ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เข้ามาแค่ไม่กี่วันรู้เรื่องทุกอย่างที่เขาทำไว้จากที่กำลังโกรธกำลังงอนเขาเรื่องผู้หญิง อารมณ์ของเธอเปลี่ยนไปเริ่มเป็นห่วง เพราะเขาต้องมาเดือดร้อนเพราะช่วยเธอไอยวริญแกะมือหนาออก เพราะเธอจะปล่อยให้เขาเดือดร้อนมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว หญิงสาวหยิบเอากระเป๋า ของตัวเองแล้วเดินออกจากห้องไป เพราะมันเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยเขาได้ในเวลานี้"ถ้าฉันเป็นคุณหมอฉันจะไม่ตามไปค่ะ" รุ่งฤดีเห็นว่าเซอร์เวย์กำลังจะเดินตามออกไป"คุณต้องการอะไร""ต้องการเป็นภรรยาของคุณ"ใบหน้าหล่อคมหันกลับมามองผู้หญิงที่หน้าไม่อาย เขาไม่มีความรู้สึกอะไรกับผู้หญิงคนนี้เลย"เรื่องงานแต่งคุณหมอไม่ต้องเป็นกังวลนะคะ เดี๋ยวฤดีจะเป็นฝ่ายจัดการเองทั้งหมด คุณหมอแค่รอเป็นเจ้าบ่าวก็พอแล้ว""คุณไม่มีความอายเลยหรือไง""อายทำไมคะ สมัยนี้ผู้หญิงกับผู้ชายเสมอภาคกันแล้ว"ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาเสียงดัง ถ้าคนตรงหน้าเป็นผู้ชายด้วยกัน เขาคงได้เอาฟันออกมาจากปากสักซี่สองซี่แล้วรุ่งฤดีมองตามเซอร์เวย์ที่ออกจากห้องไปด้วยรอยยิ้ม ไม่คิดว่าทุกอย่างมันจะง่ายขนาดนี้ ใครบ้างที่ไม่อยากเป็นภรรยาของเจ้าของโรงพยาบาล ส่วนหนึ่งที่รุ่
ชายหนุ่มรีบตรงเข้ามาที่ลิฟต์แล้วกดขึ้นชั้นบน ในใจภาวนาให้เป็นเธอ ..นี่เขาใจเต้นแรงกับผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่เมื่อไร เพราะขณะที่กำลังรอลิฟต์อยู่ ในใจของเขากระวนกระวายมากพอประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นบน ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบตรงไปที่ห้องทำงานของตัวเองแกร็ก..แอดดดด..."กลับมาแล้วเหรอคะ""คุณมาอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง?""คุณอย่าลืมสิคะ ว่าฉันเป็นคู่หมั้น คนที่มีสิทธิ์จะอยู่ในห้องของคุณก็มีแต่ฉัน""ถ้างั้นก็เชิญคุณอยู่ไปคนเดียว" ชายหนุ่มกำลังจะก้าวออกมาจากห้อง แต่รุ่งฤดีรีบเดินมาขวางหน้าไว้"คุณไม่กลัวหรือคะว่าฉันจะแจ้งเรื่องนี้ไปทางผู้ใหญ่""ผมรู้ว่าคุณไม่ทำแน่" เพราะผู้หญิงคนนี้เห็นแก่ผลประโยชน์ ถ้ายังไม่ได้สิ่งที่ต้องการคงไม่มีทางตัดทางตัวเองแน่"แต่ถ้าคุณทำให้ฉัน ไม่พอใจมากๆ เข้า ฉันอาจจะทำก็ได้นะคะ""หึ" เซอร์เวย์ไม่ยอมอยู่ให้เธอขู่อีก ในเมื่อในห้องนี้ไม่มีไอยวริญเขาก็ไม่แม้แต่อยากจะเหยียบเข้ามา"คุณหมอกลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!" มีคนถือหางรุ่งฤดีก็เลยกล้าที่จะทำตามใจตัวเอง เพราะยังไงพ่อของเขาก็เข้าข้างเธออยู่แล้วอีกสถานที่หนึ่งในเวลาเดียวกัน.."อายก็เลยทำให้ทุกคนเดือดร้อนไปหมด""เรื่องนี้หนูไม่ใช่ต้
ทำไมตาหมอถึงกล้าทำขนาดนี้ นางก็เป็นหมอคนหนึ่งเหมือนกัน ถ้าคนนั้นไม่ใช่ญาติสนิท แบบสายเลือดเดียวกัน นางคงไม่กล้าผ่าตัดเอาชีวิตของตัวเองทั้งชีวิตมาเสี่ยง"อายไม่รู้จะขอโทษคุณแม่ยังไง ถ้าไม่เพราะอาย คุณหมอก็คงไม่ถูกขู่บังคับ" เรื่องนี้เธอก็ต้องบอกให้แม่เขารับรู้ไว้ เพราะมันเป็นความผิดของเธอเอง"ถูกขู่บังคับ..จากผู้หญิงคนนั้นเหรอ?" แค่ฟังมาก็พอจะเดาออกแล้ว"ใช่ค่ะผู้หญิงคนนั้นรู้เรื่องนี้แล้ว""ห๊า?" แพทย์หญิงอมรรัตน์ไม่รู้ว่าจะตกใจอันไหนก่อนดี อย่างหลังมันยิ่งทำให้ตกใจมากกว่า เพราะเรื่องแบบนี้จะให้ใครล่วงรู้ด้วยไม่ได้เลย ทำไมลูกชายของนางถึงได้สะเพร่าขนาดนี้แล้วนี่ไอ้พ่อหัวดื้อจะรู้เรื่องนี้ด้วยไหม ..นางหมายถึงว่าสามีรู้เรื่องที่ผู้หญิงคนที่อยากจะได้มาเป็นลูกสะใภ้นักหนากำลังทำอยู่ไหม"ที่อายอยู่แบบนั้น เพราะได้ตกลงเซ็นสัญญากับคุณหมอไว้แล้วค่ะ" เธออยากจะพูดให้แม่เขาเข้าใจ ไม่ใช่ว่าเขารักเขาหลงอะไรเธอเลย"เซ็นสัญญา มีสัญญาด้วย?" ยังมีเรื่องอะไรที่ต้องตกใจอีกไหมเนี่ย"ใช่ค่ะ จนกว่าอายจะใช้หนี้คุณหมอหมด อายถึงจะเป็นอิสระ""หือ?""ช่วงนี้อายก็คงทำได้แค่อยู่ขัดดอกไปวันๆ""??""อายหมายถึงว่าทำง
"อื้อ คุณหมอคะ" เธอเพิ่งจะถอดผ้าอนามัยไป เมื่อตอนเย็นนี้เอง เพราะดูเหมือนมันจะหยุดแล้ว แต่ก็ไม่มั่นใจอยู่ดี เรื่องแบบนี้ผู้หญิงรู้กันดี"ทำไม.. คุณไม่พร้อมที่จะเป็นของผมเหรอ" ใบหน้าคมที่ซุกอยู่ซอกคอยกขึ้นมาถามเล็กน้อย"เปล่าสักหน่อย.." ใครจะกล้าตอบล่ะ ..แต่เธอก็ตอบไปแล้ว ถึงแม้จะพูดเพียงแค่เบาๆ อยู่ใกล้กันแค่นี้เขาคงได้ยินพอได้ยินคำตอบใบหน้าหล่อคมก็ซุกลงไปที่เดิม มือหนาที่ตอนแรกวางแนบอยู่ด้านนอกเพื่อเช็ค แต่ตอนนี้เขาสอดมันเข้าไปด้านในของกางเกงชั้นในตัวบางที่เธอสวมใส่แล้ว"อือ" รู้สึกใจหวิวยังไงไม่รู้ ก็คนมันไม่เคยถูกแตะเนื้อต้องตัวขนาดนี้ ริมฝีปากหนาของเซอร์เวย์ขยับขึ้นมาแนบจูบ..ส่วนมือของเขายังคงลูบคลำเนินอวบนูนจังหวะที่นิ้วแกร่งแทรกเข้าไปในร่างกายอีกฝ่าย ความรู้สึกเดิมๆ มันก็ค่อยๆ ผุดขึ้นมา นั่นคือการตรวจภายในของผู้หญิงหลายๆ คน ซึ่งทุกอย่างในร่างกายของมนุษย์เขาเคยสัมผัสมาหมดแล้วขณะที่เซอร์เวย์กำลังจะชักมือออก ไอยวริญรีบเกาะมือของเขาไว้แน่น ..เธอสัมผัสได้ว่าร่างกายของเขาเริ่มสั่นเล็กน้อยเหมือนกลัวอะไรบางอย่างมือเรียวอีกข้างจึงได้ยื่นขึ้นไปกดท้ายทอยของเขาลงมาแนบกับริมฝีปากของเธอ ห
"ยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น มานอนสิ" ชายหนุ่มที่ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วถามเมื่อเห็นว่าเธอยืนมองซ้ายมองขวา ไม่กล้าเดินมาที่เตียง"คุณหมอนอนก่อนเลยค่ะ""เป็นอะไร""คือฉัน..เออ..คือ""แล้ววันนี้จะรู้เรื่องกันไหม""มันกลับมาอีกแล้วค่ะ""กลับมา?" พูดแค่นี้เขาก็พอจะเข้าใจ เพราะเขาเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้เอง "แล้วยังไงต่อ?""ก็ผ้าอนามัยหมดแล้วน่ะสิคะ""เอาไงดี คงนอนไม่ได้แน่เลย" ถึงเขาจะเป็นผู้ชายก็รู้แหละ ถ้ามีอะไรไหลออกมาแบบนี้คงนอนไม่หลับแน่ "เดี๋ยวผมมา""คุณหมอจะไปไหน""ไปร้านสะดวกซื้อ""ร้านสะดวกซื้อ?" ดวงตากลมกระพริบปริบๆ มองตามหลังนายแพทย์หนุ่มออกไป ..อย่าบอกนะว่าเขาจะไปซื้อผ้าอนามัยให้เรา? คิดเป็นอื่นไปไม่ได้เลย แต่คนแบบเขาเนี่ยนะ คงไม่ใช่มั้ง"หมอจะไปไหนเหรอลูก" ผู้เป็นแม่ได้ยินเสียงเปิดประตูหน้าบ้าน ก็เลยออกมาถามดู"ไปซื้อของที่หน้าหมู่บ้านครับ""ซื้ออะไรดึกๆ ดื่นๆ อยากได้อะไรเผื่อแม่มี""ซื้อ..คือ..สิ่งที่ผมจะซื้อ คุณแม่คงไม่ได้ใช้หรอกครับ เดี๋ยวผมมานะครับ" เพราะแม่ของเขาหมดไปได้ 2-3 ปีแล้ว"ถ้างั้นแม่ฝากซื้อของหน่อย""ได้เลยครับ" พอคุยกับแม่เสร็จเซอร์เวย์ก็ออกจากบ้านไปแพทย์หญิงอมรรั
"จะไปไหน" มือหนาคว้าหญิงสาวที่ลุกขึ้นให้หยุดก่อน"จะกลับเข้าห้องค่ะ" ทำไมเขาต้องคิดนานขนาดนั้นด้วยล่ะ เป็นใครก็น้อยใจนะชายหนุ่มปล่อยมือเธอแล้วก็นั่งลงพร้อมกับจับปากกาขึ้นมาไอยวริญหัวใจเต้นแรงเมื่อเห็นเขากำลังวางปลายปากกาลงไป"การจดทะเบียนสมรส ฝ่ายหญิงจะใช้นามสกุลกับฝ่ายชายก็ได้หรือไม่ใช้ก็ได้ ถ้าคุณพร้อมที่จะใช้นามสกุลกับสามีก็เซ็นลงตรงนี้เลยครับ" สมัยนี้เสมอภาคกันแล้ว ไม่ใช่ว่าผู้หญิงจะเลือกได้แค่การใช้นามสกุล ถ้าเธอคนนั้นยังอยากจะใช้นางสาวอยู่ก็ยังคงใช้ได้แต่เธอพร้อมที่จะใช้นามสกุลเขาอย่างเต็มใจไอยวริญก็เลยไม่รอช้าที่จะเซ็นชื่อตัวเองตามลงไปแพทย์หญิงอมรรัตน์เซ็นเป็นพยานให้ พร้อมกับเจ้าหน้าที่..ทะเบียนสมรสนี้ก็ถือว่าเสร็จสมบูรณ์ถูกต้องตามกฎมาย"ลูกจะกลับโรงพยาบาลเลยเหรอ""ผมติดคนไข้อยู่ครับ" ขณะที่ตอบแม่..สายตาของเขาก็มองไปที่เธอ อยากจะพูดอยากจะคุยด้วยแต่งานก็สำคัญไม่ต่างกันเพราะนั่นก็คือชีวิตของคนหญิงสาวรีบเดินตามหลังออกไป เธอไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย และเข้าใจงานที่เขาทำ"อุ้ยคุณหมอ" ไอยวริญหันมองไปด้านหลัง เพราะเพิ่งจะเดินพ้นประตูออกมาเอง เขาก็หอมแก้มเธอแล้ว"ตอนเย็นผมอาจจะกลับค่
ถ้าในห้องสว่างหน่อยคงจะเห็นรอยยิ้มของคนตัวเล็ก เธอเป็นบ้าอะไรเรียกร้องความสนใจจนเขาจับได้เนี่ยนะ เพราะมันกระสับกระส่ายเมื่อเขาไม่สนใจที่เซอร์เวย์ไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าประจำเดือนเธอยังคงตกค้างอยู่ ก็เลยไม่อยากจะถูกตัวกลัวเธอจะหงุดหงิดด้วย เรื่องนี้คนเป็นแพทย์รู้ดี ว่าช่วงที่ผู้หญิงมีรอบเดือนจะอารมณ์ไม่ปกติ"หายนานหรือยัง""พอใส่ผ้าอนามัยเมื่อคืนนี้มันก็หยุดไหลเลยค่ะ" หญิงสาวตอบไปแบบอายๆ แต่ก็ต้องตอบแหละ กลัวว่าเขาจะไม่กล้าทำอะไร แต่นี่เธอเป็นบ้าหรือไงถึงอยากจะให้เขาทำอะไรกับตัวเอง"จริงเหรอ" กำลังคิดอยู่เลยว่าอยากจะรักษาตัวเองอีกสักครั้งลองดู เขาอาจจะไม่คิดเหมือนผู้ชายคนอื่นทั่วไป เพราะสุขภาพจิตของเขาไม่ปกติมือหนาขยับขึ้นมาวางแนบกับหน้าอกอวบ แล้วลูบคลำเบาๆ เพื่อกระตุ้นอารมณ์ตัวเองสายตาทั้งสองมองสบกันผ่านความมืด แล้วคนที่อยู่ด้านบนก็ค่อยๆ โน้มลงมาช้าๆ"??" อยู่ดีๆ เขาก็หยุดทุกอย่างไว้ จนหญิงสาวที่หลับตาลงเพราะคิดว่าเขาจะจูบ ค่อยๆ ลืมตาขึ้น "ทำไมคะ""เปล่าหรอก คุณเพิ่งหายผมกลัวว่ามันจะไปกระตุ้นอีก" แต่จริงๆ ไม่ใช่เลย เพราะภาพคนป่วยในห้องผ่าตัดมันชัดขึ้นมาอีกครั้งไอยวริญแอบตำหนิตัวเอง
"ไปหาที่เงียบๆ คุยกันก่อน""ทำไมต้องไปหาที่เงียบๆ คุยกันด้วยล่ะคะ คุยมันตรงนี้จะไม่ดีกว่าเหรอคนเยอะดีออก พี่ๆนักข่าวก็อยากจะรู้เรื่องด้วย" เอาสิถึงยังไงเธอก็ไม่มีทางที่จะสมหวังแล้ว แถมถ้าข่าวนี้ออกไป เธอคงเสียหายมาก ก็เลยคิดจะดึงข่าวของเซอร์เวย์ให้มากลบเกลื่อนข่าวงานแต่งล่ม"เธอแน่ใจแล้วเหรอว่าจะคุยตรงนี้" สายตาของพลตรีนายแพทย์วันเวย์ไม่ได้มองรุ่งฤดีเหมือนเดิมอีกต่อไป ถึงแม้จะเอ็นดูเด็กคนนี้ แต่ถึงอย่างไรเซอร์เวย์ก็เป็นลูก แถมเป็นทายาทคนเดียวที่จะสืบทอดโรงพยาบาลนี้ด้วย ท่านคงไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงของลูกชายเสียหายแน่จากที่มั่นใจในตัวเองมาก ตอนนี้เริ่มประหม่า เพราะถ้าท่านจะเล่นงานมีหวังครอบครัวของเธอดับแน่ พลตรีนายแพทย์วันเวย์หันไปสั่งลูกน้องให้ยกเลิกงานนี้ และให้ทุกคนกลับบ้านไป ถ้าสำนักข่าวไหนเอาข่าวนี้ไปทำเสียๆ หายๆ ท่านจะสั่งฟ้องให้หมด "อาย?" ขณะที่ทุกคนกำลังจะไปหาที่คุยกัน ไอยวริญก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาตรงหน้า ..เคยได้ยินไหมว่ายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ พอเธอเห็นข่าวสามีที่กำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น จะให้เธอนอนรออยู่ที่บ้านได้ยังไง หญิงสาวก็เลยมาโรงแรมที่ใช้จัดงานเพื่อให้เห็นกับตาตัวเอ
"วันนี้เดี๋ยวแม่จะพาเข้าโรงพยาบาลนะ""ไปทำไมครับ" ที่จริงคนเป็นแม่ไม่ได้คุยกับลูกชายหรอก นางคุยกับลูกสะใภ้ แต่คนที่ถามก็คือลูกชายที่ร่วมรับประทานอาหารกันอยู่"แม่ให้เมียเราฝากท้องกับแม่ ต้องได้เข้าไปทำเอกสารที่โรงพยาบาลด้วย" ที่นางต้องดูแลเองเพราะเป็นห่วงหลาน เรื่องอย่างว่าของลูกชายคนเล็กยิ่งเหลือเฟืออยู่"แล้วผมล่ะ""เราก็อยู่บ้านเป็นเพื่อนพ่อ""ไม่เอาผมจะไปด้วย""ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนพ่อหรอกไปด้วยกันนั่นแหละ" คนเป็นพ่อก็เลยช่วยพูดกับให้ลูกชายอีกแรง[โรงพยาบาล]"รันเวย์" ขณะที่ทั้งสามกำลังเดินเข้าไปในโรงพยาบาลก็ได้ยินเสียงนี้ดังมาจากประตูฝั่งทางออกที่อยู่ใกล้กัน"มาทำอะไรที่โรงพยาบาล" พอเห็นว่าเป็นใครรันเวย์ก็เลยหยุดคุยด้วย"คุณแม่ไม่สบาย" ขณะที่พูดสายตาของเธอมองดูหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆ รันเวย์"แม่เราเอง""สวัสดีค่ะคุณแม่""สวัสดีจ้า หนูเป็นใครเหรอ" แพทย์หญิงอมรรัตน์อดไม่ได้ที่จะถาม เพราะเรื่องผู้หญิงลูกชายไม่ใช่ย่อย"คนนี้สโรชาครับแม่ เป็นลูกสาวของเพื่อนพ่อครับ""เรียกโรสก็ได้ค่ะ โรสเคยรู้จักกับรันเวย์ตั้งแต่สมัยเด็กแล้วค่ะ""อ้าวเหรอจ๊ะ เป็นเพื่อนกันนี่เอง ส่วนคนนี้เมียเจ้าร
หลายนาทีแล้วที่แพทย์หญิงอมรรัตน์กอดปลอบลูกสะใภ้คนเล็ก ตั้งแต่ได้ยินที่ท่านพูด รัญณาก็ร้องไห้ไม่หยุดจนสามีเป็นห่วงที่เธอร้องไห้เพราะสงสารลูกที่ต้องมารับรู้เรื่องอะไรแบบนี้ตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง เด็กคงจะได้ยินความคิดของแม่ ที่คิดว่าถ้าไปจากที่นี่แล้วจะไปอยู่ที่ไหน กลับไปบ้านก็ไม่ได้ หนีออกมาแบบนี้ถ้ากลับไปต้องถูกพ่อตีแน่ แต่ถ้าไม่กลับบ้านแล้วเธอจะไปที่ไหนได้ เพื่อนฝูงก็ไม่มี"ไม่ร้องนะลูก เราจะกลับไปอยู่ที่บ้านด้วยกัน""ค่ะ" ความคิดที่อยากจะหนีไปให้ไกล มันได้หายไปจนหมดสิ้น เพราะถ้าแม่ยังมีความคิดแบบนั้นอยู่ลูกก็ต้องรับรู้ได้หลายวันต่อมา.."หาปู่" ยิ่งเห็นว่าคุณปู่ไม่สบาย ปลาบปลื้มก็ยิ่งอยากเข้าไปหา ผู้ใหญ่อาจจะคิดว่าเด็กไม่รู้เรื่อง แต่จริงๆ แล้วพวกเขารู้ และเป็นห่วงคนที่พวกเขาผูกพันด้วย"ไม่ได้ครับ" ปิ่นมุกตำหนิลูกชาย เพราะปลาบปลื้มเล่นไม่รู้เรื่องกลัวไปถูกแผลของคุณปู่เข้า"ไม่เป็นไรหรอก มาให้ปู่ชื่นใจหน่อยเร็ว" ถึงวันนี้อาการของท่านก็ดีขึ้นมาก จนลุกมาทำกายภาพบำบัดได้แล้ว แต่ก็ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล"ปู่"ถึงแม้ท่านจะอุ้มหลานยังไม่ได้แต่ก็กอดและหอมแก้มได้ หลายคนที่อยู่ในห้องนั้น
"ที่พ่อพูดมาหมายความว่ายังไงครับ" รันเวย์ถามแม่และพี่ชาย เพราะตอนนี้พ่อหลับไปแล้ว"แม่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน" สายตาของผู้เป็นแม่มองไปดูลูกชายคนโต เพราะตอนนั้นเซอร์เวย์อยู่กับพ่อ"ก็เรื่องเด็กผู้หญิง ที่ท่านพูดก่อนหน้านั้นล่ะครับ""พ่อเราก็เลยคิดเป็นตุเป็นตะงั้นเหรอ""แต่ผมว่าไปตรวจไว้ก็ไม่เสียหายอะไรนี่ครับแม่" ถ้าคนที่พูดไม่ใช่พ่อหรือไม่ใช่คนในครอบครัว เขาคงจะบอกว่างมงาย แต่นี่พ่อซึ่งเป็นระดับอาจารย์หมอที่ทุกคนนับถือ ท่านคงรู้อะไรมาแน่"คงไม่ใช่หรอกค่ะ เพราะคุณรันให้ฉันกินยาคุม" หญิงสาวแค่อยากจะยืนยัน ว่ามันเป็นไปได้ยาก"เราให้เมียกินยาคุมเหรอ""จะรีบมีไปทำไมล่ะครับ ผมก็อายุแค่นี้เอง" เขาพูดตามสิ่งที่ตัวเองคิดเธอต้องทำสีหน้ายังไงเหรอ น้อยใจ ไม่พอใจ แต่เธอมีสิทธิ์อะไรไปทำกิริยาแบบนั้น หญิงสาวก็เลยทำได้แค่ยืนอยู่เฉยๆ เพื่อรอเวลา..เวลาผ่านไป..ตอนนี้ทุกคนออกมารออยู่ด้านนอก แต่ก็หาอะไรทานรองท้องกันไว้เรียบร้อยแล้ว"แม่จะให้พี่เราย้ายพ่อไปไว้ในห้องพักฟื้นเย็นนี้" นางเห็นว่าลูกชายและลูกสะใภ้แถมยังมีหลานเล็ก ไม่ยอมไปพักในห้องที่เตรียมไว้ให้ เพราะทุกคนยังคงเฝ้าอยู่หน้าห้องไอซียู ก็เลยคิดว่าย้
"คุณพี่คะ คุณพี่"เซอร์เวย์ที่นั่งเอนหลับพักเอาแรง พอได้ยินแม่ส่งเสียงเรียกพ่อก็รีบตื่นขึ้นมา"คุณพ่อรู้สึกตัวแล้วหรือครับ" ตั้งแต่พ่อประสบอุบัติเหตุ เขาก็ปล่อยมือจากงานทุกอย่างให้ลูกน้องเป็นคนทำ เพื่อที่จะได้ดูแลพ่อแบบใกล้ชิด จนไม่มีเวลาพักผ่อน แต่โชคดีที่ยังมีแม่ช่วยอีกแรง"เมื่อสักครู่แม่เห็นนิ้วของพ่อขยับ" ชายหนุ่มก็เลยรีบเข้าไปเช็คชีพจรของพ่อดู"คุณพ่อครับ คุณพ่อ" ชีพจรของท่านปกติมาก เหมือนว่าท่านแค่ไม่อยากจะลืมตา"หนู.." เสียงนี้ดังออกมาจากปากของท่านเบามาก แทบจะไม่ได้ยิน แต่ก็พอจับใจความได้ "หนู""หนูไหนคะคุณพี่ คุณพี่ตื่นสิ" สามียิ่งออกไปแต่สนามไดร์ฟกอล์ฟ ..หรือว่าจะมีอีหนูที่นั่น"คุณพ่อตื่นสิครับ" พอทั้งสองปลุกยังไงท่านไม่ยอมตื่น ก็เลยให้พยาบาลไปเรียกคนที่อยู่ด้านหน้าเข้ามา"คุณพ่อรู้สึกตัวแล้วเหรอครับ" นอร์เวย์รีบตรงเข้าไปหาพ่อ"เมื่อสักครู่ท่านละเมอ" ขณะที่เซอร์เวย์พูดก็แอบมองไปดูหน้าแม่ เพราะประโยคที่พ่อละเมอล่อแหลมมาก"ถ้างั้นแสดงว่าคุณพ่อฟื้นแล้วใช่ไหมครับ""หนู" ประโยคนี้ออกจากปากคนที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงอีกครั้ง ทุกคนแปลกใจยิ่งนักแทนที่จะละเมอชื่อลูกไม่งั้นก็ชื่อเมี
พอรู้ว่าลูกชายคนกลางไม่ได้พาลูกสะใภ้และหลานมาด้วย คุณย่าก็เลยให้คนขับรถไปรับมาจากสระบุรี"ปลื้มครับ" ผู้เป็นย่าเอื้อมมือไปเมื่อเห็นว่าหลานชายวิ่งเข้ามาหา"ปลาบปลื้มเบาๆ หน่อยสิลูก เดี๋ยวคุณย่าก็ล้มหรอก" ปิ่นมุกตำหนิลูกชายเบาๆ แต่ก็ไม่ทันหรอกเพราะตอนนี้วิ่งเข้าไปในอ้อมกอดของคุณย่าแล้ว "คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ" เธอก็เลยเดินเข้าไปหาสามีที่ยืนอยู่หน้าห้องไอซียู"ยังไม่รู้สึกตัวเลย""ท่านพ้นขีดอันตรายแล้วไม่ใช่เหรอ" ปิ่นมุกเอื้อมไปกุมมือสามีไว้เพื่อให้กำลังใจทางโรงพยาบาลได้จัดหาโซฟามาให้ทุกคนได้นั่งรออยู่หน้าห้องแบบสบายหน่อยจนถึงช่วงเย็นของอีกวัน.."กลับบ้านกันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยมา" แพทย์หญิงบอกลูกชายให้พาเมียกลับบ้าน เพราะนั่งเฝ้ากันมาข้ามวันข้ามคืนแล้ว"รัญจะอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่ค่ะ""พวกเราก็จะอยู่รอจนกว่าคุณพ่อจะฟื้นค่ะ" ท่านดีกับพวกเธอขนาดนี้จะทิ้งท่านไว้แบบนี้ได้ยังไง"ขอบใจทุกคนมากนะ" เราใช้อะไรซื้อเราก็ได้อย่างนั้นกลับมา เหมือนดังแพทย์หญิงอมรรัตน์ ใช้ใจซื้อก็ได้ใจจากลูกสะใภ้กลับมา21 : 09 น."เดี๋ยวผมพาขึ้นไปนอน" นายแพทย์หนุ่มออกมาจากห้องของพ่อ ก็เห็นว่าภรรยาเอนตัวพิงกับโซฟา"ฉันอยากจ
"พ่อไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับพี่" ดูจากสภาพรถแล้วมันทำให้เขาใจไม่ดีเอามากๆ"ไม่ต้องเป็นห่วงนะ พี่จะช่วยพ่อให้ได้""พี่พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง""ตอนนี้พ่อยังไม่พ้นขีดอันตราย พี่กำลังจะโทรไปหาแม่" ที่เขาออกมาจากห้องผ่าตัดเพราะอยากโทรไปบอกแม่และน้องๆ ให้มาที่โรงพยาบาล"ผมอุตส่าห์เชื่อใจพี่ รอพี่อยู่ตรงนี้ ทำไมพี่พูดแบบนี้ รีบกลับเข้าไปช่วยพ่อสิ!" รันเวย์เริ่มใช้อารมณ์คุยกับพี่ชาย"แต่พี่.." นายแพทย์หนุ่มไม่เคยกดดันในการผ่าตัดมากขนาดนี้มาก่อน เพราะคนที่เขากำลังผ่าตัดอยู่คือบุพการี"เรื่องแม่กับพี่เวย์ เดี๋ยวผมจะจัดการเอง พี่กลับเข้าไปในห้องผ่าตัดช่วยพ่อให้ได้"เซอร์เวย์ไม่เคยเห็นน้ำตาน้องชาย มาตั้งแต่สมัยเด็กแล้ว แต่วันนี้รันเวย์ถึงกับมีน้ำตา เป็นใครก็ต้องมีอาการแบบนี้กันทั้งนั้น แต่เขาเป็นหมอจะอ่อนแอไม่ได้ ผู้เป็นพี่ชายก็เลยรีบกลับเข้าไปในห้องผ่าตัดเพล้ง!! โทรศัพท์ในมือแพทย์หญิงอมรรัตน์ร่วงกระทบพื้นอย่างแรงเมื่อได้รับข่าวร้ายจากลูกชาย"เกิดอะไรขึ้นคะคุณแม่" รัญณาก็ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย เพราะเห็นว่าเป็นเบอร์สามีที่โทรมา ก็เลยอยากรู้ว่าเขาโทรมาทำไม"เราไปโรงพยาบาลกัน""ใครเป็นอะไรคะ" ดูจากอากา
"อื้อ คุณรัน" ถ้าถามต้องรอคำตอบสิว่าเธออยากจะขึ้นไหม แต่นี้ถามยังไม่จบเลยด้วยซ้ำก็ดันตัวเธอให้ขึ้นมาอยู่ด้านบนแล้ว "โอ๊ย เจ็บนะคะ เบาๆ หน่อยสิ""ถ้างั้นคุณก็ใส่เข้าไปเองสิ" คนที่นอนอยู่ด้านล่างพยายามจับของตัวเองเพื่อส่งเข้าไปในร่างกายอีกฝ่ายหญิงสาวรอบกลืนน้ำลายก่อนที่จะทำตาม ไม่ใช่แค่เขาหรอกที่ต้องการ เธอก็ต้องการไม่ต่างกัน"ซี๊ดด อ้าา ไม่ต้องกลัวผมเจ็บ นั่งทับลงมาเลย" เห็นว่าเธอพยุงร่างของตัวเองไว้ไม่กล้านั่งลงมาเต็มแรงหญิงสาวก็เลยค่อยๆ ให้มันกลืนหายเข้าไปในร่างกาย ถึงแม้เธอจะไม่เคยมาก่อน แต่เรื่องพวกนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ เพราะเพื่อนหลายคนมีแต่เกเรทั้งนั้น ยังจำได้เลยครั้งหนึ่ง เพื่อนยังหลอกให้เธอไปเพื่อจะมีเซ็กส์กับแฟนของตัวเอง โชคดีที่เธอหนีออกมาได้ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมารัญณาก็เลิกคบกับเพื่อนกลุ่มนี้ไปเลย"เคยเห็นคนขี่ม้าไหม ทำแบบนั้นแหละ" มือหนาเอื้อมไปจับสะโพกงามเพื่อช่วยเธออีกแรง"อ๊อยย จุก" จังหวะที่ทิ้งน้ำหนักลงมา เจ้าของท่อนเอ็นนั้นเด้งสะโพกขึ้นมารับ มันก็เลยเข้าไปเกือบจะสุดลำ"เดี๋ยวก็เสียว นั่งทับลงมาเต็มแรงเลย" ชายหนุ่มเห็นว่าเธอเก็บแรงไว้ไม่ทิ้งตัวลงมาทั้งหมดอีก ตอนที่
"ใครเป็นอะไร" แพทย์หญิงผู้เป็นแม่ ยังไม่ได้ยินเสียงเลยด้วยซ้ำ แต่เห็นลูกชายคนเล็กวิ่งเข้าไปก็เลยเดินตามมาดู"เปล่าค่ะไม่ได้เป็นอะไร" หญิงสาวรีบซ่อนมือไว้ด้านหลัง ที่จริงเธอร้องโอ๊ยออกมาเพียงแค่เบาๆ เพราะตกใจ แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีใครได้ยิน"เอามือมาดู""ก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรไง""แล้วจะซ่อนมือทำไม" คนที่วิ่งเข้ามาก่อนเพื่อน เอื้อมมือไปคว้ามือของเธอที่ซ่อนอยู่ออกมา "แดงเลย""ฉันว่าจะยกหม้อลงมาวาง แต่ไม่คิดว่ามันจะร้อนขนาดนี้นี่""แม่เพิ่งปิดแก๊สเอง" ขนาดคนทำยังไม่แตะเลย เพราะคิดว่ามันต้องร้อนแน่"แล้วอีกข้างล่ะ" ถ้าเธอยกมันต้องใช้มือสองข้างแน่ เขาก็เลยยื่นไปจับอีกข้างหนึ่งมาดู "ตามออกมา""คุณโกรธให้ฉันทำไม""ทำอะไรซุ่มซ่าม""มีอะไรเหรอ""ก็มือไปโดนหม้อร้อนๆ น่ะสิครับ" รันเวย์ตอบพี่ชายไป"ที่รถมีที่ทำแผลเดี๋ยวพี่ไปเอามาทำให้""ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ" เธอจะตกใจอะไรก่อนดี เกิดมาไม่เคยมีใครเป็นห่วงขนาดนี้ ตกบันไดบ้านแท้ๆ พ่อยังไม่ถามเลยว่าเจ็บไหม"เดี๋ยวผมทำเองครับ"เซอร์เวย์ก็เลยปล่อยให้น้องชายเป็นคนทำแผลเอง แต่เขาก็ยืนบอกอยู่ว่าต้องใช้ยาตัวไหนทาก่อนจากที่นึกอิจฉาพี่สะใภ้ ตอนนี้ไม่แล้ว เพราะดูเขา
"บ้านใครครับแม่""บ้านแม่เช่าไว้เอง" ดีนะที่ยังไม่คืนบ้านหลังนี้ไป สองครั้งแล้วสินะที่ออกจากบ้านมาเพราะสามี ครั้งนี้หวังว่าเขาคงจะคิดได้นะ นางก็เหมือนผู้หญิงธรรมดาทั่วไป ที่ไม่อยากจะให้ครอบครัวแตกแยก แต่ถ้าเจอสามีที่เอาแต่ใจแบบนั้นใครจะทนฝืนอยู่ต่อไปล่ะ"รัญขอโทษนะคะ" นอกจากคำนี้เธอไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว"แม่บอกแล้วไงว่าหนูไม่ผิด พ่อเจ้ารันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่พี่ชายทั้งสองแล้ว""คะ?""เจอทุกคน" รันเวย์พูดเสริมแม่ขึ้นมารัญณาก็เลยคิดว่าสองคนนั้นเจออะไร เพราะดูพี่สะใภ้ของเขาเป็นผู้ดีมาก แต่มองดูตัวเองสิ สมควรแล้วที่ท่านจะไม่ชอบ"อย่าคิดมากเลยลูก อยู่แบบนี้ก็อบอุ่นดีนะ" บั้นปลายชีวิตนางอยากจะอยู่แบบสงบเลี้ยงหลานๆ แต่เพราะสามีหน้าใหญ่ถือยศถือศักดิ์ ก็เลยไม่มีความสุขกันสักที"เข้าบ้านกัน" ว่าแล้วมือหนาก็เอื้อมไปจูงมือเธอให้เดินตามหญิงสาวมองมือนั้นแบบอบอุ่น ทำไมเขากล้าพาเธอออกจากบ้านหลังใหญ่ ในเมื่อเขาไม่ได้คิดพิศวาสอะไรในตัวเธอเลย ..ความคิดที่อยากจะไปให้ไกล ตอนนี้มันหายไปไหนไม่รู้ เพราะเธอเริ่มรู้สึกดีกับเขามากขึ้นเดินเข้ามายังไม่ได้นั่งเลยด้วยซ้ำก็ได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามาจอด"เดี๋ยวแม่ออกไปด