เมื่อหญิงสาวกลับขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเอง ก็ทำการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดนอนให้เรียบร้อย คืนนี้จะต้องอ่านหนังสือสอบ หนทางยังอีกยาวไกลเธอคงไม่ได้หลับนอนในเวลานี้แน่
เมื่อทำธุระเสร็จเรียบร้อยก็เดินออกมานั่งที่โต๊ะทำงาน กดเปิดโคมไฟก่อนจะหยิบโทรศัพท์เข้าแอปธนาคาร จ้องมองไปยังตัวเลขที่อยู่ในนั้น ยังคิดไม่ตกจะจัดการกับสถานการณ์นี้ยังไง
"นี่เราต้องเสียตัวให้เขาจริงเหรอเนี่ย"
เธอถอนหายใจออกมาอย่างไม่รู้จะทำยังไง เคยคิดว่าถ้าเธอจะต้องมีความสัมพันธ์กับใครสักคน ก็อยากที่จะให้ผู้ชายคนนั้นเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นรักแรก รักเดียวของกัน และกัน แต่เธอคงทำได้แค่ฝัน เพราะตอนนี้กำลังจะกลายเป็นของเล่นของคนรวย
"เอาวะ... ได้เดือนละตั้งแสน ยอมก็ได้"
และก่อนที่เธอจะได้คิดฟุ้งซ่านอะไรอีก เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาจากปลายสาย แน่นอนว่าเป็นเบอร์เดียวกับเบอร์ที่เธอเมมไว้ในช่วงที่เขาให้นามบัตร
"สวัสดีค่ะคุณฟีลิกซ์"
(เตรียมตัวเตรียมใจหรือยัง ว่าแต่นี่ก็ดึกแล้วนะทำไมเธอยังไม่นอนอีก)
"หนูต้องอ่านหนังสือสอบค่ะ พรุ่งนี้ต้องไปร้านกาแฟตอนเช้าอีก"
(ฉันเพิ่งสั่งให้เธอลาออกไม่ใช่เหรอ ไปลาออกซะทั้งร้านกาแฟแล้วก็ร้านอาหาร ฉันให้เดือนละแสนไม่พอหรือไง หรือเธออยากเรียกร้องอะไรอีกก็ว่ามา ถ้าทำถึงใจฉันก็จะเปย์ให้ไม่อั้น)
ในตอนนี้เขาคิดแค่ว่าเลี้ยงเธอไว้เพื่อระบายความใคร่เพียงเท่านั้น แต่อีกใจหนึ่งเขาก็รู้สึกสงสารที่เธอต้องมานั่งทำงานงก ๆ การที่จะทำงานแล้วก็เรียนไปด้วยมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คนเราจะจับปลาสองมือได้ยังไงท้ายที่สุดก็หลุดออกไปหมดจับไม่ได้แม้แต่ตัวเดียว เพราะฉะนั้นเธอควรจะเลือกที่จะตั้งใจเรียน ส่วนอย่างอื่นไม่ควรจะสนใจอีก
"หนูเรียกร้องได้ด้วยเหรอคะ"
เธอรู้สึกแปลกใจในคำพูดของเขาอยู่ไม่น้อย หรือว่าเธอจะเรียกเพิ่มดี แต่มันจะดีหรือไงเดี๋ยวเขาก็ว่าเธอเห็นแก่เงินหรอก
(ก็เลือกได้ถ้าเธอทำให้ฉันพอใจนะ ไหนลองพูดมาสิว่าต้องการอะไร ถ้าให้ได้ฉันจะทำให้)
หญิงสาวนิ่งเงียบไปอย่างใช้ความคิด ชีวิตของเธอไม่ว่าจะทำงานกี่อย่าง หรือต้องอดหลับอดนอนก็ไม่เคยท้อ แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้สึกเป็นกังวลก็คือคุณพ่อ ท่านป่วยเป็นโรคหัวใจ และต้องการการรักษาอย่างดีที่สุด แต่ด้วยความที่ไม่ได้มีเงินทองมากมาย ทำได้เพียงแค่รักษาตามอาการเท่านั้น และก็ไม่รู้ว่าจะพลาดตอนไหน
"คุณพ่อหนูป่วยเป็นโรคหัวใจค่ะ หนูอยากผ่าตัดให้คุณพ่อ ถ้าเกิดว่าคุณฟีลิกซ์จะกรุณาช่วยพาคุณพ่อหนูไปผ่าตัดหน่อยได้ไหมคะ แล้วเงินเดือนที่จะต้องจ่ายหนูทุกเดือนไม่ต้องให้ก็ได้ค่ะ หนูจะทำงานชดใช้คุณจนกว่าเงินจำนวนนั้นจะหมด ตกลงตามนี้นะคะ"
(ทำไมเธอถึงคิดว่าเราจะอยู่ด้วยกันนานขนาดนั้นล่ะ ไม่คิดว่าฉันเอาเธอแค่ไม่กี่ครั้งก็จะเบื่อแล้วเหรอ การผ่าตัดหัวใจใช้เงินหลักแสนนะ บางโรงพยาบาลใช้เป็นล้าน คิดว่าตัวเองจะอยู่กับฉันไปถึงเมื่อไหร่"
ชายหนุ่มเอ่ยถามก่อนจากขยับตัวนั่งลงบนเตียงนอน ก็แค่อยากจะฟังข้อเสนอของเธอ การที่พาพ่อของข้าวฟ่างไปผ่าตัดหัวใจมันใช้เงินเยอะพอสมควรเลย เขาก็แค่อยากจะมั่นใจว่าเธอจะอยู่ชดใช้ให้เขาจนกว่าจะคุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไป
"หนูก็จะอยู่จนกว่าเงินจะหมดไงคะ คุณให้หนูเดือนละ 100,000 บาท ไม่กี่เดือนก็น่าจะได้ค่าผ่าตัดแล้วนะคะ"
(ก็ได้... เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะโทรหาพี่ฟินิกซ์ เขาเป็นหมอศัลยกรรมหัวใจอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ค่าใช้จ่ายฉันจะจัดการให้ทั้งหมด ส่วนเธอพรุ่งนี้ต้องมาตอบแทนบุญคุณฉันหน่อย อุตส่าห์จะพาพ่อไปผ่าตัดให้ เพราะฉะนั้นมาทำให้ผู้มีพระคุณของเธอมีความสุขหน่อยก็แล้วกัน)
และเมื่อเธอได้ยินคำตอบจากชายหนุ่มก็ยิ้มก็ออกมาทันทีด้วยความดีใจ ในที่สุดคุณพ่อก็จะได้รักษาอย่างเต็มที่ ถ้าเกิดว่าท่านหายดีไม่เจ็บไข้ได้ป่วยอีก เธอก็จะได้พักงานลงบ้าง จะได้กลับไปเรียน และใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยในแบบที่เพื่อนคนอื่นเป็น
"ได้ค่ะเดี๋ยวพรุ่งนี้หนูจะไปหานะคะ"
(ตกลงตามนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะให้ทางโรงพยาบาลติดต่อไป ฝันดีนะข้าวฟ่าง)
"ฝันดีเช่นกันค่ะคุณฟีลิกซ์ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเลยนะคะ หนูซาบซึ้งใจมากเลยค่ะ คุณดีกับหนูจังเลย"
(ดูไม่ออกหรือไงว่าฉันทำดีกับเธอเพราะผลประโยชน์ ฉันแค่อยากได้ตัวเธอไม่ได้มีน้ำใจอะไรสักหน่อย)
ถึงแม้เขาจะพูดประชดประชันแบบนั้นแต่หญิงสาวก็รู้สึกได้เลยว่าเขาหวังดีกับเธอจริง ๆ และนี่ก็ไม่ใช่ความช่วยเหลือแรกของเขา แม้กระทั่งดื่มกาแฟทุกวัน คุณฟีลิกซ์เองก็ให้ทิปวันละเกือบพัน ถึงแล้วเขาจะดูปากร้ายแต่เป็นคนใจดีมากเลยนะ
"ฝันดีนะคะ"
(อืม เจอกันพรุ่งนี้)
พูดจบชายหนุ่มก็กดวางสายทันที ส่วนหญิงสาวยังคงนั่งทำใจอยู่เกี่ยวกับเรื่องของวันพรุ่งนี้ เอาเถอะเพื่อคุณพ่อจะได้รักษาให้หายขาด เธอยินดีที่จะทำให้เขามีความสุขมากที่สุดตามที่ต้องการ
วันต่อมา...
ข้าวฟ่างจำเป็นต้องเดินทางไปลาออกจากร้านกาแฟ และก็ร้านอาหารที่เธอทำงานอยู่ เพราะชายหนุ่มออกคำสั่งอย่างเด็ดขาดว่าห้ามเธอกลับไปทำงานอีก ส่วนเรื่องของคุณพ่อตอนนี้ได้คิวผ่าตัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมล่ะว่าอำนาจเงินจะสามารถทำได้ทุกอย่าง เพียงแค่เขาโทรศัพท์ไปกริ้งเดียว พ่อของเธอก็ได้รับการรักษาทันที
"เรียบร้อยหมดหรือยังครับ"
ผู้ช่วยคนสนิทของท่านประธานซึ่งก็คือคุณตฤณ เขามารอรับเธอเพื่อพาไปส่งที่คอนโดของชายหนุ่ม หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสดใส
"เรียบร้อยแล้วค่ะ"
"ถ้าอย่างนั้นเชิญเลยครับเดี๋ยวคุณฟีลิกซ์จะรอนาน"
"ได้ค่ะ"
เธอเดินตามผู้ช่วยคนสนิทของชายหนุ่มไปขึ้นรถ ใช้เวลาในการเดินทางมาที่คอนโดไม่เกิน 20 นาที เมื่อมาถึงหญิงสาวก็เดินไปพร้อมกับมองสำรวจโดยรอบ คอนโดหรูหราน่าจะราคาสูงมาก ว่าแต่เขาเป็นถึงเจ้าของโรงแรมแต่ทำไมถึงมาซื้อคอนโดอยู่ล่ะ
"แปลกคนแฮะ"
เธอเดินมาเรื่อย ๆ จนมาถึงห้องหมายเลขที่ชายหนุ่มบอกเอาไว้ กดกริ่งอยู่หน้าประตู และเพียงไม่นานก็ได้ยินเสียงเหมือนปลดล็อคจากข้างใน ข้าวฟ่างค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไปก่อนจะตาโตเพราะมันหรูหราอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน
"หรูมาก อะ!"
เดินเข้าไปยังไม่พ้นดีเท่าไหร่ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างสวมกอดเธอจากทางด้านหลัง หญิงสาวหันกลับไปโดยใช้สายตาเหลือบมองก่อนจะเผลอยิ้มออกมาเมื่อเห็นคุณฟีลิกซ์กำลังส่งยิ้มให้เธออยู่ โดยที่มือทั้งสองข้างโอบรอบเอวของเธอไว้
"คุณฟีลิกซ์"
"มาช้าจัง"
"รถติดนิดหน่อยค่ะ คุณมาถึงนานหรือยังคะ"
"นานจนแข็งไปหมดแล้วเนี่ย มารับผิดชอบซะดี ๆ เพราะว่าตอนนี้ฉันอยากเก็บเงินต้นจากเธอแล้ว หึ"
หญิงสาวเบิกตากว้างด้วยความตกใจที่ชายหนุ่มพูดจาสองแง่สองง่ามแบบนั้น ก่อนหน้านี้เขาเป็นคนสุภาพมากกว่านี้เยอะ แต่พอเปลี่ยนสถานะกลายมาเป็นเด็กเลี้ยง กลับพูดจาตรงจนเธอรู้สึกเขินจนหน้าแดงก่ำ"คุณพูดอะไรคะเนี่ย""ไม่เข้าใจคำว่าแข็งของฉันเหรอ ลองจับดูสิจะได้รู้ว่ามันแข็งยังไง"ไม่พูดเปล่ายังจับมือของเธอล้วงเข้าไปยังแก่นกายความเป็นชายที่กำลังพองโตแทบจะทะลุออกมานอกกางเกง หญิงสาวถึงกับตาโตรีบชักมือกลับตัวสั่นกลัวจนทำหน้าไม่ถูก"คุณ...""ทำอย่างกับไม่เคยไปได้ อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วนะ"เขาถอนหายใจใส่หญิงสาวก่อนจะชะงักไปเมื่อใบหน้าของเธอแสดงออกทางสีหน้าว่ารู้สึกกลัว มันทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าข้าวฟ่างอาจจะยังไม่เคยมาก่อน"เธออายุเท่าไหร่แล้วนะ""18 ปีค่ะ ใกล้จะ 19ปีแล้วค่ะ""ยังไม่เคยเหรอ..."เขาจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวด้วยความกดดัน พยายามจะคาดคั้นเอาคำตอบจากเธอ เพราะถ้าเกิดว่ายังไม่เคยเขาจะได้เบามือกว่านี้หน่อย แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีใครรอดมาจนถึงอายุประมาณนี้ ซึ่งมันหายากมากในยุคสมัยที่เปิดกว้างกับเรื่องเซ็กซ์ และเขาก็ไม่ได้ยึดติดกับความบริสุทธิ์ของผู้หญิง"ไม่เคยค่ะ"เมื่อไม่ได้ยินแบบนั้นเขาถึงกับกุมขม
และเมื่อจบประโยคของชายหนุ่มเขาก็เริ่มขยับแก่นกายความเป็นชายเข้าออกด้วยความใจเย็น และยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านเข้าไปอีกด้วยการใช้มือข้างซ้ายที่ว่างถูไถตรงจุดกระสัน ข้าวฟ่างถึงกับเบิกตาโพลง เมื่อความเป็นชายกระแทกเข้ามาจนสุดลำ ทั้งเจ็บ และเสียวซ่านในเวลาเดียวกัน ทำเอาหญิงสาวแข้งขาอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรงจนเขาต้องใช้มืออีกข้างช่วยพยุง"อ๊ะ.... อ้าส์ อื้อ!"เนินปทุมถันขยับขึ้นลงไปตามแรงกระแทกจากเอวสอบ ร่างบางตัวสั่นไหวหลับตาลงกัดริมฝีปากรับสัมผัสที่ชายหนุ่มมอบให้ด้วยความเร่าร้อน ความรู้สึกในตอนนี้มันไม่สามารถอธิบายออกมาได้เลย รู้แค่ว่าเธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน รู้สึกวูบวาบเสียวท้องน้อยในทุกครั้งเมื่อเขากระแทกเอวสอบเข้ามาในร่องสาว"อ้าส์! ซี๊ดดดด"เขายังคงขยับเอวสอบเร่งความเร็วขึ้น และเมื่อรู้สึกถ้าตัวเองใกล้ถึงฝั่งปรารถนาก็หยุดเอาไว้ก่อน โดยหญิงสาวถึงกับลืมตาขึ้นหันมาร้องทักท้วง เมื่อกี้เธอเกือบจะล่องลอยอยู่ในอากาศอยู่แล้ว ทำไมถึงหยุดกลางคันแบบนั้นล่ะ"ยะ...หยุดทำไมคะ""จะรีบไปไหนล่ะ ฉันยังอยากสนุกกับเธออยู่เลย"พูดจบเขาก็ปล่อยเรียวขาของหญิงสาวลงที่พื้น จากนั้นก็โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะจูบริมฝ
หลายวันต่อมา...เขายังคงส่งลูกน้องไปรับหญิงสาวถึงมหาวิทยาลัย ซึ่งวันนี้มีข่าวดีสำหรับเธอก็คือคุณพ่อจะได้ผ่าตัดแล้วนั่นก็คืออาทิตย์ที่จะถึงนี้ คุณพ่อกับคุณแม่คาดคั้นเอาคำตอบจากเธอ ว่าทำไมถึงได้ผ่าตัดโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง แถมยังไม่ได้เสียเงินสักบาทอีก เธอเองก็ไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไรจึงบอกไปว่ามีผู้สนับสนุนใจดีออกเงินให้ และเธอต้องไปทำงานให้กับเขาเป็นการตอบแทน ดูก็รู้ว่าพวกท่านไม่เชื่อหรอกแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะลูกสาวเป็นคนปากแข็งไม่ยอมที่จะพูดอะไรง่าย ๆ"เลิกเรียนหรือยังครับ ท่านประธานให้มารับกลับคอนโดครับ""เจ้านายของคุณตฤณนี่ขี้โกหกจังเลยนะคะ"ทั้งสองคนเดินเคียงข้างออกไปขึ้นรถที่จอดอยู่ใต้ต้นไม้หน้าอาคาร ตฤณได้ยินแบบนั้นก็เหลือบสายตาหันมามองผู้หญิงที่อยู่ข้างกายก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสงสัย"ขี้โกหกยังไงครับ""ก็เขาบอกหนูว่าเจอกันแค่อาทิตย์ละครั้งก็พอ นี่ก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้วนะคะ เห็นเจอกันทุกวันเลย คำพูดไม่เป็นคำพูดเลยค่ะ"หญิงสาวตัดพ้อไม่หยุดจนชายหนุ่มถึงกับหลุดขำออกมา เพราะตอนแรกเจ้านายของเขาให้เจอกันเพียงแค่อาทิตย์ละ 1 ครั้งเท่านั้น แต่ใครจะคิดว่าผ่านไปแค่คืนเดียวจะกลับคำพูด แถมย
"คุณนี่นะเอะอะก็เข้ามาเรื่องอย่างว่าตลอดเลย ไม่คิดจะพักบ้างหรือไงคะ""อย่าบ่นเยอะได้ไหมเธอตอบแทนฉันบ้างสิ ที่ให้ไปมันก็คุ้มค่านะ เธอจะเอาแต่ได้ฝ่ายเดียวได้ยังไง ให้ฉันได้อะไรจากเธอบ้างก็ยังดี"เขาเอ่ยเอามาอย่างออดอ้อน ใช้ริมฝีปากลากไล้ตามซอกคอขาวระหง มือทั้งสองข้างที่ว่างก็บีบเคล้นเต้านมอวบจนเธอเริ่มมีอารมณ์"หนูไม่ได้เรียกร้องอยากได้เลยนะคะ คุณมาเสนอให้เองแต่มาทวงบุญคุณเนี่ยนะ""หึ... จะยอมไม่ยอม""ไม่ยอมได้ด้วยเหรอคะ"พูดจบชายหนุ่มก็ยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะจูบริมฝีปากบางอย่างอ่อนโยน ลิ้นร้อนค่อย ๆ สอดเข้าไปชิมความหวาน และครั้งนี้หญิงสาวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนอ่อนหัด แต่เธอก็พร้อมจะเรียนรู้ไปพร้อมกับเขา"อื้อ..."เสียงครางเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากเล็ก โอบรอบคอของชายหนุ่มเอาไว้ ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างจับเรียวขาของเธอกางออกจากกัน เหยียดขาของตัวเองตรงก่อนจะจับสะโพกของหญิงสาวให้มานั่งคร่อมอยู่บนแก่นกายความเป็นชาย โดยที่คนตัวเล็กใช้มือทั้งสองข้างจับขอบอ่างเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองลื่นล้ม"คุณ...""เอาท่านี้แหละแน่นดี"ขอพูดจบก็ค่อย ๆ ถูไถ
หลังจากที่ทั้งสองคนเซ็นรับรถเสร็จ ชายหนุ่มก็เป็นคนขับรถเบนซ์ออกมาโดยมีหญิงสาวนั่งอยู่เคียงข้างไม่ห่าง ทั้งสองคนพากันไปกินข้าวที่ร้านอาหารห่างออกจากตัวเมือง ไม่ลืมที่จะสอนข้าวฟ่างเกี่ยวกับการใช้งานในรถเบื้องต้น แล้วเดี๋ยวจะพาเธอไปเรียนขับรถ จะได้ขับรถเบนซ์คันหรูไปเรียนที่มหาวิทยาลัยคนเดียวได้"หนูขับไม่เป็นค่ะ""เดี๋ยวให้ครูสอนขับรถมาสอน ตั้งใจเรียนล่ะจะได้ขับรถไปเรียนมหาวิทยาลัยได้""คุณจะให้หนูขับรถไปเรียนมหาวิทยาลัยเองเหรอคะ"หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้น ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยคาดหวังว่าตัวเองจะได้ขับรถคันหรูไปเรียนมหาวิทยาลัย เพราะชีวิตนี้ได้ขับรถเก๋งธรรมดาก็ดีที่สุดแล้ว ไม่เคยคิดเลยว่าแค่ไม่นานจะพลิกชีวิตเธอขนาดนี้ ได้จับเงินแสนแถมยังได้เป็นเจ้าของรถยุโรปคันหรูอีก"หรืออยากจะให้มีคนขับรถไปส่ง เพราะฉันต้องทำงานไม่ได้มีเวลาไปส่งเธอทุกวันหรอกนะ เป็นเด็กเลี้ยงของฉันต้องดูแลตัวเองให้ได้""ไม่มีปัญหาค่ะหนูทำได้""ก็ดี ถือว่าอยู่เป็น"ชายหนุ่มยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย ก่อนจะโอบเอวหญิงสาวให้เข้ามาซบใบหน้าลงกับไหล่กว้าง ความน่ารัก และขี้อ้อนของเธอทำให้ฟีลิกซ์หลงใหลเป็นอย่างมาก เกิดมาไม่เคยโด
หลังจากที่ชายหนุ่มไปส่งหญิงสาวกลับถึงบ้าน เขาก็ขับรถป้ายแดงคันใหม่ที่เพิ่งถอยออกมาเข้าไปยังคฤหาสน์สุดหรู ทำการจอดรถในช่องที่ว่างอยู่ จากนั้นก็ดับรถ และเดินเข้าไปในตัวบ้าน"ไอ้ตัวดีรู้จักบ้านตัวเองด้วยเหรอ""โหแม่! เจอหน้าก็แซวแรงเลยนะ ผมก็แค่ขี้เกียจกลับบ้านก็เลยนอนค้างคอนโด ขอโทษนะครับ"เขารีบแก้ตัวก่อนจะเข้าไปสวมกอดคุณแม่เพื่อออดอ้อนขอโทษขอโพยยกใหญ่ โดยปกติเขาจะอยู่ที่บ้านเป็นหลัก ไม่ค่อยได้ออกไปใช้ชีวิตข้างนอกเนื่องจากว่าพี่สาวแต่งงานออกไปแล้ว ในบ้านก็เหลือแค่เขาที่ต้องอยู่เป็นเพื่อนพวกท่านทั้งสองคน หายไปเป็นอาทิตย์ก็ไม่แปลกที่ท่านจะโวยวาย"ไม่ต้องเลยนะ ที่คอนโดมันนอนสบายที่ไหนกันล่ะ บ้านหลังนี้มีแม่บ้านไม่รู้กี่คน อะไรก็มีพร้อมตื่นมาก็ได้กินข้าว ซ่อนอะไรไว้ที่นั่นหรือเปล่า หรือว่าติดผู้หญิง"สมกับเป็นคุณแม่ที่รู้ใจลูกมากที่สุด แต่เขาไม่ยอมรับหรอกนะว่ากำลังติดผู้หญิง ไม่งั้นจะต้องซักถามยกใหญ่ กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตไม่จบไม่สิ้นอีก บอกตามตรงเลยนะว่าไม่ได้อยากมีครอบครัว ด้วยความที่ไม่สามารถมีลูกได้อยู่แล้ว เขาแค่คิดว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะทนอยู่ด้วยได้หรอก แม้กระทั่งแฟนเก่าที่เลิกกั
ผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก รู้สึกว่าลูกสาวขึ้นไปนานพอสมควร ด้วยความเป็นห่วงจึงรีบขึ้นไปตามหา กลัวว่าจะไปซุกซนทำของเจ้านายเสียหาย เดี๋ยวจะเป็นเอาได้"รพีว่าขึ้นไปตามดีกว่าค่ะ เดี๋ยวจะไปซุกซนไปทำข้าวของเสียหายจะแย่เอา""งั้นเดี๋ยวฉันไปด้วย จะกลับขึ้นห้องพอดี"ทั้งสองคนขยับตัวลุกขึ้นจากนั้นก็พากันเดินออกไปยังห้องรับแขก ซึ่งตอนนี้ในห้องนอนของฟีลิกซ์ ข้าวฟ่างกำลังแต่งตัวให้เรียบร้อยอยู่ ส่วนเขานั้นมีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวพันอยู่รอบเอว สภาพของทั้งคู่ใครมาเห็นก็คงมองเป็นอย่างเดียวไม่ได้"หนูนึกว่าวันนี้จะได้พักซะอีก"ใบหน้าง้ำงอเอ่ยออกมาพยายามที่จะสวมใส่กางเกงให้เรียบร้อย แต่ทว่าก็ต้องชะงักไปเพราะว่าชายหนุ่มเข้ามาสวมกอดเธอจากทางด้านหลัง"ฉันก็ไม่ได้ทำทั้งคืนซะหน่อย น้ำเดียวเองจะบ่นอะไรเนี่ย วันนี้เธอได้เป็นเจ้าของรถเบนซ์นะ ตามใจกันหน่อยไม่ได้หรือไง""ทวงบุญคุณตลอดแหละ ตัวเองเป็นคนซื้อให้แท้ ๆ เลย หนูไม่ได้ขอให้ซื้อซะหน่อย""สรุปว่าฉันเสือกเองถูกไหม"เขาจ้องมองไปยังดวงตากลมโต ใช้ริมฝีปากบดขยี้แก้มนุ่มด้วยความหมั่นไส้ในคำพูดคำจา บทจะประชดประชันก็น่าตีตูดชะมัดเลย"ชิ~~ ปล่อยหนูเลยค่ะจะรีบลงไปแ
หญิงสาวอ้าปากค้างอย่างช็อกไปเลย เมื่อได้ยินคำตอบจากชายหนุ่ม ใครจะคิดว่าเขาจะตัดสินใจแบบนั้น ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นจะต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เราสองคนตกลงกันแล้วว่าเขาจะเลี้ยงดูเธอเพื่อร่างกายที่เขาต้องการ"เดี๋ยวก่อนนะคะคือมันเป็นแบบนี้ค่ะ...""ตกลงตามนี้นะครับ ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ผมพาน้องกลับไปอยู่ด้วยได้นะครับ"เขาเอ่ยตัดบทเพราะไม่อยากให้หญิงสาวพูดอะไรที่รังแต่จะทำให้เธอดูเสียหาย ถ้าเกิดเขาพูดออกไปว่าจ้างข้าวฟ่างให้มาเป็นเด็กเลี้ยงเพื่อแลกกับการที่เขาสามารถระบายความใคร่ใส่เธอได้ เธอคงถูกผู้ใหญ่มองไม่ดีสักเท่าไหร่ ทั้งที่หญิงสาวเองก็เป็นเด็กดี ไม่ได้ดื้อรั้นอะไร"แกจะนอนกับน้องได้ยังไง ให้แต่งงานกันก่อนสิวันนี้ให้น้องกลับไปก่อน"คุณหญิงของบ้านรีบเอ่ยดักทางลูกชายไว้ก่อน แม่ของเขาก็ยังนั่งอยู่ตรงนี้เดี๋ยวก็เป็นเรื่องราวใหญ่โตหรอก พูดอะไรไม่คิดเลยไอ้ลูกคนนี้"ฉันขอโทษด้วยนะรพี ไม่คิดเลยว่าไอ้ลูกชายตัวดีมันจะกล้าทำเรื่องแบบนี้""ถ้าจะโทษก็ต้องโทษทั้งสองฝ่ายค่ะ เราคงจะได้เคลียร์กันยาวนะข้าวฟ่าง""แม่อยากรู้มั้ยครับว่าผมหายไปอยู่ที่คอนโดเป็นอาทิตย์ผมอยู่กับใคร""คุณฟีลิกซ์!"หญิงสาวหันไปร้อ
เวลาผ่านไปนานหลายปี จนตอนนี้ฟีลิกซ์อายุอานามได้สี่สิบกว่าปีแล้ว เชื่อไหมว่าเขากับภรรยาพยายามมีลูกด้วยกันถึงห้าคน สี่คนแรกเป็นผู้ชาย คนสุดท้ายเป็นผู้หญิง จึงทำให้ภรรยาสามารถทำหมันได้เพราะเขาพึงพอใจในจำนวนบุตรเท่านี้แล้ว"คุณพ่อครับ น้องตีกันอีกแล้ว"ฟรังค์ในตอนนี้อายุอานามได้เกือบสิบขวบ กำลังตะโกนเรียกคุณพ่อให้มาดูน้องคนอื่น ซึ่งตอนนี้กำลังแย่งไอแพดกันอยู่"อะไรอีกล่ะไอ้แสบทั้งหลาย จะทะเลาะกันทำไมพ่อไม่เข้าใจเลย พ่อซื้อไอแพดให้คนละหนึ่งเครื่องแล้วไม่ใช่เหรอ""พ่อครับ ฟิวชั่นมันแย่งของฟาร์ไปครับ อยากเล่นก็โหลดมาเองดิ จะมาแย่งของคนอื่นทำไม""ก็ฟิวชั่นอยากเล่นนี่นา พี่ฟาร์ก็โหลดให้ฟิวชั่นสิ"สองพี่น้องที่อายุอานามคลานตามกันมา ก็เริ่มแย่งไอแพดกันอีกครั้ง คนเป็นพ่อต้องเดินไปนั่งแทรกกลางระหว่างทั้งคู่ โหลดเกมในเครื่องให้เพื่อที่จะได้เลิกทะเลาะกันสักที"เดี๋ยวพ่อโหลดให้จะได้ไม่ต้องแย่งกัน"เขาจัดการเคลียร์ปัญหาให้ลูกเพื่อที่จะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน ตอนแรกรบเร้าอยากจะมีลูกหลายคน แต่ทว่าตอนนี้ถึงกับกุมขมับ เพราะแต่ละคนซุกซนแทบทั้งนั้น โชคยังดีที่ลูกสาวยังเล็กน่ารักอ่อนโยนและเชื่อฟังคุณแม่ ส่วนไอ้แ
ข้าวฟ่างกลับขึ้นมาในห้องนอนของตัวเอง อาบน้ำแต่งตัวใหม่ให้เรียบร้อยจากนั้นก็มาเปิดโน๊ตบุ๊ค เพื่อเรียนออนไลน์ในระหว่างที่ลูกชายไม่อยู่ ใกล้จะสอบปลายภาคแล้วจำเป็นจะต้องเรียนรู้หาข้อมูลใส่ตัวให้มากเธอนั่งเรียนไปนานเป็นชั่วโมง ก่อนจะชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องถูกเปิดออก แน่นอนว่าสามีน่าจะกลับจากทำงานแล้ว"กลับมาแล้วเหรอคะ"ฟีลิกซ์เห็นภรรยากำลังนั่งอยู่หน้าโน๊ตบุ๊ค ซึ่งคาดเดาว่าน่าจะกำลังเรียนออนไลน์อยู่ ก็เลยไม่อยากจะรบกวนในตอนนี้"เรียนอยู่เหรอคะ เรียนไปก่อนนะเดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำแป๊บหนึ่ง ไม่เห็นลูกเลยพ่อกับแม่ก็หาย""ไปเดินห้างค่ะ พ่อกับแม่หนูก็ไปด้วย""อ๋อ... โอเคค่ะงั้นตามสบายนะเดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อน"ชายหนุ่มเดินผ่านหญิงสาวก็ไม่ลืมที่จะยื่นมือไปแตะศีรษะของเธอไว้ จากนั้นก็โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ จูบศีรษะของภรรยาอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทันทีข้าวฟ่างเห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ตั้งแต่ที่เราสองคนเข้าใจกันก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไม่เคยมีปัญหาหรือกระทบกระทั่งกันอีก เขาทำตามที่สัญญามาโดยตลอด คำพูดอะไรที่จะกระทบจิตใจเขาจะยั้งเอาไว้ไม่หลุดออกมา ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดีทำให้
และในที่สุดทั้งสองคนก็มีวันนี้ วันที่มีความสุขมากที่สุดก็คือการที่เด็กน้อยได้คลอดออกมาอย่างปลอดภัย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความเจ็บปวดสำหรับคนเป็นแม่ แต่เชื่อเถอะว่ามันคือความเจ็บปวดที่งดงามสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง"ได้ลูกผู้ชายนะคะ แข็งแรงสมบูรณ์ครบ 32 คุณพ่อกับคุณแม่อยากจะลองอุ้มไหมคะ""อุ้มค่ะ..."น้ำเสียงเหนื่อยหอบของคุณแม่ที่พึ่งเบ่งคลอดโดยใช้แรงจนแทบจะหมดลมหายใจ จ้องมองไปยังเด็กน้อยที่ตอนนี้ถูกพันผ้าอย่างแน่นหนา มองมาทางพ่อกับแม่ตาใสแป๋ว"ดูสิตาใสแป๋วเลย""น้องลืมตาได้เลยค่ะเก่งมาก ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวจะให้คุณพ่อกับคุณแม่อยู่กับน้องสักแป๊บนึงนะคะ แล้วเดี๋ยวพยาบาลจะพาน้องไปตรวจร่างกายก่อน"พูดจบพยาบาลก็อุ้มเด็กน้อยมาวางไว้ให้ข้าวฟ่างตรงหน้าอก หญิงสาวพยายามใช้แรงที่ยังพอเหลืออยู่ โอบอุ้มลูกน้อยเอาไว้ก่อนจะยิ้มออกมา เงยหน้าขึ้นมองสบตากับสามีใบหน้าเอิบอิ่มไปด้วยความสุข"ดูลูกสิคะมองเราตาแป๋วเลย""ไงครับตัวเล็ก รู้จักคุณพ่อหรือเปล่า เราคุยกันตั้งแต่หนูอยู่ในท้องแล้วนะจำเสียงได้ไหม ต่อไปนี้พ่อกับแม่จะเรียกหนูว่า ฟรังค์... ลูกชายสุดที่รักของพ่อแล้วก็ของแม่""ชื่อน่ารักจังเลยค่ะ ดูสิคะไม่งอแงเลยลูก
หลังจากที่ทั้งสองคนมีความสุขด้วยกันอยู่ในห้องน้ำพอสมควรแล้ว ฟีลิกซ์ก็อาบน้ำให้ภรรยาจนเสร็จสรรพ จากนั้นก็พากันกลับเข้ามายังห้องนอน เปลี่ยนชุดเป็นชุดนอนให้สบายตัว"ใส่แบบนี้ดีกว่าเนาะ จะได้ไม่ต้องมีอะไรมารัดหน้าท้องด้วย""ไม่ใส่ก็ได้นะคะนอนสบายกว่านะ"หญิงสาวยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ แต่ทว่าชายหนุ่มถึงกับกลืนน้ำลายลงคอดังอึก ท่อนเอ็นเริ่มพองโตขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อภรรยาสุดที่รักพูดจายั่วยวนแบบนั้น"เดี๋ยวก็ไม่ได้นอนหรอก หึ...""ไม่เอาค่ะหนูง่วงนอนแล้ว งั้นนอนก่อนนะคะ"เธอยิ้มออกมาก่อนจะขยับตัวล้มลงนอนบนหมอน จากนั้นชายหนุ่มก็หยิบผ้าห่มมาคลุมตัวภรรยาเอาไว้ เอาหมอนข้างมาให้หญิงสาวสวมกอดจะได้นอนสบายขึ้น เนื่องจากว่าช่วงหน้าท้องขยายใหญ่ขึ้นมากแล้ว การที่จะนอนตะแคงโดยที่ไม่มีอะไรค้ำอยู่ อาจจะทำให้อึดอัดเอาได้" นอนแบบนี้สบายขึ้นไหมคะ""สบายแล้วค่ะขอบคุณนะคะ""นอนหลับเถอะค่ะ เดี๋ยวช่วงเย็นพี่จะปลุกลงไปกินข้าวข้างล่างนะ"หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาก่อนจะหลับตาลงด้วยใบหน้าที่ดูมีความสุขเป็นพิเศษ เธอมีความสุขในทุกครั้งที่ได้อยู่กับสามี ถ้าตอนนั้นไม่เกิดเรื่องราว ตอนนี้เราก็คงอยู่ด้วยกันไปแบบนี้แหละ แ
หลังจากที่คุยกับผู้ใหญ่อยู่สักพัก ฟีลิกซ์ก็อยากให้ภรรยาขึ้นมาพักผ่อน เนื่องจากว่าวันนี้เธอใช้ร่างกายไปเยอะพอสมควร อาจจะต้องได้รับการพักผ่อนสักพัก ช่วงเย็นค่อยลงมาอีกที"นอนพักผ่อนเถอะค่ะ เหนื่อยมาตั้งแต่เช้าแล้วเดี๋ยวเจ้าตัวเล็กไม่ได้พักผ่อนนะ""ก็ดีค่ะง่วงอยู่พอดีเลย ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวหนูขึ้นไปนอนพักก่อนนะคะ เดี๋ยวเย็นนี้จะลงมาคุยด้วยค่ะ""จ้ะลูกรีบไปนอนเถอะ ถ้าหนูอยากกินอะไรก็บอกนะเดี๋ยวแม่จะให้แม่บ้านทำไปให้""เพิ่งกินมาเองค่ะไม่เป็นอะไรหรอก ถ้างั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ"หญิงสาวเอ่ยออกมาก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น ควงแขนชายคนรักเอาไว้ จากนั้นก็พากันเดินขึ้นไปที่ห้องนอน และเมื่อมาถึงหญิงสาวก็มองสำรวจทั่วห้อง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ข้าวของทุกอย่างของเธอก็ยังคงอยู่ที่เดิมไม่หายไปไหน"หนูคิดว่าคุณจะทิ้งหมดแล้วซะอีก""จะทิ้งหมดได้ยังไงกันล่ะ พี่รู้ว่าอีกไม่นานเดี๋ยวหนูก็ต้องกลับมา เราอาบน้ำกันดีไหมคะ หนูจะได้สดชื่นขึ้นไง เดี๋ยวพี่อาบน้ำให้""ก็ดีค่ะ รู้สึกเหนียวตัวเหมือนกัน"เธอเอ่ยออกมาก่อนจะเดินไปยังตู้เสื้อผ้า เปิดดูว่าข้างในมีอะไรอยู่ ซึ่งก็เป็นชุดของเธอเกือบครึ่งตู้ เพราะช่วงเวลาที่งอนสามี และไม
หลังจากที่ชำระเงินเสร็จเขาก็พาหญิงสาวเดินทางกลับมาที่บ้าน ซึ่งตอนแรกว่าจะไปส่งเธอที่บ้านของตัวเอง แต่คิดไปคิดมาเขาอยากจะพาคนรักกลับไปที่คฤหาสน์บ้าง หลายเดือนมานี้เธอไม่ยอมย่างกรายเข้าไปเลย"ไปหาคุณพ่อคุณแม่พี่ไหม ท่านคงอยากเห็นใบอัลตร้าซาวนด์ คงอยากจะรู้ว่าหลานเป็นเพศไหน ตัวขนาดไหนแล้ว"เขาก็แค่ลองถามหยั่งเชิงดู ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะไม่ไปเขาก็ไม่โกรธหรอกนะ เพราะรู้ว่าความผิดที่ตัวเองทำมันมีมาก แต่ทว่าเขาคิดผิดแล้วก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อยเลยเธอยอมทำตามคำร้องขอ"ได้ค่ะ"เธอตอบกลับคำขอของของเขา เรื่องที่ชวนไปยังคฤหาสน์ เล่นเอาตกใจไม่น้อยเลย เพราะโดยปกติจะไม่ยอมกลับไปกับเขาเด็ดขาด เพราะยังมีอารมณ์โมโหโกรธคนเป็นสามีอยู่"ทำไมถึง...""พูดเยอะจะไม่ไปแล้วนะคะ"และเมื่อหญิงสาวพูดแบบนั้นชายหนุ่มก็รีบหุบปากของตัวเองลง จากนั้นก็รีบขับตรงไปยังคฤหาสน์เพราะกลัวว่าภรรยาอาจจะเปลี่ยนใจได้ ใบหน้าจากที่มีคำถามแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มออกมาแก้มปริ ใครจะคิดว่าคนรักของเขาจะยินยอมตามใจในที่สุด"ถึงแล้วค่ะ"และเพียงไม่นานเขาก็ขับรถมาจอดยังลานจอดรถของคฤหาสน์สุดหรู เปิดประตูรถเดินลงมาจากนั้นก็เปิดประตูให้ภรรยา ยื่นมือไปตรงห
"ว่ามาเลยค่ะมีอะไรจะคุยกับหนูคะ""ถ้าพี่พูดอะไรไป ข้าวฟ่างสัญญาได้ไหมว่าจะไม่โกรธ แต่ที่พี่ต้องพูดเพราะแค่อยากให้ข้าวฟ่างเข้าใจสามีของเราบ้าง"หญิงสาวนิ่งเงียบไปด้วยความคิดหนัก เพราะดูจากประโยคคำพูดน่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูด แต่พี่ทรายอยากจะให้เธอเข้าใจในตัวของคุณฟีลิกซ์ จึงต้องเลือกที่จะมาพูด"สัญญากับพี่นะว่าจะไม่โกรธ""ก็ได้ค่ะ ว่าแต่มันเป็นเรื่องอะไรคะ""พี่ไม่รู้หรอกนะว่าฟีลิกซ์พูดอะไรไม่ดีหรือเปล่า ถึงทำให้ข้าวฟ่างโกรธแบบนั้น แต่ว่าเรื่องมันก็มีที่มาที่ไป งั้นเอางี้ดีกว่าพี่ถามได้ไหมว่าข้าวฟ่างโกรธอะไรฟีลิกซ์"ทรายเอ่ยถามข้าวฟ่างไปตามตรง ถ้ามันเป็นอย่างที่เธอคิดจะได้อธิบายให้ตรงจุด ทั้งสองคนจะได้เข้าใจกันสักที"ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ตอนนั้นหนูท้องแล้วก็ไปบอกเขาว่าเรากำลังจะมีลูกด้วยกัน แต่ว่า...""เขาบอกว่าเด็กในท้องของข้าวฟ่างไม่ใช่ลูกเขาใช่ไหม""ใช่ค่ะ เขาพูดเหมือนว่าตัวเองเป็นหมัน มีลูกไม่ได้ก็เลยคิดว่าหนูไปนอนกับคนอื่นมา แล้วก็ให้เขารับผิดชอบ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะว่าเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ช่วงหลังก็ยอมรับว่าเป็นลูกของตัวเอง แต่ความรู้สึกมันเสียไปแล้วค่ะ ข้าวฟ่างลำบากใจที
หลังจากที่คุยกันอยู่ในห้องนานพอสมควร พยาบาลก็พาทั้งสองคนไปยังห้องอัลตร้าซาวนด์ ซึ่งตอนนี้คุณหมอรออยู่แล้ว วันนี้เธออาจจะได้รู้เพศลูก จะได้เตรียมตัวเพราะอีกไม่กี่เดือนเราสองคนก็จะได้เจอลูกแล้ว"พร้อมแล้วนะคะคุณแม่ มานอนลงตรงนี้เลยค่ะเดี๋ยวหมอจะอัลตร้าซาวนด์ให้ดูเด็กน้อย"ข้าวฟ่างทำตามที่คุณหมอสั่งอย่างว่าง่าย โดยที่มีฟีลิกซ์คอยประคองอยู่เคียงข้างไม่ห่าง คุณหมอก็ใช้เจลทาที่ช่วงท้องของเธอ จากนั้นก็ใช้อุปกรณ์บางอย่างหมุนตรงช่วงท้องของเธอ และภาพก็ฉายอยู่บนจอมอนิเตอร์ข้างหน้า"ตรงนี้เป็นศีรษะของน้องนะคะ มีตาสองข้าง มีจมูกโด่งด้วยนะเนี่ย มีปาก มีหูสองข้าง ซ้าย และขวาครบ"ทั้งสองคนมองหน้าจอมอนิเตอร์น้ำตาคลอ ตอนแรกก็ไม่ได้มีความพร้อมในการเลี้ยงเด็กหรอก ตัวเองก็ยังเรียนหนังสือไม่จบเลย แต่ด้วยความที่แต่งงานจดทะเบียนสมรสกับสามี จึงทำให้ทุกคนพอปล่อยผ่านกับเรื่องนี้ได้"แล้วสรุปว่าลูกผมได้เพศอะไรครับ""เดี๋ยวแป๊บนึงนะคะ"คุณหมอค่อย ๆ ตรวจ โดยที่สายตายังมองไปยังหน้าจอมอนิเตอร์ด้วยความตั้งใจ ใช้เวลาอยู่สักพักใหญ่ และดูเหมือนว่าตอนนี้พอมั่นใจมาได้บ้างประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ว่าเด็กน้อยเป็นเพศอะไร"น้องเ
ข้าวฟ่างเดินออกมาจากร้าน ซึ่งฟีลิกซ์ที่นั่งอยู่ตรงนั้นเห็นพอดีก็เลยยิ้มกว้างออกมา วางแก้วกาแฟลงที่โต๊ะ ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น และเดินเข้ามาหาภรรยา"คุณมาทำไมคะ""ก็วันนี้คุณหมอนัดให้ไปอัลตร้าซาวนด์ไม่ใช่หรือไง พี่ก็มารับข้าวฟ่างไปหาหมอด้วยกันไง ก็อยากจะเห็นลูกที่อยู่ในท้องบ้าง""จะสนใจทำไมคะลูกตัวเองก็ไม่ใช่"หญิงสาวสะบัดหน้าใส่ชายหนุ่มด้วยความน้อยใจ ความรู้สึกที่เขาไม่มั่นใจในตัวเธอกับลูกยังคงอยู่ในหัวสลัดยังไงก็ไม่ออก มันเป็นปมในใจที่ยังคงอยู่ และคิดว่าคงต้องใช้เวลานานพอสมควรกับการที่เธอจะไม่รู้สึกกับคำพูดพวกนั้น"ทำไมพูดแบบนี้คะ พี่ขอโทษที่พูดไม่ดี ขอโทษที่พูดไม่คิด""รีบไปเถอะใกล้ถึงเวลาหมอนัดแล้วนี่""สวัสดีครับแม่รพี ผมขอพาน้องไปโรงพยาบาลนะครับ""แต่ว่าหนูนัดกับแม่แล้วค่ะว่าจะไปโรงพยาบาลด้วยกัน คุณไม่ต้องไปส่งก็ได้"เธอเอ่ยออกมาก่อนจะกวักมือเรียกคุณแม่ให้เข้ามา เพื่อที่จะได้ไปโรงพยาบาลด้วยกัน แต่ทว่ารพีไม่อยากให้ลูกสาวทำตัวเย็นชาใส่คนเป็นสามี ถึงแม้ว่าเขาจะพลาดที่เคยพูดไม่ดี คำพูดบางอย่างทำร้ายจิตใจ แต่ตอนนี้เขาก็รู้สึกผิดมากแล้ว และพร้อมที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง เพราะฉะนั้นเราควรให้