"ไปซื้ออะไรมา" ดวงตาคมมองสิ่งที่อยู่ในมือของอีกฝ่าย"ไม่มีอะไรสำคัญหรอกค่ะ""แล้ว?""แล้ว??" เพิ่งนึกขึ้นได้เธอเป็นบ้าอะไรถึงไปหึงไปหวงเขา "เออคือว่า ฉันเอากระเป๋าเงินมาคืนให้คุณหมอค่ะ คุณลืมเอากระเป๋าลงมาด้วย""ผมไม่ได้ลืม""แล้วคุณหมอไม่ได้ซื้ออะไรเหรอคะ""ไม่ได้ซื้อ""ถ้างั้นก็ขอโทษด้วยค่ะที่ฉันทำเกินหน้าที่""นั่งรอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวออกไปทานข้าวด้วยกัน""ออกไปทานข้าวเหรอคะ?""ทำไม หรืออยากขึ้นไปรอกินข้าวข้างบน""ก็แล้วแต่ความกรุณาของคุณหมอสิคะ" นี่เราเป็นบ้าอะไรไปพูดประชดเขาทำไม "อยากไปทานข้าวกับคุณหมอค่ะ" หญิงสาวต้องได้รีบเปลี่ยนอารมณ์ตัวเองใหม่เซอร์เวย์ปล่อยให้เธอนั่งรออยู่ในห้องตรวจ แล้วก็ออกมาดูคนไข้ที่ผ่าตัดไปแล้ว"คุณหมอคะ""ครับ""มาดูคนไข้เหมือนกันเหรอคะ""คุณเริ่มทำงานเลยเหรอ ขยันไปไหมครับ""อยากจะรีบทำงานค่ะ" รุ่งฤดีแพทย์หญิงที่เข้ามาใหม่ "เที่ยงนี้ คุณหมอมีนัดหรือยังคะ""ทำไมหรือครับ""รุ่งยังไม่มีเพื่อนไปทานข้าวเลยค่ะ""ถ้างั้นก็ไปทานด้วยกัน ผมขอเช็คคนไข้ก่อนครับ""ได้เลยค่ะคุณหมอ เที่ยงนี้เจอกันนะคะ" ผู้ช่วยและพยาบาลที่อยู่แถวนั้นต่างก็มอง ใครก็ดูออกว่าคุณหมอรุ่งฤดีกำ
มือหนายื่นเข้าไปเพื่อหยุดประตูลิฟต์ที่กำลังจะปิดลงไว้พอหยุดประตูลิฟต์ได้ชายหนุ่มร่างสูงก็ได้ก้าวเข้าไป"ไปไหนมา" ไม่รู้ว่าจะชวนคุยอะไรดีก็เลยมองดูของที่อยู่ในมืออีกฝ่าย"คุณแม่ชวนออกไปซื้อของ""คุณแม่เข้ามาเหรอ""ค่ะ""ไม่เห็นท่านโทรมาบอกเลย"ไอยวริญไม่ได้ตอบและไม่มองหน้าเขาด้วย จนประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นบน"คุณหมอคะ"เซอร์เวย์ที่กำลังจะเดินตามเธอเข้าห้อง หันกลับมามองเมื่อได้ยินแจนเรียก"คืนนี้มีงานเลี้ยงต้อนรับคุณหมอคนใหม่แบบเป็นทางการค่ะ""งานเลี้ยงอะไรอีก วันนั้นก็เลี้ยงไปแล้วไม่ใช่เหรอ""เออ.. มีกำหนดการมาแบบนี้จริงๆ ค่ะ""ส่งรายละเอียดงานเข้ามาในอีเมลผมแล้วกัน" เขาไม่ได้ตามเธอเข้าไปในห้อง เพราะต้องรีบลงไปรับคนไข้ช่วงบ่ายไอยวริญก็รออยู่ว่าเมื่อไรเขาจะเข้ามาสักที จนเธอแง้มประตูออกมาดู ..เขาไปแล้วเหรอ จะไม่ง้อเราอีกสักนิดเลยเหรอเย็นวันเดียวกันนั้น..หญิงสาวที่ยืนอยู่ริมหน้าต่าง หันมามองเขาซึ่งกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่"วันนี้อาจจะกลับดึกหน่อย ล็อกห้องเลยเดี๋ยวผมเอากุญแจออกไปด้วย"ที่เธอไม่ถามเพราะรู้ว่าเขาจะไปไหน แต่เขาน่าจะแกล้งชวนเธอสักนิดพอเขาออกไปแล้วห้องนี้มันดูเงียบมากเง
ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เข้ามาแค่ไม่กี่วันรู้เรื่องทุกอย่างที่เขาทำไว้จากที่กำลังโกรธกำลังงอนเขาเรื่องผู้หญิง อารมณ์ของเธอเปลี่ยนไปเริ่มเป็นห่วง เพราะเขาต้องมาเดือดร้อนเพราะช่วยเธอไอยวริญแกะมือหนาออก เพราะเธอจะปล่อยให้เขาเดือดร้อนมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว หญิงสาวหยิบเอากระเป๋า ของตัวเองแล้วเดินออกจากห้องไป เพราะมันเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยเขาได้ในเวลานี้"ถ้าฉันเป็นคุณหมอฉันจะไม่ตามไปค่ะ" รุ่งฤดีเห็นว่าเซอร์เวย์กำลังจะเดินตามออกไป"คุณต้องการอะไร""ต้องการเป็นภรรยาของคุณ"ใบหน้าหล่อคมหันกลับมามองผู้หญิงที่หน้าไม่อาย เขาไม่มีความรู้สึกอะไรกับผู้หญิงคนนี้เลย"เรื่องงานแต่งคุณหมอไม่ต้องเป็นกังวลนะคะ เดี๋ยวฤดีจะเป็นฝ่ายจัดการเองทั้งหมด คุณหมอแค่รอเป็นเจ้าบ่าวก็พอแล้ว""คุณไม่มีความอายเลยหรือไง""อายทำไมคะ สมัยนี้ผู้หญิงกับผู้ชายเสมอภาคกันแล้ว"ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาเสียงดัง ถ้าคนตรงหน้าเป็นผู้ชายด้วยกัน เขาคงได้เอาฟันออกมาจากปากสักซี่สองซี่แล้วรุ่งฤดีมองตามเซอร์เวย์ที่ออกจากห้องไปด้วยรอยยิ้ม ไม่คิดว่าทุกอย่างมันจะง่ายขนาดนี้ ใครบ้างที่ไม่อยากเป็นภรรยาของเจ้าของโรงพยาบาล ส่วนหนึ่งที่รุ่
ชายหนุ่มรีบตรงเข้ามาที่ลิฟต์แล้วกดขึ้นชั้นบน ในใจภาวนาให้เป็นเธอ ..นี่เขาใจเต้นแรงกับผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่เมื่อไร เพราะขณะที่กำลังรอลิฟต์อยู่ ในใจของเขากระวนกระวายมากพอประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นบน ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบตรงไปที่ห้องทำงานของตัวเองแกร็ก..แอดดดด..."กลับมาแล้วเหรอคะ""คุณมาอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง?""คุณอย่าลืมสิคะ ว่าฉันเป็นคู่หมั้น คนที่มีสิทธิ์จะอยู่ในห้องของคุณก็มีแต่ฉัน""ถ้างั้นก็เชิญคุณอยู่ไปคนเดียว" ชายหนุ่มกำลังจะก้าวออกมาจากห้อง แต่รุ่งฤดีรีบเดินมาขวางหน้าไว้"คุณไม่กลัวหรือคะว่าฉันจะแจ้งเรื่องนี้ไปทางผู้ใหญ่""ผมรู้ว่าคุณไม่ทำแน่" เพราะผู้หญิงคนนี้เห็นแก่ผลประโยชน์ ถ้ายังไม่ได้สิ่งที่ต้องการคงไม่มีทางตัดทางตัวเองแน่"แต่ถ้าคุณทำให้ฉัน ไม่พอใจมากๆ เข้า ฉันอาจจะทำก็ได้นะคะ""หึ" เซอร์เวย์ไม่ยอมอยู่ให้เธอขู่อีก ในเมื่อในห้องนี้ไม่มีไอยวริญเขาก็ไม่แม้แต่อยากจะเหยียบเข้ามา"คุณหมอกลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!" มีคนถือหางรุ่งฤดีก็เลยกล้าที่จะทำตามใจตัวเอง เพราะยังไงพ่อของเขาก็เข้าข้างเธออยู่แล้วอีกสถานที่หนึ่งในเวลาเดียวกัน.."อายก็เลยทำให้ทุกคนเดือดร้อนไปหมด""เรื่องนี้หนูไม่ใช่ต้
ทำไมตาหมอถึงกล้าทำขนาดนี้ นางก็เป็นหมอคนหนึ่งเหมือนกัน ถ้าคนนั้นไม่ใช่ญาติสนิท แบบสายเลือดเดียวกัน นางคงไม่กล้าผ่าตัดเอาชีวิตของตัวเองทั้งชีวิตมาเสี่ยง"อายไม่รู้จะขอโทษคุณแม่ยังไง ถ้าไม่เพราะอาย คุณหมอก็คงไม่ถูกขู่บังคับ" เรื่องนี้เธอก็ต้องบอกให้แม่เขารับรู้ไว้ เพราะมันเป็นความผิดของเธอเอง"ถูกขู่บังคับ..จากผู้หญิงคนนั้นเหรอ?" แค่ฟังมาก็พอจะเดาออกแล้ว"ใช่ค่ะผู้หญิงคนนั้นรู้เรื่องนี้แล้ว""ห๊า?" แพทย์หญิงอมรรัตน์ไม่รู้ว่าจะตกใจอันไหนก่อนดี อย่างหลังมันยิ่งทำให้ตกใจมากกว่า เพราะเรื่องแบบนี้จะให้ใครล่วงรู้ด้วยไม่ได้เลย ทำไมลูกชายของนางถึงได้สะเพร่าขนาดนี้แล้วนี่ไอ้พ่อหัวดื้อจะรู้เรื่องนี้ด้วยไหม ..นางหมายถึงว่าสามีรู้เรื่องที่ผู้หญิงคนที่อยากจะได้มาเป็นลูกสะใภ้นักหนากำลังทำอยู่ไหม"ที่อายอยู่แบบนั้น เพราะได้ตกลงเซ็นสัญญากับคุณหมอไว้แล้วค่ะ" เธออยากจะพูดให้แม่เขาเข้าใจ ไม่ใช่ว่าเขารักเขาหลงอะไรเธอเลย"เซ็นสัญญา มีสัญญาด้วย?" ยังมีเรื่องอะไรที่ต้องตกใจอีกไหมเนี่ย"ใช่ค่ะ จนกว่าอายจะใช้หนี้คุณหมอหมด อายถึงจะเป็นอิสระ""หือ?""ช่วงนี้อายก็คงทำได้แค่อยู่ขัดดอกไปวันๆ""??""อายหมายถึงว่าทำง
"อื้อ คุณหมอคะ" เธอเพิ่งจะถอดผ้าอนามัยไป เมื่อตอนเย็นนี้เอง เพราะดูเหมือนมันจะหยุดแล้ว แต่ก็ไม่มั่นใจอยู่ดี เรื่องแบบนี้ผู้หญิงรู้กันดี"ทำไม.. คุณไม่พร้อมที่จะเป็นของผมเหรอ" ใบหน้าคมที่ซุกอยู่ซอกคอยกขึ้นมาถามเล็กน้อย"เปล่าสักหน่อย.." ใครจะกล้าตอบล่ะ ..แต่เธอก็ตอบไปแล้ว ถึงแม้จะพูดเพียงแค่เบาๆ อยู่ใกล้กันแค่นี้เขาคงได้ยินพอได้ยินคำตอบใบหน้าหล่อคมก็ซุกลงไปที่เดิม มือหนาที่ตอนแรกวางแนบอยู่ด้านนอกเพื่อเช็ค แต่ตอนนี้เขาสอดมันเข้าไปด้านในของกางเกงชั้นในตัวบางที่เธอสวมใส่แล้ว"อือ" รู้สึกใจหวิวยังไงไม่รู้ ก็คนมันไม่เคยถูกแตะเนื้อต้องตัวขนาดนี้ ริมฝีปากหนาของเซอร์เวย์ขยับขึ้นมาแนบจูบ..ส่วนมือของเขายังคงลูบคลำเนินอวบนูนจังหวะที่นิ้วแกร่งแทรกเข้าไปในร่างกายอีกฝ่าย ความรู้สึกเดิมๆ มันก็ค่อยๆ ผุดขึ้นมา นั่นคือการตรวจภายในของผู้หญิงหลายๆ คน ซึ่งทุกอย่างในร่างกายของมนุษย์เขาเคยสัมผัสมาหมดแล้วขณะที่เซอร์เวย์กำลังจะชักมือออก ไอยวริญรีบเกาะมือของเขาไว้แน่น ..เธอสัมผัสได้ว่าร่างกายของเขาเริ่มสั่นเล็กน้อยเหมือนกลัวอะไรบางอย่างมือเรียวอีกข้างจึงได้ยื่นขึ้นไปกดท้ายทอยของเขาลงมาแนบกับริมฝีปากของเธอ ห
"ยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น มานอนสิ" ชายหนุ่มที่ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วถามเมื่อเห็นว่าเธอยืนมองซ้ายมองขวา ไม่กล้าเดินมาที่เตียง"คุณหมอนอนก่อนเลยค่ะ""เป็นอะไร""คือฉัน..เออ..คือ""แล้ววันนี้จะรู้เรื่องกันไหม""มันกลับมาอีกแล้วค่ะ""กลับมา?" พูดแค่นี้เขาก็พอจะเข้าใจ เพราะเขาเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้เอง "แล้วยังไงต่อ?""ก็ผ้าอนามัยหมดแล้วน่ะสิคะ""เอาไงดี คงนอนไม่ได้แน่เลย" ถึงเขาจะเป็นผู้ชายก็รู้แหละ ถ้ามีอะไรไหลออกมาแบบนี้คงนอนไม่หลับแน่ "เดี๋ยวผมมา""คุณหมอจะไปไหน""ไปร้านสะดวกซื้อ""ร้านสะดวกซื้อ?" ดวงตากลมกระพริบปริบๆ มองตามหลังนายแพทย์หนุ่มออกไป ..อย่าบอกนะว่าเขาจะไปซื้อผ้าอนามัยให้เรา? คิดเป็นอื่นไปไม่ได้เลย แต่คนแบบเขาเนี่ยนะ คงไม่ใช่มั้ง"หมอจะไปไหนเหรอลูก" ผู้เป็นแม่ได้ยินเสียงเปิดประตูหน้าบ้าน ก็เลยออกมาถามดู"ไปซื้อของที่หน้าหมู่บ้านครับ""ซื้ออะไรดึกๆ ดื่นๆ อยากได้อะไรเผื่อแม่มี""ซื้อ..คือ..สิ่งที่ผมจะซื้อ คุณแม่คงไม่ได้ใช้หรอกครับ เดี๋ยวผมมานะครับ" เพราะแม่ของเขาหมดไปได้ 2-3 ปีแล้ว"ถ้างั้นแม่ฝากซื้อของหน่อย""ได้เลยครับ" พอคุยกับแม่เสร็จเซอร์เวย์ก็ออกจากบ้านไปแพทย์หญิงอมรรั
"จะไปไหน" มือหนาคว้าหญิงสาวที่ลุกขึ้นให้หยุดก่อน"จะกลับเข้าห้องค่ะ" ทำไมเขาต้องคิดนานขนาดนั้นด้วยล่ะ เป็นใครก็น้อยใจนะชายหนุ่มปล่อยมือเธอแล้วก็นั่งลงพร้อมกับจับปากกาขึ้นมาไอยวริญหัวใจเต้นแรงเมื่อเห็นเขากำลังวางปลายปากกาลงไป"การจดทะเบียนสมรส ฝ่ายหญิงจะใช้นามสกุลกับฝ่ายชายก็ได้หรือไม่ใช้ก็ได้ ถ้าคุณพร้อมที่จะใช้นามสกุลกับสามีก็เซ็นลงตรงนี้เลยครับ" สมัยนี้เสมอภาคกันแล้ว ไม่ใช่ว่าผู้หญิงจะเลือกได้แค่การใช้นามสกุล ถ้าเธอคนนั้นยังอยากจะใช้นางสาวอยู่ก็ยังคงใช้ได้แต่เธอพร้อมที่จะใช้นามสกุลเขาอย่างเต็มใจไอยวริญก็เลยไม่รอช้าที่จะเซ็นชื่อตัวเองตามลงไปแพทย์หญิงอมรรัตน์เซ็นเป็นพยานให้ พร้อมกับเจ้าหน้าที่..ทะเบียนสมรสนี้ก็ถือว่าเสร็จสมบูรณ์ถูกต้องตามกฎมาย"ลูกจะกลับโรงพยาบาลเลยเหรอ""ผมติดคนไข้อยู่ครับ" ขณะที่ตอบแม่..สายตาของเขาก็มองไปที่เธอ อยากจะพูดอยากจะคุยด้วยแต่งานก็สำคัญไม่ต่างกันเพราะนั่นก็คือชีวิตของคนหญิงสาวรีบเดินตามหลังออกไป เธอไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย และเข้าใจงานที่เขาทำ"อุ้ยคุณหมอ" ไอยวริญหันมองไปด้านหลัง เพราะเพิ่งจะเดินพ้นประตูออกมาเอง เขาก็หอมแก้มเธอแล้ว"ตอนเย็นผมอาจจะกลับค่
"เข้าข้างในกัน" เกษมราษฎร์เอื้อมมือมาให้อีกฝ่ายจับมือท่านไว้ เพื่อจะได้ก้าวเดินเข้าไปด้านในพร้อมกัน"ท่านทำอะไรคะ" นางยอมเดินตามแรงที่อีกฝ่ายจูง แต่ก็อดที่จะถามไม่ได้"บอกแล้วไงว่าไม่อยากปล่อยเวลาให้เสียไปเปล่าๆ แต่งงานกันนะ""อู๊วววว" เสียงโห่แสดงความยินดีดังขึ้นเมื่อเกษมราษฎร์คุกเข่าลงต่อหน้าผู้หญิงที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวในคืนนี้ ท่านเคยพูดไว้แล้วถึงแม้ว่าจะพูดแค่กับตัวเอง ถ้ามีโอกาสได้ทำเพื่อเธอ..จะทำให้ผู้หญิงทุกคนบนโลกนี้ต้องอิจฉาเธอ"ลุกขึ้นเถอะค่ะท่าน""คุณตอบตกลงมาก่อนสิ""ท่านเพิ่งขอหมั้นไปวันก่อนเองนะคะ""ถ้าคุณไม่ตกลงผมก็จะอยู่แบบนี้""ตกลงก็ได้ค่ะ" จากเสียงโห่ร้องกลายเป็นเสียงกรี๊ดลั่นจนโรงแรมแทบจะแตก เมื่อฝ่ายหญิงตอบตกลงแต่งงานด้วยเกษมราษฎร์ลุกขึ้นโดยที่ไม่ต้องให้ใครมาช่วยพยุง ถึงแม้จะอายุและเยอะแล้วแต่ร่างกายของท่านก็ยังแข็งแรง เพราะการเป็นทหารต้องได้ฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา"ดีใจด้วยนะครับ" รามสูรเข้ามาแสดงความยินดี เขาดีใจมากที่จะเห็นแม่มีความสุขสักที ตั้งแต่จำความได้เลยมั้งที่เห็นแม่ต้องเฝ้ารอพ่อกลับบ้านทุกวันและลูกๆ คนที่เหลือก็เข้ามาแสดงความยินดี รวมทั้งแขกในงาน วันนี้ท่าน
เย็นวันเดียวกันนั้น.. พุดตาลเรียกลูกชายและลูกสะใภ้มาทานข้าวเย็นร่วมกัน"สวัสดีครับท่าน" รามสูรมาพร้อมกับภรรยา และลูกชาย พอมาถึงก็เห็นว่าท่านพลเอกเกษมราษฎร์ ก็นั่งอยู่ในห้องรับแขกด้วย"มาครบกันแล้วใช่ไหม นั่งก่อนสิลูก"พอลูกชายนั่งลงเกษมราษฎร์ก็ขอเป็นคนพูดเอง ท่านบอกทุกคนว่าขอเข้ามาอยู่ร่วมครอบครัวด้วย ทีแรกเกษมราษฎร์ก็ช่างใจอยู่ กลัวลูกๆ ของพุดตาลจะไม่ชอบใจ เพราะถึงยังไงพ่อของพวกเขาก็มีทีท่าว่าจะกลับมา"ยินดีต้อนรับครับ ผมเองต่างหากที่ต้องฝากคุณแม่ไว้กับท่าน" พี่ชายคนโตเป็นคนเอ่ยพูดก่อน"ขอบใจมากนะลูก" ใจจริงพุดตาลก็อยากจะอยู่กับลูกและหลานแบบนี้ไปจนแก่เฒ่า แต่มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว เมื่อสามีหย่าขาดจากผู้หญิงคนนั้น ยังไงท่านก็ต้องกลับมาวนเวียนจนทำให้ชีวิตอยู่ไม่เป็นสุขแน่ นางก็เลยตัดสินใจตัดกรรมกันไปแต่เพียงแค่นี้"ผมจะประกาศให้สังคมรับรู้เรื่องของเราในเร็ววันนี้""เรื่องนี้แล้วแต่ท่านค่ะ" นางคิดว่าให้คนรับรู้ไว้ก็ดี เรื่องถูกนินทาหนีไม่พ้นอยู่แล้ว ใครจะนินทาก็ช่าง ขอให้ตัวเองอยู่แบบสบายใจก็พอร่วมทานข้าวเย็นกันเสร็จ ลูกชายทั้งสองก็ขอตัวกลับเพราะมันดึกแล้ว ส่วนเพลิงไม่อยากจะกลับก็ต้องได
"ใจเย็นก่อนสิคะมาเหนื่อยๆ น้ำก็ยังไม่อาบ""ขอชื่นใจก่อน" ริมฝีปากหนากระซิบพูดในขณะที่จมูกยังสูดดมคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอด"คิดถึงคุณเหมือนกันค่ะ" รักครั้งแรกของเธอมันช่างสวยงามนัก แต่เมขลาหวังว่าจะหยุดผู้ชายคนนี้ไว้ได้แค่เธอ เพราะถ้าเขามีตำแหน่งที่สูงขึ้น เขาจะเป็นเหมือนคนที่ให้กำเนิดเธอไหม"เป็นอะไร" เพลิงสัมผัสได้ว่าอารมณ์ของเธอไม่เหมือนตอนที่เรียกเขาขึ้นมาข้างบนเลย"อนาคตข้างหน้าอะไรมันก็ไม่แน่นอนค่ะ เผื่อคุณก้าวไปในตำแหน่งที่สูงกว่านี้..""อย่าคิดอะไรที่มันจะไม่เกิดขึ้น" แค่นี้เขาก็รู้แล้วว่าเธอคงกลัวว่าเขาจะทำตัวเหมือนพ่อ"คุณรู้เหรอคะว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่""ผมรักคุณ คำนี้ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้ฟังมันจากปากผม และผมก็จะพูดให้คุณฟังเพียงคนเดียว""ขอบคุณนะคะ" ขอบคุณเขาทั้งน้ำตา แต่ก่อนตอนที่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ ยังมีความสุขมากกว่านี้เลย แต่พอรู้ว่าพ่อมีนิสัยยังไง เมขลาก็เริ่มกลัวผู้ชายรอบข้าง[โรงแรมหรู]ที่พลเอกเกษมราษฎร์พาพุดตาลมาทานข้าวที่โรงแรม เพราะรู้แล้วว่านางคงไม่กลับไปหาอะไรเดิมๆอีก ท่านต้องทำให้นางเห็นว่าท่านสามารถที่จะพานางก้าวไปในทุกๆที่ได้"ทำไมคุณรู้ว่าฉันชอบกิน เออ..
"ทำอะไรกัน"คนที่กำลังโอบกอดกันถึงกับตกใจปล่อยมือออก"ท่าน?""นายคงไม่อยากจะอยู่ในกรมแล้วใช่ไหม""อย่าทำอะไรผู้กองนะคะ" ถึงแม้เธอจะตัวเล็กกว่ามาก แต่หญิงสาวก็ใจกล้าก้าวออกมายืนบังชายคนรักไว้"เรารู้ไหมว่ามันไม่สมควร""จะสมควรหรือไม่ มันอยู่ที่เราสองคนค่ะ""อย่าลืมสิว่าเราเป็นลูกของใคร""หึ.. แล้วฉันเป็นลูกของใครล่ะคะ""มันสมควรแล้วเหรอที่จะมาพูดต่อล้อต่อเถียงกับพ่อ""พ่อ?" เมขลาอยากจะพูดอะไรอีกตั้งมากมาย แต่มันจุกในอกเสียก่อน"มีอะไรกัน" แม่บ้านรีบเข้าไปตามคุณผู้หญิงออกมาดู กลัวว่าจะมีเรื่อง"คุณมาก็ดีแล้ว ผมจะเร่งเรื่องให้ลูกไปเรียนต่อต่างประเทศ""เรียนต่อต่างประเทศ?" เพลิงพูดพร้อมกับมองหน้าเมขลา แล้วมองไปที่ท่านพลเอกเรวทัต"ฉันไม่ไปค่ะ""ลูกไม่อยากเรียน" พุดตาลคิดว่านางคงต้องได้ออกหน้าเองแล้วล่ะ"อายุแค่นี้ยังเรียนได้อีกตั้งเยอะ ทำไมถึงคิดสั้น""อะไรคือการคิดสั้นคะ""ก็ที่เห็นอยู่นี่ไง""คนนี้ผู้กองเพลิงท่านก็คงจะรู้จักแล้ว เขาเป็นคนรักของฉัน ไม่สิ.." ถ้าพูดแค่คนรักมันคงไม่จบตรงนี้แน่ เมขลาก็เลยให้สถานะใหม่กับเพลิง "เขาเป็นพ่อของลูกในท้องฉันเองค่ะ""???" ไม่ใช่แค่พลเอกเรวทัตและพุดตา
เห็นว่าทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า เรวทัตก็เลยยังไม่พูดอะไรอีก เพราะคดีเก่ายังไม่เคลียร์"อยู่พร้อมหน้ากันก็ดีแล้ว พ่อจะย้ายกลับมาอยู่บ้านหลังนี้แล้วนะ"เรวทัตพูดจบ ลูกๆ ต่างก็มองดูหน้าคนเป็นแม่มันคงเป็นเวรกรรมของนางที่เคยสร้างไว้กับผู้ชายคนนี้ตั้งแต่ชาติปางก่อน ชาตินี้ก็เลยต้องได้ตามมาชดใช้กรรม หนีไปไหนก็คงจะหนีไม่พ้นแล้ว"บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณ คุณจะมาอยู่ใครจะว่าอะไรได้ล่ะคะ"เรวทัตอยากได้ยินคนตรงหน้าเรียกว่าคุณพี่เหมือนเดิม แต่คงต้องใช้เวลา เพราะตัวเองทำไว้กับนางเยอะ"หือ รามิล" มองเข้าไปด้านในก็เห็นลูกสะใภ้คนโตกำลังอุ้มหลานชายเดินออกมา เรวทัตก็เลยเดินเข้าไปหาหลานพอคนเป็นพ่อไปแล้ว ลูกๆ ที่ยังยืนอยู่ตรงนั้นต่างก็มองดูหน้าแม่อีกครั้ง นาทีนี้ไม่มีใครน่าสงสารเท่าท่านอีกแล้ว"แม่ไม่เป็นอะไรหรอก เข้าไปข้างในกันเถอะ" แค่นี้นางก็รู้แล้วว่าสามีคงจะหย่าจริง เพราะถ้าไม่งั้นคงไม่บอกว่าจะกลับมานอนบ้านหลังนี้ นางรนหาที่เอง คิดว่าท่านจะไม่กล้าหย่าดาราสาวสวยคนนั้นทุกคนเข้าไปแล้ว เมขลาก็หันกลับมากุมมือเพลิงไว้ "เรายังจะเป็นเหมือนเดิม อย่าคิดมากนะคะ" เมขลารู้ดีว่าเพลิงคิดว่าตัวเองต่ำต้อย"ผมจะไม่ถอ
"ผมมาคิดทบทวนเรื่องของเราดูแล้ว""ท่านไม่สบายหรือเปล่าคะ" แพรวพราวเริ่มใจไม่ดี แต่ก็ยังคงส่งรอยยิ้มหวานๆ ให้ แบบใจดีสู้เสือ"เราหย่ากันเถอะ""คุณพี่!!""ผมจะให้ทุกอย่างที่คุณอยากได้ ผมขอแค่ให้คุณเซ็นใบหย่า""ไม่มีทางค่ะ กว่าเราจะฝ่าฟันความรักของเรามาด้วยกันได้ ทำไมคุณพี่ถึงทำแบบนี้กับแพรวคะ""ผมให้เกียรติคุณถึงได้มาคุยก่อน หรืออยากจะคุยผ่านทนายของผมล่ะ""แพรวรักท่าน ยอมอุ้มท้องลูกของท่าน ถึงแม้จะถูกใครตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี""เรื่องลูกผมก็ยังจะส่งเสียเลี้ยงดู""แพรวไม่ได้ต้องการแบบนั้นสักหน่อย ใครคะ..ท่านมีใครใหม่อีกเหรอคะ""เรื่องนั้นไม่เกี่ยว เรามาคุยเรื่องของเราก่อน""เรื่องของเรา แพรวไม่หย่า!""ผมมาคุยกับคุณดีๆ แล้วนะ หลังจากนี้คุณก็คุยกับทนายของผมแล้วกัน และสิ่งที่คุณอยากได้ก็อย่าฝันว่าจะได้""ท่านอย่าบอกนะว่าจะกลับไปหามันอีก""ผมเพิ่งรู้ว่ารักภรรยา""รักภรรยาอย่างนั้นเหรอคะ แล้วที่ผ่านมาล่ะผู้หญิงนับสิบนับร้อยยังจะเรียกว่ารักภรรยาได้อยู่อีกเหรอคะ!" แต่ดูเหมือนเรวทัตจะไม่ฟังอะไรอีก เพราะตอนนี้เดินไปที่รถแล้ว "กรี๊ดดดด!!""คุณแม่เป็นอะไรคะ" มโนราห์ได้ยินเสียงร้องก็รีบลงมาดู"
"??" เมขลาได้ยินทุกคำพูดของแม่ใหญ่ที่พูดกับ.. แม้แต่คิดยังไม่กล้าเอ่ยชื่อในใจเลย คนที่ไม่ต้องการเธอ..เธอก็ไม่ต้องการคนแบบนั้นเช่นกัน"หนูเมย์" ยืนมองตามสามีเก่าไปครู่หนึ่ง พอหันกลับมาก็เจอเมขลาอยู่ตรงมุมบันได"คุณแม่ทำแบบนั้นทำไมคะ""บางทีมันอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเราก็ได้""น้องเมย์ไม่เห็นด้วยค่ะ""แต่เขาคือ..." นางกำลังจะพูดว่าแต่นั่นคือพ่อแท้ๆ ของเมขลาเลยนะ"น้องเมย์ไม่อยากให้คุณแม่กลับไปเจอวังวนเก่าๆ อะไรที่เราสลัดทิ้งไปได้แล้ว ก็ปล่อยมันไปเถอะค่ะ"ทำไมเด็กอายุยังไม่ถึง 20 ถึงคิดได้กว่านาง ถ้านางใช้แค่หัวใจคิดก็คงจะกลับมาในวังวนเดิม แต่ถ้าใช้สมอง ปล่อยให้ทุกอย่างมันผ่านไป มันอาจจะดีกว่านี้ก็ได้"แล้วแม่ต้องทำยังไง"เมขลามองใบหน้าผู้หญิงที่กาลเวลาไม่สามารถทำร้ายนางได้ เพราะถ้าเดินไปกับเธอทุกคนคงคิดว่าพี่กับน้อง ดวงตาของนางคลอไปด้วยม่านน้ำตาที่บดบัง ถึงแม้เธอจะอายุยังน้อย แต่ก็พอดูออกว่าท่านยังคงรักผู้ชายคนนั้นอยู่"ถ้าเขาคนนั้นกลับมา ทำให้คุณแม่ต้องทุกข์ใจอีก คุณแม่จะรับได้ไหมล่ะคะ" เพราะยังไงคนเดิมก็คงทำอะไรเหมือนเดิม ถ้าไม่งั้นคงไม่ออกไปไข่ไว้นอกบ้านจนทั่วแบบนี้"แม่ขออยู่คน
คฤหาสน์พลเอกเรวทัต"ดีใจจังเลยค่ะที่คุณผู้หญิงกลับมา""สบายดีกันไหม" กลับมาที่นี่ถึงสองครั้ง แต่ไม่ได้ถามสารทุกข์สุขดิบกันเลย เพราะแค่เห็นหน้าสามีเก่าก็ไม่มีอารมณ์ถามใครแล้ว"ไม่สบายก็ตรงที่คิดถึงคุณผู้หญิงนั่นแหละค่ะ""ปากหวานเหมือนเดิมนะพวกเราเนี่ย ช่วยกันเอาของเข้ามาข้างในก่อน""เดี๋ยวผมทำเองครับ" เพลิงซึ่งทำหน้าที่ขับรถรีบเดินไปเปิดกระโปรงหลัง"ฉันช่วยค่ะ" เมขลากำลังจะไปช่วยยกของแต่ถูกเพลิงห้ามไว้"เอาของขึ้นไปไว้ข้างบนเลย แม่ให้คนจัดห้องให้แล้ว""ครับ" ชายหนุ่มหิ้วกระเป๋าขึ้นไปที่ชั้นบน โดยมีหญิงคนรักเดินตามไป ส่วนของที่เหลือพวกแม่บ้านช่วยกันคนละไม้คนละมือกึก.."อืม" หญิงสาวตกใจเดินพ้นประตูเข้ามาเขาก็ปิดแล้วล็อกมันไว้ ไม่ได้ทำแค่นั้นเพลิงยังหันมาจูบพอหายตกใจเมขลาก็จูบกลับ คิดว่าคงไม่มีใครเข้ามาในห้องนี้ เพราะของที่เหลือเป็นของแม่ใหญ่คิดว่าจะจูบไม่นานพอให้หายคิดถึง ถ้าได้แยกกันอยู่จริง แต่นี่ขนาดจูบอยู่ยังคิดถึง"ผมรักคุณนะ" นิ้วแกร่งเขี่ยแก้มของหญิงคนรักเบาๆ "อยู่ที่นี่ห้ามดื้อเข้าใจไหม""คุณก็ห้ามแอบไปเที่ยวที่ไหนนะคะ""ไม่ไปไหนหรอก"ทั้งสองพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่งก็ลงมา.."พี่
"คุณไม่มีพันธะ แต่คุณไม่คิดเหรอกว่าเกษมอาจจะมีพันธะอยู่ก็ได้"พุดตาลเงียบไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินประโยคนั้นจากสามีเก่า มันก็มีส่วนอยู่บ้าง พลเอกเกษมราษฎร์ตำแหน่งใหญ่โตขนาดนั้น แถมภรรยาก็ตายจากไปนานแล้ว"เรื่องนั้นฉันคงไม่ให้ท่านต้องมาลำบากใจด้วยหรอกค่ะ..กลับกันเถอะลูก"พลเอกเรวทัตได้แต่มองตามหลังนางไป ทันใดนั้นก็คิดอะไรขึ้นมาได้"คนนี้ใช่ไหม ที่เป็นลูกของนวล" เรวทัตรีบเดินตามทั้งสองมาที่รถจากที่กำลังจะเปิดประตูพุดตาลถึงกับชะงัก"ผมจะรับลูกคนนี้กลับมาเลี้ยงเอง""??" พอประโยคนี้ออกจากปากพลเอกเรวทัต ทั้งสองที่ยืนหันหลังให้ ก็ได้หันกลับมามองพร้อมกัน "คุณหมายความว่ายังไง""ในเมื่อเด็กคนนี้เป็นลูกอีกคนของผม มันก็ไม่แปลกที่ผมจะรับลูกกลับมาเลี้ยงเอง"พุดตาลรีบจับเมขลาหลบไว้ด้านหลังของตัวเองก่อน "เสียใจด้วยค่ะ แต่ตอนนี้เมขลาเป็นลูกของดิฉันแล้ว""คุณแน่ใจเหรอว่าจะพูดเรื่องสิทธิ์เลี้ยงดูเด็กคนนี้กับผม"เมขลาส่ายหน้าเล็กน้อยเพื่อบอกกับแม่พุดตาลว่าเธอไม่ไป"แม่ไม่ยอมให้หนูไปอยู่แล้ว เรากลับบ้านกัน" นางรีบหันกลับไปเปิดประตูรถ เพื่อให้เมขลาได้ขึ้นไปนั่งก่อน"ถ้าคุณชอบขึ้นโรงขึ้นศาล ไม่เป็นไรนะผมจัดให