กริ้ง~ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมารบกวนเวลานอน ฉันควานมือคลำหาอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเจอโทรศัพท์แล้วก็ปรือตามองก่อนว่าใครโทรมาและใช่โทรศัพท์ของตัวเองหรือเปล่า เพราะกลัวจะรับสายผิดแบบตอนนั้นอีก “พ่อ!!” ฉันดีดตัวขึ้นนั่งอัตโนมัติเมื่อเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามานั้นเป็นเบอร์ของพ่อ ก่อนจะตั้งสติแล้วกดรับสาย ( ค่ะพ่อ )( เพิ่งตื่นหรือไงพ่อโทรไปหลายสายแล้วเพิ่งจะรับ ) ( ค่ะ พ่อโทรศัพท์มาแต่เช้ามีอะไรหรือเปล่าคะ ) ปกติพ่อไม่ค่อยโทรมาหาฉันหรอก เพราะฉันโตแล้วเราจึงไม่ค่อยได้คุยกัน ( มาเปิดประตูให้พ่อเข้าห้องหน่อย ) เฮือก!! หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบเมื่อได้ฟังคำที่พ่อเพิ่งพูดมาเมื่อครู่( ตะ ตอนนี้พ่ออยู่ไหนหรอคะ ) ( พ่อยืนอยู่หน้าห้อง ผ่านมาทำธุระแถวนี้เลยแวะมาดูความเป็นอยู่ของลูกสาวสักหน่อย ) ฉันหันขวับมามองอลันที่กำลังนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่ ทำไมพ่อถึงได้เลือกวันมาถูกขนาดนี้นะ( ค่ะ ดะ เดี๋ยวหนูไปเปิดประตูให้นะคะ ) ฉันรีบกดวางสายแล้วพยายามคิดว่าจะทำยังไงดี สมองแทบจะระเบิดอยู่แล้ว บ้าที่สุดเลย!!“อลันตื่น! ตื่นเดี๋ยวนี้!” ฉันดึงตัวอลันแล้วปลุกให้เขาตื่น ตอนนี้อลันไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าเลย เขาใส่แค่บ็อกเซ
อลันคงได้ยินทั้งหมดที่พ่อพูดแล้ว แต่ฉันคิดว่ามันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาอยู่ดี “กลับไปห้องนายได้แล้ว” ฉันบอกในเชิงไล่ “ไล่เพื่อ ? อยากกลับเดี๋ยวกลับเอง” ฉันขมวดคิ้วมองอลันอย่างไม่ชอบใจ เขาจะมาอยู่ห้องฉันเหมือนห้องตัวเองได้ยังไง “ทำตัวเป็นคนเร่ร่อนไปได้” อลันเดินมาใกล้ๆ ทำเอาฉันตกใจรีบถอยหลังหนี แต่ก็ถูกวงแขนแกร่งรั้งเอวเอาไว้ก่อนจึงถอยหนีไม่ได้ “นะ นายจะทำอะไร” อลันโน้มใบหน้าลงมาใกล้ๆ ก่อนจะพูด “ไม่ใช่คนเร่ร่อน แต่เป็นคนเร่าร้อนต่างหาก” “เหอะ!! หลงตัวเอง” ฉันผลักอกแกร่งออกห่าง รู้สึกอยากจะอ้วกกับคำพูดหลงตัวเองของอลัน “พิสูจน์ให้เห็นหลายครั้งแล้ว หรืออยากให้พิสูจน์ความเร่าร้อนให้ดูเต็มๆ ตาอีกครั้งดี ?”“พะ พูดบ้าอะไรของนาย กลับไปได้แล้ว” ฉันรีบเดินหนีเข้ามาในห้องนอนเพราะเริ่มทำตัวไม่ถูก “รู้จักกับไอ้บาสมานานแค่ไหนแล้ว” เสียงของอลันถามตามหลัง เขาเดินตามเข้ามาในห้องติดๆ “ก็รู้จักมาตั้งแต่เด็กๆ ถามทำไม” ฉันบอกพลางหยิบเอาเสื้อกับกางเกงของอลันออกจากตะกร้า “แค่อยากรู้”“ใส่เสื้อผ้าแล้วรีบกลับห้องนายไปได้แล้ว ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ต้องมาห้องฉันอีก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันจะเปลี่ยนรหัส
ให้หลังจากที่อลันออกไปจากห้องฉันก็ต้องถอนหายใจออกมาหนักๆ เขาไม่มีท่าทีว่าจะเลิกยุ่งง่ายๆ ชอบทำให้ฉันหวั่นไหว ทำเหมือนฉันสำคัญในบางครั้ง แต่ไม่มีความชัดเจนเลยสักครั้ง อลันกำลังเล่นกับความรู้สึกของฉันอยู่เขากำลังทำให้ฉันเป็นบ้า!!! ขู่มาแบบนั้นแล้วฉันจะกล้าเปลี่ยนรหัสห้องได้ยังไง ถ้าเปลี่ยนประตูคงได้พังจริงๆ แทบจะครึ่งค่อนวันที่ฉันเอาแต่คิดมากเรื่องอลัน ไม่รู้ว่าคิดอะไรมากมายแต่ความรู้สึกทั้งหมดมันอัดแน่นแทบจะระเบิดออกมา แค่คิดว่าถ้าต่อจากนี้เขาจะมีใครหรือมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นฉันก็รู้สึกหงุดหงิดจนแทบจะเป็นบ้า ฉันคงทนไม่ได้แน่ๆ เพราะถ้ารู้สึกกับใคร ฉันจะเป็นผู้หญิงที่ขี้หึงมากๆตอนนี้ฉันติดกับดักเสือร้ายตัวนี้แล้วสินะ เฮ้อ! กริ้ง~ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาทำให้ฉันหลุดออกจากวังวนความคิดของตัวเอง ก่อนจะหยิบขึ้นมาดูว่าใครโทรมา เมื่อเห็นสายที่โทรมามันก็ทำให้แปลกใจ เพราะว่าเป็นอลัน แถมยังโทรวิดีโอคอลมาด้วย ทำเอาฉันลังเลอยู่พักใหญ่จนสายตัดไป แต่อลันก็โทรมาอีกครั้ง ฉันจึงกดรับ พอรับสายภาพหน้าจอก็ขึ้นโชว์ให้เห็นว่าตอนนี้อลันกำลังนอนอยู่บนเตียง ถึงจะไปแค่ไม่กี่ครั้งแต่ฉันก็จำสีผ้าปูที่นอนของ
“ผมไม่ได้เห็นแก่เงินนะพี่” ผู้ชายที่ยืนขวางหน้าฉันอยู่รีบแย้งขึ้นมา “ฉันไม่ได้คิดว่านายเห็นแก่เงิน ฉันแค่อยากไปด้านใน” “ไอ้อลันมัน….เฮ้ย!พี่” ฉันไม่รอให้เขาพูดจบพอหาจังหวะได้ก็รีบวิ่งเข้ามาในอู่ทันที แต่วิ่งมาไม่เท่าไหร่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าอลันเดินสวนมาพอดี ด้านหลังของเขามีผู้หญิงคนหนึ่งเดินตามมาด้วย นั่นยิ่งทำให้ฉันเดือดดาล ในใจมันร้อนรุ่มราวกับเปลวไฟ ไม่รู้ว่าอะไรเข้าสิงทำให้ฉันเดินไปตบหน้าอลัน มันโกรธ อารมณ์เดือด ฉันไม่สามารถควบคุมตัวเองได้จริงๆ “ตบทำไม ?” อลันถาม เขาไม่มีท่าทีตกใจเลยทั้งที่โดนฉันตบเต็มแรงขนาดนั้น เพียงแค่ถามเสียงเย็นเท่านั้น “ผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรกับนาย” “ถามทำไม” “ฉันไม่มีสิทธิ์รู้เลยงั้นหรอ” บ้า มันบ้ามากจริงๆ ฉันไม่ควรมาหาเขาตั้งแต่แรก ทำไมฉันถึงไม่เลือกกลับไปสงบสติอารมณ์อารมณ์ที่คอนโด“ก็แค่ถามว่าจะถามทำไม” “ถ้านายแค่รักสนุกก็อย่ามายุ่งกับฉันสิ นายจะมายุ่งกับฉันทำไม!!” “ไปกันใหญ่” อลันพูดออกมาปนรำคาญ ใช่! ฉันรู้ตัวเองดีว่าน่ารำคาญขนาดไหน เขามาทำให้รู้สึกเองไม่ใช่หรือไง “ถ้าฉันมันน่ารำคาญมากนายก็เลิกยุ่งซะสิ น่ารำคาญไม่ใช่หรือไงแล้วจะมามีอะไร
ฉันใช้มือดันแผงอกแกร่งของอลันไว้แล้วพยายามดิ้นเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้น แต่ยิ่งดิ้นเข้าก็ยิ่งกอดรัดฉันแน่นขึ้น “ไปเข้าห้องน้ำเอาโทรศัพท์วางไว้ข้างนอก เด็กไอ้กันเลยรับสายให้” “เพิ่งรู้ว่าไม่ได้เป็นอะไรกันแต่มีสิทธิ์รับโทรศัพท์แทนด้วย” “พูดความจริงจะเชื่อไม่เชื่อก็ตามใจ” “เดินออกมาพร้อมกับแบบนั้นจะให้ฉันเชื่ออะไรไม่ทราบ นายก็แค่แก้ตัว” “สำหรับคนที่ไม่สำคัญไม่จำเป็นต้องแก้ตัวอะไร” “…….” จากที่ดิ้นๆ อยู่ ฉันก็ต้องหยุดอัตโนมัติเมื่อได้ยินคำนี้หลุดออกมาจากปากของอลัน “จะหึงจนหน้ามืดตามัวเลยหรือไง ไหนบอกไม่ชอบเด็ก ?” อลันขยับหน้ามาใกล้ๆ แล้วพูดต่อ “เมื่อกี้สารภาพมาหมดแล้วนะ” “นายมาทำกับฉันแบบนี้ทำไมล่ะ ฉันก็มีความรู้สึกเหมือนกัน” ในเมื่อพูดความรู้สึกของตัวเองออกไปแล้วฉันก็ไม่จำเป็นต้องแก้ตัวอะไร ถึงจะอายที่ตัวเองเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปชอบเขาก่อนก็ตาม “ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็บอกแล้วไงว่าคิดไปเอง” “ปล่อยฉัน” ฉันเริ่มดิ้นอีกครั้ง “วันนี้ไปเก็บเสื้อผ้ามาที่ห้อง” พูดจบเขาก็ล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเองแล้วหยิบคีย์การ์ดขึ้นมาเอาให้ฉัน “ห้องรกฝากเก็บด้วยแล้วกัน” อลันปล่อยตัวฉันให้เป
ฉันดันอกแกร่งของอลันออกห่างพร้อมกับเอนศีรษะหนี เพราะตอนนี้เราอยู่ใกล้กันมากเกินไปแล้ว “ฉะ ฉันไม่มี” “ไม่มีอะไร ?” อลันเค้นถามในสิ่งที่ฉันไม่อยากพูดถึง แถมยังขยับหน้ามาใกล้ๆ ทำให้ฉันยอมพูด “ผะ ผัวไง” “หึ” เขาหยัดตัวขึ้นตรงแล้วหัวเราะในลำคอ ถึงแม้จะอายุห่างกันหลายปีแต่เวลาที่อยู่ด้วยกันมันทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ “ฉันกล้บห้องก่อนนะ” “คืนนี้กลับมานอนที่นี่”“เอาไว้พรุ่งนี้ก็ได้” ฉันแย้งขัดทำให้อลันแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา “คืนนี้” เขาพูดย้ำอีกครั้ง ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะพยักหน้าตอบ “อื้อ” “อย่าทำให้หงุดหงิด” “นายล่ะ จะควงผู้หญิงไปที่โต๊ะหรือเปล่า ?” “ปกติมีผู้หญิงมาหาที่โต๊ะ ไม่เคยไปควงใครมา”“แล้วนายจะเล่นด้วยงั้นหรอถ้ามีผู้หญิงเข้าหา” ฉันเผลอเม้มปากแน่นเมื่อถามจบ เพราะลุ้นคำตอบของอลัน“อยากให้ทำแบบนั้นหรือเปล่า ?” “คิดดูสิว่านายควรทำหรือเปล่า” ฉันเลือกที่จะตอบแบบให้อลันกลับไปคิดทบทวนดู ฉันหยิบกระเป๋าลุกขึ้นยืนแล้วเดินผ่านหน้าอลันไปยังประตูห้อง ก่อนจะเปิดประตูออกมีเสียงของอลันดังขึ้นมาตามหลัง “แต่งตัวให้มันดีๆ อย่าท้าทาย”ฉันหันกลับมาถามอลัน “ถ้าท้า
ตอนนี้ทุกคนในคลับต่างให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น กลัวก็กลัวอายก็อาย “มีอะไรกัน” เสียงทุ้มของเฮียเฟยท้วงขึ้นก่อนจะเดินมาหยุดตรงโต๊ะฉัน แล้วมองอลันที่จับแขนฉันอยู่ด้วยสีหน้าที่เข้มขรึม “ไอ้นี่มันเอาขวดฟาดหัวผมครับเสี่ย” นักร้องหนุ่มรีบฟ้องเฮียเฟยทันที เฮียเฟยมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินมาหาอลัน ฉันรู้ดีว่าเฮียเฟยเวลาโกรธนั้นน่ากลัวขนาดไหนจึงรีบมายืนบังอลันไว้เพราะถ้าเป็นฉันเฮียคงไม่กล้าทำอะไร“มึงมีปัญหาอะไรกับคนของกู” เสียงทุ้มของเฮียเฟยถามอลัน อลันไม่ได้ตอบอะไรเพื่อนๆ ของเขาก็เงียบ ไม่มีใครปริปากพูดรวมถึงเพื่อนฉันด้วย “กูถามทำไมมึงไม่พูด!!” พออลันไม่ยอมตอบเฮียเฟยก็ตวาดเสียงดัง“เฮียคะแพรขอโทษแทนอลันด้วยนะคะที่ทำให้วุ่นวายวันนี้” ฉันยอมขอโทษแทนไม่อย่างนั้นอลันเจอหนักแน่ๆ “มันเป็นอะไรกับแพร ?” เฮียเฟยขมวดคิ้วถาม ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไรเสียงของอลันก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน “เป็นผัว” “เฮียไม่คิดว่าแพรจะชอบพวกอันธพาลแบบนี้นะ” “….….” ฉันเองก็ไม่รู้จะพูดยังไง ไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเลย ไม่คิดว่าอลันจะทำถึงขั้นนี้“ยุ่งอะไรไม่ทราบ อยากได้เมียคนอื่นว่างั้น ?” อลันถามเฮียเ
อลันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ เหมือนเขากำลังไม่โอเคกับคำพูดของฉัน ซึ่งฉันมองว่ามันไม่ผิดอะไรเลยในเมื่อเขาหยุดไม่ได้ ต่อให้เราอยู่ด้วยกันแบบนี้มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะหยุดที่ฉัน เพราะฉะนั้นฉันก็ต้องเซฟความรู้สึกตัวเองเหมือนกัน ถึงจะทำแบบนั้นยากก็ตาม วันนี้ฉันถอยไม่ได้ก็จะเดินหน้าไปให้สุดทาง…เดินไปจนกว่าจะถึงทางตัน “นายบอกฉันว่าต้องใช้เวลา เวลาที่ว่าคือนายจะหยุดเจ้าชู้เพราะฉันงั้นหรอ”“ถ้าถึงวันนั้นจะรู้เอง” อลันยังไงก็คืออลัน เขาไม่เคยทำให้ฉันหายสงสัยในทุกๆ เรื่องที่ถามบางครั้งฉันคิดว่าตัวเองรู้จักเขาดี แต่บางครั้งก็รู้สึกว่าฉันไม่รู้จักเขาเลย “วันนั้นที่ว่ามันอีกนานหรือเปล่าล่ะ ถ้านานมากๆ ฉันคงไม่รอ” ฉันพูดไปตามตรง ในเมื่อรู้สึกฉันรอให้เขาจัดการตัวเองได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะรอไปตลอด คงไม่มีใครอยากเดินย้ำๆ อยู่กับที่ ฉันรู้ว่าไม่ควรเสี่ยงกับเสือตัวนี้ แต่ฉันเลือกเดินเข้ามาในกรงแล้วนี่ “หยุดพูดเรื่องนี้แล้วคุยเรื่องไอ้นักร้องนั่นดีกว่าไหม” อลันบอกเสียงเย็น เขาแกะมือที่ฉันสวมกอดออก จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนจ้องฉันเขม็ง “ฉะ ฉันบอกไปแล้วไงว่าไม่ได้ตั้งใจ”“ไม่ได้ตั้งใจ เหอะ! ถ้าตั้งใจจะ