หลังจากที่เขาซื้อกาแฟแล้วก็ซื้อเค้กเสร็จ ก็ออกมาจากคาเฟ่ชื่อดัง จากนั้นก็พากันไปตรวจงานที่สาขาใหญ่ในกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาทำงานในโรงแรมจนถึงวันนี้ คุณพ่อท่านเห็นความสามารถ และยอมยกตำแหน่งท่านประธานบริษัทให้เขาบริหาร โดยระดับผู้บริหารจะมีเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่เป็นคนคอยดูแล ส่วนพี่สาวเธอเปิดร้านอาหารอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลของสามี แต่ทว่าเธอมีหุ้นส่วนอยู่ในโรงแรม ซึ่งเขากับพี่ฟีน่ามีหุ้นส่วนในบริษัทคนละ 25 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 50 เปอร์เซ็นต์ คุณพ่อท่านยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เพียงแค่เขาได้รับการมอบหมายจากคุณพ่อ จะได้นั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ และได้เงินเดือนพร้อมโบนัสพิเศษแยกจากเงินปันผลของหุ้นส่วนอีกทีหนึ่ง
"ถึงแล้วครับท่านประธาน เดี๋ยวผมจะให้พนักงานเอาเค้กไปแช่ที่ตู้เย็นไว้ก่อน แล้วเดี๋ยวถ้าเกิดว่าเราจะกลับก็ค่อยให้พนักงานเอามาให้ที่รถ"
"ผมก็ลืมไปเลยว่าเราทำงานต่อ แต่เห็นว่าร้านนั้นเค้กน่ากินดีผมก็เลยซื้อไว้ก่อน"
"ไม่ใช่ว่าพนักงานหน้าเคาน์เตอร์เป็นสเปคเหรอครับ หน้าตาจิ้มลิ้มเชียวอายุถึง 18 ปีหรือยังก็ไม่รู้ แต่ผมว่าเธอน่ารักดีนะครับ"
ตฤณเอ่ยแซวเจ้านายเหมือนจะรู้ว่าคุณฟีลิกซ์ดูจะสนใจเด็กคนนั้นไม่น้อยเลย เหมาขนมเค้กเยอะขนาดนั้น แถมยังให้ทิปมืออีกห้าร้อยบาท แค่ซื้อกาแฟแก้วเดียวไม่มีใครที่ไหนให้ทิปพนักงานเยอะขนาดนี้หรอก อย่างมากสุดก็คงจะแค่หนึ่งร้อยบาทเท่านั้น
"หึ... คุณจะมารู้ดีกว่าผมได้ยังไง"
"ผมรู้ใจท่านประธานก็แล้วกันครับ เชิญข้างในดีกว่าข้างนอกอากาศร้อน"
เขายิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยก่อนจะผายเมื่อเชิญเจ้านายให้เดินเข้าไปข้างใน ท่านประธาน และลูกน้องคนสนิทพากันเดินดูความเรียบร้อยภายในโรงแรม เมื่อพนักงานภายในโรงแรมเห็นใบหน้าของเจ้านายก็เบิกตากว้างอย่างตกใจ ก่อนจะรีบขยับตัวลุกขึ้น เดินเข้ามาทักทายเขาด้วยความนอบน้อม
"ท่านประธานสวัสดีค่ะ คุณตฤนสวัสดีค่ะ ไม่มีใครแจ้งเลยค่ะว่าท่านประธานกับคุณผู้ช่วยจะมาที่นี่ พวกเราเลยไม่ได้เตรียมการต้อนรับเลย"
"ไม่ต้องวุ่นวายอะไรหรอกผมแค่มาตรวจงานเท่านั้น คุณไปทำงานของตัวเองเถอะ ตฤณพาผมเข้าไปแผนกบัญชีหน่อย"
"ได้ครับท่านประธาน"
ตฤณเดินนำท่านประธานเข้าไปยังลิฟต์ จากนั้นก็กดหมายเลข 15 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของโรงแรม และเป็นชั้นที่มีออฟฟิศของพนักงานทั้งหมดอยู่ตรงนั้น ส่วนชั้นอื่น ๆ ก็จะเป็นห้องพักไล่ตั้งแต่ ห้องทั่วไป และก็มีห้องครอบครัว ห้อง VVIP เยอะแยะไปหมด
ส่วนชั้นบนสุดที่ถัดขึ้นไปจากชั้น 15 ก็เป็นชั้นดาดฟ้าซึ่งตรงนั้นมีบาร์ cocktail เปิดอยู่ และแน่นอนว่าผู้ที่จะเข้ามาใช้บริการได้ก็คือลูกค้าที่มาเข้าพักเท่านั้น ทุกคนจะมีบัตรสแกนเข้าไปจึงป้องกันไม่ให้คนนอกเข้ามาได้ดีทีเดียว
"เชิญทางนี้เลยครับท่านประธาน"
เขาเดินตรงเข้าไปห้องบัญชีก่อนจะยกมือรับไหว้พนักงานทุกคน ถามว่าอายุการทำงานของพนักงานคนอื่น ๆ ถ้าเทียบกับเขาก็ถือว่าเราห่างกันพอสมควร แต่ด้วยความที่เขาเป็นท่านประธานบริษัท และมีหุ้นส่วนอยู่ในนี้จึงทำให้พนักงานทุกคนต้องให้ความเคารพยำเกรง ก็ไม่แปลกใจที่ทุกคนจะต้องทักทายเขาก่อนในทุกครั้งที่เจอกัน
"สวัสดีครับท่านประธาน"
"ตามสบายเถอะทุกคน แค่มาตรวจบัญชีนิดหน่อยเห็นว่าตัวเลขไม่ตรง ไหนว่ามาสิครับเกิดอะไรขึ้นจะได้ช่วยกันแก้ไข"
เขาหันไปสนใจความสำคัญตรงหน้านั่นก็คือการทำงานในแต่ละวัน ทุกวันนี้ตื่นมาทำงานแล้วก็กลับไปนอนเท่านั้น ส่วนเรื่องความรักเขาไม่อยากจะพูดถึงเพราะยังเข็ดจากผู้หญิงคนเก่าอยู่ คบกันมานานหลายปีตั้งใจว่าจะแต่งงานกับเธอแล้วก็มีลูกด้วยกัน พยายามที่จะปล่อยมาเป็นปี ๆ เชื่อไหมว่าโอกาสท้องแทบจะเป็นศูนย์ เขาไปตรวจกับคุณหมอก็ได้รับคำตอบที่ห่อเหี่ยวใจ แทนที่คนรักจะเยียวยาสภาพจิตใจของเขา กลับกลายเป็นว่าเธอมาบอกเลิกและให้เหตุผลว่าเขาไร้ซึ่งน้ำยา
"เดี๋ยวเชิญท่านประธานที่ห้องประชุมดีกว่าครับ"
"ไปสิ"
เขาเดินตามพวกลูกน้องไปหลังห้องประชุมของโรงแรม ซึ่งก็มีหลายคนที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย จากการเข้ามาฝึกงานในโรงแรมจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลา 10 กว่าปีแล้ว กลายเป็นว่าเขามีประสบการณ์ที่มากพอที่จะยืนอยู่จุดสูงสุดได้ด้วยตัวคนเดียว ส่วนคุณพ่อท่านก็เป็นกำลังใจให้อยู่ห่าง ๆ คอยให้คำปรึกษาบ้างก็เท่านั้น
"ก็ยังไม่เห็นว่าผิดแปลกไปตรงไหน คุณตฤณผมว่าส่งไปให้บริษัทที่รับตรวจสอบบัญชีของเราดีกว่า"
"ได้เลยครับเดี๋ยวผมจัดการให้"
เขาหันไปมองหน้าจอโปรเจคเตอร์เพื่อดูพนักงานชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการทำงานของโรงแรม ซึ่งก็กินเวลาไปเกือบครึ่งวัน แล้วตอนนี้เป็นเวลาประมาณ 4 โมงเย็น เขาก็เริ่มหิวจนคิดว่าจะหาอะไรกินในระหว่างเดินทางกลับ
"เดี๋ยวผมจะเข้าไปส่งคุณที่ออฟฟิศ แต่ว่าตอนนี้ผมหิวมากหาอะไรกินก่อนไหม"
"ได้ครับ ใกล้ ๆ กับบริษัทของเรามีร้านอาหารอยู่ เป็นร้านที่ผมสั่งมาให้เจ้านายกินประจำในช่วงกลางวัน"
"อ๋อ จำได้แล้วอร่อยนะถ้างั้นกินร้านนั้นก็ได้"
ทั้งสองคนเดินทางไปยังร้านอาหารที่อยู่ไม่ห่างไกลจากออฟฟิศมากนัก และเมื่อเดินทางมาถึงก็เข้าไปนั่งอยู่ในโซน VIP ซึ่งโซนนั้นเงียบสงบคนไม่พลุกพล่าน
"เชิญได้เลยค่ะ โซนนี้เป็นโซน VIP เป็นโซนสงบผู้คนไม่พลุกพล่าน นี่เป็นเมนูนะคะคุณลูกค้าเลือกดูได้เลยแล้วเดี๋ยวจะมีน้องพนักงานมารับออเดอร์อีกทีนึงค่ะ"
ทั้งสองคนนั่งคุยกันไปในระหว่างที่รอพนักงานเข้ามารับออเดอร์ แล้วเพียงไม่นานก็มีคนเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับเอ่ยทักทายเสียงสดใส
"คุณลูกค้าเลือกได้หรือยังคะ"
น้ำเสียงที่ดูคุ้นหูเหมือนเคยได้ยินจากไหนมาก่อน ทำให้ชายหนุ่มรีบเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะตาโตเมื่อเห็นใบหน้าของเด็กนักศึกษาที่ทำงานร้านกาแฟ แต่ทำไมช่วงเย็นถึงมาโผล่อยู่ที่ร้านอาหารอีกแล้ว
"เธออีกแล้วเหรอเนี่ย"
"คุณ! สวัสดีค่ะบังเอิญเจอกันอีกแล้วนะคะ"
รอยยิ้มสดใสเอ่ยทักทายชายหนุ่มอีกครั้ง ผู้ชายที่ให้ทิปเธอเมื่อเช้าตั้ง 500 บาท ใครจะลืมลงกันได้ล่ะ
"ทำไมมาอยู่ที่นี่แล้ว"
"ทำงานพิเศษ 2 ที่ค่ะ ร้านอาหารก็ไม่ได้มาทุกวัน ซึ่งร้านกาแฟก็ไม่ได้มาทุกวันเหมือนกันค่ะ แต่ถ้าเกิดว่าวันไหนมีเรียนน้อยหนูก็จะทำทั้ง 2 ที่เลยค่ะ"
"โห... ขยันเกินไปปะ"
เขา และผู้ช่วยหันมามองมากกันอย่างทึ่งกับผู้หญิงตรงหน้า ตัวแค่นี้แต่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ไหนจะต้องไปเรียนหนังสืออีกแบ่งเวลายังไงก่อน
"ถ้าไม่ขยันก็อดตายสิคะ ว่าแต่เลือกได้หรือยังคะเดี๋ยวหนูจะได้สั่งอาหารให้ ไม่อย่างนั้นจะได้ช้านะคะ"
"โอเคสั่งก็สั่ง"
เขาก้มหน้าลงไปมองเมนูจากนั้นก็ชี้นิ้วไปยังเมนูอาหารที่เป็น special ของร้าน ส่วนลูกน้องของเขาก็สั่งอีกเซตหนึ่ง และเมื่อหญิงสาวได้สิ่งที่ต้องการก็เอ่ยขอบคุณพวกเขาก่อนจะเดินออกไปทันที
"ของคุณลูกค้าเป็นเมนูเซต special กับ set b นะคะ เครื่องดื่มเป็นน้ำเก๊กฮวย แล้วก็น้ำเปล่านะคะ รออาหารไม่เกิน 20 นาทีค่ะ ในระหว่างนี้เดี๋ยวทางเราจะเอาน้ำเก๊กฮวยกับน้ำเปล่ามาเสิร์ฟ แล้วก็จะมีเมนูกินเล่นในระหว่างรออาหารนะคะ"
พูดจบหญิงสาวก็เดินออกไปทันทีด้วยความขยันขันแข็ง ชายหนุ่มเท้าคางจ้องมองไปยังเธอด้วยความทึ่งในความขยัน ปกติเห็นวัยเดียวกันเขาก็เรียนอย่างเดียว ไม่ได้มาทำงานหนักขนาดนี้ เที่ยวเล่นตามประสาเด็กวัยรุ่นทั่วไป เพิ่งเคยเห็นเนี่ยแหละคนแบบนี้ก็มีด้วย
"เป็นผู้หญิงที่น่าสนใจดีนะครับท่านประธานขยันเกินกว่าวัยเดียวกัน"
"ก็จริง น่าสนใจดี"
เขาใช้เวลาในการรับประทานอาหารอยู่ที่ร้านกินเวลาไปเกือบหนึ่งชั่วโมง จากนั้นก็เรียกพนักงานมาเช็คบิลซึ่งเป็นคนเดิมที่เขาเจอเมื่อช่วงเช้า "ทั้งหมด 1,200 บาทค่ะ คุณลูกค้าจะชำระเงินเป็นบัตรเครดิต QR code หรือเงินสดดีคะ" "เงินสดก็ได้" เขาส่งแบงค์พันไปให้หญิงสาว 2 ใบ จากนั้นเธอก็รับเงินจำนวนนั้นมา และเดินไปยังเคาน์เตอร์แคชเชียร์ หยิบเงินทอนใส่เข้าไปในถาดก่อนจะเดินกลับไปหาผู้ชายทั้งสองคนที่นั่งอยู่ในห้อง VIP "นี่เป็นเงินทอนค่ะ เป็นจำนวนเงิน 800 บาท" "เธอเก็บไว้เถอะ ฉันให้" หญิงสาวอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เงินทอนที่ว่าหลายร้อยเลยนะ ทำไมเขาถึงให้เธอง่าย ๆ โดยไม่เสียดายแบบนี้ล่ะ "มันจะดีเหรอคะเงินตั้ง 800 บาท" "ไม่เป็นไรหรอกถือว่าเป็นรางวัลสำหรับคนขยัน ยินดีที่ได้เจอกันนะ ฉันชอบเด็กขยันตั้งใจทำงานล่ะ ถ้าเรียนจบก็มาสมัครงานที่บริษัทฉัน โรงแรมในเครือพงศ์สกุลไพศาล" "เป็นเจ้าของธุรกิจเหรอคะ แล้วโรงแรมที่ว่าหนูเคยได้ยินนะคะมีสาขาเยอะมากเลย ถ้าเป็นแบบนี้คุณต้องรวยมากแน่ ๆ เลยใช่ไหมคะ" "หึ... ก็ประมาณนั้นแหละ ฉันไปก่อนนะเอาไว้จะแวะมากินอีกแล้วกัน" "แวะไปกินกาแฟก็ได้นะคะ หนูอยู่ที่นั่นบ่อยกว่าท
หลายวันต่อมา..."อเมริกาโน่เย็นคั่วเข้ม 1 แก้วนะคะ"หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มสดใส เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้ามายืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ เชื่อไหมว่าเขามากินกาแฟที่ร้านทุกวัน แล้วเธอก็ได้ทิปจากผู้ชายตรงหน้าวันละหลายร้อยบาท ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงใจดีแบบนี้ แต่ก็ขอบคุณมากเพราะว่าทำให้เธอมีเงินเก็บเยอะขึ้นเชียวแหละ"เก่งนี่ จำได้โดยที่ไม่ต้องบอกแล้ว""หนูจำได้ตั้งแต่วันแรกที่คุณมาแล้วค่ะ แต่ถ้าเกิดว่าอยากจะเปลี่ยนดูบ้างก็บอกกันได้นะคะ หนูจะได้ทำเมนูอื่นให้ดื่มบ้าง""ไม่เป็นไรหรอกดื่มอเมเนี่ยแหละ ไปนั่งที่เดิมนะ""รับทราบค่ะ"เธอตอบรับชายหนุ่มก่อนจะปริ้นใบเสร็จออกมาเพื่อให้เขาชำระเงิน แน่นอนว่าดื่มกาแฟแก้วละ 80 บาทแต่จ่ายแบงค์พันให้เธอทุกวัน เธอได้ทิปวันละ 920 บาท พนักงานแถวนี้อิจฉาเธอตาลุกวาวแล้ว"ที่เหลือเป็นทิปนะ""ขอบคุณค่ะ"หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณชายหนุ่ม ก่อนจะหันไปชงอเมริกาโน่เย็นให้เขาทันที พนักงานคนอื่นเมื่อเห็นฟีลิกซ์เดินออกไปจากตรงนั้นก็รีบเข้าไปหาข้าวฟ่างทันที"พี่ว่าเขาชอบน้องข้าวฟ่างแน่เลย""คงไม่ใช่หรอกมั้งคะ เขาเป็นเจ้านายของคุณแม่หนูด้วยนะ สงสัยจะเอ็นดูหนูมั้งคะเห็นหนูขยัน
"ตอนนี้ที่โรงแรมของเราทุกสาขามีการจองห้องพักเต็มทุกห้องเลยครับ รวมถึงห้องสัมมนาที่จองไปจนถึงสิ้นปี"เสียงฝีเท้าของทั้งสองคนดังขึ้นตามพื้นกระเบื้องมาเบิล ฟีลิกซ์ประธานบริษัทของโรงแรมในเครือพงศ์สกุลไพศาล ถือโทรศัพท์เดินนำหน้าออกไปก่อน โดยมีผู้ช่วยคนสนิทถือแฟ้มเอกสารเดินตามมา ระหว่างที่เดินไปขึ้นลิฟต์เขาก็ได้อธิบายเกี่ยวกับรายละเอียดของโรงแรมในเบื้องต้น อัพเดทความเคลื่อนไหวทุก ๆ สัปดาห์ "และก็จะมีคณะทัวร์จากต่างประเทศเข้าพักในช่วงเดือนหน้าด้วย ส่วนเดือนเมษายนจะมีแบรนด์กระเป๋าระดับโลกใช้โรงแรมของเราในการเปิดตัวแบรนด์ที่ประเทศไทย ซึ่งงานนี้ทางแบรนด์ได้เชิญท่านประธานเข้าร่วมด้วยนะครับ""ลงคิวไว้เลยแล้วก็ใกล้ ๆ ค่อยเตือนผมอีกทีหนึ่ง""ได้เลยครับท่านประธาน ว่าแต่ตอนนี้เราจะไปที่ไหนกันก่อนดีครับ""ไปแวะซื้อกาแฟก่อน แล้วเดี๋ยวฉันจะเข้าไปตรวจงานที่สาขาใหญ่ ไม่ต้องแจ้งไปทางผู้จัดการสาขาว่าผมจะเข้าไป เดี๋ยวจะเกณฑ์คนมาต้อนรับวุ่นวายกันไปหมด"เขาเอ่ยออกมาก่อนจะยืนอยู่ตรงหน้าประตูลิฟท์ ใช้บัตรพนักงานแตะที่สแกน และเพียงไม่นานประตูลิฟต์ก็ถูกเปิดออก เขา และผู้ช่วยพากันเดินเข้าไปข้างใน กดลิฟต์ให้ลงไปยัง