ทีแรกเซอร์เวย์คิดว่าจะขึ้นมาคุยกับเธอให้รู้เรื่อง แต่มีโทรศัพท์ตามลงไปรับเคสด่วนก่อนเขาก็เลยทิ้งให้เธอขึ้นไปที่ห้องคนเดียว
เราทำแบบนี้มันถูกแล้วเหรอ ขอร้องให้เขาช่วยชีวิตแม่ ยังมาทำให้เขาหนักใจเพราะคิดจะผูกมัดเขาอีก ถือว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณ ถ้าไม่มีเขาแม่เธอคงไม่อยู่จนถึงวันนี้
หญิงสาวรอจนถึงค่ำเพื่อจะคุยเรื่องนี้กับเขา แต่ตอนนี้ก็ค่ำมืดมากแล้วเขายังไม่กลับขึ้นมาเลย
เช้าวันต่อมา..
ไอยวริญรออยู่ทั้งคืนจนหลับไปตื่นมาอีกทีก็สว่างแล้ว ..เมื่อคืนนี้คุณหมอไม่ได้กลับขึ้นมาบนห้องเหรอ หรือว่าเขาจะโกรธเรา
ระหว่างวันเขาคงไม่ขึ้นมาแน่ เธอต้องรอให้ถึงตอนเย็นอีกแล้วเหรอ
ขณะที่กำลังคิดอะไรอยู่นั้นก็ได้มีคนมาเคาะประตูห้อง
"คุณหมอแน่เลย" หญิงสาวรีบเดินมาเปิดพร้อมรอยยิ้ม "สวัสดีค่ะคุณแม่"
"คุณแม่.." แจนที่ยืนอยู่ด้านหลังของแพทย์หญิงอมรรัตน์ได้ยินคำที่เธอคนนั้นเรียกรู้สึกขัดหูมาก
"แม่มารับเราไปดูเครื่องประดับ"
"ค่ะ" ไอยวริญก็เลยขอตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ดูเรียบร้อยหน่อย
"อยู่แต่บนห้องคงอึดอัดแย่เลยนะ"
"ก็ไม่เท่าไรค่ะ"
"ตาหมอคงห่วงเรามากสิ"
"คะ?" อยากจะขำเขาจะมาห่วงเราทำไม
ทั้งสองลงลิฟต์มาจนถึงชั้นล่าง ก็เห็นรถพยาบาลวิ่งเข้ามาจอด และมีคนที่ประสบอุบัติเหตุติดรถมาด้วย
"คนไข้เป็นอะไรมา" เซอร์เวย์เห็นด้านหลังของแม่แว๊บๆ กำลังเดินตาม แต่พอออกมาต้องได้รีบไปรับเคสอุบัติเหตุ
"คุณหมอ" ได้ยินเสียงของเขาเธอก็เลยหันกลับไปมอง รอมาทั้งคืนว่าจะคุยด้วย แต่ดูเขาจะไม่สนใจเธอเลย ชายหนุ่มรีบเดินเลี่ยงเข้าไปรับคนไข้
"เป็นหมอก็แบบนี้แหละ เราไปกันเถอะ"
"ค่ะ" สายตาเธอยังคงมองดูเขา ที่พยายามปั๊มหัวใจคนไข้ ซึ่งถูกนำลงมาจากรถพยาบาลแล้ว
[ร้านเพชร]
"แต่มันแพงเกินไปนะคะ"
"ไม่แพงหรอกจ้า หนูเลือกสิอยากจะได้แบบไหน" ที่นางทำแบบนี้เพราะอยากให้ลูกชายเห็นว่านางยอมรับผู้หญิงที่ลูกเลือก
พอเลือกได้แล้วทั้งสองก็ออกมาจากร้านเพชร
"หนูอยากจะได้อะไรอีกไหม"
"ไม่แล้วค่ะ"
"ตาหมอไม่ค่อยมีเวลาพาออกมาซื้อของพวกนี้ล่ะสิ"
ทำไมแม่เขาถึงน่ารักจัง บางทีแอบคิดเข้าข้างตัวเอง ถ้าเป็นคนรักของเขาจริงๆ ก็ดีน่ะสิ
เย็นวันเดียวกัน..
"อะไร?" ชายหนุ่มมองดูสิ่งที่เธอส่งมาให้
"เครื่องประดับที่แม่คุณซื้อให้ค่ะ"
"รู้แล้วว่าเครื่องประดับ แล้วเอามาให้ทำไม"
"ฉันคืนให้คุณ"
"คุณแม่ซื้อให้ คุณก็เก็บไว้เถอะ"
"ฉันไม่กล้ารับมันไว้หรอกค่ะ"
ชายหนุ่มมองหน้าเธอเล็กน้อย แบบเธอเนี่ยนะจะไม่กล้ารับ คงกลัวเขาว่าให้ล่ะสิ
"ฉันอยากจะคุยกับคุณหมอเรื่องนั้น"
"เรื่องอะไร"
"ถ้าวันไหนที่คุณหมอต้องการยกเลิกทุกอย่าง"
"แล้วไง"
"ฉันจะยอมยกเลิกให้คุณหมอค่ะ"
"หึ.."
"ฉันพูดจริงนะคะ" หญิงสาวรีบเดินตามหลังไป เพราะดูเหมือนเขาจะไม่เชื่อ จนชายหนุ่มหยุดแล้วหันกลับมา "อุ๊ย" แต่เธอไม่ได้หยุดด้วยนี่สิ
คนตัวสูงมองต่ำลงไปดูใบหน้าของหญิงสาวที่มองขึ้นมา
ไอยวริญเห็นว่าเขามองริมฝีปากเธอก็เลยค่อยๆ หลับตาลง เพราะคิดว่าเขาอยากจะจูบเหมือนวันนั้น
"ทำอะไร"
"เออ?" หญิงสาวรีบเปิดตากว้างขึ้น ถ้าเขาจูบเธอจะไม่อายเลย "ก็ฉันคิดว่าคุณหมอจะขอจูบเหมือนวันนั้นนี่คะ"
"คนอะไรไม่มีความอายเลยหรือไง ใครตั้งชื่อให้คุณเนี่ย" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเดินเข้าห้องน้ำไป
"อะไรของเขา" เราไม่น่าดึงดูดเพศตรงข้ามขนาดนั้นเลยเหรอ
ชายหนุ่มใช้เวลาอาบน้ำอยู่พอสมควร ก็ออกมาจากห้องน้ำ
"คุณหมอคะ ดูข้างหลังให้หน่อยสิ" หญิงสาวที่อยู่ในเสื้อเชิ้ตของเขา ขยับคอเสื้อลงเล็กน้อยเพื่อให้เห็นแผ่นหลัง
"ก็เอื้อมมือลงมาเกาเองสิ"
"มือฉันไม่ถึงนี่คะ คุณหมอช่วยดูให้หน่อย"
ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาก่อนที่จะเดินเข้าไปใกล้ "ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่"
"คันจริงๆ นะคะ คุณหมอเกาให้หน่อยสิ"
"เรื่องมากจริง" ชายหนุ่มเอื้อมมือล้วงลงไปตรงคอเสื้อ "ตรงนี้ไหม"
"ลงไปอีกค่ะ'
"ตรงนี้ไหม"
"ใกล้แล้วค่ะ"
พอได้ยินว่าใกล้เขาก็เริ่มขยับนิ้ว
"อ๊อย.. ขอแรงนิดหนึ่งค่ะ"
"??" ได้ยินเสียงเธอคราง ไอ้เจ้านั้นเกิดมีปฏิกิริยาขึ้นมา จนเขาต้องมองต่ำลงไปดูมันที่ซ่อนอยู่ในผ้าขนหนู
"ยังไม่หายคันเลยค่ะคุณหมอ" หญิงสาวเห็นว่าเขาชักมือออกมา
"คุณเห็นมุมเสานั่นไหม ใช้ให้มันเกาแทนแล้วกัน" ว่าแล้วชายหนุ่มก็รีบเดินไปหาเสื้อผ้ามาสวมใส่
หญิงสาวมีรอยยิ้มขึ้นมา เธอชักจะสนุกแล้วที่ได้ยั่วเขา
ดึกๆ คืนเดียวกัน..
"คุณหมอยังไม่ง่วงเหรอคะ" หญิงสาวเผลอหลับไปครั้งหนึ่งแล้ว ตื่นขึ้นมายังเห็นเขานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน
"จะนอนก็นอนไปก่อน" ชายหนุ่มตอบโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองเลย
เช้าวันต่อมา..
"ทำไมถึงไปนอนอยู่ตรงนั้น" ตื่นขึ้นมาก็เห็นว่า เขานอนหนุนแขนตัวเองที่โต๊ะทำงาน
ไอยวริญถือผ้าห่มเดินไปคลุมร่างให้กับเขาเบาๆ
"ขอโทษค่ะที่ทำให้คุณหมอตื่น"
ชายหนุ่มมองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วส่ายหน้าเล็กน้อย เขาชักจะเบื่อในคำขอโทษของเธอแล้ว
"ผ้าเช็ดตัวค่ะ" ไอยวริญรีบเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่ตู้เสื้อผ้ามาส่งให้เมื่อเห็นเขากำลังจะเดินเข้าห้องน้ำ
ชายหนุ่มรับผ้าเช็ดตัวโดยที่ไม่ได้พูดอะไร อาบน้ำอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ออกมา
"ฉันเตรียมชุดไว้ให้คุณหมอแล้วนะคะ"
ชุดพวกนี้ถึงไม่เตรียมเขาก็หาเองได้ เพราะมีแม่บ้านรีดให้เป็นอย่างดีแล้ว
"เดี๋ยวฉันช่วยค่ะ" หญิงสาวเอื้อมมือไปติดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้ ชายหนุ่มก็เลยปล่อยมือตัวเองออกเพื่อให้เธอเป็นคนจัดการ ขณะที่เธอกำลังติดกระดุมอยู่นั้นสายตาคมจ้องมองริมฝีปากบาง และมองต่ำลงไปดูซอกคอ..
"??" ดวงตากลมเปิดกว้างขึ้นเมื่ออีกฝ่ายโน้มลงมาจูบ มือเธอยังคงไม่ปล่อยจากกระดุมที่กำลังติด "อือ" พอริมฝีปากหนาถอนจูบออก เขาก็แนบมันลงที่ซอกคอพร้อมกับดูดเล็กน้อย
ขาเรียวเริ่มจะไม่มีแรงรับน้ำหนักของตัวเอง จนอีกฝ่ายต้องได้ช้อนร่างของเธอไว้ในขณะที่ดูด
"อื้อ" หญิงสาวสะดุ้งเมื่อมืออีกข้างของเขาขยับต่ำลงมาวางแนบไว้กับที่สงวน..
พอถูกเขาแตะเนื้อตัวเข้าจริงๆ หญิงสาวก็เริ่มประหม่า ขาเรียวแนบชิดเข้าหากันแบบอัตโนมัติ แต่เซอร์เวย์ก็ไม่ได้ปล่อยมือออก เขายังคงขยับลูบคลำเนินนั้นเบาๆจนสัมผัสได้ว่าร่างกายของเธอสั่น เพราะประสาทสัมผัสของเขาไว ถ้าไม่งั้นคงเป็นหมอผ่าตัดอันดับต้นๆ ของประเทศไม่ได้"?" หญิงสาวแปลกใจทำไมเขาถึงไม่ทำต่อ เพราะอยู่ดีๆ เขาก็ถอนจูบออก แล้วหันไปใส่เสื้อผ้าไอยวริญคิดว่าตัวเองทำอะไรผิดหรือเปล่า ถ้าเขาต้องการร่างกายของเธอ เธอพร้อมที่จะให้เขาอยู่แล้ว"อดทนอยู่บนนี้อีกสักระยะ ไม่นานหรอก" ชายหนุ่มพูดในขณะที่กำลังสวมรองเท้าจะออกไปข้างนอก"คุณหมอจะให้ฉันไปจากที่นี่แล้วเหรอคะ" ถ้าเป็นแต่ก่อนเธอคงจะดีใจ แต่พอมาวันนี้ทำไมรู้สึกใจหายสายตาคมหันกลับมามองเธอเล็กน้อยก่อนที่จะเดินออกไป เขาไม่ได้ให้คำตอบอะไรกับเธอเพราะเขาก็ยังไม่มีคำตอบให้ตัวเองเหมือนกันพอประตูปิดลงไอยวริญก็ค่อยๆ ก้าวเดินไปทิ้งตัวนั่งลงที่เตียงไม่สิเธอต้องออกมาจากโลกแห่งความฝันได้แล้ว ถึงแม้ความจริงมันจะน่ากลัวและโหดร้าย แต่นั่นมันก็คือความจริง ไอยวริญเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองเผลอมีใจให้กับเขา ก็ตอนที่ได้ยินเขาบอกจะปล่อยเธอออกไปจากห้องนี้"ทานข้าวได้แ
ถ้าเธอสังเกตก็จะเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา เพราะเขาจับชีพจรของเธอได้ มือหนาค่อยๆ เลื่อนมาวางลงที่หน้าอก เพราะอยากจะฟังการเต้นของหัวใจด้วยอือ หญิงสาวไม่กล้าขยับหนี กลัวเขาคิดว่าเธอเล่นตัว แต่เธอน่าจะเล่นตัวสักหน่อยดีไหม.."อื้อคุณหมอ""ทำไม"ถามแบบนี้จะให้เราตอบยังไง ..หญิงสาวก็เลยนิ่งเงียบหลับตาลงช้าๆ ถ้าเขาจะทำมากกว่านี้ก็ปล่อยให้เขาทำไปเลยแล้วกัน แต่ทำไมหัวใจมันเต้นแรงขนาดนี้ล่ะมือหนาเอื้อมไปโอบกอดร่างของเธอเข้ามาแน่นกว่าเดิม จนเจ้าของร่างกายนั้นหายใจไม่ค่อยสะดวก แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว แถมตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะหลับไปแล้วด้วย ..อะไรของเขาวะ หลอกให้อยากแล้วจากไปนี่หว่าน้อยใจได้ไหมเนี่ย เดี๋ยวก็หาว่าเราใจง่ายอีกหรอก จะหลับก็หลับไปเลย ไอยวริญทำได้แค่คุยกับตัวเองแล้วก็เคลิ้มหลับตามเขาไปแกร็ก.."อุ๊ย" พอถึงเวลาอาหารเย็น นักโภชนาการก็เตรียมอาหารมาให้ปกติเหมือนทุกมื้อ แต่ภาพที่เห็นอยู่บนเตียง มันแทบจะทำให้คนที่เข้ามาอยากจะถอยออกไปก่อน แต่หน้าที่ก็คือหน้าที่ นักโภชนาการก็เลยเตรียมอาหารไว้ที่โต๊ะ แล้วก็รีบออกไป"คุณหมอคะ""หือ""เมื่อสักครู่ฉันได้ยินเสียงปิดประตู""เขาอาหา
นี่แหละนะเอาอะไรแน่นอนกับผู้หญิงไม่ได้ สงสัยเราจะตื่นเต้นมากเกินไปหรือเปล่าประจำเดือนมาผิดวันเลยพอเธอจัดการกับตัวเองเสร็จ กำลังจะกลับขึ้นไปชั้นบน ก็นึกได้ว่ากระเป๋าเงินของเขายังอยู่ที่เธอ เผื่อว่าเขาจะซื้ออะไรเดี๋ยวก็ลำบากอีกหรอกไอยวริญก็เลยกลับมาที่ห้องทำงานของเขาอีกครั้ง"คุณหมอติดคนไข้อยู่ค่ะ" พยาบาลคนเดิมรีบเดินเข้ามาขวางไว้ก่อนที่เธอจะเดินพรวดพราดเข้าไป"เหรอคะ ถ้างั้นฉันฝากกระเป๋าเงินคืนคุณหมอด้วยค่ะ""กระเป๋าเงินของคุณหมอไปอยู่ที่คุณได้ยังไง?" พยาบาลจำได้แม่นว่านั่นคือกระเป๋าของคุณหมอจริง"อยู่ที่ฉันได้ยังไงน่ะเหรอคะ เออคือว่า.." หญิงสาวต้องได้เงียบปากเงียบคำไว้ ถ้าพูดไปกลัวเขาจะโกรธ"ฉันถามว่ากระเป๋าของคุณหมอไปอยู่ที่คุณได้ยังไง" พยาบาลสงสัยตอนที่เธอเข้าไป..หรือว่าเธอจะแอบหยิบเอากระเป๋าตังค์ของคุณหมอออกมาด้วยไอยวริญรีบวางมันไว้บนโต๊ะของพยาบาลแล้วก็รีบออกไป ถ้าลูกน้องของเขาเอาไปคืนเดี๋ยวเขาก็บอกกันเองแหละมั้งพยาบาลหน้าห้องเห็นว่าคนไข้ออกมาแล้วก็เลยเอากระเป๋าเดินเข้าไป"คุณหมอคะ เธอคนนั้นแอบหยิบกระเป๋าของคุณหมอไปหรือเปล่าคะ""เปล่า" ชายหนุ่มที่กำลังจดรายละเอียดของคนไข้อยู่ไม
"ไปซื้ออะไรมา" ดวงตาคมมองสิ่งที่อยู่ในมือของอีกฝ่าย"ไม่มีอะไรสำคัญหรอกค่ะ""แล้ว?""แล้ว??" เพิ่งนึกขึ้นได้เธอเป็นบ้าอะไรถึงไปหึงไปหวงเขา "เออคือว่า ฉันเอากระเป๋าเงินมาคืนให้คุณหมอค่ะ คุณลืมเอากระเป๋าลงมาด้วย""ผมไม่ได้ลืม""แล้วคุณหมอไม่ได้ซื้ออะไรเหรอคะ""ไม่ได้ซื้อ""ถ้างั้นก็ขอโทษด้วยค่ะที่ฉันทำเกินหน้าที่""นั่งรอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวออกไปทานข้าวด้วยกัน""ออกไปทานข้าวเหรอคะ?""ทำไม หรืออยากขึ้นไปรอกินข้าวข้างบน""ก็แล้วแต่ความกรุณาของคุณหมอสิคะ" นี่เราเป็นบ้าอะไรไปพูดประชดเขาทำไม "อยากไปทานข้าวกับคุณหมอค่ะ" หญิงสาวต้องได้รีบเปลี่ยนอารมณ์ตัวเองใหม่เซอร์เวย์ปล่อยให้เธอนั่งรออยู่ในห้องตรวจ แล้วก็ออกมาดูคนไข้ที่ผ่าตัดไปแล้ว"คุณหมอคะ""ครับ""มาดูคนไข้เหมือนกันเหรอคะ""คุณเริ่มทำงานเลยเหรอ ขยันไปไหมครับ""อยากจะรีบทำงานค่ะ" รุ่งฤดีแพทย์หญิงที่เข้ามาใหม่ "เที่ยงนี้ คุณหมอมีนัดหรือยังคะ""ทำไมหรือครับ""รุ่งยังไม่มีเพื่อนไปทานข้าวเลยค่ะ""ถ้างั้นก็ไปทานด้วยกัน ผมขอเช็คคนไข้ก่อนครับ""ได้เลยค่ะคุณหมอ เที่ยงนี้เจอกันนะคะ" ผู้ช่วยและพยาบาลที่อยู่แถวนั้นต่างก็มอง ใครก็ดูออกว่าคุณหมอรุ่งฤดีกำ
มือหนายื่นเข้าไปเพื่อหยุดประตูลิฟต์ที่กำลังจะปิดลงไว้พอหยุดประตูลิฟต์ได้ชายหนุ่มร่างสูงก็ได้ก้าวเข้าไป"ไปไหนมา" ไม่รู้ว่าจะชวนคุยอะไรดีก็เลยมองดูของที่อยู่ในมืออีกฝ่าย"คุณแม่ชวนออกไปซื้อของ""คุณแม่เข้ามาเหรอ""ค่ะ""ไม่เห็นท่านโทรมาบอกเลย"ไอยวริญไม่ได้ตอบและไม่มองหน้าเขาด้วย จนประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นบน"คุณหมอคะ"เซอร์เวย์ที่กำลังจะเดินตามเธอเข้าห้อง หันกลับมามองเมื่อได้ยินแจนเรียก"คืนนี้มีงานเลี้ยงต้อนรับคุณหมอคนใหม่แบบเป็นทางการค่ะ""งานเลี้ยงอะไรอีก วันนั้นก็เลี้ยงไปแล้วไม่ใช่เหรอ""เออ.. มีกำหนดการมาแบบนี้จริงๆ ค่ะ""ส่งรายละเอียดงานเข้ามาในอีเมลผมแล้วกัน" เขาไม่ได้ตามเธอเข้าไปในห้อง เพราะต้องรีบลงไปรับคนไข้ช่วงบ่ายไอยวริญก็รออยู่ว่าเมื่อไรเขาจะเข้ามาสักที จนเธอแง้มประตูออกมาดู ..เขาไปแล้วเหรอ จะไม่ง้อเราอีกสักนิดเลยเหรอเย็นวันเดียวกันนั้น..หญิงสาวที่ยืนอยู่ริมหน้าต่าง หันมามองเขาซึ่งกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่"วันนี้อาจจะกลับดึกหน่อย ล็อกห้องเลยเดี๋ยวผมเอากุญแจออกไปด้วย"ที่เธอไม่ถามเพราะรู้ว่าเขาจะไปไหน แต่เขาน่าจะแกล้งชวนเธอสักนิดพอเขาออกไปแล้วห้องนี้มันดูเงียบมากเง
ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เข้ามาแค่ไม่กี่วันรู้เรื่องทุกอย่างที่เขาทำไว้จากที่กำลังโกรธกำลังงอนเขาเรื่องผู้หญิง อารมณ์ของเธอเปลี่ยนไปเริ่มเป็นห่วง เพราะเขาต้องมาเดือดร้อนเพราะช่วยเธอไอยวริญแกะมือหนาออก เพราะเธอจะปล่อยให้เขาเดือดร้อนมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว หญิงสาวหยิบเอากระเป๋า ของตัวเองแล้วเดินออกจากห้องไป เพราะมันเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยเขาได้ในเวลานี้"ถ้าฉันเป็นคุณหมอฉันจะไม่ตามไปค่ะ" รุ่งฤดีเห็นว่าเซอร์เวย์กำลังจะเดินตามออกไป"คุณต้องการอะไร""ต้องการเป็นภรรยาของคุณ"ใบหน้าหล่อคมหันกลับมามองผู้หญิงที่หน้าไม่อาย เขาไม่มีความรู้สึกอะไรกับผู้หญิงคนนี้เลย"เรื่องงานแต่งคุณหมอไม่ต้องเป็นกังวลนะคะ เดี๋ยวฤดีจะเป็นฝ่ายจัดการเองทั้งหมด คุณหมอแค่รอเป็นเจ้าบ่าวก็พอแล้ว""คุณไม่มีความอายเลยหรือไง""อายทำไมคะ สมัยนี้ผู้หญิงกับผู้ชายเสมอภาคกันแล้ว"ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาเสียงดัง ถ้าคนตรงหน้าเป็นผู้ชายด้วยกัน เขาคงได้เอาฟันออกมาจากปากสักซี่สองซี่แล้วรุ่งฤดีมองตามเซอร์เวย์ที่ออกจากห้องไปด้วยรอยยิ้ม ไม่คิดว่าทุกอย่างมันจะง่ายขนาดนี้ ใครบ้างที่ไม่อยากเป็นภรรยาของเจ้าของโรงพยาบาล ส่วนหนึ่งที่รุ่
ชายหนุ่มรีบตรงเข้ามาที่ลิฟต์แล้วกดขึ้นชั้นบน ในใจภาวนาให้เป็นเธอ ..นี่เขาใจเต้นแรงกับผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่เมื่อไร เพราะขณะที่กำลังรอลิฟต์อยู่ ในใจของเขากระวนกระวายมากพอประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นบน ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบตรงไปที่ห้องทำงานของตัวเองแกร็ก..แอดดดด..."กลับมาแล้วเหรอคะ""คุณมาอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง?""คุณอย่าลืมสิคะ ว่าฉันเป็นคู่หมั้น คนที่มีสิทธิ์จะอยู่ในห้องของคุณก็มีแต่ฉัน""ถ้างั้นก็เชิญคุณอยู่ไปคนเดียว" ชายหนุ่มกำลังจะก้าวออกมาจากห้อง แต่รุ่งฤดีรีบเดินมาขวางหน้าไว้"คุณไม่กลัวหรือคะว่าฉันจะแจ้งเรื่องนี้ไปทางผู้ใหญ่""ผมรู้ว่าคุณไม่ทำแน่" เพราะผู้หญิงคนนี้เห็นแก่ผลประโยชน์ ถ้ายังไม่ได้สิ่งที่ต้องการคงไม่มีทางตัดทางตัวเองแน่"แต่ถ้าคุณทำให้ฉัน ไม่พอใจมากๆ เข้า ฉันอาจจะทำก็ได้นะคะ""หึ" เซอร์เวย์ไม่ยอมอยู่ให้เธอขู่อีก ในเมื่อในห้องนี้ไม่มีไอยวริญเขาก็ไม่แม้แต่อยากจะเหยียบเข้ามา"คุณหมอกลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!" มีคนถือหางรุ่งฤดีก็เลยกล้าที่จะทำตามใจตัวเอง เพราะยังไงพ่อของเขาก็เข้าข้างเธออยู่แล้วอีกสถานที่หนึ่งในเวลาเดียวกัน.."อายก็เลยทำให้ทุกคนเดือดร้อนไปหมด""เรื่องนี้หนูไม่ใช่ต้
ทำไมตาหมอถึงกล้าทำขนาดนี้ นางก็เป็นหมอคนหนึ่งเหมือนกัน ถ้าคนนั้นไม่ใช่ญาติสนิท แบบสายเลือดเดียวกัน นางคงไม่กล้าผ่าตัดเอาชีวิตของตัวเองทั้งชีวิตมาเสี่ยง"อายไม่รู้จะขอโทษคุณแม่ยังไง ถ้าไม่เพราะอาย คุณหมอก็คงไม่ถูกขู่บังคับ" เรื่องนี้เธอก็ต้องบอกให้แม่เขารับรู้ไว้ เพราะมันเป็นความผิดของเธอเอง"ถูกขู่บังคับ..จากผู้หญิงคนนั้นเหรอ?" แค่ฟังมาก็พอจะเดาออกแล้ว"ใช่ค่ะผู้หญิงคนนั้นรู้เรื่องนี้แล้ว""ห๊า?" แพทย์หญิงอมรรัตน์ไม่รู้ว่าจะตกใจอันไหนก่อนดี อย่างหลังมันยิ่งทำให้ตกใจมากกว่า เพราะเรื่องแบบนี้จะให้ใครล่วงรู้ด้วยไม่ได้เลย ทำไมลูกชายของนางถึงได้สะเพร่าขนาดนี้แล้วนี่ไอ้พ่อหัวดื้อจะรู้เรื่องนี้ด้วยไหม ..นางหมายถึงว่าสามีรู้เรื่องที่ผู้หญิงคนที่อยากจะได้มาเป็นลูกสะใภ้นักหนากำลังทำอยู่ไหม"ที่อายอยู่แบบนั้น เพราะได้ตกลงเซ็นสัญญากับคุณหมอไว้แล้วค่ะ" เธออยากจะพูดให้แม่เขาเข้าใจ ไม่ใช่ว่าเขารักเขาหลงอะไรเธอเลย"เซ็นสัญญา มีสัญญาด้วย?" ยังมีเรื่องอะไรที่ต้องตกใจอีกไหมเนี่ย"ใช่ค่ะ จนกว่าอายจะใช้หนี้คุณหมอหมด อายถึงจะเป็นอิสระ""หือ?""ช่วงนี้อายก็คงทำได้แค่อยู่ขัดดอกไปวันๆ""??""อายหมายถึงว่าทำง
"วันนี้เดี๋ยวแม่จะพาเข้าโรงพยาบาลนะ""ไปทำไมครับ" ที่จริงคนเป็นแม่ไม่ได้คุยกับลูกชายหรอก นางคุยกับลูกสะใภ้ แต่คนที่ถามก็คือลูกชายที่ร่วมรับประทานอาหารกันอยู่"แม่ให้เมียเราฝากท้องกับแม่ ต้องได้เข้าไปทำเอกสารที่โรงพยาบาลด้วย" ที่นางต้องดูแลเองเพราะเป็นห่วงหลาน เรื่องอย่างว่าของลูกชายคนเล็กยิ่งเหลือเฟืออยู่"แล้วผมล่ะ""เราก็อยู่บ้านเป็นเพื่อนพ่อ""ไม่เอาผมจะไปด้วย""ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนพ่อหรอกไปด้วยกันนั่นแหละ" คนเป็นพ่อก็เลยช่วยพูดกับให้ลูกชายอีกแรง[โรงพยาบาล]"รันเวย์" ขณะที่ทั้งสามกำลังเดินเข้าไปในโรงพยาบาลก็ได้ยินเสียงนี้ดังมาจากประตูฝั่งทางออกที่อยู่ใกล้กัน"มาทำอะไรที่โรงพยาบาล" พอเห็นว่าเป็นใครรันเวย์ก็เลยหยุดคุยด้วย"คุณแม่ไม่สบาย" ขณะที่พูดสายตาของเธอมองดูหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆ รันเวย์"แม่เราเอง""สวัสดีค่ะคุณแม่""สวัสดีจ้า หนูเป็นใครเหรอ" แพทย์หญิงอมรรัตน์อดไม่ได้ที่จะถาม เพราะเรื่องผู้หญิงลูกชายไม่ใช่ย่อย"คนนี้สโรชาครับแม่ เป็นลูกสาวของเพื่อนพ่อครับ""เรียกโรสก็ได้ค่ะ โรสเคยรู้จักกับรันเวย์ตั้งแต่สมัยเด็กแล้วค่ะ""อ้าวเหรอจ๊ะ เป็นเพื่อนกันนี่เอง ส่วนคนนี้เมียเจ้าร
หลายนาทีแล้วที่แพทย์หญิงอมรรัตน์กอดปลอบลูกสะใภ้คนเล็ก ตั้งแต่ได้ยินที่ท่านพูด รัญณาก็ร้องไห้ไม่หยุดจนสามีเป็นห่วงที่เธอร้องไห้เพราะสงสารลูกที่ต้องมารับรู้เรื่องอะไรแบบนี้ตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง เด็กคงจะได้ยินความคิดของแม่ ที่คิดว่าถ้าไปจากที่นี่แล้วจะไปอยู่ที่ไหน กลับไปบ้านก็ไม่ได้ หนีออกมาแบบนี้ถ้ากลับไปต้องถูกพ่อตีแน่ แต่ถ้าไม่กลับบ้านแล้วเธอจะไปที่ไหนได้ เพื่อนฝูงก็ไม่มี"ไม่ร้องนะลูก เราจะกลับไปอยู่ที่บ้านด้วยกัน""ค่ะ" ความคิดที่อยากจะหนีไปให้ไกล มันได้หายไปจนหมดสิ้น เพราะถ้าแม่ยังมีความคิดแบบนั้นอยู่ลูกก็ต้องรับรู้ได้หลายวันต่อมา.."หาปู่" ยิ่งเห็นว่าคุณปู่ไม่สบาย ปลาบปลื้มก็ยิ่งอยากเข้าไปหา ผู้ใหญ่อาจจะคิดว่าเด็กไม่รู้เรื่อง แต่จริงๆ แล้วพวกเขารู้ และเป็นห่วงคนที่พวกเขาผูกพันด้วย"ไม่ได้ครับ" ปิ่นมุกตำหนิลูกชาย เพราะปลาบปลื้มเล่นไม่รู้เรื่องกลัวไปถูกแผลของคุณปู่เข้า"ไม่เป็นไรหรอก มาให้ปู่ชื่นใจหน่อยเร็ว" ถึงวันนี้อาการของท่านก็ดีขึ้นมาก จนลุกมาทำกายภาพบำบัดได้แล้ว แต่ก็ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล"ปู่"ถึงแม้ท่านจะอุ้มหลานยังไม่ได้แต่ก็กอดและหอมแก้มได้ หลายคนที่อยู่ในห้องนั้น
"ที่พ่อพูดมาหมายความว่ายังไงครับ" รันเวย์ถามแม่และพี่ชาย เพราะตอนนี้พ่อหลับไปแล้ว"แม่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน" สายตาของผู้เป็นแม่มองไปดูลูกชายคนโต เพราะตอนนั้นเซอร์เวย์อยู่กับพ่อ"ก็เรื่องเด็กผู้หญิง ที่ท่านพูดก่อนหน้านั้นล่ะครับ""พ่อเราก็เลยคิดเป็นตุเป็นตะงั้นเหรอ""แต่ผมว่าไปตรวจไว้ก็ไม่เสียหายอะไรนี่ครับแม่" ถ้าคนที่พูดไม่ใช่พ่อหรือไม่ใช่คนในครอบครัว เขาคงจะบอกว่างมงาย แต่นี่พ่อซึ่งเป็นระดับอาจารย์หมอที่ทุกคนนับถือ ท่านคงรู้อะไรมาแน่"คงไม่ใช่หรอกค่ะ เพราะคุณรันให้ฉันกินยาคุม" หญิงสาวแค่อยากจะยืนยัน ว่ามันเป็นไปได้ยาก"เราให้เมียกินยาคุมเหรอ""จะรีบมีไปทำไมล่ะครับ ผมก็อายุแค่นี้เอง" เขาพูดตามสิ่งที่ตัวเองคิดเธอต้องทำสีหน้ายังไงเหรอ น้อยใจ ไม่พอใจ แต่เธอมีสิทธิ์อะไรไปทำกิริยาแบบนั้น หญิงสาวก็เลยทำได้แค่ยืนอยู่เฉยๆ เพื่อรอเวลา..เวลาผ่านไป..ตอนนี้ทุกคนออกมารออยู่ด้านนอก แต่ก็หาอะไรทานรองท้องกันไว้เรียบร้อยแล้ว"แม่จะให้พี่เราย้ายพ่อไปไว้ในห้องพักฟื้นเย็นนี้" นางเห็นว่าลูกชายและลูกสะใภ้แถมยังมีหลานเล็ก ไม่ยอมไปพักในห้องที่เตรียมไว้ให้ เพราะทุกคนยังคงเฝ้าอยู่หน้าห้องไอซียู ก็เลยคิดว่าย้
"คุณพี่คะ คุณพี่"เซอร์เวย์ที่นั่งเอนหลับพักเอาแรง พอได้ยินแม่ส่งเสียงเรียกพ่อก็รีบตื่นขึ้นมา"คุณพ่อรู้สึกตัวแล้วหรือครับ" ตั้งแต่พ่อประสบอุบัติเหตุ เขาก็ปล่อยมือจากงานทุกอย่างให้ลูกน้องเป็นคนทำ เพื่อที่จะได้ดูแลพ่อแบบใกล้ชิด จนไม่มีเวลาพักผ่อน แต่โชคดีที่ยังมีแม่ช่วยอีกแรง"เมื่อสักครู่แม่เห็นนิ้วของพ่อขยับ" ชายหนุ่มก็เลยรีบเข้าไปเช็คชีพจรของพ่อดู"คุณพ่อครับ คุณพ่อ" ชีพจรของท่านปกติมาก เหมือนว่าท่านแค่ไม่อยากจะลืมตา"หนู.." เสียงนี้ดังออกมาจากปากของท่านเบามาก แทบจะไม่ได้ยิน แต่ก็พอจับใจความได้ "หนู""หนูไหนคะคุณพี่ คุณพี่ตื่นสิ" สามียิ่งออกไปแต่สนามไดร์ฟกอล์ฟ ..หรือว่าจะมีอีหนูที่นั่น"คุณพ่อตื่นสิครับ" พอทั้งสองปลุกยังไงท่านไม่ยอมตื่น ก็เลยให้พยาบาลไปเรียกคนที่อยู่ด้านหน้าเข้ามา"คุณพ่อรู้สึกตัวแล้วเหรอครับ" นอร์เวย์รีบตรงเข้าไปหาพ่อ"เมื่อสักครู่ท่านละเมอ" ขณะที่เซอร์เวย์พูดก็แอบมองไปดูหน้าแม่ เพราะประโยคที่พ่อละเมอล่อแหลมมาก"ถ้างั้นแสดงว่าคุณพ่อฟื้นแล้วใช่ไหมครับ""หนู" ประโยคนี้ออกจากปากคนที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงอีกครั้ง ทุกคนแปลกใจยิ่งนักแทนที่จะละเมอชื่อลูกไม่งั้นก็ชื่อเมี
พอรู้ว่าลูกชายคนกลางไม่ได้พาลูกสะใภ้และหลานมาด้วย คุณย่าก็เลยให้คนขับรถไปรับมาจากสระบุรี"ปลื้มครับ" ผู้เป็นย่าเอื้อมมือไปเมื่อเห็นว่าหลานชายวิ่งเข้ามาหา"ปลาบปลื้มเบาๆ หน่อยสิลูก เดี๋ยวคุณย่าก็ล้มหรอก" ปิ่นมุกตำหนิลูกชายเบาๆ แต่ก็ไม่ทันหรอกเพราะตอนนี้วิ่งเข้าไปในอ้อมกอดของคุณย่าแล้ว "คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ" เธอก็เลยเดินเข้าไปหาสามีที่ยืนอยู่หน้าห้องไอซียู"ยังไม่รู้สึกตัวเลย""ท่านพ้นขีดอันตรายแล้วไม่ใช่เหรอ" ปิ่นมุกเอื้อมไปกุมมือสามีไว้เพื่อให้กำลังใจทางโรงพยาบาลได้จัดหาโซฟามาให้ทุกคนได้นั่งรออยู่หน้าห้องแบบสบายหน่อยจนถึงช่วงเย็นของอีกวัน.."กลับบ้านกันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยมา" แพทย์หญิงบอกลูกชายให้พาเมียกลับบ้าน เพราะนั่งเฝ้ากันมาข้ามวันข้ามคืนแล้ว"รัญจะอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่ค่ะ""พวกเราก็จะอยู่รอจนกว่าคุณพ่อจะฟื้นค่ะ" ท่านดีกับพวกเธอขนาดนี้จะทิ้งท่านไว้แบบนี้ได้ยังไง"ขอบใจทุกคนมากนะ" เราใช้อะไรซื้อเราก็ได้อย่างนั้นกลับมา เหมือนดังแพทย์หญิงอมรรัตน์ ใช้ใจซื้อก็ได้ใจจากลูกสะใภ้กลับมา21 : 09 น."เดี๋ยวผมพาขึ้นไปนอน" นายแพทย์หนุ่มออกมาจากห้องของพ่อ ก็เห็นว่าภรรยาเอนตัวพิงกับโซฟา"ฉันอยากจ
"พ่อไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับพี่" ดูจากสภาพรถแล้วมันทำให้เขาใจไม่ดีเอามากๆ"ไม่ต้องเป็นห่วงนะ พี่จะช่วยพ่อให้ได้""พี่พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง""ตอนนี้พ่อยังไม่พ้นขีดอันตราย พี่กำลังจะโทรไปหาแม่" ที่เขาออกมาจากห้องผ่าตัดเพราะอยากโทรไปบอกแม่และน้องๆ ให้มาที่โรงพยาบาล"ผมอุตส่าห์เชื่อใจพี่ รอพี่อยู่ตรงนี้ ทำไมพี่พูดแบบนี้ รีบกลับเข้าไปช่วยพ่อสิ!" รันเวย์เริ่มใช้อารมณ์คุยกับพี่ชาย"แต่พี่.." นายแพทย์หนุ่มไม่เคยกดดันในการผ่าตัดมากขนาดนี้มาก่อน เพราะคนที่เขากำลังผ่าตัดอยู่คือบุพการี"เรื่องแม่กับพี่เวย์ เดี๋ยวผมจะจัดการเอง พี่กลับเข้าไปในห้องผ่าตัดช่วยพ่อให้ได้"เซอร์เวย์ไม่เคยเห็นน้ำตาน้องชาย มาตั้งแต่สมัยเด็กแล้ว แต่วันนี้รันเวย์ถึงกับมีน้ำตา เป็นใครก็ต้องมีอาการแบบนี้กันทั้งนั้น แต่เขาเป็นหมอจะอ่อนแอไม่ได้ ผู้เป็นพี่ชายก็เลยรีบกลับเข้าไปในห้องผ่าตัดเพล้ง!! โทรศัพท์ในมือแพทย์หญิงอมรรัตน์ร่วงกระทบพื้นอย่างแรงเมื่อได้รับข่าวร้ายจากลูกชาย"เกิดอะไรขึ้นคะคุณแม่" รัญณาก็ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย เพราะเห็นว่าเป็นเบอร์สามีที่โทรมา ก็เลยอยากรู้ว่าเขาโทรมาทำไม"เราไปโรงพยาบาลกัน""ใครเป็นอะไรคะ" ดูจากอากา
"อื้อ คุณรัน" ถ้าถามต้องรอคำตอบสิว่าเธออยากจะขึ้นไหม แต่นี้ถามยังไม่จบเลยด้วยซ้ำก็ดันตัวเธอให้ขึ้นมาอยู่ด้านบนแล้ว "โอ๊ย เจ็บนะคะ เบาๆ หน่อยสิ""ถ้างั้นคุณก็ใส่เข้าไปเองสิ" คนที่นอนอยู่ด้านล่างพยายามจับของตัวเองเพื่อส่งเข้าไปในร่างกายอีกฝ่ายหญิงสาวรอบกลืนน้ำลายก่อนที่จะทำตาม ไม่ใช่แค่เขาหรอกที่ต้องการ เธอก็ต้องการไม่ต่างกัน"ซี๊ดด อ้าา ไม่ต้องกลัวผมเจ็บ นั่งทับลงมาเลย" เห็นว่าเธอพยุงร่างของตัวเองไว้ไม่กล้านั่งลงมาเต็มแรงหญิงสาวก็เลยค่อยๆ ให้มันกลืนหายเข้าไปในร่างกาย ถึงแม้เธอจะไม่เคยมาก่อน แต่เรื่องพวกนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ เพราะเพื่อนหลายคนมีแต่เกเรทั้งนั้น ยังจำได้เลยครั้งหนึ่ง เพื่อนยังหลอกให้เธอไปเพื่อจะมีเซ็กส์กับแฟนของตัวเอง โชคดีที่เธอหนีออกมาได้ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมารัญณาก็เลิกคบกับเพื่อนกลุ่มนี้ไปเลย"เคยเห็นคนขี่ม้าไหม ทำแบบนั้นแหละ" มือหนาเอื้อมไปจับสะโพกงามเพื่อช่วยเธออีกแรง"อ๊อยย จุก" จังหวะที่ทิ้งน้ำหนักลงมา เจ้าของท่อนเอ็นนั้นเด้งสะโพกขึ้นมารับ มันก็เลยเข้าไปเกือบจะสุดลำ"เดี๋ยวก็เสียว นั่งทับลงมาเต็มแรงเลย" ชายหนุ่มเห็นว่าเธอเก็บแรงไว้ไม่ทิ้งตัวลงมาทั้งหมดอีก ตอนที่
"ใครเป็นอะไร" แพทย์หญิงผู้เป็นแม่ ยังไม่ได้ยินเสียงเลยด้วยซ้ำ แต่เห็นลูกชายคนเล็กวิ่งเข้าไปก็เลยเดินตามมาดู"เปล่าค่ะไม่ได้เป็นอะไร" หญิงสาวรีบซ่อนมือไว้ด้านหลัง ที่จริงเธอร้องโอ๊ยออกมาเพียงแค่เบาๆ เพราะตกใจ แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีใครได้ยิน"เอามือมาดู""ก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรไง""แล้วจะซ่อนมือทำไม" คนที่วิ่งเข้ามาก่อนเพื่อน เอื้อมมือไปคว้ามือของเธอที่ซ่อนอยู่ออกมา "แดงเลย""ฉันว่าจะยกหม้อลงมาวาง แต่ไม่คิดว่ามันจะร้อนขนาดนี้นี่""แม่เพิ่งปิดแก๊สเอง" ขนาดคนทำยังไม่แตะเลย เพราะคิดว่ามันต้องร้อนแน่"แล้วอีกข้างล่ะ" ถ้าเธอยกมันต้องใช้มือสองข้างแน่ เขาก็เลยยื่นไปจับอีกข้างหนึ่งมาดู "ตามออกมา""คุณโกรธให้ฉันทำไม""ทำอะไรซุ่มซ่าม""มีอะไรเหรอ""ก็มือไปโดนหม้อร้อนๆ น่ะสิครับ" รันเวย์ตอบพี่ชายไป"ที่รถมีที่ทำแผลเดี๋ยวพี่ไปเอามาทำให้""ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ" เธอจะตกใจอะไรก่อนดี เกิดมาไม่เคยมีใครเป็นห่วงขนาดนี้ ตกบันไดบ้านแท้ๆ พ่อยังไม่ถามเลยว่าเจ็บไหม"เดี๋ยวผมทำเองครับ"เซอร์เวย์ก็เลยปล่อยให้น้องชายเป็นคนทำแผลเอง แต่เขาก็ยืนบอกอยู่ว่าต้องใช้ยาตัวไหนทาก่อนจากที่นึกอิจฉาพี่สะใภ้ ตอนนี้ไม่แล้ว เพราะดูเขา
"บ้านใครครับแม่""บ้านแม่เช่าไว้เอง" ดีนะที่ยังไม่คืนบ้านหลังนี้ไป สองครั้งแล้วสินะที่ออกจากบ้านมาเพราะสามี ครั้งนี้หวังว่าเขาคงจะคิดได้นะ นางก็เหมือนผู้หญิงธรรมดาทั่วไป ที่ไม่อยากจะให้ครอบครัวแตกแยก แต่ถ้าเจอสามีที่เอาแต่ใจแบบนั้นใครจะทนฝืนอยู่ต่อไปล่ะ"รัญขอโทษนะคะ" นอกจากคำนี้เธอไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว"แม่บอกแล้วไงว่าหนูไม่ผิด พ่อเจ้ารันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่พี่ชายทั้งสองแล้ว""คะ?""เจอทุกคน" รันเวย์พูดเสริมแม่ขึ้นมารัญณาก็เลยคิดว่าสองคนนั้นเจออะไร เพราะดูพี่สะใภ้ของเขาเป็นผู้ดีมาก แต่มองดูตัวเองสิ สมควรแล้วที่ท่านจะไม่ชอบ"อย่าคิดมากเลยลูก อยู่แบบนี้ก็อบอุ่นดีนะ" บั้นปลายชีวิตนางอยากจะอยู่แบบสงบเลี้ยงหลานๆ แต่เพราะสามีหน้าใหญ่ถือยศถือศักดิ์ ก็เลยไม่มีความสุขกันสักที"เข้าบ้านกัน" ว่าแล้วมือหนาก็เอื้อมไปจูงมือเธอให้เดินตามหญิงสาวมองมือนั้นแบบอบอุ่น ทำไมเขากล้าพาเธอออกจากบ้านหลังใหญ่ ในเมื่อเขาไม่ได้คิดพิศวาสอะไรในตัวเธอเลย ..ความคิดที่อยากจะไปให้ไกล ตอนนี้มันหายไปไหนไม่รู้ เพราะเธอเริ่มรู้สึกดีกับเขามากขึ้นเดินเข้ามายังไม่ได้นั่งเลยด้วยซ้ำก็ได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามาจอด"เดี๋ยวแม่ออกไปด