ระหว่างทางที่ไปโรงพยาบาล หลิ่วฟู่อวี่โทรศัพท์หาอวี๋ผิง เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง“อะไรนะ? หลินหยางทำร้ายเหลียงควนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส? ไอ้เดรัจฉานนี่ ทนเห็นพวกเราได้ดีไม่ได้ จงใจทำร้ายพวกเราสินะ!”อวี๋ผิงฟังจบก็โมโหจัด โมโหจนทนไม่ไหว“แม่คะ ตอนนี้ทำยังไงดีคะ?” หลิ่วฟู่อวี่กล่าวสะอื้น“เสียวอวี่ ลูกอย่าตกใจไป พวกเราไม่ได้เป็นคนทำร้ายเขา! แม่กับพ่อของลูกจะรีบไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้”หลังจากอวี๋ผิงวางสาย ก็รีบไปที่ห้องหนังสือของหลิ่วเฉิงจื้อ“เป็นอะไรไป?” หลิ่วเฉิงจื้อกล่าวถามอวี๋ผิงตบคอมพิวเตอร์ที่อยู่บนโต๊ะของหลิ่วเฉิงจื้อจนตกพื้น“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”“เกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นคุณก็ไม่ควรทำลายคอมพิวเตอร์ของผมนะ ผมกำลังทำแผนการความร่วมมือที่จะไปหารือกับติ่งเซิ่งในวันพรุ่งนี้!”หลิ่วเฉิงจื้อก็โมโหเล็กน้อยเช่นกัน กล่าวด้วยสีหน้าคร่ำเครียด“ยังมาทำแผนงานกับผีอะไรล่ะคะ! ความร่วมมือเกรงว่าจะล่มแล้ว คุณมัวแต่อยากจะดูแลหลานชาย ไอ้เดรัจฉานหลินหยาง เขาทำร้ายเหลียงควนจนบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้กำลังนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาฉุกเฉิน!”อวี๋ผิงด่าทออย่างโกรธจัด“เสี่ยวหยางทำร้ายเหลียงควน? ไม่หรอกมั
หลินหยางเห็นว่าอีกฝ่ายมาด้วยเจตนาไม่ดี เตรียมที่จะยื่นมือเข้าช่วย แต่มู่หรงยิ่นกลับส่งสายตาให้เขา ส่ายหน้าเล็กน้อย เป็นการส่งสัญญาณให้เขาว่าอย่าเพิ่งลงมือ“ได้ ฉันเองก็กำลังอยากจะเจอเจ้านายของพวกนายอยู่พอดี”“ถ้าอย่างนั้นเชิญขึ้นรถไปกับพวกเราด้วยครับ”หนึ่งในชายร่างกำยำกล่าวหลินหยางไม่ได้ลงมือ มู่หรงยิ่นขึ้นรถที่อยู่ด้านข้างไปกับชายหนุ่มร่างกายกำยำทั้งสามคนหลินหยางเห็นว่า บนรถยังมีชายวัยกลางคนหน้าบากอีกคนหนึ่ง ลมปราณสุขุม เป็นยอดฝีมือรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว หลินหยางเองก็ขับตามหลังอยู่ห่าง ๆรถคันนี้ไม่ได้ขับออกนอกเมือง ขับจากฝั่งทิศตะวันตกไปยังทิศตะวันออกของเมือง ขับเข้าไปในไนท์คลับแห่งหนึ่งมู่หรงยิ่นถูกพาขึ้นไปที่ชั้นหกของไนต์คลับ เจอกับเจ้านายผู้อยู่เบื้องหลัง“มู่หรงยิ่น ไม่เจอกันนาน”“ไอ้เฉินเฮงซวย แกส่งคนมาลักพาตัวฉันมาที่นี่ คิดจะทำอะไร?”มู่หรงยิ่นสีหน้าเป็นปกติ ไม่มีความหวาดกลัวเลยสักนิดเฉินจื่อหลิงกล่าว “ตอนนี้คนที่กล้าเรียกผมว่าไอ้เฮงซวยต่อหน้า ก็มีแค่คุณ มู่หรงยิ่นเท่านั้น”“นายไม่ใช่ไอ้เฮงซวยเหรอ? เรียกตั้งแต่เด็กยันโต เปลี่ยนคำเรียกไม่ได้แล้ว”มู่หรงยิ่นน
“ฉันเชื่อใจเขา”มู่หรงยิ่นกล่าว“ถ้าอย่างนั้นก็ขอเชิญคุณหลิน ปรากฏตัวเถอะ ให้ผมได้เห็นหน้า คนที่กล้าทำลายแผนการของผม ว่าเป็นเทพองค์ไหนกันแน่”เฉินจื่อหลิงขยี้บุหรี่ในมือ แล้วลุกขึ้นทันที จากนั้นจึงเพิ่มเสียงโครม!ทันทีที่เสียงพูดของเฉินจื่อหลิงจบลง ประตูใหญ่ก็ถูกกระแทกเปิดออก ชายร่างกายกำยำในชุดสีดำคนหนึ่งลอยเข้ามาทันที กระแทกลงบนพื้นหลินหยางเดินเข้ามาจากประตู“คุณหลิน ลำบากคุณแล้ว”มู่หรงยิ่นกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“คุณใจใหญ่ใช้ได้เลยนะ ถ้าหากผมไม่ตามมาด้วย คุณจะทำยังไง?” หลินหยางเดินมาที่ข้างกายของมู่หรงยิ่นพร้อมกล่าว“ฉันแค่ใจใหญ่เหรอ? ตรงอื่นของฉันไม่ใหญ่เหรอ?”มู่หรงยิ่นจงใจยืดหน้าอกที่น่าภูมิใจขึ้น“ใหญ่”หลินหยางจ้องมองร่องอกลึกที่ขาวดุจหิมะ กล่าวตามความจริงเฉินจื่อหลิงเห็นหลินหยางกับมู่หรงยิ่นมาหยอกเอินเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นตรงหน้าเขา สีหน้าจึงอึมครึมขึ้นมาทันที“มาได้จังหวะพอดี ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว”เฉินจื่อหลิงกล่าวพร้อมกับส่งสัญญาณมือ “ฆ่ามัน”ชายหนุ่มหน้าบากที่ยืนอยู่ข้างกายเฉินจื่อหลิงมาตลอดเดินออกมาคนนี้เป็นยอดฝีมือระดับแปด ท่ากรงเล็บเหยี่ยวค่อนข้
ทันทีที่มู่หรงยิ่นได้ยินว่าเฉินจื่อหลิงมีอาจารย์ฝึกยุทธ์ระดับเก้าคอยบัญชาการ ก็ตกตะลึงเล็กน้อย สีหน้าเปลี่ยนไปทันที“ทำยังไงดี? คุณมีความมั่นใจว่าจะจัดการกับอาจารย์ระดับเก้าได้ไหม?”มู่หรงยิ่นที่ยืนอยู่ข้างกายของหลินหยางกล่าวถาม“ต้องลองดูครับ”หลินหยางกล่าวด้วยสีหน้าสบาย ๆเฉินจื่อหลิงกล่าวกับผู้อาวุโสคนหนึ่งที่นั่งจิบน้ำชาอยู่มุมด้านในมาตลอด “ท่านเซิ่น ดูท่าคงต้องลำบากท่านลงมือจัดการเจ้าหมอนี่แล้ว”ผู้อาวุโสดื่มชาในถ้วยพรวดเดียว ค่อย ๆ วางถ้วยชาแล้วลุกขึ้น ดวงตามองไปยังหลินหยาง“อายุยังน้อย แต่มีความสามารถระดับนี้ ไม่เลว! อาจารย์ของนายเป็นใคร?”“แกยังไม่มีสิทธิ์รู้ว่าอาจารย์ของฉันคือใคร”หลินหยางกล่าว“ถ้าอย่างนั้น วันนี้ฉันคงต้องสังหารนายด้วยมือของตัวเองแล้ว”ผู้อาวุโสตั้งท่า ปล่อยพลังหมัด ส่งเสียงดังกึกก้อง“หมัดทงเป้ยของท่านเซิ่นสมบูรณ์แบบแล้ว คนแซ่หลิน แกตายแน่”เฉินจื่อหลิงกล่าวด้วยใบหน้าอาฆาตฝีเท้าของผู้อาวุโสว่องไวมาก ท่าการโจมตีปราดเปรียวเช่นกันอาจารย์ย์ฝึกยุทธ์ระดับเก้า พลังรุนแรง หนึ่งกำปั้นหนึ่งฝ่ามือมีพลังรุนแรง แต่หลินหยางรับมือได้อย่างสุขุมผู้อาวุโสโจ
“ฉันพอใจ นายยุ่งอะไรด้วย?”มู่หรงยิ่นเดินไปที่ข้างกายของหลินหยาง โอบแขนของเขาเฉินจื่อหลิงยิ้มด้วยความโมโห ยกนิ้วโป้งให้มู่หรงยิ่น“ได้! การประลองฝีมือในวันนี้ ฉันเป็นฝ่ายแพ้แล้ว พวกนายไปได้แล้ว” หลินหยางแค่นหัวเราะ เดินเข้าไปหาเฉินจื่อหลิง“แกคิดจะทำอะไร? ฉันขอเตือนแก พ่อของฉันเฉินเทียนหาวหัวหน้าสมาคมการค้าหงซิ่ง เบื้องหลังของสมาคมการค้าหงซิ่งของพวกฉันคือพรรคพยัคฆ์ดำ แกกล้าแตะต้องฉันแม้แต่ปลายเล็บ พ่อของฉันไม่มีทางปล่อยแกไปแน่”เฉินจื่อหลิงสีหน้าตื่นตระหนก ถอยหลังกรูหลินหยางไม่สนใจคำข่มขู่ของเขา ค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้“มัวอึ้งอะไรกันอยู่วะ? คุ้มกันฉันสิ!”ลูกน้องของเฉินจื่อหลิงยังมีชายกำยำอยู่อีกเจ็ดแปดคน ในเวลานี้พยายามพุ่งตัวเข้ามาหลินหยางลงมืออย่างเด็ดขาด ใช้เทคนิคมือจับคว้าใหญ่และเล็กสลับกัน ลูกน้องพวกนี้ของเฉินจื่อหลิง ร้องอย่าโศกเศร้าเวทนาทันที ไม่แขนหักก็กระดูกซี่โครงหัก“ระวัง!”จู่ ๆ มู่หรงยิ่นร้องออกมาด้วยความตกใจ!ปัง!เสียงปืนดังสนั่น!เฉินจื่อหลิงฉวยโอกาสตอนสถานการณ์วุ่นวายควักปืนกระบอกหนึ่งออกมา คิดจะลอบโจมตีหลินหยางหลินหยางที่มีการป้องกันเอาไว้อยู่แล้
“ที่คุณพูดไม่ผิด ฉันจงใจกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านจริง เพื่อให้เว่ยต้าจงพ่อบ้านเปิดเผยที่อยู่ของฉัน ฉันยินยอมถูกคนของเฉินจื่อหลิงจับตัวไป แล้วก็อยากจะพิสูจน์การคาดเดาของฉัน ว่าฉันไม่ได้ปรักปรำเขา”“ถึงอย่างไรเว่ยต้าจงก็ติดตามพ่อของฉันมาหลายสิบปี เป็นคนเก่าแก่ของตระกูลพวกเรา ต่อให้วันนี้คุณไม่อยู่ ฉันก็อยากที่จะไปลองเสี่ยงดูอยู่ดี”“ฉันเขียนข้อความไว้ฉบับหนึ่งล่วงหน้าแล้ว ถ้าหากหนีไม่ได้ ฉันจะส่งข้อความหาพี่ชายของฉัน เขาจะคิดหาหนทางมาช่วยฉัน”มู่หรงยิ่นพูดไป ก็ควักโทรศัพท์มือถืออกมาโชว์ให้หลินหยางดูด้านบนสุดของข้อความมีจดหมายที่เขียนเสร็จแล้วฉบับหนึ่งอยู่จริง แต่เป็นข้อความขอความช่วยเหลือที่ยังไม่ได้กดส่งออกไป“ฉันใช้โอกาสหลอกใช้การกินเหล้ากับคุณจริง ๆ แต่ฉันไม่ได้คิด ที่จะหลอกใช้คุณเพื่อจัดการกับเฉินจื่อหลิง แล้วก็คิดไม่ถึงด้วยว่าเฉินจื่อหลิงยังซุกอาจารย์ระดับเก้าเอาไว้โจมตีอีก”เมื่อฟังมู่หรงยิ่นอธิบายจบ ในใจของหลินหยางก็รู้สึกดีขึ้นมาก“แต่ว่ายังไงก็ต้องขอบคุณคุณจริง ๆ ถ้าหากคืนนี้ไม่มีคุณ ฉันอาจจะตกอยู่ในอันตรายมากจริง ๆ แม้ว่าพี่ฉันจะพาคนมา ก็ไม่แน่ว่าจะสามารถช่วยฉันจากอา
“ไม่เป็นไรครับ น้าหลิ่ว ผมเข้าใจเป็นอย่างดี”หลินหยางเองก็คร้านจะอธิบาย“น้าอวี๋ของเธอตอนนี้โมโหมาก เรื่องที่ฉันอยากจะเธอเข้ามาทำงานในบริษัท เธอคัดอย่างสุดแรงเกิด ตอนนี้ไม่มีทาง น้าเตรียมเงินให้เธอก้อนหนึ่ง เธอรีบหนีไปคืนนี้เลย ออกจากเมืองลั่วหลีกเลี่ยง ไม่อย่างนั้นน้าอวี๋ก็จะส่งคนไปจับตัวเธอ แล้วส่งตัวไปรับโทษที่ตระกูลเหลียง”หลินหยางรู้ว่าหลิ่วเฉิงจื้อกลัวภรรยามาตลอด ในเวลานี้ ยังสามารถโทรบอกให้เขาหลบหนีได้ ก็นับว่าปฏิบัติต่อเขาอย่างจริงใจแล้ว“เขา ผมเป็นคนทำร้ายเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกคุณ เหลียงควนจะแก้แค้น ให้เขามาหาผม น้าไม่ต้องเป็นห่วงผม”หลินหยางกล่าว“เด็กแบบเธอ ทำไมถึงไม่ฟังคำเตือน! น้ารู้ว่าเธอเรียนศิลปะการต่อสู้มาบ้าง แต่เธอจะเอาชนะตระกูลเหลียงได้งั้นเหรอ? เชื่อน้า รีบออกจากเมืองลั่ว”“ครับ น้าหลิ่ว ผมทราบแล้ว”หลินหยางเองก็ไม่ได้ดื้อรั้นกับหลิ่วเฉิงจื้อต่อแค่ตระกูลเหลียงเล็ก ๆ เขาจะใส่ใจไปทำไมในโรงพยาบาล อวี๋ผิงเดินออกมาจากในห้องผู้ป่วย กล่าวถาม “คุณถามให้แน่ชัดหรือยัง? ไอ้เดรัจฉานนั่นอยู่ที่ไหน? ก่อนที่เสี่ยวเหลียงจะฟื้นขึ้นมา จะต้องจับตัวไอ้เดรัจฉานนั่นมาให้ได้
ต้วนเทียนเต๋อกระโจนตัวเข้าใส่ฉินโม่หนงฉินโม่หนงหลบหนีอย่างหวาดกลัว ตกใจจนหน้าซีดต้วนเทียนเต๋อเองก็ไม่รีบร้อน เล่นเกมแมวไล่จับหนูกับฉินโม่หนง ส่งเสียงหัวเราะออกมาด้วยความพอใจ“ประธานฉิน คุณหนีไม่พ้นหรอก ยอมผมแต่โดยดีเถอะ”ต้วนเทียนเต๋อกระโจนตัวเข้าไปอีกครั้ง ฉินโม่หนงถูกบังคับให้หลบเข้าไปในมุมของสวนดอกไม้ หมดหนทางหนีแล้ว“ไม่มีที่ให้หนีแล้วใช่ไหมล่ะ? เดิมทีผมอยากจะฆ่าไอ้หมอนั่น แล้วค่อยมาสนุกกับคุณ แต่ไอ้หมอนั่นก็ขี้ขลาดตาขาว ไม่กล้ามา ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ พวกเรามามีความสุขด้วยกันดีกว่าต้วนเทียนเต๋อถูมือของเขาด้วยสีหน้าหื่นกาม น้ำลายไหลย้อยฉินโม่หนงเห็นดังนั้น รู้สึกถึงความสะอิดสะเอียนอยากอาเจียนเธอในเวลานี้เสียใจมาก มีความสัมพันธ์กับหลินหยาง อย่างน้อยก็ไม่มีทางรู้สึกขยะแขยง อีกทั้งยังมีความสุขมากอีกด้วยแต่คนตรงหน้า ฉินโม่หนงยอมตายก็ไม่ยอมถูกเขาแตะต้องแม้แต่ครั้งเดียว“หวังฮุ่ยหรงสมควรตาย แกหาคนแบบไหนมาให้ฉัน!”ฉินโม่หนงได้หมดหนทางถอยแล้ว เธอตัดสินใจแล้ว แม้ว่าจะต้องเอาหัวกระแทกให้ตายตรงนี้ ก็ไม่ยอมรับความอัปยศอดสูเมื่อเห็นต้วนเทียนเต๋อค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้ ฉินโม่หนงก็ใ
“ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ
เจียงรั่วหานหัวใจตึงเครียดขึ้นมาทันที เป็นห่วงชายชู้ของตนเอง ครั้งนี้หลินหยางตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ!อย่างไรเสียใช้ยศตำแหน่งข่มเหงคนอื่น!ซ่งหว่านอวี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็ถอนหายใจในใจเช่นกัน ต่อให้ตำแหน่งของหลินหยางที่เมืองลั่วสูงกว่านี้แล้วจะยังไงต่อหน้าผู้มีอิทธิพลอย่างหวังเทียนเหิง ก็ทำได้แค่เพียงอดกลั้นเท่านั้น!“จะตรวจสอบงั้นก็ได้ แต่ก็ต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย”หลี่หรูเยว่สีหน้าไม่สุขุม แต่กลับไม่กล้าให้หลินหยางมีข้อหาขัดขวางทางการติดตัว“กฎหมาย?” หวังเทียนเหิงยิ้มเยาะ กล่าวด้วยท่าทีหยิ่งยโส “คำพูดของฉัน ก็คือกฎหมาย! มีปัญหา? เข้าไปในห้องกับฉันค่อย ๆ คุยกัน ถ้าทำให้ฉันพอใจได้ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะปล่อยแกไปสักครั้ง!”เขาทำตัวอวดดีกำเริบเสิบสาน! ถึงอย่างไรเหยียนฮ่าวก็ได้แทรกแซงคดีนี้ด้วยตนเองแล้ว ถ้าอยากจะจับหลินหยางให้อยู่หมัด! ต้องมีหลักฐานแน่ชัด ทำให้หลินหยางดิ้นไม่หลุดตลอดไป!ส่วนการหลับนอนกับปรมาจารย์ระดับแปดคนหนึ่ง นั่นก็เป็นเพียงเรื่องของผลพลอยได้เท่านั้น!เขาจ้องมองสำรวจรูปร่างที่สวยงามประณีตของหลี่หรูเยว่ด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว มีความร้อนกลุ่มหนึ่งพลุ่งพล่านขึ้นในท้องน้อยข
แต่กลัวว่าเขาจะฉวยโอกาสช่วงจังหวะชุลมุน ลงมือกับจ้าวเจิ้งฮ่าว!“นายพลจ้าววางใจ”สีหน้าเฉิงคั่วหนักใจ ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งในฐานะที่เขาเป็นปรมาจารย์ระดับห้า ประกอบกับมีนักรบทหารองครักษ์ชาวตงอิ๋งที่มีระดับมานะสร้างกลุ่มหนึ่งคอยช่วยเหลือ ก็มากพอที่จะจับตัวปรมาจารย์หนึ่งในนั้นได้“แม่งเอ๊ย ในเมื่อพวกแกทั้งหมดยอมเป็นสุนัขรับใช้ของหลินหยาง ถ้าอย่างนั้นก็ไปตายให้หมด! คิดว่าปรมาจารย์ระดับเก้าของฉันมีไว้ประดับเหรอไงวะ!?”จ้าวเจี้ยนชิงดวงตาแดงก่ำด้วยความริษยา ตนเป็นผู้บังคับบัญชาของเมืองลั่วมานานหลายปี ยังไม่มีลูกน้องที่แข็งแกร่งขนาดนี้ หลินหยางเพิ่งมาได้ไม่นาน ก็มีปรมาจารย์ระดับหกถึงสี่คนเป็นสุนัขรับใช้?!หลินหยางยิ่งใช้ชีวิตดีเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากจะสับหลินหยางให้แหลกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น!แต่ทว่ายังไม่ทันได้ลงมือเขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งตัว แรงอาฆาตที่เย็นยะเยือกขั้นสุดกลุ่มหนึ่งลอยมา!“จ้าวเจี้ยนชิง แกอยากตายใช่ไหม?”ในเวลานี้ หลี่หรูเยว่ยืนอยู่ที่ประตูคฤหาสน์ ในมือของเธอใช้โซ่เหล็ก จูงม๋อจื่อที่เหมือนกับเป็นสัตว์ร้าย จ้องมองเขาด้วยความเย็นชาจ้าวเจี้ยนชิงรูม่านตาหดทันที กล่าวอย
ก็แค่ปรมาจารย์ระดับหกคนหนึ่งเท่านั้น เขาไม่สนใจอยู่แล้วแต่ปรมาจารย์ระดับหกคนหนึ่งไม่คิดเลยว่าจะมาเป็นยามให้หลินหยาง เขาไม่สามารถเข้าใจได้!แม้ว่าเขาจะเป็นปรมาจารย์ระดับเก้าก็ยังไม่เคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้!จ้าวเจิ้งฮ่าวและคนอื่น ๆ ต่างก็อ้าปากค้างอย่างตกตะลึงสถานการณ์ตรงราวกับเป็นภาพลวงตาเลยทีเดียว!ไอ้หมอนี่หัวสมองมีปัญหาเหรอไง? ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้เป็นปรมาจารย์ระดับหก แต่กลับมาเป็นยามให้คนที่มีระดับเจ็ดอย่างหลินหยาง?!“นับว่าแกพอมีความสามารถอยู่บ้าง แต่การรับใช้คนที่กำลังจะตาย เป็นการทำให้ตัวเองเสื่อมถอยแท้ ๆ เลย!”จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “หลินหยางทำลายการค้าระหว่างกองทัพกับชาวตงอิ๋ง ฉันมาเพื่อค้นหาหลักฐาน”“ตอนนี้ฉันให้โอกาสแกกลับตัวกลับใจหนึ่งครั้ง สวามิภักดิ์ต่อฉัน! ไม่อย่างนั้น จะถือว่าแกขัดขวางการสอบสวน! ฝ่าฝืนกฎหมายระดับประเทศ! ฉันจะประหารชีวิตแกทันที”เขามีความคิดที่จะชักจูงคนคนนี้ถึงอย่างไรปรมาจารย์ระดับหกในเมืองลั่วก็นับว่าเป็นยอดฝีมือ ฆ่าไปก็น่าเสียดายแต่ทว่าอาต้ากลับกล่าวเสียงเย็นชา “รับเลี้ยงฉัน? แกคู่ควรเหรอ! ไสหัวไป!”“แกคิดให้ดี ๆ กล้าขัดขวาง
เจียงรั่วหานกล่าวโต้เถียงด้วยสีหน้าแดงก่ำแต่นี่ก็คือเรื่องจริงถึงอย่างไรตนก็ไม่ได้ขึ้นเตียงกับหลินหยาง แต่ทว่าทำในรถ...“ไม่ต้องรีบ นั่งลงคุยกัน...” ซ่งหว่านอวี๋ท่าทางสบาย ๆ พูดจาปลอบโยนอย่างมีเลศนัย “เป็นเพราะพี่กลัวเธอถูกหลินหยางหลอกเอา หลินหยางนั่นบังคับให้พี่ทำเรื่องแบบนั้น เขาไม่ใช่คนดีอะไร!”“พี่หว่านอวี๋พี่ไม่เข้าใจเขา!”เจียงรั่วหานกลับวางแก้วกาแฟลง รีบพูดขึ้นว่า “อันที่จริงหลินหยางเป็นคนดีคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้ที่เขาทำแบบนั้นกับพี่ อัน อันที่จริงเป็นเพราะจ้าวเจิ้งฮ่าวเป็นต้นเหตุ!”“ฉันบอกเขาแล้ว ว่าต่อไปห้ามแตะต้องพี่อีก!”ไม่แตะต้องฉัน?ฉันต้องการให้เธอช่วยเหลือเรื่องนี้เหรอ?เธอกินอิ่มแล้วไม่กะจะไม่เหลือไว้ให้ฉันกินสักคำเลยเหรอไง!ซ่งหว่านอวี๋สีหน้าดูแย่เล็กน้อย เธอกินอาหารทะเลมื้อหรูจนเคยชินแล้ว จะกินอาหารจืดชืดลงได้ยังไงอีก?“พี่หว่านอวี๋ ต่อไปฉันคงต้องอาศัยพี่คอยเป็นที่กำบังให้ฉันแล้ว ครอบครัวนี้ ฉันทนอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแม้แต่วันเดียวแล้ว!”เจียงรั่วหานยังหันหน้าไปมองซ่งหว่านอวี๋ด้วยท่าทางขอร้อง“เรื่องเล็กน้อย...”ซ่งหว่านอวี๋กล่าวพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ไม่ว่าจะพู
ฉินเจิ้งคุนกลับส่งสัญญาณมือให้เงียบเอาไว้“เรื่องพวกนี้ห้ามเอาไปพูดข้างนอกส่งเดช! การต่อสู้ของบุคคลใหญ่โตไม่ใช่สิ่งที่พวกเราวิจารณ์ได้!”เขากล่าวเตือนด้วยท่าทีขึงขังถึงแม้ว่าตระกูลฉินจะมีชื่อเสียงโด่งดังในหนานโจว แต่ในสายตาของตระกูลใหญ่ที่ล้ำลึกจนไม่อาจคาดเดาของซานโจวบนพวกนั้น วงศ์ตระกูลบ้านนอกอย่างตระกูลฉิน ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึงการต่อสู้ระดับนั้น เพียงแค่ควันหลง ก็มากพอที่จะทำให้ทั้งตระกูลฉินตายไร้ที่ฝังศพแล้ว!ฉินอี๋หลิงรีบหุบปากทันทีเช่นกันไม่กล้าส่งเสียงดัง เพราะหวาดกลัวว่าคนบนฟ้า!“หลินไร้ศัตรูแอบรายงานแต่ละวงศ์ตระกูลใหญ่แห่งหนานโจวอย่างลับ ๆ ให้ช่วยเขาตามหาหลานชายของเขา ถ้าหากใครหาเจอ เขาก็จะยอมรับคำขอร้องของคนนั้นหนึ่งข้อ” ฉินเจิ้งคุนค่อย ๆ พูด“จริงเหรอคะ?”ฉินอี๋หลิงสีหน้าตื่นเต้นดีใจ หัวใจไฟลุกโชนถึงแม้ว่าวงศ์ตระกูลของหลินไร้ศัตรูจะล่มสลายไปแล้ว แต่ก็ยังไม่สิ้นอำนาจโดยสมบูรณ์!คำมั่นสัญญาของเขาหนึ่งข้อ สามารถตัดสินว่าใครจะได้ครอบครองตำแหน่งหัวหน้าตระกูลฉิน!“มีเบาะแสของหลานชายคนนั้นของเขาแล้วเหรอยัง!”เธอรีบกล่าวถาม“ง่ายแบบนั้นซะที่ไหน...”ฉินเจิ้งคุนส่ายหน้
ตนในตอนนี้ ต่อสู้ข้ามสามระดับชั้นก็ไม่เป็นปัญหา มีลูกน้องไม่กี่คน ตนก็ไม่ต้องโดนรุมโจมตีอีกบ่อย ๆมีสิทธิ์แสร้งทำเป็นเก่ง ถ้าอย่างนั้นก็ต้องทำแต่ทว่าหลี่หรูเยว่กับปรมาจารย์ทั้งสี่คนมีความปรับตัวให้เข้ากับสไตล์แบบนี้ไม่ค่อยได้เท่าไหร่หลูอ้าวตงว่าอวดดีมากพอแล้ว แต่เมื่อเทียบกับหลินหยาง นั่นก็เป็นแค่เรื่องจิ๊บจ๊อยเท่านั้น...“ไปกันเถอะ กลับไปที่บ้านให้ฉันรักษาอาการบาดเจ็บให้พวกแกก่อน อีกเดี๋ยวไปกับฉันฆ่าคนของจ้าวเจี้ยนชิงให้เรียบ”หลินหยางเดินลงจากภูเขาแต่หลี่หรูเยว่และคนอื่น ๆ อีกห้าคนกลับสบตากันแวบหนึ่ง เห็นสีหน้าตกใจจากนัยน์ตาของอีกฝ่ายหลินหยางพูดจาสบาย ๆ มาก ราวกับว่าในสายตาของเขา การฆ่าหัวหน้ากองทหารรักษาการณ์ ง่ายเหมือนกับซื้อผักพวกเขากลับไม่ทันได้คิดมาก รีบตามหลินหยางลงจากเขา คอยตามปรนนิบัติ...อีกด้านหนึ่งภายในห้องหนังสือสไตล์โบราณแห่งหนึ่งฉินเจิ้งคุนกระแทกโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ พูดด้วยความโมโห “ไอ้สารเลวนี่อวดดีมาก! แม้แต่สายโทรศัพท์ของฉันกล้าตัดทิ้ง!”ฉินอี๋หลิงที่อยู่ด้านข้างสีหน้าดูแย่เช่นกัน บทสนทนาเมื่อครู่นี้เธอได้ยินหมดแล้วหลินหยางไม่ให้เกียรติเลยแม้แต
หรือไม่ก็โทรศัพท์ไปหยอกหลูอ้าวตงอีกสักที?ไม่มีอะไรทำก็ไปยั่วโมโหหลูอ้าวตงสักหน่อย ได้กลายเป็นความเคยชินของหลินหยางไปแล้วแต่ทว่าทันทีที่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กลับมีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามาเบอร์โทรศัพท์นั่นคือ...ฉินเจิ้งคุน?หลินหยางมีความประหลาดใจเล็กน้อย จะว่าไป ฉินเจิ้งคุนควรจะส่งคนมาไล่ฆ่าตนถึงจะถูกอย่างไรเสียสิ่งของที่ไม่ได้มาครอบครองก็ต้องทำลายทิ้ง ถึงจะเหมาะสมกับสไตล์ของตระกูลใหญ่อย่างพวกเขาผลปรากฏว่าการตามล่าของตระกูลฉินที่รอคอยมาไม่ถึงสักที...เขารับสายแล้วพูดว่า “ผมคิดว่าคุณตายไปแล้วเสียอีกนะ...”“ไอ้บ้า!”ทันทีที่ฉินเจิ้งคุนต่อสายติดก็ได้ยินประโยคนี้ โมโหจนสะอึกทันที “คนที่ใกล้ตายอย่างแกยังจะกล้าพูดจาเหลวไหล! ตอนนี้แกได้ถูกหลูอ้าวตงตามฆ่าเหมือนกับหนูท่อที่น่ารังเกียจแล้วละมั้ง!”“ถ้าอย่างนั้นคงต้องทำให้คุณต้องผิดหวังแล้ว...”หลินหยางเหลือบตามองลูกน้องที่เพิ่งรับเอาไว้เมื่อสักครู่นี้แวบหนึ่ง หลูอ้าวตงทั้งส่งสมุนไพรทั้งส่งผู้หญิงมาให้ โดนตนจัดการจนรู้สึกไม่ค่อยสบายขึ้นมาอยู่หน่อย ๆ เสียแล้วแต่ทว่าฉินเจิ้งคุนกลับไม่เชื่อ กล่าวเสียงเย้ยหยัน “เลิกพูดจาไร้สาระ ต
เขาหยิบยาพิษสี่เม็ดออกมาจากในกระเป๋าเฉียนคุน โยนให้พวกเขา“ยาพิษนี้มีแค่ฉันเท่านั้นที่ถอนได้ ถ้าหากพวกแกกล้าทรยศ จะต้องตายอย่างน่าเวทนามากแน่อย่างแน่นอน”ปรมาจารย์ทั้งสี่เข้าใจว่าหลินหยางไม่เชื่อใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ยาพิษนี้ไม่กินก็ต้องกิน จากนั้นก็กลืนยาพิษลงไปโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยเมื่อทั้งสี่คนกลืนยาพิษลงไปแล้ว หลินหยางถึงได้ไปช่วยรักษาม๋อจื่อภายใต้การจับตามองอย่างประหม่าของหลี่หรูเยว่หลินหยางใช้เข็มวาสนาฝืนลิขิต ม๋อจื่อค่อนข้างไม่ธรรมดา รากฐานกระดูกแข็งแรงมากมาตั้งแต่กำเนิด มุมมองของหลินหยาง เหมาะที่จะเดินเส้นทางเทพวรยุทธ์มากแต่น่าเสียดายที่ถังฮ่าวหรานความคิดตื้นเขิน ใช้วิชาแปลงอสูรสวรรค์ฝึกฝนเขาจนกลายเป็นคนไร้ประโยชน์หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ม๋อจื่อก็ฟื้นขึ้นมา ทันทีที่ลืมตาดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ ท่าทางดุร้าย“ม๋อเอ๋อร์ฟื้นแล้ว!”หลี่หรูเยว่ดีใจเป็นอย่างยิ่งขึ้นมาทันที หันหน้าไปมองหลินหยางพูดด้วยความซาบซึ้งใจ “ขอบพระคุณนายท่าน!”ก่อนหน้านี้ม๋อจื่อดูเหมือนคนกำลังใกล้ตาย เวลาแค่เพียงครู่เดียวหลินหยางก็รักษาเขาจนหายดีแล้วนับว่าเธอนับถือฝีมือการรักษาของหลินหยางอย่างถ