หลังจากที่ชายหนุ่มไปส่งหญิงสาวกลับถึงบ้าน เขาก็ขับรถป้ายแดงคันใหม่ที่เพิ่งถอยออกมาเข้าไปยังคฤหาสน์สุดหรู ทำการจอดรถในช่องที่ว่างอยู่ จากนั้นก็ดับรถ และเดินเข้าไปในตัวบ้าน"ไอ้ตัวดีรู้จักบ้านตัวเองด้วยเหรอ""โหแม่! เจอหน้าก็แซวแรงเลยนะ ผมก็แค่ขี้เกียจกลับบ้านก็เลยนอนค้างคอนโด ขอโทษนะครับ"เขารีบแก้ตัวก่อนจะเข้าไปสวมกอดคุณแม่เพื่อออดอ้อนขอโทษขอโพยยกใหญ่ โดยปกติเขาจะอยู่ที่บ้านเป็นหลัก ไม่ค่อยได้ออกไปใช้ชีวิตข้างนอกเนื่องจากว่าพี่สาวแต่งงานออกไปแล้ว ในบ้านก็เหลือแค่เขาที่ต้องอยู่เป็นเพื่อนพวกท่านทั้งสองคน หายไปเป็นอาทิตย์ก็ไม่แปลกที่ท่านจะโวยวาย"ไม่ต้องเลยนะ ที่คอนโดมันนอนสบายที่ไหนกันล่ะ บ้านหลังนี้มีแม่บ้านไม่รู้กี่คน อะไรก็มีพร้อมตื่นมาก็ได้กินข้าว ซ่อนอะไรไว้ที่นั่นหรือเปล่า หรือว่าติดผู้หญิง"สมกับเป็นคุณแม่ที่รู้ใจลูกมากที่สุด แต่เขาไม่ยอมรับหรอกนะว่ากำลังติดผู้หญิง ไม่งั้นจะต้องซักถามยกใหญ่ กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตไม่จบไม่สิ้นอีก บอกตามตรงเลยนะว่าไม่ได้อยากมีครอบครัว ด้วยความที่ไม่สามารถมีลูกได้อยู่แล้ว เขาแค่คิดว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะทนอยู่ด้วยได้หรอก แม้กระทั่งแฟนเก่าที่เลิกกั
ผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก รู้สึกว่าลูกสาวขึ้นไปนานพอสมควร ด้วยความเป็นห่วงจึงรีบขึ้นไปตามหา กลัวว่าจะไปซุกซนทำของเจ้านายเสียหาย เดี๋ยวจะเป็นเอาได้"รพีว่าขึ้นไปตามดีกว่าค่ะ เดี๋ยวจะไปซุกซนไปทำข้าวของเสียหายจะแย่เอา""งั้นเดี๋ยวฉันไปด้วย จะกลับขึ้นห้องพอดี"ทั้งสองคนขยับตัวลุกขึ้นจากนั้นก็พากันเดินออกไปยังห้องรับแขก ซึ่งตอนนี้ในห้องนอนของฟีลิกซ์ ข้าวฟ่างกำลังแต่งตัวให้เรียบร้อยอยู่ ส่วนเขานั้นมีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวพันอยู่รอบเอว สภาพของทั้งคู่ใครมาเห็นก็คงมองเป็นอย่างเดียวไม่ได้"หนูนึกว่าวันนี้จะได้พักซะอีก"ใบหน้าง้ำงอเอ่ยออกมาพยายามที่จะสวมใส่กางเกงให้เรียบร้อย แต่ทว่าก็ต้องชะงักไปเพราะว่าชายหนุ่มเข้ามาสวมกอดเธอจากทางด้านหลัง"ฉันก็ไม่ได้ทำทั้งคืนซะหน่อย น้ำเดียวเองจะบ่นอะไรเนี่ย วันนี้เธอได้เป็นเจ้าของรถเบนซ์นะ ตามใจกันหน่อยไม่ได้หรือไง""ทวงบุญคุณตลอดแหละ ตัวเองเป็นคนซื้อให้แท้ ๆ เลย หนูไม่ได้ขอให้ซื้อซะหน่อย""สรุปว่าฉันเสือกเองถูกไหม"เขาจ้องมองไปยังดวงตากลมโต ใช้ริมฝีปากบดขยี้แก้มนุ่มด้วยความหมั่นไส้ในคำพูดคำจา บทจะประชดประชันก็น่าตีตูดชะมัดเลย"ชิ~~ ปล่อยหนูเลยค่ะจะรีบลงไปแ
หญิงสาวอ้าปากค้างอย่างช็อกไปเลย เมื่อได้ยินคำตอบจากชายหนุ่ม ใครจะคิดว่าเขาจะตัดสินใจแบบนั้น ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นจะต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เราสองคนตกลงกันแล้วว่าเขาจะเลี้ยงดูเธอเพื่อร่างกายที่เขาต้องการ"เดี๋ยวก่อนนะคะคือมันเป็นแบบนี้ค่ะ...""ตกลงตามนี้นะครับ ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ผมพาน้องกลับไปอยู่ด้วยได้นะครับ"เขาเอ่ยตัดบทเพราะไม่อยากให้หญิงสาวพูดอะไรที่รังแต่จะทำให้เธอดูเสียหาย ถ้าเกิดเขาพูดออกไปว่าจ้างข้าวฟ่างให้มาเป็นเด็กเลี้ยงเพื่อแลกกับการที่เขาสามารถระบายความใคร่ใส่เธอได้ เธอคงถูกผู้ใหญ่มองไม่ดีสักเท่าไหร่ ทั้งที่หญิงสาวเองก็เป็นเด็กดี ไม่ได้ดื้อรั้นอะไร"แกจะนอนกับน้องได้ยังไง ให้แต่งงานกันก่อนสิวันนี้ให้น้องกลับไปก่อน"คุณหญิงของบ้านรีบเอ่ยดักทางลูกชายไว้ก่อน แม่ของเขาก็ยังนั่งอยู่ตรงนี้เดี๋ยวก็เป็นเรื่องราวใหญ่โตหรอก พูดอะไรไม่คิดเลยไอ้ลูกคนนี้"ฉันขอโทษด้วยนะรพี ไม่คิดเลยว่าไอ้ลูกชายตัวดีมันจะกล้าทำเรื่องแบบนี้""ถ้าจะโทษก็ต้องโทษทั้งสองฝ่ายค่ะ เราคงจะได้เคลียร์กันยาวนะข้าวฟ่าง""แม่อยากรู้มั้ยครับว่าผมหายไปอยู่ที่คอนโดเป็นอาทิตย์ผมอยู่กับใคร""คุณฟีลิกซ์!"หญิงสาวหันไปร้อ
วันต่อมา...เมื่อคืนฟีลิกซ์ไม่สามารถติดต่อข้าวฟ่างได้เลย แล้วไม่รู้ว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อคืนก็แทบจะนอนไม่หลับเพราะอดเป็นห่วงยัยเด็กคนนั้นไม่ได้ ซึ่งในช่วงระยะเวลาเดียวกัน ข้าวฟ่างดวงตาแดงก่ำเพราะว่าร้องไห้หนักทั้งคืน เธอสารภาพกับครอบครัวไปตามตรงว่ายอมไปเป็นเด็กเลี้ยงของคนรวย เพราะว่าเขาให้เงินแล้วก็พาพ่อไปรักษาด้วย'แม่ไม่คิดเลยว่าลูกจะสิ้นคิดขนาดนี้ ทำไมจะต้องลดศักดิ์ศรีตัวเองเพื่อครอบครัวด้วย ถ้าพ่อเขารู้ลูกคิดว่าเขาจะดีใจไหม''ฮึก...! หนูขอโทษค่ะ''เรื่องงานแต่งงานอย่าให้มันเกิดขึ้นเลย เขาก็ไม่ได้ผิดอะไรไม่ควรที่จะต้องมารับผิดชอบ ส่วนลูกออกมาจากตรงนั้นแล้วก็เริ่มต้นใหม่ซะ ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาลพ่อช่วยกันผ่อนแล้วกัน แม่ไม่อยากให้หนูก็เอาตัวเองไปชดใช้ มันไม่ได้มีความสุขเลย'ยอมรับว่าในตอนนี้ข้าวฟ่างแทบไม่มีทางเลือกอะไรเลย ส่วนงานแต่งงานคุณแม่คงไม่มีทางให้เกิดขึ้นแน่ ซึ่งเธอเองยอมรับว่าลังเลใจอยู่ไม่น้อยกับคำพูดของคนเป็นแม่ เราสองคนเริ่มต้นด้วยพันธะสัญญาบางอย่าง มันไม่ได้เป็นความรักตั้งแต่แรก"มากินข้าวได้แล้ว เดี๋ยวพ่อกับแม่จะพาแกไปที่บ้านของหนูข้าวฟ่าง""ครับแม่"ฟีลิกซ
ดูเหมือนว่าในตอนนี้สถานการณ์จะตึงเครียดไม่น้อยเลย ฝ่ายหนึ่งอยากให้รับผิดชอบด้วยการแต่งงาน แต่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมที่จะให้งานแต่งงานเกิดขึ้น จึงเป็นการเจรจาที่ไม่ลงตัวเลยในวันนี้"แต่คุณหญิงคะเด็กเขาไม่ได้รักกัน อยู่ด้วยกันไปก็ไม่มีความสุขกันทั้งคู่""ไม่มีความสุขจริงเหรอ ถึงแม้จะไม่ได้รักกันแต่ทั้งสองคนก็ดูเข้ากันได้ดีนี่ ไม่อย่างนั้นจะแอบไปอยู่ด้วยกันหรือไง รพีถามลูกแล้วหรือยัง หนูข้าวฟ่างเขาตอบแล้วเหรอว่าไม่มีความสุข"รพีนิ่งอึ้งไปอย่างไม่รู้จะเถียงคุณหญิงอย่างไร เธอไม่เคยถามลูกสาวเลยว่าอยากแต่งงานหรือเปล่า แต่คิดแทนไปแล้วว่ามันไม่ควรจะเกิดขึ้นได้เท่านั้นฟีลิกซ์ที่นั่งเงียบอยู่นานหันไปมองใบหน้าของหญิงสาว ก่อนจะยื่นมือไปตรงหน้าเธอ ข้าวฟ่างเงยหน้าขึ้นมองสบตากับเขา ลังเลอยู่นานก่อนจะยื่นมือของตัวเองไปกุมมือชายหนุ่มเอาไว้"เธอไม่อยากแต่งงานกับฉันเหรอ""คือหนู...""แต่งงานกับฉันเถอะทุกอย่างจะได้จบ เธอก็รู้ว่าฉันทำให้เธอมีความสุขได้"และเมื่อจบประโยคคำพูดนั้นข้าวฟ่างก็หันไปมองสบตาคุณพ่อกับคุณแม่ทันที เธอไม่ได้ไม่อยากแต่งงานกับเขา แต่คุณแม่บอกว่าเราสองคนไม่มีอะไรเหมาะสมกันเลย"แล้วแต่หนูจะต
หญิงสาวเดินเข้าไปในคาเฟ่ซึ่งตอนนี้มีพนักงานรอยืนต่อคิวอยู่ ความที่อยู่ท่ามกลางผู้ใหญ่ในชุดทำงานโดยที่มีเธอเป็นชุดธรรมดาเพียงคนเดียวก็จะตกเป็นเป้าสายตาหลายคู่ไม่น้อยเลยเธอหันซ้ายมองขวายิ้มให้กับทุกคนด้วยใบหน้าเป็นมิตร พนักงานก็คงจะแปลกใจไม่น้อยว่าเธอเป็นใคร อายุก็ไม่ได้มากจะเรียกว่านักศึกษาฝึกงานก็คงไม่ใช่ เพราะดูจากลักษณะการแต่งตัวในชุดธรรมดาไม่น่าจะมาทำงาน"รับเครื่องดื่มอะไรดีครับ""หนูเอาอเมริกาโน่เย็น เอสเพรสโซ่หวานน้อยค่ะ แล้วก็เอาเค้กแครอท คุกกี้ถุงนั้นด้วยค่ะ"หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มสดใส พนักงานคีย์เมนูตามคำสั่งของเธอ จากนั้นก็แจ้งยอดที่ต้องชำระพร้อมกับปริ้นใบเสร็จส่งให้"ของคุณลูกค้ามีอเมริกาโน่เย็น เอสเพรสโซ่หวานน้อย เค้กแครอท แล้วก็คุกกี้นมสด ทั้งหมด 350 บาทครับ"และเมื่อพนักงานแจ้งยอดที่เธอต้องชำระ ข้าวฟ่างก็หยิบบัตรพนักงานส่งไปให้เขาตรงหน้า และเมื่อพนักงานเห็นบัตรที่เธอส่งมาก็ตาโตอย่างตกใจ เพราะบัตรที่เธอถือมามันเป็นของท่านประธานบริษัท"นี่มันบัตรของท่านประธานนี่ คุณเป็นอะไรกับท่านประธานเหรอ ปกติบัตรพนักงานจะต้องเป็นเจ้าตัวมาใช้บริการเองนะ"พนักงานยังไม่กล้าที่จะใช้บั
หลังจากที่ทำงานเสร็จ เขาก็พาหญิงสาวกลับไปที่คอนโดของตัวเอง อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เพื่อที่จะเดินทางไปยังไนท์คลับย่านดัง ซึ่งมีชื่อว่าผับ Y น้องชายที่สนิทเป็นเจ้าของชื่อวชิ และวันนี้เขานัดกับเพื่อนคนอื่น ๆ ว่าจะพากันไปปาร์ตี้ ในตอนแรกจะพาภรรยากลับไปส่งที่บ้านก่อน แต่คิดไปคิดมาพาเธอออกไปเปิดหูเปิดตาบ้างดีกว่า"สรุปว่าไปกับฉันใช่มั้ย""ถ้าคุณอนุญาตหนูก็ไปค่ะ""อืม งั้นก็ไป"เขาเดินไปเปิดตู้เสือผ้า เพื่อเลือกชุดให้หญิงสาวสวมใส่ แน่นอนว่าต้องเรียบร้อยไม่โป๊ เนื่องจากว่าเขาไม่ชอบให้ภรรยาโชว์เนื้อหนังมันไม่สุภาพ อีกอย่างจะถูกมองว่าไม่น่ารักในสายตาผู้ใหญ่"ใส่ชุดนี้นะ""ได้ค่ะ"หญิงสาวว่านอนสอนง่ายอยู่แล้วจึงไม่มีปัญหาในการพูดคุย อีกอย่างโดยปกติเธอจะแต่งตัวสุภาพเรียบร้อยมากเป็นทุนเดิม"ฉันจะรอตรงโซฟาแล้วกัน""รับทราบค่ะ"รอยยิ้มสดใสเผยออกมาก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปยังห้องแต่งตัว จากนั้นก็เปลี่ยนชุดที่เขาเลือกให้ด้วยความรวดเร็ว นี่เป็นครั้งแรกที่เธอจะได้ไปเที่ยวสถานบันเทิง น่าตื่นเต้นมากเลยแหละและเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยหญิงสาวก็ถือกระเป๋า และโทรศัพท์เดินออกมา จากนั้นก็ไปหาชายหนุ่มซึ่งรออยู่แล้ว
หลังจากนั้นไม่นานเพื่อนของเขาก็เดินทางมาปาร์ตี้ด้วยกันที่ไนท์คลับ ทุกคนมีความสงสัยว่าผู้หญิงที่อยู่เคียงข้างเพื่อนเป็นใครกัน เพราะเขาเองก็ไม่พามาเปิดตัวก่อน"พี่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไอ้ฟีลิกซ์มันจะมีเมียเด็ก มันไม่ได้ไปหลอกอะไรหนูมาใช่ไหม""นั่นสิ มันไม่ได้เล่นของใส่หนูใช่ไหม"ชายหนุ่มถึงกับถอนหายใจออกมาเมื่อเพื่อนของเขาซักไซ้หญิงสาวไม่หยุด แล้วเขาเองก็ไม่ได้สารภาพไปตามตรงว่าเลี้ยงเด็กจนถูกจับได้ ไม่อย่างนั้นนะจะโดนล้อยันลูกบวช"ไม่ได้หลอกหรอกค่ะ หนูกับคุณฟีลิกซ์เราสองคนรักกันค่ะ ก็เลยได้แต่งงานกันค่ะ"เธอพูดเพื่อให้เขาดูดีในสายตาของเพื่อนรัก นึกไม่ออกถ้าพวกเขารู้ว่าสถานะก่อนหน้านี้ของเธอคือการเป็นเด็กเลี้ยงระบายความใคร่ของเขา คงจะโดนล้อเลียนไม่น้อยเลย"แล้วแต่งงานไม่บอกเพื่อนบอกฝูง อะไรจะกะทันหันขนาดนั้น""ก็น้องยังเด็กอายุยังไม่มาก จดทะเบียนสมรสอยู่ด้วยกันไปก่อน ถ้าเกิดว่าเรียนจบค่อยจัดงานแต่งงานก็ยังไม่สาย""ก็จริงนะ เออเมื่อกี้ฉันเห็นแฟนเก่าแกด้วยนะ มารีน่าจะมาปาร์ตี้กับเพื่อน เห็นว่าแต่งงานไปแล้วไม่นานนี่ แต่ดูท่าทางจ้องมาทางแกไม่หยุดเลยนะ"เพื่อนของเขาอีกคนเอ่ยออกมาพร้อมกับบุ้ยปา
เวลาผ่านไปนานหลายปี จนตอนนี้ฟีลิกซ์อายุอานามได้สี่สิบกว่าปีแล้ว เชื่อไหมว่าเขากับภรรยาพยายามมีลูกด้วยกันถึงห้าคน สี่คนแรกเป็นผู้ชาย คนสุดท้ายเป็นผู้หญิง จึงทำให้ภรรยาสามารถทำหมันได้เพราะเขาพึงพอใจในจำนวนบุตรเท่านี้แล้ว"คุณพ่อครับ น้องตีกันอีกแล้ว"ฟรังค์ในตอนนี้อายุอานามได้เกือบสิบขวบ กำลังตะโกนเรียกคุณพ่อให้มาดูน้องคนอื่น ซึ่งตอนนี้กำลังแย่งไอแพดกันอยู่"อะไรอีกล่ะไอ้แสบทั้งหลาย จะทะเลาะกันทำไมพ่อไม่เข้าใจเลย พ่อซื้อไอแพดให้คนละหนึ่งเครื่องแล้วไม่ใช่เหรอ""พ่อครับ ฟิวชั่นมันแย่งของฟาร์ไปครับ อยากเล่นก็โหลดมาเองดิ จะมาแย่งของคนอื่นทำไม""ก็ฟิวชั่นอยากเล่นนี่นา พี่ฟาร์ก็โหลดให้ฟิวชั่นสิ"สองพี่น้องที่อายุอานามคลานตามกันมา ก็เริ่มแย่งไอแพดกันอีกครั้ง คนเป็นพ่อต้องเดินไปนั่งแทรกกลางระหว่างทั้งคู่ โหลดเกมในเครื่องให้เพื่อที่จะได้เลิกทะเลาะกันสักที"เดี๋ยวพ่อโหลดให้จะได้ไม่ต้องแย่งกัน"เขาจัดการเคลียร์ปัญหาให้ลูกเพื่อที่จะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน ตอนแรกรบเร้าอยากจะมีลูกหลายคน แต่ทว่าตอนนี้ถึงกับกุมขมับ เพราะแต่ละคนซุกซนแทบทั้งนั้น โชคยังดีที่ลูกสาวยังเล็กน่ารักอ่อนโยนและเชื่อฟังคุณแม่ ส่วนไอ้แ
ข้าวฟ่างกลับขึ้นมาในห้องนอนของตัวเอง อาบน้ำแต่งตัวใหม่ให้เรียบร้อยจากนั้นก็มาเปิดโน๊ตบุ๊ค เพื่อเรียนออนไลน์ในระหว่างที่ลูกชายไม่อยู่ ใกล้จะสอบปลายภาคแล้วจำเป็นจะต้องเรียนรู้หาข้อมูลใส่ตัวให้มากเธอนั่งเรียนไปนานเป็นชั่วโมง ก่อนจะชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องถูกเปิดออก แน่นอนว่าสามีน่าจะกลับจากทำงานแล้ว"กลับมาแล้วเหรอคะ"ฟีลิกซ์เห็นภรรยากำลังนั่งอยู่หน้าโน๊ตบุ๊ค ซึ่งคาดเดาว่าน่าจะกำลังเรียนออนไลน์อยู่ ก็เลยไม่อยากจะรบกวนในตอนนี้"เรียนอยู่เหรอคะ เรียนไปก่อนนะเดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำแป๊บหนึ่ง ไม่เห็นลูกเลยพ่อกับแม่ก็หาย""ไปเดินห้างค่ะ พ่อกับแม่หนูก็ไปด้วย""อ๋อ... โอเคค่ะงั้นตามสบายนะเดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อน"ชายหนุ่มเดินผ่านหญิงสาวก็ไม่ลืมที่จะยื่นมือไปแตะศีรษะของเธอไว้ จากนั้นก็โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ จูบศีรษะของภรรยาอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทันทีข้าวฟ่างเห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ตั้งแต่ที่เราสองคนเข้าใจกันก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไม่เคยมีปัญหาหรือกระทบกระทั่งกันอีก เขาทำตามที่สัญญามาโดยตลอด คำพูดอะไรที่จะกระทบจิตใจเขาจะยั้งเอาไว้ไม่หลุดออกมา ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดีทำให้
และในที่สุดทั้งสองคนก็มีวันนี้ วันที่มีความสุขมากที่สุดก็คือการที่เด็กน้อยได้คลอดออกมาอย่างปลอดภัย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความเจ็บปวดสำหรับคนเป็นแม่ แต่เชื่อเถอะว่ามันคือความเจ็บปวดที่งดงามสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง"ได้ลูกผู้ชายนะคะ แข็งแรงสมบูรณ์ครบ 32 คุณพ่อกับคุณแม่อยากจะลองอุ้มไหมคะ""อุ้มค่ะ..."น้ำเสียงเหนื่อยหอบของคุณแม่ที่พึ่งเบ่งคลอดโดยใช้แรงจนแทบจะหมดลมหายใจ จ้องมองไปยังเด็กน้อยที่ตอนนี้ถูกพันผ้าอย่างแน่นหนา มองมาทางพ่อกับแม่ตาใสแป๋ว"ดูสิตาใสแป๋วเลย""น้องลืมตาได้เลยค่ะเก่งมาก ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวจะให้คุณพ่อกับคุณแม่อยู่กับน้องสักแป๊บนึงนะคะ แล้วเดี๋ยวพยาบาลจะพาน้องไปตรวจร่างกายก่อน"พูดจบพยาบาลก็อุ้มเด็กน้อยมาวางไว้ให้ข้าวฟ่างตรงหน้าอก หญิงสาวพยายามใช้แรงที่ยังพอเหลืออยู่ โอบอุ้มลูกน้อยเอาไว้ก่อนจะยิ้มออกมา เงยหน้าขึ้นมองสบตากับสามีใบหน้าเอิบอิ่มไปด้วยความสุข"ดูลูกสิคะมองเราตาแป๋วเลย""ไงครับตัวเล็ก รู้จักคุณพ่อหรือเปล่า เราคุยกันตั้งแต่หนูอยู่ในท้องแล้วนะจำเสียงได้ไหม ต่อไปนี้พ่อกับแม่จะเรียกหนูว่า ฟรังค์... ลูกชายสุดที่รักของพ่อแล้วก็ของแม่""ชื่อน่ารักจังเลยค่ะ ดูสิคะไม่งอแงเลยลูก
หลังจากที่ทั้งสองคนมีความสุขด้วยกันอยู่ในห้องน้ำพอสมควรแล้ว ฟีลิกซ์ก็อาบน้ำให้ภรรยาจนเสร็จสรรพ จากนั้นก็พากันกลับเข้ามายังห้องนอน เปลี่ยนชุดเป็นชุดนอนให้สบายตัว"ใส่แบบนี้ดีกว่าเนาะ จะได้ไม่ต้องมีอะไรมารัดหน้าท้องด้วย""ไม่ใส่ก็ได้นะคะนอนสบายกว่านะ"หญิงสาวยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ แต่ทว่าชายหนุ่มถึงกับกลืนน้ำลายลงคอดังอึก ท่อนเอ็นเริ่มพองโตขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อภรรยาสุดที่รักพูดจายั่วยวนแบบนั้น"เดี๋ยวก็ไม่ได้นอนหรอก หึ...""ไม่เอาค่ะหนูง่วงนอนแล้ว งั้นนอนก่อนนะคะ"เธอยิ้มออกมาก่อนจะขยับตัวล้มลงนอนบนหมอน จากนั้นชายหนุ่มก็หยิบผ้าห่มมาคลุมตัวภรรยาเอาไว้ เอาหมอนข้างมาให้หญิงสาวสวมกอดจะได้นอนสบายขึ้น เนื่องจากว่าช่วงหน้าท้องขยายใหญ่ขึ้นมากแล้ว การที่จะนอนตะแคงโดยที่ไม่มีอะไรค้ำอยู่ อาจจะทำให้อึดอัดเอาได้" นอนแบบนี้สบายขึ้นไหมคะ""สบายแล้วค่ะขอบคุณนะคะ""นอนหลับเถอะค่ะ เดี๋ยวช่วงเย็นพี่จะปลุกลงไปกินข้าวข้างล่างนะ"หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาก่อนจะหลับตาลงด้วยใบหน้าที่ดูมีความสุขเป็นพิเศษ เธอมีความสุขในทุกครั้งที่ได้อยู่กับสามี ถ้าตอนนั้นไม่เกิดเรื่องราว ตอนนี้เราก็คงอยู่ด้วยกันไปแบบนี้แหละ แ
หลังจากที่คุยกับผู้ใหญ่อยู่สักพัก ฟีลิกซ์ก็อยากให้ภรรยาขึ้นมาพักผ่อน เนื่องจากว่าวันนี้เธอใช้ร่างกายไปเยอะพอสมควร อาจจะต้องได้รับการพักผ่อนสักพัก ช่วงเย็นค่อยลงมาอีกที"นอนพักผ่อนเถอะค่ะ เหนื่อยมาตั้งแต่เช้าแล้วเดี๋ยวเจ้าตัวเล็กไม่ได้พักผ่อนนะ""ก็ดีค่ะง่วงอยู่พอดีเลย ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวหนูขึ้นไปนอนพักก่อนนะคะ เดี๋ยวเย็นนี้จะลงมาคุยด้วยค่ะ""จ้ะลูกรีบไปนอนเถอะ ถ้าหนูอยากกินอะไรก็บอกนะเดี๋ยวแม่จะให้แม่บ้านทำไปให้""เพิ่งกินมาเองค่ะไม่เป็นอะไรหรอก ถ้างั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ"หญิงสาวเอ่ยออกมาก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น ควงแขนชายคนรักเอาไว้ จากนั้นก็พากันเดินขึ้นไปที่ห้องนอน และเมื่อมาถึงหญิงสาวก็มองสำรวจทั่วห้อง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ข้าวของทุกอย่างของเธอก็ยังคงอยู่ที่เดิมไม่หายไปไหน"หนูคิดว่าคุณจะทิ้งหมดแล้วซะอีก""จะทิ้งหมดได้ยังไงกันล่ะ พี่รู้ว่าอีกไม่นานเดี๋ยวหนูก็ต้องกลับมา เราอาบน้ำกันดีไหมคะ หนูจะได้สดชื่นขึ้นไง เดี๋ยวพี่อาบน้ำให้""ก็ดีค่ะ รู้สึกเหนียวตัวเหมือนกัน"เธอเอ่ยออกมาก่อนจะเดินไปยังตู้เสื้อผ้า เปิดดูว่าข้างในมีอะไรอยู่ ซึ่งก็เป็นชุดของเธอเกือบครึ่งตู้ เพราะช่วงเวลาที่งอนสามี และไม
หลังจากที่ชำระเงินเสร็จเขาก็พาหญิงสาวเดินทางกลับมาที่บ้าน ซึ่งตอนแรกว่าจะไปส่งเธอที่บ้านของตัวเอง แต่คิดไปคิดมาเขาอยากจะพาคนรักกลับไปที่คฤหาสน์บ้าง หลายเดือนมานี้เธอไม่ยอมย่างกรายเข้าไปเลย"ไปหาคุณพ่อคุณแม่พี่ไหม ท่านคงอยากเห็นใบอัลตร้าซาวนด์ คงอยากจะรู้ว่าหลานเป็นเพศไหน ตัวขนาดไหนแล้ว"เขาก็แค่ลองถามหยั่งเชิงดู ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะไม่ไปเขาก็ไม่โกรธหรอกนะ เพราะรู้ว่าความผิดที่ตัวเองทำมันมีมาก แต่ทว่าเขาคิดผิดแล้วก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อยเลยเธอยอมทำตามคำร้องขอ"ได้ค่ะ"เธอตอบกลับคำขอของของเขา เรื่องที่ชวนไปยังคฤหาสน์ เล่นเอาตกใจไม่น้อยเลย เพราะโดยปกติจะไม่ยอมกลับไปกับเขาเด็ดขาด เพราะยังมีอารมณ์โมโหโกรธคนเป็นสามีอยู่"ทำไมถึง...""พูดเยอะจะไม่ไปแล้วนะคะ"และเมื่อหญิงสาวพูดแบบนั้นชายหนุ่มก็รีบหุบปากของตัวเองลง จากนั้นก็รีบขับตรงไปยังคฤหาสน์เพราะกลัวว่าภรรยาอาจจะเปลี่ยนใจได้ ใบหน้าจากที่มีคำถามแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มออกมาแก้มปริ ใครจะคิดว่าคนรักของเขาจะยินยอมตามใจในที่สุด"ถึงแล้วค่ะ"และเพียงไม่นานเขาก็ขับรถมาจอดยังลานจอดรถของคฤหาสน์สุดหรู เปิดประตูรถเดินลงมาจากนั้นก็เปิดประตูให้ภรรยา ยื่นมือไปตรงห
"ว่ามาเลยค่ะมีอะไรจะคุยกับหนูคะ""ถ้าพี่พูดอะไรไป ข้าวฟ่างสัญญาได้ไหมว่าจะไม่โกรธ แต่ที่พี่ต้องพูดเพราะแค่อยากให้ข้าวฟ่างเข้าใจสามีของเราบ้าง"หญิงสาวนิ่งเงียบไปด้วยความคิดหนัก เพราะดูจากประโยคคำพูดน่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูด แต่พี่ทรายอยากจะให้เธอเข้าใจในตัวของคุณฟีลิกซ์ จึงต้องเลือกที่จะมาพูด"สัญญากับพี่นะว่าจะไม่โกรธ""ก็ได้ค่ะ ว่าแต่มันเป็นเรื่องอะไรคะ""พี่ไม่รู้หรอกนะว่าฟีลิกซ์พูดอะไรไม่ดีหรือเปล่า ถึงทำให้ข้าวฟ่างโกรธแบบนั้น แต่ว่าเรื่องมันก็มีที่มาที่ไป งั้นเอางี้ดีกว่าพี่ถามได้ไหมว่าข้าวฟ่างโกรธอะไรฟีลิกซ์"ทรายเอ่ยถามข้าวฟ่างไปตามตรง ถ้ามันเป็นอย่างที่เธอคิดจะได้อธิบายให้ตรงจุด ทั้งสองคนจะได้เข้าใจกันสักที"ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ตอนนั้นหนูท้องแล้วก็ไปบอกเขาว่าเรากำลังจะมีลูกด้วยกัน แต่ว่า...""เขาบอกว่าเด็กในท้องของข้าวฟ่างไม่ใช่ลูกเขาใช่ไหม""ใช่ค่ะ เขาพูดเหมือนว่าตัวเองเป็นหมัน มีลูกไม่ได้ก็เลยคิดว่าหนูไปนอนกับคนอื่นมา แล้วก็ให้เขารับผิดชอบ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะว่าเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ช่วงหลังก็ยอมรับว่าเป็นลูกของตัวเอง แต่ความรู้สึกมันเสียไปแล้วค่ะ ข้าวฟ่างลำบากใจที
หลังจากที่คุยกันอยู่ในห้องนานพอสมควร พยาบาลก็พาทั้งสองคนไปยังห้องอัลตร้าซาวนด์ ซึ่งตอนนี้คุณหมอรออยู่แล้ว วันนี้เธออาจจะได้รู้เพศลูก จะได้เตรียมตัวเพราะอีกไม่กี่เดือนเราสองคนก็จะได้เจอลูกแล้ว"พร้อมแล้วนะคะคุณแม่ มานอนลงตรงนี้เลยค่ะเดี๋ยวหมอจะอัลตร้าซาวนด์ให้ดูเด็กน้อย"ข้าวฟ่างทำตามที่คุณหมอสั่งอย่างว่าง่าย โดยที่มีฟีลิกซ์คอยประคองอยู่เคียงข้างไม่ห่าง คุณหมอก็ใช้เจลทาที่ช่วงท้องของเธอ จากนั้นก็ใช้อุปกรณ์บางอย่างหมุนตรงช่วงท้องของเธอ และภาพก็ฉายอยู่บนจอมอนิเตอร์ข้างหน้า"ตรงนี้เป็นศีรษะของน้องนะคะ มีตาสองข้าง มีจมูกโด่งด้วยนะเนี่ย มีปาก มีหูสองข้าง ซ้าย และขวาครบ"ทั้งสองคนมองหน้าจอมอนิเตอร์น้ำตาคลอ ตอนแรกก็ไม่ได้มีความพร้อมในการเลี้ยงเด็กหรอก ตัวเองก็ยังเรียนหนังสือไม่จบเลย แต่ด้วยความที่แต่งงานจดทะเบียนสมรสกับสามี จึงทำให้ทุกคนพอปล่อยผ่านกับเรื่องนี้ได้"แล้วสรุปว่าลูกผมได้เพศอะไรครับ""เดี๋ยวแป๊บนึงนะคะ"คุณหมอค่อย ๆ ตรวจ โดยที่สายตายังมองไปยังหน้าจอมอนิเตอร์ด้วยความตั้งใจ ใช้เวลาอยู่สักพักใหญ่ และดูเหมือนว่าตอนนี้พอมั่นใจมาได้บ้างประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ว่าเด็กน้อยเป็นเพศอะไร"น้องเ
ข้าวฟ่างเดินออกมาจากร้าน ซึ่งฟีลิกซ์ที่นั่งอยู่ตรงนั้นเห็นพอดีก็เลยยิ้มกว้างออกมา วางแก้วกาแฟลงที่โต๊ะ ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น และเดินเข้ามาหาภรรยา"คุณมาทำไมคะ""ก็วันนี้คุณหมอนัดให้ไปอัลตร้าซาวนด์ไม่ใช่หรือไง พี่ก็มารับข้าวฟ่างไปหาหมอด้วยกันไง ก็อยากจะเห็นลูกที่อยู่ในท้องบ้าง""จะสนใจทำไมคะลูกตัวเองก็ไม่ใช่"หญิงสาวสะบัดหน้าใส่ชายหนุ่มด้วยความน้อยใจ ความรู้สึกที่เขาไม่มั่นใจในตัวเธอกับลูกยังคงอยู่ในหัวสลัดยังไงก็ไม่ออก มันเป็นปมในใจที่ยังคงอยู่ และคิดว่าคงต้องใช้เวลานานพอสมควรกับการที่เธอจะไม่รู้สึกกับคำพูดพวกนั้น"ทำไมพูดแบบนี้คะ พี่ขอโทษที่พูดไม่ดี ขอโทษที่พูดไม่คิด""รีบไปเถอะใกล้ถึงเวลาหมอนัดแล้วนี่""สวัสดีครับแม่รพี ผมขอพาน้องไปโรงพยาบาลนะครับ""แต่ว่าหนูนัดกับแม่แล้วค่ะว่าจะไปโรงพยาบาลด้วยกัน คุณไม่ต้องไปส่งก็ได้"เธอเอ่ยออกมาก่อนจะกวักมือเรียกคุณแม่ให้เข้ามา เพื่อที่จะได้ไปโรงพยาบาลด้วยกัน แต่ทว่ารพีไม่อยากให้ลูกสาวทำตัวเย็นชาใส่คนเป็นสามี ถึงแม้ว่าเขาจะพลาดที่เคยพูดไม่ดี คำพูดบางอย่างทำร้ายจิตใจ แต่ตอนนี้เขาก็รู้สึกผิดมากแล้ว และพร้อมที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง เพราะฉะนั้นเราควรให้