Share

ตอนที่ 3 กล่องไม้และความทรงจำที่หายไป

Author: Abyssgloom
last update Last Updated: 2024-12-20 07:38:10

เสียงคลื่นซัดเบาๆ คลอเคลียไปกับฝีเท้าของทั้งสองที่ย่ำผ่านผืนทราย พวกเขาเดินเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไร หญิงสาวเหลือบมองคู่เดินของเธอเป็นระยะ สีหน้าของชายหนุ่มดูจริงจังราวกับกำลังพยายามปะติดปะต่อบางสิ่งที่กระจัดกระจายอยู่ในหัว

“นายคิดอะไรอยู่หรือเปล่า?” เธอถามขึ้นในที่สุดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

เขาหันมามองเธอเล็กน้อยก่อนส่ายหน้า “เปล่า แค่…พยายามคิดว่าเราควรทำอะไรต่อ”

ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงจุดที่เธอพูดถึง ลังไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากแนวคลื่น มันเต็มไปด้วยคราบเกลือและรอยเปียกชื้นจากน้ำทะเล เขาคุกเข่าลงสำรวจมันอย่างระมัดระวัง ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา

“มันถูกปิดล็อคอย่างแน่นหนาเลย…” ชายหนุ่มลองเขย่าฝาลังเบาๆ ก่อนจะถอนหายใจ “คงต้องหาวิธีเปิด”

หญิงสาวกวาดตามองไปรอบๆ ก่อนที่สายตาของเธอจะสะดุดกับบางสิ่ง “เดี๋ยวก่อนนะ… ตรงนั้น” เธอชี้นิ้วไปทางเงาร่มไม้ที่บดบังมุมสายตา

เขาหันไปมองตามที่เธอชี้ เห็นกระโจมผ้าเล็กๆ เก่าโทรมเหมือนถูกปล่อยทิ้งไว้นาน ตั้งอยู่ใต้ร่มไม้ห่างออกไปไม่ไกลนัก

“นั่นมัน… กระโจม?” ชายหนุ่มพูดขึ้นเสียงแผ่ว ความสงสัยสะท้อนในน้ำเสียง ดวงตาจับจ้องไปยังสิ่งปลูกสร้างเล็กๆ ที่ปรากฏอยู่ใต้ร่มไม้

“ไม่แน่ใจ แต่ดูเหมือนจะถูกทิ้งร้างพอสมควร” หญิงสาวตอบพลางส่ายหน้าเล็กน้อย น้ำเสียงของเธอเรียบนิ่งแต่ฟังดูแฝงความระมัดระวัง “ตอนนายสลบอยู่ ฉันเดินไปดูมาแล้ว ข้างในมีเครื่องมืออยู่พอสมควร”

เขายังคงมองกระโจมนั้นด้วยสีหน้าครุ่นคิด “บางทีเราน่าจะหาอะไรที่ใช้ได้จากที่นั่น”

เธอพยักหน้า และทั้งสองจึงเริ่มเดินตรงไปยังจุดที่เธอบอก

เมื่อพวกเขาเข้าใกล้ กระโจมผ้าเบื้องหน้าก็เผยรายละเอียดมากขึ้น มันไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็ไม่เล็กจนเกินไป โครงสร้างดูเหมือนฝีมือของมือสมัครเล่น เสาไม้ที่ยึดผ้าโค้งงอเล็กน้อยแต่ยังมั่นคง ผ้าคลุมซีดจางจนเกือบขาว มีรอยขาดและคราบน้ำเกลือกระจายอยู่ทั่ว กระโจมนี้สูงพอที่จะยืนข้างในได้โดยไม่ต้องก้ม

ชายหนุ่มหยุดยืนอยู่หน้ากระโจม ดวงตาของเขากวาดมองไปรอบบริเวณ ความรู้สึกคุ้นเคยบางอย่างแทรกซึมเข้ามาในใจ แม้เขาจะมั่นใจว่าไม่เคยเห็นสถานที่นี้มาก่อน

“แปลกจริง…” เขาพึมพำ

“มีอะไรรึเปล่า?” หญิงสาวถาม ขณะที่สังเกตอาการของเขา

“ไม่มีอะไรหรอก เข้าไปดูกันเถอะ” เขาตอบเรียบๆ แต่ในใจยังคงว้าวุ่นกับความรู้สึกประหลาดนี้

เธอเปิดม่านผ้าที่ปิดกระโจมเล็กน้อยเพื่อให้แสงลอดเข้าไป ภายในมีลังไม้เล็กๆ หลายใบวางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ ข้างๆ มีตะเกียงน้ำมันเก่า เชือก และมีดพกวางอยู่บนพื้น

“ดูเหมือนจะมีของที่ยังใช้ได้อยู่บ้าง” หญิงสาวพูดเบาๆ ขณะกวาดตามองรอบๆ

ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้ลังไม้เล็กๆ ที่วางอยู่กลางกระโจม เขาชะงักเมื่อเห็นแฉลงพาดอยู่ข้างลังนั้น เขาหยิบมันขึ้นมา หมุนดูในมืออย่างครุ่นคิด น้ำหนักและสัมผัสของมันให้ความรู้สึกคุ้นเคยในแบบที่เขาเองก็ไม่เข้าใจ

“แฉลงนี่ดูน่าสนใจ…” เขาพึมพำเบาๆ พลางหมุนมันไปมาในมือ

เธอยืนอยู่ข้างๆ มองเขาด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความสงสัย ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสบายๆ เหมือนเพียงต้องการเริ่มบทสนทนา

“ของพวกนี้ดูเหมือนยังใหม่อยู่นะ… นายคิดว่าคนที่อยู่ที่นี่ก่อนเราเป็นใคร?”

เขาชะงัก มือที่จับแฉลงหยุดนิ่งไปชั่วครู่ มองมันอย่างครุ่นคิดก่อนตอบเรียบๆ “ไม่รู้สิ… บางทีพวกเขาอาจถูกช่วยเหลือแล้ว เลยไม่ได้กลับมาเอาของไป”

“งั้นเหรอ…” เธอตอบ แต่สายตายังคงจับจ้องที่แฉลงในมือของเขา เธอเอียงคอเล็กน้อย พลางพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนไม่ได้ตั้งใจนัก

“แต่นายถือมันดูถนัดดีนะ เหมือนเคยใช้มาก่อนเลย”

เขาชะงักอีกครั้ง คราวนี้นานกว่าเดิม เหลือบตามองเธอเล็กน้อย ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้เป็นปกติ “ไม่หรอก… มันแค่จับง่ายเฉยๆ ฉันจำไม่ได้เลยว่าเคยใช้อะไรแบบนี้”

เธอไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่แววตาเต็มไปด้วยความสงสัยที่ปิดไม่มิด เธอเหลือบมองเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ ริมฝีปากเม้มเล็กน้อยเหมือนกำลังกลั้นคำพูดบางอย่างไว้

เขาหลบสายตาของเธอ ยักไหล่เล็กน้อยแล้วหันกลับไปสำรวจแฉลงในมืออีกครั้ง

“น่าจะช่วยเปิดลังที่ชายหาดได้” เขาพูดตัดบท พร้อมทดลองหมุนมันในมือเพื่อหาท่าที่จับถนัดที่สุด

หญิงสาวเฝ้ามองเขาด้วยสายตาที่เหมือนกำลังค้นหาบางสิ่ง เธอพยักหน้าเบาๆ “อืม ไปลองดูกันเถอะ”

ชายหนุ่มพยักหน้า หันหลังกลับไปเดินนำทางออกจากกระโจม หญิงสาวมองตามเขาเงียบๆ ก่อนจะสูดลมหายใจลึก ตั้งสติ แล้วก้าวเดินตามไป มุมปากของเธอคลี่ยิ้มบางเบา

แม้เขาจะพยายามกลบเกลื่อน แต่ท่าทางที่แสดงออกกลับบ่งบอกชัดเจน ทั้งสายตาและการเคลื่อนไหวที่ดูคล่องแคล่ว บอกเธอได้มากกว่าคำพูดใดๆ

เธอมองแผ่นหลังของเขาที่เดินนำอยู่ข้างหน้า ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างความยินดีและความหวังเล็กๆ ที่เพิ่งก่อตัวขึ้น

สายลมอ่อนพัดผ่านเส้นผมสีขาวของเธอที่ปลิวไหว บรรยากาศรอบตัวพวกเขายังคงเต็มไปด้วยเสียงคลื่นกระซิบที่เหมือนจะร่วมเป็นสักขีพยานให้กับช่วงเวลานี้…

ในห้องลับใต้ดินที่เย็นเยียบและไร้แสงธรรมชาติ รอบด้านมีเพียงโต๊ะไม้สีเข้มเรียบหรูและเก้าอี้ที่จัดวางอย่างมีระเบียบ แสงสลัวจากหน้าจอขนาดใหญ่เป็นแหล่งกำเนิดแสงเดียวในห้องนั้น ทั้งสามคนจับจ้องภาพบนหน้าจอ—ภาพจากกล้องตัวจิ๋วที่แอบติดตั้งไว้บนเกาะร้าง ทุกความเคลื่อนไหวถูกจับตามองจากที่แห่งนี้

“น่าแปลก...” เสียงเบาๆ ของหญิงคนหนึ่งดังขึ้น เธอมองภาพชายหนุ่มบนจอด้วยความสงสัย ดวงตาหยุดอยู่ที่ท่าทางสงบนิ่งผิดวิสัย “เขาดู... ใจเย็นเกินไปนะ ทั้งๆที่เพิ่งรู้ว่าติดอยู่บนเกาะร้างแท้ๆ แต่เขากลับไม่ดูตื่นตระหนกเลยสักนิด”

“หึ ก็เพราะจิตใต้สำนึกยังไงล่ะ!” เสียงแหลมของชายอีกคนแทรกขึ้นทันที ราวกับพอใจกับคำตอบที่ตัวเองคิดได้ เขายิ้มมุมปาก ท่าทีเหมือนผู้เชี่ยวชาญที่ชอบอวดภูมิ “เพราะเขาเคยอยู่ที่นี่มาก่อน ความคุ้นเคยมันฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกจนเขาไม่รู้ตัว เลยไม่รู้สึกกังวล... หรือไม่ก็เพราะฝีมือการสะกดจิตของฉันยอดเยี่ยมเกินไป!”

เขาหัวเราะเบาๆ พลางเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ “แต่เธอรู้ไหม อะไรที่ทำให้ฉันประหลาดใจกว่าเขาอีก?”

เขามองไปทางหญิงคนแรกอย่างยียวน แต่ไม่ได้รอคำตอบ ก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงขี้เล่น “คุณหนูของพวกเธอน่ะสิ! ตอนแรกเธอดูห่วงเขาจนฉันนึกว่าจะต้องล้มแผนแล้ว แต่พอถึงเวลาจริง กลับนิ่งสนิท ราวกับนักแสดงมืออาชีพ... น่าทึ่งจริงๆ”

เสียงทุ้มต่ำจากชายอีกคนที่ยืนอยู่ในมุมห้องดังขึ้นอย่างสุขุม ขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงมั่นคง “มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอก คุณหนูของเราเตรียมพร้อมทุกอย่างไว้หมดแล้ว”

ชายเสียงแหลมหันมามองเขาทันที แววตาสงสัยปนท้าทาย “ว่าไงนะ? หมายความว่าอะไร?”

ชายคนนั้นยิ้มบางๆ ก่อนอธิบายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ตลอดเดือนที่ผ่านมา คุณหนูฝึกหนักมาก เธอเรียนรู้ทุกอย่าง ทั้งการเอาตัวรอด การควบคุมอารมณ์ ทุกอย่างที่นายท่านกำหนดไว้ เธอทำทั้งหมดเพื่อเป้าหมายเดียว... เพื่อให้นายท่านยอมรับคำขอของเธอ”

เขาหยุดไปเล็กน้อย ราวกับให้เวลาอีกฝ่ายซึมซับคำพูด ก่อนเสริมด้วยความภาคภูมิ “เธอเปลี่ยนตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ”

ชายเสียงแหลมพูดเบาๆ แววตาเจือความสนุก “โอ้ ดูเหมือนพวกคุณจะภูมิใจในตัวคุณหนูเหลือเกินนะ”

เขาเอนตัวกลับพิงพนักเก้าอี้ สายตายังคงจับจ้องที่ภาพบนจอ ก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“แต่ฉันยังยืนกรานว่าเราควรปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวสักสองสามวันตามแผนเดิม มันจะได้อิงจากสิ่งที่เกิดขึ้นกว่านี้”

หญิงคนแรกตอบกลับแทบจะทันที น้ำเสียงจริงจังขึ้น “เพราะคุณหนูไม่อยากปล่อยให้เขาโดดเดี่ยวอีกแล้วต่างหาก เธอห่วงเขามาก... และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ดีพอแล้ว”

ชายที่ยืนอยู่ข้างๆยิ้มเล็กน้อยโดยไม่ได้พูดอะไร ราวกับเห็นด้วย

ชายเสียงแหลมกลับมาพูดอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงเบาลง ราวกับพึมพำกับตัวเอง “ก็หวังว่าทุกอย่างจะไปได้สวย...”

เสียงกระซิบจากหญิงอีกคนดังขึ้นแผ่วเบา “...คุณคิดว่าเขาจะจำอะไรได้ไหม?”

คำตอบของชายเสียงแหลมนั้นเรียบนิ่ง แต่แฝงนัยลึก “มันก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของคุณหนูนั้นแหละ เธอเลือกที่จะไม่ทำตามสิ่งที่เคยเกิดขึ้น แต่กลับทำในสิ่งที่ต่างออกไปจากเดิม ฉันคิดว่าเธอกลัว... กลัวว่าถ้าเขาจำได้ เขาอาจจะไม่ชอบเธอ”

แสงจากหน้าจอสะท้อนใบหน้าของทุกคนในห้อง บนจอปรากฏภาพชายหญิงคู่หนึ่งเดินเคียงคู่กันท่ามกลางแสงแดดสีทอง ภาพนั้นดูราวกับเป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่ง... หรืออาจเป็นจุดสิ้นสุดที่รออยู่

Related chapters

  • เพราะช่วยเธอไว้ แต่จำอะไรไม่ได้ เลยโดนหลอกให้กลับไปติดเกาะ   ตอนที่ 4 YES/NO

    แสงแดดอ่อนๆ เริ่มลดความแรงลงเมื่อพวกเขายกของในกล่องออกมาเรียงไว้บนพื้นทราย เสียงคลื่นที่ซัดสาดเข้าฝั่งเป็นจังหวะ มีกลิ่นอายของทะเลที่โชยมาเบาๆ ขณะที่ทั้งสองกำลังตรวจสอบสิ่งที่อยู่ในลังไม้"เต็นท์สองอัน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารซองพร้อมทาน ข้าวสาร ไฟแช็ค แล้วก็...นี่อะไร?" ชายหนุ่มพูดพลางหยิบเครื่องบดกาแฟแบบมือออกมาพลิกดูด้วยความงุนงง "ลูกคุณหนูที่ไหนมาจำลองการติดเกาะกันเนี่ย? สั่งมากระทั่งของแบบนี้...แล้วนี่อะไรอีก?"มือของเขาเอื้อมหยิบถุงเมล็ดกาแฟที่ทับอะไรบางอย่างอยู่ เผยให้เห็นเครื่องกรองน้ำพกพาขนาดเล็กหลายอัน ก่อนจะหลุดปาก "โอ้โห เมล็ดกาแฟยี่ห้อดัง...แถมตัวกรองน้ำพกพาก็มี? พร้อมใช้ชีวิตอยู่บนเกาะจริงๆ เลยน้า"เสียงบ่นแบบติดตลกของเขาทำให้หญิงสาวที่กำลังจัดของอยู่อีกมุมสะดุ้งเล็กน้อย ใบหน้าที่ก้มอยู่เหนือกระเป๋าเริ่มมีสีแดงเรื่อ แต่เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้มองอยู่ เธอรีบก้มหน้าทำทีเหมือนตั้งใจจัดของต่อ"ใจเย็นเข้า ต้องเก็บสีหน้าเอาไว้ อย่าให้เขาจับได้ แค่เตรียมมาดีเกินไปหน่อยเท่านั้นเอง" เธอบอกตัวเองในใจ ขณะพยายามข่มความรู้สึกเขินอายที่ค่อยๆ พอกพูนขึ้น เธอหายใจลึกๆ พลางคิดว่าความสนใจของเ

    Last Updated : 2024-12-24
  • เพราะช่วยเธอไว้ แต่จำอะไรไม่ได้ เลยโดนหลอกให้กลับไปติดเกาะ   ตอนที่ 5 ค่ำคืนที่ไม่มีคำตอบ

    แสงยามเย็นทอดตัวลงบนพื้นทรายอุ่นๆ ขณะที่เขากำลังจัดการกางเต็นท์ ลมทะเลที่พัดมาอ่อนๆชวนให้รู้สึกสงบ แต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกแปลกๆ สถานที่นี้ดูเหมือนแปลกใหม่สำหรับเขา ทว่ากลับมีบางสิ่งที่ให้ความรู้สึกคุ้นเคยโดยที่เขาเองก็บอกไม่ได้ว่าทำไมเขามองกระโจมผ้าใกล้ๆ ที่เธอกำลังยุ่งอยู่กับเตรียมอาหาร กลิ่นไอทะเลที่โชยมากับสายลมผสมกับกลิ่นของเตาแก๊สเล็กที่เธอเพิ่งจุดขึ้น ท่าทางของเธอท่ี่ดูชำนาญ กลับทำให้เขารู้สึกพิลึก“ฉันยังไม่ได้สอนเธอใช้เตาแก๊สเลย….จะเป็นอะไรไหมน่ะ?”ชายหนุ่มที่กำลังมองเธออยู่ ก็รู้สึกตกใจกับความคิดของตัวเอง เราสองคนพึ่งจะเจอกันแท้ๆ แต่ทำไมถึงคิดว่าเธอจะใช้ของแบบนั้นไม่เป็น?เขาพยายามขับไล่ความคิดแปลกๆนั้นออก ก่อนที่จะทำงานของตัวเองต่อ เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอเรียกเขามาที่โต๊ะเล็กตรงกลาง บนโต๊ะมีถ้วยอาหารสองถ้วยวางอยู่ พร้อมช้อนส้อมที่เธอยื่นให้“นี่ กินก่อนสิ จะได้มีแรง”เขามองอาหารในถ้วยด้วยความลังเล ราวกับสัญชาตญาณบางอย่างกำลังส่งเสียงเตือนอยู่ลึกๆ แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกเช่นนั้น มันเป็นแค่อาหารอุ่นร้อนธรรมดา ไม่มีอะไรน่าสงสัย หน้าตาของมันก็ดูปกติ“ไม่

    Last Updated : 2025-01-07
  • เพราะช่วยเธอไว้ แต่จำอะไรไม่ได้ เลยโดนหลอกให้กลับไปติดเกาะ   ตอนที่ 1 เสียงสะอื้น

    โต๊ะไม้กลางห้องเต็มไปด้วยแก้วพลาสติก ซองขนม และขวดเครื่องดื่มที่ถูกเปิดทิ้งไว้ กลุ่มเพื่อนสนิทสี่คนนั่งล้อมวงกันอยู่ เสียงหัวเราะและบทสนทนาเติมเต็มค่ำคืนสบายๆ ของพวกเขาชายหนุ่มนั่งเอนหลังบนเก้าอี้ มือหนึ่งถือแก้วเครื่องดื่ม อีกมือพาดพนักอย่างผ่อนคลาย แต่แววตาของเขาเหมือนมีเรื่องราวที่ยังค้างคาอยู่ในใจ"เรน นายไม่คิดจะตอบกลับอะไรเธอหน่อยเหรอ?”คีย์ถามขึ้น พลางยกแก้วจิบเล็กน้อย ใบหน้าเจือด้วยความสงสัย“เรื่องของคุณหนูคนนั้นน่ะ…. เธออุตส่าห์ลดตัวเข้าหานายเลยน่ะ จะปล่อยผ่านไปจริงๆเหรอ?”ชายหนุ่มได้ยินดังนั้น แต่เขาเพียงหัวเราะตอบเบาๆ ยกแก้วจิบช้าๆ ส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ“ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย ผ่านไปสักเดือนเดี่ยวเธอก็ยอมแพ้ไปเอง”“นายคิดอย่างงั้นจริงๆหรอ?” ท็อปพิงโซฟา ถามเสียงขรึม “นี่นายจำไม่ได้ หรือแกล้งทำเป็นลืมกันแน่?”จุนที่นั่งข้างๆ พยักหน้าเสริม “ใช่ นายลืมทุกอย่างจริงๆ หรือไง? เกี่ยวกับเกาะร้าง และ ทริปทะเลนั่นอีก...”คำพูดของพวกเขาทำให้ชายหนุ่มเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“ก็อย่างที่เคยบอก จำได้แค่ว่าตกเรือ...แล้วก็หมดสติไป รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว”คีย์ว

    Last Updated : 2024-12-19
  • เพราะช่วยเธอไว้ แต่จำอะไรไม่ได้ เลยโดนหลอกให้กลับไปติดเกาะ   ตอนที่ 2 เสียงที่สะท้อนในใจ

    "โอเคครับ! เสร็จสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ!" เสียงแหลมสูงประกาศด้วยน้ำเสียงภูมิใจเกินพอดี ราวกับเพิ่งสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่จะเปลี่ยนโลกได้สำเร็จ "แค่พูดคำคีย์เวิร์ดครบสามครั้ง คุณผู้ชายก็จะฟื้นขึ้นมาทันทีครับ คุณหนู!""จริงๆ ไม่มีคำอื่นที่มันฟังดูดีกว่านี้แล้วเหรอ?" เสียงทุ้มต่ำของอีกคนดังขึ้นทันควัน พร้อมถอนหายใจแรง "ทำไมต้องให้คุณหนูของเราพูดคำว่า 'จังโก้' ด้วย?""อ้าว! 'จังโก้' มันไม่ดีตรงไหนครับ?" เจ้าของเสียงแหลมสูงรีบโต้ตอบอย่างไม่ยอมแพ้ "ง่าย จำง่าย แถมมีเสน่ห์สุดๆ ไปเลยนะครับ!""เสน่ห์บ้าอะไรของคุณ!" เสียงทุ้มตะโกนสวนด้วยความหงุดหงิด "ทำไมไม่เลือกอะไรที่มันดูสมาร์ตกว่านี้ อย่าง 'ลูมิน่า' หรือ 'ออโรร่า' บ้าง?""พอเถอะครับ" เสียงนุ่มนวลของชายอีกคนแทรกขึ้นอย่างสงบ "คุณทั้งสองจะทะเลาะกันอีกนานแค่ไหน? ถ้าพูดครบสามครั้งโดยไม่ตั้งใจ แล้วผิดแผนขึ้นมาจะทำยังไง?"กลุ่มคนค่อยๆ สงบลง ขณะที่อากาศร้อนระอุรอบตัวทำให้เหงื่อเริ่มซึมตามไรผมของพวกเขา หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงกลางสูดลมหายใจลึก พยายามตั้งสติ เธอหันไปมองร่างที่นอนนิ่งอยู่ตรงหน้า"คุณหนู... พร้อมหรือยังครับ? ถ้าพร้อมแล้ว พวกเราจะออกไปก่อน"หญิงสาว

    Last Updated : 2024-12-19

Latest chapter

  • เพราะช่วยเธอไว้ แต่จำอะไรไม่ได้ เลยโดนหลอกให้กลับไปติดเกาะ   ตอนที่ 5 ค่ำคืนที่ไม่มีคำตอบ

    แสงยามเย็นทอดตัวลงบนพื้นทรายอุ่นๆ ขณะที่เขากำลังจัดการกางเต็นท์ ลมทะเลที่พัดมาอ่อนๆชวนให้รู้สึกสงบ แต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกแปลกๆ สถานที่นี้ดูเหมือนแปลกใหม่สำหรับเขา ทว่ากลับมีบางสิ่งที่ให้ความรู้สึกคุ้นเคยโดยที่เขาเองก็บอกไม่ได้ว่าทำไมเขามองกระโจมผ้าใกล้ๆ ที่เธอกำลังยุ่งอยู่กับเตรียมอาหาร กลิ่นไอทะเลที่โชยมากับสายลมผสมกับกลิ่นของเตาแก๊สเล็กที่เธอเพิ่งจุดขึ้น ท่าทางของเธอท่ี่ดูชำนาญ กลับทำให้เขารู้สึกพิลึก“ฉันยังไม่ได้สอนเธอใช้เตาแก๊สเลย….จะเป็นอะไรไหมน่ะ?”ชายหนุ่มที่กำลังมองเธออยู่ ก็รู้สึกตกใจกับความคิดของตัวเอง เราสองคนพึ่งจะเจอกันแท้ๆ แต่ทำไมถึงคิดว่าเธอจะใช้ของแบบนั้นไม่เป็น?เขาพยายามขับไล่ความคิดแปลกๆนั้นออก ก่อนที่จะทำงานของตัวเองต่อ เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอเรียกเขามาที่โต๊ะเล็กตรงกลาง บนโต๊ะมีถ้วยอาหารสองถ้วยวางอยู่ พร้อมช้อนส้อมที่เธอยื่นให้“นี่ กินก่อนสิ จะได้มีแรง”เขามองอาหารในถ้วยด้วยความลังเล ราวกับสัญชาตญาณบางอย่างกำลังส่งเสียงเตือนอยู่ลึกๆ แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกเช่นนั้น มันเป็นแค่อาหารอุ่นร้อนธรรมดา ไม่มีอะไรน่าสงสัย หน้าตาของมันก็ดูปกติ“ไม่

  • เพราะช่วยเธอไว้ แต่จำอะไรไม่ได้ เลยโดนหลอกให้กลับไปติดเกาะ   ตอนที่ 4 YES/NO

    แสงแดดอ่อนๆ เริ่มลดความแรงลงเมื่อพวกเขายกของในกล่องออกมาเรียงไว้บนพื้นทราย เสียงคลื่นที่ซัดสาดเข้าฝั่งเป็นจังหวะ มีกลิ่นอายของทะเลที่โชยมาเบาๆ ขณะที่ทั้งสองกำลังตรวจสอบสิ่งที่อยู่ในลังไม้"เต็นท์สองอัน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารซองพร้อมทาน ข้าวสาร ไฟแช็ค แล้วก็...นี่อะไร?" ชายหนุ่มพูดพลางหยิบเครื่องบดกาแฟแบบมือออกมาพลิกดูด้วยความงุนงง "ลูกคุณหนูที่ไหนมาจำลองการติดเกาะกันเนี่ย? สั่งมากระทั่งของแบบนี้...แล้วนี่อะไรอีก?"มือของเขาเอื้อมหยิบถุงเมล็ดกาแฟที่ทับอะไรบางอย่างอยู่ เผยให้เห็นเครื่องกรองน้ำพกพาขนาดเล็กหลายอัน ก่อนจะหลุดปาก "โอ้โห เมล็ดกาแฟยี่ห้อดัง...แถมตัวกรองน้ำพกพาก็มี? พร้อมใช้ชีวิตอยู่บนเกาะจริงๆ เลยน้า"เสียงบ่นแบบติดตลกของเขาทำให้หญิงสาวที่กำลังจัดของอยู่อีกมุมสะดุ้งเล็กน้อย ใบหน้าที่ก้มอยู่เหนือกระเป๋าเริ่มมีสีแดงเรื่อ แต่เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้มองอยู่ เธอรีบก้มหน้าทำทีเหมือนตั้งใจจัดของต่อ"ใจเย็นเข้า ต้องเก็บสีหน้าเอาไว้ อย่าให้เขาจับได้ แค่เตรียมมาดีเกินไปหน่อยเท่านั้นเอง" เธอบอกตัวเองในใจ ขณะพยายามข่มความรู้สึกเขินอายที่ค่อยๆ พอกพูนขึ้น เธอหายใจลึกๆ พลางคิดว่าความสนใจของเ

  • เพราะช่วยเธอไว้ แต่จำอะไรไม่ได้ เลยโดนหลอกให้กลับไปติดเกาะ   ตอนที่ 3 กล่องไม้และความทรงจำที่หายไป

    เสียงคลื่นซัดเบาๆ คลอเคลียไปกับฝีเท้าของทั้งสองที่ย่ำผ่านผืนทราย พวกเขาเดินเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไร หญิงสาวเหลือบมองคู่เดินของเธอเป็นระยะ สีหน้าของชายหนุ่มดูจริงจังราวกับกำลังพยายามปะติดปะต่อบางสิ่งที่กระจัดกระจายอยู่ในหัว“นายคิดอะไรอยู่หรือเปล่า?” เธอถามขึ้นในที่สุดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเขาหันมามองเธอเล็กน้อยก่อนส่ายหน้า “เปล่า แค่…พยายามคิดว่าเราควรทำอะไรต่อ”ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงจุดที่เธอพูดถึง ลังไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากแนวคลื่น มันเต็มไปด้วยคราบเกลือและรอยเปียกชื้นจากน้ำทะเล เขาคุกเข่าลงสำรวจมันอย่างระมัดระวัง ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา“มันถูกปิดล็อคอย่างแน่นหนาเลย…” ชายหนุ่มลองเขย่าฝาลังเบาๆ ก่อนจะถอนหายใจ “คงต้องหาวิธีเปิด”หญิงสาวกวาดตามองไปรอบๆ ก่อนที่สายตาของเธอจะสะดุดกับบางสิ่ง “เดี๋ยวก่อนนะ… ตรงนั้น” เธอชี้นิ้วไปทางเงาร่มไม้ที่บดบังมุมสายตาเขาหันไปมองตามที่เธอชี้ เห็นกระโจมผ้าเล็กๆ เก่าโทรมเหมือนถูกปล่อยทิ้งไว้นาน ตั้งอยู่ใต้ร่มไม้ห่างออกไปไม่ไกลนัก“นั่นมัน… กระโจม?” ชายหนุ่มพูดขึ้นเสียงแผ่ว ความสงสัยสะท้อนในน้ำเสียง ดวงตาจับจ้องไปยังสิ่งปลูกสร้างเล็กๆ ที่ปรากฏอยู่ใต้ร่มไม้“ไม

  • เพราะช่วยเธอไว้ แต่จำอะไรไม่ได้ เลยโดนหลอกให้กลับไปติดเกาะ   ตอนที่ 2 เสียงที่สะท้อนในใจ

    "โอเคครับ! เสร็จสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ!" เสียงแหลมสูงประกาศด้วยน้ำเสียงภูมิใจเกินพอดี ราวกับเพิ่งสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่จะเปลี่ยนโลกได้สำเร็จ "แค่พูดคำคีย์เวิร์ดครบสามครั้ง คุณผู้ชายก็จะฟื้นขึ้นมาทันทีครับ คุณหนู!""จริงๆ ไม่มีคำอื่นที่มันฟังดูดีกว่านี้แล้วเหรอ?" เสียงทุ้มต่ำของอีกคนดังขึ้นทันควัน พร้อมถอนหายใจแรง "ทำไมต้องให้คุณหนูของเราพูดคำว่า 'จังโก้' ด้วย?""อ้าว! 'จังโก้' มันไม่ดีตรงไหนครับ?" เจ้าของเสียงแหลมสูงรีบโต้ตอบอย่างไม่ยอมแพ้ "ง่าย จำง่าย แถมมีเสน่ห์สุดๆ ไปเลยนะครับ!""เสน่ห์บ้าอะไรของคุณ!" เสียงทุ้มตะโกนสวนด้วยความหงุดหงิด "ทำไมไม่เลือกอะไรที่มันดูสมาร์ตกว่านี้ อย่าง 'ลูมิน่า' หรือ 'ออโรร่า' บ้าง?""พอเถอะครับ" เสียงนุ่มนวลของชายอีกคนแทรกขึ้นอย่างสงบ "คุณทั้งสองจะทะเลาะกันอีกนานแค่ไหน? ถ้าพูดครบสามครั้งโดยไม่ตั้งใจ แล้วผิดแผนขึ้นมาจะทำยังไง?"กลุ่มคนค่อยๆ สงบลง ขณะที่อากาศร้อนระอุรอบตัวทำให้เหงื่อเริ่มซึมตามไรผมของพวกเขา หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงกลางสูดลมหายใจลึก พยายามตั้งสติ เธอหันไปมองร่างที่นอนนิ่งอยู่ตรงหน้า"คุณหนู... พร้อมหรือยังครับ? ถ้าพร้อมแล้ว พวกเราจะออกไปก่อน"หญิงสาว

  • เพราะช่วยเธอไว้ แต่จำอะไรไม่ได้ เลยโดนหลอกให้กลับไปติดเกาะ   ตอนที่ 1 เสียงสะอื้น

    โต๊ะไม้กลางห้องเต็มไปด้วยแก้วพลาสติก ซองขนม และขวดเครื่องดื่มที่ถูกเปิดทิ้งไว้ กลุ่มเพื่อนสนิทสี่คนนั่งล้อมวงกันอยู่ เสียงหัวเราะและบทสนทนาเติมเต็มค่ำคืนสบายๆ ของพวกเขาชายหนุ่มนั่งเอนหลังบนเก้าอี้ มือหนึ่งถือแก้วเครื่องดื่ม อีกมือพาดพนักอย่างผ่อนคลาย แต่แววตาของเขาเหมือนมีเรื่องราวที่ยังค้างคาอยู่ในใจ"เรน นายไม่คิดจะตอบกลับอะไรเธอหน่อยเหรอ?”คีย์ถามขึ้น พลางยกแก้วจิบเล็กน้อย ใบหน้าเจือด้วยความสงสัย“เรื่องของคุณหนูคนนั้นน่ะ…. เธออุตส่าห์ลดตัวเข้าหานายเลยน่ะ จะปล่อยผ่านไปจริงๆเหรอ?”ชายหนุ่มได้ยินดังนั้น แต่เขาเพียงหัวเราะตอบเบาๆ ยกแก้วจิบช้าๆ ส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ“ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย ผ่านไปสักเดือนเดี่ยวเธอก็ยอมแพ้ไปเอง”“นายคิดอย่างงั้นจริงๆหรอ?” ท็อปพิงโซฟา ถามเสียงขรึม “นี่นายจำไม่ได้ หรือแกล้งทำเป็นลืมกันแน่?”จุนที่นั่งข้างๆ พยักหน้าเสริม “ใช่ นายลืมทุกอย่างจริงๆ หรือไง? เกี่ยวกับเกาะร้าง และ ทริปทะเลนั่นอีก...”คำพูดของพวกเขาทำให้ชายหนุ่มเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“ก็อย่างที่เคยบอก จำได้แค่ว่าตกเรือ...แล้วก็หมดสติไป รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว”คีย์ว

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status