แชร์

บทที่ 3

ผู้แต่ง: ด้านนอกด่านประตูห่านป่า
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“ไอ้ระยำ ปล่อยฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าแก!”

ฉินโม่หนงยังดุด่าไม่ทันเสร็จดี ก็ถูกหลินหยางยกมือขึ้นตบหน้าฉาดหนึ่ง

การตบหน้าฉาดนี้ ทำให้ฉินโม่หนงงุนงงไปแล้ว!

เธอคิดไม่ถึงเลยสักนิดว่า หลินหยางที่อ่อนแอขี้ขลาด จะกล้าลงมือทำร้ายเธอ!

“ไอ้เดรัจฉาน แกรนหาที่ตาย!”

ตอนนี้ฉินโม่หนงมีสถานะระดับไหน จะทนการตบหน้าที่เป็นการดูถูกของหลินหยางได้อย่างไร จึงระเบิดอารมณ์ทันที

เธอพยายามออกแรงดิ้นรน คิดไม่ถึงว่าภายในเวลาชั่วพริบตาหลินหยางกลายเป็นคนหยาบคายแบบนี้ พละกำลังก็มากด้วย

ความพยายามของเธอ ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง!

สองปีมานี้ หลินหยางถูกพวกเธอสองแม่ลูกคุมขังและปฏิบัติอย่างโหดร้าย ไม่มีแรงต่อต้านเลยแม้แต่น้อย ราวกับเนื้อปลาที่อยู่บนเขียง

แต่ในเวลานี้ บทบาทสับเปลี่ยนกัน ฉินโม่หนงได้กลายเป็นเนื้อปลาที่อยู่บนเขียงของหลินหยางไปแล้ว

เพี้ยะ!

หลินหยางตบหน้าฉินโม่หนงอีกฉาดหนึ่ง

“ฉินโม่หนง ดูท่าแกยังจะไม่เข้าใจชัดเจนนะ ตอนนี้ชีวิตของแกอยู่ในกำมือฉันแล้ว ฉันสามารถฆ่าแกได้ทุกเมื่อ แกยังกล้าข่มขู่ฉันอีกเหรอ? ทางที่ดีแกรีบสำรวมท่าทางเย่อหยิ่งอวดดีนั้นของแกไปซะ”

หลินหยางบีบลำคอขาวสะอาดของฉินโม่หนง การตบหน้าสองฉาดนี้ ระบายความโกรธได้ดีมาก!

แต่ แค่นี้ยังไม่พอ!

แม้แต่ดอกเบี้ยก็ยังไม่พอ!

“แกคิดจะทำอะไรกันแน่?”

ฉินโม่หนงปวดแสบปวดร้อนที่ใบหน้า ในที่สุดตอนนี้เธอก็ตระหนักได้ว่าหลินหยางที่อยู่ตรงหน้าไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เธอมองเห็นความอาฆาตแค้นจากนัยน์ตาของหลินหยาง!

“แน่นอนว่าต้องเอาคืนแกกับฉินเยียนหรานนะซิ” หลินหยางแค่นหัวเราะ เริ่มปฏิบัติการแผนการแก้แค้นของตนเองแล้ว

หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ ร่างกายของฉินโม่หนงเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ จ้องมองหลินหยางด้วยสายตาเคียดแค้น แทบอยากจะสับหลินหยางออกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น!

เพียงแต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ร่างกายของเธอไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ไม่อย่างนั้นคงจะไปหยิบมีดมาสับหลินหยางเดี๋ยวนี้

หลินหยางในเวลานี้ได้สงบสติอารมณ์ลงแล้วเช่นกัน เพลิงโทสะภายในใจก็หายไปชั่วขณะ แต่เขากลับไม่ได้รู้สึกเสียใจที่ทำเรื่องนี้

วิธีนี้เป็นวิธีการแก้แค้นฉินโม่หนงกับฉินเยียนหรานที่ถึงอกถึงใจที่สุดอย่างแน่นอน

“ฉินโม่หนง แกเคยคิดบ้างไหมว่า จะต้องมีวันนี้? บัญชีระหว่างแกกับฉัน วันนี้ถือว่าเป็นการคิดดอกเบี้ยก่อน อนาคตยังอีกยาวไกล พวกเราค่อย ๆ ชำระสะสาง”

“อีกอย่างฉันให้เวลาแกหนึ่งสัปดาห์ ส่งมอบซิงเย่า กรุ๊ปมา มันไม่ใช่ของแก ฉันจะต้องเอากลับคืนมาให้ได้! แล้วก็ถ้าฉันสืบเจอว่า การตายของพ่อกับแม่ฉันเกี่ยวข้องกับแก ฉันจะฆ่าแกทิ้งทันที!”

“ไอ้เดรัจฉาน คิดไม่ถึงว่าแกจะกล้าข่มขู่ฉัน? คิดจะแย่งทรัพย์สินของครอบครัวกลับไปอีก? ฉันจะทำให้แกมีชีวิตรอดไปไม่ถึงวันพรุ่งนี้!”

ฉินโม่หนงโมโหจัด!

“งั้นหรือ? ถ้าอย่างนั้นแกก็ลองดูซิ ว่าจะมีปัญญาฆ่าฉันได้ไหม!”

หลินหยางยิ้มอย่างเย็นชา แล้วเดินจากไป!

ฉินโม่หนงที่โมโหจัด พบว่าบนร่างกายเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำเป็นจ้ำ ๆ รู้สึกปวดแสบปวดร้อน

ซี้ด!

ทันทีที่ขยับร่างกาย ก็รู้สึกเจ็บจนต้องสูดลมหายใจเข้าอย่างหวาดกลัวทันที!

เกือบยี่สิบปีแล้ว ยังไม่มีใครกล้าทำแบบนี้กับเธอ หลินหยางแกสมควรตาย!

“หลินหยาง แกไอ้ชาติชั่ว! เห็นแก่มิตรภาพเก่า เดิมทีฉันจะไว้ชีวิตแกสักครั้ง แต่วันนี้แกรนหาที่ตายเอง ฉันจะให้แกสมความปรารถนา!

นัยน์ตาฉินโม่หนงเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นรุนแรง

ฉินโม่หนงโทรหาฉินเยียนหรานเพื่อบอกกล่าวเป็นอันดับแรกว่า หลินหยางยังไม่ตาย

“ไอ้บอดชาติชั่วนี่ เป็นคนชั่วที่ดวงแข็งจริง ๆ ขนาดนี้ยังไม่ตาย!”

ฉินเยียนหรานด่าทอในสายโทรศัพท์

“เยียนหราน แม่รู้สึกเหมือนกับว่ามันเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว!”

ฉินโม่หนงคิดอยู่หลายตลบก็ยังไม่เข้าใจ อย่างไรก็ตามสองปีมานี้ หลินหยางใช้ชีวิตอยู่ที่ตระกูลฉินยังเทียบไม่ได้แม้กระทั่งหมา ทำไมเพียงเวลาแค่คืนเดียวถึงได้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนี้กันนะ?

“จะมีอะไรไม่เหมือนเดิมขนาดไหนกันเชียว? ต่อให้มันเปลี่ยนไปขนาดไหน ก็ยังคงเป็นไอ้สวะตาบอดเหมือนเดิมอยู่ดี”

ฉินเยียนหรานพูดอย่างเหยียดหยาม

ฉินโม่หนงเองก็ไม่สามารถเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับหลินหยางได้ตรง ๆ เรื่องนี้จะให้ฉินเยียนหรานรู้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด

“ตอนนี้มันเหมือนกับหมาบ้าที่กำลังคลั่งตัวหนึ่ง จะทำเรื่องอะไรออกมาก็ได้ แกต้องระวังตัวหน่อย มันอาจจะมาเอาคืนแกก็ได้!”

ฉินโม่หนงเป็นกังวลจริง ๆว่าหลังจากที่หลินหยางแก้แค้นเธอเสร็จแล้ว จะไปลงมือกับฉินเยียนหรานอีก

ฉินเยียนหรานได้ยินดังนั้น ก็ส่งเสียงหัวเราะพรวดออกมาทันที

“แม่คะ...แม่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม? มันกล้าลงมือแก้แค้นหนู? ต่อให้มันกล้า หนูจะต้องกลัวมันด้วยหรือคะ? หนูสามารถฆ่ามันตายได้อย่างง่ายดาย!”

ฉินเยียนหรานหัวเราะเยาะ

“มันกลับมาแล้วใช่ไหมคะ? หนูจะรีบกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ดูว่าหนูจะจัดการกับมันยังไง!”

“ห้ามกลับมาเด็ดขาด! แม่จะส่งคนไปจัดการมัน แกรออยู่ที่โรงเรียนดี ๆ”

ฉินโม่หนงไม่อยากให้ลูกสาวกลับบ้านมาเห็นสภาพที่น่าอนาถของตัวเองในตอนนี้

ถ้าหากให้ฉินเยียนหรานรู้เรื่องนี้เข้า ฉินโม่หนงยากที่จะจินตนาการ ว่าเธอจะโมโหจนบ้าคลั่งไปตรงนั้นเลยหรือไม่!

หลังจากวางสายโทรศัพท์ของฉินเยียนหราน ฉินโม่หนงโทรศัพท์หาแม่บ้านอีก

“หลินหยางยังไม่ตาย ตอนนี้แกไปตามหามันให้เจอ แล้วฆ่ามันทิ้งซะ แล้วหิ้วหัวของมันกลับมาหาฉัน เรื่องก่อนหน้านี้ ฉันจะไม่เอาความ!”

หวังฮุ่ยหรงกล่าว “คุณนาย ไม่ใช่ว่าคุณไม่อยากให้เขาตายมาโดยตลอดไม่ใช่หรือคะ?”

เมื่อคืนนี้หวังฮุ่ยหรงโยนหลินหยางลงไปในแม่น้ำ หลังจากฉินโม่หนงกลับมาก็โมโหจัด กล่าวตำหนิฉินเยียนหรานอย่างรุนแรง พร้อมทั้งไล่แม่บ้านผู้จงรักภักดี ติดตามเธอมานานหลายปีออกจากบ้านด้วย

ที่ฉินโม่หนงโมโห ก็เป็นเพราะว่าเธอไม่อนุญาตให้ใครก็ตามฝ่าฝืนคำสั่งของเธอ

หวังฮุ่ยหรงทำได้เพียงปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของเธอเท่านั้น ห้ามฟังคำสั่งของฉินเยียนหราน นี่เป็นอำนาจเด็ดขาดของเธอ

“ฉันต้องการให้มันตายเดี๋ยวนี้!”

ฉินโม่หนงกล่าวเสียงเย็นชา

“รับทราบค่ะ!”

หวังฮุ่ยหรงกล่าว

หลินหยางออกจากคฤหาสน์ตระกูลฉินแล้วจึงมุ่งหน้าไปยังสุสานเทียนหม่าซาน

เป็นเวลาสองปีแล้ว ที่เขาถูกสองแม่ลูกตระกูลฉินควบคุมมาตลอด ไม่เคยได้ไปเซ่นไหว้บิดามารดา

สุสานเทียนหม่าซานเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดของเมืองลั่ว คนที่สามารถมาฝังศพที่นี่ได้ จะต้องเป็นคนรวยและมีตำแหน่งสูงส่ง

ตอนนั้นฉินโม่หนงเป็นคนเลือกหลุมฝังศพเอง

หลินหยางมาถึงด้านหน้าสุสาน คิดไม่ถึงว่าจะได้เห็นดอกไม้สดและของเซ่นไหว้จัดวางอยู่ น่าจะเป็นเพราะว่าวันนี้มีคนมาเซ่นไหว้

“เป็นใครที่มาเซ่นไหว้พ่อกับแม่ของผม?”

หลินหยางไม่มีญาติอะไรอยู่ที่เมืองลั่ว คนที่ความสัมพันธ์ดีที่สุดก็เป็นสองแม่ลูกตระกูลฉิน รวมทั้งตระกูลหลิ่วที่มีสัญญาหมั้นหมายกับเขา

เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาดที่สองแม่ลูกตระกูลฉินจะมากลาดสุสาน ตระกูลหลิ่วก็น่าจะเป็นไปไม่ได้เช่นกัน

หลิ่วเฉิงจื้อเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับหลินฮ่าวเซวียนบิดาของเขา ตอนนั้นทั้งสองคนก่อตั้งกิจการพร้อมกัน หลิ่วเฉิงจื้อล้มเหลวหลายครั้ง ติดหนี้อยู่หลายสิบล้าน

แต่บริษัทของหลินฮ่าวเซวียนกลับเป็นที่ฮวงจุ้ยดี ยิ่งทำก็ยิ่งใหญ่โต

ต่อมาหลินฮ่าวเซวียนได้ช่วยหลิ่วเฉิงจื้อใช้หนี้ ทั้งยังออกเงินทุนช่วยเขาก่อตั้งกิจการใหม่ พยายามประคับประคองอย่างสุดความสามารถ ถึงได้ทำให้หลิ่วเฉิงจื้อค่อย ๆ บริหารให้บริษัทเติบโตขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นทีละก้าว

หลิ่วเฉิงจื้อเป็นฝ่ายเสนอเรื่องการแต่งงานเกี่ยวดองกันของทั้งสองตระกูล เลือกให้หลิ่วฟู่อวี่ลูกสาวของเขาหมั้นหมายกับหลินหยาง กำหนดให้เป็นคู่หมั้นคู่หมายกันตั้งแต่เด็ก

ต่อมาหลินฮ่าวเซวียนสองสามีภรรยาเกิดเรื่อง ตระกูลหลินตกอับ หลิ่วเฉิงจื้อแตกคอไม่ยอมรับ หลังจากงานศพผ่านไปได้ไม่นานก็เอ่ยปากยกเลิกการหมั้นหมายทันที ไม่มีความเกี่ยวพันกับตระกูลหลินตั้งแต่นั้น

หลิ่วเฉิงจื้อในตอนนี้ เป็นผู้ประกอบการผู้มีชื่อเสียงแห่งเมืองลั่ว เป็นตระกูลใหญ่และมีกิจารใหญ่โต

“พ่อครับ แม่ครับ ลูกทำผิดต่อพวกท่าน สองปีมานี้ไม่ได้มาเยี่ยมพวกท่านเลยสักครั้ง”

หลินหยางคุกเข่าอยู่หน้าหลุมศพ น้ำตาไหลออกมาอย่างกลั้นไม่ได้

“ผมขอสาบาน ผมจะต้องสืบหาอุบัติเหตุทางรถยนต์ในตอนนั้นให้ชัดเจน ถ้าหากมีคนจงใจทำร้ายพวกท่าน ผมจะต้องแก้แค้นแทนพวกท่านแน่นอนครับ”

“ตระกูลฉินกับตระกูลหลิ่วจิตใจโหดเหี้ยม เนรคุณ ผมจะไม่มีทางปล่อยไปแม้แต่คนเดียว!”

“น่าขำ ไม่รู้จักฟ้าสูงดินต่ำจริง ๆ เพียงแค่สองตระกูลนี้กระดิกนิ้วสบาย ๆ ก็สามารถจัดการเธอให้ตายได้แล้ว”

มีเสียงเย้ยหยันเสียงหนึ่งดังลอยมาจากทางด้านหลัง

หลินหยางเช็ดน้ำตา หันหลังกลับไปก็มองเห็นอีกฝ่ายที่มากันสามคน เป็นผู้ชายอายุประมาณหกสิบปีคนหนึ่ง ชายวัยกลางคนคนหนึ่ง รวมทั้งเด็กสาววัยรุ่นหน้าตาสะสวย อุปนิสัยโดดเด่นคนหนึ่ง

“คุณเป็นใคร?”

“ฉันเป็นใคร นายไม่จำเป็นต้องรู้ แต่ถ้าฉันจำไม่ผิดละก็ นายน่าจะเป็นลูกชายบุญธรรมของฉินโม่หนงใช่ไหม?”

มู่หรงหว่านเอ๋อร์กล่าวอย่างเหยียดหยาม

หลินหยางขมวดหว่างคิ้วกล่าว “เกี่ยวอะไรกับเธอด้วย!”

“ไม่ชอบคนไร้ความสามารถแบบนาย ที่ทำได้แค่พูดจาขี้โม้ต่อหน้าคนตายเท่านั้น” มู่หรงหว่านเอ๋อร์กล่าวอย่างหยิ่งผยอง

“หว่านเอ๋อร์! พูดให้มันน้อย ๆหน่อย”

มู่หรงจางห้ามปรามลูกสาวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด จากนั้นหันมาพูดกับหลินหยาง “ขออภัยด้วย ยัยเด็กคนนี้ปกติค่อนข้างหยิ่งผยอง พูดจาเสียมารยาท พ่อหนุ่มได้โปรดให้อภัยด้วย”

หลินหยางมองมู่หรงจางแวบหนึ่ง มั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนธรรมดาแน่ ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างกายของเขาคนนั้น สายตาเฉียบแหลม หายใจยาว บริเวณขมับนูนขึ้นเล็กน้อย จะต้องเป็นยอดฝีมืออย่างแน่นอน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 4

    อีกฝ่ายเป็นฝ่ายกล่าวขอโทษ หลินหยางก็ไม่ได้คิดหยุมหยิมอีกต่อไป คุกเข่าต่อหน้าหลุมศพของพ่อกับแม่ต่อไปมู่หรงจางพาบอดี้การ์ดกับมู่หรงหว่านเอ๋อร์เดินไปด้านข้าง“พ่อคะ ไอ้หมอนี่หน้าไม่อายเกินไปแล้วนะคะ พ่อไม่รู้อะไร เขาเป็นผีพนัน ติดหนี้พนันก้อนโต ยังเสพยาจนถูกจับ เพราะฉะนั้นเลยถูกตระกูลหลิ่วยกเลิกงานหมั้น ถ้าหากไม่ใช่ว่ามีผู้หญิงที่มีความสามารถโดดเด่นอย่างฉินโม่หนง ทรัพย์สินเพียงเล็กน้อยนั้นของพ่อแม่เขา ก็คงถูกเขาเอาไปเล่นพนันจนเกลี้ยงแล้ว“อีกทั้งถ้าหากไม่มีฉินโม่หนงคอยปกป้องเขา เขาคงจะถูกเจ้าหนี้ดอกเบี้ยโหดฟันตายไปตั้งนานแล้ว!”“หนูเดาว่าจะต้องเป็นเพราะฉินโม่หนงไม่ยอมให้เงินเขาไปเล่นพนันกับเสพยาแน่นอน ดังนั้นเขาเลยด่าชาวบ้านว่าจิตใจโหดเหี้ยม อันที่จริง เขานั่นแหละที่เป็นคนจิตใจโหดเหี้ยมที่แท้จริง”“ลูกรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน?” มู่หรงจางกล่าวถาม“ฉินโม่หนงกับตระกูลพวกเรามีความร่วมมือทางธุรกิจกัน หนูเคยเจอหน้าเธออยู่หลายครั้ง ค่อนข้างนับถือเธอเลยทีเดียว เลยได้ยินเรื่องนินทาเกี่ยวกับตระกูลหลินมานิดหน่อยค่ะ”“ฉินโม่หนง...พ่อเองก็ได้ยินมาบ้างเหมือนกัน เป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างมีฝีมือแล

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 5

    ถึงแม้ว่ามู่หรงหว่านเอ๋อร์จะไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่เนื่องด้วยการบังคับอันน่าเกรงขามของมู่หรงจาง ยังคงต้องกล่าวขอโทษอย่างขอไปทีหลินหยางเองก็คร้านจะคิดเล็กคิดน้อยกับเธอ“สิ่งที่เธอได้ยินมา อาจจะไม่ใช่ความจริง ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ เธอควรจะมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ด้วยตัวเอง ไม่ใช่ฟังข่าวลือไม่มีมูล แล้วมาตัดสินคนคนหนึ่งเอาง่ายๆ”หลินหยางเอ่ยกล่าวเสียงเรียบ“นายเก่งมาจากไหน? มีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนฉัน?”มู่หรงหว่านเอ๋อร์กล่าวอย่างโกรธเคืองมู่หรงจางจ้องเธอด้วยสายตาดุร้ายทีหนึ่ง กล่าวกับหลินหยาง “น้องชายได้โปรดให้อภัย”หลินหยางโบกมือกล่าว “ไม่จำเป็นต้องพูดจาสุภาพ เพียงเพราะผมช่วยชีวิตคุณเอาไว้ครั้งหนึ่ง คุณควรจะจ่ายค่ารักษา”“ใช่ๆ นี่เป็นเรื่องที่สมควร ไม่ทราบว่าน้องชายจะเก็บค่ารักษาเท่าไหร่?”มู่หรงจางกล่าวที่หลินหยางยอมยื่นมือช่วยมู่หรงจาง ทั้งหมดก็เพื่อเงินออกมาจากตระกูลฉิน เขาไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท ยากจนข้นแค้น จำเป็นต้องหาเงินเล็กน้อยมาไว้ในมือ“คุณคิดว่าชีวิตของคุณมีค่ามากแค่ไหน?”“คำถามนี้ ถามได้ดี แต่ว่าฉันไม่มีนิสัยพกเงินติดตัวตอนออกจากบ้าน เอาแบบนี้แล้วกัน เธอท

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 6

    “นายหุบปากไปเลย! นายจะต้องเป็นพวกเดียวกับพวกมันแน่ คิดจะถือโอกาสหนีลงจากรถใช่ไหมล่ะ?”ที่จริงแล้วตอนนี้มู่หรงหว่านเอ๋อร์หวาดกลัวเป็นอย่างมาก จึงได้แต่ระบายอารมณ์ไปที่หลินหยาง“พ่อคะ รีบฆ่าเขาเร็วค่ะ!”มู่หรงจางย่อมไม่เชื่อว่าหลินหยางมีความสามารถจะช่วยพวกเขา จะต้องเป็นการหาเหตุผลเพื่อลงจากรถแน่มู่หรงจางกำลังคิดจะเหนี่ยวไก พลันในมือก็ว่างเปล่า ปืนพกถูกหลินหยางแย่งไปแล้ว เขากระทั่งมองไม่ชัดว่าหลินหยางแย่งปืนไปได้อย่างไร“ถ้าผมต้องการฆ่าพวกคุณ ตอนอยู่บนเขาพวกคุณก็ตายไปแล้ว” หลังจากมู่หรงจางตื่นตะลึงไปในช่วงเวลาสั้นๆ ก็พูดอย่างรวบรัดว่า “ได้ ขอแค่เธอสามารถช่วยพวกเราได้ ฉันรับปากจะให้เธอหนึ่งร้อยล้าน” หลินหยางโยนปืนไปให้มู่หรงจาง จากนั้นก็เปิดประตูรถลงไปแล้ว“พ่อคะ พ่อคงไม่เชื่อว่าเขาจะมีปัญญาช่วยพวกเราหรอกนะคะ?”มู่หรงหว่านเอ๋อร์ยังคงยึดติดกับความคิดของตัวเอง จนถึงตอนนี้ก็ยังคงดูแคลนหลินหยาง“ตอนนี้ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”มู่หรงจางมองไปนอกหน้าต่างรถ หลังจากหลินหยางลงจากรถ ไม่พูดอะไรก็ซัดหมัดเข้าไปที่ยอดฝีมือขั้นเจ็ดคนนั้นทันที“รนหาที่ตาย!”ชายวัยกลางคนเตะเจียงจั่วเฟิงที่ได้รั

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 7

    มู่หรงจางมีลูกชายหนึ่ง ลูกสาวสอง มู่หรงเจ๋อผู้เป็นลูกชายไม่ชอบด้านธุรกิจแต่เลือกไปรับราชการ หนทางราบรื่นตลอดเส้นทาง ยามนี้ได้ย้ายไปรับตำแหน่งที่มณฑลหนานตูแล้วลูกสาวคนที่สองมู่หรงยิ่น เป็นราชินีแห่งวงการธุรกิจ ควบคุมดูแลกลุ่มกิจการติ่งเซิ่งที่มู่หรงจางเป็นผู้ก่อตั้ง ในเวลาไม่กี่ปี ก็ทำให้ธุรกิจในเครือของติ่งเซิ่งกรุ๊ปขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่าตัว กลายเป็นหนึ่งในผู้นำกลุ่มธุรกิจของเมืองลั่วดังนั้นมู่หรงจางจึงได้เกษียณก่อนกำหนด มอบติ่งเซิ่งกรุ๊ปทั้งหมดให้มู่หรงยิ่นเป็นผู้ดูแลลูกสาวคนที่สามมู่หรงหว่านเอ๋อร์อายุน้อยที่สุด นิสัยโลดโผนมีชีวิตชีวา ชอบการต่อสู้ กราบเจียงไห่เซิง หนึ่งในสี่ปรมาจารย์ของเมืองลั่วเป็นอาจารย์นั่งอยู่ในรถของมู่หรงยิ่น กลิ่นหอมเย้ายวนใจคนหัวใจของหลินหยางเต้นแรงอยู่บ้าง เพราะไม่ว่าอย่างไร ในยามนี้ผู้ที่นั่งอยู่ข้างกายเขาคือมู่หรงยิ่นที่สูงส่งจนไม่อาจเอื้อมนี่นา!“หมอเทวดาหลิน ครั้งนี้ต้องขอบคุณคุณอย่างมาก คุณอายุยังน้อยถึงเพียงนี้ ก็มีทักษะการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์และฝีมือที่สูงล้ำเหนือผู้คนเช่นนี้ ความสำเร็จในอนาคตย่อมไม่อาจคาดเดาอย่างแน่นอนมู่หรงยิ่นเป็นฝ่ายเริ่มส

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 8

    หลินหยางก็ไม่เต็มใจที่จะพูดถึงเรื่องส่วนตัวในเรื่องนี้ต่อคนนอกมากเกินไปเช่นกัน กลับเป็นมู่หรงยิ่นที่แสดงจุดยืนของตนเองต่อว่า“ด้วยความสามารถในตอนนี้ของคุณ การจัดการกับฉินโม่หนงนั้นง่ายมาก ฉันก็เต็มใจที่จะออกเรี่ยวแรงอันน้อยนิดเช่นกัน” “ผมไม่รีบ ค่อยๆ เล่นเป็นเพื่อนหล่อนถึงจะสนุก” มุมปากของหลินหยางปรากฏรอยยิ้มอารมณ์ดีขึ้นมามู่หรงยิ่นแอบถอนใจว่า “ฉินโม่หนง คุณกับฉันได้รับการขนานนามด้วยกัน หากพูดถึงความสามารถและรูปโฉมแล้ว ฉันไม่แน่ว่าจะเอาชนะคุณได้” “แต่ท้ายที่สุดคุณก็ยังคงสู้ฉันไม่ได้ ต้องพ่ายแพ้ให้ฉัน! คุณพลาดหลินหยางที่เป็นขุมสมบัติอันมหาศาลนี้ไป ส่วนฉันกลับสามารถสานสัมพันธ์กับเขาได้ ไม่อย่างนั้นอาศัยเพียงฐานะที่คุณเป็นแม่บุญธรรมของเขา เกรงว่าในอนาคตตระกูลมู่หรงก็ต้องถูกคุณเหยียบไว้ใต้ฝ่าเท้าแล้ว”หนึ่งปีมานี้ ฉินโม่หนงแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก มีวี่แววรางๆ ว่าจะเอาชนะมู่หรงยิ่นได้ในวงสังคมเมืองลั่วมีเสียงกล่าวว่า แม้มู่หรงยิ่นจะงดงาม ทว่าเมื่อเปรียบกับฉินโม่หนงแล้วกับขาดเสน่ห์และรสชาติของผู้หญิงที่มีความเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถึงได้ด้อยกว่าอยู่เล็กน้อยนอกจากนี้มู่หรงยิ่นมีชาติกำเนิด

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 9

    สีหน้าของหลินหยางไม่เปลี่ยนแปลง เฝิงอวี้เจียวกับพนักงานคนอื่นในร้านกลับปากอ้าตาค้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึงความงามและบุคลิกรัศมีของมู่หรงยิ่น เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงพวกนี้เห็นแล้วเกิดความอิจฉาน่ะผู้หญิงที่งามล่มเมืองแบบนี้ ทำไมถึงไปชอบผีพนันคนหนึ่งได้ นี่มิใช่ดอกไม้งามดอกหนึ่งถูกหมูกินหรอกหรือ?“ต่อให้เขาเป็นแฟนของคุณแล้วอย่างไร? ร้านของพวกเราไม่ต้อนรับคนติดยาและผีพนัน”เฝิงอวี้เจียวแค่นอย่างเสียงไม่พอใจ“ฉันก็ว่าผีพนันแบบเขาทำไมถึงได้กล้ามาซื้อเสื้อผ้าในร้านของพวกเรา ที่แท้เป็นเพราะไปเกาะเศรษฐินีได้ กลายเป็นพวกหนุ่มหน้าขาวที่ถูกคนเลี้ยงดู” เฝิงอวี้เจียวพูดอย่าประชดประชันด้วยจิตใจคับแคบ“คุณคนสวย ฉันขอเตือนคุณด้วยความหวังดีสักหน่อย เช็ดตาให้สะอาดดูให้ดีๆ ต่อให้จะเลี้ยงดูหนุ่มหน้าขาวก็อย่าดูแต่หน้า ระวังถูกหลอกเอานะคะ” “ช่างพูดมาน่ารำคาญเหลือเกิน ร้านกุชชี่มีพนักงานแบบเธอได้ยังไง ยังเป็นถึงผู้จัดการร้านอีก” มู่หรงยิ่นขมวดคิ้ว“เฮ้อ เจอสุนัขที่ไม่รู้จักความหวังดีของคนแว้งกัด ฉันเป็นผู้จัดการร้านแล้วเกี่ยวอะไรกับคุณ? คุณทำอะไรได้หรือ? ฉันก็จงใจไม่ขายให้พวกคุณ คุณจะทำอะไร

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 10

    หลิ่วฟู่อวี่ก็เป็นคนที่ไม่พูดมากแต่โหดเหี้ยมเช่นกัน ภายใต้ความโมโหอย่างรุนแรง ก็เงื้อมือขึ้นคิดจะตบหน้ามู่หรงยิ่นมู่หรงยิ่นไม่ใช่คนที่ฝึกฝนวรยุทธ์ จึงไม่มีการระวังตัวแม้แต่น้อยแต่หลินหยางที่ยืนอยู่ข้างกายของเธอจะมองอยู่เฉยๆ ได้อย่างไร เขาจับข้อมือของหลิ่วฟู่อวี่ไว้มู่หรงยิ่นคิดไม่ถึงว่าหลิ่วฟู่อวี่จะใช้กำลังเอาแต่ใจเช่นนี้ ถึงกับลงมือตบเธอ“เธอยังคิดจะลงมือทำร้ายคนด้วย?”ในดวงตาอันงดงามของมู่หรงยิ่นมีประกายเยียบเย็นวาบผ่าน สีหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา“ตบเธอแล้วเป็นอย่างไร? คุณหนูแบบฉันคิดจะตบใคร ก็ตบคนนั้น! วันนี้ฉันจะตบปากเหม็นๆ ที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงของเธอให้แตกไปเลย”หลิ่วฟู่อวี๋ออกแรงคิดจะหลุดพ้นจากมือของหลินหยาง แล้วลงมือกับมู่หรงยิ่นต่อแต่กลับพบว่ามือของหลินหยางราวกับคีมเหล็กก็ไม่ปาน ยากที่จะหลุดพ้นได้“ไอ้คนไร้ประโยชน์แซ่หลิน ปล่อยฉันนะ!”หลิ่วฟู่อวี่เลิกคิ้วเรียวดุจใบหลิว ร้องด่าว่า“หลิ่วฟู่อวี่ มีบางคนที่คุณหาเรื่องไม่ไหวหรอกนะ” หลินหยางพูดพลางปล่อยมือ“พวกเธอสองคนคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ฉันมีเรื่องด้วยไม่ไหว? คนไร้ประโยชน์แซ่หลิน คำพูดนี้ของนายจะทำให้คนขำตายแล้

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 11

    โหวกุ้ยเหวินถีบเฝิงอวี้เจียวอย่างแรงสองที ใบหน้าเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นเฝิงอวี้เจียวกลิ้งกึ่งคลานมาที่ด้านหน้าของมู่หรงยิ่นกับหลินหยาง“ขอโทษค่ะ ประธานยิ่น ฉันมีตาหามีแววไม่ ขอร้องคุณอย่าได้ถือสา ยกโทษให้ฉันด้วย ต่อไปฉันไม่กล้าอีกแล้วค่ะ”ในระหว่างที่เฝิงอวี้เจียวกำลังพูด ยังตบหน้าตัวเองอย่างแรงไปด้วยอีกสองฉาด“คนที่เธอควรจะขอโทษ คือหลินหยาง ไม่ใช่ฉัน”มู่หรงยิ่นกล่าวเฝิงอวี้เจียวรีบคุกเข่าต่อหน้าหลินหยางพร้อมทั้งกล่าววิงวอน“คุณหลินหยาง ขอโทษด้วยค่ะ! ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรพูดเรื่องพวกนั้น ฉันปากเสียเอง ฉันมันชอบดูถูกคนอื่น”“ขอให้คุณเห็นแก่ความเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน ให้โอกาสฉันสักครั้งเถิดนะคะ! ฉันไม่อยากถูกโยนลงไปในแม่น้ำเพื่อเป็นอาหารปลา แล้วก็ไม่อยากเสียงานไปด้วย!เฝิงอวี้เจียวรู้ดีว่า คำพูดของโหวกุ้ยเหวินไม่ใช่แค่พูดไปเท่านั้นอย่างแน่นอน เขาโยนคนลงแม่น้ำเพื่อเป็นอาหารปลาจริง ๆหลินหยางสีหน้าไร้อารมณ์ แล้วก็ไม่ได้แสดงท่าทีเฝิงอวี้เจียวจิตใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ยกมือตบหน้าตัวเองอีกครั้ง ตบหน้าตัวเองจนเลือดกลบปาก“พอแล้ว อย่าทำให้พื้นสกปรก ประธานโหวยังต้องเปิดร้านขายข

บทล่าสุด

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 594

    เจียงรั่วหานกล่าวโต้เถียงด้วยสีหน้าแดงก่ำแต่นี่ก็คือเรื่องจริงถึงอย่างไรตนก็ไม่ได้ขึ้นเตียงกับหลินหยาง แต่ทว่าทำในรถ...“ไม่ต้องรีบ นั่งลงคุยกัน...” ซ่งหว่านอวี๋ท่าทางสบาย ๆ พูดจาปลอบโยนอย่างมีเลศนัย “เป็นเพราะพี่กลัวเธอถูกหลินหยางหลอกเอา หลินหยางนั่นบังคับให้พี่ทำเรื่องแบบนั้น เขาไม่ใช่คนดีอะไร!”“พี่หว่านอวี๋พี่ไม่เข้าใจเขา!”เจียงรั่วหานกลับวางแก้วกาแฟลง รีบพูดขึ้นว่า “อันที่จริงหลินหยางเป็นคนดีคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้ที่เขาทำแบบนั้นกับพี่ อัน อันที่จริงเป็นเพราะจ้าวเจิ้งฮ่าวเป็นต้นเหตุ!”“ฉันบอกเขาแล้ว ว่าต่อไปห้ามแตะต้องพี่อีก!”ไม่แตะต้องฉัน?ฉันต้องการให้เธอช่วยเหลือเรื่องนี้เหรอ?เธอกินอิ่มแล้วไม่กะจะไม่เหลือไว้ให้ฉันกินสักคำเลยเหรอไง!ซ่งหว่านอวี๋สีหน้าดูแย่เล็กน้อย เธอกินอาหารทะเลมื้อหรูจนเคยชินแล้ว จะกินอาหารจืดชืดลงได้ยังไงอีก?“พี่หว่านอวี๋ ต่อไปฉันคงต้องอาศัยพี่คอยเป็นที่กำบังให้ฉันแล้ว ครอบครัวนี้ ฉันทนอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแม้แต่วันเดียวแล้ว!”เจียงรั่วหานยังหันหน้าไปมองซ่งหว่านอวี๋ด้วยท่าทางขอร้อง“เรื่องเล็กน้อย...”ซ่งหว่านอวี๋กล่าวพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ไม่ว่าจะพู

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 593

    ฉินเจิ้งคุนกลับส่งสัญญาณมือให้เงียบเอาไว้“เรื่องพวกนี้ห้ามเอาไปพูดข้างนอกส่งเดช! การต่อสู้ของบุคคลใหญ่โตไม่ใช่สิ่งที่พวกเราวิจารณ์ได้!”เขากล่าวเตือนด้วยท่าทีขึงขังถึงแม้ว่าตระกูลฉินจะมีชื่อเสียงโด่งดังในหนานโจว แต่ในสายตาของตระกูลใหญ่ที่ล้ำลึกจนไม่อาจคาดเดาของซานโจวบนพวกนั้น วงศ์ตระกูลบ้านนอกอย่างตระกูลฉิน ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึงการต่อสู้ระดับนั้น เพียงแค่ควันหลง ก็มากพอที่จะทำให้ทั้งตระกูลฉินตายไร้ที่ฝังศพแล้ว!ฉินอี๋หลิงรีบหุบปากทันทีเช่นกันไม่กล้าส่งเสียงดัง เพราะหวาดกลัวว่าคนบนฟ้า!“หลินไร้ศัตรูแอบรายงานแต่ละวงศ์ตระกูลใหญ่แห่งหนานโจวอย่างลับ ๆ ให้ช่วยเขาตามหาหลานชายของเขา ถ้าหากใครหาเจอ เขาก็จะยอมรับคำขอร้องของคนนั้นหนึ่งข้อ” ฉินเจิ้งคุนค่อย ๆ พูด“จริงเหรอคะ?”ฉินอี๋หลิงสีหน้าตื่นเต้นดีใจ หัวใจไฟลุกโชนถึงแม้ว่าวงศ์ตระกูลของหลินไร้ศัตรูจะล่มสลายไปแล้ว แต่ก็ยังไม่สิ้นอำนาจโดยสมบูรณ์!คำมั่นสัญญาของเขาหนึ่งข้อ สามารถตัดสินว่าใครจะได้ครอบครองตำแหน่งหัวหน้าตระกูลฉิน!“มีเบาะแสของหลานชายคนนั้นของเขาแล้วเหรอยัง!”เธอรีบกล่าวถาม“ง่ายแบบนั้นซะที่ไหน...”ฉินเจิ้งคุนส่ายหน้

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 592

    ตนในตอนนี้ ต่อสู้ข้ามสามระดับชั้นก็ไม่เป็นปัญหา มีลูกน้องไม่กี่คน ตนก็ไม่ต้องโดนรุมโจมตีอีกบ่อย ๆมีสิทธิ์แสร้งทำเป็นเก่ง ถ้าอย่างนั้นก็ต้องทำแต่ทว่าหลี่หรูเยว่กับปรมาจารย์ทั้งสี่คนมีความปรับตัวให้เข้ากับสไตล์แบบนี้ไม่ค่อยได้เท่าไหร่หลูอ้าวตงว่าอวดดีมากพอแล้ว แต่เมื่อเทียบกับหลินหยาง นั่นก็เป็นแค่เรื่องจิ๊บจ๊อยเท่านั้น...“ไปกันเถอะ กลับไปที่บ้านให้ฉันรักษาอาการบาดเจ็บให้พวกแกก่อน อีกเดี๋ยวไปกับฉันฆ่าคนของจ้าวเจี้ยนชิงให้เรียบ”หลินหยางเดินลงจากภูเขาแต่หลี่หรูเยว่และคนอื่น ๆ อีกห้าคนกลับสบตากันแวบหนึ่ง เห็นสีหน้าตกใจจากนัยน์ตาของอีกฝ่ายหลินหยางพูดจาสบาย ๆ มาก ราวกับว่าในสายตาของเขา การฆ่าหัวหน้ากองทหารรักษาการณ์ ง่ายเหมือนกับซื้อผักพวกเขากลับไม่ทันได้คิดมาก รีบตามหลินหยางลงจากเขา คอยตามปรนนิบัติ...อีกด้านหนึ่งภายในห้องหนังสือสไตล์โบราณแห่งหนึ่งฉินเจิ้งคุนกระแทกโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ พูดด้วยความโมโห “ไอ้สารเลวนี่อวดดีมาก! แม้แต่สายโทรศัพท์ของฉันกล้าตัดทิ้ง!”ฉินอี๋หลิงที่อยู่ด้านข้างสีหน้าดูแย่เช่นกัน บทสนทนาเมื่อครู่นี้เธอได้ยินหมดแล้วหลินหยางไม่ให้เกียรติเลยแม้แต

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 591

    หรือไม่ก็โทรศัพท์ไปหยอกหลูอ้าวตงอีกสักที?ไม่มีอะไรทำก็ไปยั่วโมโหหลูอ้าวตงสักหน่อย ได้กลายเป็นความเคยชินของหลินหยางไปแล้วแต่ทว่าทันทีที่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กลับมีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามาเบอร์โทรศัพท์นั่นคือ...ฉินเจิ้งคุน?หลินหยางมีความประหลาดใจเล็กน้อย จะว่าไป ฉินเจิ้งคุนควรจะส่งคนมาไล่ฆ่าตนถึงจะถูกอย่างไรเสียสิ่งของที่ไม่ได้มาครอบครองก็ต้องทำลายทิ้ง ถึงจะเหมาะสมกับสไตล์ของตระกูลใหญ่อย่างพวกเขาผลปรากฏว่าการตามล่าของตระกูลฉินที่รอคอยมาไม่ถึงสักที...เขารับสายแล้วพูดว่า “ผมคิดว่าคุณตายไปแล้วเสียอีกนะ...”“ไอ้บ้า!”ทันทีที่ฉินเจิ้งคุนต่อสายติดก็ได้ยินประโยคนี้ โมโหจนสะอึกทันที “คนที่ใกล้ตายอย่างแกยังจะกล้าพูดจาเหลวไหล! ตอนนี้แกได้ถูกหลูอ้าวตงตามฆ่าเหมือนกับหนูท่อที่น่ารังเกียจแล้วละมั้ง!”“ถ้าอย่างนั้นคงต้องทำให้คุณต้องผิดหวังแล้ว...”หลินหยางเหลือบตามองลูกน้องที่เพิ่งรับเอาไว้เมื่อสักครู่นี้แวบหนึ่ง หลูอ้าวตงทั้งส่งสมุนไพรทั้งส่งผู้หญิงมาให้ โดนตนจัดการจนรู้สึกไม่ค่อยสบายขึ้นมาอยู่หน่อย ๆ เสียแล้วแต่ทว่าฉินเจิ้งคุนกลับไม่เชื่อ กล่าวเสียงเย้ยหยัน “เลิกพูดจาไร้สาระ ต

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 590

    เขาหยิบยาพิษสี่เม็ดออกมาจากในกระเป๋าเฉียนคุน โยนให้พวกเขา“ยาพิษนี้มีแค่ฉันเท่านั้นที่ถอนได้ ถ้าหากพวกแกกล้าทรยศ จะต้องตายอย่างน่าเวทนามากแน่อย่างแน่นอน”ปรมาจารย์ทั้งสี่เข้าใจว่าหลินหยางไม่เชื่อใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ยาพิษนี้ไม่กินก็ต้องกิน จากนั้นก็กลืนยาพิษลงไปโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยเมื่อทั้งสี่คนกลืนยาพิษลงไปแล้ว หลินหยางถึงได้ไปช่วยรักษาม๋อจื่อภายใต้การจับตามองอย่างประหม่าของหลี่หรูเยว่หลินหยางใช้เข็มวาสนาฝืนลิขิต ม๋อจื่อค่อนข้างไม่ธรรมดา รากฐานกระดูกแข็งแรงมากมาตั้งแต่กำเนิด มุมมองของหลินหยาง เหมาะที่จะเดินเส้นทางเทพวรยุทธ์มากแต่น่าเสียดายที่ถังฮ่าวหรานความคิดตื้นเขิน ใช้วิชาแปลงอสูรสวรรค์ฝึกฝนเขาจนกลายเป็นคนไร้ประโยชน์หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ม๋อจื่อก็ฟื้นขึ้นมา ทันทีที่ลืมตาดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ ท่าทางดุร้าย“ม๋อเอ๋อร์ฟื้นแล้ว!”หลี่หรูเยว่ดีใจเป็นอย่างยิ่งขึ้นมาทันที หันหน้าไปมองหลินหยางพูดด้วยความซาบซึ้งใจ “ขอบพระคุณนายท่าน!”ก่อนหน้านี้ม๋อจื่อดูเหมือนคนกำลังใกล้ตาย เวลาแค่เพียงครู่เดียวหลินหยางก็รักษาเขาจนหายดีแล้วนับว่าเธอนับถือฝีมือการรักษาของหลินหยางอย่างถ

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 589

    หลี่หรูเยว่ได้สติกลับคืนมาอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง หันหน้าไปมองหลินหยางพร้อมอ้าปากเล็กน้อย“จัดการ...แบบนี้เหรอ? แกได้รับบาดเจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอ?”“หายดีแล้ว” หลินหยางพูดอย่างสบาย ๆ “...”หัวใจของหลี่หรูเยว่หวั่นไหวเป็นอย่างยิ่งหลินหยางบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้น หายดีเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?หลินหยางยังมีท่าทางสบาย ๆ อีกต่างหาก เหมือนยังรู้สึกว่านี่มันปกติมาก!“ปรมาจารย์หลินได้โปรดยกโทษ ก่อนหน้านี้ฉันไม่ควรล่วงเกินปรมาจารย์หลิน”เธอกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ในหัวใจเต็มไปด้วยความยำเกรงและหวาดหวั่นก่อนหน้านี้ตนทำตัวไร้มารยาทต่อหลินหยาง แถมยังตะคอกใส่เขาอีกด้วย!ตอนนี้เธอถึงรู้สึกหวาดกลัว ถ้าหากถังฮ่าวหรานมาช้ากว่านี้อีกนิด ตอนนี้ตนก็คงกลายเป็นศพไปแล้ว“ขอโทษมีประโยค แล้วมีกฎหมายไว้ทำไม?” หลินหยางมองบนพร้อมกล่าวหลี่หรูเยว่ตกตะลึงเล็กน้อย กลับเหมือนว่าจะเข้าใจอะไรบางอย่าง ลังเลเล็กน้อยพร้อมกล่าวเสียงเบา “ถ้าปรมาจารย์หลินไม่รังเกียจ ฉันยินดีหลับนอนด้วย...”หลินหยางชอบตนตั้งแต่แรกแล้วก็แค่เป็นการมอบกายถวายตัวเท่านั้น ขอเพียงหลินหยางยอมช่วยลูกชายของตนเอง ไม่ว่าอะไรก็ยอมทุกอย่าง!“เห็นว่

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 588

    หลินหยางส่ายหน้าอย่างหมดคำพูด ก้าวออกไปข้างหน้าเพื่อเผชิญหน้ากับถังฮ่าวหรานกล่าวด้วยรอยยิ้มบาง ๆ “วันนี้ฉันจะฆ่าแกไอ้ปัญญาอ่อน แล้วก็นอนกับผู้หญิงของแก เตรียมตัวเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”ถังฮ่าวหรานตกตะลึง ใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้มโมโหที่เหยียดหยาม “แกเนี่ยนะอยากจะฆ่าฉัน? แกรู้ไหมคำว่าตายสะกดยังไง?”หลินหยางครุ่นคิดพร้อมกล่าว “ตอ อา ยอ?”ชายหนุ่มที่อยู่ข้างถังฮ่าวหรานตะลึงไปทันที “ลูกพี่ เหมือนว่ามันกำลังล้อเลียน มันกำลังด่าลูกพี่อยู่เลย...”ถังฮ่าวหรานพลิกฝ่ามือแล้วตบหน้าเขาทีหนึ่งคำราม “ใครใช้ให้แกพูดไร้สาระ ฉันรู้!!”ลูกน้องเอามือกุมหน้าอย่างเชื่อฟัง ไม่กล้าพูดมาก“ในเมื่อรนหาที่ตาย ฉันจะทำให้แกได้สมความปรารถนา!”ถังฮ่าวหรานตะโกน กระโจนตัวเข้าใส่หลินหยาง ปรมาจารย์ระดับหกสี่คนที่เหลือก็พุ่งตัวเข้าใส่พร้อมกัน!“จบเห่แล้ว...”หลี่หรูเยว่สีหน้าสิ้นหวัง ตนสละชีวิตให้หลินหยางเพื่อหาโอกาสหนี แต่กลับถูกหลินหยางทำให้สูญเปล่าไปแบบนี้...ถังฮ่าวหรานยังทำท่าทางสบาย ๆ ต่อไป หลังจากกลับไปยังสามารถได้รับรางวัลจากหลูอ้าวตงเธอไม่ยอม!เธออดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปมองสนามรบนั่น ในใจมีความหวังอันริบห

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 587

    ทันทีที่พูดจบ ทั้งหมดก็ตกตะลึงไปถังฮ่าวหรานสีหน้าตกตะลึง พูดไม่ออกทันทีตนถูกหลอก?ทุกคนหันหน้าไปมองเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจ สายตาที่มองเขาแฝงไปด้วยความเห็นใจถังฮ่าวหรานไม่เพียงถูกเมียกับหลินหยางสมคบคิดกัน ยังถูกหลินหยางใช้สติปัญญาบดขยี้อีกด้วย ต่อหน้าหลินหยาง เขาเหมือนกับกระดาษขาวแผ่นหนึ่ง...“ฉัน ฉัน ฉันจะฆ่าแก!”ถังฮ่าวหรานคำราม พุ่งเข้าไปใส่หลินหยาง“ล้อเล่นไม่ได้เลยจริง ๆ”หลินหยางเม้มปาก แล้วก็ก้าวไปข้างหน้าเตรียมที่จัดการเขาให้เละเป็นโจ๊กคนแบบนี้แม้กระทั่งลูกชายของตนเองยังทำลายได้ ทำให้หลินหยางทนดูไม่ไหวอีกต่อไปผลปรากฏว่าในเวลานี้ หลี่หรูเยว่กลับขวางอยู่ด้านหน้าของหลินหยาง!“รีบไสหัวไป ถ้าหากฉันตายแล้ว แกก็พาลูกชายของฉันหนีไปให้ไกล ๆ จะต้องช่วยชีวิตลูกชายของฉันให้รอด!”หลี่หรูเยว่กล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาพูดจบก็ไม่รอให้หลินหยางได้สติกลับคืนมา เธอก็พุ่งตัวเข้าไปฆ่าถังฮ่าวหรานทันที!“นังโสเภณี! แกชอบไอ้ระยำนี่จริง ๆ แล้วใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นแกก็ไปตายซะ!”ถังฮ่าวหรานคำรามพร้อมลงมือ ถึงแม้ว่าเขาจะมีกำลังรบด้อยกว่าหลี่หรูเยว่อยู่บ้าง แต่ข้างกายยังปรมาจารย์ระดับสี่คอยช่วย

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 586

    ถังฮ่าวหรานโมโห “คุณตื่นสักที เขาไม่คู่ควรที่จะให้คุณต้องเสียทุ่มเทมากขนาดนี้!”“คุณหุบปาก!”เมื่อหลี่หรูเยว่ได้ยินดังนั้นก็สีหน้าซีดขาว น้ำเสียงสั่นเครือ “ตอนนั้นเขาก็คืออัจฉริยะ แต่ก็เพราะป่วยหนักถึงได้กลายเป็นคนปัญญาอ่อนแบบนี้ คนอื่นว่าเขาได้ คุณในฐานะที่เป็นพ่อพูดจาแบบนี้ได้ยังไง!”เธอเห็นลูกชายเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง แต่กลับคิดไม่ถึงว่า ถังฮ่าวหรานจะมองม๋อจื่อเป็นเพียงแค่เครื่องอุปกรณ์เท่านั้น!หลินหยางกำลังดูละครคุณธรรมที่กำลังออกรสออกชาติของครอบครัวนี้ เมื่อได้ฟังถึงตรงนี้ก็ตกตะลึงไปเล็กน้อย กล่าวอย่างสงสัย “เดี๋ยวนี้ เธอกำลังพูดถึงเรื่องบ้าอะไร? จะฝึกฝนวิชาแปลงอสูรสวรรค์ ไม่น่าเกิดอาการป่วยหนักอะไรนะ”“หมายความว่ายังไง?”หลี่หรูเยว่งุนงง“วิชาแปลงอสูรสวรรค์มีข้อกำหนดทางกายภาพที่สูงมาก ผู้ที่ฝึกฝนไม่มีทางเป็นปัญญาอ่อนเพราะป่วยหนัก แต่ผู้ที่ฝึกฝนจะต้องกินยาพิษก่อน เพื่อทำให้เขากลายเป็นคนปัญญาอ่อน ถึงจะควบคุมความเป็นมนุษย์ได้”เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาก็หันไปมองหน้าหลี่หรูเยว่อย่างประหลาดใจ “เรื่องพวกนี้คุณไม่รู้ได้ยังไง?หลี่หรูเยว่กลับตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง เธอหันหน้าไปมองถังฮ่าว

DMCA.com Protection Status