หลายวันต่อมา...
"อเมริกาโน่เย็นคั่วเข้ม 1 แก้วนะคะ"
หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มสดใส เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้ามายืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ เชื่อไหมว่าเขามากินกาแฟที่ร้านทุกวัน แล้วเธอก็ได้ทิปจากผู้ชายตรงหน้าวันละหลายร้อยบาท ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงใจดีแบบนี้ แต่ก็ขอบคุณมากเพราะว่าทำให้เธอมีเงินเก็บเยอะขึ้นเชียวแหละ
"เก่งนี่ จำได้โดยที่ไม่ต้องบอกแล้ว"
"หนูจำได้ตั้งแต่วันแรกที่คุณมาแล้วค่ะ แต่ถ้าเกิดว่าอยากจะเปลี่ยนดูบ้างก็บอกกันได้นะคะ หนูจะได้ทำเมนูอื่นให้ดื่มบ้าง"
"ไม่เป็นไรหรอกดื่มอเมเนี่ยแหละ ไปนั่งที่เดิมนะ"
"รับทราบค่ะ"
เธอตอบรับชายหนุ่มก่อนจะปริ้นใบเสร็จออกมาเพื่อให้เขาชำระเงิน แน่นอนว่าดื่มกาแฟแก้วละ 80 บาทแต่จ่ายแบงค์พันให้เธอทุกวัน เธอได้ทิปวันละ 920 บาท พนักงานแถวนี้อิจฉาเธอตาลุกวาวแล้ว
"ที่เหลือเป็นทิปนะ"
"ขอบคุณค่ะ"
หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณชายหนุ่ม ก่อนจะหันไปชงอเมริกาโน่เย็นให้เขาทันที พนักงานคนอื่นเมื่อเห็นฟีลิกซ์เดินออกไปจากตรงนั้นก็รีบเข้าไปหาข้าวฟ่างทันที
"พี่ว่าเขาชอบน้องข้าวฟ่างแน่เลย"
"คงไม่ใช่หรอกมั้งคะ เขาเป็นเจ้านายของคุณแม่หนูด้วยนะ สงสัยจะเอ็นดูหนูมั้งคะเห็นหนูขยันทำงานหลายที่"
เธอคิดในทางที่ดีไม่ได้มีจิตใจอกุศลคิดร้ายแบบนั้น อีกอย่างเขาเป็นคนร่ำรวย มีตำแหน่งเป็นประธานบริษัท และเธอผู้ซึ่งเป็นนักศึกษาฐานะทางบ้านก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ไม่มีทางที่จะมาสนใจคนอย่างเธอหรอก
"แต่พี่ว่าใช่นะ เขาไม่เคยมากินกาแฟที่นี่มาก่อนเลย พอมาวันแรกแล้วก็เจอข้าวฟ่าง หลังจากนั้นเขาก็มาทุกวัน แล้วก็ให้ทิปเยอะมาก"
เธอทำหน้ามึนงงไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่รุ่นพี่ที่ทำงานต้องการจะสื่อ เขาอาจจะพึ่งค้นพบเจอร้านกาแฟที่ถูกปาก ก็เลยมากินบ่อยเป็นเรื่องปกติแหละ
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะไม่ต้องคิดมาก งั้นเดี๋ยวหนูเอากาแฟไปเสิร์ฟก่อนนะคะ"
เธอยิ้มออกมาก่อนจะถือแก้วอเมริกาโน่เดินไปหาชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงโซฟา ซึ่งวันนี้เขามาคนเดียวไม่ได้พาผู้ช่วยมาด้วย
"อเมริกาโน่เย็นได้แล้วค่ะ"
"ขอบใจ... ว่างไหมมานั่งคุยกันก่อนสิ"
"ก็พอได้ค่ะวันนี้คนไม่ค่อยเยอะ ว่าแต่จะคุยอะไรกับหนูเหรอคะ"
หญิงสาวเดินมานั่งลงตรงโซฟากับชายหนุ่ม ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะดูท่าทางเหมือนเขามีอะไรอยากจะคุยกับเธอ
"เรียนอยู่ปีอะไรแล้ว"
"ใกล้จะจบปี 1 แล้วค่ะ"
"เธอต้องทำงานหาเงินจ่ายค่าเทอมเองเหรอ น้ารพีก็ไม่ใช่ว่าจะเงินเดือนน้อย ๆ นะ แม่ฉันให้เดือนละตั้งหลายหมื่น"
เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก ด้วยความที่น้ารพีเป็นคนสนิทของคุณแม่มาตั้งแต่ไหนแต่ไร เงินเดือนได้เยอะกว่าแม่บ้านไม่รู้กี่เท่า เทศกาลต่าง ๆ ก็ได้เงินเพิ่ม มีความแปลกใจว่าทำไมลูกสาวถึงมาทำงานเยอะขนาดนี้
"หนูไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องงานของแม่หรอกค่ะ อีกอย่างหนึ่งคุณพ่อไม่ค่อยสบายอยู่ที่บ้าน ต้องไปโรงพยาบาลเกือบทุกอาทิตย์ ไปครั้งหนึ่งก็เสียค่าใช้จ่ายเยอะไม่น้อยเลยค่ะ หนูก็เลยอยากแบ่งเบาภาระด้วยการทำงานด้วยตัวเอง มันก็พอค่าเทอมนะคะ ส่วนค่ากินก็ประหยัดเอาหน่อยไม่ได้ลำบากอะไรเลยค่ะ"
เธอเอ่ยออกมาตามความเป็นจริง การทำงานหลายที่ถือว่าเป็นความเคยชิน และทำให้หญิงสาวรู้สึกสนุกไม่ได้เหนื่อยอะไรมาก ยิ่งงานไหนที่ได้เงินเยอะเธอก็ยิ่งชอบ ดีกว่าเอาเปรียบครอบครัวอยู่ฝ่ายเดียว เธอโตพอที่จะดูแลตัวเองได้บ้างแล้ว ไม่อยากจะรบกวนพวกท่านให้ลำบากใจ
"แต่ว่าเธอเรียนหนังสืออยู่นะ แบบนี้จะรู้เรื่องหรือไง ฉันเห็นทีไรเธอก็ทำงานตลอด"
"หนูอ่านหนังสือประมาณช่วงดึกค่ะ นอนก็ประมาณตี 1 เช้าก็ตื่นปกติแวะไปจัดของที่ร้านกาแฟจากนั้นก็ไปเรียนค่ะ พอเรียนเสร็จก็กลับมาชงกาแฟต่อช่วงบ่าย"
"ฟังแล้วเหนื่อยแทนดี"
ฟีลิกซ์ยกกาแฟขึ้นดื่มไม่ได้พูดอะไรอีก เป็นเด็กที่ขยัน และมีความพยายามดี หายากมากเลยนะที่จะเจอคนแบบนี้ เขาดื่มกาแฟจนหมดจากนั้นก็หยิบนามบัตรออกมาจากกระเป๋า


"นี่นามบัตรของฉัน แล้วก็เอาเบอร์ของเธอมาให้ฉัน เดี๋ยวจะลองดูว่ามีงานอะไรให้ทำไหม จะได้ไม่ต้องทำหลายที่แบบนี้"
เธอจ้องมองนามบัตรที่อยู่ในมือของเขาก่อนจะรับมาถือไว้ จากนั้นก็ยกมือไหว้ขอบคุณชายหนุ่มที่ดีกับเธอมากเหลือเกิน
"ขอบคุณมากเลยนะคะ เดี๋ยวหนูจดเบอร์ให้ค่ะ ถ้าเกิดว่าคุณมีงานอะไรให้หนูทำจ้างได้เลยนะคะ หนูทำได้ทุกอย่างเลยค่ะ"
เธอรีบหยิบปากกากับกระดาษที่อยู่ในผ้าเอี๊ยมจากนั้นก็เขียนเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองส่งไปให้เขา ชายหนุ่มรับมาถือไว้ในมือ ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมกับส่งยิ้มให้ข้าวฟ่าง
"ฉันจะไปประชุมต่อแล้ว เอาไว้เจอกัน"
"ขอบคุณนะคะ โอกาสหน้าเชิญใหม่ค่ะ"
เธอโบกไม้โบกมือให้ชายหนุ่มก่อนจะเดินกลับไปอยู่หน้าเคาน์เตอร์เพื่อรับลูกค้าต่อ การที่ได้คุยกับเขามันเป็นความรู้สึกที่อบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก อาจจะเพราะว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีชายใดใกล้ชิดกับเธออย่างเช่นเขา แถมยังใจดีอีก ก็เลยทำให้อาจจะหวั่นไหวเอาได้
ช่วงเย็น... เวลาประมาณ 19:00 น.
ฟีลิกซ์ในชุดนอนนั่งอยู่บนเตียงในมือกำลังถือ iPad อยู่ เขาดูอะไรไปเรื่อยเปื่อยเพราะว่าตอนนี้ไม่มีอะไรทำ เหลือบสายตามองนาฬิกาตรงฝาผนังเป็นเวลาประมาณ 19:00 น. เป็นเวลาที่แม่บ้านจะเอาผลไม้แล้วก็น้ำสมุนไพรมาให้
นึกถึงยังไม่ทันไรก็มีเสียงคนเคาะประตูอยู่ข้างนอก ชายหนุ่มตะโกนออกไปเพราะว่าในห้องนอนของเขาไม่ได้ล็อคประตูไว้
"เข้ามาครับ"
และเมื่อประตูถูกเปิดออกชายหนุ่มก็เลิกคิ้วด้วยความสงสัย เพราะคนที่เอาผลไม้กับน้ำสมุนไพรมาให้เขาก็คือข้าวฟ่างนั่นเอง
"ทำไมถึงมาได้"
"หนูมารับแม่ค่ะ แม่ก็เลยใช้ให้หนูเอาผลไม้กับน้ำสมุนไพรมาให้ก่อนค่ะ แต่ว่าเดี๋ยวก็จะกลับบ้านแล้ว งั้นหนูวางไว้ตรงนี้นะคะ"
หญิงสาวถือถาดผลไม้ และน้ำสมุนไพรไปวางไว้ให้เขาที่โต๊ะตรงหน้าทีวี ชายหนุ่มวาง iPad ลงบนเตียง จากนั้นก็เดินเข้าไปประชิดเธอจากทางด้านหลัง ข้าวฟ่างถึงกับตาโตด้วยความตกใจ รีบหันหลังกลับมามองสบตากับชายหนุ่ม แต่ทว่าใบหน้าของเราสองคนอยู่ใกล้ชิดกันมากเกินไป แถมเขายังใช้มือทั้งสองข้างโอบรอบเอวของเธอดึงรั้งเข้าหาตัวอีก
"คุณฟีลิกซ์คะ... มีอะไรหรือเปล่าคะ"
"ฉันมีข้อเสนอให้เธอ อยากลองฟังก่อนไหม"
"ข้อเสนออะไรคะ..."
"มาเป็นเด็กเลี้ยงของฉัน ฉันจะจ่ายเงินเดือนเธอเดือนละ 100,000 บาท"
"100,000 บาท!"
หญิงสาวเองรู้สึกตกใจไม่น้อยเลย ใครจะคิดว่าคนอย่างคุณฟีลิกซ์จะเสนอเงินให้เธอเป็นจำนวนมากมายขนาดนี้ ประเด็นที่เธอกำลังสงสัยก็คือเด็กเลี้ยง ในความหมายของเขามันแปลว่าอะไรกันนะ"หนูอยากจะรู้ว่าเด็กเลี้ยงคืออะไรเหรอคะ แล้วต้องทำอะไรยังไงบ้าง คือว่าเงินมันเยอะมากเลยค่ะก็เลยอยากจะรู้รายละเอียดว่ามันทำงานแบบไหน""ไม่ต้องทำอะไรเลยเพียงแค่ตามใจฉันก็พอ ถ้าฉันอยากให้ทำอะไรเธอก็แค่ทำ ไม่ขัดใจเท่านี้ก็ได้เงินเดือนละ 100,000 บาท เจอกันแค่อาทิตย์ละครั้งก็พอ ตกลงไหม"หญิงสาวเริ่มลังเลกับจำนวนเงินที่มากมายขนาดนั้น เธอไม่รู้หรอกว่าเงิน 100,000 บาทจะต้องทำบ้าง แต่ถ้าเขาให้จริงเธอยินดีจะออกจากงานประจำทุกอย่าง เงินจำนวนนี้ไม่ได้หากันได้ง่าย ๆ ถ้าเธอปฏิเสธก็คงจะโง่เต็มที่แล้ว อีกอย่างคนอย่างคนฟีลิกซ์ ไม่น่าจะให้เธอไปทำอะไรที่ไร้สาระหรอก เค้าก็คงจะมีงานให้ทำไม่อย่างนั้นคงไม่จ่ายมากถึงขนาดนี้"ตกลงค่ะหนูจะรับเงิน 100,000 บาทจากคุณ อยากจะให้ทำอะไรหนูยอมทุกอย่างเลยค่ะ แต่ว่าคุณห้ามโกหกนะให้ 100,000 บาทกับหนูจริง ๆ คุณรู้หรือเปล่าว่าการโกหกมันบาปนะ เพราะฉะนั้นห้ามหลอกเด็กรู้หรือเปล่า""หึ ฉันจะหลอกเธอได้ยังไงล่ะ
เมื่อหญิงสาวกลับขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเอง ก็ทำการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดนอนให้เรียบร้อย คืนนี้จะต้องอ่านหนังสือสอบ หนทางยังอีกยาวไกลเธอคงไม่ได้หลับนอนในเวลานี้แน่เมื่อทำธุระเสร็จเรียบร้อยก็เดินออกมานั่งที่โต๊ะทำงาน กดเปิดโคมไฟก่อนจะหยิบโทรศัพท์เข้าแอปธนาคาร จ้องมองไปยังตัวเลขที่อยู่ในนั้น ยังคิดไม่ตกจะจัดการกับสถานการณ์นี้ยังไง"นี่เราต้องเสียตัวให้เขาจริงเหรอเนี่ย"เธอถอนหายใจออกมาอย่างไม่รู้จะทำยังไง เคยคิดว่าถ้าเธอจะต้องมีความสัมพันธ์กับใครสักคน ก็อยากที่จะให้ผู้ชายคนนั้นเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นรักแรก รักเดียวของกัน และกัน แต่เธอคงทำได้แค่ฝัน เพราะตอนนี้กำลังจะกลายเป็นของเล่นของคนรวย"เอาวะ... ได้เดือนละตั้งแสน ยอมก็ได้"และก่อนที่เธอจะได้คิดฟุ้งซ่านอะไรอีก เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาจากปลายสาย แน่นอนว่าเป็นเบอร์เดียวกับเบอร์ที่เธอเมมไว้ในช่วงที่เขาให้นามบัตร"สวัสดีค่ะคุณฟีลิกซ์"(เตรียมตัวเตรียมใจหรือยัง ว่าแต่นี่ก็ดึกแล้วนะทำไมเธอยังไม่นอนอีก)"หนูต้องอ่านหนังสือสอบค่ะ พรุ่งนี้ต้องไปร้านกาแฟตอนเช้าอีก"(ฉันเพิ่งสั่งให้เธอลาออกไม่ใช่เหรอ ไปลาออกซะทั้งร้านกาแฟแล้วก็ร้านอาหา
หญิงสาวเบิกตากว้างด้วยความตกใจที่ชายหนุ่มพูดจาสองแง่สองง่ามแบบนั้น ก่อนหน้านี้เขาเป็นคนสุภาพมากกว่านี้เยอะ แต่พอเปลี่ยนสถานะกลายมาเป็นเด็กเลี้ยง กลับพูดจาตรงจนเธอรู้สึกเขินจนหน้าแดงก่ำ"คุณพูดอะไรคะเนี่ย""ไม่เข้าใจคำว่าแข็งของฉันเหรอ ลองจับดูสิจะได้รู้ว่ามันแข็งยังไง"ไม่พูดเปล่ายังจับมือของเธอล้วงเข้าไปยังแก่นกายความเป็นชายที่กำลังพองโตแทบจะทะลุออกมานอกกางเกง หญิงสาวถึงกับตาโตรีบชักมือกลับตัวสั่นกลัวจนทำหน้าไม่ถูก"คุณ...""ทำอย่างกับไม่เคยไปได้ อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วนะ"เขาถอนหายใจใส่หญิงสาวก่อนจะชะงักไปเมื่อใบหน้าของเธอแสดงออกทางสีหน้าว่ารู้สึกกลัว มันทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าข้าวฟ่างอาจจะยังไม่เคยมาก่อน"เธออายุเท่าไหร่แล้วนะ""18 ปีค่ะ ใกล้จะ 19ปีแล้วค่ะ""ยังไม่เคยเหรอ..."เขาจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวด้วยความกดดัน พยายามจะคาดคั้นเอาคำตอบจากเธอ เพราะถ้าเกิดว่ายังไม่เคยเขาจะได้เบามือกว่านี้หน่อย แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีใครรอดมาจนถึงอายุประมาณนี้ ซึ่งมันหายากมากในยุคสมัยที่เปิดกว้างกับเรื่องเซ็กซ์ และเขาก็ไม่ได้ยึดติดกับความบริสุทธิ์ของผู้หญิง"ไม่เคยค่ะ"เมื่อไม่ได้ยินแบบนั้นเขาถึงกับกุมขม
และเมื่อจบประโยคของชายหนุ่มเขาก็เริ่มขยับแก่นกายความเป็นชายเข้าออกด้วยความใจเย็น และยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านเข้าไปอีกด้วยการใช้มือข้างซ้ายที่ว่างถูไถตรงจุดกระสัน ข้าวฟ่างถึงกับเบิกตาโพลง เมื่อความเป็นชายกระแทกเข้ามาจนสุดลำ ทั้งเจ็บ และเสียวซ่านในเวลาเดียวกัน ทำเอาหญิงสาวแข้งขาอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรงจนเขาต้องใช้มืออีกข้างช่วยพยุง"อ๊ะ.... อ้าส์ อื้อ!"เนินปทุมถันขยับขึ้นลงไปตามแรงกระแทกจากเอวสอบ ร่างบางตัวสั่นไหวหลับตาลงกัดริมฝีปากรับสัมผัสที่ชายหนุ่มมอบให้ด้วยความเร่าร้อน ความรู้สึกในตอนนี้มันไม่สามารถอธิบายออกมาได้เลย รู้แค่ว่าเธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน รู้สึกวูบวาบเสียวท้องน้อยในทุกครั้งเมื่อเขากระแทกเอวสอบเข้ามาในร่องสาว"อ้าส์! ซี๊ดดดด"เขายังคงขยับเอวสอบเร่งความเร็วขึ้น และเมื่อรู้สึกถ้าตัวเองใกล้ถึงฝั่งปรารถนาก็หยุดเอาไว้ก่อน โดยหญิงสาวถึงกับลืมตาขึ้นหันมาร้องทักท้วง เมื่อกี้เธอเกือบจะล่องลอยอยู่ในอากาศอยู่แล้ว ทำไมถึงหยุดกลางคันแบบนั้นล่ะ"ยะ...หยุดทำไมคะ""จะรีบไปไหนล่ะ ฉันยังอยากสนุกกับเธออยู่เลย"พูดจบเขาก็ปล่อยเรียวขาของหญิงสาวลงที่พื้น จากนั้นก็โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะจูบริมฝ
หลายวันต่อมา...เขายังคงส่งลูกน้องไปรับหญิงสาวถึงมหาวิทยาลัย ซึ่งวันนี้มีข่าวดีสำหรับเธอก็คือคุณพ่อจะได้ผ่าตัดแล้วนั่นก็คืออาทิตย์ที่จะถึงนี้ คุณพ่อกับคุณแม่คาดคั้นเอาคำตอบจากเธอ ว่าทำไมถึงได้ผ่าตัดโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง แถมยังไม่ได้เสียเงินสักบาทอีก เธอเองก็ไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไรจึงบอกไปว่ามีผู้สนับสนุนใจดีออกเงินให้ และเธอต้องไปทำงานให้กับเขาเป็นการตอบแทน ดูก็รู้ว่าพวกท่านไม่เชื่อหรอกแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะลูกสาวเป็นคนปากแข็งไม่ยอมที่จะพูดอะไรง่าย ๆ"เลิกเรียนหรือยังครับ ท่านประธานให้มารับกลับคอนโดครับ""เจ้านายของคุณตฤณนี่ขี้โกหกจังเลยนะคะ"ทั้งสองคนเดินเคียงข้างออกไปขึ้นรถที่จอดอยู่ใต้ต้นไม้หน้าอาคาร ตฤณได้ยินแบบนั้นก็เหลือบสายตาหันมามองผู้หญิงที่อยู่ข้างกายก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสงสัย"ขี้โกหกยังไงครับ""ก็เขาบอกหนูว่าเจอกันแค่อาทิตย์ละครั้งก็พอ นี่ก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้วนะคะ เห็นเจอกันทุกวันเลย คำพูดไม่เป็นคำพูดเลยค่ะ"หญิงสาวตัดพ้อไม่หยุดจนชายหนุ่มถึงกับหลุดขำออกมา เพราะตอนแรกเจ้านายของเขาให้เจอกันเพียงแค่อาทิตย์ละ 1 ครั้งเท่านั้น แต่ใครจะคิดว่าผ่านไปแค่คืนเดียวจะกลับคำพูด แถมย
"คุณนี่นะเอะอะก็เข้ามาเรื่องอย่างว่าตลอดเลย ไม่คิดจะพักบ้างหรือไงคะ""อย่าบ่นเยอะได้ไหมเธอตอบแทนฉันบ้างสิ ที่ให้ไปมันก็คุ้มค่านะ เธอจะเอาแต่ได้ฝ่ายเดียวได้ยังไง ให้ฉันได้อะไรจากเธอบ้างก็ยังดี"เขาเอ่ยเอามาอย่างออดอ้อน ใช้ริมฝีปากลากไล้ตามซอกคอขาวระหง มือทั้งสองข้างที่ว่างก็บีบเคล้นเต้านมอวบจนเธอเริ่มมีอารมณ์"หนูไม่ได้เรียกร้องอยากได้เลยนะคะ คุณมาเสนอให้เองแต่มาทวงบุญคุณเนี่ยนะ""หึ... จะยอมไม่ยอม""ไม่ยอมได้ด้วยเหรอคะ"พูดจบชายหนุ่มก็ยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะจูบริมฝีปากบางอย่างอ่อนโยน ลิ้นร้อนค่อย ๆ สอดเข้าไปชิมความหวาน และครั้งนี้หญิงสาวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนอ่อนหัด แต่เธอก็พร้อมจะเรียนรู้ไปพร้อมกับเขา"อื้อ..."เสียงครางเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากเล็ก โอบรอบคอของชายหนุ่มเอาไว้ ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างจับเรียวขาของเธอกางออกจากกัน เหยียดขาของตัวเองตรงก่อนจะจับสะโพกของหญิงสาวให้มานั่งคร่อมอยู่บนแก่นกายความเป็นชาย โดยที่คนตัวเล็กใช้มือทั้งสองข้างจับขอบอ่างเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองลื่นล้ม"คุณ...""เอาท่านี้แหละแน่นดี"ขอพูดจบก็ค่อย ๆ ถูไถ
หลังจากที่ทั้งสองคนเซ็นรับรถเสร็จ ชายหนุ่มก็เป็นคนขับรถเบนซ์ออกมาโดยมีหญิงสาวนั่งอยู่เคียงข้างไม่ห่าง ทั้งสองคนพากันไปกินข้าวที่ร้านอาหารห่างออกจากตัวเมือง ไม่ลืมที่จะสอนข้าวฟ่างเกี่ยวกับการใช้งานในรถเบื้องต้น แล้วเดี๋ยวจะพาเธอไปเรียนขับรถ จะได้ขับรถเบนซ์คันหรูไปเรียนที่มหาวิทยาลัยคนเดียวได้"หนูขับไม่เป็นค่ะ""เดี๋ยวให้ครูสอนขับรถมาสอน ตั้งใจเรียนล่ะจะได้ขับรถไปเรียนมหาวิทยาลัยได้""คุณจะให้หนูขับรถไปเรียนมหาวิทยาลัยเองเหรอคะ"หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้น ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยคาดหวังว่าตัวเองจะได้ขับรถคันหรูไปเรียนมหาวิทยาลัย เพราะชีวิตนี้ได้ขับรถเก๋งธรรมดาก็ดีที่สุดแล้ว ไม่เคยคิดเลยว่าแค่ไม่นานจะพลิกชีวิตเธอขนาดนี้ ได้จับเงินแสนแถมยังได้เป็นเจ้าของรถยุโรปคันหรูอีก"หรืออยากจะให้มีคนขับรถไปส่ง เพราะฉันต้องทำงานไม่ได้มีเวลาไปส่งเธอทุกวันหรอกนะ เป็นเด็กเลี้ยงของฉันต้องดูแลตัวเองให้ได้""ไม่มีปัญหาค่ะหนูทำได้""ก็ดี ถือว่าอยู่เป็น"ชายหนุ่มยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย ก่อนจะโอบเอวหญิงสาวให้เข้ามาซบใบหน้าลงกับไหล่กว้าง ความน่ารัก และขี้อ้อนของเธอทำให้ฟีลิกซ์หลงใหลเป็นอย่างมาก เกิดมาไม่เคยโด
หลังจากที่ชายหนุ่มไปส่งหญิงสาวกลับถึงบ้าน เขาก็ขับรถป้ายแดงคันใหม่ที่เพิ่งถอยออกมาเข้าไปยังคฤหาสน์สุดหรู ทำการจอดรถในช่องที่ว่างอยู่ จากนั้นก็ดับรถ และเดินเข้าไปในตัวบ้าน"ไอ้ตัวดีรู้จักบ้านตัวเองด้วยเหรอ""โหแม่! เจอหน้าก็แซวแรงเลยนะ ผมก็แค่ขี้เกียจกลับบ้านก็เลยนอนค้างคอนโด ขอโทษนะครับ"เขารีบแก้ตัวก่อนจะเข้าไปสวมกอดคุณแม่เพื่อออดอ้อนขอโทษขอโพยยกใหญ่ โดยปกติเขาจะอยู่ที่บ้านเป็นหลัก ไม่ค่อยได้ออกไปใช้ชีวิตข้างนอกเนื่องจากว่าพี่สาวแต่งงานออกไปแล้ว ในบ้านก็เหลือแค่เขาที่ต้องอยู่เป็นเพื่อนพวกท่านทั้งสองคน หายไปเป็นอาทิตย์ก็ไม่แปลกที่ท่านจะโวยวาย"ไม่ต้องเลยนะ ที่คอนโดมันนอนสบายที่ไหนกันล่ะ บ้านหลังนี้มีแม่บ้านไม่รู้กี่คน อะไรก็มีพร้อมตื่นมาก็ได้กินข้าว ซ่อนอะไรไว้ที่นั่นหรือเปล่า หรือว่าติดผู้หญิง"สมกับเป็นคุณแม่ที่รู้ใจลูกมากที่สุด แต่เขาไม่ยอมรับหรอกนะว่ากำลังติดผู้หญิง ไม่งั้นจะต้องซักถามยกใหญ่ กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตไม่จบไม่สิ้นอีก บอกตามตรงเลยนะว่าไม่ได้อยากมีครอบครัว ด้วยความที่ไม่สามารถมีลูกได้อยู่แล้ว เขาแค่คิดว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะทนอยู่ด้วยได้หรอก แม้กระทั่งแฟนเก่าที่เลิกกั
เวลาผ่านไปนานหลายปี จนตอนนี้ฟีลิกซ์อายุอานามได้สี่สิบกว่าปีแล้ว เชื่อไหมว่าเขากับภรรยาพยายามมีลูกด้วยกันถึงห้าคน สี่คนแรกเป็นผู้ชาย คนสุดท้ายเป็นผู้หญิง จึงทำให้ภรรยาสามารถทำหมันได้เพราะเขาพึงพอใจในจำนวนบุตรเท่านี้แล้ว"คุณพ่อครับ น้องตีกันอีกแล้ว"ฟรังค์ในตอนนี้อายุอานามได้เกือบสิบขวบ กำลังตะโกนเรียกคุณพ่อให้มาดูน้องคนอื่น ซึ่งตอนนี้กำลังแย่งไอแพดกันอยู่"อะไรอีกล่ะไอ้แสบทั้งหลาย จะทะเลาะกันทำไมพ่อไม่เข้าใจเลย พ่อซื้อไอแพดให้คนละหนึ่งเครื่องแล้วไม่ใช่เหรอ""พ่อครับ ฟิวชั่นมันแย่งของฟาร์ไปครับ อยากเล่นก็โหลดมาเองดิ จะมาแย่งของคนอื่นทำไม""ก็ฟิวชั่นอยากเล่นนี่นา พี่ฟาร์ก็โหลดให้ฟิวชั่นสิ"สองพี่น้องที่อายุอานามคลานตามกันมา ก็เริ่มแย่งไอแพดกันอีกครั้ง คนเป็นพ่อต้องเดินไปนั่งแทรกกลางระหว่างทั้งคู่ โหลดเกมในเครื่องให้เพื่อที่จะได้เลิกทะเลาะกันสักที"เดี๋ยวพ่อโหลดให้จะได้ไม่ต้องแย่งกัน"เขาจัดการเคลียร์ปัญหาให้ลูกเพื่อที่จะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน ตอนแรกรบเร้าอยากจะมีลูกหลายคน แต่ทว่าตอนนี้ถึงกับกุมขมับ เพราะแต่ละคนซุกซนแทบทั้งนั้น โชคยังดีที่ลูกสาวยังเล็กน่ารักอ่อนโยนและเชื่อฟังคุณแม่ ส่วนไอ้แ
ข้าวฟ่างกลับขึ้นมาในห้องนอนของตัวเอง อาบน้ำแต่งตัวใหม่ให้เรียบร้อยจากนั้นก็มาเปิดโน๊ตบุ๊ค เพื่อเรียนออนไลน์ในระหว่างที่ลูกชายไม่อยู่ ใกล้จะสอบปลายภาคแล้วจำเป็นจะต้องเรียนรู้หาข้อมูลใส่ตัวให้มากเธอนั่งเรียนไปนานเป็นชั่วโมง ก่อนจะชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องถูกเปิดออก แน่นอนว่าสามีน่าจะกลับจากทำงานแล้ว"กลับมาแล้วเหรอคะ"ฟีลิกซ์เห็นภรรยากำลังนั่งอยู่หน้าโน๊ตบุ๊ค ซึ่งคาดเดาว่าน่าจะกำลังเรียนออนไลน์อยู่ ก็เลยไม่อยากจะรบกวนในตอนนี้"เรียนอยู่เหรอคะ เรียนไปก่อนนะเดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำแป๊บหนึ่ง ไม่เห็นลูกเลยพ่อกับแม่ก็หาย""ไปเดินห้างค่ะ พ่อกับแม่หนูก็ไปด้วย""อ๋อ... โอเคค่ะงั้นตามสบายนะเดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อน"ชายหนุ่มเดินผ่านหญิงสาวก็ไม่ลืมที่จะยื่นมือไปแตะศีรษะของเธอไว้ จากนั้นก็โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ จูบศีรษะของภรรยาอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทันทีข้าวฟ่างเห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ตั้งแต่ที่เราสองคนเข้าใจกันก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไม่เคยมีปัญหาหรือกระทบกระทั่งกันอีก เขาทำตามที่สัญญามาโดยตลอด คำพูดอะไรที่จะกระทบจิตใจเขาจะยั้งเอาไว้ไม่หลุดออกมา ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดีทำให้
และในที่สุดทั้งสองคนก็มีวันนี้ วันที่มีความสุขมากที่สุดก็คือการที่เด็กน้อยได้คลอดออกมาอย่างปลอดภัย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความเจ็บปวดสำหรับคนเป็นแม่ แต่เชื่อเถอะว่ามันคือความเจ็บปวดที่งดงามสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง"ได้ลูกผู้ชายนะคะ แข็งแรงสมบูรณ์ครบ 32 คุณพ่อกับคุณแม่อยากจะลองอุ้มไหมคะ""อุ้มค่ะ..."น้ำเสียงเหนื่อยหอบของคุณแม่ที่พึ่งเบ่งคลอดโดยใช้แรงจนแทบจะหมดลมหายใจ จ้องมองไปยังเด็กน้อยที่ตอนนี้ถูกพันผ้าอย่างแน่นหนา มองมาทางพ่อกับแม่ตาใสแป๋ว"ดูสิตาใสแป๋วเลย""น้องลืมตาได้เลยค่ะเก่งมาก ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวจะให้คุณพ่อกับคุณแม่อยู่กับน้องสักแป๊บนึงนะคะ แล้วเดี๋ยวพยาบาลจะพาน้องไปตรวจร่างกายก่อน"พูดจบพยาบาลก็อุ้มเด็กน้อยมาวางไว้ให้ข้าวฟ่างตรงหน้าอก หญิงสาวพยายามใช้แรงที่ยังพอเหลืออยู่ โอบอุ้มลูกน้อยเอาไว้ก่อนจะยิ้มออกมา เงยหน้าขึ้นมองสบตากับสามีใบหน้าเอิบอิ่มไปด้วยความสุข"ดูลูกสิคะมองเราตาแป๋วเลย""ไงครับตัวเล็ก รู้จักคุณพ่อหรือเปล่า เราคุยกันตั้งแต่หนูอยู่ในท้องแล้วนะจำเสียงได้ไหม ต่อไปนี้พ่อกับแม่จะเรียกหนูว่า ฟรังค์... ลูกชายสุดที่รักของพ่อแล้วก็ของแม่""ชื่อน่ารักจังเลยค่ะ ดูสิคะไม่งอแงเลยลูก
หลังจากที่ทั้งสองคนมีความสุขด้วยกันอยู่ในห้องน้ำพอสมควรแล้ว ฟีลิกซ์ก็อาบน้ำให้ภรรยาจนเสร็จสรรพ จากนั้นก็พากันกลับเข้ามายังห้องนอน เปลี่ยนชุดเป็นชุดนอนให้สบายตัว"ใส่แบบนี้ดีกว่าเนาะ จะได้ไม่ต้องมีอะไรมารัดหน้าท้องด้วย""ไม่ใส่ก็ได้นะคะนอนสบายกว่านะ"หญิงสาวยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ แต่ทว่าชายหนุ่มถึงกับกลืนน้ำลายลงคอดังอึก ท่อนเอ็นเริ่มพองโตขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อภรรยาสุดที่รักพูดจายั่วยวนแบบนั้น"เดี๋ยวก็ไม่ได้นอนหรอก หึ...""ไม่เอาค่ะหนูง่วงนอนแล้ว งั้นนอนก่อนนะคะ"เธอยิ้มออกมาก่อนจะขยับตัวล้มลงนอนบนหมอน จากนั้นชายหนุ่มก็หยิบผ้าห่มมาคลุมตัวภรรยาเอาไว้ เอาหมอนข้างมาให้หญิงสาวสวมกอดจะได้นอนสบายขึ้น เนื่องจากว่าช่วงหน้าท้องขยายใหญ่ขึ้นมากแล้ว การที่จะนอนตะแคงโดยที่ไม่มีอะไรค้ำอยู่ อาจจะทำให้อึดอัดเอาได้" นอนแบบนี้สบายขึ้นไหมคะ""สบายแล้วค่ะขอบคุณนะคะ""นอนหลับเถอะค่ะ เดี๋ยวช่วงเย็นพี่จะปลุกลงไปกินข้าวข้างล่างนะ"หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาก่อนจะหลับตาลงด้วยใบหน้าที่ดูมีความสุขเป็นพิเศษ เธอมีความสุขในทุกครั้งที่ได้อยู่กับสามี ถ้าตอนนั้นไม่เกิดเรื่องราว ตอนนี้เราก็คงอยู่ด้วยกันไปแบบนี้แหละ แ
หลังจากที่คุยกับผู้ใหญ่อยู่สักพัก ฟีลิกซ์ก็อยากให้ภรรยาขึ้นมาพักผ่อน เนื่องจากว่าวันนี้เธอใช้ร่างกายไปเยอะพอสมควร อาจจะต้องได้รับการพักผ่อนสักพัก ช่วงเย็นค่อยลงมาอีกที"นอนพักผ่อนเถอะค่ะ เหนื่อยมาตั้งแต่เช้าแล้วเดี๋ยวเจ้าตัวเล็กไม่ได้พักผ่อนนะ""ก็ดีค่ะง่วงอยู่พอดีเลย ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวหนูขึ้นไปนอนพักก่อนนะคะ เดี๋ยวเย็นนี้จะลงมาคุยด้วยค่ะ""จ้ะลูกรีบไปนอนเถอะ ถ้าหนูอยากกินอะไรก็บอกนะเดี๋ยวแม่จะให้แม่บ้านทำไปให้""เพิ่งกินมาเองค่ะไม่เป็นอะไรหรอก ถ้างั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ"หญิงสาวเอ่ยออกมาก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น ควงแขนชายคนรักเอาไว้ จากนั้นก็พากันเดินขึ้นไปที่ห้องนอน และเมื่อมาถึงหญิงสาวก็มองสำรวจทั่วห้อง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ข้าวของทุกอย่างของเธอก็ยังคงอยู่ที่เดิมไม่หายไปไหน"หนูคิดว่าคุณจะทิ้งหมดแล้วซะอีก""จะทิ้งหมดได้ยังไงกันล่ะ พี่รู้ว่าอีกไม่นานเดี๋ยวหนูก็ต้องกลับมา เราอาบน้ำกันดีไหมคะ หนูจะได้สดชื่นขึ้นไง เดี๋ยวพี่อาบน้ำให้""ก็ดีค่ะ รู้สึกเหนียวตัวเหมือนกัน"เธอเอ่ยออกมาก่อนจะเดินไปยังตู้เสื้อผ้า เปิดดูว่าข้างในมีอะไรอยู่ ซึ่งก็เป็นชุดของเธอเกือบครึ่งตู้ เพราะช่วงเวลาที่งอนสามี และไม
หลังจากที่ชำระเงินเสร็จเขาก็พาหญิงสาวเดินทางกลับมาที่บ้าน ซึ่งตอนแรกว่าจะไปส่งเธอที่บ้านของตัวเอง แต่คิดไปคิดมาเขาอยากจะพาคนรักกลับไปที่คฤหาสน์บ้าง หลายเดือนมานี้เธอไม่ยอมย่างกรายเข้าไปเลย"ไปหาคุณพ่อคุณแม่พี่ไหม ท่านคงอยากเห็นใบอัลตร้าซาวนด์ คงอยากจะรู้ว่าหลานเป็นเพศไหน ตัวขนาดไหนแล้ว"เขาก็แค่ลองถามหยั่งเชิงดู ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะไม่ไปเขาก็ไม่โกรธหรอกนะ เพราะรู้ว่าความผิดที่ตัวเองทำมันมีมาก แต่ทว่าเขาคิดผิดแล้วก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อยเลยเธอยอมทำตามคำร้องขอ"ได้ค่ะ"เธอตอบกลับคำขอของของเขา เรื่องที่ชวนไปยังคฤหาสน์ เล่นเอาตกใจไม่น้อยเลย เพราะโดยปกติจะไม่ยอมกลับไปกับเขาเด็ดขาด เพราะยังมีอารมณ์โมโหโกรธคนเป็นสามีอยู่"ทำไมถึง...""พูดเยอะจะไม่ไปแล้วนะคะ"และเมื่อหญิงสาวพูดแบบนั้นชายหนุ่มก็รีบหุบปากของตัวเองลง จากนั้นก็รีบขับตรงไปยังคฤหาสน์เพราะกลัวว่าภรรยาอาจจะเปลี่ยนใจได้ ใบหน้าจากที่มีคำถามแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มออกมาแก้มปริ ใครจะคิดว่าคนรักของเขาจะยินยอมตามใจในที่สุด"ถึงแล้วค่ะ"และเพียงไม่นานเขาก็ขับรถมาจอดยังลานจอดรถของคฤหาสน์สุดหรู เปิดประตูรถเดินลงมาจากนั้นก็เปิดประตูให้ภรรยา ยื่นมือไปตรงห
"ว่ามาเลยค่ะมีอะไรจะคุยกับหนูคะ""ถ้าพี่พูดอะไรไป ข้าวฟ่างสัญญาได้ไหมว่าจะไม่โกรธ แต่ที่พี่ต้องพูดเพราะแค่อยากให้ข้าวฟ่างเข้าใจสามีของเราบ้าง"หญิงสาวนิ่งเงียบไปด้วยความคิดหนัก เพราะดูจากประโยคคำพูดน่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูด แต่พี่ทรายอยากจะให้เธอเข้าใจในตัวของคุณฟีลิกซ์ จึงต้องเลือกที่จะมาพูด"สัญญากับพี่นะว่าจะไม่โกรธ""ก็ได้ค่ะ ว่าแต่มันเป็นเรื่องอะไรคะ""พี่ไม่รู้หรอกนะว่าฟีลิกซ์พูดอะไรไม่ดีหรือเปล่า ถึงทำให้ข้าวฟ่างโกรธแบบนั้น แต่ว่าเรื่องมันก็มีที่มาที่ไป งั้นเอางี้ดีกว่าพี่ถามได้ไหมว่าข้าวฟ่างโกรธอะไรฟีลิกซ์"ทรายเอ่ยถามข้าวฟ่างไปตามตรง ถ้ามันเป็นอย่างที่เธอคิดจะได้อธิบายให้ตรงจุด ทั้งสองคนจะได้เข้าใจกันสักที"ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ตอนนั้นหนูท้องแล้วก็ไปบอกเขาว่าเรากำลังจะมีลูกด้วยกัน แต่ว่า...""เขาบอกว่าเด็กในท้องของข้าวฟ่างไม่ใช่ลูกเขาใช่ไหม""ใช่ค่ะ เขาพูดเหมือนว่าตัวเองเป็นหมัน มีลูกไม่ได้ก็เลยคิดว่าหนูไปนอนกับคนอื่นมา แล้วก็ให้เขารับผิดชอบ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะว่าเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ช่วงหลังก็ยอมรับว่าเป็นลูกของตัวเอง แต่ความรู้สึกมันเสียไปแล้วค่ะ ข้าวฟ่างลำบากใจที
หลังจากที่คุยกันอยู่ในห้องนานพอสมควร พยาบาลก็พาทั้งสองคนไปยังห้องอัลตร้าซาวนด์ ซึ่งตอนนี้คุณหมอรออยู่แล้ว วันนี้เธออาจจะได้รู้เพศลูก จะได้เตรียมตัวเพราะอีกไม่กี่เดือนเราสองคนก็จะได้เจอลูกแล้ว"พร้อมแล้วนะคะคุณแม่ มานอนลงตรงนี้เลยค่ะเดี๋ยวหมอจะอัลตร้าซาวนด์ให้ดูเด็กน้อย"ข้าวฟ่างทำตามที่คุณหมอสั่งอย่างว่าง่าย โดยที่มีฟีลิกซ์คอยประคองอยู่เคียงข้างไม่ห่าง คุณหมอก็ใช้เจลทาที่ช่วงท้องของเธอ จากนั้นก็ใช้อุปกรณ์บางอย่างหมุนตรงช่วงท้องของเธอ และภาพก็ฉายอยู่บนจอมอนิเตอร์ข้างหน้า"ตรงนี้เป็นศีรษะของน้องนะคะ มีตาสองข้าง มีจมูกโด่งด้วยนะเนี่ย มีปาก มีหูสองข้าง ซ้าย และขวาครบ"ทั้งสองคนมองหน้าจอมอนิเตอร์น้ำตาคลอ ตอนแรกก็ไม่ได้มีความพร้อมในการเลี้ยงเด็กหรอก ตัวเองก็ยังเรียนหนังสือไม่จบเลย แต่ด้วยความที่แต่งงานจดทะเบียนสมรสกับสามี จึงทำให้ทุกคนพอปล่อยผ่านกับเรื่องนี้ได้"แล้วสรุปว่าลูกผมได้เพศอะไรครับ""เดี๋ยวแป๊บนึงนะคะ"คุณหมอค่อย ๆ ตรวจ โดยที่สายตายังมองไปยังหน้าจอมอนิเตอร์ด้วยความตั้งใจ ใช้เวลาอยู่สักพักใหญ่ และดูเหมือนว่าตอนนี้พอมั่นใจมาได้บ้างประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ว่าเด็กน้อยเป็นเพศอะไร"น้องเ
ข้าวฟ่างเดินออกมาจากร้าน ซึ่งฟีลิกซ์ที่นั่งอยู่ตรงนั้นเห็นพอดีก็เลยยิ้มกว้างออกมา วางแก้วกาแฟลงที่โต๊ะ ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น และเดินเข้ามาหาภรรยา"คุณมาทำไมคะ""ก็วันนี้คุณหมอนัดให้ไปอัลตร้าซาวนด์ไม่ใช่หรือไง พี่ก็มารับข้าวฟ่างไปหาหมอด้วยกันไง ก็อยากจะเห็นลูกที่อยู่ในท้องบ้าง""จะสนใจทำไมคะลูกตัวเองก็ไม่ใช่"หญิงสาวสะบัดหน้าใส่ชายหนุ่มด้วยความน้อยใจ ความรู้สึกที่เขาไม่มั่นใจในตัวเธอกับลูกยังคงอยู่ในหัวสลัดยังไงก็ไม่ออก มันเป็นปมในใจที่ยังคงอยู่ และคิดว่าคงต้องใช้เวลานานพอสมควรกับการที่เธอจะไม่รู้สึกกับคำพูดพวกนั้น"ทำไมพูดแบบนี้คะ พี่ขอโทษที่พูดไม่ดี ขอโทษที่พูดไม่คิด""รีบไปเถอะใกล้ถึงเวลาหมอนัดแล้วนี่""สวัสดีครับแม่รพี ผมขอพาน้องไปโรงพยาบาลนะครับ""แต่ว่าหนูนัดกับแม่แล้วค่ะว่าจะไปโรงพยาบาลด้วยกัน คุณไม่ต้องไปส่งก็ได้"เธอเอ่ยออกมาก่อนจะกวักมือเรียกคุณแม่ให้เข้ามา เพื่อที่จะได้ไปโรงพยาบาลด้วยกัน แต่ทว่ารพีไม่อยากให้ลูกสาวทำตัวเย็นชาใส่คนเป็นสามี ถึงแม้ว่าเขาจะพลาดที่เคยพูดไม่ดี คำพูดบางอย่างทำร้ายจิตใจ แต่ตอนนี้เขาก็รู้สึกผิดมากแล้ว และพร้อมที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง เพราะฉะนั้นเราควรให้