรวทัตอยากได้ยินคนตรงหน้าเรียกว่าคุณพี่เหมือนเดิม แต่คงต้องใช้เวลา เพราะตัวเองทำไว้กับนางเยอะ"หือ รามิล" มองเข้าไปด้านในก็เห็นลูกสะใภ้คนโตกำลังอุ้มหลานชายเดินออกมา เรวทัตก็เลยเดินเข้าไปหาหลานพอคนเป็นพ่อไปแล้ว ลูกๆ ที่ยังยืนอยู่ตรงนั้นต่างก็มองดูหน้าแม่อีกครั้ง นาทีนี้ไม่มีใครน่าสงสารเท่าท่านอีกแล้ว"แม่ไม่เป็นอะไรหรอก เข้าไปข้างในกันเถอะ" แค่นี้นางก็รู้แล้วว่าสามีคงจะหย่าจริง เพราะถ้าไม่งั้นคงไม่บอกว่าจะกลับมานอนบ้านหลังนี้ นางรนหาที่เอง คิดว่าท่านจะไม่กล้าหย่าดาราสาวสวยคนนั้นทุกคนเข้าไปแล้ว เมขลาก็หันกลับมากุมมือเพลิงไว้ "เรายังจะเป็นเหมือนเดิม อย่าคิดมากนะคะ" เมขลารู้ดีว่าเพลิงคิดว่าตัวเองต่ำต้อย"ผมจะไม่ถอ
"ผมมาคิดทบทวนเรื่องของเราดูแล้ว""ท่านไม่สบายหรือเปล่าคะ" แพรวพราวเริ่มใจไม่ดี แต่ก็ยังคงส่งรอยยิ้มหวานๆ ให้ แบบใจดีสู้เสือ"เราหย่ากันเถอะ""คุณพี่!!""ผมจะให้ทุกอย่างที่คุณอยากได้ ผมขอแค่ให้คุณเซ็นใบหย่า""ไม่มีทางค่ะ กว่าเราจะฝ่าฟันความรักของเรามาด้วยกันได้ ทำไมคุณพี่ถึงทำแบบนี้กับแพรวคะ""ผมให้เกียรติคุณถึงได้มาคุยก่อน หรืออยากจะคุยผ่านทนายของผมล่ะ""แพรวรักท่าน ยอมอุ้มท้องลูกของท่าน ถึงแม้จะถูกใครตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี""เรื่องลูกผมก็ยังจะส่งเสียเลี้ยงดู""แพรวไม่ได้ต้องการแบบนั้นสักหน่อย ใครคะ..ท่านมีใครใหม่อีกเหรอคะ""เรื่องนั้นไม่เกี่ยว เรามาคุยเรื่องของเราก่อน""เรื่องของเรา แพรวไม่หย่า!""ผมมาคุยกับคุณดีๆ แล้วนะ หลังจากนี้คุณก็คุยกับทนายของผมแล้วกัน และสิ่งที่คุณอยากได้ก็อย่าฝันว่าจะได้""ท่านอย่าบอกนะว่าจะกลับไปหามันอีก""ผมเพิ่งรู้ว่ารักภรรยา""รักภรรยาอย่างนั้นเหรอคะ แล้วที่ผ่านมาล่ะผู้หญิงนับสิบนับร้อยยังจะเรียกว่ารักภรรยาได้อยู่อีกเหรอคะ!" แต่ดูเหมือนเรวทัตจะไม่ฟังอะไรอีก เพราะตอนนี้เดินไปที่รถแล้ว "กรี๊ดดดด!!""คุณแม่เป็นอะไรคะ" มโนราห์ได้ยินเสียงร้องก็รีบลงมาดู"
"??" เมขลาได้ยินทุกคำพูดของแม่ใหญ่ที่พูดกับ.. แม้แต่คิดยังไม่กล้าเอ่ยชื่อในใจเลย คนที่ไม่ต้องการเธอ..เธอก็ไม่ต้องการคนแบบนั้นเช่นกัน"หนูเมย์" ยืนมองตามสามีเก่าไปครู่หนึ่ง พอหันกลับมาก็เจอเมขลาอยู่ตรงมุมบันได"คุณแม่ทำแบบนั้นทำไมคะ""บางทีมันอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเราก็ได้""น้องเมย์ไม่เห็นด้วยค่ะ""แต่เขาคือ..." นางกำลังจะพูดว่าแต่นั่นคือพ่อแท้ๆ ของเมขลาเลยนะ"น้องเมย์ไม่อยากให้คุณแม่กลับไปเจอวังวนเก่าๆ อะไรที่เราสลัดทิ้งไปได้แล้ว ก็ปล่อยมันไปเถอะค่ะ"ทำไมเด็กอายุยังไม่ถึง 20 ถึงคิดได้กว่านาง ถ้านางใช้แค่หัวใจคิดก็คงจะกลับมาในวังวนเดิม แต่ถ้าใช้สมอง ปล่อยให้ทุกอย่างมันผ่านไป มันอาจจะดีกว่านี้ก็ได้"แล้วแม่ต้องทำยังไง"เมขลามองใบหน้าผู้หญิงที่กาลเวลาไม่สามารถทำร้ายนางได้ เพราะถ้าเดินไปกับเธอทุกคนคงคิดว่าพี่กับน้อง ดวงตาของนางคลอไปด้วยม่านน้ำตาที่บดบัง ถึงแม้เธอจะอายุยังน้อย แต่ก็พอดูออกว่าท่านยังคงรักผู้ชายคนนั้นอยู่"ถ้าเขาคนนั้นกลับมา ทำให้คุณแม่ต้องทุกข์ใจอีก คุณแม่จะรับได้ไหมล่ะคะ" เพราะยังไงคนเดิมก็คงทำอะไรเหมือนเดิม ถ้าไม่งั้นคงไม่ออกไปไข่ไว้นอกบ้านจนทั่วแบบนี้"แม่ขออยู่คน
คฤหาสน์พลเอกเรวทัต"ดีใจจังเลยค่ะที่คุณผู้หญิงกลับมา""สบายดีกันไหม" กลับมาที่นี่ถึงสองครั้ง แต่ไม่ได้ถามสารทุกข์สุขดิบกันเลย เพราะแค่เห็นหน้าสามีเก่าก็ไม่มีอารมณ์ถามใครแล้ว"ไม่สบายก็ตรงที่คิดถึงคุณผู้หญิงนั่นแหละค่ะ""ปากหวานเหมือนเดิมนะพวกเราเนี่ย ช่วยกันเอาของเข้ามาข้างในก่อน""เดี๋ยวผมทำเองครับ" เพลิงซึ่งทำหน้าที่ขับรถรีบเดินไปเปิดกระโปรงหลัง"ฉันช่วยค่ะ" เมขลากำลังจะไปช่วยยกของแต่ถูกเพลิงห้ามไว้"เอาของขึ้นไปไว้ข้างบนเลย แม่ให้คนจัดห้องให้แล้ว""ครับ" ชายหนุ่มหิ้วกระเป๋าขึ้นไปที่ชั้นบน โดยมีหญิงคนรักเดินตามไป ส่วนของที่เหลือพวกแม่บ้านช่วยกันคนละไม้คนละมือกึก.."อืม" หญิงสาวตกใจเดินพ้นประตูเข้ามาเขาก็ปิดแล้วล็อกมันไว้ ไม่ได้ทำแค่นั้นเพลิงยังหันมาจูบพอหายตกใจเมขลาก็จูบกลับ คิดว่าคงไม่มีใครเข้ามาในห้องนี้ เพราะของที่เหลือเป็นของแม่ใหญ่คิดว่าจะจูบไม่นานพอให้หายคิดถึง ถ้าได้แยกกันอยู่จริง แต่นี่ขนาดจูบอยู่ยังคิดถึง"ผมรักคุณนะ" นิ้วแกร่งเขี่ยแก้มของหญิงคนรักเบาๆ "อยู่ที่นี่ห้ามดื้อเข้าใจไหม""คุณก็ห้ามแอบไปเที่ยวที่ไหนนะคะ""ไม่ไปไหนหรอก"ทั้งสองพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่งก็ลงมา.."พี่
"คุณไม่มีพันธะ แต่คุณไม่คิดเหรอกว่าเกษมอาจจะมีพันธะอยู่ก็ได้"พุดตาลเงียบไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินประโยคนั้นจากสามีเก่า มันก็มีส่วนอยู่บ้าง พลเอกเกษมราษฎร์ตำแหน่งใหญ่โตขนาดนั้น แถมภรรยาก็ตายจากไปนานแล้ว"เรื่องนั้นฉันคงไม่ให้ท่านต้องมาลำบากใจด้วยหรอกค่ะ..กลับกันเถอะลูก"พลเอกเรวทัตได้แต่มองตามหลังนางไป ทันใดนั้นก็คิดอะไรขึ้นมาได้"คนนี้ใช่ไหม ที่เป็นลูกของนวล" เรวทัตรีบเดินตามทั้งสองมาที่รถจากที่กำลังจะเปิดประตูพุดตาลถึงกับชะงัก"ผมจะรับลูกคนนี้กลับมาเลี้ยงเอง""??" พอประโยคนี้ออกจากปากพลเอกเรวทัต ทั้งสองที่ยืนหันหลังให้ ก็ได้หันกลับมามองพร้อมกัน "คุณหมายความว่ายังไง""ในเมื่อเด็กคนนี้เป็นลูกอีกคนของผม มันก็ไม่แปลกที่ผมจะรับลูกกลับมาเลี้ยงเอง"พุดตาลรีบจับเมขลาหลบไว้ด้านหลังของตัวเองก่อน "เสียใจด้วยค่ะ แต่ตอนนี้เมขลาเป็นลูกของดิฉันแล้ว""คุณแน่ใจเหรอว่าจะพูดเรื่องสิทธิ์เลี้ยงดูเด็กคนนี้กับผม"เมขลาส่ายหน้าเล็กน้อยเพื่อบอกกับแม่พุดตาลว่าเธอไม่ไป"แม่ไม่ยอมให้หนูไปอยู่แล้ว เรากลับบ้านกัน" นางรีบหันกลับไปเปิดประตูรถ เพื่อให้เมขลาได้ขึ้นไปนั่งก่อน"ถ้าคุณชอบขึ้นโรงขึ้นศาล ไม่เป็นไรนะผมจัดให