"ตอนนี้ที่โรงแรมของเราทุกสาขามีการจองห้องพักเต็มทุกห้องเลยครับ รวมถึงห้องสัมมนาที่จองไปจนถึงสิ้นปี"
เสียงฝีเท้าของทั้งสองคนดังขึ้นตามพื้นกระเบื้องมาเบิล ฟีลิกซ์ประธานบริษัทของโรงแรมในเครือพงศ์สกุลไพศาล ถือโทรศัพท์เดินนำหน้าออกไปก่อน โดยมีผู้ช่วยคนสนิทถือแฟ้มเอกสารเดินตามมา ระหว่างที่เดินไปขึ้นลิฟต์เขาก็ได้อธิบายเกี่ยวกับรายละเอียดของโรงแรมในเบื้องต้น อัพเดทความเคลื่อนไหวทุก ๆ สัปดาห์
"และก็จะมีคณะทัวร์จากต่างประเทศเข้าพักในช่วงเดือนหน้าด้วย ส่วนเดือนเมษายนจะมีแบรนด์กระเป๋าระดับโลกใช้โรงแรมของเราในการเปิดตัวแบรนด์ที่ประเทศไทย ซึ่งงานนี้ทางแบรนด์ได้เชิญท่านประธานเข้าร่วมด้วยนะครับ"
"ลงคิวไว้เลยแล้วก็ใกล้ ๆ ค่อยเตือนผมอีกทีหนึ่ง"
"ได้เลยครับท่านประธาน ว่าแต่ตอนนี้เราจะไปที่ไหนกันก่อนดีครับ"
"ไปแวะซื้อกาแฟก่อน แล้วเดี๋ยวฉันจะเข้าไปตรวจงานที่สาขาใหญ่ ไม่ต้องแจ้งไปทางผู้จัดการสาขาว่าผมจะเข้าไป เดี๋ยวจะเกณฑ์คนมาต้อนรับวุ่นวายกันไปหมด"
เขาเอ่ยออกมาก่อนจะยืนอยู่ตรงหน้าประตูลิฟท์ ใช้บัตรพนักงานแตะที่สแกน และเพียงไม่นานประตูลิฟต์ก็ถูกเปิดออก เขา และผู้ช่วยพากันเดินเข้าไปข้างใน กดลิฟต์ให้ลงไปยังชั้น 1 และในระหว่างทางก็เจอกับพนักงานคนอื่น ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่กล้าเดินเข้ามา แต่ทว่าชายหนุ่มเป็นบุคคลที่ไม่ถือตัว เป็นกันเองกับพนักงานทุกคน ทั้งที่ชั้นปกติจะมีลิฟท์ของผู้บริหารส่วนตัว แต่เขาก็ไม่ค่อยใช้เพราะอยากที่จะพบปะกับพนักงานอย่างใกล้ชิดมากกว่า
"สวัสดีค่ะท่านประธาน"
"สวัสดีครับทุกคน เป็นยังไงบ้างงานราบรื่นดีไหม ถ้าติดปัญหาตรงไหนแจ้งไปยังผู้ช่วยของผมได้เลยนะ"
"ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ ช่วงนี้งานค่อนข้างล้นมือเพราะว่าลูกค้าแน่นมากเลยค่ะ"
ชายหนุ่มก็คุยกับพนักงานด้วยน้ำเสียงปกติ เมื่อก่อนทุกคนจะรู้สึกเกร็งในการอยู่ใกล้เขา แต่ทว่าช่วงหลังชายหนุ่มค่อนข้างไม่ถือตัว คอยไถ่ถามพนักงานทุกคน จึงทำให้การทำงานที่สาขาใหญ่เป็นไปด้วยความราบรื่น และสนุกสนาน
"ตั้งใจทำงานแล้วกัน เดี๋ยวสิ้นปีนี้ผมจะประเมินโบนัสให้พนักงานทุกคนเพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องงานเลี้ยงประจำปี เดี๋ยวเรามาโหวตกันว่าจะจัดงานประมาณไหน"
และเมื่อทุกคนได้ยินคำว่าโบนัสก็ยิ้มออกมาแก้มปริ โดยปกติที่โรงแรมนี้ก็ให้โบนัสเยอะกว่าที่อื่นอยู่แล้ว พอมาเจอคำว่าเพิ่มขึ้นอีกทุกคนถึงกับดีใจจนออกนอกหน้า สำหรับคนรวยเงินจำนวนนั้นอาจจะไม่มาก แต่สำหรับพนักงานที่หาเช้ากินค่ำไม่ว่าจะเป็นเงินหลักพัน หรือหลักหมื่นทุกคนก็ดีใจกันมากที่ได้มา
"พวกเราจะตั้งใจทำงานให้เต็มที่เลยครับ"
"พวกเราก็เหมือนกันค่ะ ตั้งใจทำงานเพื่อให้โรงแรมของเราเป็นที่รู้จักทั่วโลกเลยค่ะ"
"พูดได้ดีเลยนะ"
ท่านประธานหนุ่มไฟแรงเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มกว้าง ก่อนจะก้าวขาเดินเอาไปจากลิฟท์เมื่อประตูถูกเปิดออกยังชั้น 1 จากนั้นเขา และผู้ช่วยก็เดินออกไปยังลานจอดเพื่อขึ้นรถ lamborghini คันหรู โดยที่ผู้ช่วยของเขาที่ชื่อตฤณเป็นคนขับให้
"ร้านกาแฟร้านประจำที่ท่านประธานชอบกินวันนี้เป็นวันหยุดนะครับ กินอีกร้านที่อยู่ข้างกันดีไหม"
"ร้านนั้นก็ได้ เดี๋ยววันนี้ฉันลงไปซื้อเองเผื่อจะดูขนมไปฝากแม่สักหน่อย"
"ได้เลยครับท่านประธาน"
ผู้ช่วยคนสนิทของเขาขับรถเข้าไปจอดยังลานจอดรถสปอร์ตตรงทางเข้า ซึ่งแยกจากรถปกติทั่วไปเนื่องจากว่ามีขนาดที่ใหญ่กว่ารถปกติ จึงทำให้ไม่สามารถจอดในช่องของรถทั่วไปได้ และเมื่อตฤณดับเครื่องยนต์สนิท ฟีลิกซ์ก็เปิดประตูรถเดินลงไปก่อนจะรีบเข้าไปในร้านเนื่องจากว่าสภาพอากาศภายนอกร้อนจัด และเขาเองผู้ซึ่งไม่ชอบแดดจึงรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย
"โคตรร้อนเลยให้ตายสิ"
"ความจริงท่านประธานอยู่ที่รถก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมลงไปซื้อให้เองอเมริกาโน่ร้อนคั่วแบบเข้มที่สุด ผมจำได้น่า"
"อากาศร้อนขนาดนี้ผมคงไม่กินร้อนหรอก วันนี้ขอเปลี่ยนเป็นเย็นก็แล้วกัน"
ทั้งสองคนเดินเข้าไปยังเคาน์เตอร์แคชเชียร์ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองสบตากับพนักงาน ซึ่งชายหนุ่มดูจะอึ้งไปเลยเมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้า ผิวขาวใสใบหน้าจิ้มลิ้มชุดนักศึกษา ดูน่ารักหนึบหนับไปหมดจนเขาอดมองไม่ได้จริง ๆ โดยเฉพาะรอยยิ้มที่ดูสดใสของเธอ ไม่อาจละสายตาได้เลย
"สวัสดีค่ะคุณลูกค้า รับอะไรดีคะ วันนี้เรามีเมนูพิเศษจะมานำเสนอด้วยนะคะ เป็นเค้กแมคคาเดเมียเพิ่งทำสด ๆ ร้อน ๆ เลยค่ะ"
หญิงสาวจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มด้วยความสดใส แต่ทว่าเขากลับไม่ยอมสั่งเมนูเครื่องดื่ม เอาแต่จ้องมองใบหน้าของเธอ จนข้างฟ่างต้องรีบเอามือส่ายไปมาตรงหน้าเขาเพื่อให้ได้สติ
"คุณลูกค้าคะ..."
"ออ... เอาอเมริกาโน่เย็น ขอคั่วเข้มเลยนะ"
"ได้เลยค่ะ คุณลูกค้าอีกท่านรับอะไรดีคะ"
"เอาเหมือนกันเลยครับรวมเป็นสองแก้ว"
"ได้เลยค่ะ รับเป็นอเมริกาโน่คั่วเข้มสองแก้วนะคะ ทั้งหมด 160 บาทค่ะ รับขนมเพิ่มไหมคะ"
ชายหนุ่มได้สติเหลือบสายตาหันไปมองตู้แช่ขนม ซึ่งตอนนี้มีทั้งเค้กแล้วก็คุกกี้หลากหลายมากมาย เขาเองเลือกของหวานพวกนี้ไม่เป็นหรอก แต่ว่าคุณแม่ชอบกินก็เลยซื้อไปฝากทุกครั้งที่ได้แวะร้านขนม
"งั้นหนูช่วยจัดมาให้หน่อยแล้วกัน นี่เงิน 1,000 บาท คละเค้กในตู้นี้มาก็ได้ ตามจำนวนเงินที่ให้นั่นแหละไม่ต้องทอน"
"ได้เลยค่ะ ถ้าอย่างนั้นใช้เวลารอซัก 15 นาทีนะคะ เชิญคุณลูกค้านั่งรอตรงโซฟาด้านนู้นเลยค่ะ เดี๋ยวหนูเอาไปเสิร์ฟให้ค่ะ"
"อืม ขอบใจนะ อันนี้ให้ทิปพิเศษเพราะว่าบริการดี"
ชายหนุ่มส่งแบงค์ห้าร้อยไปให้หญิงสาวตรงหน้าของเธอ ข้าวฟ่างถึงกับตาโตด้วยความตกใจ ใครจะคาดคิดว่าผู้ชายตรงหน้าจะให้ทิปเธอตั้ง 500 บาท
"เยอะไปหรือเปล่าคะตั้ง 500 บาท"
"ไม่เป็นไรหรอกรับไว้เถอะ"
หญิงสาวได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มกว้างออกมาทันทีอย่างดีใจ ยกมือไหว้ขอบคุณชายหนุ่มก่อนจะรับแบงค์ห้าร้อยมาถือไว้ในมือ
"ขอบคุณมากเลยนะคะ คุณใจดีจังเลยค่ะ"
"ฉันไปนั่งรอตรงนั้นก็แล้วกัน"
"ได้เลยค่ะเดี๋ยวหนูจะรีบทำให้เร็วที่สุดนะคะ ส่วนขนมเค้กเดี๋ยวหนูใส่กล่องไม่เกิน 15 นาทีค่ะ"
เขาส่งยิ้มให้กับเธอก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทันที ด้วยวัยอายุแบบเขาที่ขึ้นเลขสามไปแล้ว พอเจอเด็กชุดนักศึกษาก็รู้สึกชุ่มชื่นหัวใจไม่น้อยเลย
'ก็อย่างว่าแหละเด็กมันน่ารักอ่ะนะ...'
หลังจากที่เขาซื้อกาแฟแล้วก็ซื้อเค้กเสร็จ ก็ออกมาจากคาเฟ่ชื่อดัง จากนั้นก็พากันไปตรวจงานที่สาขาใหญ่ในกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาทำงานในโรงแรมจนถึงวันนี้ คุณพ่อท่านเห็นความสามารถ และยอมยกตำแหน่งท่านประธานบริษัทให้เขาบริหาร โดยระดับผู้บริหารจะมีเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่เป็นคนคอยดูแล ส่วนพี่สาวเธอเปิดร้านอาหารอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลของสามี แต่ทว่าเธอมีหุ้นส่วนอยู่ในโรงแรม ซึ่งเขากับพี่ฟีน่ามีหุ้นส่วนในบริษัทคนละ 25 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 50 เปอร์เซ็นต์ คุณพ่อท่านยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เพียงแค่เขาได้รับการมอบหมายจากคุณพ่อ จะได้นั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ และได้เงินเดือนพร้อมโบนัสพิเศษแยกจากเงินปันผลของหุ้นส่วนอีกทีหนึ่ง "ถึงแล้วครับท่านประธาน เดี๋ยวผมจะให้พนักงานเอาเค้กไปแช่ที่ตู้เย็นไว้ก่อน แล้วเดี๋ยวถ้าเกิดว่าเราจะกลับก็ค่อยให้พนักงานเอามาให้ที่รถ""ผมก็ลืมไปเลยว่าเราทำงานต่อ แต่เห็นว่าร้านนั้นเค้กน่ากินดีผมก็เลยซื้อไว้ก่อน""ไม่ใช่ว่าพนักงานหน้าเคาน์เตอร์เป็นสเปคเหรอครับ หน้าตาจิ้มลิ้มเชียวอายุถึง 18 ปีหรือยังก็ไม่รู้ แต่ผมว่าเธอน่ารักดีนะครับ"ตฤณเอ่ยแซวเจ้านายเหมือนจะรู้ว่าคุณฟีลิกซ
เขาใช้เวลาในการรับประทานอาหารอยู่ที่ร้านกินเวลาไปเกือบหนึ่งชั่วโมง จากนั้นก็เรียกพนักงานมาเช็คบิลซึ่งเป็นคนเดิมที่เขาเจอเมื่อช่วงเช้า "ทั้งหมด 1,200 บาทค่ะ คุณลูกค้าจะชำระเงินเป็นบัตรเครดิต QR code หรือเงินสดดีคะ" "เงินสดก็ได้" เขาส่งแบงค์พันไปให้หญิงสาว 2 ใบ จากนั้นเธอก็รับเงินจำนวนนั้นมา และเดินไปยังเคาน์เตอร์แคชเชียร์ หยิบเงินทอนใส่เข้าไปในถาดก่อนจะเดินกลับไปหาผู้ชายทั้งสองคนที่นั่งอยู่ในห้อง VIP "นี่เป็นเงินทอนค่ะ เป็นจำนวนเงิน 800 บาท" "เธอเก็บไว้เถอะ ฉันให้" หญิงสาวอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เงินทอนที่ว่าหลายร้อยเลยนะ ทำไมเขาถึงให้เธอง่าย ๆ โดยไม่เสียดายแบบนี้ล่ะ "มันจะดีเหรอคะเงินตั้ง 800 บาท" "ไม่เป็นไรหรอกถือว่าเป็นรางวัลสำหรับคนขยัน ยินดีที่ได้เจอกันนะ ฉันชอบเด็กขยันตั้งใจทำงานล่ะ ถ้าเรียนจบก็มาสมัครงานที่บริษัทฉัน โรงแรมในเครือพงศ์สกุลไพศาล" "เป็นเจ้าของธุรกิจเหรอคะ แล้วโรงแรมที่ว่าหนูเคยได้ยินนะคะมีสาขาเยอะมากเลย ถ้าเป็นแบบนี้คุณต้องรวยมากแน่ ๆ เลยใช่ไหมคะ" "หึ... ก็ประมาณนั้นแหละ ฉันไปก่อนนะเอาไว้จะแวะมากินอีกแล้วกัน" "แวะไปกินกาแฟก็ได้นะคะ หนูอยู่ที่นั่นบ่อยกว่าท
หลายวันต่อมา..."อเมริกาโน่เย็นคั่วเข้ม 1 แก้วนะคะ"หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มสดใส เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้ามายืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ เชื่อไหมว่าเขามากินกาแฟที่ร้านทุกวัน แล้วเธอก็ได้ทิปจากผู้ชายตรงหน้าวันละหลายร้อยบาท ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงใจดีแบบนี้ แต่ก็ขอบคุณมากเพราะว่าทำให้เธอมีเงินเก็บเยอะขึ้นเชียวแหละ"เก่งนี่ จำได้โดยที่ไม่ต้องบอกแล้ว""หนูจำได้ตั้งแต่วันแรกที่คุณมาแล้วค่ะ แต่ถ้าเกิดว่าอยากจะเปลี่ยนดูบ้างก็บอกกันได้นะคะ หนูจะได้ทำเมนูอื่นให้ดื่มบ้าง""ไม่เป็นไรหรอกดื่มอเมเนี่ยแหละ ไปนั่งที่เดิมนะ""รับทราบค่ะ"เธอตอบรับชายหนุ่มก่อนจะปริ้นใบเสร็จออกมาเพื่อให้เขาชำระเงิน แน่นอนว่าดื่มกาแฟแก้วละ 80 บาทแต่จ่ายแบงค์พันให้เธอทุกวัน เธอได้ทิปวันละ 920 บาท พนักงานแถวนี้อิจฉาเธอตาลุกวาวแล้ว"ที่เหลือเป็นทิปนะ""ขอบคุณค่ะ"หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณชายหนุ่ม ก่อนจะหันไปชงอเมริกาโน่เย็นให้เขาทันที พนักงานคนอื่นเมื่อเห็นฟีลิกซ์เดินออกไปจากตรงนั้นก็รีบเข้าไปหาข้าวฟ่างทันที"พี่ว่าเขาชอบน้องข้าวฟ่างแน่เลย""คงไม่ใช่หรอกมั้งคะ เขาเป็นเจ้านายของคุณแม่หนูด้วยนะ สงสัยจะเอ็นดูหนูมั้งคะเห็นหนูขยัน