“ไอ้ระยำ ปล่อยฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าแก!”ฉินโม่หนงยังดุด่าไม่ทันเสร็จดี ก็ถูกหลินหยางยกมือขึ้นตบหน้าฉาดหนึ่งการตบหน้าฉาดนี้ ทำให้ฉินโม่หนงงุนงงไปแล้ว!เธอคิดไม่ถึงเลยสักนิดว่า หลินหยางที่อ่อนแอขี้ขลาด จะกล้าลงมือทำร้ายเธอ!“ไอ้เดรัจฉาน แกรนหาที่ตาย!”ตอนนี้ฉินโม่หนงมีสถานะระดับไหน จะทนการตบหน้าที่เป็นการดูถูกของหลินหยางได้อย่างไร จึงระเบิดอารมณ์ทันทีเธอพยายามออกแรงดิ้นรน คิดไม่ถึงว่าภายในเวลาชั่วพริบตาหลินหยางกลายเป็นคนหยาบคายแบบนี้ พละกำลังก็มากด้วยความพยายามของเธอ ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง!สองปีมานี้ หลินหยางถูกพวกเธอสองแม่ลูกคุมขังและปฏิบัติอย่างโหดร้าย ไม่มีแรงต่อต้านเลยแม้แต่น้อย ราวกับเนื้อปลาที่อยู่บนเขียงแต่ในเวลานี้ บทบาทสับเปลี่ยนกัน ฉินโม่หนงได้กลายเป็นเนื้อปลาที่อยู่บนเขียงของหลินหยางไปแล้วเพี้ยะ!หลินหยางตบหน้าฉินโม่หนงอีกฉาดหนึ่ง“ฉินโม่หนง ดูท่าแกยังจะไม่เข้าใจชัดเจนนะ ตอนนี้ชีวิตของแกอยู่ในกำมือฉันแล้ว ฉันสามารถฆ่าแกได้ทุกเมื่อ แกยังกล้าข่มขู่ฉันอีกเหรอ? ทางที่ดีแกรีบสำรวมท่าทางเย่อหยิ่งอวดดีนั้นของแกไปซะ”หลินหยางบีบลำคอขาวสะอาดของฉินโม่หนง การตบหน้าส
อีกฝ่ายเป็นฝ่ายกล่าวขอโทษ หลินหยางก็ไม่ได้คิดหยุมหยิมอีกต่อไป คุกเข่าต่อหน้าหลุมศพของพ่อกับแม่ต่อไปมู่หรงจางพาบอดี้การ์ดกับมู่หรงหว่านเอ๋อร์เดินไปด้านข้าง“พ่อคะ ไอ้หมอนี่หน้าไม่อายเกินไปแล้วนะคะ พ่อไม่รู้อะไร เขาเป็นผีพนัน ติดหนี้พนันก้อนโต ยังเสพยาจนถูกจับ เพราะฉะนั้นเลยถูกตระกูลหลิ่วยกเลิกงานหมั้น ถ้าหากไม่ใช่ว่ามีผู้หญิงที่มีความสามารถโดดเด่นอย่างฉินโม่หนง ทรัพย์สินเพียงเล็กน้อยนั้นของพ่อแม่เขา ก็คงถูกเขาเอาไปเล่นพนันจนเกลี้ยงแล้ว“อีกทั้งถ้าหากไม่มีฉินโม่หนงคอยปกป้องเขา เขาคงจะถูกเจ้าหนี้ดอกเบี้ยโหดฟันตายไปตั้งนานแล้ว!”“หนูเดาว่าจะต้องเป็นเพราะฉินโม่หนงไม่ยอมให้เงินเขาไปเล่นพนันกับเสพยาแน่นอน ดังนั้นเขาเลยด่าชาวบ้านว่าจิตใจโหดเหี้ยม อันที่จริง เขานั่นแหละที่เป็นคนจิตใจโหดเหี้ยมที่แท้จริง”“ลูกรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน?” มู่หรงจางกล่าวถาม“ฉินโม่หนงกับตระกูลพวกเรามีความร่วมมือทางธุรกิจกัน หนูเคยเจอหน้าเธออยู่หลายครั้ง ค่อนข้างนับถือเธอเลยทีเดียว เลยได้ยินเรื่องนินทาเกี่ยวกับตระกูลหลินมานิดหน่อยค่ะ”“ฉินโม่หนง...พ่อเองก็ได้ยินมาบ้างเหมือนกัน เป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างมีฝีมือแล
ถึงแม้ว่ามู่หรงหว่านเอ๋อร์จะไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่เนื่องด้วยการบังคับอันน่าเกรงขามของมู่หรงจาง ยังคงต้องกล่าวขอโทษอย่างขอไปทีหลินหยางเองก็คร้านจะคิดเล็กคิดน้อยกับเธอ“สิ่งที่เธอได้ยินมา อาจจะไม่ใช่ความจริง ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ เธอควรจะมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ด้วยตัวเอง ไม่ใช่ฟังข่าวลือไม่มีมูล แล้วมาตัดสินคนคนหนึ่งเอาง่ายๆ”หลินหยางเอ่ยกล่าวเสียงเรียบ“นายเก่งมาจากไหน? มีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนฉัน?”มู่หรงหว่านเอ๋อร์กล่าวอย่างโกรธเคืองมู่หรงจางจ้องเธอด้วยสายตาดุร้ายทีหนึ่ง กล่าวกับหลินหยาง “น้องชายได้โปรดให้อภัย”หลินหยางโบกมือกล่าว “ไม่จำเป็นต้องพูดจาสุภาพ เพียงเพราะผมช่วยชีวิตคุณเอาไว้ครั้งหนึ่ง คุณควรจะจ่ายค่ารักษา”“ใช่ๆ นี่เป็นเรื่องที่สมควร ไม่ทราบว่าน้องชายจะเก็บค่ารักษาเท่าไหร่?”มู่หรงจางกล่าวที่หลินหยางยอมยื่นมือช่วยมู่หรงจาง ทั้งหมดก็เพื่อเงินออกมาจากตระกูลฉิน เขาไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท ยากจนข้นแค้น จำเป็นต้องหาเงินเล็กน้อยมาไว้ในมือ“คุณคิดว่าชีวิตของคุณมีค่ามากแค่ไหน?”“คำถามนี้ ถามได้ดี แต่ว่าฉันไม่มีนิสัยพกเงินติดตัวตอนออกจากบ้าน เอาแบบนี้แล้วกัน เธอท
“นายหุบปากไปเลย! นายจะต้องเป็นพวกเดียวกับพวกมันแน่ คิดจะถือโอกาสหนีลงจากรถใช่ไหมล่ะ?”ที่จริงแล้วตอนนี้มู่หรงหว่านเอ๋อร์หวาดกลัวเป็นอย่างมาก จึงได้แต่ระบายอารมณ์ไปที่หลินหยาง“พ่อคะ รีบฆ่าเขาเร็วค่ะ!”มู่หรงจางย่อมไม่เชื่อว่าหลินหยางมีความสามารถจะช่วยพวกเขา จะต้องเป็นการหาเหตุผลเพื่อลงจากรถแน่มู่หรงจางกำลังคิดจะเหนี่ยวไก พลันในมือก็ว่างเปล่า ปืนพกถูกหลินหยางแย่งไปแล้ว เขากระทั่งมองไม่ชัดว่าหลินหยางแย่งปืนไปได้อย่างไร“ถ้าผมต้องการฆ่าพวกคุณ ตอนอยู่บนเขาพวกคุณก็ตายไปแล้ว” หลังจากมู่หรงจางตื่นตะลึงไปในช่วงเวลาสั้นๆ ก็พูดอย่างรวบรัดว่า “ได้ ขอแค่เธอสามารถช่วยพวกเราได้ ฉันรับปากจะให้เธอหนึ่งร้อยล้าน” หลินหยางโยนปืนไปให้มู่หรงจาง จากนั้นก็เปิดประตูรถลงไปแล้ว“พ่อคะ พ่อคงไม่เชื่อว่าเขาจะมีปัญญาช่วยพวกเราหรอกนะคะ?”มู่หรงหว่านเอ๋อร์ยังคงยึดติดกับความคิดของตัวเอง จนถึงตอนนี้ก็ยังคงดูแคลนหลินหยาง“ตอนนี้ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”มู่หรงจางมองไปนอกหน้าต่างรถ หลังจากหลินหยางลงจากรถ ไม่พูดอะไรก็ซัดหมัดเข้าไปที่ยอดฝีมือขั้นเจ็ดคนนั้นทันที“รนหาที่ตาย!”ชายวัยกลางคนเตะเจียงจั่วเฟิงที่ได้รั
มู่หรงจางมีลูกชายหนึ่ง ลูกสาวสอง มู่หรงเจ๋อผู้เป็นลูกชายไม่ชอบด้านธุรกิจแต่เลือกไปรับราชการ หนทางราบรื่นตลอดเส้นทาง ยามนี้ได้ย้ายไปรับตำแหน่งที่มณฑลหนานตูแล้วลูกสาวคนที่สองมู่หรงยิ่น เป็นราชินีแห่งวงการธุรกิจ ควบคุมดูแลกลุ่มกิจการติ่งเซิ่งที่มู่หรงจางเป็นผู้ก่อตั้ง ในเวลาไม่กี่ปี ก็ทำให้ธุรกิจในเครือของติ่งเซิ่งกรุ๊ปขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่าตัว กลายเป็นหนึ่งในผู้นำกลุ่มธุรกิจของเมืองลั่วดังนั้นมู่หรงจางจึงได้เกษียณก่อนกำหนด มอบติ่งเซิ่งกรุ๊ปทั้งหมดให้มู่หรงยิ่นเป็นผู้ดูแลลูกสาวคนที่สามมู่หรงหว่านเอ๋อร์อายุน้อยที่สุด นิสัยโลดโผนมีชีวิตชีวา ชอบการต่อสู้ กราบเจียงไห่เซิง หนึ่งในสี่ปรมาจารย์ของเมืองลั่วเป็นอาจารย์นั่งอยู่ในรถของมู่หรงยิ่น กลิ่นหอมเย้ายวนใจคนหัวใจของหลินหยางเต้นแรงอยู่บ้าง เพราะไม่ว่าอย่างไร ในยามนี้ผู้ที่นั่งอยู่ข้างกายเขาคือมู่หรงยิ่นที่สูงส่งจนไม่อาจเอื้อมนี่นา!“หมอเทวดาหลิน ครั้งนี้ต้องขอบคุณคุณอย่างมาก คุณอายุยังน้อยถึงเพียงนี้ ก็มีทักษะการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์และฝีมือที่สูงล้ำเหนือผู้คนเช่นนี้ ความสำเร็จในอนาคตย่อมไม่อาจคาดเดาอย่างแน่นอนมู่หรงยิ่นเป็นฝ่ายเริ่มส
หลินหยางก็ไม่เต็มใจที่จะพูดถึงเรื่องส่วนตัวในเรื่องนี้ต่อคนนอกมากเกินไปเช่นกัน กลับเป็นมู่หรงยิ่นที่แสดงจุดยืนของตนเองต่อว่า“ด้วยความสามารถในตอนนี้ของคุณ การจัดการกับฉินโม่หนงนั้นง่ายมาก ฉันก็เต็มใจที่จะออกเรี่ยวแรงอันน้อยนิดเช่นกัน” “ผมไม่รีบ ค่อยๆ เล่นเป็นเพื่อนหล่อนถึงจะสนุก” มุมปากของหลินหยางปรากฏรอยยิ้มอารมณ์ดีขึ้นมามู่หรงยิ่นแอบถอนใจว่า “ฉินโม่หนง คุณกับฉันได้รับการขนานนามด้วยกัน หากพูดถึงความสามารถและรูปโฉมแล้ว ฉันไม่แน่ว่าจะเอาชนะคุณได้” “แต่ท้ายที่สุดคุณก็ยังคงสู้ฉันไม่ได้ ต้องพ่ายแพ้ให้ฉัน! คุณพลาดหลินหยางที่เป็นขุมสมบัติอันมหาศาลนี้ไป ส่วนฉันกลับสามารถสานสัมพันธ์กับเขาได้ ไม่อย่างนั้นอาศัยเพียงฐานะที่คุณเป็นแม่บุญธรรมของเขา เกรงว่าในอนาคตตระกูลมู่หรงก็ต้องถูกคุณเหยียบไว้ใต้ฝ่าเท้าแล้ว”หนึ่งปีมานี้ ฉินโม่หนงแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก มีวี่แววรางๆ ว่าจะเอาชนะมู่หรงยิ่นได้ในวงสังคมเมืองลั่วมีเสียงกล่าวว่า แม้มู่หรงยิ่นจะงดงาม ทว่าเมื่อเปรียบกับฉินโม่หนงแล้วกับขาดเสน่ห์และรสชาติของผู้หญิงที่มีความเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถึงได้ด้อยกว่าอยู่เล็กน้อยนอกจากนี้มู่หรงยิ่นมีชาติกำเนิด
สีหน้าของหลินหยางไม่เปลี่ยนแปลง เฝิงอวี้เจียวกับพนักงานคนอื่นในร้านกลับปากอ้าตาค้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึงความงามและบุคลิกรัศมีของมู่หรงยิ่น เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงพวกนี้เห็นแล้วเกิดความอิจฉาน่ะผู้หญิงที่งามล่มเมืองแบบนี้ ทำไมถึงไปชอบผีพนันคนหนึ่งได้ นี่มิใช่ดอกไม้งามดอกหนึ่งถูกหมูกินหรอกหรือ?“ต่อให้เขาเป็นแฟนของคุณแล้วอย่างไร? ร้านของพวกเราไม่ต้อนรับคนติดยาและผีพนัน”เฝิงอวี้เจียวแค่นอย่างเสียงไม่พอใจ“ฉันก็ว่าผีพนันแบบเขาทำไมถึงได้กล้ามาซื้อเสื้อผ้าในร้านของพวกเรา ที่แท้เป็นเพราะไปเกาะเศรษฐินีได้ กลายเป็นพวกหนุ่มหน้าขาวที่ถูกคนเลี้ยงดู” เฝิงอวี้เจียวพูดอย่าประชดประชันด้วยจิตใจคับแคบ“คุณคนสวย ฉันขอเตือนคุณด้วยความหวังดีสักหน่อย เช็ดตาให้สะอาดดูให้ดีๆ ต่อให้จะเลี้ยงดูหนุ่มหน้าขาวก็อย่าดูแต่หน้า ระวังถูกหลอกเอานะคะ” “ช่างพูดมาน่ารำคาญเหลือเกิน ร้านกุชชี่มีพนักงานแบบเธอได้ยังไง ยังเป็นถึงผู้จัดการร้านอีก” มู่หรงยิ่นขมวดคิ้ว“เฮ้อ เจอสุนัขที่ไม่รู้จักความหวังดีของคนแว้งกัด ฉันเป็นผู้จัดการร้านแล้วเกี่ยวอะไรกับคุณ? คุณทำอะไรได้หรือ? ฉันก็จงใจไม่ขายให้พวกคุณ คุณจะทำอะไร
หลิ่วฟู่อวี่ก็เป็นคนที่ไม่พูดมากแต่โหดเหี้ยมเช่นกัน ภายใต้ความโมโหอย่างรุนแรง ก็เงื้อมือขึ้นคิดจะตบหน้ามู่หรงยิ่นมู่หรงยิ่นไม่ใช่คนที่ฝึกฝนวรยุทธ์ จึงไม่มีการระวังตัวแม้แต่น้อยแต่หลินหยางที่ยืนอยู่ข้างกายของเธอจะมองอยู่เฉยๆ ได้อย่างไร เขาจับข้อมือของหลิ่วฟู่อวี่ไว้มู่หรงยิ่นคิดไม่ถึงว่าหลิ่วฟู่อวี่จะใช้กำลังเอาแต่ใจเช่นนี้ ถึงกับลงมือตบเธอ“เธอยังคิดจะลงมือทำร้ายคนด้วย?”ในดวงตาอันงดงามของมู่หรงยิ่นมีประกายเยียบเย็นวาบผ่าน สีหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา“ตบเธอแล้วเป็นอย่างไร? คุณหนูแบบฉันคิดจะตบใคร ก็ตบคนนั้น! วันนี้ฉันจะตบปากเหม็นๆ ที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงของเธอให้แตกไปเลย”หลิ่วฟู่อวี๋ออกแรงคิดจะหลุดพ้นจากมือของหลินหยาง แล้วลงมือกับมู่หรงยิ่นต่อแต่กลับพบว่ามือของหลินหยางราวกับคีมเหล็กก็ไม่ปาน ยากที่จะหลุดพ้นได้“ไอ้คนไร้ประโยชน์แซ่หลิน ปล่อยฉันนะ!”หลิ่วฟู่อวี่เลิกคิ้วเรียวดุจใบหลิว ร้องด่าว่า“หลิ่วฟู่อวี่ มีบางคนที่คุณหาเรื่องไม่ไหวหรอกนะ” หลินหยางพูดพลางปล่อยมือ“พวกเธอสองคนคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ฉันมีเรื่องด้วยไม่ไหว? คนไร้ประโยชน์แซ่หลิน คำพูดนี้ของนายจะทำให้คนขำตายแล้
เจียงรั่วหานกล่าวโต้เถียงด้วยสีหน้าแดงก่ำแต่นี่ก็คือเรื่องจริงถึงอย่างไรตนก็ไม่ได้ขึ้นเตียงกับหลินหยาง แต่ทว่าทำในรถ...“ไม่ต้องรีบ นั่งลงคุยกัน...” ซ่งหว่านอวี๋ท่าทางสบาย ๆ พูดจาปลอบโยนอย่างมีเลศนัย “เป็นเพราะพี่กลัวเธอถูกหลินหยางหลอกเอา หลินหยางนั่นบังคับให้พี่ทำเรื่องแบบนั้น เขาไม่ใช่คนดีอะไร!”“พี่หว่านอวี๋พี่ไม่เข้าใจเขา!”เจียงรั่วหานกลับวางแก้วกาแฟลง รีบพูดขึ้นว่า “อันที่จริงหลินหยางเป็นคนดีคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้ที่เขาทำแบบนั้นกับพี่ อัน อันที่จริงเป็นเพราะจ้าวเจิ้งฮ่าวเป็นต้นเหตุ!”“ฉันบอกเขาแล้ว ว่าต่อไปห้ามแตะต้องพี่อีก!”ไม่แตะต้องฉัน?ฉันต้องการให้เธอช่วยเหลือเรื่องนี้เหรอ?เธอกินอิ่มแล้วไม่กะจะไม่เหลือไว้ให้ฉันกินสักคำเลยเหรอไง!ซ่งหว่านอวี๋สีหน้าดูแย่เล็กน้อย เธอกินอาหารทะเลมื้อหรูจนเคยชินแล้ว จะกินอาหารจืดชืดลงได้ยังไงอีก?“พี่หว่านอวี๋ ต่อไปฉันคงต้องอาศัยพี่คอยเป็นที่กำบังให้ฉันแล้ว ครอบครัวนี้ ฉันทนอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแม้แต่วันเดียวแล้ว!”เจียงรั่วหานยังหันหน้าไปมองซ่งหว่านอวี๋ด้วยท่าทางขอร้อง“เรื่องเล็กน้อย...”ซ่งหว่านอวี๋กล่าวพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ไม่ว่าจะพู
ฉินเจิ้งคุนกลับส่งสัญญาณมือให้เงียบเอาไว้“เรื่องพวกนี้ห้ามเอาไปพูดข้างนอกส่งเดช! การต่อสู้ของบุคคลใหญ่โตไม่ใช่สิ่งที่พวกเราวิจารณ์ได้!”เขากล่าวเตือนด้วยท่าทีขึงขังถึงแม้ว่าตระกูลฉินจะมีชื่อเสียงโด่งดังในหนานโจว แต่ในสายตาของตระกูลใหญ่ที่ล้ำลึกจนไม่อาจคาดเดาของซานโจวบนพวกนั้น วงศ์ตระกูลบ้านนอกอย่างตระกูลฉิน ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึงการต่อสู้ระดับนั้น เพียงแค่ควันหลง ก็มากพอที่จะทำให้ทั้งตระกูลฉินตายไร้ที่ฝังศพแล้ว!ฉินอี๋หลิงรีบหุบปากทันทีเช่นกันไม่กล้าส่งเสียงดัง เพราะหวาดกลัวว่าคนบนฟ้า!“หลินไร้ศัตรูแอบรายงานแต่ละวงศ์ตระกูลใหญ่แห่งหนานโจวอย่างลับ ๆ ให้ช่วยเขาตามหาหลานชายของเขา ถ้าหากใครหาเจอ เขาก็จะยอมรับคำขอร้องของคนนั้นหนึ่งข้อ” ฉินเจิ้งคุนค่อย ๆ พูด“จริงเหรอคะ?”ฉินอี๋หลิงสีหน้าตื่นเต้นดีใจ หัวใจไฟลุกโชนถึงแม้ว่าวงศ์ตระกูลของหลินไร้ศัตรูจะล่มสลายไปแล้ว แต่ก็ยังไม่สิ้นอำนาจโดยสมบูรณ์!คำมั่นสัญญาของเขาหนึ่งข้อ สามารถตัดสินว่าใครจะได้ครอบครองตำแหน่งหัวหน้าตระกูลฉิน!“มีเบาะแสของหลานชายคนนั้นของเขาแล้วเหรอยัง!”เธอรีบกล่าวถาม“ง่ายแบบนั้นซะที่ไหน...”ฉินเจิ้งคุนส่ายหน้
ตนในตอนนี้ ต่อสู้ข้ามสามระดับชั้นก็ไม่เป็นปัญหา มีลูกน้องไม่กี่คน ตนก็ไม่ต้องโดนรุมโจมตีอีกบ่อย ๆมีสิทธิ์แสร้งทำเป็นเก่ง ถ้าอย่างนั้นก็ต้องทำแต่ทว่าหลี่หรูเยว่กับปรมาจารย์ทั้งสี่คนมีความปรับตัวให้เข้ากับสไตล์แบบนี้ไม่ค่อยได้เท่าไหร่หลูอ้าวตงว่าอวดดีมากพอแล้ว แต่เมื่อเทียบกับหลินหยาง นั่นก็เป็นแค่เรื่องจิ๊บจ๊อยเท่านั้น...“ไปกันเถอะ กลับไปที่บ้านให้ฉันรักษาอาการบาดเจ็บให้พวกแกก่อน อีกเดี๋ยวไปกับฉันฆ่าคนของจ้าวเจี้ยนชิงให้เรียบ”หลินหยางเดินลงจากภูเขาแต่หลี่หรูเยว่และคนอื่น ๆ อีกห้าคนกลับสบตากันแวบหนึ่ง เห็นสีหน้าตกใจจากนัยน์ตาของอีกฝ่ายหลินหยางพูดจาสบาย ๆ มาก ราวกับว่าในสายตาของเขา การฆ่าหัวหน้ากองทหารรักษาการณ์ ง่ายเหมือนกับซื้อผักพวกเขากลับไม่ทันได้คิดมาก รีบตามหลินหยางลงจากเขา คอยตามปรนนิบัติ...อีกด้านหนึ่งภายในห้องหนังสือสไตล์โบราณแห่งหนึ่งฉินเจิ้งคุนกระแทกโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ พูดด้วยความโมโห “ไอ้สารเลวนี่อวดดีมาก! แม้แต่สายโทรศัพท์ของฉันกล้าตัดทิ้ง!”ฉินอี๋หลิงที่อยู่ด้านข้างสีหน้าดูแย่เช่นกัน บทสนทนาเมื่อครู่นี้เธอได้ยินหมดแล้วหลินหยางไม่ให้เกียรติเลยแม้แต
หรือไม่ก็โทรศัพท์ไปหยอกหลูอ้าวตงอีกสักที?ไม่มีอะไรทำก็ไปยั่วโมโหหลูอ้าวตงสักหน่อย ได้กลายเป็นความเคยชินของหลินหยางไปแล้วแต่ทว่าทันทีที่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กลับมีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามาเบอร์โทรศัพท์นั่นคือ...ฉินเจิ้งคุน?หลินหยางมีความประหลาดใจเล็กน้อย จะว่าไป ฉินเจิ้งคุนควรจะส่งคนมาไล่ฆ่าตนถึงจะถูกอย่างไรเสียสิ่งของที่ไม่ได้มาครอบครองก็ต้องทำลายทิ้ง ถึงจะเหมาะสมกับสไตล์ของตระกูลใหญ่อย่างพวกเขาผลปรากฏว่าการตามล่าของตระกูลฉินที่รอคอยมาไม่ถึงสักที...เขารับสายแล้วพูดว่า “ผมคิดว่าคุณตายไปแล้วเสียอีกนะ...”“ไอ้บ้า!”ทันทีที่ฉินเจิ้งคุนต่อสายติดก็ได้ยินประโยคนี้ โมโหจนสะอึกทันที “คนที่ใกล้ตายอย่างแกยังจะกล้าพูดจาเหลวไหล! ตอนนี้แกได้ถูกหลูอ้าวตงตามฆ่าเหมือนกับหนูท่อที่น่ารังเกียจแล้วละมั้ง!”“ถ้าอย่างนั้นคงต้องทำให้คุณต้องผิดหวังแล้ว...”หลินหยางเหลือบตามองลูกน้องที่เพิ่งรับเอาไว้เมื่อสักครู่นี้แวบหนึ่ง หลูอ้าวตงทั้งส่งสมุนไพรทั้งส่งผู้หญิงมาให้ โดนตนจัดการจนรู้สึกไม่ค่อยสบายขึ้นมาอยู่หน่อย ๆ เสียแล้วแต่ทว่าฉินเจิ้งคุนกลับไม่เชื่อ กล่าวเสียงเย้ยหยัน “เลิกพูดจาไร้สาระ ต
เขาหยิบยาพิษสี่เม็ดออกมาจากในกระเป๋าเฉียนคุน โยนให้พวกเขา“ยาพิษนี้มีแค่ฉันเท่านั้นที่ถอนได้ ถ้าหากพวกแกกล้าทรยศ จะต้องตายอย่างน่าเวทนามากแน่อย่างแน่นอน”ปรมาจารย์ทั้งสี่เข้าใจว่าหลินหยางไม่เชื่อใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ยาพิษนี้ไม่กินก็ต้องกิน จากนั้นก็กลืนยาพิษลงไปโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยเมื่อทั้งสี่คนกลืนยาพิษลงไปแล้ว หลินหยางถึงได้ไปช่วยรักษาม๋อจื่อภายใต้การจับตามองอย่างประหม่าของหลี่หรูเยว่หลินหยางใช้เข็มวาสนาฝืนลิขิต ม๋อจื่อค่อนข้างไม่ธรรมดา รากฐานกระดูกแข็งแรงมากมาตั้งแต่กำเนิด มุมมองของหลินหยาง เหมาะที่จะเดินเส้นทางเทพวรยุทธ์มากแต่น่าเสียดายที่ถังฮ่าวหรานความคิดตื้นเขิน ใช้วิชาแปลงอสูรสวรรค์ฝึกฝนเขาจนกลายเป็นคนไร้ประโยชน์หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ม๋อจื่อก็ฟื้นขึ้นมา ทันทีที่ลืมตาดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ ท่าทางดุร้าย“ม๋อเอ๋อร์ฟื้นแล้ว!”หลี่หรูเยว่ดีใจเป็นอย่างยิ่งขึ้นมาทันที หันหน้าไปมองหลินหยางพูดด้วยความซาบซึ้งใจ “ขอบพระคุณนายท่าน!”ก่อนหน้านี้ม๋อจื่อดูเหมือนคนกำลังใกล้ตาย เวลาแค่เพียงครู่เดียวหลินหยางก็รักษาเขาจนหายดีแล้วนับว่าเธอนับถือฝีมือการรักษาของหลินหยางอย่างถ
หลี่หรูเยว่ได้สติกลับคืนมาอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง หันหน้าไปมองหลินหยางพร้อมอ้าปากเล็กน้อย“จัดการ...แบบนี้เหรอ? แกได้รับบาดเจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอ?”“หายดีแล้ว” หลินหยางพูดอย่างสบาย ๆ “...”หัวใจของหลี่หรูเยว่หวั่นไหวเป็นอย่างยิ่งหลินหยางบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้น หายดีเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?หลินหยางยังมีท่าทางสบาย ๆ อีกต่างหาก เหมือนยังรู้สึกว่านี่มันปกติมาก!“ปรมาจารย์หลินได้โปรดยกโทษ ก่อนหน้านี้ฉันไม่ควรล่วงเกินปรมาจารย์หลิน”เธอกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ในหัวใจเต็มไปด้วยความยำเกรงและหวาดหวั่นก่อนหน้านี้ตนทำตัวไร้มารยาทต่อหลินหยาง แถมยังตะคอกใส่เขาอีกด้วย!ตอนนี้เธอถึงรู้สึกหวาดกลัว ถ้าหากถังฮ่าวหรานมาช้ากว่านี้อีกนิด ตอนนี้ตนก็คงกลายเป็นศพไปแล้ว“ขอโทษมีประโยค แล้วมีกฎหมายไว้ทำไม?” หลินหยางมองบนพร้อมกล่าวหลี่หรูเยว่ตกตะลึงเล็กน้อย กลับเหมือนว่าจะเข้าใจอะไรบางอย่าง ลังเลเล็กน้อยพร้อมกล่าวเสียงเบา “ถ้าปรมาจารย์หลินไม่รังเกียจ ฉันยินดีหลับนอนด้วย...”หลินหยางชอบตนตั้งแต่แรกแล้วก็แค่เป็นการมอบกายถวายตัวเท่านั้น ขอเพียงหลินหยางยอมช่วยลูกชายของตนเอง ไม่ว่าอะไรก็ยอมทุกอย่าง!“เห็นว่
หลินหยางส่ายหน้าอย่างหมดคำพูด ก้าวออกไปข้างหน้าเพื่อเผชิญหน้ากับถังฮ่าวหรานกล่าวด้วยรอยยิ้มบาง ๆ “วันนี้ฉันจะฆ่าแกไอ้ปัญญาอ่อน แล้วก็นอนกับผู้หญิงของแก เตรียมตัวเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”ถังฮ่าวหรานตกตะลึง ใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้มโมโหที่เหยียดหยาม “แกเนี่ยนะอยากจะฆ่าฉัน? แกรู้ไหมคำว่าตายสะกดยังไง?”หลินหยางครุ่นคิดพร้อมกล่าว “ตอ อา ยอ?”ชายหนุ่มที่อยู่ข้างถังฮ่าวหรานตะลึงไปทันที “ลูกพี่ เหมือนว่ามันกำลังล้อเลียน มันกำลังด่าลูกพี่อยู่เลย...”ถังฮ่าวหรานพลิกฝ่ามือแล้วตบหน้าเขาทีหนึ่งคำราม “ใครใช้ให้แกพูดไร้สาระ ฉันรู้!!”ลูกน้องเอามือกุมหน้าอย่างเชื่อฟัง ไม่กล้าพูดมาก“ในเมื่อรนหาที่ตาย ฉันจะทำให้แกได้สมความปรารถนา!”ถังฮ่าวหรานตะโกน กระโจนตัวเข้าใส่หลินหยาง ปรมาจารย์ระดับหกสี่คนที่เหลือก็พุ่งตัวเข้าใส่พร้อมกัน!“จบเห่แล้ว...”หลี่หรูเยว่สีหน้าสิ้นหวัง ตนสละชีวิตให้หลินหยางเพื่อหาโอกาสหนี แต่กลับถูกหลินหยางทำให้สูญเปล่าไปแบบนี้...ถังฮ่าวหรานยังทำท่าทางสบาย ๆ ต่อไป หลังจากกลับไปยังสามารถได้รับรางวัลจากหลูอ้าวตงเธอไม่ยอม!เธออดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปมองสนามรบนั่น ในใจมีความหวังอันริบห
ทันทีที่พูดจบ ทั้งหมดก็ตกตะลึงไปถังฮ่าวหรานสีหน้าตกตะลึง พูดไม่ออกทันทีตนถูกหลอก?ทุกคนหันหน้าไปมองเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจ สายตาที่มองเขาแฝงไปด้วยความเห็นใจถังฮ่าวหรานไม่เพียงถูกเมียกับหลินหยางสมคบคิดกัน ยังถูกหลินหยางใช้สติปัญญาบดขยี้อีกด้วย ต่อหน้าหลินหยาง เขาเหมือนกับกระดาษขาวแผ่นหนึ่ง...“ฉัน ฉัน ฉันจะฆ่าแก!”ถังฮ่าวหรานคำราม พุ่งเข้าไปใส่หลินหยาง“ล้อเล่นไม่ได้เลยจริง ๆ”หลินหยางเม้มปาก แล้วก็ก้าวไปข้างหน้าเตรียมที่จัดการเขาให้เละเป็นโจ๊กคนแบบนี้แม้กระทั่งลูกชายของตนเองยังทำลายได้ ทำให้หลินหยางทนดูไม่ไหวอีกต่อไปผลปรากฏว่าในเวลานี้ หลี่หรูเยว่กลับขวางอยู่ด้านหน้าของหลินหยาง!“รีบไสหัวไป ถ้าหากฉันตายแล้ว แกก็พาลูกชายของฉันหนีไปให้ไกล ๆ จะต้องช่วยชีวิตลูกชายของฉันให้รอด!”หลี่หรูเยว่กล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาพูดจบก็ไม่รอให้หลินหยางได้สติกลับคืนมา เธอก็พุ่งตัวเข้าไปฆ่าถังฮ่าวหรานทันที!“นังโสเภณี! แกชอบไอ้ระยำนี่จริง ๆ แล้วใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นแกก็ไปตายซะ!”ถังฮ่าวหรานคำรามพร้อมลงมือ ถึงแม้ว่าเขาจะมีกำลังรบด้อยกว่าหลี่หรูเยว่อยู่บ้าง แต่ข้างกายยังปรมาจารย์ระดับสี่คอยช่วย
ถังฮ่าวหรานโมโห “คุณตื่นสักที เขาไม่คู่ควรที่จะให้คุณต้องเสียทุ่มเทมากขนาดนี้!”“คุณหุบปาก!”เมื่อหลี่หรูเยว่ได้ยินดังนั้นก็สีหน้าซีดขาว น้ำเสียงสั่นเครือ “ตอนนั้นเขาก็คืออัจฉริยะ แต่ก็เพราะป่วยหนักถึงได้กลายเป็นคนปัญญาอ่อนแบบนี้ คนอื่นว่าเขาได้ คุณในฐานะที่เป็นพ่อพูดจาแบบนี้ได้ยังไง!”เธอเห็นลูกชายเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง แต่กลับคิดไม่ถึงว่า ถังฮ่าวหรานจะมองม๋อจื่อเป็นเพียงแค่เครื่องอุปกรณ์เท่านั้น!หลินหยางกำลังดูละครคุณธรรมที่กำลังออกรสออกชาติของครอบครัวนี้ เมื่อได้ฟังถึงตรงนี้ก็ตกตะลึงไปเล็กน้อย กล่าวอย่างสงสัย “เดี๋ยวนี้ เธอกำลังพูดถึงเรื่องบ้าอะไร? จะฝึกฝนวิชาแปลงอสูรสวรรค์ ไม่น่าเกิดอาการป่วยหนักอะไรนะ”“หมายความว่ายังไง?”หลี่หรูเยว่งุนงง“วิชาแปลงอสูรสวรรค์มีข้อกำหนดทางกายภาพที่สูงมาก ผู้ที่ฝึกฝนไม่มีทางเป็นปัญญาอ่อนเพราะป่วยหนัก แต่ผู้ที่ฝึกฝนจะต้องกินยาพิษก่อน เพื่อทำให้เขากลายเป็นคนปัญญาอ่อน ถึงจะควบคุมความเป็นมนุษย์ได้”เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาก็หันไปมองหน้าหลี่หรูเยว่อย่างประหลาดใจ “เรื่องพวกนี้คุณไม่รู้ได้ยังไง?หลี่หรูเยว่กลับตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง เธอหันหน้าไปมองถังฮ่าว